Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๖. กโรโตสุตฺตวณฺณนา
6. Karotosuttavaṇṇanā
๒๑๑. สหตฺถา กโรนฺตสฺสาติ สหเตฺถน กโรนฺตสฺสฯ นิสฺสคฺคิยถาวราทโยปิ อิธ สหตฺถกรเณเนว สงฺคหิตาฯ หตฺถาทีนีติ หตฺถปาทกณฺณนาสาทีนิฯ ปจนํ ทหนํ วิพาธนนฺติ อาห ‘‘ทเณฺฑน ปีเฬนฺตสฺสา’’ติฯ ปปญฺจสูทนิยํ ‘‘ตเชฺชนฺตสฺส จา’’ติ อโตฺถ วุโตฺต, อิธ ปน สุมงฺคลวิลาสินิยํ วิย ตชฺชนํ ปริภาสนํ ทเณฺฑเนว สงฺคเหตฺวา ‘‘ทเณฺฑน ปีเฬนฺตสฺส’’อิเจฺจว วุตฺตํฯ โสกํ สยํ กโรนฺตสฺสาติ ปรสฺส โสกการณํ สยํ กโรนฺตสฺส, โสกํ วา อุปฺปาเทนฺตสฺสฯ ปเรหิ อตฺตโน วจนกเรหิฯ สยมฺปิ ผนฺทโตติ ปรสฺส วิพาธนปฺปโยเคน สยมฺปิ ผนฺทโตฯ อติปาตยโตติ ปทํ สุทฺธกตฺตุอเตฺถ เหตุกตฺตุอเตฺถ จ วตฺตตีติ อาห – ‘‘หนนฺตสฺสปิ หนาเปนฺตสฺสปี’’ติฯ การณวเสนาติ การาปนวเสนฯ
211.Sahatthā karontassāti sahatthena karontassa. Nissaggiyathāvarādayopi idha sahatthakaraṇeneva saṅgahitā. Hatthādīnīti hatthapādakaṇṇanāsādīni. Pacanaṃ dahanaṃ vibādhananti āha ‘‘daṇḍena pīḷentassā’’ti. Papañcasūdaniyaṃ ‘‘tajjentassa cā’’ti attho vutto, idha pana sumaṅgalavilāsiniyaṃ viya tajjanaṃ paribhāsanaṃ daṇḍeneva saṅgahetvā ‘‘daṇḍena pīḷentassa’’icceva vuttaṃ. Sokaṃ sayaṃ karontassāti parassa sokakāraṇaṃ sayaṃ karontassa, sokaṃ vā uppādentassa. Parehi attano vacanakarehi. Sayampi phandatoti parassa vibādhanappayogena sayampi phandato. Atipātayatoti padaṃ suddhakattuatthe hetukattuatthe ca vattatīti āha – ‘‘hanantassapi hanāpentassapī’’ti. Kāraṇavasenāti kārāpanavasena.
ฆรสฺส ภิตฺติ อโนฺต จ พหิ จ สนฺธิตา หุตฺวา ฐิตาว ฆรสนฺธิฯ กิญฺจิปิ อเสเสตฺวา นิรวเสโส โลโป นิโลฺลโปฯ เอกาคาเร นิยุโตฺต วิโลโป เอกาคาริโกฯ ปริโต สพฺพโส ปเนฺถ หนนํ ปริปโนฺถฯ ปาปํ น กรียติ ปุเพฺพ อสโต อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา, ตสฺมา นตฺถิ ปาปํฯ ยทิ เอวํ กถํ สตฺตา ปาเป ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘สตฺตา ปน กโรมาติ เอวํสญฺญิโน โหนฺตี’’ติ เอวํ กิรสฺส โหติ อิเมสญฺหิ สตฺตานํ หิํสาทิกิริยา น อตฺตานํ ผุสติ ตสฺส นิจฺจตาย นิพฺพิการตฺตา, สรีรํ ปน อเจตนํ กฎฺฐกลิงฺครูปมํ, ตสฺมิํ วิโกปิเตปิ น กิญฺจิ ปาปนฺติฯ ขุรเนมินาติ นิสิตขุรมยเนมินา, ขุรสทิสเนมินาติ อโตฺถฯ
Gharassa bhitti anto ca bahi ca sandhitā hutvā ṭhitāva gharasandhi. Kiñcipi asesetvā niravaseso lopo nillopo. Ekāgāre niyutto vilopo ekāgāriko. Parito sabbaso panthe hananaṃ paripantho. Pāpaṃ na karīyati pubbe asato uppādetuṃ asakkuṇeyyattā, tasmā natthi pāpaṃ. Yadi evaṃ kathaṃ sattā pāpe pavattantīti āha ‘‘sattā pana karomāti evaṃsaññino hontī’’ti evaṃ kirassa hoti imesañhi sattānaṃ hiṃsādikiriyā na attānaṃ phusati tassa niccatāya nibbikārattā, sarīraṃ pana acetanaṃ kaṭṭhakaliṅgarūpamaṃ, tasmiṃ vikopitepi na kiñci pāpanti. Khuranemināti nisitakhuramayaneminā, khurasadisanemināti attho.
คงฺคาย ทกฺขิณา ทิสา อปฺปติรูปเทโส, อุตฺตรทิสา ปติรูปเทโสติ อธิปฺปาเยน ‘‘ทกฺขิณเญฺจปี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ทกฺขิณตีเร มนุสฺสา กกฺขฬา’’ติอาทิฯ มหายาคนฺติ มหาวิชิตยญฺญสทิสํ มหายาคํฯ อุโปสถกเมฺมนาติ อุโปสถกเมฺมน จฯ จ-สโทฺท เหตฺถ ลุตฺตนิทฺทิโฎฺฐฯ ทมสโทฺท หิ อินฺทฺริยสํวรสฺส อุโปสถสีลสฺส จ วาจโก อิธาธิเปฺปโตฯ เกจิ ปน ‘‘อุโปสถกเมฺมนา’’ติ อิทํ อินฺทฺริยทมนสฺส วิเสสนํ, ตสฺมา ‘‘อุโปสถกมฺมภูเตน อินฺทฺริยทเมนา’’ติ อตฺถํ วทนฺติฯ สีลสํยเมนาติ สีลสํวเรนฯ สจฺจวจเนนาติ สจฺจวาจายฯ ตสฺสา วิสุํ วจนํ โลเก ครุตรปุญฺญสมฺมตภาวโตฯ ยถา หิ ปาปธเมฺมสุ มุสาวาโท ครุ, เอวํ ปุญฺญธเมฺมสุ สจฺจวาจาฯ เตนาห ภควา – ‘‘เอกํ ธมฺมํ อตีตสฺสา’’ติอาทิ (อิติวุ. ๒๕)ฯ ปวตฺตีติ โย กโรตีติ วุจฺจติ, ตสฺส สนฺตาเน ผลสฺส นิพฺพตฺติยา ปจฺจยภาเวน ปวตฺติฯ สพฺพถาติ ‘‘กโรโต’’ติอาทินา วุเตฺตน สพฺพปฺปกาเรน กิริยเมว ปฎิกฺขิปนฺติฯ
Gaṅgāya dakkhiṇā disā appatirūpadeso, uttaradisā patirūpadesoti adhippāyena ‘‘dakkhiṇañcepī’’tiādi vuttanti āha ‘‘dakkhiṇatīre manussā kakkhaḷā’’tiādi. Mahāyāganti mahāvijitayaññasadisaṃ mahāyāgaṃ. Uposathakammenāti uposathakammena ca. Ca-saddo hettha luttaniddiṭṭho. Damasaddo hi indriyasaṃvarassa uposathasīlassa ca vācako idhādhippeto. Keci pana ‘‘uposathakammenā’’ti idaṃ indriyadamanassa visesanaṃ, tasmā ‘‘uposathakammabhūtena indriyadamenā’’ti atthaṃ vadanti. Sīlasaṃyamenāti sīlasaṃvarena. Saccavacanenāti saccavācāya. Tassā visuṃ vacanaṃ loke garutarapuññasammatabhāvato. Yathā hi pāpadhammesu musāvādo garu, evaṃ puññadhammesu saccavācā. Tenāha bhagavā – ‘‘ekaṃ dhammaṃ atītassā’’tiādi (itivu. 25). Pavattīti yo karotīti vuccati, tassa santāne phalassa nibbattiyā paccayabhāvena pavatti. Sabbathāti ‘‘karoto’’tiādinā vuttena sabbappakārena kiriyameva paṭikkhipanti.
กโรโตสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Karotosuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๖. กโรโตสุตฺตํ • 6. Karotosuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๖. กโรโตสุตฺตวณฺณนา • 6. Karotosuttavaṇṇanā