Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๒. อุปาสกวโคฺค
2. Upāsakavaggo
๑. กสิภารทฺวาชสุตฺตวณฺณนา
1. Kasibhāradvājasuttavaṇṇanā
๑๙๗. ทกฺขิณาคิริสฺมินฺติ ทกฺขิณาคิริชนปเท, ตสฺมิํ ทกฺขิณาคิริชนปเท ทกฺขิณาคิริวิหาเรฯ ขเนฺธสุ ฐเปตฺวา ยุเค โยเตฺตหีติ โยตฺตรชฺชูหิ ยุตฺตานิ ปโยชิตานิ อิเจฺจว อโตฺถฯ
197.Dakkhiṇāgirisminti dakkhiṇāgirijanapade, tasmiṃ dakkhiṇāgirijanapade dakkhiṇāgirivihāre. Khandhesu ṭhapetvā yuge yottehīti yottarajjūhi yuttāni payojitāni icceva attho.
ปฐมทิวเสติ วปนทิวเสสุ ปฐมทิวเส อารทฺธทิวเสฯ ปญฺจงฺคานิปิ ปริปุณฺณานิ, ปเคว อิตรงฺคานีติ ทเสฺสตุํ ‘‘ปริปุณฺณปญฺจงฺคา’’อิเจฺจว วุตฺตํฯ หริตาลมโนสิลาอญฺชเนหิ อุรตฺถนาทีสุ ฐปิตตฺตา อาภาย อุชฺชลคตฺตาฯ อวเสสา พลีพทฺทาฯ กิลนฺตโคณํ โมเจตฺวา อกิลนฺตสฺส โยชนํ กิลนฺตปริวตฺตนํฯ
Paṭhamadivaseti vapanadivasesu paṭhamadivase āraddhadivase. Pañcaṅgānipi paripuṇṇāni, pageva itaraṅgānīti dassetuṃ ‘‘paripuṇṇapañcaṅgā’’icceva vuttaṃ. Haritālamanosilāañjanehi uratthanādīsu ṭhapitattā ābhāya ujjalagattā. Avasesā balībaddā. Kilantagoṇaṃ mocetvā akilantassa yojanaṃ kilantaparivattanaṃ.
สีหกุณฺฑลานีติ สีหมุขกุณฺฑลานิฯ พฺรหฺมเวฐนนฺติ พฺรหฺมุโน เวฐนสทิสํ, อสฺสนขเวฐนสทิสนฺติ อโตฺถฯ
Sīhakuṇḍalānīti sīhamukhakuṇḍalāni. Brahmaveṭhananti brahmuno veṭhanasadisaṃ, assanakhaveṭhanasadisanti attho.
พุทฺธานํ กิจฺจานิ กาลวเสน วิภตฺตานิ ปญฺจ กิจฺจานิ ภวนฺติฯ ปุเรภตฺตกิจฺจนฺติ ภตฺตโต ปุเพฺพ พุเทฺธน กาตพฺพกิจฺจํฯ วีตินาเมตฺวาติ ผลสมาปตฺติยา กาลํ วีตินาเมตฺวาฯ กทาจิ เอโกติอาทิ เตสํ เตสํ วิเนยฺยานํ วินยนานุรูปปฎิปตฺติทสฺสนํฯ ปกติยาติ ปกติพุทฺธเวเสนฯ พุทฺธานํ หิ รูปกายสฺส อสีติอนุพฺยญฺชนปฎิมณฺฑิต-พาตฺติํสมหาปุริส- ลกฺขณ-กายปฺปภา-พฺยามปฺปภา-เกตุมาลาวิจิตฺตตา พุทฺธเวโสฯ กทาจิ อเนเกหิ ปาฎิหาริเยหิ วตฺตมาเนหีติ อิมินา ปารมีนํ นิสฺสนฺทภูตานิ ปาฎิหาริยานิ รุจิวเสเนว ปกาสนกานิ ภวนฺติ, น สพฺพทาติ ทเสฺสติฯ เอวญฺจ กตฺวา ‘‘อินฺทขีลสฺส อโนฺต ฐปิตมเตฺต ทกฺขิณปาเท’’ติอาทิวจนํ สมตฺถิตํ โหติฯ ภควโต กาเย ปีตรสฺมีนํ เยภุยฺยตาย ‘‘สุวณฺณรสสิญฺจนานิ วิยา’’ติ วตฺวา กายมฺหิ นีลาทิรสฺมีหิ ตหํ ตหํ ปีตมิสฺสิตํ สนฺธาย ‘‘วิจิตฺรปฎปริกฺขิตฺตานิ วิย จา’’ติ วุตฺตํฯ มธุเรนากาเรน สทฺทํ กโรนฺติ ตุฎฺฐรวรวนโตฯ
Buddhānaṃ kiccāni kālavasena vibhattāni pañca kiccāni bhavanti. Purebhattakiccanti bhattato pubbe buddhena kātabbakiccaṃ. Vītināmetvāti phalasamāpattiyā kālaṃ vītināmetvā. Kadāci ekotiādi tesaṃ tesaṃ vineyyānaṃ vinayanānurūpapaṭipattidassanaṃ. Pakatiyāti pakatibuddhavesena. Buddhānaṃ hi rūpakāyassa asītianubyañjanapaṭimaṇḍita-bāttiṃsamahāpurisa- lakkhaṇa-kāyappabhā-byāmappabhā-ketumālāvicittatā buddhaveso. Kadāci anekehi pāṭihāriyehi vattamānehīti iminā pāramīnaṃ nissandabhūtāni pāṭihāriyāni rucivaseneva pakāsanakāni bhavanti, na sabbadāti dasseti. Evañca katvā ‘‘indakhīlassa anto ṭhapitamatte dakkhiṇapāde’’tiādivacanaṃ samatthitaṃ hoti. Bhagavato kāye pītarasmīnaṃ yebhuyyatāya ‘‘suvaṇṇarasasiñcanāni viyā’’ti vatvā kāyamhi nīlādirasmīhi tahaṃ tahaṃ pītamissitaṃ sandhāya ‘‘vicitrapaṭaparikkhittāni viya cā’’ti vuttaṃ. Madhurenākārena saddaṃ karonti tuṭṭharavaravanato.
ตตฺถาติ วิหาเรฯ คนฺธมณฺฑลมาเฬติ หเตฺถน กตปริภเณฺฑ สโมสริตคนฺธปุปฺผทาเม มณฺฑลมาเฬฯ
Tatthāti vihāre. Gandhamaṇḍalamāḷeti hatthena kataparibhaṇḍe samosaritagandhapupphadāme maṇḍalamāḷe.
อุปฎฺฐาเนติ ปมุเขฯ ‘‘โอวทตี’’ติ วตฺวา ตโตฺถวาทํ สามญฺญโต ทเสฺสตุํ, ‘‘ภิกฺขเว’’ติอาทิ วุตฺตํฯ สมฺปตฺตีติ จกฺขาทิอินฺทฺริยปาริปูริ เจว หตฺถาทิสมฺปทา จฯ สมสฺสาสิตกาโย กิลมถวิโนทเนนฯ ‘‘ตญฺจ โข สมาปชฺชเนนา’’ติ วทนฺติฯ ทุติยภาเคติ อิมินา อปรภาคํ ตโย ภาเค กตฺวา ตตฺถ ปุริมภาคํ เสยฺยนิสชฺชาวเสน สมาปตฺตีหิ วีตินาเมตีติ ทเสฺสติฯ โลกนฺติ ราชคหาทีสุ ยํ ตทา อุปนิสฺสาย วิหรติ, ตตฺถ อญฺญตฺถ วา พุชฺฌนกํ วิเนยฺยสตฺตโลกํ พุทฺธจกฺขุนา โวโลเกติฯ กาลยุตฺตนฺติ เตสํ อินฺทฺริยปริปากกาลานุรูปํฯ สมยยุตฺตนฺติ ตเสฺสว เววจนํฯ สมยยุตฺตนฺติ วา เตหิ อาชานิตพฺพวิเสสปฎิลาภานุรูปํฯ
Upaṭṭhāneti pamukhe. ‘‘Ovadatī’’ti vatvā tatthovādaṃ sāmaññato dassetuṃ, ‘‘bhikkhave’’tiādi vuttaṃ. Sampattīti cakkhādiindriyapāripūri ceva hatthādisampadā ca. Samassāsitakāyo kilamathavinodanena. ‘‘Tañca kho samāpajjanenā’’ti vadanti. Dutiyabhāgeti iminā aparabhāgaṃ tayo bhāge katvā tattha purimabhāgaṃ seyyanisajjāvasena samāpattīhi vītināmetīti dasseti. Lokanti rājagahādīsu yaṃ tadā upanissāya viharati, tattha aññattha vā bujjhanakaṃ vineyyasattalokaṃ buddhacakkhunā voloketi. Kālayuttanti tesaṃ indriyaparipākakālānurūpaṃ. Samayayuttanti tasseva vevacanaṃ. Samayayuttanti vā tehi ājānitabbavisesapaṭilābhānurūpaṃ.
ปฎิสลฺลีโนติ กาลปริเจฺฉทํ กตฺวา สมาปตฺติํ สมาปโนฺนฯ อธิปฺปายํ สมฺปาเทโนฺต ตํ อวิราเธโนฺต, อชฺฌาสยานุรูปนฺติ อโตฺถฯ
Paṭisallīnoti kālaparicchedaṃ katvā samāpattiṃ samāpanno. Adhippāyaṃ sampādento taṃ avirādhento, ajjhāsayānurūpanti attho.
สกล…เป.… เทวตาโยติ เอตฺถ โลกธาตุสากลฺยํ ทฎฺฐพฺพํ, น เทวตาสากลฺยํฯ น หิ มหาสมเย วิย สพฺพทา มชฺฌิมยาเม ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ สพฺพตฺถ สพฺพา เทวตา สตฺถุ สมีปํ อุปคจฺฉนฺติฯ กิลาสุภาโว กิลมโถฯ
Sakala…pe… devatāyoti ettha lokadhātusākalyaṃ daṭṭhabbaṃ, na devatāsākalyaṃ. Na hi mahāsamaye viya sabbadā majjhimayāme dasasahassacakkavāḷe sabbattha sabbā devatā satthu samīpaṃ upagacchanti. Kilāsubhāvo kilamatho.
วิหารจีวรปริวตฺตนวเสนาติ วิหาเร นิวตฺถนิวาสนปริวตฺตนวเสนฯ อาทิยิตฺวาติ ปารุปนวเสน คเหตฺวาฯ เตนาห ‘‘ธาเรตฺวา’’ติฯ ภิกฺขาจารนฺติ ภิกฺขตฺถํ จริตพฺพฎฺฐานํฯ
Vihāracīvaraparivattanavasenāti vihāre nivatthanivāsanaparivattanavasena. Ādiyitvāti pārupanavasena gahetvā. Tenāha ‘‘dhāretvā’’ti. Bhikkhācāranti bhikkhatthaṃ caritabbaṭṭhānaṃ.
อติโรจมานนฺติ ตํ ตํ อติกฺกมิตฺวา สมนฺตโต สพฺพทิสาสุ วิโรจมานํฯ สรีรปฺปภนฺติ อตฺตโน สรีรปฺปภํฯ ชงฺคมํ วิย ปทุมสรนฺติ รตนมยกิญฺชกฺขํ รชตมยกณฺณิกํ สมนฺตโต สมฺผุลฺลิตกญฺจนปทุมํ สญฺจาริมสรํ วิยฯ คคนตลนฺติ อพฺภมหิกาทิอุปกฺกิเลสวิคเมน สุวิสุทฺธอากาสตลํ วิยฯ ตมฺปิ หิ ตาราคณกิรณชาลสมุชฺชลตาย สมนฺตโต วิโรจติฯ กนกสิขรนฺติ กนกคิริสิขรํฯ สิริยา ชลมานนฺติ สพฺพโส อนวชฺชาย สพฺพากาเรน ปริปุณฺณกายตาย อนญฺญสาธารณาย รูปกายสิริยา สมุชฺชลํ, ยสฺสา รุจิรภาโว วิเทฺธ วิคตวลาหเก ปุณฺณมาสิยํ ปริปุณฺณกลมโนมมณฺฑลํ จนฺทมณฺฑลํ อติโรจติ, ปภสฺสรภาโว สหสฺสรํสิกิรณเตโชชาลสมุชฺชลํ สูริยมณฺฑลํ อภิภวติ, เหมสมุชฺชลภาโว ตทุภเย อภิภุยฺย ปวตฺตมานํ เอกกฺขเณ ทสสหสฺสิโลกธาตุวิโชฺชตนสมตฺถ-มหาพฺรหฺมุโน ปภาสมุทยํ อภิวิหจฺจ ภาสติ ตปติ วิโรจติฯ
Atirocamānanti taṃ taṃ atikkamitvā samantato sabbadisāsu virocamānaṃ. Sarīrappabhanti attano sarīrappabhaṃ. Jaṅgamaṃ viya padumasaranti ratanamayakiñjakkhaṃ rajatamayakaṇṇikaṃ samantato samphullitakañcanapadumaṃ sañcārimasaraṃ viya. Gaganatalanti abbhamahikādiupakkilesavigamena suvisuddhaākāsatalaṃ viya. Tampi hi tārāgaṇakiraṇajālasamujjalatāya samantato virocati. Kanakasikharanti kanakagirisikharaṃ. Siriyā jalamānanti sabbaso anavajjāya sabbākārena paripuṇṇakāyatāya anaññasādhāraṇāya rūpakāyasiriyā samujjalaṃ, yassā rucirabhāvo viddhe vigatavalāhake puṇṇamāsiyaṃ paripuṇṇakalamanomamaṇḍalaṃ candamaṇḍalaṃ atirocati, pabhassarabhāvo sahassaraṃsikiraṇatejojālasamujjalaṃ sūriyamaṇḍalaṃ abhibhavati, hemasamujjalabhāvo tadubhaye abhibhuyya pavattamānaṃ ekakkhaṇe dasasahassilokadhātuvijjotanasamattha-mahābrahmuno pabhāsamudayaṃ abhivihacca bhāsati tapati virocati.
สมนฺตปาสาทิเกติ สมนฺตโต ปสาทาวเหฯ ตญฺจ โข สพฺพโส สริตพฺพตายาติ อาห ‘‘ปสาทนีเย’’ติฯ อุตฺตมทมถสมถมนุปฺปเตฺตติ กายวาจาหิ อนุตฺตรํ ทนฺตภาวเญฺจว อนุตฺตรํ จิตฺตวูปสมญฺจ สมฺปเตฺตฯ อปฺปสาเทนาติ ปสาทาภาเวน, ปสาทปฎิเกฺขเปน วา อสฺสทฺธิเยนฯ อุภยถาปิ โนติ อปฺปสาโท มจฺฉริยนฺติ อุภยถาปิ โน เอว, อถ โข อนตฺตมนตาย อุปารมฺภาธิปฺปาเยน อปสาเทโนฺต, ภควโต มุขโต กิญฺจิ เทเสตุกาโม วา เอวมาหฯ ตตฺถ การณํ ทเสฺสโนฺต ‘‘ภควโต ปนา’’ติอาทิมาหฯ อติตฺตนฺติ ติตฺติํ อคจฺฉนฺตํฯ กมฺมภงฺคนฺติ กมฺมหานิํฯ
Samantapāsādiketi samantato pasādāvahe. Tañca kho sabbaso saritabbatāyāti āha ‘‘pasādanīye’’ti. Uttamadamathasamathamanuppatteti kāyavācāhi anuttaraṃ dantabhāvañceva anuttaraṃ cittavūpasamañca sampatte. Appasādenāti pasādābhāvena, pasādapaṭikkhepena vā assaddhiyena. Ubhayathāpi noti appasādo macchariyanti ubhayathāpi no eva, atha kho anattamanatāya upārambhādhippāyena apasādento, bhagavato mukhato kiñci desetukāmo vā evamāha. Tattha kāraṇaṃ dassento ‘‘bhagavato panā’’tiādimāha. Atittanti tittiṃ agacchantaṃ. Kammabhaṅganti kammahāniṃ.
ติกฺขปโญฺญ เอส พฺราหฺมโณ, ตถา หิ น จิรเสฺสว อรหตฺตํ สจฺฉิกริสฺสติฯ กถาปวตฺตนตฺถมฺปิ เอวมาห – ‘‘เอวํ อหํ อิมสฺส กญฺจิ ธมฺมํ โสตุํ ลภิสฺสามี’’ติฯ เวเนยฺยวเสนาติ อตฺตโน กสนการิภาวกิตฺตนมุเขน วิเนตพฺพปุคฺคลวเสนฯ
Tikkhapañño esa brāhmaṇo, tathā hi na cirasseva arahattaṃ sacchikarissati. Kathāpavattanatthampi evamāha – ‘‘evaṃ ahaṃ imassa kañci dhammaṃ sotuṃ labhissāmī’’ti. Veneyyavasenāti attano kasanakāribhāvakittanamukhena vinetabbapuggalavasena.
โอฬาริกานีติ ปากติกานิฯ ‘‘เอส อุตฺตมทกฺขิเณโยฺย’’ติ สญฺชาตพหุมาโนฯ ปาฬิยํ ‘‘ยุคํ วา นงฺคลํ วา’’ติ วา-สโทฺท อวุตฺตวิกปฺปโตฺถฯ เตน พีชาทิํ สงฺคณฺหาติ, ตสฺมา พีชํ วา อีสํ วา ปริคฺคหโยตฺตานิ วาติ อยมโตฺถ ทสฺสิโต โหติฯ ตถา หิ ภควา พฺราหฺมณสฺส ปฎิวจนํ เทโนฺต ‘‘สทฺธา พีช’’นฺติอาทิมาหฯ ปุพฺพธมฺมสภาคตายาติ ปฐมํ คหิตธมฺมสภาคตายฯ ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อฎฺฐกถารุฬฺหเมว คเหตพฺพญฺจ สทฺทโต อตฺถาปตฺติโต วา อิธ ทฎฺฐพฺพํฯ พุทฺธานํ อานุภาโว อยํ, ยทิทํ ปสงฺคาคตธมฺมมุเขน เทสนํ อารภิตฺวา เวเนยฺยวินยนํฯ
Oḷārikānīti pākatikāni. ‘‘Esa uttamadakkhiṇeyyo’’ti sañjātabahumāno. Pāḷiyaṃ ‘‘yugaṃ vā naṅgalaṃ vā’’ti vā-saddo avuttavikappattho. Tena bījādiṃ saṅgaṇhāti, tasmā bījaṃ vā īsaṃ vā pariggahayottāni vāti ayamattho dassito hoti. Tathā hi bhagavā brāhmaṇassa paṭivacanaṃ dento ‘‘saddhā bīja’’ntiādimāha. Pubbadhammasabhāgatāyāti paṭhamaṃ gahitadhammasabhāgatāya. Yaṃ panettha vattabbaṃ, taṃ aṭṭhakathāruḷhameva gahetabbañca saddato atthāpattito vā idha daṭṭhabbaṃ. Buddhānaṃ ānubhāvo ayaṃ, yadidaṃ pasaṅgāgatadhammamukhena desanaṃ ārabhitvā veneyyavinayanaṃ.
อนนุสนฺธิกาติ ปุจฺฉานุสนฺธิวเสน อนนุสนฺธิกาฯ เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรนฯ เอตฺถาติ เอติสฺสา เทสนายฯ โสติ ภควาฯ ตสฺสาติ พฺราหฺมณสฺสฯ อนุกมฺปายาติ อสพฺพญฺญู หิ สติปิ อนุกมฺปาย ปุจฺฉิตมเตฺต ติเฎฺฐยฺย, ตถา ชานโนฺตปิ อนนุกมฺปโก, ภควา ปน อุภยธมฺมปาริปูริยา ‘‘อิทํ อปุจฺฉิต’’นฺติ อปริหาเปตฺวา กเถติฯ สมูลนฺติอาทินา สเงฺขเปน วุตฺตมตฺถํ วิวรโนฺต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ พีชสฺส กสิยา มูลภาโว นานนฺตริยโต ตปฺปมาณวิธานโต จาติ อาห ‘‘ตสฺมิํ…เป.… กตฺตพฺพโต’’ติฯ เตน อนฺวยโต พฺยติเรกโต จ พีชสฺส กสิยา มูลภาวํ วิภาเวติฯ กุสลาติ อิมินา อกุสลา ตโต อญฺญถาปิ กโรนฺติ, ตํ ปน อปฺปมาณนฺติ ทเสฺสติฯ
Ananusandhikāti pucchānusandhivasena ananusandhikā. Evanti idāni vuccamānākārena. Etthāti etissā desanāya. Soti bhagavā. Tassāti brāhmaṇassa. Anukampāyāti asabbaññū hi satipi anukampāya pucchitamatte tiṭṭheyya, tathā jānantopi ananukampako, bhagavā pana ubhayadhammapāripūriyā ‘‘idaṃ apucchita’’nti aparihāpetvā katheti. Samūlantiādinā saṅkhepena vuttamatthaṃ vivaranto ‘‘tatthā’’tiādimāha. Tattha bījassa kasiyā mūlabhāvo nānantariyato tappamāṇavidhānato cāti āha ‘‘tasmiṃ…pe… kattabbato’’ti. Tena anvayato byatirekato ca bījassa kasiyā mūlabhāvaṃ vibhāveti. Kusalāti iminā akusalā tato aññathāpi karonti, taṃ pana appamāṇanti dasseti.
ตสฺสาติ พฺราหฺมณสฺส พีชฎฺฐานิยสฺส ธมฺมสฺส จ อุปการภาวโตฯ ธมฺมสมฺพนฺธสมตฺถภาวโตติ ตถา วุตฺตธมฺมสฺส ผเลน สมฺพนฺธิตุํ โยเชตุํ สมตฺถภาวโตฯ ตโป วุฎฺฐีติ วุตฺตวจนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ สเงฺขปโต วุตฺตมตฺถํ ปากฎํ กาตุํ ‘‘อยํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ กสฺสกสฺส อุปการสฺส พีชสฺส อนนฺตรํ วุฎฺฐิ วุจฺจมานา อฎฺฐาเน วุตฺตา นาม น โหติฯ กสฺมา? พีชสฺส วปฺปกาเล อนุรูปาย วุฎฺฐิยา อิจฺฉิตพฺพโต, ตสฺมา อวสาเน มเชฺฌ วา วุจฺจมานาย ธมฺมสมฺพนฺธสมตฺถตา ตสฺสา วิภาวิตา น สิยาฯ อตฺตโน อวิสเยติ ฌานาทิอุตฺตริมนุสฺสธเมฺมฯ ปจฺฉาปีติ กสิสมฺภารกถนโต ปจฺฉาปิฯ วตฺตโพฺพติ เอกเนฺตน วตฺตโพฺพฯ ตทนนฺตรํเยวาติ พีชานนฺตรํเยวฯ วุจฺจมานา วุฎฺฐิ สมตฺถา โหติ , พีชสฺส ผเลน สมฺพนฺธเน สมตฺถาติ ทีปิตา โหติ อนนฺตรวจเนเนว ตสฺสา อาสนฺนอุปการตฺตทีปนโตฯ
Tassāti brāhmaṇassa bījaṭṭhāniyassa dhammassa ca upakārabhāvato. Dhammasambandhasamatthabhāvatoti tathā vuttadhammassa phalena sambandhituṃ yojetuṃ samatthabhāvato. Tapo vuṭṭhīti vuttavacanaṃ sandhāya vuttaṃ. Saṅkhepato vuttamatthaṃ pākaṭaṃ kātuṃ ‘‘ayaṃ hī’’tiādi vuttaṃ. Kassakassa upakārassa bījassa anantaraṃ vuṭṭhi vuccamānā aṭṭhāne vuttā nāma na hoti. Kasmā? Bījassa vappakāle anurūpāya vuṭṭhiyā icchitabbato, tasmā avasāne majjhe vā vuccamānāya dhammasambandhasamatthatā tassā vibhāvitā na siyā. Attano avisayeti jhānādiuttarimanussadhamme. Pacchāpīti kasisambhārakathanato pacchāpi. Vattabboti ekantena vattabbo. Tadanantaraṃyevāti bījānantaraṃyeva. Vuccamānā vuṭṭhi samatthā hoti, bījassa phalena sambandhane samatthāti dīpitā hoti anantaravacaneneva tassā āsannaupakārattadīpanato.
สมฺปสาทลกฺขณาติ ปสีทิตเพฺพ วตฺถุสฺมิํ สมฺมเทว ปสีทนลกฺขณาฯ โอกปฺปนลกฺขณาติ สเทฺธยฺยวตฺถุโน เอวเมตนฺติ ปกฺขนฺทนลกฺขณาฯ มูลพีชนฺติอาทีสุ มูลเมว พีชํ มูลพีชํฯ เอส นโย เสเสสุปิ พีชคามสฺส อธิเปฺปตตฺตาฯ ภูตคาโม ปน มูลํ พีชํ เอตสฺสาติ มูลพีชนฺติอาทินา เวทิตโพฺพฯ พีชพีชนฺติ ปญฺจมํ ปน ปจฺจยนฺตรสมวาเย สทิสผลุปฺปตฺติยา วิเสสการณภาวโต วิรูหนสมเตฺถ สารผเล นิรุโฬฺห พีชสโทฺท ตทตฺถสิทฺธิยา มูลาทีสุปิ เกสุจิ ปวตฺตตีติ ตโต นิวตฺตนตฺถํ เอเกน พีช-สเทฺทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘พีชพีช’’นฺติ ‘‘ทุกฺขทุกฺขํ รูปรูป’’นฺติ จ ยถาฯ เอวมฺปิ อิมินา อเตฺถน อิมสฺสปิ นิปฺปริยาโยว พีชภาโวติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ตํ สพฺพมฺปิ…เป.… คจฺฉตี’’ติฯ
Sampasādalakkhaṇāti pasīditabbe vatthusmiṃ sammadeva pasīdanalakkhaṇā. Okappanalakkhaṇāti saddheyyavatthuno evametanti pakkhandanalakkhaṇā. Mūlabījantiādīsu mūlameva bījaṃ mūlabījaṃ. Esa nayo sesesupi bījagāmassa adhippetattā. Bhūtagāmo pana mūlaṃ bījaṃ etassāti mūlabījantiādinā veditabbo. Bījabījanti pañcamaṃ pana paccayantarasamavāye sadisaphaluppattiyā visesakāraṇabhāvato virūhanasamatthe sāraphale niruḷho bījasaddo tadatthasiddhiyā mūlādīsupi kesuci pavattatīti tato nivattanatthaṃ ekena bīja-saddena visesetvā vuttaṃ ‘‘bījabīja’’nti ‘‘dukkhadukkhaṃ rūparūpa’’nti ca yathā. Evampi iminā atthena imassapi nippariyāyova bījabhāvoti dassento āha ‘‘taṃ sabbampi…pe… gacchatī’’ti.
อิทานิ กถญฺจิ วตฺตเพฺพ สทฺธาย โอปมฺมเตฺต พีเช สทฺธาย พีชภาวํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ ยถา’’ติอาทิ อารทฺธํฯ กามํ สทฺธูปนิสํ สีลํ, ตถาปิ สมาธิสฺส วิย สเพฺพสมฺปิ อนวชฺชธมฺมานํ อาทิมูลภาวโต สทฺธายปิ ปติฎฺฐา โหตีติ อาห ‘‘เหฎฺฐา สีลมูเลน ปติฎฺฐาตี’’ติฯ ยสฺมา สพฺพเสฺสว ปุคฺคลสฺส สทฺธาวเสน สมถวิปสฺสนารโมฺภ, ตสฺมา สา ‘‘อุปริ สมถวิปสฺสนงฺกุรํ อุฎฺฐาเปตี’’ติ วุตฺตาฯ ตนฺติ ธญฺญพีชํฯ ปถวิรสํ อาโปรสนฺติ สสมฺภารปถวีอาเปสุ ลพฺภมานํ รสํฯ คเหตฺวาติ ปจฺจยปรมฺปราย คเหตฺวาฯ ธญฺญปริปากคหณตฺถนฺติ ธญฺญปริปากนิพฺพตฺติอตฺถํฯ รสนฺติ สทฺธาสีลมูลเหตุสมถวิปสฺสนาภาวนารสํ อาทิยิตฺวาฯ อริยมคฺคนาเฬนาติ อริยมคฺคโสเตน อริยผลธญฺญปริปากคหณตฺถนฺติ อริยผลเมว ธนายิตพฺพโต ธญฺญํ ตสฺส นิพฺพตฺติอตฺถํฯ ธญฺญนาฬํ นาม กณฺฑสฺส นิสฺสยภูโต ปจฺฉิมเทโส, กโณฺฑ ตพฺภนฺตโร ตํนิสฺสโยเยว ทโณฺฑฯ ปสโว นาม ปุปฺผํฯ วุทฺธินฺติ อวยวปาริปูริวเสน วุทฺธิํฯ วิรูฬฺหินฺติ มูลสนฺตานทฬฺหตาย วิรุฬฺหตํฯ เวปุลฺลนฺติ ปตฺตนาฬาทีหิ วิปุลภาวํฯ ขีรํ ชเนตฺวาติ ตรุณสลาฎุกภาวปฺปตฺติยา ตณฺฑุลสฺส พีชสฺส พีชภูตํ ขีรํ อุปฺปาเทตฺวาฯ เอสาติ สทฺธาฯ ปติฎฺฐหิตฺวาติ กมฺมปถากมฺมปถสมฺมาทิฎฺฐิสหิเตน อาทิโต ปวตฺตสีลมเตฺตน ปติฎฺฐหิตฺวาฯ วุทฺธินฺติอาทีสุ สุปริสุทฺธาหิ สีลจิตฺตวิสุทฺธีหิ วุทฺธิํ, ทิฎฺฐิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธีหิ วิรูฬฺหิํฯ มคฺคามคฺคปฎิปทาญาณทสฺสนวิสุทฺธีหิ เวปุลฺลํ ปตฺวาฯ ญาณทสฺสนวิสุทฺธิขีรนฺติ สาทุรสสุวิสุทฺธิภาวโต ญาณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาตํ ขีรํ ชเนตฺวาฯ อเนก…เป.… ผลนฺติ อเนกปฎิสมฺภิทา-อเนกาภิญฺญาณปริปุณฺณํ อรหตฺตผลสีสํ นิปฺผาเทติฯ
Idāni kathañci vattabbe saddhāya opammatte bīje saddhāya bījabhāvaṃ vibhāvetuṃ ‘‘tattha yathā’’tiādi āraddhaṃ. Kāmaṃ saddhūpanisaṃ sīlaṃ, tathāpi samādhissa viya sabbesampi anavajjadhammānaṃ ādimūlabhāvato saddhāyapi patiṭṭhā hotīti āha ‘‘heṭṭhā sīlamūlena patiṭṭhātī’’ti. Yasmā sabbasseva puggalassa saddhāvasena samathavipassanārambho, tasmā sā ‘‘upari samathavipassanaṅkuraṃ uṭṭhāpetī’’ti vuttā. Tanti dhaññabījaṃ. Pathavirasaṃ āporasanti sasambhārapathavīāpesu labbhamānaṃ rasaṃ. Gahetvāti paccayaparamparāya gahetvā. Dhaññaparipākagahaṇatthanti dhaññaparipākanibbattiatthaṃ. Rasanti saddhāsīlamūlahetusamathavipassanābhāvanārasaṃ ādiyitvā. Ariyamagganāḷenāti ariyamaggasotena ariyaphaladhaññaparipākagahaṇatthanti ariyaphalameva dhanāyitabbato dhaññaṃ tassa nibbattiatthaṃ. Dhaññanāḷaṃ nāma kaṇḍassa nissayabhūto pacchimadeso, kaṇḍo tabbhantaro taṃnissayoyeva daṇḍo. Pasavo nāma pupphaṃ. Vuddhinti avayavapāripūrivasena vuddhiṃ. Virūḷhinti mūlasantānadaḷhatāya viruḷhataṃ. Vepullanti pattanāḷādīhi vipulabhāvaṃ. Khīraṃ janetvāti taruṇasalāṭukabhāvappattiyā taṇḍulassa bījassa bījabhūtaṃ khīraṃ uppādetvā. Esāti saddhā. Patiṭṭhahitvāti kammapathākammapathasammādiṭṭhisahitena ādito pavattasīlamattena patiṭṭhahitvā. Vuddhintiādīsu suparisuddhāhi sīlacittavisuddhīhi vuddhiṃ, diṭṭhikaṅkhāvitaraṇavisuddhīhi virūḷhiṃ. Maggāmaggapaṭipadāñāṇadassanavisuddhīhi vepullaṃ patvā. Ñāṇadassanavisuddhikhīranti sādurasasuvisuddhibhāvato ñāṇadassanavisuddhisaṅkhātaṃ khīraṃ janetvā. Aneka…pe… phalanti anekapaṭisambhidā-anekābhiññāṇaparipuṇṇaṃ arahattaphalasīsaṃ nipphādeti.
พีชกิจฺจกรณโตติ พีชกิจฺจสฺส กรณโตฯ ยญฺหิ ตํสทิสสฺส วิสทิสสฺส จ อตฺตโน ผลสฺส ปติฎฺฐาปนสมฺพนฺธนนิปฺผาทนสงฺขาตํ พีชสฺส กิจฺจํ, ตสฺส กรณโต นิพฺพตฺตนโต ‘‘เอวํ สทฺธา พีชกิจฺจ’’นฺติ วุตฺตํฯ อิมินา อนญฺญสาธารณํ สทฺธาย กุสลธมฺมานํ พีชภาวํ ทเสฺสติฯ สา จาติอาทินา ตเมวตฺถํ สมเตฺถติฯ อิทานิ ตตฺถ อาคมํ ทเสฺสโนฺต ‘‘สทฺธาชาโต’’ติอาทิมาหฯ เตน ยถา สปฺปุริสูปนิสฺสยสฺส สทฺธมฺมสฺสวนสฺส จ, เอวํ อนวเสสาย สมฺมาปฎิปตฺติยา สทฺธา มูลการณนฺติ ทเสฺสติฯ
Bījakiccakaraṇatoti bījakiccassa karaṇato. Yañhi taṃsadisassa visadisassa ca attano phalassa patiṭṭhāpanasambandhananipphādanasaṅkhātaṃ bījassa kiccaṃ, tassa karaṇato nibbattanato ‘‘evaṃ saddhā bījakicca’’nti vuttaṃ. Iminā anaññasādhāraṇaṃ saddhāya kusaladhammānaṃ bījabhāvaṃ dasseti. Sā cātiādinā tamevatthaṃ samattheti. Idāni tattha āgamaṃ dassento ‘‘saddhājāto’’tiādimāha. Tena yathā sappurisūpanissayassa saddhammassavanassa ca, evaṃ anavasesāya sammāpaṭipattiyā saddhā mūlakāraṇanti dasseti.
อินฺทฺริยสํวโร วีริยญฺจ อกุสลธเมฺม, ทุกฺกรการิกา ธุตงฺคญฺจ อกุสลธเมฺม เจว กายญฺจ ตปติ วิพาธตีติ ตโปติ วุจฺจติฯ อินฺทฺริยสํวโร อธิเปฺปโต วีริยสฺส โธรยฺหภาเวน คยฺหมานตฺตา, อิตเรสํ วุฎฺฐิภาวสฺส อนุยุญฺชมานตฺตาฯ อาทิ-สเทฺทน กลลงฺคารวุฎฺฐิอาทีนํ สงฺคโหฯ สมนุคฺคหิตนฺติ อุปคตํฯ วิรุหนามิลายนนิปฺผตฺติวจเนหิ ธญฺญพีชสนฺตานสฺส วิย เตสํ วุทฺธิยา สทฺธาพีชสนฺตานสฺส ตโปวุฎฺฐิยา อาทิมชฺฌปริโยสาเนสุ อุปการตํ ทเสฺสติฯ
Indriyasaṃvaro vīriyañca akusaladhamme, dukkarakārikā dhutaṅgañca akusaladhamme ceva kāyañca tapati vibādhatīti tapoti vuccati. Indriyasaṃvaro adhippeto vīriyassa dhorayhabhāvena gayhamānattā, itaresaṃ vuṭṭhibhāvassa anuyuñjamānattā. Ādi-saddena kalalaṅgāravuṭṭhiādīnaṃ saṅgaho. Samanuggahitanti upagataṃ. Viruhanāmilāyananipphattivacanehi dhaññabījasantānassa viya tesaṃ vuddhiyā saddhābījasantānassa tapovuṭṭhiyā ādimajjhapariyosānesu upakārataṃ dasseti.
ปุริมปเทสุปีติ อปิ-สเทฺทน ปรปเทสุปีติ อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ ‘‘หิรี เม อีสา, มโน เม โยตฺต’’นฺติ อิจฺฉิตตฺตา, ‘‘สติ เม’’ติ เอตฺถ เม-สโทฺท อาเนตฺวา โยเชตโพฺพฯ อุทกมฺปิ ตาว ทาตพฺพํ โหติ นทีตฬากาทิโต อาเนตฺวาฯ วีริยพลีพเทฺท จตุพฺพิเธ โยเชตฺวาฯ นิจฺจกาลํ อตฺถีติ วจนเสโสฯ
Purimapadesupīti api-saddena parapadesupīti attho daṭṭhabbo ‘‘hirī me īsā, mano me yotta’’nti icchitattā, ‘‘sati me’’ti ettha me-saddo ānetvā yojetabbo. Udakampi tāva dātabbaṃ hoti nadītaḷākādito ānetvā. Vīriyabalībadde catubbidhe yojetvā. Niccakālaṃ atthīti vacanaseso.
สห วิปสฺสนาย มคฺคปญฺญา อธิเปฺปตา อมตปฺผลาย กสิยา อธิเปฺปตตฺตาฯ วิปสฺสนา ปญฺญา จาติ ทุวิธาปิ ปญฺญา อุปนิสฺสยา โหติ วิสิฎฺฐภาวโตฯ เตนาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิฯ ปญฺญาติ ปกาเรหิ ชานาตีติ ปญฺญาฯ ปญฺญวตํ ปญฺญา ปุรโต โหติ โยนิโสมนสิการสฺส วิเสสปจฺจยภาวโต, สหชาตาธิปตีสุ จ อุกฺกฎฺฐภาวโตฯ สิรีติ โสภคฺคํฯ สตํ ธมฺมา สทฺธาทโย, อนฺวายิกาติ อนุคามิโนฯ อีสาพทฺธา โหตีติ หิริสงฺขาตอีสาย พทฺธา โหติ , ปญฺญาย กทาจิ อปฺปโยคโต มโนสีเสน สมาธิ อิธ วุโตฺตติ อาห ‘‘มโนสงฺขาตสฺส สมาธิโยตฺตสฺสา’’ติฯ สมํ อุปเนตฺวา พนฺธิตฺวา พทฺธรชฺชุกตฺตา สมาธิโยตฺตํฯ เอกโต คมนนฺติ ลีนจฺจารทฺธสงฺขาตํ เอกปสฺสโต คมนํ วาเรติฯ มชฺฌิมาย วิปสฺสนาวีถิยา ปฎิปาทนโต กายาทีสุ สุภสุขนิจฺจตฺตภาววิคมเน ปญฺญาย วิเสสปจฺจยา สตีติ วุตฺตํ – ‘‘สติยุตฺตา ปญฺญา’’ติ ตสฺสา สติวิปฺปโยคาสพฺภาวโตฯ สนฺตติฆนาทีนํ อยํ วิเสโส – ปุริมปจฺฉิมานํ ธมฺมานํ นิรนฺตรตาย เอกีภูตานํ วิย ปวตฺติ สนฺตติฆนตา, เอกสมูหวเสน เอกีภูตานมิว ปวตฺติ สมูหฆนตา, ทุพฺพิเญฺญยฺยกิจฺจเภทวเสน เอกีภูตานมิว ปวตฺติฯ กิจฺจฆนตา, เอการมฺมณวเสน เอกีภูตานมิว ปวตฺติ อารมฺมณฆนตาฯ สเพฺพสํ, สพฺพานิ วา กิเลสานํ มูลสนฺตานกานิ สพฺพ…เป.… สนฺตานกานิฯ อนุปฺปโยโค หิ อโตฺถฯ ปทาเลตีติ ภินฺทติ สมุจฺฉินฺทติฯ สา จ โข ‘‘ปทาเลตี’’ติ วุตฺตา โลกุตฺตราว ปญฺญา อนุสยปฺปหานสฺส อธิเปฺปตตฺตาฯ สนฺตติฆนาทิเภทนา ปน โลกิยาปิ โหติ วิปสฺสนาวเสน ฆนวินิโพฺภคสฺส นิปฺผาทนโตฯ เตนาห ‘‘อิตรา ปน โลกิกาปิ สิยา’’ติฯ
Saha vipassanāya maggapaññā adhippetā amatapphalāya kasiyā adhippetattā. Vipassanā paññācāti duvidhāpi paññā upanissayā hoti visiṭṭhabhāvato. Tenāha ‘‘yathā hī’’tiādi. Paññāti pakārehi jānātīti paññā. Paññavataṃ paññā purato hoti yonisomanasikārassa visesapaccayabhāvato, sahajātādhipatīsu ca ukkaṭṭhabhāvato. Sirīti sobhaggaṃ. Sataṃ dhammā saddhādayo, anvāyikāti anugāmino. Īsābaddhā hotīti hirisaṅkhātaīsāya baddhā hoti , paññāya kadāci appayogato manosīsena samādhi idha vuttoti āha ‘‘manosaṅkhātassa samādhiyottassā’’ti. Samaṃ upanetvā bandhitvā baddharajjukattā samādhiyottaṃ. Ekato gamananti līnaccāraddhasaṅkhātaṃ ekapassato gamanaṃ vāreti. Majjhimāya vipassanāvīthiyā paṭipādanato kāyādīsu subhasukhaniccattabhāvavigamane paññāya visesapaccayā satīti vuttaṃ – ‘‘satiyuttā paññā’’ti tassā sativippayogāsabbhāvato. Santatighanādīnaṃ ayaṃ viseso – purimapacchimānaṃ dhammānaṃ nirantaratāya ekībhūtānaṃ viya pavatti santatighanatā, ekasamūhavasena ekībhūtānamiva pavatti samūhaghanatā, dubbiññeyyakiccabhedavasena ekībhūtānamiva pavatti. Kiccaghanatā, ekārammaṇavasena ekībhūtānamiva pavatti ārammaṇaghanatā. Sabbesaṃ, sabbāni vā kilesānaṃ mūlasantānakāni sabba…pe… santānakāni. Anuppayogo hi attho. Padāletīti bhindati samucchindati. Sā ca kho ‘‘padāletī’’ti vuttā lokuttarāva paññā anusayappahānassa adhippetattā. Santatighanādibhedanā pana lokiyāpi hoti vipassanāvasena ghanavinibbhogassa nipphādanato. Tenāha ‘‘itarā pana lokikāpi siyā’’ti.
หิรียตีติ ลชฺชติ, ชิคุจฺฉตีติ อโตฺถฯ ตสฺมา ‘‘ปาปเกหิ ธเมฺมหี’’ติ นิสฺสกฺกวจนํ ทฎฺฐพฺพํ, เหตุมฺหิ วา กรณวจนํฯ โอตฺตปฺปมฺปิ คหิตเมว, น หิ ลชฺชนํ นิพฺภยํ ปาปภยํ วา อลชฺชนํ อตฺถีติฯ รุกฺขลฎฺฐีติ รุกฺขทโณฺฑฯ เตน ปเทเสน กสนโต วิเสสโต นงฺคลนฺติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘อีสา ยุคนงฺคลํ ธาเรตี’’ติฯ กามํ ปญฺญารหิตา หิรี อตฺถิ, หิริรหิตา ปน ปญฺญา นเตฺถวาติ อาห ‘‘หิริ…เป.… อภาวโต’’ติฯ สนฺธิฎฺฐาเน กมฺปนาภาวโต อจลํฯ ถิรภาเวน อสิถิลํฯ หิริปฎิพทฺธปญฺญา ปฎิปกฺขวเสน จ อสิถิลภาเวน จ อจลา อสิถิลาติ อาห ‘‘อโพฺพกิณฺณา อหิริเกนา’’ติฯ นาฬิยา มินมานปุริโส วิย อารมฺมณํ มุนาติ ปริเจฺฉทโต ชานาตีติ มโนฯ มโนสีเสนาติ มนโส อปเทเสนฯ ตํสมฺปยุโตฺตติ อิมินา กุนฺตสหจรณโต ปุริโส กุโนฺต วิย มนสหจรณสมาธิ ‘‘มโน’’ติ วุโตฺตติ ทเสฺสติฯ สารถินาติ กสฺสเกนฯ โส หิ อิธ พลีพทฺทานํ สารณโต ปาจนโต ‘‘สารถี’’ติ อธิเปฺปโตฯ เอกาพนฺธนนฺติ เอกาพทฺธกรณํฯ สกกิเจฺจติ สกกิเจฺจน ยุเตฺตฯ เตน หิ อีสาทีสุ ยถารหํ พนฺธิตฺวา เอกาพเทฺธสุ กเตสุ นงฺคเลสุ กิจฺจํ อิชฺฌติ, โน อญฺญถาติ ตํ ‘‘สกกิเจฺจ ปฎิปาเทตี’’ติ วุตฺตํฯ อวิเกฺขปสภาเวนาติ อตฺตโน อวิเกฺขปสภาเวน ฯ พนฺธิตฺวาติ สหชาตาทิปจฺจยภาเวน อตฺตนา สมฺพนฺธิตฺวาฯ สกกิเจฺจติ หิรีอาทีหิ ยถาสกํ กตฺตเพฺพ กิเจฺจฯ
Hirīyatīti lajjati, jigucchatīti attho. Tasmā ‘‘pāpakehi dhammehī’’ti nissakkavacanaṃ daṭṭhabbaṃ, hetumhi vā karaṇavacanaṃ. Ottappampi gahitameva, na hi lajjanaṃ nibbhayaṃ pāpabhayaṃ vā alajjanaṃ atthīti. Rukkhalaṭṭhīti rukkhadaṇḍo. Tena padesena kasanato visesato naṅgalanti vuccatīti āha ‘‘īsā yuganaṅgalaṃ dhāretī’’ti. Kāmaṃ paññārahitā hirī atthi, hirirahitā pana paññā natthevāti āha ‘‘hiri…pe… abhāvato’’ti. Sandhiṭṭhāne kampanābhāvato acalaṃ. Thirabhāvena asithilaṃ. Hiripaṭibaddhapaññā paṭipakkhavasena ca asithilabhāvena ca acalā asithilāti āha ‘‘abbokiṇṇā ahirikenā’’ti. Nāḷiyā minamānapuriso viya ārammaṇaṃ munāti paricchedato jānātīti mano. Manosīsenāti manaso apadesena. Taṃsampayuttoti iminā kuntasahacaraṇato puriso kunto viya manasahacaraṇasamādhi ‘‘mano’’ti vuttoti dasseti. Sārathināti kassakena. So hi idha balībaddānaṃ sāraṇato pācanato ‘‘sārathī’’ti adhippeto. Ekābandhananti ekābaddhakaraṇaṃ. Sakakicceti sakakiccena yutte. Tena hi īsādīsu yathārahaṃ bandhitvā ekābaddhesu katesu naṅgalesu kiccaṃ ijjhati, no aññathāti taṃ ‘‘sakakicce paṭipādetī’’ti vuttaṃ. Avikkhepasabhāvenāti attano avikkhepasabhāvena . Bandhitvāti sahajātādipaccayabhāvena attanā sambandhitvā. Sakakicceti hirīādīhi yathāsakaṃ kattabbe kicce.
จิรกตาทิมตฺถนฺติ จิรภาสิตมฺปิ อตฺถํฯ สรติ อนุสฺสรติ กายาทิํ อสุภาทิโต นิชฺฌายติฯ ผาเลตีติ ปทาเลติฯ ปาเชนฺติ คเมนฺตีติ ตํ ปาชนํฯ อิธ อิมสฺมิํ สุเตฺต ‘‘ปาจน’’นฺติ วุตฺตํ ช-การสฺส จ-การํ กตฺวาฯ ผาลปาจนนฺติ อิมมตฺถํ ทเสฺสตุํ ‘‘ยถา หิ พฺราหฺมณ…เป.… สตี’’ติ วุตฺตํฯ อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถารโต ทเสฺสโนฺต ‘‘ตตฺถ ยถา’’ติอาทิมาหฯ นงฺคลํ อนุรกฺขติ ภิชฺชนผาลนโตฯ ปุรโต จสฺส คจฺฉตีติ อสฺส นงฺคลสฺส กสฺสเน ภูมิยา วิลิขเน ปุรโต คจฺฉติ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ คติโยติ ปวตฺติโยฯ สมเนฺวสมานาติ สรณวเสน คเวสมานาฯ อารมฺมเณ วา กายาทิเก อุปฎฺฐาปยมานา อสุภาทิวเสน ปญฺญานงฺคลํ รกฺขติฯ สภาวาสภาวูปคเม ผาโล วิย นงฺคลสฺส ‘‘อารกฺขา’’ติ วุตฺตา ‘‘สพฺพานตฺถโต สติ รกฺขตี’’ติ กตฺวาฯ ตถา เหสา อารกฺขปจฺจุปฎฺฐานาฯ จิรกตจิรภาสิตานํ อสมฺมุสฺสนวเสน สติ ปญฺญานงฺคลสฺส ปุรโต โหตีติ วตฺวา ตสฺส ปุรโตภาวํ ทเสฺสตุํ ‘‘สติ…เป.… โน ปมุเฎฺฐ’’ติ อาหฯ สติปริจิเตติ สติยา ปฎฺฐาปิเตฯ ‘‘อุปฎฺฐาปิเต’’ติปิ ปาโฐ, อยเมวโตฺถฯ สํสีทิตุํ น เทตีติ สกิจฺจกิริยาย สํสีทนํ กาตุํ น เทติฯ โกสชฺชสงฺขาตํ สํสีทนํ โกสชฺชสํสีทนํฯ
Cirakatādimatthanti cirabhāsitampi atthaṃ. Sarati anussarati kāyādiṃ asubhādito nijjhāyati. Phāletīti padāleti. Pājenti gamentīti taṃ pājanaṃ. Idha imasmiṃ sutte ‘‘pācana’’nti vuttaṃ ja-kārassa ca-kāraṃ katvā. Phālapācananti imamatthaṃ dassetuṃ ‘‘yathā hi brāhmaṇa…pe… satī’’ti vuttaṃ. Idāni tamatthaṃ vitthārato dassento ‘‘tattha yathā’’tiādimāha. Naṅgalaṃ anurakkhati bhijjanaphālanato. Purato cassa gacchatīti assa naṅgalassa kassane bhūmiyā vilikhane purato gacchati pubbaṅgamā hoti. Gatiyoti pavattiyo. Samanvesamānāti saraṇavasena gavesamānā. Ārammaṇe vā kāyādike upaṭṭhāpayamānā asubhādivasena paññānaṅgalaṃ rakkhati. Sabhāvāsabhāvūpagame phālo viya naṅgalassa ‘‘ārakkhā’’ti vuttā ‘‘sabbānatthato sati rakkhatī’’ti katvā. Tathā hesā ārakkhapaccupaṭṭhānā. Cirakatacirabhāsitānaṃ asammussanavasena sati paññānaṅgalassa purato hotīti vatvā tassa puratobhāvaṃ dassetuṃ ‘‘sati…pe… no pamuṭṭhe’’ti āha. Satipariciteti satiyā paṭṭhāpite. ‘‘Upaṭṭhāpite’’tipi pāṭho, ayamevattho. Saṃsīdituṃ na detīti sakiccakiriyāya saṃsīdanaṃ kātuṃ na deti. Kosajjasaṅkhātaṃ saṃsīdanaṃ kosajjasaṃsīdanaṃ.
ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วุตฺตํ กายิกวาจสิกสํยมสฺส กถิตตฺตาฯ อาหาเร อุทเร ยโตติ ปริภุญฺชิตพฺพอาหาเร สํยตภาวทสฺสเนน ปริภุญฺชิตพฺพตาย จตูสุปิ ปจฺจเยสุ สํยตภาโว ทีปิโตติ อาห ‘‘อาหารมุเขนา’’ติอาทิฯ สํยตภาโว เจตฺถ ปจฺจยเหตุ อเนสนาภาโวติ วุตฺตํ ‘‘นิรุปกฺกิเลโสติ อโตฺถ’’ติฯ โภชนสโทฺท อาหารปริโภเค นิรุโฬฺหติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘โภชเน มตฺตญฺญุตามุเขนา’’ติฯ ปริภุญฺชนเฎฺฐน ปน โภชนสทฺทมุเขนาติ วุเตฺต อธิเปฺปตโตฺถ ลพฺภเตวฯ เตนาติ กายคุตฺตาติอาทิวจเนนฯ น วิลุมฺปนฺตีติ ‘‘ทีเปตี’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธฯ
Pātimokkhasaṃvarasīlaṃ vuttaṃ kāyikavācasikasaṃyamassa kathitattā. Āhāre udare yatoti paribhuñjitabbaāhāre saṃyatabhāvadassanena paribhuñjitabbatāya catūsupi paccayesu saṃyatabhāvo dīpitoti āha ‘‘āhāramukhenā’’tiādi. Saṃyatabhāvo cettha paccayahetu anesanābhāvoti vuttaṃ ‘‘nirupakkilesoti attho’’ti. Bhojanasaddo āhāraparibhoge niruḷhoti katvā vuttaṃ ‘‘bhojane mattaññutāmukhenā’’ti. Paribhuñjanaṭṭhena pana bhojanasaddamukhenāti vutte adhippetattho labbhateva. Tenāti kāyaguttātiādivacanena. Na vilumpantīti ‘‘dīpetī’’ti padaṃ ānetvā sambandho.
ทฺวีหากาเรหีติ อทิฎฺฐาทีนํ อทิฎฺฐาทิวเสน ทิฎฺฐาทีนญฺจ ทิฎฺฐาทิวเสนาติ เอวํ ทฺวิปฺปกาเรหิฯ อวิสํวาทนํ อวิตถกถนํฯ เฉทนํ มูลปฺปเทเส นิกนฺตนํฯ ลุนนํ ยตฺถ กตฺถจิ เฉทนํฯ อุปฺปาฎนํ อุมฺมูลนํฯ อสิเตนาติ ทเตฺตน, ลายิเตนาติ อโตฺถฯ วิสํวาทนสงฺขาตานํ ติณานํ, อฎฺฐนฺนํ อนริยโวหารานนฺติ อโตฺถฯ ยถาภูตญาณนฺติ นาม รูปปริเจฺฉทกญาณํฯ สจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ อวิปรีตวุตฺติกตฺตา ‘‘เฉทกํ’’ ฉินฺทนกํฯ นิทฺทานนฺติ นิทฺทายกํฯ อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ ทิฎฺฐิ ‘‘ทิฎฺฐิสจฺจ’’นฺติ วุจฺจติฯ ทฺวีสุ วิกเปฺปสูติ ภาวกตฺตุสาธนวเสน ทฺวีสุ วิกเปฺปสุฯ ‘‘นิทฺทาน’’นฺติ อุปโยควเสเนว อโตฺถฯ
Dvīhākārehīti adiṭṭhādīnaṃ adiṭṭhādivasena diṭṭhādīnañca diṭṭhādivasenāti evaṃ dvippakārehi. Avisaṃvādanaṃ avitathakathanaṃ. Chedanaṃ mūlappadese nikantanaṃ. Lunanaṃ yattha katthaci chedanaṃ. Uppāṭanaṃ ummūlanaṃ. Asitenāti dattena, lāyitenāti attho. Visaṃvādanasaṅkhātānaṃ tiṇānaṃ, aṭṭhannaṃ anariyavohārānanti attho. Yathābhūtañāṇanti nāma rūpaparicchedakañāṇaṃ. Saccanti veditabbaṃ aviparītavuttikattā ‘‘chedakaṃ’’ chindanakaṃ. Niddānanti niddāyakaṃ. Idameva saccaṃ moghamaññanti diṭṭhi ‘‘diṭṭhisacca’’nti vuccati. Dvīsu vikappesūti bhāvakattusādhanavasena dvīsu vikappesu. ‘‘Niddāna’’nti upayogavaseneva attho.
สีลเมว ‘‘โสรจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ ‘‘ปาณาติปาตาทีหิ สุฎฺฐุ โอรตสฺส กมฺม’’นฺติ กตฺวาฯ สงฺขารทุกฺขาทีนํ อภาวโต สุนฺทรภาวโต สุนฺทเร นิพฺพาเน อารมฺมณกรณวเสน รตตฺตา สุรโต, อรหาฯ ตสฺส ภาโว โสรจฺจํ, อรหตฺตํฯ อปฺปโมจนเมว อจฺจนฺตาย ปโมจนํ น โหติฯ
Sīlameva ‘‘soracca’’nti vuttaṃ ‘‘pāṇātipātādīhi suṭṭhu oratassa kamma’’nti katvā. Saṅkhāradukkhādīnaṃ abhāvato sundarabhāvato sundare nibbāne ārammaṇakaraṇavasena ratattā surato, arahā. Tassa bhāvo soraccaṃ, arahattaṃ. Appamocanameva accantāya pamocanaṃ na hoti.
ยทเคฺคน วิปสฺสนาย ปญฺญาย ตํสหคตวีริยสฺส จ นงฺคลโธรยฺหตา, ตถาปวตฺตกุสลภาวนาย จ กสิภาโว จ, ตทเคฺคน ตโต ปุเรตรํ ปวตฺตปญฺญาวีริยปารมีนํ นงฺคลโธรยฺหตา, ตถาปวตฺตกุสลภาวนาย จ กสิภาโว เวทิตโพฺพติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาหฯ ธุรํ วหตีติ โธรยฺหํฯ ยถาวุตฺตํ ฆนนฺติ อสฺมิมานาทิเภทํ ฆนํฯ วหิตพฺพา อาทิภูตา ธุรา เอเตสํ อตฺถีติ ธุรา, ปุริมธุรวาหกาฯ ตํมูลกา อปรํ ธุรํ วหนฺตา โธรยฺหาฯ ธุรา จ โธรยฺหา จ ธุรโธรยฺหํ เอกตฺตวเสนฯ วหนฺตนฺติ กสเนน ปวตฺตนฺตํฯ
Yadaggena vipassanāya paññāya taṃsahagatavīriyassa ca naṅgaladhorayhatā, tathāpavattakusalabhāvanāya ca kasibhāvo ca, tadaggena tato puretaraṃ pavattapaññāvīriyapāramīnaṃ naṅgaladhorayhatā, tathāpavattakusalabhāvanāya ca kasibhāvo veditabboti dassento ‘‘yathā hī’’tiādimāha. Dhuraṃ vahatīti dhorayhaṃ. Yathāvuttaṃ ghananti asmimānādibhedaṃ ghanaṃ. Vahitabbā ādibhūtā dhurā etesaṃ atthīti dhurā, purimadhuravāhakā. Taṃmūlakā aparaṃ dhuraṃ vahantā dhorayhā. Dhurā ca dhorayhā ca dhuradhorayhaṃ ekattavasena. Vahantanti kasanena pavattantaṃ.
กามโยคาทีหิ โยเคหิ เขมตฺตา อนุปทฺทวตฺตาฯ ตํ นิพฺพานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺสฯ วาหียติ วิปสฺสนาย สหคตํฯ อภิมุขํ วาหียติ มคฺคปริยาปนฺนํฯ เขตฺตโกฎินฺติ เขตฺตมริยาทํฯ ทิเฎฺฐกเฎฺฐติ ทิฎฺฐิยา สหชาเตกเฎฺฐ ปหาเนกเฎฺฐ จฯ โอฬาริเกติ อุปริมคฺควเชฺฌ อุปาทาย วุตฺตํ, อญฺญถา ทสฺสนปหาตพฺพาปิ ทุติยมคฺควเชฺฌหิ โอฬาริกาติฯ อณุสหคเตติ อณุภูเตฯ อิทํ เหฎฺฐิมมคฺควเชฺฌ อุปาทาย วุตฺตํฯ สพฺพกิเลเส อวสิฎฺฐสพฺพกิเลเส ปชหนฺตํ อนิวตฺตนฺตํ คจฺฉติ ปุน ปหาตพฺพตาย อภาวโตฯ อนิวตฺตนฺตนฺติ น นิวตฺตนฺตํ, ยถา นิวตฺตนํ น โหติ, เอวํ คจฺฉตีติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘นิวตฺตนรหิต’’นฺติอาทิฯ เอตํ ปน ตว ธุรโธรยฺหํฯ
Kāmayogādīhi yogehi khemattā anupaddavattā. Taṃ nibbānaṃ adhikicca uddissa. Vāhīyati vipassanāya sahagataṃ. Abhimukhaṃ vāhīyati maggapariyāpannaṃ. Khettakoṭinti khettamariyādaṃ. Diṭṭhekaṭṭheti diṭṭhiyā sahajātekaṭṭhe pahānekaṭṭhe ca. Oḷāriketi uparimaggavajjhe upādāya vuttaṃ, aññathā dassanapahātabbāpi dutiyamaggavajjhehi oḷārikāti. Aṇusahagateti aṇubhūte. Idaṃ heṭṭhimamaggavajjhe upādāya vuttaṃ. Sabbakilese avasiṭṭhasabbakilese pajahantaṃ anivattantaṃ gacchati puna pahātabbatāya abhāvato. Anivattantanti na nivattantaṃ, yathā nivattanaṃ na hoti, evaṃ gacchatīti attho. Tenāha ‘‘nivattanarahita’’ntiādi. Etaṃ pana tava dhuradhorayhaṃ.
เอวเมสา กสีติ ยถาวุตฺตสฺส ปจฺจามสนํฯ เตนาห ‘‘นิคมนํ กโรโนฺต’’ติฯ วุตฺตเสฺสว หิ อตฺถสฺส ปุน วจนํฯ ปญฺญานงฺคเลน สติผาลํ อาโกเฎตฺวาติ ปญฺญาสงฺขาเตน นงฺคเลน สทฺธิํ สติผาลสฺส เอกาพทฺธภาวกรเณน อาโกเฎตฺวาฯ กฎฺฐาติ เอตฺถ ‘‘กสี’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘กฎฺฐา กสี’’ติฯ กมฺมปริโยสานนฺติ ยถาวุตฺตกสิกมฺมสฺส ปริโยสานภูตํฯ ยทิปิ ปุเพฺพ ‘‘ปญฺญา เม ยุคนงฺคล’’นฺติอาทินา อตฺตุเทฺทสิกวเสนายํ อมตปฺผลา กสิ ทสฺสิตา, มหาการุณิกสฺส ปน ภควโต เทสนา สพฺพสฺสปิ สตฺตนิกายสฺส สาธารณา เอวาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘สา โข ปเนสา’’ติอาทิมาหฯ
Evamesā kasīti yathāvuttassa paccāmasanaṃ. Tenāha ‘‘nigamanaṃ karonto’’ti. Vuttasseva hi atthassa puna vacanaṃ. Paññānaṅgalena satiphālaṃ ākoṭetvāti paññāsaṅkhātena naṅgalena saddhiṃ satiphālassa ekābaddhabhāvakaraṇena ākoṭetvā. Kaṭṭhāti ettha ‘‘kasī’’ti padaṃ ānetvā sambandhitabbaṃ ‘‘kaṭṭhā kasī’’ti. Kammapariyosānanti yathāvuttakasikammassa pariyosānabhūtaṃ. Yadipi pubbe ‘‘paññā me yuganaṅgala’’ntiādinā attuddesikavasenāyaṃ amatapphalā kasi dassitā, mahākāruṇikassa pana bhagavato desanā sabbassapi sattanikāyassa sādhāraṇā evāti dassento ‘‘sā kho panesā’’tiādimāha.
ทิวเสเยวาติ ตํทิวเส เอวฯ อาทิมาหาติ เอตฺถ อาทิ-สเทฺทน กถาปริโยสาเน ปาฐปเทโส คหิโตติ ตทญฺญํ ‘‘เอวํ วุเตฺต’’ติอาทิปาฐํ สนฺธาย ‘‘ตโต ปรญฺจา’’ติ อาหฯ
Divaseyevāti taṃdivase eva. Ādimāhāti ettha ādi-saddena kathāpariyosāne pāṭhapadeso gahitoti tadaññaṃ ‘‘evaṃ vutte’’tiādipāṭhaṃ sandhāya ‘‘tato parañcā’’ti āha.
กสิภารทฺวาชสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kasibhāradvājasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๑. กสิภารทฺวาชสุตฺตํ • 1. Kasibhāradvājasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๑. กสิภารทฺวาชสุตฺตวณฺณนา • 1. Kasibhāradvājasuttavaṇṇanā