Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๒๕] ๕. กฎาหกชาตกวณฺณนา
[125] 5. Kaṭāhakajātakavaṇṇanā
พหุมฺปิ โส วิกเตฺถยฺยาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ วิกตฺถกภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตสฺส วตฺถุ เหฎฺฐา กถิตสทิสเมวฯ
Bahumpiso vikattheyyāti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ vikatthakabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tassa vatthu heṭṭhā kathitasadisameva.
อตีเต ปน พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต มหาวิภโว เสฎฺฐิ อโหสิฯ ตสฺส ภริยา ปุตฺตํ วิชายิ, ทาสีปิสฺส ตํ ทิวสเญฺญว ปุตฺตํ วิชายิฯ เต เอกโตว วฑฺฒิํสุฯ เสฎฺฐิปุเตฺต เลขํ สิกฺขเนฺต ทาโสปิสฺส ผลกํ วหมาโน คนฺตฺวา เตเนว สทฺธิํ เลขํ สิกฺขิ, คณนํ สิกฺขิ, เทฺว ตโย โวหาเร อกาสิฯ โส อนุกฺกเมน วจนกุสโล โวหารกุสโล ยุวา อภิรูโป อโหสิ, นาเมน กฎาเหโก นามฯ โส เสฎฺฐิฆเร ภณฺฑาคาริกกมฺมํ กโรโนฺต จิเนฺตสิ ‘‘น มํ อิเม สพฺพกาลํ ภณฺฑาคาริกกมฺมํ กาเรสฺสนฺติ, กิญฺจิเทว โทสํ ทิสฺวา ตาเฬตฺวา พนฺธิตฺวา ลกฺขเณน อเงฺกตฺวา ทาสปริโภเคนปิ ปริภุญฺชิสฺสนฺติฯ ปจฺจเนฺต โข ปน เสฎฺฐิสฺส สหายโก เสฎฺฐิ อตฺถิ, ยํนูนาหํ เสฎฺฐิสฺส วจเนน เลขํ อาทาย ตตฺถ คนฺตฺวา ‘อหํ เสฎฺฐิปุโตฺต’ติ วตฺวา ตํ เสฎฺฐิํ วเญฺจตฺวา ตสฺส ธีตรํ คเหตฺวา สุขํ วเสยฺย’’นฺติฯ โส สยเมว ปณฺณํ คเหตฺวา ‘‘อหํ อสุกํ นาม มม ปุตฺตํ ตว สนฺติกํ ปหิณิํ, อาวาหวิวาหสมฺพโนฺธ นาม มยฺหญฺจ ตยา, ตุยฺหญฺจ มยา สทฺธิํ ปติรูโป, ตสฺมา ตฺวํ อิมสฺส ทารกสฺส อตฺตโน ธีตรํ ทตฺวา เอตํ ตเตฺถว วสาเปหิ, อหมฺปิ โอกาสํ ลภิตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ ลิขิตฺวา เสฎฺฐิเสฺสว มุทฺทิกาย ลเญฺชตฺวา ยถารุจิตํ ปริพฺพยเญฺจว คนฺธวตฺถาทีนิ จ คเหตฺวา ปจฺจนฺตํ คนฺตฺวา เสฎฺฐิํ ทิสฺวา วนฺทิตฺวา อฎฺฐาสิฯ
Atīte pana bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto mahāvibhavo seṭṭhi ahosi. Tassa bhariyā puttaṃ vijāyi, dāsīpissa taṃ divasaññeva puttaṃ vijāyi. Te ekatova vaḍḍhiṃsu. Seṭṭhiputte lekhaṃ sikkhante dāsopissa phalakaṃ vahamāno gantvā teneva saddhiṃ lekhaṃ sikkhi, gaṇanaṃ sikkhi, dve tayo vohāre akāsi. So anukkamena vacanakusalo vohārakusalo yuvā abhirūpo ahosi, nāmena kaṭāheko nāma. So seṭṭhighare bhaṇḍāgārikakammaṃ karonto cintesi ‘‘na maṃ ime sabbakālaṃ bhaṇḍāgārikakammaṃ kāressanti, kiñcideva dosaṃ disvā tāḷetvā bandhitvā lakkhaṇena aṅketvā dāsaparibhogenapi paribhuñjissanti. Paccante kho pana seṭṭhissa sahāyako seṭṭhi atthi, yaṃnūnāhaṃ seṭṭhissa vacanena lekhaṃ ādāya tattha gantvā ‘ahaṃ seṭṭhiputto’ti vatvā taṃ seṭṭhiṃ vañcetvā tassa dhītaraṃ gahetvā sukhaṃ vaseyya’’nti. So sayameva paṇṇaṃ gahetvā ‘‘ahaṃ asukaṃ nāma mama puttaṃ tava santikaṃ pahiṇiṃ, āvāhavivāhasambandho nāma mayhañca tayā, tuyhañca mayā saddhiṃ patirūpo, tasmā tvaṃ imassa dārakassa attano dhītaraṃ datvā etaṃ tattheva vasāpehi, ahampi okāsaṃ labhitvā āgamissāmī’’ti likhitvā seṭṭhisseva muddikāya lañjetvā yathārucitaṃ paribbayañceva gandhavatthādīni ca gahetvā paccantaṃ gantvā seṭṭhiṃ disvā vanditvā aṭṭhāsi.
อถ นํ เสฎฺฐิ ‘‘กุโต อาคโตสิ, ตาตา’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘พาราณสิโต’’ติฯ ‘‘กสฺส ปุโตฺตสี’’ติ? ‘‘พาราณสิเสฎฺฐิสฺสา’’ติฯ ‘‘เกนเตฺถนาคโตสี’’ติ? ตสฺมิํ ขเณ กฎาหโก ‘‘อิทํ ทิสฺวา ชานิสฺสถา’’ติ ปณฺณํ อทาสิฯ เสฎฺฐิ ปณฺณํ วาเจตฺวา ‘‘อิทานาหํ ชีวามิ นามา’’ติ ตุฎฺฐจิโตฺต ธีตรํ ทตฺวา ปติฎฺฐาเปสิฯ ตสฺส ปริวาโร มหโนฺต อโหสิฯ โส ยาคุขชฺชกาทีสุ วา วตฺถคนฺธาทีสุ วา อุปนีเตสุ ‘‘เอวมฺปิ นาม ยาคุํ ปจนฺติ, เอวํ ขชฺชกํ, เอวํ ภตฺตํ, อโห ปจฺจนฺตวาสิกา นามา’’ติ ยาคุอาทีนิ ครหติฯ ‘‘อิเม ปจฺจนฺตวาสิภาเวเนว อหตสาฎเก วฬญฺชิตุํ น ชานนฺติ, คเนฺธ ปิสิตุํ, ปุปฺผานิ คนฺถิตุํ น ชานนฺตี’’ติ วตฺถกมฺมนฺติกาทโย ครหติฯ
Atha naṃ seṭṭhi ‘‘kuto āgatosi, tātā’’ti pucchi. ‘‘Bārāṇasito’’ti. ‘‘Kassa puttosī’’ti? ‘‘Bārāṇasiseṭṭhissā’’ti. ‘‘Kenatthenāgatosī’’ti? Tasmiṃ khaṇe kaṭāhako ‘‘idaṃ disvā jānissathā’’ti paṇṇaṃ adāsi. Seṭṭhi paṇṇaṃ vācetvā ‘‘idānāhaṃ jīvāmi nāmā’’ti tuṭṭhacitto dhītaraṃ datvā patiṭṭhāpesi. Tassa parivāro mahanto ahosi. So yāgukhajjakādīsu vā vatthagandhādīsu vā upanītesu ‘‘evampi nāma yāguṃ pacanti, evaṃ khajjakaṃ, evaṃ bhattaṃ, aho paccantavāsikā nāmā’’ti yāguādīni garahati. ‘‘Ime paccantavāsibhāveneva ahatasāṭake vaḷañjituṃ na jānanti, gandhe pisituṃ, pupphāni ganthituṃ na jānantī’’ti vatthakammantikādayo garahati.
โพธิสโตฺตปิ ทาสํ อปสฺสโนฺต ‘‘กฎาหโก น ทิสฺสติ, กหํ คโต, ปริเยสถ น’’นฺติ สมนฺตา มนุเสฺส ปโยเชสิฯ เตสุ เอโก ตตฺถ คนฺตฺวา ตํ ทิสฺวา สญฺชานิตฺวา อตฺตานํ อชานาเปตฺวา อาคนฺตฺวา โพธิสตฺตสฺส อาโรเจสิฯ โพธิสโตฺต ตํ ปวตฺติํ สุตฺวา ‘‘อยุตฺตํ เตน กตํ, คนฺตฺวา นํ คเหตฺวา อาคจฺฉิสฺสามี’’ติ ราชานํ อาปุจฺฉิตฺวา มหเนฺตน ปริวาเรน นิกฺขมิฯ ‘‘เสฎฺฐิ กิร ปจฺจนฺตํ คจฺฉตี’’ติ สพฺพตฺถ ปากโฎ ชาโตฯ กฎาหโก ‘‘เสฎฺฐิ กิร อาคจฺฉตี’’ติ สุตฺวา จิเนฺตสิ ‘‘น โส อเญฺญน การเณน อาคจฺฉิสฺสติ, มํ นิสฺสาเยวสฺส อาคมเนน ภวิตพฺพํฯ สเจ ปนาหํ ปลายิสฺสามิ, ปุน อาคนฺตุํ น สกฺกา ภวิสฺสติฯ อตฺถิ ปเนส อุปาโยฯ มม สามิกสฺส ปฎิปถํ คนฺตฺวา ทาสกมฺมํ กตฺวา ตเมว อาราเธสฺสามี’’ติฯ โส ตโต ปฎฺฐาย ปริสมเชฺฌ เอวํ ภาสติ ‘‘อเญฺญ พาลมนุสฺสา อตฺตโน พาลภาเวน มาตาปิตูนํ คุณํ อชานนฺตา เตสํ โภชนเวลาย อปจิติกมฺมํ อกตฺวา เตหิ สทฺธิํเยว ภุญฺชนฺติ, มยํ ปน มาตาปิตูนํ โภชนกาเล ปฎิคฺคหํ อุปเนม, เขฬมลฺลกํ อุปเนม, ภาชนานิ อุปเนม, ปานียมฺปิ พีชนิมฺปิ คเหตฺวา อุปติฎฺฐามา’’ติ ยาว สรีรวฬญฺชนกาเล อุทกกลสํ อาทาย ปฎิจฺฉนฺนฎฺฐานคมนา สพฺพํ ทาเสหิ สามิกานํ กตฺตพฺพกิจฺจํ ปกาเสสิฯ
Bodhisattopi dāsaṃ apassanto ‘‘kaṭāhako na dissati, kahaṃ gato, pariyesatha na’’nti samantā manusse payojesi. Tesu eko tattha gantvā taṃ disvā sañjānitvā attānaṃ ajānāpetvā āgantvā bodhisattassa ārocesi. Bodhisatto taṃ pavattiṃ sutvā ‘‘ayuttaṃ tena kataṃ, gantvā naṃ gahetvā āgacchissāmī’’ti rājānaṃ āpucchitvā mahantena parivārena nikkhami. ‘‘Seṭṭhi kira paccantaṃ gacchatī’’ti sabbattha pākaṭo jāto. Kaṭāhako ‘‘seṭṭhi kira āgacchatī’’ti sutvā cintesi ‘‘na so aññena kāraṇena āgacchissati, maṃ nissāyevassa āgamanena bhavitabbaṃ. Sace panāhaṃ palāyissāmi, puna āgantuṃ na sakkā bhavissati. Atthi panesa upāyo. Mama sāmikassa paṭipathaṃ gantvā dāsakammaṃ katvā tameva ārādhessāmī’’ti. So tato paṭṭhāya parisamajjhe evaṃ bhāsati ‘‘aññe bālamanussā attano bālabhāvena mātāpitūnaṃ guṇaṃ ajānantā tesaṃ bhojanavelāya apacitikammaṃ akatvā tehi saddhiṃyeva bhuñjanti, mayaṃ pana mātāpitūnaṃ bhojanakāle paṭiggahaṃ upanema, kheḷamallakaṃ upanema, bhājanāni upanema, pānīyampi bījanimpi gahetvā upatiṭṭhāmā’’ti yāva sarīravaḷañjanakāle udakakalasaṃ ādāya paṭicchannaṭṭhānagamanā sabbaṃ dāsehi sāmikānaṃ kattabbakiccaṃ pakāsesi.
โส เอวํ ปริสํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา โพธิสตฺตสฺส ปจฺจนฺตสมีปํ อาคตกาเล สสุรํ อโวจ ‘‘ตาต, มม กิร ปิตา ตุมฺหากํ ทสฺสนตฺถาย อาคจฺฉติ, ตุเมฺห ขาทนียโภชนียํ ปฎิยาทาเปถ, อหํ ปณฺณาการํ คเหตฺวา ปฎิปถํ คมิสฺสามี’’ติฯ โส ‘‘สาธุ, ตาตา’’ติ สมฺปฎิจฺฉิฯ กฎาหโก พหุํ ปณฺณาการมาทาย มหเนฺตน ปริวาเรน คนฺตฺวา โพธิสตฺตํ วนฺทิตฺวา ปณฺณาการํ อทาสิฯ โพธิสโตฺตปิ ปณฺณาการํ คเหตฺวา เตน สทฺธิํ ปฎิสนฺถารํ กตฺวา ปาตราสกาเล ขนฺธาวารํ นิวาเสตฺวา สรีรวฬญฺชนตฺถาย ปฎิจฺฉนฺนฎฺฐานํ ปาวิสิฯ กฎาหโก อตฺตโน ปริวารํ นิวเตฺตตฺวา กลสํ อาทาย โพธิสตฺตสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อุทกกิจฺจปริโยสาเน ปาเทสุ ปติตฺวา ‘‘สามิ, อหํ ตุมฺหากํ ยตฺตกํ อิจฺฉถ, ตตฺตกํ ธนํ ทสฺสามิ, มา เม ยสํ อนฺตรธาปยิตฺถา’’ติ อาหฯ โพธิสโตฺต ตสฺส วตฺตสมฺปทาย ปสีทิตฺวา ‘‘มา ภายิ, นตฺถิ เต มม สนฺติกา อนฺตราโย’’ติ สมสฺสาเสตฺวา ปจฺจนฺตนครํ ปาวิสิฯ มหโนฺต สกฺกาโร อโหสิ, กฎาหโกปิสฺส นิรนฺตรํ ทาเสน กตฺตพฺพกิจฺจํ กโรติฯ อถ นํ เอกาย เวลาย สุขนิสินฺนํ ปจฺจนฺตเสฎฺฐิ อาห ‘‘มหาเสฎฺฐิ, มยา ตุมฺหากํ ปณฺณํ ทิสฺวาว ตุมฺหากํ ปุตฺตสฺส ทาริกา ทินฺนา’’ติ โพธิสโตฺต กฎาหกํ ปุตฺตเมว กตฺวา ตทนุจฺฉวิกํ ปิยวจนํ วตฺวา เสฎฺฐิํ โตเสสิฯ ตโต ปฎฺฐาย กฎาหกสฺส มุขํ อุโลฺลเกตุํ สมโตฺถ นาม นาโหสิฯ
So evaṃ parisaṃ uggaṇhāpetvā bodhisattassa paccantasamīpaṃ āgatakāle sasuraṃ avoca ‘‘tāta, mama kira pitā tumhākaṃ dassanatthāya āgacchati, tumhe khādanīyabhojanīyaṃ paṭiyādāpetha, ahaṃ paṇṇākāraṃ gahetvā paṭipathaṃ gamissāmī’’ti. So ‘‘sādhu, tātā’’ti sampaṭicchi. Kaṭāhako bahuṃ paṇṇākāramādāya mahantena parivārena gantvā bodhisattaṃ vanditvā paṇṇākāraṃ adāsi. Bodhisattopi paṇṇākāraṃ gahetvā tena saddhiṃ paṭisanthāraṃ katvā pātarāsakāle khandhāvāraṃ nivāsetvā sarīravaḷañjanatthāya paṭicchannaṭṭhānaṃ pāvisi. Kaṭāhako attano parivāraṃ nivattetvā kalasaṃ ādāya bodhisattassa santikaṃ gantvā udakakiccapariyosāne pādesu patitvā ‘‘sāmi, ahaṃ tumhākaṃ yattakaṃ icchatha, tattakaṃ dhanaṃ dassāmi, mā me yasaṃ antaradhāpayitthā’’ti āha. Bodhisatto tassa vattasampadāya pasīditvā ‘‘mā bhāyi, natthi te mama santikā antarāyo’’ti samassāsetvā paccantanagaraṃ pāvisi. Mahanto sakkāro ahosi, kaṭāhakopissa nirantaraṃ dāsena kattabbakiccaṃ karoti. Atha naṃ ekāya velāya sukhanisinnaṃ paccantaseṭṭhi āha ‘‘mahāseṭṭhi, mayā tumhākaṃ paṇṇaṃ disvāva tumhākaṃ puttassa dārikā dinnā’’ti bodhisatto kaṭāhakaṃ puttameva katvā tadanucchavikaṃ piyavacanaṃ vatvā seṭṭhiṃ tosesi. Tato paṭṭhāya kaṭāhakassa mukhaṃ ulloketuṃ samattho nāma nāhosi.
อเถกทิวสํ มหาสโตฺต เสฎฺฐิธีตรํ ปโกฺกสิตฺวา ‘‘เอหิ, อมฺม, สีเส เม อูกา วิจินาหี’’ติ วตฺวา ตํ อาคนฺตฺวา อูกา คเหตฺวา ฐิตํ ปิยวจนํ วตฺวา ‘‘กเถหิ, อมฺม, กจฺจิ เต มม ปุโตฺต สุขทุเกฺขสุ อปฺปมโตฺต , อุโภ ชนา สโมฺมทมานา สมคฺควาสํ วสถา’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘ตาต, มหาเสฎฺฐิ ตุมฺหากํ ปุตฺตสฺส อโญฺญ โทโส นตฺถิ, เกวลํ อาหารํ ครหตี’’ติฯ ‘‘อมฺม, นิจฺจกาลเมส ทุกฺขสีโลว, อปิจ เต อหํ ตสฺส มุขพนฺธนมนฺตํ ทสฺสามิ, ตํ ตฺวํ สาธุกํ อุคฺคณฺหิตฺวา มม ปุตฺตสฺส โภชนกาเล ครหนฺตสฺส อุคฺคหิตนิยาเมเนว ปุรโต ฐตฺวา วเทยฺยาสี’’ติ คาถํ อุคฺคณฺหาเปตฺวา กติปาหํ วสิตฺวา พาราณสิเมว อคมาสิฯ กฎาหโกปิ พหุํ ขาทนียโภชนียํ อาทาย อนุมคฺคํ คนฺตฺวา พหุธนํ ทตฺวา วนฺทิตฺวา นิวตฺติฯ โส โพธิสตฺตสฺส คตกาลโต ปฎฺฐาย อติเรกมานี อโหสิฯ โส เอกทิวสํ เสฎฺฐิธีตาย นานคฺครสโภชนํ อุปเนตฺวา กฎจฺฉุํ อาทาย ปริวิสนฺติยา ภตฺตํ ครหิตุํ อารภิฯ เสฎฺฐิธีตา โพธิสตฺตสฺส สนฺติเก อุคฺคหิตนิยาเมเนว อิมํ คาถมาห –
Athekadivasaṃ mahāsatto seṭṭhidhītaraṃ pakkositvā ‘‘ehi, amma, sīse me ūkā vicināhī’’ti vatvā taṃ āgantvā ūkā gahetvā ṭhitaṃ piyavacanaṃ vatvā ‘‘kathehi, amma, kacci te mama putto sukhadukkhesu appamatto , ubho janā sammodamānā samaggavāsaṃ vasathā’’ti pucchi. ‘‘Tāta, mahāseṭṭhi tumhākaṃ puttassa añño doso natthi, kevalaṃ āhāraṃ garahatī’’ti. ‘‘Amma, niccakālamesa dukkhasīlova, apica te ahaṃ tassa mukhabandhanamantaṃ dassāmi, taṃ tvaṃ sādhukaṃ uggaṇhitvā mama puttassa bhojanakāle garahantassa uggahitaniyāmeneva purato ṭhatvā vadeyyāsī’’ti gāthaṃ uggaṇhāpetvā katipāhaṃ vasitvā bārāṇasimeva agamāsi. Kaṭāhakopi bahuṃ khādanīyabhojanīyaṃ ādāya anumaggaṃ gantvā bahudhanaṃ datvā vanditvā nivatti. So bodhisattassa gatakālato paṭṭhāya atirekamānī ahosi. So ekadivasaṃ seṭṭhidhītāya nānaggarasabhojanaṃ upanetvā kaṭacchuṃ ādāya parivisantiyā bhattaṃ garahituṃ ārabhi. Seṭṭhidhītā bodhisattassa santike uggahitaniyāmeneva imaṃ gāthamāha –
๑๒๕.
125.
‘‘พหุมฺปิ โส วิกเตฺถยฺย, อญฺญํ ชนปทํ คโต;
‘‘Bahumpi so vikattheyya, aññaṃ janapadaṃ gato;
อนฺวาคนฺตฺวาน ทูเสยฺย, ภุญฺช โภเค กฎาหกา’’ติฯ
Anvāgantvāna dūseyya, bhuñja bhoge kaṭāhakā’’ti.
ตตฺถ พหุมฺปิ โส วิกเตฺถยฺย, อญฺญํ ชนปทํ คโตติ โย อตฺตโน ชาติภูมิโต อญฺญํ ชนปทํ คโต โหติ, ยตฺถสฺส ชาติํ น ชานนฺติ, โส พหุมฺปิ วิกเตฺถยฺย, วมฺภนวจนํ วญฺจนวจนํ วเทยฺยฯ อนฺวาคนฺตฺวาน ทูเสยฺยาติ อิมํ ตาว วารํ สามิกสฺส ปฎิปถํ คนฺตฺวา ทาสกิจฺจสฺส กตตฺตา กสาหิ ปหริตฺวา ปิฎฺฐิจมฺมุปฺปาฎนโต จ ลกฺขณาหนนโต จ มุโตฺตสิฯ สเจ อนาจารํ กโรสิ, ปุน อญฺญสฺมิํ อาคมนวาเร ตว สามิโก อนฺวาคนฺตฺวาน ทูเสยฺย, อิมํ เคหํ อนุอาคนฺตฺวา กสาภิฆาเตหิ เจว ลกฺขณาหนเนน จ ชาติปฺปกาสเนน จ ตํ ทูเสยฺย อุปหเนยฺยฯ ตสฺมา อิมํ อนาจารํ ปหาย ภุญฺช โภเค กฎาหก, มา ปจฺฉา อตฺตโน ทาสภาวํ ปากฎํ กาเรตฺวา วิปฺปฎิสารี อโหสีติ อยเมตฺถ เสฎฺฐิโน อธิปฺปาโยฯ
Tattha bahumpi so vikattheyya, aññaṃ janapadaṃ gatoti yo attano jātibhūmito aññaṃ janapadaṃ gato hoti, yatthassa jātiṃ na jānanti, so bahumpi vikattheyya, vambhanavacanaṃ vañcanavacanaṃ vadeyya. Anvāgantvāna dūseyyāti imaṃ tāva vāraṃ sāmikassa paṭipathaṃ gantvā dāsakiccassa katattā kasāhi paharitvā piṭṭhicammuppāṭanato ca lakkhaṇāhananato ca muttosi. Sace anācāraṃ karosi, puna aññasmiṃ āgamanavāre tava sāmiko anvāgantvāna dūseyya, imaṃ gehaṃ anuāgantvā kasābhighātehi ceva lakkhaṇāhananena ca jātippakāsanena ca taṃ dūseyya upahaneyya. Tasmā imaṃ anācāraṃ pahāya bhuñja bhoge kaṭāhaka, mā pacchā attano dāsabhāvaṃ pākaṭaṃ kāretvā vippaṭisārī ahosīti ayamettha seṭṭhino adhippāyo.
เสฎฺฐิธีตา ปน เอตมตฺถํ อชานนฺตี อุคฺคหิตนิยาเมน พฺยญฺชนเมว ปยิรุทาหาสิฯ กฎาหโก ‘‘อทฺธา เสฎฺฐินา มม กุลํ อาจิกฺขิตฺวา เอติสฺสา สพฺพํ กถิตํ ภวิสฺสตี’’ติ ตโต ปฎฺฐาย ปุน ภตฺตํ ครหิตุํ น วิสหิ, นิหตมาโน ยถาลทฺธํ ภุญฺชิตฺวา ยถากมฺมํ คโตฯ
Seṭṭhidhītā pana etamatthaṃ ajānantī uggahitaniyāmena byañjanameva payirudāhāsi. Kaṭāhako ‘‘addhā seṭṭhinā mama kulaṃ ācikkhitvā etissā sabbaṃ kathitaṃ bhavissatī’’ti tato paṭṭhāya puna bhattaṃ garahituṃ na visahi, nihatamāno yathāladdhaṃ bhuñjitvā yathākammaṃ gato.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา กฎาหโก วิกตฺถกภิกฺขุ อโหสิ, พาราณสิเสฎฺฐิ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi ‘‘tadā kaṭāhako vikatthakabhikkhu ahosi, bārāṇasiseṭṭhi pana ahameva ahosi’’nti.
กฎาหกชาตกวณฺณนา ปญฺจมาฯ
Kaṭāhakajātakavaṇṇanā pañcamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๒๕. กฎาหกชาตกํ • 125. Kaṭāhakajātakaṃ