Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๗. กถาวตฺถุสุตฺตํ
7. Kathāvatthusuttaṃ
๖๘. ‘‘ตีณิมานิ, ภิกฺขเว, กถาวตฺถูนิฯ กตมานิ ตีณิ? อตีตํ วา, ภิกฺขเว, อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ อโหสิ อตีตมทฺธาน’นฺติฯ อนาคตํ วา, ภิกฺขเว, อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ ภวิสฺสติ อนาคตมทฺธาน’นฺติฯ เอตรหิ วา, ภิกฺขเว, ปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธานํ อารพฺภ กถํ กเถยฺย – ‘เอวํ โหติ เอตรหิ ปจฺจุปฺปนฺนมทฺธาน’’’นฺติ 1ฯ
68. ‘‘Tīṇimāni, bhikkhave, kathāvatthūni. Katamāni tīṇi? Atītaṃ vā, bhikkhave, addhānaṃ ārabbha kathaṃ katheyya – ‘evaṃ ahosi atītamaddhāna’nti. Anāgataṃ vā, bhikkhave, addhānaṃ ārabbha kathaṃ katheyya – ‘evaṃ bhavissati anāgatamaddhāna’nti. Etarahi vā, bhikkhave, paccuppannaṃ addhānaṃ ārabbha kathaṃ katheyya – ‘evaṃ hoti etarahi paccuppannamaddhāna’’’nti 2.
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตโพฺพ ยทิ วา กโจฺฉ ยทิ วา อกโจฺฉติฯ สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน เอกํสพฺยากรณียํ ปญฺหํ น เอกํเสน พฺยากโรติ, วิภชฺชพฺยากรณียํ ปญฺหํ น วิภชฺช พฺยากโรติ, ปฎิปุจฺฉาพฺยากรณียํ ปญฺหํ น ปฎิปุจฺฉา พฺยากโรติ, ฐปนียํ ปญฺหํ น ฐเปติ 3, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกโจฺฉ โหติฯ สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน เอกํสพฺยากรณียํ ปญฺหํ เอกํเสน พฺยากโรติ, วิภชฺชพฺยากรณียํ ปญฺหํ วิภชฺช พฺยากโรติ, ปฎิปุจฺฉาพฺยากรณียํ ปญฺหํ ปฎิปุจฺฉา พฺยากโรติ , ฐปนียํ ปญฺหํ ฐเปติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กโจฺฉ โหติฯ
‘‘Kathāsampayogena, bhikkhave, puggalo veditabbo yadi vā kaccho yadi vā akacchoti. Sacāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno ekaṃsabyākaraṇīyaṃ pañhaṃ na ekaṃsena byākaroti, vibhajjabyākaraṇīyaṃ pañhaṃ na vibhajja byākaroti, paṭipucchābyākaraṇīyaṃ pañhaṃ na paṭipucchā byākaroti, ṭhapanīyaṃ pañhaṃ na ṭhapeti 4, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo akaccho hoti. Sace panāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno ekaṃsabyākaraṇīyaṃ pañhaṃ ekaṃsena byākaroti, vibhajjabyākaraṇīyaṃ pañhaṃ vibhajja byākaroti, paṭipucchābyākaraṇīyaṃ pañhaṃ paṭipucchā byākaroti , ṭhapanīyaṃ pañhaṃ ṭhapeti, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo kaccho hoti.
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตโพฺพ ยทิ วา กโจฺฉ ยทิ วา อกโจฺฉติฯ สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน ฐานาฐาเน น สณฺฐาติ ปริกเปฺป น สณฺฐาติ อญฺญาตวาเท 5 น สณฺฐาติ ปฎิปทาย น สณฺฐาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกโจฺฉ โหติฯ สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน ฐานาฐาเน สณฺฐาติ ปริกเปฺป สณฺฐาติ อญฺญาตวาเท สณฺฐาติ ปฎิปทาย สณฺฐาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กโจฺฉ โหติฯ
‘‘Kathāsampayogena, bhikkhave, puggalo veditabbo yadi vā kaccho yadi vā akacchoti. Sacāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno ṭhānāṭhāne na saṇṭhāti parikappe na saṇṭhāti aññātavāde 6 na saṇṭhāti paṭipadāya na saṇṭhāti, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo akaccho hoti. Sace panāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno ṭhānāṭhāne saṇṭhāti parikappe saṇṭhāti aññātavāde saṇṭhāti paṭipadāya saṇṭhāti, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo kaccho hoti.
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตโพฺพ ยทิ วา กโจฺฉ ยทิ วา อกโจฺฉติฯ สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ, พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกโจฺฉ โหติฯ สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน น อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ น พหิทฺธา กถํ อปนาเมติ, น โกปญฺจ โทสญฺจ อปฺปจฺจยญฺจ ปาตุกโรติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กโจฺฉ โหติฯ
‘‘Kathāsampayogena, bhikkhave, puggalo veditabbo yadi vā kaccho yadi vā akacchoti. Sacāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno aññenaññaṃ paṭicarati, bahiddhā kathaṃ apanāmeti, kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo akaccho hoti. Sace panāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno na aññenaññaṃ paṭicarati na bahiddhā kathaṃ apanāmeti, na kopañca dosañca appaccayañca pātukaroti, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo kaccho hoti.
‘‘กถาสมฺปโยเคน, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตโพฺพ ยทิ วา กโจฺฉ ยทิ วา อกโจฺฉติฯ สจายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน อภิหรติ อภิมทฺทติ อนุปชคฺฆติ 7 ขลิตํ คณฺหาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อกโจฺฉ โหติฯ สเจ ปนายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล ปญฺหํ ปุโฎฺฐ สมาโน นาภิหรติ นาภิมทฺทติ น อนุปชคฺฆติ น ขลิตํ คณฺหาติ, เอวํ สนฺตายํ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล กโจฺฉ โหติฯ
‘‘Kathāsampayogena, bhikkhave, puggalo veditabbo yadi vā kaccho yadi vā akacchoti. Sacāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno abhiharati abhimaddati anupajagghati 8 khalitaṃ gaṇhāti, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo akaccho hoti. Sace panāyaṃ, bhikkhave, puggalo pañhaṃ puṭṭho samāno nābhiharati nābhimaddati na anupajagghati na khalitaṃ gaṇhāti, evaṃ santāyaṃ, bhikkhave, puggalo kaccho hoti.
‘‘กถาสมฺปโยเคน , ภิกฺขเว, ปุคฺคโล เวทิตโพฺพ ยทิ วา สอุปนิโส ยทิ วา อนุปนิโสติฯ อโนหิตโสโต, ภิกฺขเว, อนุปนิโส โหติ, โอหิตโสโต สอุปนิโส โหติฯ โส สอุปนิโส สมาโน อภิชานาติ เอกํ ธมฺมํ, ปริชานาติ เอกํ ธมฺมํ, ปชหติ เอกํ ธมฺมํ, สจฺฉิกโรติ เอกํ ธมฺมํฯ โส อภิชานโนฺต เอกํ ธมฺมํ, ปริชานโนฺต เอกํ ธมฺมํ, ปชหโนฺต เอกํ ธมฺมํ, สจฺฉิกโรโนฺต เอกํ ธมฺมํ สมฺมาวิมุตฺติํ ผุสติฯ เอตทตฺถา, ภิกฺขเว, กถา; เอตทตฺถา มนฺตนา; เอตทตฺถา อุปนิสา; เอตทตฺถํ โสตาวธานํ, ยทิทํ อนุปาทา จิตฺตสฺส วิโมโกฺขติฯ
‘‘Kathāsampayogena , bhikkhave, puggalo veditabbo yadi vā saupaniso yadi vā anupanisoti. Anohitasoto, bhikkhave, anupaniso hoti, ohitasoto saupaniso hoti. So saupaniso samāno abhijānāti ekaṃ dhammaṃ, parijānāti ekaṃ dhammaṃ, pajahati ekaṃ dhammaṃ, sacchikaroti ekaṃ dhammaṃ. So abhijānanto ekaṃ dhammaṃ, parijānanto ekaṃ dhammaṃ, pajahanto ekaṃ dhammaṃ, sacchikaronto ekaṃ dhammaṃ sammāvimuttiṃ phusati. Etadatthā, bhikkhave, kathā; etadatthā mantanā; etadatthā upanisā; etadatthaṃ sotāvadhānaṃ, yadidaṃ anupādā cittassa vimokkhoti.
‘‘เย วิรุทฺธา สลฺลปนฺติ, วินิวิฎฺฐา สมุสฺสิตา;
‘‘Ye viruddhā sallapanti, viniviṭṭhā samussitā;
อนริยคุณมาสชฺช, อโญฺญญฺญวิวเรสิโนฯ
Anariyaguṇamāsajja, aññoññavivaresino.
‘‘สเจ จสฺส กถากาโม, กาลมญฺญาย ปณฺฑิโต;
‘‘Sace cassa kathākāmo, kālamaññāya paṇḍito;
‘‘ตํ กถํ กถเย ธีโร, อวิรุโทฺธ อนุสฺสิโต;
‘‘Taṃ kathaṃ kathaye dhīro, aviruddho anussito;
อนุนฺนเตน มนสา, อปฬาโส อสาหโสฯ
Anunnatena manasā, apaḷāso asāhaso.
‘‘อนุสูยายมาโน โส, สมฺมทญฺญาย ภาสติ;
‘‘Anusūyāyamāno so, sammadaññāya bhāsati;
นาภิหเร นาภิมเทฺท, น วาจํ ปยุตํ ภเณฯ
Nābhihare nābhimadde, na vācaṃ payutaṃ bhaṇe.
‘‘อญฺญาตตฺถํ ปสาทตฺถํ, สตํ เว โหติ มนฺตนา;
‘‘Aññātatthaṃ pasādatthaṃ, sataṃ ve hoti mantanā;
เอวํ โข อริยา มเนฺตนฺติ, เอสา อริยาน มนฺตนา;
Evaṃ kho ariyā mantenti, esā ariyāna mantanā;
เอตทญฺญาย เมธาวี, น สมุเสฺสยฺย มนฺตเย’’ติฯ สตฺตมํ;
Etadaññāya medhāvī, na samusseyya mantaye’’ti. sattamaṃ;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา • 7. Kathāvatthusuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา • 7. Kathāvatthusuttavaṇṇanā