Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā)

    ๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา

    7. Kathāvatthusuttavaṇṇanā

    ๖๘. สตฺตเม กถาวตฺถูนีติ กถาย ปวตฺติฎฺฐานานิฯ ยสฺมา เตหิ วินา กถา น ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘กถาการณานี’’ติ วุตฺตํฯ อตติ สตติ สตตํ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อทฺธา, กาโลติ อาห ‘‘อตีตมทฺธานํ นาม กาโลปิ วตฺตตี’’ติฯ ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย หิ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาโนปิ กาโล ตเสฺสว ธมฺมสฺส ปวตฺติอวตฺถาวิเสสํ อุปาทาย เตเนว โวหาเรน อตีโตติอาทินา โวหรียติ, อตีตาทิเภโท จ นามายํ นิปฺปริยายโต ธมฺมานํเยว โหติ, น กาลสฺสาติ อาห ‘‘ขนฺธาปิ วตฺตนฺตี’’ติฯ ยถาวุตฺตมตฺถํ อิตเรสุ ทฺวีสุ อติทิสติ ‘‘อนาคตปจฺจุปฺปเนฺนสุปิ เอเสว นโย’’ติฯ อตีตมทฺธานนฺติอาทีสุ จ เทฺว ปริยายา สุตฺตนฺตปริยาโย, อภิธมฺมปริยาโย จฯ สุตฺตนฺตปริยาเยน ปฎิสนฺธิโต ปุเพฺพ อตีโต อทฺธา นาม, จุติโต ปจฺฉา อนาคโต อทฺธา นาม, สห จุติปฎิสนฺธีติ ตทนฺตรํ ปจฺจุปฺปโนฺน อทฺธา นามฯ อภิธมฺมปริยาเยน ตีสุ ขเณสุ อุปฺปาทโต ปุเพฺพ อตีโต อทฺธา นาม, อุปฺปาทโต อุทฺธํ อนาคโต อทฺธา นาม, ขณตฺตยํ ปจฺจุปฺปโนฺน อทฺธา นามฯ ตตฺถายํ สุตฺตนฺตเทสนาติ สุตฺตนฺตปริยาเยเนว อตีตาทิวิสยํ กถํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อตีเต กสฺสโป นามา’’ติอาทิมาหฯ

    68. Sattame kathāvatthūnīti kathāya pavattiṭṭhānāni. Yasmā tehi vinā kathā na pavattati, tasmā ‘‘kathākāraṇānī’’ti vuttaṃ. Atati satati satataṃ gacchati pavattatīti addhā, kāloti āha ‘‘atītamaddhānaṃ nāma kālopi vattatī’’ti. Dhammappavattimattatāya hi paramatthato avijjamānopi kālo tasseva dhammassa pavattiavatthāvisesaṃ upādāya teneva vohārena atītotiādinā voharīyati, atītādibhedo ca nāmāyaṃ nippariyāyato dhammānaṃyeva hoti, na kālassāti āha ‘‘khandhāpi vattantī’’ti. Yathāvuttamatthaṃ itaresu dvīsu atidisati ‘‘anāgatapaccuppannesupi eseva nayo’’ti. Atītamaddhānantiādīsu ca dve pariyāyā suttantapariyāyo, abhidhammapariyāyo ca. Suttantapariyāyena paṭisandhito pubbe atīto addhā nāma, cutito pacchā anāgato addhā nāma, saha cutipaṭisandhīti tadantaraṃ paccuppanno addhā nāma. Abhidhammapariyāyena tīsu khaṇesu uppādato pubbe atīto addhā nāma, uppādato uddhaṃ anāgato addhā nāma, khaṇattayaṃ paccuppanno addhā nāma. Tatthāyaṃ suttantadesanāti suttantapariyāyeneva atītādivisayaṃ kathaṃ dassento ‘‘atīte kassapo nāmā’’tiādimāha.

    เอกํเสเนว พฺยากาตโพฺพ วิสฺสเชฺชตโพฺพติ เอกํสพฺยากรณีโยฯ ‘‘จกฺขุ อนิจฺจ’’นฺติ ปเญฺห อุตฺตรปทาวธารณํ สนฺธาย ‘‘เอกํเสเนว พฺยากาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ นิจฺจตาย เลสสฺสปิ ตตฺถ อภาวโต, ปุริมปทาวธารเณ ปน วิภชฺชพฺยากรณียตายฯ เตนาห ‘‘อนิจฺจํ นาม จกฺขูติ ปุเฎฺฐน ปนา’’ติอาทิฯ จกฺขุโสเต วิเสสตฺถสามญฺญตฺถานํ อสาธารณภาวโต ทฺวินฺนํ เตสํ สทิสโจทนา ปฎิจฺฉนฺนมุเขเนว พฺยากรณียา ปฎิเกฺขปวเสน อนุญฺญาตวเสน จ วิสฺสชฺชิตพฺพโตติ อาห ‘‘ยถา จกฺขุ, ตถา โสตํ…เป.… อยํ ปฎิปุจฺฉาพฺยากรณีโย ปโญฺห’’ติฯ ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ ชีวสรีรานํ อนญฺญตาปเญฺห ยสฺส เยน อนญฺญตา โจทิตา, โส เอว ปรมตฺถโต นุปลพฺภตีติ จ ฌานตฺตยสฺส เมเตฺตยฺยตากิตฺตนสทิโสติ อพฺยากาตพฺพตาย ฐปนีโย วุโตฺตฯ เอวรูโป หิ ปโญฺห ติธา อวิสฺสชฺชนียตฺตา พฺยากรณํ อกตฺวา ฐเปตโพฺพฯ

    Ekaṃseneva byākātabbo vissajjetabboti ekaṃsabyākaraṇīyo. ‘‘Cakkhu anicca’’nti pañhe uttarapadāvadhāraṇaṃ sandhāya ‘‘ekaṃseneva byākātabba’’nti vuttaṃ niccatāya lesassapi tattha abhāvato, purimapadāvadhāraṇe pana vibhajjabyākaraṇīyatāya. Tenāha ‘‘aniccaṃ nāma cakkhūti puṭṭhena panā’’tiādi. Cakkhusote visesatthasāmaññatthānaṃ asādhāraṇabhāvato dvinnaṃ tesaṃ sadisacodanā paṭicchannamukheneva byākaraṇīyā paṭikkhepavasena anuññātavasena ca vissajjitabbatoti āha ‘‘yathā cakkhu, tathā sotaṃ…pe… ayaṃ paṭipucchābyākaraṇīyo pañho’’ti. Taṃ jīvaṃ taṃ sarīranti jīvasarīrānaṃ anaññatāpañhe yassa yena anaññatā coditā, so eva paramatthato nupalabbhatīti ca jhānattayassa metteyyatākittanasadisoti abyākātabbatāya ṭhapanīyo vutto. Evarūpo hi pañho tidhā avissajjanīyattā byākaraṇaṃ akatvā ṭhapetabbo.

    ติฎฺฐติ เอตฺถ ผลํ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ฐานํ, การณนฺติ อาห ‘‘การณาการเณ’’ติฯ ยุเตฺตน การเณนาติ อนุรูเปน การเณนฯ ปโหตีติ นิคฺคณฺหิตุํ สมโตฺถ โหติฯ สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปตีติ อตฺตนา คหิเต อุเจฺฉทวาเท โทสํ ทิสฺวา อตฺตโนปิ สสฺสตวาทิภาวเมว ทีเปติฯ ปุคฺคลวาทิมฺหีติ อิมินา วจฺฉกุตฺติยวาทิํ ทเสฺสติฯ ปญฺหํ ปุจฺฉเนฺตหิ ปฎิปชฺชิตพฺพา ปฎิปทา ปญฺหปุจฺฉนกานํ วตฺตํฯ

    Tiṭṭhati ettha phalaṃ tadāyattavuttitāyāti ṭhānaṃ, kāraṇanti āha ‘‘kāraṇākāraṇe’’ti. Yuttena kāraṇenāti anurūpena kāraṇena. Pahotīti niggaṇhituṃ samattho hoti. Sassatavādibhāvameva dīpetīti attanā gahite ucchedavāde dosaṃ disvā attanopi sassatavādibhāvameva dīpeti. Puggalavādimhīti iminā vacchakuttiyavādiṃ dasseti. Pañhaṃ pucchantehi paṭipajjitabbā paṭipadā pañhapucchanakānaṃ vattaṃ.

    ปฎิจรตีติ ปฎิจฺฉาทนวเสน จรติ ปวตฺตติฯ ปฎิจฺฉาทนโตฺถ เอว วา จรติสโทฺท อเนกตฺถตฺตา ธาตูนนฺติ อาห ‘‘ปฎิจฺฉาเทตี’’ติฯ อเญฺญนญฺญนฺติ ปน ปฎิจฺฉาทนาการทสฺสนนฺติ อาห ‘‘อเญฺญน วจเนนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ อเญฺญน วจเนนาติ ยํ โจทเกน จุทิตกสฺส โทสวิภาวนํ วจนํ วุตฺตํ, ตํ ตโต อเญฺญน วจเนน ปฎิจฺฉาเทติฯ โย หิ ‘‘อาปตฺติํ อาปโนฺนสี’’ติ วุเตฺต ‘‘โก อาปโนฺน, กิํ อาปโนฺน, กิสฺมิํ อาปโนฺน, กํ ภณถ, กิํ ภณถา’’ติ วทติฯ ‘‘เอวรูปํ กิญฺจิ ตยา ทิฎฺฐ’’นฺติ วุเตฺต ‘‘น สุณามี’’ติ โสตํ วา อุปเนติ, อยํ อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรติ นามฯ ‘‘โก อาปโนฺน’’ติอาทินา หิ โจทนํ อวิสฺสเชฺชตฺวาว วิเกฺขปาปชฺชนํ อเญฺญนญฺญํ ปฎิจรณํ, พหิทฺธา กถาปนามนํ วิสฺสเชฺชตฺวาติ อยเมเตสํ วิเสโสฯ เตเนวาห ‘‘อาคนฺตุกกถํ โอตาเรโนฺต’’ติอาทิฯ ตตฺถ อปนาเมตีติ วิเกฺขเปติฯ ตตฺราติ ตสฺมิํ พหิทฺธากถาย อปนามเนฯ

    Paṭicaratīti paṭicchādanavasena carati pavattati. Paṭicchādanattho eva vā caratisaddo anekatthattā dhātūnanti āha ‘‘paṭicchādetī’’ti. Aññenaññanti pana paṭicchādanākāradassananti āha ‘‘aññena vacanenā’’tiādi. Tattha aññena vacanenāti yaṃ codakena cuditakassa dosavibhāvanaṃ vacanaṃ vuttaṃ, taṃ tato aññena vacanena paṭicchādeti. Yo hi ‘‘āpattiṃ āpannosī’’ti vutte ‘‘ko āpanno, kiṃ āpanno, kismiṃ āpanno, kaṃ bhaṇatha, kiṃ bhaṇathā’’ti vadati. ‘‘Evarūpaṃ kiñci tayā diṭṭha’’nti vutte ‘‘na suṇāmī’’ti sotaṃ vā upaneti, ayaṃ aññenaññaṃ paṭicarati nāma. ‘‘Ko āpanno’’tiādinā hi codanaṃ avissajjetvāva vikkhepāpajjanaṃ aññenaññaṃ paṭicaraṇaṃ, bahiddhā kathāpanāmanaṃ vissajjetvāti ayametesaṃ viseso. Tenevāha ‘‘āgantukakathaṃ otārento’’tiādi. Tattha apanāmetīti vikkhepeti. Tatrāti tasmiṃ bahiddhākathāya apanāmane.

    อุปนิสีทติ ผลํ เอตฺถาติ การณํ อุปนิสา, อุเปจฺจ นิสฺสยตีติ วา อุปนิสา, สห อุปนิสายาติ สอุปนิโสติ อาห ‘‘สอุปนิสฺสโย สปจฺจโย’’ติฯ

    Upanisīdati phalaṃ etthāti kāraṇaṃ upanisā, upecca nissayatīti vā upanisā, saha upanisāyāti saupanisoti āha ‘‘saupanissayo sapaccayo’’ti.

    โอหิตโสโตติ อนญฺญวิหิตตฺตา ธมฺมสฺสวนาย อปนามิตโสโตฯ ตโต เอว ตทตฺถํ ฐปิตโสโตกุสลธมฺมนฺติ อริยมโคฺค อธิเปฺปโตติ อาห ‘‘อริยมคฺค’’นฺติฯ

    Ohitasototi anaññavihitattā dhammassavanāya apanāmitasoto. Tato eva tadatthaṃ ṭhapitasoto. Kusaladhammanti ariyamaggo adhippetoti āha ‘‘ariyamagga’’nti.

    กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Kathāvatthusuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๗. กถาวตฺถุสุตฺตํ • 7. Kathāvatthusuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. กถาวตฺถุสุตฺตวณฺณนา • 7. Kathāvatthusuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact