Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๑๙. กายคตาสติวคฺควณฺณนา
19. Kāyagatāsativaggavaṇṇanā
๕๖๓. เจตสา ผุโฎติ เอตฺถ ทุวิธํ ผรณํ อาโปผรณญฺจ ทิพฺพจกฺขุผรณญฺจฯ ตตฺถ อาโปกสิณํ สมาปชฺชิตฺวา อาเปน ผรณํ อาโปผรณํ นามฯ เอวํ ผุเฎปิ มหาสมุเทฺท สพฺพา สมุทฺทงฺคมา กุนฺนทิโย อโนฺตคธาว โหนฺติฯ อาโลกํ ปน วเฑฺฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุนา สกลสมุทฺททสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุผรณํ นามฯ เอวํ ผุเฎปิ มหาสมุเทฺท สพฺพา มหาสมุทฺทงฺคมา กุนฺนทิโย อโนฺตคธาว โหนฺติฯ อโนฺตคธา ตสฺสาติ ตสฺส ภิกฺขุโน ภาวนาย อพฺภนฺตรคตาว โหนฺติฯ วิชฺชาภาคิยาติ เอตฺถ สมฺปโยควเสน วิชฺชํ ภชนฺตีติ วิชฺชาภาคิยา, วิชฺชาภาเค วิชฺชาโกฎฺฐาเส วตฺตนฺตีติปิ วิชฺชาภาคิยาฯ ตตฺถ วิปสฺสนาญาณํ มโนมยิทฺธิ ฉ อภิญฺญาติ อฎฺฐ วิชฺชา, ปุริเมน อเตฺถน ตาหิ สมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิยาฯ ปจฺฉิเมน อเตฺถน ตาสุ ยา กาจิ เอกา วิชฺชา วิชฺชา, เสสา วิชฺชาภาคิยาติ เอวํ วิชฺชาปิ วิชฺชาสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ วิชฺชาภาคิยาเตว เวทิตพฺพาฯ
563.Cetasāphuṭoti ettha duvidhaṃ pharaṇaṃ āpopharaṇañca dibbacakkhupharaṇañca. Tattha āpokasiṇaṃ samāpajjitvā āpena pharaṇaṃ āpopharaṇaṃ nāma. Evaṃ phuṭepi mahāsamudde sabbā samuddaṅgamā kunnadiyo antogadhāva honti. Ālokaṃ pana vaḍḍhetvā dibbacakkhunā sakalasamuddadassanaṃ dibbacakkhupharaṇaṃ nāma. Evaṃ phuṭepi mahāsamudde sabbā mahāsamuddaṅgamā kunnadiyo antogadhāva honti. Antogadhā tassāti tassa bhikkhuno bhāvanāya abbhantaragatāva honti. Vijjābhāgiyāti ettha sampayogavasena vijjaṃ bhajantīti vijjābhāgiyā, vijjābhāge vijjākoṭṭhāse vattantītipi vijjābhāgiyā. Tattha vipassanāñāṇaṃ manomayiddhi cha abhiññāti aṭṭha vijjā, purimena atthena tāhi sampayuttadhammāpi vijjābhāgiyā. Pacchimena atthena tāsu yā kāci ekā vijjā vijjā, sesā vijjābhāgiyāti evaṃ vijjāpi vijjāsampayuttadhammāpi vijjābhāgiyāteva veditabbā.
๕๖๔. มหโต สํเวคายาติ มหนฺตสฺส สํเวคสฺส อตฺถายฯ อุปริปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ เอตฺถ จ มหาสํเวโค นาม วิปสฺสนา, มหาอโตฺถ นาม จตฺตาโร มคฺคา, มหาโยคเกฺขโม นาม จตฺตาริ สามญฺญผลานิฯ อถ วา มหาสํเวโค นาม สห วิปสฺสนาย มโคฺค, มหาอโตฺถ นาม จตฺตาริ สามญฺญผลานิ, มหาโยคเกฺขโม นาม นิพฺพานํฯ สติสมฺปชญฺญายาติ สติยา จ ญาณสฺส จ อตฺถายฯ ญาณทสฺสนปฎิลาภายาติ ทิพฺพจกฺขุญาณายฯ ทิฎฺฐธมฺมสุขวิหารายาติ อิมสฺมิํเยว ปจฺจเกฺข อตฺตภาเว สุขวิหารตฺถายฯ วิชฺชาวิมุตฺติผลสจฺฉิกิริยายาติ วิชฺชาวิมุตฺตีนํ ผลสฺส ปจฺจเวกฺขกรณตฺถายฯ เอตฺถ จ วิชฺชาติ มคฺคปญฺญา, วิมุตฺตีติ ตํสมฺปยุตฺตา เสสธมฺมาฯ เตสํ ผลํ นาม อรหตฺตผลํ, ตสฺส สจฺฉิกิริยายาติ อโตฺถฯ
564.Mahato saṃvegāyāti mahantassa saṃvegassa atthāya. Uparipadadvayepi eseva nayo. Ettha ca mahāsaṃvego nāma vipassanā, mahāattho nāma cattāro maggā, mahāyogakkhemo nāma cattāri sāmaññaphalāni. Atha vā mahāsaṃvego nāma saha vipassanāya maggo, mahāattho nāma cattāri sāmaññaphalāni, mahāyogakkhemo nāma nibbānaṃ. Satisampajaññāyāti satiyā ca ñāṇassa ca atthāya. Ñāṇadassanapaṭilābhāyāti dibbacakkhuñāṇāya. Diṭṭhadhammasukhavihārāyāti imasmiṃyeva paccakkhe attabhāve sukhavihāratthāya. Vijjāvimuttiphalasacchikiriyāyāti vijjāvimuttīnaṃ phalassa paccavekkhakaraṇatthāya. Ettha ca vijjāti maggapaññā, vimuttīti taṃsampayuttā sesadhammā. Tesaṃ phalaṃ nāma arahattaphalaṃ, tassa sacchikiriyāyāti attho.
๕๗๑. กาโยปิ ปสฺสมฺภตีติ นามกาโยปิ กรชกาโยปิ ปสฺสมฺภติ, วูปสนฺตทรโถ โหติฯ วิตกฺกวิจาราปีติ เอเต ธมฺมา ทุติยชฺฌาเนน วูปสมฺมนฺติ นาม, อิธ ปน โอฬาริกวูปสมํ สนฺธาย วุตฺตํฯ เกวลาติ สกลา, สเพฺพ นิรวเสสาติ อโตฺถฯ วิชฺชาภาคิยาติ วิชฺชาโกฎฺฐาสิยา, เต เหฎฺฐา วิภชิตฺวา ทสฺสิตาวฯ
571.Kāyopi passambhatīti nāmakāyopi karajakāyopi passambhati, vūpasantadaratho hoti. Vitakkavicārāpīti ete dhammā dutiyajjhānena vūpasammanti nāma, idha pana oḷārikavūpasamaṃ sandhāya vuttaṃ. Kevalāti sakalā, sabbe niravasesāti attho. Vijjābhāgiyāti vijjākoṭṭhāsiyā, te heṭṭhā vibhajitvā dassitāva.
๕๗๔. อวิชฺชา ปหียตีติ อฎฺฐสุ ฐาเนสุ วฎฺฎมูลกํ พหลนฺธการํ มหาตมํ อญฺญาณํ ปหียติฯ วิชฺชา อุปฺปชฺชตีติ อรหตฺตมคฺควิชฺชา อุปฺปชฺชติฯ อสฺมิมาโน ปหียตีติ อสฺมีติ นววิโธ มาโน ปหียติฯ อนุสยาติ สตฺต อนุสยาฯ สํโยชนานีติ ทส สํโยชนานิฯ
574.Avijjāpahīyatīti aṭṭhasu ṭhānesu vaṭṭamūlakaṃ bahalandhakāraṃ mahātamaṃ aññāṇaṃ pahīyati. Vijjā uppajjatīti arahattamaggavijjā uppajjati. Asmimāno pahīyatīti asmīti navavidho māno pahīyati. Anusayāti satta anusayā. Saṃyojanānīti dasa saṃyojanāni.
๕๗๕. ปญฺญาปเภทายาติ ปญฺญาย ปเภทคมนตฺถํฯ อนุปาทาปรินิพฺพานายาติ อปจฺจยปรินิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยตฺถายฯ
575.Paññāpabhedāyāti paññāya pabhedagamanatthaṃ. Anupādāparinibbānāyāti apaccayaparinibbānassa sacchikiriyatthāya.
๕๗๖. อเนกธาตุปฎิเวโธ โหตีติ อฎฺฐารสนฺนํ ธาตูนํ ลกฺขณปฎิเวโธ โหติฯ นานาธาตุปฎิเวโธ โหตีติ ตาสํเยว อฎฺฐารสนฺนํ ธาตูนํ นานาภาเวน ลกฺขณปฎิเวโธ โหติฯ อเนกธาตุปฎิสมฺภิทา โหตีติ อิมินา ธาตุเภทญาณํ กถิตํฯ ธาตุปเภทญาณํ นาม ‘‘อิมาย ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิทํ นาม โหตี’’ติ ชานนปญฺญาฯ ตํ ปเนตํ ธาตุเภทญาณํ น สเพฺพสํ โหติ, พุทฺธานเมว นิปฺปเทสํ โหติฯ ตํ สมฺมาสมฺพุเทฺธน สพฺพโส น กถิตํฯ กสฺมา? ตสฺมิํ กถิเต อโตฺถ นตฺถีติฯ
576.Anekadhātupaṭivedho hotīti aṭṭhārasannaṃ dhātūnaṃ lakkhaṇapaṭivedho hoti. Nānādhātupaṭivedho hotīti tāsaṃyeva aṭṭhārasannaṃ dhātūnaṃ nānābhāvena lakkhaṇapaṭivedho hoti. Anekadhātupaṭisambhidā hotīti iminā dhātubhedañāṇaṃ kathitaṃ. Dhātupabhedañāṇaṃ nāma ‘‘imāya dhātuyā ussannāya idaṃ nāma hotī’’ti jānanapaññā. Taṃ panetaṃ dhātubhedañāṇaṃ na sabbesaṃ hoti, buddhānameva nippadesaṃ hoti. Taṃ sammāsambuddhena sabbaso na kathitaṃ. Kasmā? Tasmiṃ kathite attho natthīti.
๕๘๔. ปญฺญาปฎิลาภายาติอาทีนิ โสฬส ปทานิ ปฎิสมฺภิทามเคฺค ‘‘สปฺปุริสสํเสโว, สทฺธมฺมสวนํ, โยนิโสมนสิกาโร, ธมฺมานุธมฺมปฎิปตฺติฯ อิเม โข, ภิกฺขเว, จตฺตาโร ธมฺมา ภาวิตา พหุลีกตา ปญฺญาปฎิลาภาย สํวตฺตนฺติ …เป.… นิเพฺพธิกปญฺญตาย สํวตฺตนฺตี’’ติ เอวํ มาติกํ ฐเปตฺวา วิตฺถาริตาเนวฯ วุตฺตเญฺหตํ (ปฎิ. ม. ๓.๔) –
584.Paññāpaṭilābhāyātiādīni soḷasa padāni paṭisambhidāmagge ‘‘sappurisasaṃsevo, saddhammasavanaṃ, yonisomanasikāro, dhammānudhammapaṭipatti. Ime kho, bhikkhave, cattāro dhammā bhāvitā bahulīkatā paññāpaṭilābhāya saṃvattanti …pe… nibbedhikapaññatāya saṃvattantī’’ti evaṃ mātikaṃ ṭhapetvā vitthāritāneva. Vuttañhetaṃ (paṭi. ma. 3.4) –
ปญฺญาปฎิลาภาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตโม ปญฺญาปฎิลาโภ? จตุนฺนํ มคฺคญาณานํ, จตุนฺนํ ผลญาณานํ, จตุนฺนํ ปฎิสมฺภิทาญาณานํ, ฉนฺนํ อภิญฺญาญาณานํ, เตสตฺตตีนํ ญาณานํ, สตฺตสตฺตตีนํ ญาณานํ ลาโภ ปฎิลาโภ ปตฺติสมฺปตฺติ ผสฺสนา สจฺฉิกิริยา อุปสมฺปทา, ปญฺญาปฎิลาภาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ ปญฺญาปฎิลาโภฯ
Paññāpaṭilābhāya saṃvattantīti. ‘‘Katamo paññāpaṭilābho? Catunnaṃ maggañāṇānaṃ, catunnaṃ phalañāṇānaṃ, catunnaṃ paṭisambhidāñāṇānaṃ, channaṃ abhiññāñāṇānaṃ, tesattatīnaṃ ñāṇānaṃ, sattasattatīnaṃ ñāṇānaṃ lābho paṭilābho pattisampatti phassanā sacchikiriyā upasampadā, paññāpaṭilābhāya saṃvattantīti ayaṃ paññāpaṭilābho.
ปญฺญาวุทฺธิยา สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา ปญฺญาวุทฺธิ? สตฺตนฺนญฺจ เสกฺขานํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส จ ปญฺญา วฑฺฒติ, อรหโต ปญฺญา วฑฺฒิตวฑฺฒนา, ปญฺญาวุทฺธิยา สํวตฺตนฺตีติ อยํ ปญฺญาวุทฺธิฯ
Paññāvuddhiyāsaṃvattantīti. ‘‘Katamā paññāvuddhi? Sattannañca sekkhānaṃ puthujjanakalyāṇakassa ca paññā vaḍḍhati, arahato paññā vaḍḍhitavaḍḍhanā, paññāvuddhiyā saṃvattantīti ayaṃ paññāvuddhi.
ปญฺญาเวปุลฺลาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมํ ปญฺญาเวปุลฺลํ? สตฺตนฺนญฺจ เสกฺขานํ ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส จ ปญฺญา เวปุลฺลํ คจฺฉติ, อรหโต ปญฺญา เวปุลฺลํ คตา, ปญฺญาเวปุลฺลาย สํวตฺตนฺตีติ อิทํ ปญฺญาเวปุลฺลํฯ
Paññāvepullāyasaṃvattantīti. ‘‘Katamaṃ paññāvepullaṃ? Sattannañca sekkhānaṃ puthujjanakalyāṇakassa ca paññā vepullaṃ gacchati, arahato paññā vepullaṃ gatā, paññāvepullāya saṃvattantīti idaṃ paññāvepullaṃ.
มหาปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา มหาปญฺญา? มหเนฺต อเตฺถ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปญฺญา, มหเนฺต ธเมฺม…เป.… มหนฺตา นิรุตฺติโย, มหนฺตานิ ปฎิภานานิ, มหเนฺต สีลกฺขเนฺธ, มหเนฺต สมาธิปญฺญาวิมุตฺติวิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขเนฺธ, มหนฺตานิ ฐานาฎฺฐานานิ, มหนฺตา วิหารสมาปตฺติโย, มหนฺตานิ อริยสจฺจานิ, มหเนฺต สติปฎฺฐาเน, สมฺมปฺปธาเน, อิทฺธิปาเท, มหนฺตานิ อินฺทฺริยานิ, มหนฺตานิ พลานิ, มหเนฺต โพชฺฌเงฺค, มหเนฺต อริยมเคฺค, มหนฺตานิ สามญฺญผลานิ, มหาภิญฺญาโย , มหนฺตํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคฺคณฺหาตีติ มหาปญฺญา, มหาปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ มหาปญฺญาฯ
Mahāpaññatāya saṃvattantīti. ‘‘Katamā mahāpaññā? Mahante atthe pariggaṇhātīti mahāpaññā, mahante dhamme…pe… mahantā niruttiyo, mahantāni paṭibhānāni, mahante sīlakkhandhe, mahante samādhipaññāvimuttivimuttiñāṇadassanakkhandhe, mahantāni ṭhānāṭṭhānāni, mahantā vihārasamāpattiyo, mahantāni ariyasaccāni, mahante satipaṭṭhāne, sammappadhāne, iddhipāde, mahantāni indriyāni, mahantāni balāni, mahante bojjhaṅge, mahante ariyamagge, mahantāni sāmaññaphalāni, mahābhiññāyo , mahantaṃ paramatthaṃ nibbānaṃ pariggaṇhātīti mahāpaññā, mahāpaññatāya saṃvattantīti ayaṃ mahāpaññā.
ปุถุปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา ปุถุปญฺญา? ปุถุ นานากฺขเนฺธสุ ญาณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปญฺญาฯ ปุถุ นานาธาตูสุ, ปุถุ นานาอายตเนสุ, ปุถุ นานาปฎิจฺจสมุปฺปาเทสุ, ปุถุ นานาสุญฺญตมนุปลเพฺภสุ, ปุถุ นานาอเตฺถสุ, ธเมฺมสุ, นิรุตฺตีสุ, ปฎิภาเนสุ, ปุถุ นานาสีลกฺขเนฺธสุ, สมาธิปญฺญาวิมุตฺติวิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขเนฺธสุ, ปุถุ นานาฐานาฎฺฐาเนสุ, ปุถุ นานาวิหารสมาปตฺตีสุ, ปุถุ นานาอริยสเจฺจสุ, ปุถุ นานาสติปฎฺฐาเนสุ, สมฺมปฺปธาเนสุ, อิทฺธิปาเทสุ, อินฺทฺริเยสุ, พเลสุ, โพชฺฌเงฺคสุ, ปุถุ นานาอริยมเคฺคสุ, ปุถุ นานาสามญฺญผเลสุ, ปุถุ นานาอภิญฺญาสุ ญาณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปญฺญาฯ ปุถุ นานาชนสาธารเณ ธเมฺม สมติกฺกมฺม ปรมเตฺถ นิพฺพาเน ญาณํ ปวตฺตตีติ ปุถุปญฺญาฯ ปุถุปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ ปุถุปญฺญาฯ
Puthupaññatāya saṃvattantīti. ‘‘Katamā puthupaññā? Puthu nānākkhandhesu ñāṇaṃ pavattatīti puthupaññā. Puthu nānādhātūsu, puthu nānāāyatanesu, puthu nānāpaṭiccasamuppādesu, puthu nānāsuññatamanupalabbhesu, puthu nānāatthesu, dhammesu, niruttīsu, paṭibhānesu, puthu nānāsīlakkhandhesu, samādhipaññāvimuttivimuttiñāṇadassanakkhandhesu, puthu nānāṭhānāṭṭhānesu, puthu nānāvihārasamāpattīsu, puthu nānāariyasaccesu, puthu nānāsatipaṭṭhānesu, sammappadhānesu, iddhipādesu, indriyesu, balesu, bojjhaṅgesu, puthu nānāariyamaggesu, puthu nānāsāmaññaphalesu, puthu nānāabhiññāsu ñāṇaṃ pavattatīti puthupaññā. Puthu nānājanasādhāraṇe dhamme samatikkamma paramatthe nibbāne ñāṇaṃ pavattatīti puthupaññā. Puthupaññatāya saṃvattantīti ayaṃ puthupaññā.
วิปุลปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา วิปุลปญฺญา? วิปุเล อเตฺถ ปริคณฺหาตีติ วิปุลปญฺญา…เป.… วิปุลํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ ปริคณฺหาตีติ วิปุลปญฺญา, วิปุลปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ วิปุลปญฺญาฯ
Vipulapaññatāyasaṃvattantīti. ‘‘Katamā vipulapaññā? Vipule atthe parigaṇhātīti vipulapaññā…pe… vipulaṃ paramatthaṃ nibbānaṃ parigaṇhātīti vipulapaññā, vipulapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ vipulapaññā.
คมฺภีรปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา คมฺภีรปญฺญา? คมฺภีเรสุ ขเนฺธสุ ญาณํ ปวตฺตตีติ คมฺภีรปญฺญาฯ ปุถุปญฺญาสทิโส วิตฺถาโรฯ คมฺภีเร ปรมเตฺถ นิพฺพาเน ญาณํ ปวตฺตตีติ คมฺภีรปญฺญา, คมฺภีรปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ คมฺภีรปญฺญาฯ
Gambhīrapaññatāya saṃvattantīti. ‘‘Katamā gambhīrapaññā? Gambhīresu khandhesu ñāṇaṃ pavattatīti gambhīrapaññā. Puthupaññāsadiso vitthāro. Gambhīre paramatthe nibbāne ñāṇaṃ pavattatīti gambhīrapaññā, gambhīrapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ gambhīrapaññā.
อสามนฺตปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา อสามนฺตปญฺญา? ยสฺส ปุคฺคลสฺส อตฺถววตฺถานโต อตฺถปฎิสมฺภิทา อธิคตา โหติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปญฺญายฯ ธมฺมนิรุตฺติปฎิภานววตฺถานโต ปฎิภานปฎิสมฺภิทา อธิคตา โหติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปญฺญาย, ตสฺส อเตฺถ จ ธเมฺม จ นิรุตฺติยา จ ปฎิภาเน จ น อโญฺญ โกจิ สโกฺกติ อภิสมฺภวิตุํ, อนภิสมฺภวนีโย จ โส อเญฺญหีติ อสามนฺตปโญฺญฯ
Asāmantapaññatāyasaṃvattantīti. ‘‘Katamā asāmantapaññā? Yassa puggalassa atthavavatthānato atthapaṭisambhidā adhigatā hoti sacchikatā phassitā paññāya. Dhammaniruttipaṭibhānavavatthānato paṭibhānapaṭisambhidā adhigatā hoti sacchikatā phassitā paññāya, tassa atthe ca dhamme ca niruttiyā ca paṭibhāne ca na añño koci sakkoti abhisambhavituṃ, anabhisambhavanīyo ca so aññehīti asāmantapañño.
ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺส ปญฺญา อฎฺฐมกสฺส ปญฺญาย ทูเร วิทูเร สุวิทูเร น สนฺติเก น สามนฺตา, ปุถุชฺชนกลฺยาณกํ อุปาทาย อฎฺฐมโก อสามนฺตปโญฺญฯ อฎฺฐมกสฺส ปญฺญา โสตาปนฺนสฺส ปญฺญาย ทูเร…เป.… อฎฺฐมกํ อุปาทาย โสตาปโนฺน อสามนฺตปโญฺญฯ โสตาปนฺนสฺส ปญฺญา สกทาคามิสฺส ปญฺญายฯ สกทาคามิสฺส ปญฺญา อนาคามิสฺส ปญฺญายฯ อนาคามิสฺส ปญฺญา อรหโต ปญฺญายฯ อรหโต ปญฺญา ปเจฺจกพุทฺธสฺส ปญฺญาย ทูเร วิทูเร สุวิทูเร น สนฺติเก น สามนฺตา, อรหนฺตํ อุปาทาย ปเจฺจกพุโทฺธ อสามนฺตปโญฺญฯ ปเจฺจกพุทฺธญฺจ สเทวกญฺจ โลกํ อุปาทาย ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ อโคฺค อสามนฺตปโญฺญฯ
Puthujjanakalyāṇakassa paññā aṭṭhamakassa paññāya dūre vidūre suvidūre na santike na sāmantā, puthujjanakalyāṇakaṃ upādāya aṭṭhamako asāmantapañño. Aṭṭhamakassa paññā sotāpannassa paññāya dūre…pe… aṭṭhamakaṃ upādāya sotāpanno asāmantapañño. Sotāpannassa paññā sakadāgāmissa paññāya. Sakadāgāmissa paññā anāgāmissa paññāya. Anāgāmissa paññā arahato paññāya. Arahato paññā paccekabuddhassa paññāya dūre vidūre suvidūre na santike na sāmantā, arahantaṃ upādāya paccekabuddho asāmantapañño. Paccekabuddhañca sadevakañca lokaṃ upādāya tathāgato arahaṃ sammāsambuddho aggo asāmantapañño.
ปญฺญาปเภทกุสโล ปภินฺนญาโณ…เป.… เต ปญฺหํ อภิสงฺขริตฺวา อภิสงฺขริตฺวา ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ปุจฺฉนฺติ คูฬฺหานิ จ ปฎิจฺฉนฺนานิ จ, กถิตา วิสชฺชิตา จ เต ปญฺหา ภควตา โหนฺติ นิทฺทิฎฺฐการณา, อุปกฺขิตฺตกา จ เต ภควตา สมฺปชฺชนฺติฯ อถ โข ภควา ตตฺถ อติโรจติ ยทิทํ ปญฺญายาติ อโคฺค อสามนฺตปโญฺญ, อสามนฺตปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ อสามนฺตปญฺญาฯ
Paññāpabhedakusalo pabhinnañāṇo…pe… te pañhaṃ abhisaṅkharitvā abhisaṅkharitvā tathāgataṃ upasaṅkamitvā pucchanti gūḷhāni ca paṭicchannāni ca, kathitā visajjitā ca te pañhā bhagavatā honti niddiṭṭhakāraṇā, upakkhittakā ca te bhagavatā sampajjanti. Atha kho bhagavā tattha atirocati yadidaṃ paññāyāti aggo asāmantapañño, asāmantapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ asāmantapaññā.
ภูริปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา ภูริปญฺญา? ราคํ อภิภุยฺยตีติ ภูริปญฺญา, อภิภวิตาติ ภูริปญฺญาฯ โทสํ, โมหํ, โกธํ, อุปนาหํ, มกฺขํ, ปลาสํ, อิสฺสํ, มจฺฉริยํ, มายํ, สาเฐยฺยํ, ถมฺภํ, สารมฺภํ, มานํ, อติมานํ, มทํ, ปมาทํ, สเพฺพ กิเลเส, สเพฺพ ทุจฺจริเต, สเพฺพ อภิสงฺขาเร, สเพฺพ ภวคามิกเมฺม อภิภุยฺยตีติ ภูริปญฺญา, อภิภวิตาติ ภูริปญฺญา ฯ ราโค อริ, ตํ อริํ มทฺทนิปญฺญาติ ภูริปญฺญา, โทโส, โมโห…เป.… สเพฺพ ภวคามิกมฺมา อริ, ตํ อริํ มทฺทนิปญฺญาติ ภูริปญฺญาฯ ภูริ วุจฺจติ ปถวี, ตาย ปถวิสมาย วิตฺถตาย วิปุลาย ปญฺญาย สมนฺนาคโตติ ภูริปโญฺญฯ อปิจ ปญฺญาย เอตํ อธิวจนํ ภูริ เมธา ปริณายิกาติ, ภูริปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ ภูริปญฺญาฯ
Bhūripaññatāyasaṃvattantīti. ‘‘Katamā bhūripaññā? Rāgaṃ abhibhuyyatīti bhūripaññā, abhibhavitāti bhūripaññā. Dosaṃ, mohaṃ, kodhaṃ, upanāhaṃ, makkhaṃ, palāsaṃ, issaṃ, macchariyaṃ, māyaṃ, sāṭheyyaṃ, thambhaṃ, sārambhaṃ, mānaṃ, atimānaṃ, madaṃ, pamādaṃ, sabbe kilese, sabbe duccarite, sabbe abhisaṅkhāre, sabbe bhavagāmikamme abhibhuyyatīti bhūripaññā, abhibhavitāti bhūripaññā . Rāgo ari, taṃ ariṃ maddanipaññāti bhūripaññā, doso, moho…pe… sabbe bhavagāmikammā ari, taṃ ariṃ maddanipaññāti bhūripaññā. Bhūri vuccati pathavī, tāya pathavisamāya vitthatāya vipulāya paññāya samannāgatoti bhūripañño. Apica paññāya etaṃ adhivacanaṃ bhūri medhā pariṇāyikāti, bhūripaññatāya saṃvattantīti ayaṃ bhūripaññā.
ปญฺญาพาหุลฺลาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมํ ปญฺญาพาหุลฺลํ? อิเธกโจฺจ ปญฺญาครุโก โหติ ปญฺญาจริโต ปญฺญาสโย ปญฺญาธิมุโตฺต ปญฺญาธโช ปญฺญาเกตุ ปญฺญาธิปเตโยฺย วิจยพหุโล ปวิจยพหุโล โอกฺขายนพหุโล สโมกฺขายนพหุโล สเมฺปกฺขายนธโมฺม วิภูตวิหารี ตจฺจริโต ตคฺครุโก ตพฺพหุโล ตนฺนิโนฺน ตโปฺปโณ ตปฺปพฺภาโร ตทธิมุโตฺต ตทาธิปเตโยฺย, ยถา คณครุโก วุจฺจติ คณพาหุลิโกติ, จีวรครุโก ปตฺตครุโก เสนาสนครุโก วุจฺจติ เสนาสนพาหุลิโกติ, เอวเมวํ อิเธกโจฺจ ปญฺญาครุโก โหติ ปญฺญาจริโต…เป.… ตทาธิปเตโยฺย, ปญฺญาพาหุลฺลาย สํวตฺตนฺตีติ อิทํ ปญฺญาพาหุลฺลํฯ
Paññābāhullāya saṃvattantīti. ‘‘Katamaṃ paññābāhullaṃ? Idhekacco paññāgaruko hoti paññācarito paññāsayo paññādhimutto paññādhajo paññāketu paññādhipateyyo vicayabahulo pavicayabahulo okkhāyanabahulo samokkhāyanabahulo sampekkhāyanadhammo vibhūtavihārī taccarito taggaruko tabbahulo tanninno tappoṇo tappabbhāro tadadhimutto tadādhipateyyo, yathā gaṇagaruko vuccati gaṇabāhulikoti, cīvaragaruko pattagaruko senāsanagaruko vuccati senāsanabāhulikoti, evamevaṃ idhekacco paññāgaruko hoti paññācarito…pe… tadādhipateyyo, paññābāhullāya saṃvattantīti idaṃ paññābāhullaṃ.
สีฆปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา สีฆปญฺญา? สีฆํ สีฆํ สีลานิ ปริปูเรตีติ สีฆปญฺญาฯ สีฆํ สีฆํ อินฺทฺริยสํวรํ, โภชเน มตฺตญฺญุตํ, ชาคริยานุโยคํ, สีลกฺขนฺธํ, สมาธิ-ปญฺญา-วิมุตฺติ-วิมุตฺติญาณทสฺสนกฺขนฺธํ ปริปูเรตีติ สีฆปญฺญาฯ สีฆํ สีฆํ ฐานาฎฺฐานานิ ปฎิวิชฺฌติฯ วิหารสมาปตฺติโย ปริปูเรติฯ อริยสจฺจานิ ปฎิวิชฺฌติฯ สติปฎฺฐาเน ภาเวติฯ สมฺมปฺปธาเน อิทฺธิปาเท อินฺทฺริยานิ พลานิ โพชฺฌเงฺค อริยมคฺคํ ภาเวตีติ สีฆปญฺญาฯ สีฆํ สีฆํ สามญฺญผลานิ สจฺฉิกโรตีติ สีฆปญฺญาฯ สีฆํ สีฆํ อภิญฺญาโย ปฎิวิชฺฌตีติ สีฆปญฺญาฯ สีฆํ สีฆํ ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ สีฆปญฺญา, สีฆปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ สีฆปญฺญาฯ
Sīghapaññatāya saṃvattantīti. ‘‘Katamā sīghapaññā? Sīghaṃ sīghaṃ sīlāni paripūretīti sīghapaññā. Sīghaṃ sīghaṃ indriyasaṃvaraṃ, bhojane mattaññutaṃ, jāgariyānuyogaṃ, sīlakkhandhaṃ, samādhi-paññā-vimutti-vimuttiñāṇadassanakkhandhaṃ paripūretīti sīghapaññā. Sīghaṃ sīghaṃ ṭhānāṭṭhānāni paṭivijjhati. Vihārasamāpattiyo paripūreti. Ariyasaccāni paṭivijjhati. Satipaṭṭhāne bhāveti. Sammappadhāne iddhipāde indriyāni balāni bojjhaṅge ariyamaggaṃ bhāvetīti sīghapaññā. Sīghaṃ sīghaṃ sāmaññaphalāni sacchikarotīti sīghapaññā. Sīghaṃ sīghaṃ abhiññāyo paṭivijjhatīti sīghapaññā. Sīghaṃ sīghaṃ paramatthaṃ nibbānaṃ sacchikarotīti sīghapaññā, sīghapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ sīghapaññā.
ลหุปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา ลหุปญฺญา? ลหุํ ลหุํ สีลานิ ปริปูเรตีติ ลหุปญฺญา…เป.… ลหุปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ ลหุปญฺญาฯ
Lahupaññatāyasaṃvattantīti. ‘‘Katamā lahupaññā? Lahuṃ lahuṃ sīlāni paripūretīti lahupaññā…pe… lahupaññatāya saṃvattantīti ayaṃ lahupaññā.
หาสปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา หาสปญฺญา? อิเธกโจฺจ เวทพหุโล ตุฎฺฐิพหุโล หาสพหุโล ปาโมชฺชพหุโล สีลานิ ปริปูเรตีติ หาสปญฺญา…เป.… ปรมตฺถํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ หาสปญฺญา, หาสปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ หาสปญฺญาฯ
Hāsapaññatāya saṃvattantīti. ‘‘Katamā hāsapaññā? Idhekacco vedabahulo tuṭṭhibahulo hāsabahulo pāmojjabahulo sīlāni paripūretīti hāsapaññā…pe… paramatthaṃ nibbānaṃ sacchikarotīti hāsapaññā, hāsapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ hāsapaññā.
ชวนปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา ชวนปญฺญา? ยํ กิญฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ , ยา กาจิ เวทนา, ยา กาจิ สญฺญา, เย เกจิ สงฺขารา, ยํกิญฺจิ วิญฺญาณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, สพฺพํ วิญฺญาณํ อนิจฺจโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปญฺญา, ทุกฺขโต, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปญฺญาฯ จกฺขุํ…เป.… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจโต, ทุกฺขโต, อนตฺตโต ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปญฺญาฯ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยเฎฺฐน, ทุกฺขํ ภยเฎฺฐน, อนตฺตา อสารกเฎฺฐนาติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา รูปนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปญฺญา…เป.… ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปญฺญาฯ รูปํ…เป.… ชรามรณํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ ขยธมฺมํ วยธมฺมํ วิราคธมฺมํ นิโรธธมฺมนฺติ ตุลยิตฺวา ตีรยิตฺวา วิภาวยิตฺวา วิภูตํ กตฺวา ชรามรณนิโรเธ นิพฺพาเน ขิปฺปํ ชวตีติ ชวนปญฺญา, ชวนปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ ชวนปญฺญาฯ
Javanapaññatāya saṃvattantīti. ‘‘Katamā javanapaññā? Yaṃ kiñci rūpaṃ atītānāgatapaccuppannaṃ , yā kāci vedanā, yā kāci saññā, ye keci saṅkhārā, yaṃkiñci viññāṇaṃ atītānāgatapaccuppannaṃ ajjhattaṃ vā bahiddhā vā oḷārikaṃ vā sukhumaṃ vā hīnaṃ vā paṇītaṃ vā yaṃ dūre santike vā, sabbaṃ viññāṇaṃ aniccato khippaṃ javatīti javanapaññā, dukkhato, anattato khippaṃ javatīti javanapaññā. Cakkhuṃ…pe… jarāmaraṇaṃ atītānāgatapaccuppannaṃ aniccato, dukkhato, anattato khippaṃ javatīti javanapaññā. Rūpaṃ atītānāgatapaccuppannaṃ aniccaṃ khayaṭṭhena, dukkhaṃ bhayaṭṭhena, anattā asārakaṭṭhenāti tulayitvā tīrayitvā vibhāvayitvā vibhūtaṃ katvā rūpanirodhe nibbāne khippaṃ javatīti javanapaññā…pe… jarāmaraṇanirodhe nibbāne khippaṃ javatīti javanapaññā. Rūpaṃ…pe… jarāmaraṇaṃ atītānāgatapaccuppannaṃ khayadhammaṃ vayadhammaṃ virāgadhammaṃ nirodhadhammanti tulayitvā tīrayitvā vibhāvayitvā vibhūtaṃ katvā jarāmaraṇanirodhe nibbāne khippaṃ javatīti javanapaññā, javanapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ javanapaññā.
ติกฺขปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา ติกฺขปญฺญา? ขิปฺปํ กิเลเส ฉินฺทตีติ ติกฺขปญฺญาฯ อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ, วฺยาปาทวิตกฺกํ, วิหิํสาวิตกฺกํ อุปฺปนฺนุปฺปเนฺน ปาปเก อกุสเล ธเมฺม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปญฺญาฯ อุปฺปนฺนํ ราคํ, โทสํ, โมหํ…เป.… สเพฺพ ภวคามิกเมฺม นาธิวาเสติ ปชหติ วิโนเทติ พฺยนฺตีกโรติ อนภาวํ คเมตีติ ติกฺขปญฺญาฯ เอกสฺมิํ อาสเน จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ สามญฺญผลานิ จตโสฺส ปฎิสมฺภิทาโย ฉ อภิญฺญาโย อธิคตา โหนฺติ สจฺฉิกตา ผสฺสิตา ปญฺญายาติ ติกฺขปญฺญา, ติกฺขปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ ติกฺขปญฺญาฯ
Tikkhapaññatāya saṃvattantīti. ‘‘Katamā tikkhapaññā? Khippaṃ kilese chindatīti tikkhapaññā. Uppannaṃ kāmavitakkaṃ, vyāpādavitakkaṃ, vihiṃsāvitakkaṃ uppannuppanne pāpake akusale dhamme nādhivāseti pajahati vinodeti byantīkaroti anabhāvaṃ gametīti tikkhapaññā. Uppannaṃ rāgaṃ, dosaṃ, mohaṃ…pe… sabbe bhavagāmikamme nādhivāseti pajahati vinodeti byantīkaroti anabhāvaṃ gametīti tikkhapaññā. Ekasmiṃ āsane cattāro ariyamaggā cattāri sāmaññaphalāni catasso paṭisambhidāyo cha abhiññāyo adhigatā honti sacchikatā phassitā paññāyāti tikkhapaññā, tikkhapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ tikkhapaññā.
นิเพฺพธิกปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติฯ ‘‘กตมา นิเพฺพธิกปญฺญา? อิเธกโจฺจ สพฺพสงฺขาเรสุ อุเพฺพคพหุโล โหติ อุตฺตาสพหุโล อุกฺกณฺฐนพหุโล อรติพหุโล อนภิรติพหุโล พหิมุโข น รมติ สพฺพสงฺขาเรสุ, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิเพฺพธิกปญฺญา, อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปฺปทาลิตปุพฺพํ โทสกฺขนฺธํ, โมหกฺขนฺธํ, โกธํ, อุปนาหํ…เป.… สเพฺพ ภวคามิกเมฺม นิพฺพิชฺฌติ ปทาเลตีติ นิเพฺพธิกปญฺญา, นิเพฺพธิกปญฺญตาย สํวตฺตนฺตีติ อยํ นิเพฺพธิกปญฺญา’’ฯ
Nibbedhikapaññatāyasaṃvattantīti. ‘‘Katamā nibbedhikapaññā? Idhekacco sabbasaṅkhāresu ubbegabahulo hoti uttāsabahulo ukkaṇṭhanabahulo aratibahulo anabhiratibahulo bahimukho na ramati sabbasaṅkhāresu, anibbiddhapubbaṃ appadālitapubbaṃ lobhakkhandhaṃ nibbijjhati padāletīti nibbedhikapaññā, anibbiddhapubbaṃ appadālitapubbaṃ dosakkhandhaṃ, mohakkhandhaṃ, kodhaṃ, upanāhaṃ…pe… sabbe bhavagāmikamme nibbijjhati padāletīti nibbedhikapaññā, nibbedhikapaññatāya saṃvattantīti ayaṃ nibbedhikapaññā’’.
เอวํ ปฎิสมฺภิทามเคฺค วุตฺตนเยเนเวตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ เกวลญฺหิ ตตฺถ พหุวจนํ, อิธ เอกวจนนฺติ อยเมว วิเสโสฯ เสสํ ตาทิสเมวาติฯ อิมา จ ปน โสฬส มหาปญฺญา โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกาว กถิตาฯ
Evaṃ paṭisambhidāmagge vuttanayenevettha attho veditabbo. Kevalañhi tattha bahuvacanaṃ, idha ekavacananti ayameva viseso. Sesaṃ tādisamevāti. Imā ca pana soḷasa mahāpaññā lokiyalokuttaramissakāva kathitā.
กายคตาสติวคฺควณฺณนาฯ
Kāyagatāsativaggavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๙. กายคตาสติวโคฺค • 19. Kāyagatāsativaggo
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑๙. กายคตาสติวคฺควณฺณนา • 19. Kāyagatāsativaggavaṇṇanā