Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ธมฺมสงฺคณี-อนุฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-anuṭīkā |
กามาวจรกุสลํ
Kāmāvacarakusalaṃ
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
Kāyakammadvārakathāvaṇṇanā
กมฺมทฺวารานนฺติอาทินา ปกาเสตพฺพสฺส สรูปํ ปกาสนุปายญฺจ ทเสฺสติฯ นิยตรูปรูปวเสนาติ ธมฺมสงฺคเห นิทฺทิฎฺฐนิยตรูปรูปวเสนฯ อญฺญถา กมฺมสมุฎฺฐานิกกาเย หทยวตฺถุปิ คเหตพฺพํ สิยาฯ เอกสนฺตติปริยาปโนฺน อุปาทินฺนกกาโย อิธ คหิโตติ จกฺขายตนาทีติ วุเตฺตสุ เอโก ภาโว หทยวตฺถุ จ คหิตนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘จกฺขายตนาทีนิ ชีวิตปริยนฺตานี’’ติ สนฺนิเวสสฺส วิภาวิตตฺตาฯ
Kammadvārānantiādinā pakāsetabbassa sarūpaṃ pakāsanupāyañca dasseti. Niyatarūparūpavasenāti dhammasaṅgahe niddiṭṭhaniyatarūparūpavasena. Aññathā kammasamuṭṭhānikakāye hadayavatthupi gahetabbaṃ siyā. Ekasantatipariyāpanno upādinnakakāyo idha gahitoti cakkhāyatanādīti vuttesu eko bhāvo hadayavatthu ca gahitanti na sakkā vattuṃ ‘‘cakkhāyatanādīni jīvitapariyantānī’’ti sannivesassa vibhāvitattā.
วิปฺผนฺทมานวณฺณคฺคหณานนฺตรํ วิญฺญตฺติคฺคหณสฺส อิจฺฉิตตฺตา จลนาการาว วาโยธาตุ วิญฺญตฺติวิการสหิตาติ กทาจิ อาสเงฺกยฺยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปฐมชวนสมุฎฺฐิตา’’ติ อาหฯ เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาเวน จาเลตุนฺติ เอเตน เทสนฺตรุปฺปตฺติ จลนํ, ตํนิมิเตฺต จ กตฺตุภาโว อุปจริโตติ ทเสฺสติ, อญฺญถา ขณิกตา อพฺยาปารตา จ ธมฺมานํ น สมฺภเวยฺยาติฯ ตทภิมุขภาววิการวตีติ ตํทิสมภิมุโข ตทภิมุโข, ตสฺส ภาโว ตทภิมุขภาโว, โส เอว วิกาโร, ตํสมงฺคินี วาโยธาตุ ตทภิมุขภาววิการวตีฯ อิทานิ ตทภิมุขภาววิกา รสฺส วิญฺญตฺติภาวํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อธิปฺปายสหภาวี’’ติอาทิฯ เอวญฺจ กตฺวาติอาทินา อิมิสฺสา อตฺถวณฺณนาย ลทฺธคุณํ ทเสฺสติฯ ตตฺถ อาวชฺชนสฺสาติ มโนทฺวาราวชฺชนสฺสฯ ยโต พาตฺติํสาติอาทินา ตสฺส วิญฺญตฺติสมุฎฺฐาปกตา น สกฺกา ปฎิเสเธตุนฺติ ทเสฺสติฯ
Vipphandamānavaṇṇaggahaṇānantaraṃ viññattiggahaṇassa icchitattā calanākārāva vāyodhātu viññattivikārasahitāti kadāci āsaṅkeyyāti tannivattanatthaṃ ‘‘paṭhamajavanasamuṭṭhitā’’ti āha. Desantaruppattihetubhāvena cāletunti etena desantaruppatti calanaṃ, taṃnimitte ca kattubhāvo upacaritoti dasseti, aññathā khaṇikatā abyāpāratā ca dhammānaṃ na sambhaveyyāti. Tadabhimukhabhāvavikāravatīti taṃdisamabhimukho tadabhimukho, tassa bhāvo tadabhimukhabhāvo, so eva vikāro, taṃsamaṅginī vāyodhātu tadabhimukhabhāvavikāravatī. Idāni tadabhimukhabhāvavikā rassa viññattibhāvaṃ dassento āha ‘‘adhippāyasahabhāvī’’tiādi. Evañca katvātiādinā imissā atthavaṇṇanāya laddhaguṇaṃ dasseti. Tattha āvajjanassāti manodvārāvajjanassa. Yato bāttiṃsātiādinā tassa viññattisamuṭṭhāpakatā na sakkā paṭisedhetunti dasseti.
ปจฺจโย ภวิตุํ สมโตฺถติ เอเตน ยถาวุตฺตวาโยธาตุยา ถมฺภนจลนสงฺขาตกิจฺจนิปฺผาทเน ตสฺส อาการวิเสสสฺส สหการีการณภาวมาหฯ อนิทสฺสนสปฺปฎิฆตาทโย วิย มหาภูตานํ อวตฺถาวิเสสมตฺตํ โส อาการวิเสโสติ ปรมตฺถโต น กิญฺจิ โหตีติ ‘‘ปรมตฺถโต อภาวํ ทเสฺสตี’’ติ อาหฯ ปรมตฺถโต จิตฺตสมุฎฺฐานภาโว ปฎิเสธิโตฯ กมฺมสมุฎฺฐานาทิภาวสฺส ปน สมฺภโวเยว นตฺถีติ ยถาวุตฺตวิการสฺส ปรมตฺถโต สพฺภาเว นกุโตจิสมุฎฺฐิตตฺตา อปฺปจฺจยตฺตํ อาปนฺนํฯ น หิ รูปํ อปฺปจฺจยํ อตฺถิ, อปฺปจฺจยเตฺต จ สติ นิจฺจภาโว อาปชฺชติ, น จ นิพฺพานวโชฺช อโตฺถ สภาวธโมฺม นิโจฺจ อตฺถิฯ จิตฺตสมุฎฺฐานภาโว วิยาติ วิญฺญตฺติยา จิตฺตสมุฎฺฐานอุปาทารูปภาโว อุปจารสิโทฺธติ ทเสฺสติฯ
Paccayo bhavituṃ samatthoti etena yathāvuttavāyodhātuyā thambhanacalanasaṅkhātakiccanipphādane tassa ākāravisesassa sahakārīkāraṇabhāvamāha. Anidassanasappaṭighatādayo viya mahābhūtānaṃ avatthāvisesamattaṃ so ākāravisesoti paramatthato na kiñci hotīti ‘‘paramatthato abhāvaṃ dassetī’’ti āha. Paramatthato cittasamuṭṭhānabhāvo paṭisedhito. Kammasamuṭṭhānādibhāvassa pana sambhavoyeva natthīti yathāvuttavikārassa paramatthato sabbhāve nakutocisamuṭṭhitattā appaccayattaṃ āpannaṃ. Na hi rūpaṃ appaccayaṃ atthi, appaccayatte ca sati niccabhāvo āpajjati, na ca nibbānavajjo attho sabhāvadhammo nicco atthi. Cittasamuṭṭhānabhāvo viyāti viññattiyā cittasamuṭṭhānaupādārūpabhāvo upacārasiddhoti dasseti.
วิญฺญตฺติยา กรณภูตายฯ ยํ กรณนฺติ ยํ จิตฺตกิริยํ จิตฺตพฺยาปารํฯ วิญฺญตฺติยา วิญฺญาตตฺตนฺติ อิทเมส กาเรตีติ ยเทตํ อธิปฺปายวิภาวนํ, เอตํ วิญฺญตฺติวิการรหิเตสุ รุกฺขจลนาทีสุ น ทิฎฺฐํ, หตฺถจลนาทีสุ ปน ทิฎฺฐํ, ตสฺมา วิปฺผนฺทมานวณฺณวินิมุโตฺต โกจิ วิกาโร อตฺถิ กายิกกรณสงฺขาตสฺส อธิปฺปายสฺส ญาปโกติ วิญฺญายติฯ ญาปโก จ เหตุ ญาเปตพฺพมตฺถํ สยํ ญาโตเยว ญาเปติ, น สพฺภาวมเตฺตนาติ วณฺณคฺคหณานนฺตรํ วิการคฺคหณมฺปิ วิญฺญายติฯ ตถา หิ วิสยภาวมาปโนฺน เอว สโทฺท อตฺถํ ปกาเสติ, เนตโรฯ เตเนวาห ‘‘น หิ วิญฺญตฺตี’’ติอาทิฯ ยทิ ปน จิตฺตชรูปานํ จลนากาโร วิญฺญตฺติ, จกฺขุวิญฺญาณสฺส วิปฺผนฺทมานวณฺณารมฺมณตฺตา เตนปิ สา คหิตา สิยาติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถํ อาห ‘‘จกฺขุวิญฺญาณสฺสา’’ติอาทิฯ
Viññattiyā karaṇabhūtāya. Yaṃ karaṇanti yaṃ cittakiriyaṃ cittabyāpāraṃ. Viññattiyā viññātattanti idamesa kāretīti yadetaṃ adhippāyavibhāvanaṃ, etaṃ viññattivikārarahitesu rukkhacalanādīsu na diṭṭhaṃ, hatthacalanādīsu pana diṭṭhaṃ, tasmā vipphandamānavaṇṇavinimutto koci vikāro atthi kāyikakaraṇasaṅkhātassa adhippāyassa ñāpakoti viññāyati. Ñāpako ca hetu ñāpetabbamatthaṃ sayaṃ ñātoyeva ñāpeti, na sabbhāvamattenāti vaṇṇaggahaṇānantaraṃ vikāraggahaṇampi viññāyati. Tathā hi visayabhāvamāpanno eva saddo atthaṃ pakāseti, netaro. Tenevāha ‘‘na hi viññattī’’tiādi. Yadi pana cittajarūpānaṃ calanākāro viññatti, cakkhuviññāṇassa vipphandamānavaṇṇārammaṇattā tenapi sā gahitā siyāti āsaṅkāya nivattanatthaṃ āha ‘‘cakkhuviññāṇassā’’tiādi.
ตาลปณฺณาทิรูปานีติอาทินาปิ วิญฺญตฺติยา วิญฺญาตพฺพตํ มโนวิญฺญาเณเนว จ วิญฺญาตพฺพตํ ทเสฺสติฯ สญฺชานาติ เอเตนาติ สญฺญาณํ, ตสฺส อุทกาทิโน สญฺญาณํ ตํสญฺญาณํ, ตสฺส อากาโร ตํสญฺญาณากาโร, อุทกาทิสหจาริปฺปกาโร จ โส ตํสญฺญาณากาโร จาติ อุทกา…เป.… กาโร, ตํ คเหตฺวา ชานิตฺวาฯ ตทาการสฺสาติ อุทกาทิญาปนาการสฺสฯ ยทิ ยถาวุตฺตวิการคฺคหณํเยว การณํ อธิปฺปายคฺคหณสฺส, อถ กสฺมา อคฺคหิตสเงฺกตสฺส อธิปฺปายคฺคหณํ น โหตีติ? น เกวลํ วิการคฺคหณเมว อธิปฺปายคฺคหณสฺส การณํ, กิญฺจรหีติ อาห ‘‘เอตสฺส ปนา’’ติอาทิฯ
Tālapaṇṇādirūpānītiādināpi viññattiyā viññātabbataṃ manoviññāṇeneva ca viññātabbataṃ dasseti. Sañjānāti etenāti saññāṇaṃ, tassa udakādino saññāṇaṃ taṃsaññāṇaṃ, tassa ākāro taṃsaññāṇākāro, udakādisahacārippakāro ca so taṃsaññāṇākāro cāti udakā…pe… kāro, taṃ gahetvā jānitvā. Tadākārassāti udakādiñāpanākārassa. Yadi yathāvuttavikāraggahaṇaṃyeva kāraṇaṃ adhippāyaggahaṇassa, atha kasmā aggahitasaṅketassa adhippāyaggahaṇaṃ na hotīti? Na kevalaṃ vikāraggahaṇameva adhippāyaggahaṇassa kāraṇaṃ, kiñcarahīti āha ‘‘etassa panā’’tiādi.
อถ ปนาติอาทินา วิญฺญตฺติยา อนุมาเนน คเหตพฺพตํ ทเสฺสติฯ สาธิปฺปาย…เป.… นนฺตรนฺติ อธิปฺปายสหิตวิกาเรน สหชาตวณฺณายตนคฺคหณสงฺขาตสฺส จกฺขุทฺวาริกวิญฺญาณสนฺตานสฺส อนนฺตรํฯ อธิปฺปายคฺคหณสฺสาติ อธิปฺปายววตฺถาปกสฺส ตติยวาเร ชวนสฺสฯ อธิปฺปายสหภู วิการาภาเว อภาวโตติ เอเตน ยถาวุตฺตวิการํ อธิปฺปายคฺคหเณน อนุมิโนติฯ เอวํ สตีติอาทินา ยถานุมิตมตฺถํ นิคมนวเสน ทเสฺสติฯ ตตฺถ อุทกาทิคฺคหเณเนวาติ ตาลปณฺณาทีนํ วณฺณคฺคหณานนฺตเรน ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธานุคฺคหิเตน อุทกาทีนํ ตตฺถ อตฺถิภาววิชานเนเนวฯ ยถา ตาลปณฺณาทีนํ อุทกาทิสหจาริปฺปการตํ สญฺญาณากาโร วิญฺญาโตเยว โหติ นานนฺตริยกตฺตา, เอวํ วิปฺผนฺทมานวณฺณคฺคหณานนฺตเรน ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธานุคฺคหิเตน คนฺตุกามตาทิอธิปฺปายวิชานเนเนว วิญฺญตฺติ วิญฺญาตา โหติ ตทภาเว อภาวโตติ อุปมาโยชนาฯ
Atha panātiādinā viññattiyā anumānena gahetabbataṃ dasseti. Sādhippāya…pe… nantaranti adhippāyasahitavikārena sahajātavaṇṇāyatanaggahaṇasaṅkhātassa cakkhudvārikaviññāṇasantānassa anantaraṃ. Adhippāyaggahaṇassāti adhippāyavavatthāpakassa tatiyavāre javanassa. Adhippāyasahabhū vikārābhāve abhāvatoti etena yathāvuttavikāraṃ adhippāyaggahaṇena anuminoti. Evaṃ satītiādinā yathānumitamatthaṃ nigamanavasena dasseti. Tattha udakādiggahaṇenevāti tālapaṇṇādīnaṃ vaṇṇaggahaṇānantarena purimasiddhasambandhānuggahitena udakādīnaṃ tattha atthibhāvavijānaneneva. Yathā tālapaṇṇādīnaṃ udakādisahacārippakārataṃ saññāṇākāro viññātoyeva hoti nānantariyakattā, evaṃ vipphandamānavaṇṇaggahaṇānantarena purimasiddhasambandhānuggahitena gantukāmatādiadhippāyavijānaneneva viññatti viññātā hoti tadabhāve abhāvatoti upamāyojanā.
สภาวภูตนฺติ อนฺวตฺถภูตํฯ ทฺวิธาติ วิญฺญาปนโต วิเญฺญยฺยโต จฯ กายวิญฺญตฺติยา ตถาปวตฺตมานาย เจตนาสงฺขาตสฺส กมฺมสฺส กายกมฺมภาโว นิปฺผชฺชติ ตาย อุปลกฺขิตพฺพตฺตา, น ปน จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เกนจิ ปจฺจยภาวโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ตสฺมิํ ทฺวาเร สิทฺธา’’ติอาทิมาหฯ เตน วจีทฺวารุปฺปนฺนาปิ ปาณาติปาตาทโย สงฺคหิตาติ เตสํ สงฺคหิตภาวํ ทเสฺสติฯ อถ วา กายทฺวารุปฺปนฺนาย กายกมฺมภูตาย เจตนาย วเสน ‘‘เตน ทฺวาเรน วิญฺญาตพฺพภาวโต’’ติ วุตฺตํ, ตสฺสาเยว ทฺวารนฺตรุปฺปนฺนาย วเสน ‘‘เตน ทฺวาเรน นามลาภโต’’ติฯ มโนทฺวาราวชฺชนสฺสปิ วิญฺญตฺติสมุฎฺฐาปกภาโว นิจฺฉิโตติ ‘‘เอกาทสนฺนํ กิริยจิตฺตาน’’นฺติ อาหฯ
Sabhāvabhūtanti anvatthabhūtaṃ. Dvidhāti viññāpanato viññeyyato ca. Kāyaviññattiyā tathāpavattamānāya cetanāsaṅkhātassa kammassa kāyakammabhāvo nipphajjati tāya upalakkhitabbattā, na pana catuvīsatiyā paccayesu kenaci paccayabhāvatoti dassento ‘‘tasmiṃ dvāre siddhā’’tiādimāha. Tena vacīdvāruppannāpi pāṇātipātādayo saṅgahitāti tesaṃ saṅgahitabhāvaṃ dasseti. Atha vā kāyadvāruppannāya kāyakammabhūtāya cetanāya vasena ‘‘tena dvārena viññātabbabhāvato’’ti vuttaṃ, tassāyeva dvārantaruppannāya vasena ‘‘tena dvārena nāmalābhato’’ti. Manodvārāvajjanassapi viññattisamuṭṭhāpakabhāvo nicchitoti ‘‘ekādasannaṃ kiriyacittāna’’nti āha.
ทฺวารนฺตรจาริโนติ ทฺวารนฺตรภาเวน ปวตฺตนกาฯ ทฺวารสเมฺภทาติ ทฺวารานํ สงฺกรณโตฯ ทฺวารานญฺหิ ทฺวารนฺตรภาวปฺปตฺติยา สติ กายทฺวารสฺส วจีทฺวาราทิภาโว, วจีทฺวารสฺส จ กายทฺวาราทิภาโว อาปชฺชตีติ ตํตํทฺวารุปฺปนฺนกมฺมานมฺปิ สงฺกโร สิยาฯ เตนาห ‘‘กมฺมสเมฺภโทปี’’ติฯ เอวํ สติ กายกมฺมํ…เป.… ววตฺถานํ น สิยาฯ ยทิ กมฺมานิ กมฺมนฺตรจารีนิ โหนฺติ, กายกมฺมาทิกสฺส วจีกมฺมาทิกภาวาปตฺติโต ‘‘กมฺมสเมฺภทา ทฺวารสเมฺภโทปี’’ติ กายกมฺมํ กายกมฺมทฺวารนฺติ อญฺญมญฺญววตฺถานํ น สิยาติ อิมมตฺถมาห ‘‘กมฺมานมฺปิ กมฺมนฺตรจรเณ เอเสว นโย’’ติฯ กมฺมนฺตรจรณํ กมฺมนฺตรูปลกฺขณตาฯ เตเนวาห ‘‘ทฺวารภาเวนา’’ติฯ ทฺวารนฺตรจรณํ ทฺวารนฺตรุปฺปตฺติฯ ทฺวาเรติ อตฺตโน ทฺวาเรฯ อญฺญสฺมินฺติ ทฺวารนฺตเรฯ กมฺมานีติ ตํตํทฺวาริกกมฺมานิฯ อญฺญานีติ อญฺญทฺวาริกกมฺมานิฯ ทฺวาเร ทฺวารานิ น จรนฺตีติ ทฺวารนฺตรภาเวน นปฺปวตฺตนฺติ, ทฺวารนฺตรํ วา น สงฺกมนฺติฯ กิญฺจาปิ วิญฺญตฺติยา จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เยน เกนจิ ปจฺจเยน เจตนาย ปจฺจยภาโว นตฺถิ, ตถา ปน วิญฺญตฺติยา ปวตฺตมานาย เอว ปาณาติปาตาทิ โหติ, นาญฺญถาติ สิยา วิญฺญตฺติยา เหตุภาโว เจตนายาติ วุตฺตํ ‘‘ทฺวาเรหิ การณภูเตหี’’ติฯ กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ กมฺมววตฺถานเสฺสว วา การณภาวํ สนฺธาย ‘‘ทฺวาเรหิ การณภูเตหี’’ติ วุตฺตํฯ ยทิปิ ‘‘ทฺวาเรหิ กมฺมานี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อญฺญมญฺญํ ววตฺถิตา’’ติ ปน วุตฺตตฺตา กเมฺมหิปิ ทฺวารานิ ววตฺถิตานีติ อยมโตฺถปิ สิโทฺธเยวาติ ทเสฺสตุํ ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ อทฺวารจารีหีติ ทฺวารานํ สยํ ววตฺถิตภาวมาห, น ปน อววตฺถานํ, ววตฺถานเมวาติ อธิปฺปาโยฯ อิทานิ ตํ ววตฺถานํ วิภาเวติ กมฺมานเปกฺขาติอาทินาฯ ตตฺถ สมยนิยมิเตน จิเตฺตน สมโย วิย ทฺวารนิยมิเตหิ กเมฺมหิ ทฺวารานิ นิยมิตานีติ อยํ สเงฺขปโตฺถฯ
Dvārantaracārinoti dvārantarabhāvena pavattanakā. Dvārasambhedāti dvārānaṃ saṅkaraṇato. Dvārānañhi dvārantarabhāvappattiyā sati kāyadvārassa vacīdvārādibhāvo, vacīdvārassa ca kāyadvārādibhāvo āpajjatīti taṃtaṃdvāruppannakammānampi saṅkaro siyā. Tenāha ‘‘kammasambhedopī’’ti. Evaṃ sati kāyakammaṃ…pe… vavatthānaṃ na siyā. Yadi kammāni kammantaracārīni honti, kāyakammādikassa vacīkammādikabhāvāpattito ‘‘kammasambhedā dvārasambhedopī’’ti kāyakammaṃ kāyakammadvāranti aññamaññavavatthānaṃ na siyāti imamatthamāha ‘‘kammānampi kammantaracaraṇe eseva nayo’’ti. Kammantaracaraṇaṃ kammantarūpalakkhaṇatā. Tenevāha ‘‘dvārabhāvenā’’ti. Dvārantaracaraṇaṃ dvārantaruppatti. Dvāreti attano dvāre. Aññasminti dvārantare. Kammānīti taṃtaṃdvārikakammāni. Aññānīti aññadvārikakammāni. Dvāre dvārāni na carantīti dvārantarabhāvena nappavattanti, dvārantaraṃ vā na saṅkamanti. Kiñcāpi viññattiyā catuvīsatiyā paccayesu yena kenaci paccayena cetanāya paccayabhāvo natthi, tathā pana viññattiyā pavattamānāya eva pāṇātipātādi hoti, nāññathāti siyā viññattiyā hetubhāvo cetanāyāti vuttaṃ ‘‘dvārehi kāraṇabhūtehī’’ti. Kāyakammaṃ vacīkammanti kammavavatthānasseva vā kāraṇabhāvaṃ sandhāya ‘‘dvārehi kāraṇabhūtehī’’ti vuttaṃ. Yadipi ‘‘dvārehi kammānī’’ti vuttaṃ, ‘‘aññamaññaṃ vavatthitā’’ti pana vuttattā kammehipi dvārāni vavatthitānīti ayamatthopi siddhoyevāti dassetuṃ ‘‘na kevala’’ntiādi vuttaṃ. Advāracārīhīti dvārānaṃ sayaṃ vavatthitabhāvamāha, na pana avavatthānaṃ, vavatthānamevāti adhippāyo. Idāni taṃ vavatthānaṃ vibhāveti kammānapekkhātiādinā. Tattha samayaniyamitena cittena samayo viya dvāraniyamitehi kammehi dvārāni niyamitānīti ayaṃ saṅkhepattho.
เอวํสภาวตฺตาติ ทฺวารภูเตหิ กายาทีหิ อุปลกฺขณียสภาวตฺตาฯ อาณตฺติ…เป.… มานสฺสาติ กายวจีกมฺมานํ วจีกายวิญฺญตฺตีหิ ปกาเสตพฺพตํ อาหฯ กายาทีหีติ กายวจีวิญฺญตฺตีหิฯ ตสฺมาติ ยสฺมา ทฺวารนฺตเร จรนฺตานิปิ กมฺมานิ สเกน ทฺวาเรน อุปลกฺขิตาเนว จรนฺติ, ตสฺมาฯ นาปิ กมฺมํ ทฺวารสฺสาติ ยสฺมิํ ทฺวารนฺตเร กมฺมํ จรติ, ตสฺส ทฺวารสฺส อนตฺตนิยสฺสฯ ตํตํทฺวารเมวาติ สกทฺวารเมวฯ กมฺมสฺสาติ สกสกกมฺมสฺสฯ ยทิ กเมฺมหิ ทฺวารานิ ววตฺถิตานิ, ‘‘กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตา’’ติ อิทํ กถํ นียตีติ อาห ‘‘ปุเพฺพ ปนา’’ติอาทิฯ
Evaṃsabhāvattāti dvārabhūtehi kāyādīhi upalakkhaṇīyasabhāvattā. Āṇatti…pe… mānassāti kāyavacīkammānaṃ vacīkāyaviññattīhi pakāsetabbataṃ āha. Kāyādīhīti kāyavacīviññattīhi. Tasmāti yasmā dvārantare carantānipi kammāni sakena dvārena upalakkhitāneva caranti, tasmā. Nāpi kammaṃ dvārassāti yasmiṃ dvārantare kammaṃ carati, tassa dvārassa anattaniyassa. Taṃtaṃdvāramevāti sakadvārameva. Kammassāti sakasakakammassa. Yadi kammehi dvārāni vavatthitāni, ‘‘kammassa anibaddhattā’’ti idaṃ kathaṃ nīyatīti āha ‘‘pubbe panā’’tiādi.
สาติ วิญฺญตฺติฯ ตสฺสาติ กมฺมสฺสฯ เกนจิ ปกาเรนาติ จตุวีสติยา ปจฺจยปฺปกาเรสุ เกนจิ ปกาเรนฯ ตํสหชาตาติ เอเตน กายวิญฺญตฺติยา สพฺภาเวเยว กายกมฺมสฺส สพฺภาโว, นาญฺญถาติ ปริยาเยน วิญฺญตฺติยา กมฺมสฺส การณภาวํ วิภาเวติฯ เตเนวาห ‘‘อุปฺปตฺติฎฺฐานภาเวน วุตฺตา’’ติฯ ยถาวุตฺตนิยเมนาติอาทินา กมฺมสฺส อุปฺปตฺติฎฺฐานภาเว พฺยภิจาราภาวมาหฯ ตตฺถ ยถาวุตฺตนิยเมนาติ อฎฺฐกถายํ วุตฺตปฺปกาเรน ววตฺถานยุตฺติสงฺขาเตน นิยเมนฯ ทฺวารจรเณติ อญฺญทฺวารจรเณฯ
Sāti viññatti. Tassāti kammassa. Kenaci pakārenāti catuvīsatiyā paccayappakāresu kenaci pakārena. Taṃsahajātāti etena kāyaviññattiyā sabbhāveyeva kāyakammassa sabbhāvo, nāññathāti pariyāyena viññattiyā kammassa kāraṇabhāvaṃ vibhāveti. Tenevāha ‘‘uppattiṭṭhānabhāvena vuttā’’ti. Yathāvuttaniyamenātiādinā kammassa uppattiṭṭhānabhāve byabhicārābhāvamāha. Tattha yathāvuttaniyamenāti aṭṭhakathāyaṃ vuttappakārena vavatthānayuttisaṅkhātena niyamena. Dvāracaraṇeti aññadvāracaraṇe.
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kāyakammadvārakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ธมฺมสงฺคณี-มูลฎีกา • Dhammasaṅgaṇī-mūlaṭīkā / กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา • Kāyakammadvārakathāvaṇṇanā