Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๒. กายสุตฺตวณฺณนา
2. Kāyasuttavaṇṇanā
๑๘๓. ติฎฺฐนฺติ เอเตนาติ ฐิติ, การณํฯ กมฺมอุตุจิตฺตาหารสญฺญิโต จตุพฺพิโธ ปจฺจโย ฐิติ เอตสฺสาติ ปจฺจยฎฺฐิติโกฯ อาหารปจฺจยสทฺทา หิ เอกตฺถาฯ สุภมฺปีติ กามจฺฉโนฺท ปจฺจโย, อสุเภ สุภากาเรน ปวตฺตนโต สุภนฺติ วุจฺจติฯ เตน การเณน ปวตฺตนกสฺส อญฺญสฺส กามจฺฉนฺทสฺส นิมิตฺตตฺตา สุภนิมิตฺตนฺติฯ สุภสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส สุภสฺสฯ อารมฺมณมฺปีติ สุภากาเรน, อิฎฺฐากาเรน วา คยฺหมานํ รูปาทิอารมฺมณมฺปิ สุภนิมิตฺตํ วุตฺตากาเรนฯ อนุปายมนสิกาโรติ อากงฺขิตสฺส หิตสุขสฺส อนุปายภูโต มนสิกาโร, ตโต เอว อุปฺปถมนสิกาโรติ อโยนิโสมนสิกาโรฯ ตสฺมินฺติ ยถานิทฺธาริเต กามจฺฉนฺทภูเต ตทารมฺมณภูเต จ ทุวิเธปิ สุภนิมิเตฺตฯ อฎฺฐกถายํ ปน ‘‘สุภารมฺมเณ’’อิเจฺจว วุตฺตํฯ อตฺถิ, ภิกฺขเว, สุภนิมิตฺตนฺติอาทีติ อาทิ-สเทฺทน กามจฺฉนฺทนีวรณสฺส อาหารทสฺสนปาฬิ อุตฺตานาติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘เอวํ สพฺพนีวรเณสุ โยชนา เวทิตพฺพา’’ติฯ
183. Tiṭṭhanti etenāti ṭhiti, kāraṇaṃ. Kammautucittāhārasaññito catubbidho paccayo ṭhiti etassāti paccayaṭṭhitiko. Āhārapaccayasaddā hi ekatthā. Subhampīti kāmacchando paccayo, asubhe subhākārena pavattanato subhanti vuccati. Tena kāraṇena pavattanakassa aññassa kāmacchandassa nimittattā subhanimittanti. Subhassāti yathāvuttassa subhassa. Ārammaṇampīti subhākārena, iṭṭhākārena vā gayhamānaṃ rūpādiārammaṇampi subhanimittaṃ vuttākārena. Anupāyamanasikāroti ākaṅkhitassa hitasukhassa anupāyabhūto manasikāro, tato eva uppathamanasikāroti ayonisomanasikāro. Tasminti yathāniddhārite kāmacchandabhūte tadārammaṇabhūte ca duvidhepi subhanimitte. Aṭṭhakathāyaṃ pana ‘‘subhārammaṇe’’icceva vuttaṃ. Atthi, bhikkhave, subhanimittantiādīti ādi-saddena kāmacchandanīvaraṇassa āhāradassanapāḷi uttānāti katvā vuttaṃ – ‘‘evaṃ sabbanīvaraṇesu yojanā veditabbā’’ti.
ปฎิโฆปิ ปฎิฆนิมิตฺตํ ปุริมุปฺปนฺนสฺส ปจฺฉา อุปฺปชฺชนกสฺส นิมิตฺตภาวโตฯ ปฎิฆารมฺมณํ นาม เอกูนวีสติ อาฆาตวตฺถุภูตา สตฺตสงฺขาราฯ อรตีติ ปนฺตเสนาสนาทีสุ อรมณํ ฯ อุกฺกณฺฐิตาติ อุกฺกณฺฐภาโวฯ ปเนฺตสูติ ทูเรสุ, วิวิเตฺตสุ วาฯ อธิกุสเลสูติ สมถวิปสฺสนาธเมฺมสุฯ อรติ รติปฎิปโกฺขฯ อรติตาติ อรมณากาโรฯ อนภิรตีติ อนภิรตภาโวฯ อนภิรมณาติ อนภิรมณากาโรฯ อุกฺกณฺฐิตาติ อุกฺกณฺฐนากาโรฯ ปริตสฺสิตาติ อุกฺกณฺฐนวเสเนว ปริตสฺสนาฯ
Paṭighopipaṭighanimittaṃ purimuppannassa pacchā uppajjanakassa nimittabhāvato. Paṭighārammaṇaṃ nāma ekūnavīsati āghātavatthubhūtā sattasaṅkhārā. Aratīti pantasenāsanādīsu aramaṇaṃ . Ukkaṇṭhitāti ukkaṇṭhabhāvo. Pantesūti dūresu, vivittesu vā. Adhikusalesūti samathavipassanādhammesu. Arati ratipaṭipakkho. Aratitāti aramaṇākāro. Anabhiratīti anabhiratabhāvo. Anabhiramaṇāti anabhiramaṇākāro. Ukkaṇṭhitāti ukkaṇṭhanākāro. Paritassitāti ukkaṇṭhanavaseneva paritassanā.
อาคนฺตุกํ, น สภาวสิทฺธํฯ กายาลสิยนฺติ นามกาเย อลสภาโวฯ สโมฺมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘ตนฺทีติ ชาติอาลสิย’’นฺติ วุตฺตํฯ วทตีติ เอเตน อติสีตาทิปจฺจยา สโงฺกจาปตฺติํ ทเสฺสติฯ ยํ สนฺธาย วุตฺตํ กิเลสวตฺถุวิภเงฺค (วิภ. อฎฺฐ. ๘๕๗)ฯ ตนฺทีติ ชาติอาลสิยํฯ ตนฺทิยนาติ ตนฺทิยนากาโรฯ ตนฺทิมนกตาติ ตนฺทิยา อภิภูตจิตฺตตาฯ อลสสฺส ภาโว อาลสฺยํฯ อาลสฺยายนากาโร อาลสฺยายนาฯ อาลสฺยายิตสฺส ภาโว อาลสฺยายิตตฺตํฯ อิติ สเพฺพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายาลสิยํ กถิตํฯ
Āgantukaṃ, na sabhāvasiddhaṃ. Kāyālasiyanti nāmakāye alasabhāvo. Sammohavinodaniyaṃ pana ‘‘tandīti jātiālasiya’’nti vuttaṃ. Vadatīti etena atisītādipaccayā saṅkocāpattiṃ dasseti. Yaṃ sandhāya vuttaṃ kilesavatthuvibhaṅge (vibha. aṭṭha. 857). Tandīti jātiālasiyaṃ. Tandiyanāti tandiyanākāro. Tandimanakatāti tandiyā abhibhūtacittatā. Alasassa bhāvo ālasyaṃ. Ālasyāyanākāro ālasyāyanā. Ālasyāyitassa bhāvo ālasyāyitattaṃ. Iti sabbehipi imehi padehi kilesavasena kāyālasiyaṃ kathitaṃ.
กิเลสวเสนาติ สโมฺมหวเสนฯ กายวินมนาติ กายสฺส วิรูปโต นมนาฯ ชมฺภนาติ ผนฺทนาฯ ปุนปฺปุนํ ชมฺภนา วิชมฺภนาฯ อานมนาติ ปุรโต นมนาฯ วินมนาติ ปจฺฉโต นมนาฯ สนฺนมนาติ สมนฺตโต นมนาฯ ปณมนาติ ยถา หิ ตนฺตโต อุฎฺฐิตเปสกาโร กิญฺจิเทว อุปริฎฺฐิตํ คเหตฺวา อุชุํ กายํ อุสฺสาเปติ, เอวํ กายสฺส อุทฺธํ ฐปนาฯ พฺยาธิยกนฺติ อุปฺปนฺนพฺยาธิตาฯ อิติ สเพฺพหิปิ อิเมหิ ปเทหิ กิเลสวเสน กายผนฺทนเมว กถิตํ (วิภ. อฎฺฐ. ๘๕๘)ฯ
Kilesavasenāti sammohavasena. Kāyavinamanāti kāyassa virūpato namanā. Jambhanāti phandanā. Punappunaṃ jambhanā vijambhanā. Ānamanāti purato namanā. Vinamanāti pacchato namanā. Sannamanāti samantato namanā. Paṇamanāti yathā hi tantato uṭṭhitapesakāro kiñcideva upariṭṭhitaṃ gahetvā ujuṃ kāyaṃ ussāpeti, evaṃ kāyassa uddhaṃ ṭhapanā. Byādhiyakanti uppannabyādhitā. Iti sabbehipi imehi padehi kilesavasena kāyaphandanameva kathitaṃ (vibha. aṭṭha. 858).
ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตวเสน ปริฬาหุปฺปตฺติฯ ภุตฺตาวิสฺสาติ ภุตฺตวโตฯ ภตฺตมุจฺฉาติ ภตฺตเคลญฺญํฯ อติภุตฺตปจฺจยา หิ มุจฺฉาปโตฺต วิย โหติฯ ภตฺตกิลมโถติ ภุตฺตปจฺจยา กิลนฺตภาโวฯ ภตฺตปริฬาโหติ ภตฺตทรโถฯ กุจฺฉิปูรํ ภุตฺตวโต หิ ปริฬาหุปฺปตฺติยา อุปหตินฺทฺริโย วิย โหติ, กาโย ขิชฺชติฯ กายทุฎฺฐุลฺลนฺติ ภุตฺตภตฺตํ นิสฺสาย กายสฺส อกมฺมญฺญตาฯ
Bhattapariḷāhoti bhattavasena pariḷāhuppatti. Bhuttāvissāti bhuttavato. Bhattamucchāti bhattagelaññaṃ. Atibhuttapaccayā hi mucchāpatto viya hoti. Bhattakilamathoti bhuttapaccayā kilantabhāvo. Bhattapariḷāhoti bhattadaratho. Kucchipūraṃ bhuttavato hi pariḷāhuppattiyā upahatindriyo viya hoti, kāyo khijjati. Kāyaduṭṭhullanti bhuttabhattaṃ nissāya kāyassa akammaññatā.
จิตฺตสฺส ลียนากาโรติ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส สโงฺกจปฺปตฺติฯ จิตฺตสฺส อกลฺยตาติ จิตฺตสฺส คิลานภาโวฯ คิลาโนติ อกลฺลโก วุจฺจติฯ ตถา จาห ‘‘นาหํ, ภเนฺต, อกลฺลโก’’ติฯ อกมฺมญฺญตาติ จิตฺตเคลญฺญสงฺขาโต อกมฺมญฺญนากาโรฯ โอลียนาติ โอลียนากาโรฯ อิริยาปถิกมฺปิ จิตฺตํ ยสฺส วเสน อิริยาปถํ สนฺธาเรตุํ อสโกฺกโนฺต โอลียติ, ตสฺส ตํ อาการํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โอลียนา’’ติฯ ทุติยปทํ อุปสเคฺคน วฑฺฒิตํฯ ลีนนฺติ อวิปฺผาริกตาย สโงฺกจปฺปตฺตํฯ อิตเร เทฺว อาการนิเทฺทสาฯ ถินนฺติ อวิปฺผาริกตาย อนุสฺสาหนา อสงฺคหนสงฺคหนํฯ ถิยนากาโร ถิยนาฯ ถิยิตตฺตนฺติ ถิยิตสฺส อากาโร, อวิปฺผาริกตาติ อโตฺถฯ
Cittassalīyanākāroti ārammaṇe cittassa saṅkocappatti. Cittassa akalyatāti cittassa gilānabhāvo. Gilānoti akallako vuccati. Tathā cāha ‘‘nāhaṃ, bhante, akallako’’ti. Akammaññatāti cittagelaññasaṅkhāto akammaññanākāro. Olīyanāti olīyanākāro. Iriyāpathikampi cittaṃ yassa vasena iriyāpathaṃ sandhāretuṃ asakkonto olīyati, tassa taṃ ākāraṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘olīyanā’’ti. Dutiyapadaṃ upasaggena vaḍḍhitaṃ. Līnanti avipphārikatāya saṅkocappattaṃ. Itare dve ākāraniddesā. Thinanti avipphārikatāya anussāhanā asaṅgahanasaṅgahanaṃ. Thiyanākāro thiyanā. Thiyitattanti thiyitassa ākāro, avipphārikatāti attho.
เจตโส อวูปสโมติ จิตฺตสฺส อวูปสนฺตตา อสนฺนิสินฺนภาโวฯ เตนาห – ‘‘อวูปสนฺตากาโร’’ติฯ อตฺถโต ปเนตนฺติ สฺวายํ อวูปสนฺตากาโร วิเกฺขปสภาวตฺตา วิเกฺขปเหตุตาย จ อตฺถโต เอตํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจเมวฯ
Cetaso avūpasamoti cittassa avūpasantatā asannisinnabhāvo. Tenāha – ‘‘avūpasantākāro’’ti. Atthato panetanti svāyaṃ avūpasantākāro vikkhepasabhāvattā vikkhepahetutāya ca atthato etaṃ uddhaccakukkuccameva.
วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา นาม ‘‘พุเทฺธ กงฺขตี’’ติอาทินา อาคตอฎฺฐกงฺขาวตฺถุภูตา ธมฺมาฯ ยสฺมา วิจิกิจฺฉา พฺยาปาทาทโย วิย อนุ อนุ อุคฺคหณปจฺจยา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา กงฺขาฎฺฐานียํ อารมฺมณเมว ทสฺสิตํ ‘‘วิจิกิจฺฉาย อารมฺมณธมฺมา’’ติฯ ยสฺมา ปุริมุปฺปนฺนา วิจิกิจฺฉา ปจฺฉา วิจิกิจฺฉาย ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา วิจิกิจฺฉาปิ วิจิกิจฺฉาฎฺฐานียธมฺมา เวทิตพฺพาฯ ตตฺรายํ วจนโตฺถ – ติฎฺฐนฺติ ปวตฺตนฺติ เอตฺถาติ ฐานียา, วิจิกิจฺฉา เอว ฐานียา วิจิกิจฺฉาฎฺฐานียาฯ อฎฺฐกถายํ ปน อารมฺมณสฺสปิ ตตฺถ วิเสสปจฺจยตํ อุปาทาย ‘‘กามจฺฉโนฺท วิจิกิจฺฉาติ อิเม เทฺว ธมฺมา อารมฺมเณน กถิตา’’ติ วุตฺตํฯ สุภนิมิตฺตสฺส หิ ปจฺจยภาวมตฺตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ, ตถาปิ ยถา ‘‘ปฎิฆมฺปิ ปฎิฆนิมิตฺต’’นฺติ กตฺวา ‘‘พฺยาปาโท อุปนิสฺสเยน กถิโต’’ติ วุตฺตํ, เอวํ สุภมฺปิ สุภนิมิตฺตนฺติ กตฺวา กามจฺฉโนฺท อุปนิสฺสเยน กถิโตติ สกฺกา วิญฺญาตุํฯ เสสา ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานิฯ ตตฺถ ถินมิทฺธํ อญฺญมญฺญํ สหชาตาทิวเสน ปจฺจโย, ตถา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนฺติฯ อุภเยสมฺปิ อุปนิสฺสยโกฎิยา ปจฺจยภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ อาห ‘‘สหชาเตน จ อุปนิสฺสเยน จา’’ติฯ
Vicikicchāya ārammaṇadhammā nāma ‘‘buddhe kaṅkhatī’’tiādinā āgataaṭṭhakaṅkhāvatthubhūtā dhammā. Yasmā vicikicchā byāpādādayo viya anu anu uggahaṇapaccayā uppajjati, tasmā kaṅkhāṭṭhānīyaṃ ārammaṇameva dassitaṃ ‘‘vicikicchāya ārammaṇadhammā’’ti. Yasmā purimuppannā vicikicchā pacchā vicikicchāya paccayo hoti, tasmā vicikicchāpi vicikicchāṭṭhānīyadhammā veditabbā. Tatrāyaṃ vacanattho – tiṭṭhanti pavattanti etthāti ṭhānīyā, vicikicchā eva ṭhānīyā vicikicchāṭṭhānīyā. Aṭṭhakathāyaṃ pana ārammaṇassapi tattha visesapaccayataṃ upādāya ‘‘kāmacchando vicikicchāti ime dve dhammā ārammaṇena kathitā’’ti vuttaṃ. Subhanimittassa hi paccayabhāvamattaṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ, tathāpi yathā ‘‘paṭighampi paṭighanimitta’’nti katvā ‘‘byāpādo upanissayena kathito’’ti vuttaṃ, evaṃ subhampi subhanimittanti katvā kāmacchando upanissayena kathitoti sakkā viññātuṃ. Sesā thinamiddhauddhaccakukkuccāni. Tattha thinamiddhaṃ aññamaññaṃ sahajātādivasena paccayo, tathā uddhaccakukkuccanti. Ubhayesampi upanissayakoṭiyā paccayabhāve vattabbameva natthīti āha ‘‘sahajātena ca upanissayena cā’’ti.
ยสฺมา สติ นาม ‘‘จตฺตาโร สติปฎฺฐานา’’ติอาทินา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อนุสฺสรณวเสน วตฺตติ, ตสฺมา เต ธมฺมา สติสโมฺพชฺฌงฺคฎฺฐานียา นามฯ โลกุตฺตรธเมฺม จ อนุสฺสวาทิวเสน คเหตฺวา ตถา ปวตฺตเตวฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สติยา’’ติอาทิฯ
Yasmā sati nāma ‘‘cattāro satipaṭṭhānā’’tiādinā tesaṃ tesaṃ dhammānaṃ anussaraṇavasena vattati, tasmā te dhammā satisambojjhaṅgaṭṭhānīyā nāma. Lokuttaradhamme ca anussavādivasena gahetvā tathā pavattateva. Tena vuttaṃ ‘‘satiyā’’tiādi.
โกสลฺลํ วุจฺจติ ปญฺญา, ตโต อุปฺปนฺนา โกสลฺลสมฺภูตาฯ อนวชฺชสุขวิปากาติ อนวชฺชา หุตฺวา สุขวิปากา วิปจฺจนกาฯ ปททฺวเยน ปจฺจยโต สภาวโต กิจฺจโต ผลโต กุสลธมฺมํ ทเสฺสติฯ อกุสลนิเทฺทเสปิ เอเสว นโยฯ สาวชฺชาติ คารยฺหาฯ อนวชฺชาติ อคารยฺหาฯ หีนา ลามกาฯ ปณีตา เสฎฺฐาฯ กณฺหา กาฬกา อสุทฺธาฯ สุกฺกา โอทาตา สุทฺธา ฯ ปฎิภาค-สโทฺท ปฐเม วิกเปฺป สทิสโกฎฺฐาสโตฺถ, ทุติเย ปฎิปกฺขโกฎฺฐาสโตฺถ, ตติเย นิคฺคเหตพฺพปฎิปกฺขโกฎฺฐาสโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ
Kosallaṃ vuccati paññā, tato uppannā kosallasambhūtā. Anavajjasukhavipākāti anavajjā hutvā sukhavipākā vipaccanakā. Padadvayena paccayato sabhāvato kiccato phalato kusaladhammaṃ dasseti. Akusalaniddesepi eseva nayo. Sāvajjāti gārayhā. Anavajjāti agārayhā. Hīnā lāmakā. Paṇītā seṭṭhā. Kaṇhā kāḷakā asuddhā. Sukkā odātā suddhā . Paṭibhāga-saddo paṭhame vikappe sadisakoṭṭhāsattho, dutiye paṭipakkhakoṭṭhāsattho, tatiye niggahetabbapaṭipakkhakoṭṭhāsattho daṭṭhabbo.
กุสลกิริยาย อาทิกมฺมภาเวน ปวตฺตวีริยํ ธิติสภาวตาย ธาตูติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อารมฺภธาตูติ ปฐมารมฺภวีริย’’นฺติฯ ลทฺธาเสวนํ วีริยํ พลปฺปตฺตํ หุตฺวา ปฎิปกฺขํ วิธมตีติ อาห – ‘‘นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตร’’นฺติฯ อธิมตฺตาธิมตฺตตรานํ ปฎิปกฺขธมฺมานํ วิธมนสมตฺถํ ปฎุปฎุตราทิภาวปฺปตฺตํ โหตีติ อาห – ‘‘ปรกฺกมธาตูติ ปรํ ปรํ ฐานํ อกฺกมนตาย ตโตปิ พลวตร’’นฺติฯ
Kusalakiriyāya ādikammabhāvena pavattavīriyaṃ dhitisabhāvatāya dhātūti vuttanti āha ‘‘ārambhadhātūti paṭhamārambhavīriya’’nti. Laddhāsevanaṃ vīriyaṃ balappattaṃ hutvā paṭipakkhaṃ vidhamatīti āha – ‘‘nikkamadhātūti kosajjato nikkhantattā tato balavatara’’nti. Adhimattādhimattatarānaṃ paṭipakkhadhammānaṃ vidhamanasamatthaṃ paṭupaṭutarādibhāvappattaṃ hotīti āha – ‘‘parakkamadhātūti paraṃ paraṃ ṭhānaṃ akkamanatāya tatopi balavatara’’nti.
ติฎฺฐติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ ฐานียาฯ อารมฺมณธมฺมา, ปีติสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ฐานียาติ ปีติสโมฺพชฺฌงฺคฎฺฐานียาติ ‘‘ปีติยา อารมฺมณธมฺมา’’ติ วุตฺตํฯ ยสฺมา อปราปรุปฺปตฺติยา ปีติปิ ตถา วตฺตพฺพตํ ลภตีติ วุตฺตํ วิสุทฺธิมเคฺค ‘‘ปีติยา เอว ตํ นาม’’นฺติฯ ทรถปสฺสทฺธีติ ทรโถ กิเลสปริฬาโห, โส ปสฺสมฺภติ เอตายาติ ทรถปสฺสทฺธิ, กายปสฺสทฺธิยา เวทนาทิขนฺธตฺตยสฺส วิย รูปกายสฺสปิ ปสฺสมฺภนํ โหติ, จิตฺตปสฺสทฺธิยา จิตฺตเสฺสว ปสฺสมฺภนํ, ตโต เอเวตฺถ ภควตา ลหุตาทีนํ วิย ทุวิธตา วุตฺตาฯ ตถา สมาหิตาการํ สลฺลเกฺขตฺวา คยฺหมาโน สมโถว สมถนิมิตฺตํ, ตสฺส อารมฺมณภูตํ ปฎิภาคนิมิตฺตมฺปิฯ วิวิธํ อคฺคํ เอตสฺสาติ พฺยโคฺค, วิเกฺขโปฯ ตถา หิ โส อนวฎฺฐานรโส ภนฺตตาปจฺจุปฎฺฐาโน วุโตฺตฯ เอกคฺคภาวโต พฺยคฺคปฎิปโกฺขติ อพฺยโคฺค, สมาธิ, โส เอว นิมิตฺตนฺติ ปุเพฺพ วิย วตฺตพฺพํฯ เตนาห ‘‘ตเสฺสว เววจน’’นฺติฯ
Tiṭṭhati pavattati etthāti ṭhānīyā. Ārammaṇadhammā, pītisambojjhaṅgassa ṭhānīyāti pītisambojjhaṅgaṭṭhānīyāti ‘‘pītiyā ārammaṇadhammā’’ti vuttaṃ. Yasmā aparāparuppattiyā pītipi tathā vattabbataṃ labhatīti vuttaṃ visuddhimagge ‘‘pītiyā eva taṃ nāma’’nti. Darathapassaddhīti daratho kilesapariḷāho, so passambhati etāyāti darathapassaddhi, kāyapassaddhiyā vedanādikhandhattayassa viya rūpakāyassapi passambhanaṃ hoti, cittapassaddhiyā cittasseva passambhanaṃ, tato evettha bhagavatā lahutādīnaṃ viya duvidhatā vuttā. Tathā samāhitākāraṃ sallakkhetvā gayhamāno samathova samathanimittaṃ, tassa ārammaṇabhūtaṃ paṭibhāganimittampi. Vividhaṃ aggaṃ etassāti byaggo, vikkhepo. Tathā hi so anavaṭṭhānaraso bhantatāpaccupaṭṭhāno vutto. Ekaggabhāvato byaggapaṭipakkhoti abyaggo, samādhi, so eva nimittanti pubbe viya vattabbaṃ. Tenāha ‘‘tasseva vevacana’’nti.
โย อารมฺมเณ อิฎฺฐานิฎฺฐาการํ อนาทิยิตฺวา คเหตโพฺพ มชฺฌตฺตากาโร, โย จ ปุเพฺพ อุเปกฺขาสโมฺพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาวเสน อุปฺปโนฺน มชฺฌตฺตากาโร, ทุวิโธปิ โส อุเปกฺขาย อารมฺมณธโมฺมติ อธิเปฺปโตติ อาห – ‘‘อตฺถโต ปน มชฺฌตฺตากาโร อุเปกฺขาฎฺฐานียา ธมฺมาติ เวทิตโพฺพ’’ติฯ อารมฺมเณน กถิตา อารมฺมณเสฺสว เตสํ วิเสสปจฺจยภาวโตฯ เสสาติ วีริยาทโย จตฺตาโร ธมฺมาฯ เตสญฺหิ อุปนิสฺสโยว สาติสโย อิจฺฉิตโพฺพติฯ
Yo ārammaṇe iṭṭhāniṭṭhākāraṃ anādiyitvā gahetabbo majjhattākāro, yo ca pubbe upekkhāsambojjhaṅgassa bhāvanāvasena uppanno majjhattākāro, duvidhopi so upekkhāya ārammaṇadhammoti adhippetoti āha – ‘‘atthato pana majjhattākāro upekkhāṭṭhānīyā dhammāti veditabbo’’ti. Ārammaṇena kathitā ārammaṇasseva tesaṃ visesapaccayabhāvato. Sesāti vīriyādayo cattāro dhammā. Tesañhi upanissayova sātisayo icchitabboti.
กายสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kāyasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. กายสุตฺตํ • 2. Kāyasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. กายสุตฺตวณฺณนา • 2. Kāyasuttavaṇṇanā