Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) |
๕. เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา
5. Kesamuttisuttavaṇṇanā
๖๖. ปญฺจเม กาลามานํ นิคโมติ กาลามา นาม ขตฺติยา, เตสํ นิคโมฯ เกสมุตฺติยาติ เกสมุตฺตนิคมวาสิโนฯ อุปสงฺกมิํสูติ สปฺปินวนีตาทิเภสชฺชานิ เจว อฎฺฐวิธปานกานิ จ คาหาเปตฺวา อุปสงฺกมิํสุฯ สกํเยว วาทํ ทีเปนฺตีติ อตฺตโนเยว ลทฺธิํ กเถนฺติฯ โชเตนฺตีติ ปกาเสนฺติฯ ขุํเสนฺตีติ ฆเฎฺฎนฺติฯ วเมฺภนฺตีติ อวชานนฺติฯ ปริภวนฺตีติ ลามกํ กโรนฺติฯ โอมกฺขิํ กโรนฺตีติ อุกฺขิตฺตกํ กโรนฺติ, อุกฺขิปิตฺวา ฉเฑฺฑนฺติฯ อปเรปิ, ภเนฺตติ โส กิร อฎวิมุเข คาโม, ตสฺมา ตตฺถ อฎวิํ อติกฺกนฺตา จ อติกฺกมิตุกามา จ วาสํ กเปฺปนฺติฯ เตสุปิ ปฐมํ อาคตา อตฺตโน ลทฺธิํ ทีเปตฺวา ปกฺกมิํสุ, ปจฺฉา อาคตา ‘‘กิํ เต ชานนฺติ, อมฺหากํ อเนฺตวาสิกา เต, อมฺหากํ สนฺติเก กิญฺจิ กิญฺจิ สิปฺปํ อุคฺคณฺหิํสู’’ติ อตฺตโน ลทฺธิํ ทีเปตฺวา ปกฺกมิํสุฯ กาลามา เอกลทฺธิยมฺปิ สณฺฐหิตุํ น สกฺขิํสุฯ เต เอตมตฺถํ ทีเปตฺวา ภควโต เอวมาโรเจตฺวา เตสํ โน, ภเนฺตติอาทิมาหํสุฯ ตตฺถ โหเตว กงฺขาติ โหติเยว กงฺขาฯ วิจิกิจฺฉาติ ตเสฺสว เววจนํฯ อลนฺติ ยุตฺตํฯ
66. Pañcame kālāmānaṃ nigamoti kālāmā nāma khattiyā, tesaṃ nigamo. Kesamuttiyāti kesamuttanigamavāsino. Upasaṅkamiṃsūti sappinavanītādibhesajjāni ceva aṭṭhavidhapānakāni ca gāhāpetvā upasaṅkamiṃsu. Sakaṃyeva vādaṃ dīpentīti attanoyeva laddhiṃ kathenti. Jotentīti pakāsenti. Khuṃsentīti ghaṭṭenti. Vambhentīti avajānanti. Paribhavantīti lāmakaṃ karonti. Omakkhiṃ karontīti ukkhittakaṃ karonti, ukkhipitvā chaḍḍenti. Aparepi, bhanteti so kira aṭavimukhe gāmo, tasmā tattha aṭaviṃ atikkantā ca atikkamitukāmā ca vāsaṃ kappenti. Tesupi paṭhamaṃ āgatā attano laddhiṃ dīpetvā pakkamiṃsu, pacchā āgatā ‘‘kiṃ te jānanti, amhākaṃ antevāsikā te, amhākaṃ santike kiñci kiñci sippaṃ uggaṇhiṃsū’’ti attano laddhiṃ dīpetvā pakkamiṃsu. Kālāmā ekaladdhiyampi saṇṭhahituṃ na sakkhiṃsu. Te etamatthaṃ dīpetvā bhagavato evamārocetvā tesaṃ no, bhantetiādimāhaṃsu. Tattha hoteva kaṅkhāti hotiyeva kaṅkhā. Vicikicchāti tasseva vevacanaṃ. Alanti yuttaṃ.
มา อนุสฺสเวนาติ อนุสฺสวกถายปิ มา คณฺหิตฺถฯ มา ปรมฺปรายาติ ปรมฺปรกถายปิ มา คณฺหิตฺถฯ มา อิติกิรายาติ เอวํ กิร เอตนฺติ มา คณฺหิตฺถฯ มา ปิฎกสมฺปทาเนนาติ อมฺหากํ ปิฎกตนฺติยา สทฺธิํ สเมตีติ มา คณฺหิตฺถฯ มา ตกฺกเหตูติ ตกฺกคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถฯ มา นยเหตูติ นยคฺคาเหนปิ มา คณฺหิตฺถฯ มา อาการปริวิตเกฺกนาติ สุนฺทรมิทํ การณนฺติ เอวํ การณปริวิตเกฺกนปิ มา คณฺหิตฺถฯ มา ทิฎฺฐินิชฺฌานกฺขนฺติยาติ อมฺหากํ นิชฺฌายิตฺวา ขมิตฺวา คหิตทิฎฺฐิยา สทฺธิํ สเมตีติปิ มา คณฺหิตฺถฯ มา ภพฺพรูปตายาติ อยํ ภิกฺขุ ภพฺพรูโป, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถฯ มา สมโณ โน ครูติ อยํ สมโณ อมฺหากํ ครุ, อิมสฺส กถํ คเหตุํ ยุตฺตนฺติปิ มา คณฺหิตฺถฯ สมตฺตาติ ปริปุณฺณาฯ สมาทินฺนาติ คหิตา ปรามฎฺฐาฯ ยํส โหตีติ ยํ การณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส โหติฯ อโลภาทโย โลภาทิปฎิปกฺขวเสน เวทิตพฺพาฯ วิคตาภิโชฺฌติอาทีหิ เมตฺตาย ปุพฺพภาโค กถิโตฯ
Māanussavenāti anussavakathāyapi mā gaṇhittha. Mā paramparāyāti paramparakathāyapi mā gaṇhittha. Mā itikirāyāti evaṃ kira etanti mā gaṇhittha. Mā piṭakasampadānenāti amhākaṃ piṭakatantiyā saddhiṃ sametīti mā gaṇhittha. Mā takkahetūti takkaggāhenapi mā gaṇhittha. Mā nayahetūti nayaggāhenapi mā gaṇhittha. Mā ākāraparivitakkenāti sundaramidaṃ kāraṇanti evaṃ kāraṇaparivitakkenapi mā gaṇhittha. Mā diṭṭhinijjhānakkhantiyāti amhākaṃ nijjhāyitvā khamitvā gahitadiṭṭhiyā saddhiṃ sametītipi mā gaṇhittha. Mā bhabbarūpatāyāti ayaṃ bhikkhu bhabbarūpo, imassa kathaṃ gahetuṃ yuttantipi mā gaṇhittha. Mā samaṇo no garūti ayaṃ samaṇo amhākaṃ garu, imassa kathaṃ gahetuṃ yuttantipi mā gaṇhittha. Samattāti paripuṇṇā. Samādinnāti gahitā parāmaṭṭhā. Yaṃsa hotīti yaṃ kāraṇaṃ tassa puggalassa hoti. Alobhādayo lobhādipaṭipakkhavasena veditabbā. Vigatābhijjhotiādīhi mettāya pubbabhāgo kathito.
อิทานิ เมตฺตาทิกํ กมฺมฎฺฐานํ กเถโนฺต เมตฺตาสหคเตนาติอาทิมาหฯ ตตฺถ กมฺมฎฺฐานกถาย วา ภาวนานเย วา ปาฬิวณฺณนาย วา ยํ วตฺตพฺพํ สิยา, ตํ สพฺพํ วิสุทฺธิมเคฺค (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐) วุตฺตเมวฯ เอวํ อเวรจิโตฺตติ เอวํ อกุสลเวรสฺส จ ปุคฺคลเวริโน จ นตฺถิตาย อเวรจิโตฺตฯ อพฺยาพชฺฌจิโตฺตติ โกธจิตฺตสฺส อภาเวน นิทฺทุกฺขจิโตฺตฯ อสํกิลิฎฺฐจิโตฺตติ กิเลสสฺส นตฺถิตาย อสํกิลิฎฺฐจิโตฺตฯ วิสุทฺธจิโตฺตติ กิเลสมลาภาเวน วิสุทฺธจิโตฺต โหตีติ อโตฺถฯ ตสฺสาติ ตสฺส เอวรูปสฺส อริยสาวกสฺสฯ อสฺสาสาติ อวสฺสยา ปติฎฺฐาฯ สเจ โข ปน อตฺถิ ปโร โลโกติ ยทิ อิมมฺหา โลกา ปรโลโก นาม อตฺถิฯ อถาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา…เป.… อุปปชฺชิสฺสามีติ อเตฺถตํ การณํ, เยนาหํ กายสฺส เภทา ปรมฺมรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิสฺสามีติ เอวํ สพฺพตฺถ นโย เวทิตโพฺพฯ อนีฆนฺติ นิทฺทุกฺขํฯ สุขินฺติ สุขิตํฯ อุภเยเนว วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามีติ ยญฺจ ปาปํ น กโรมิ, ยญฺจ กโรโตปิ น กรียติ, อิมินา อุภเยนาปิ วิสุทฺธํ อตฺตานํ สมนุปสฺสามิฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
Idāni mettādikaṃ kammaṭṭhānaṃ kathento mettāsahagatenātiādimāha. Tattha kammaṭṭhānakathāya vā bhāvanānaye vā pāḷivaṇṇanāya vā yaṃ vattabbaṃ siyā, taṃ sabbaṃ visuddhimagge (visuddhi. 1.240) vuttameva. Evaṃ averacittoti evaṃ akusalaverassa ca puggalaverino ca natthitāya averacitto. Abyābajjhacittoti kodhacittassa abhāvena niddukkhacitto. Asaṃkiliṭṭhacittoti kilesassa natthitāya asaṃkiliṭṭhacitto. Visuddhacittoti kilesamalābhāvena visuddhacitto hotīti attho. Tassāti tassa evarūpassa ariyasāvakassa. Assāsāti avassayā patiṭṭhā. Sace kho pana atthi paro lokoti yadi imamhā lokā paraloko nāma atthi. Athāhaṃ kāyassa bhedā parammaraṇā…pe… upapajjissāmīti atthetaṃ kāraṇaṃ, yenāhaṃ kāyassa bhedā parammaraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjissāmīti evaṃ sabbattha nayo veditabbo. Anīghanti niddukkhaṃ. Sukhinti sukhitaṃ. Ubhayeneva visuddhaṃ attānaṃ samanupassāmīti yañca pāpaṃ na karomi, yañca karotopi na karīyati, iminā ubhayenāpi visuddhaṃ attānaṃ samanupassāmi. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๕. เกสมุตฺติสุตฺตํ • 5. Kesamuttisuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๕. เกสมุตฺติสุตฺตวณฺณนา • 5. Kesamuttisuttavaṇṇanā