Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๗. ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา
7. Khajjanīyasuttavaṇṇanā
๗๙. วิปสฺสนาวเสนาติ เอตรหิ รูปเวทนาทโย อนุสฺสริตฺวา ‘‘ปุเพฺพปาหํ เอวํเวทโน อโหสิ’’นฺติ อตีตานํ รูปเวทนาทีนํ ปจฺจุปฺปเนฺนหิ วิเสสาภาวทสฺสนา วิปสฺสนา, ตสฺสา วิปสฺสนาย วเสนฯ ยฺวายํ ‘‘น อิทํ อภิญฺญาวเสนา’’ติ ปฎิเกฺขโป กโต, ตสฺส การณํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อภิญฺญาวเสน หี’’ติอาทิมาหฯ ขนฺธปฎิพทฺธา นาม โคตฺตวณฺณหาราทโยฯ เอวํ อนุสฺสรโนฺตติ ยถาวุตฺตวิปสฺสนาวเสน อนุสฺสรโนฺตฯ สภาวธมฺมานํ เอว อนุสฺสรณสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘สุญฺญตาปพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ
79.Vipassanāvasenāti etarahi rūpavedanādayo anussaritvā ‘‘pubbepāhaṃ evaṃvedano ahosi’’nti atītānaṃ rūpavedanādīnaṃ paccuppannehi visesābhāvadassanā vipassanā, tassā vipassanāya vasena. Yvāyaṃ ‘‘na idaṃ abhiññāvasenā’’ti paṭikkhepo kato, tassa kāraṇaṃ dassento ‘‘abhiññāvasena hī’’tiādimāha. Khandhapaṭibaddhā nāma gottavaṇṇahārādayo. Evaṃ anussarantoti yathāvuttavipassanāvasena anussaranto. Sabhāvadhammānaṃ eva anussaraṇassa vuttattā ‘‘suññatāpabba’’nti vuttaṃ.
ยสฺมา เต เอว รูปาทโย เนว อตฺตา, น อตฺตนิยา อสารา อนิสฺสรา, ตสฺมา ตโต สุญฺญา, เตสํ ภาโว สุญฺญตา, ตสฺสา ลกฺขณํ รุปฺปนาทิกํ ทเสฺสตุํฯ
Yasmā te eva rūpādayo neva attā, na attaniyā asārā anissarā, tasmā tato suññā, tesaṃ bhāvo suññatā, tassā lakkhaṇaṃ ruppanādikaṃ dassetuṃ.
กิญฺจาติ เหตุอตฺถโชตเก การเณ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘กิญฺจาติ การณปุจฺฉา, เกน การเณน รูปํ วเทถา’’ติฯ เอตนฺติ เอตํ ภูตุปาทายเภทํ ธมฺมชาตํฯ เกน การเณน รูปํ นามาติ กิํ การณํ นิสฺสาย รูปนฺติ วุจฺจตีติ อโตฺถฯ การณุเทฺทโสติ การณสฺส อุทฺทิสนํฯ รุปฺปตีติ เอตฺถ รูปํ นาม สีตาทิวิโรธิปจฺจยสนฺนิปาเตน วิสทิสุปฺปตฺติฯ เตนาห ‘‘สีเตนปี’’ติอาทิฯ ปพฺพตปาเทติ จกฺกวาฬปพฺพตปาเท, โส ปน ตตฺถ อจฺจุคฺคโต ปากาโร วิย ฐิโตฯ ตถา หิ ตตฺถ สตฺตา โอลมฺพนฺตา ติฎฺฐนฺติฯ หตฺถปาสาคตาติ หตฺถปาสํ อาคตา อุปาคตาฯ ตตฺถาติ ตสฺมิํ หตฺถปาสาคเต สเตฺตฯ ฉิชฺชิตฺวาติ มุจฺฉาปตฺติยา มุจฺจิตฺวา, องฺคปจฺจงฺคอุเจฺฉทวเสน วา ปริจฺฉิชฺชิตฺวาฯ อจฺจนฺตขาเร อุทเกติ อาตปสนฺตาปาภาเวน อติสีตภาวเมว สนฺธาย อจฺจนฺตขารตา วุตฺตา สิยาฯ น หิ ตํ กปฺปสณฺฐานอุทกํ สมฺปตฺติกรมหาเมฆวุฎฺฐํ ปถวีสนฺธารกํ กปฺปวินาสอุทกํ วิย ขารํ ภวิตุํ อรหติ, ตถา สติ ปถวีปิ วิลีเยยฺยาติฯ มหิํสกรฎฺฐํ นาม หิมวนฺตปเทเส เอกํ รฎฺฐํฯ
Kiñcāti hetuatthajotake kāraṇe paccattavacananti āha ‘‘kiñcāti kāraṇapucchā, kena kāraṇena rūpaṃ vadethā’’ti. Etanti etaṃ bhūtupādāyabhedaṃ dhammajātaṃ. Kena kāraṇena rūpaṃ nāmāti kiṃ kāraṇaṃ nissāya rūpanti vuccatīti attho. Kāraṇuddesoti kāraṇassa uddisanaṃ. Ruppatīti ettha rūpaṃ nāma sītādivirodhipaccayasannipātena visadisuppatti. Tenāha ‘‘sītenapī’’tiādi. Pabbatapādeti cakkavāḷapabbatapāde, so pana tattha accuggato pākāro viya ṭhito. Tathā hi tattha sattā olambantā tiṭṭhanti. Hatthapāsāgatāti hatthapāsaṃ āgatā upāgatā. Tatthāti tasmiṃ hatthapāsāgate satte. Chijjitvāti mucchāpattiyā muccitvā, aṅgapaccaṅgaucchedavasena vā paricchijjitvā. Accantakhāre udaketi ātapasantāpābhāvena atisītabhāvameva sandhāya accantakhāratā vuttā siyā. Na hi taṃ kappasaṇṭhānaudakaṃ sampattikaramahāmeghavuṭṭhaṃ pathavīsandhārakaṃ kappavināsaudakaṃ viya khāraṃ bhavituṃ arahati, tathā sati pathavīpi vilīyeyyāti. Mahiṃsakaraṭṭhaṃ nāma himavantapadese ekaṃ raṭṭhaṃ.
อวีจิมหานิรเยติ สอุสฺสทํ อวีจินิรยํ วุตฺตํฯ คงฺคาปิเฎฺฐติ คงฺคาตีเรฯ
Avīcimahānirayeti saussadaṃ avīcinirayaṃ vuttaṃ. Gaṅgāpiṭṭheti gaṅgātīre.
สรนฺตา คจฺฉนฺตีติ สรีสปปทสฺส อตฺถํ วทติฯ เอตนฺติ รุปฺปนํฯ ยถา กฐินตา ปถวิยา ปจฺจตฺตลกฺขณํ, เอวํ รุปฺปนํ รูปกฺขนฺธสฺส ปจฺจตฺตลกฺขณํ, สภาวภูตลกฺขณนฺติ อโตฺถฯ
Sarantā gacchantīti sarīsapapadassa atthaṃ vadati. Etanti ruppanaṃ. Yathā kaṭhinatā pathaviyā paccattalakkhaṇaṃ, evaṃ ruppanaṃ rūpakkhandhassa paccattalakkhaṇaṃ, sabhāvabhūtalakkhaṇanti attho.
ปุริมสทิสนฺติ ปุริเม รูปกฺขเนฺธ วุเตฺตน สทิสํฯ ตํ ‘‘กินฺติ การณปุจฺฉา’’ติอาทินา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ สุขํ อิฎฺฐารมฺมณํฯ สุขาทีนํ เวทนานํฯ ปจฺจยโตติ อารมฺมณปจฺจยโตฯ อยมโตฺถติ ‘‘สุขารมฺมณํ สุขนฺติ วุจฺจตี’’ติ อยมโตฺถฯ อุตฺตรปทโลเปน เหส นิเทฺทโสฯ เวทยตีติ อนุภวติฯ เวทยิตลกฺขณาติ อนุภวนลกฺขณาฯ
Purimasadisanti purime rūpakkhandhe vuttena sadisaṃ. Taṃ ‘‘kinti kāraṇapucchā’’tiādinā vuttanayeneva veditabbaṃ. Sukhaṃ iṭṭhārammaṇaṃ. Sukhādīnaṃ vedanānaṃ. Paccayatoti ārammaṇapaccayato. Ayamatthoti ‘‘sukhārammaṇaṃ sukhanti vuccatī’’ti ayamattho. Uttarapadalopena hesa niddeso. Vedayatīti anubhavati. Vedayitalakkhaṇāti anubhavanalakkhaṇā.
นีลปุเปฺผติ นีลวณฺณปุเปฺผฯ วเตฺถ วาติ นีลวเตฺถฯ วา-สเทฺทน วณฺณธาตุอาทิํ สงฺคณฺหาติฯ อปฺปนํ วา ฌานํ วาเปโนฺตฯ อุปฺปชฺชนสญฺญาปีติ ยํ กิญฺจิ นีลํ รูปายตนํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนสญฺญาปิ, ยา ปกิณฺณกสญฺญาติ วุจฺจติฯ
Nīlapuppheti nīlavaṇṇapupphe. Vatthe vāti nīlavatthe. Vā-saddena vaṇṇadhātuādiṃ saṅgaṇhāti. Appanaṃ vā jhānaṃ vāpento. Uppajjanasaññāpīti yaṃ kiñci nīlaṃ rūpāyatanaṃ ārabbha uppajjanasaññāpi, yā pakiṇṇakasaññāti vuccati.
รูปตฺตายาติ รูปภาวายฯ ยาคุเมวาติ ยาคุภาวินเมว วตฺถุํฯ ยาคุตฺตาย ยาคุภาวายฯ ปจติ นาม ปุคฺคโลฯ เอวนฺติ ยถา ยาคุอาทิวตฺถุํ ปุริโส ยาคุอาทิอตฺถาย ปจติ นิปฺผาเทติ, อยํ เอวํ รุปฺปนาทิสภาเว ธมฺมสมูเห ยถาสกํ ปจฺจเยหิ อภิสงฺขริยมาเน เจตนาปธาโน ธมฺมสมูโห ปวตฺตนตฺถํ วิเสสปจฺจโย หุตฺวา เต อภิสงฺขโรติ นิโรเปติ นิพฺพเตฺตติฯ เตนาห ‘‘ปจฺจเยหี’’ติอาทิฯ รูปเมวาติ รูปสภาวเมว, น อญฺญํ สภาวํฯ อภิสงฺขโรตีติ อิตเรหิ ปจฺจยธเมฺมหิ อธิกํ สุฎฺฐุ ปจฺจยตํ กโรติฯ ‘‘อุปคจฺฉติ ยาเปติ อายูหตี’’ติ ตเสฺสว เววจนานิฯ อภิสงฺขรณเมว หิ อายูหนาทีนิฯ นิพฺพเตฺตตีติ เตสํ ธมฺมานํ รุปฺปนาทิภาเวน นิพฺพตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ อโตฺถฯ เจตยิตลกฺขณสฺส สงฺขารสฺสาติ อิทํ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมานํ เจตนาปธานตฺตา วุตฺตํฯ ตถา หิ ภควา สุตฺตนฺตภาชนีเย สงฺขารกฺขนฺธํ วิภชเนฺตน เจตนาว วิภตฺตาฯ
Rūpattāyāti rūpabhāvāya. Yāgumevāti yāgubhāvinameva vatthuṃ. Yāguttāya yāgubhāvāya. Pacati nāma puggalo. Evanti yathā yāguādivatthuṃ puriso yāguādiatthāya pacati nipphādeti, ayaṃ evaṃ ruppanādisabhāve dhammasamūhe yathāsakaṃ paccayehi abhisaṅkhariyamāne cetanāpadhāno dhammasamūho pavattanatthaṃ visesapaccayo hutvā te abhisaṅkharoti niropeti nibbatteti. Tenāha ‘‘paccayehī’’tiādi. Rūpamevāti rūpasabhāvameva, na aññaṃ sabhāvaṃ. Abhisaṅkharotīti itarehi paccayadhammehi adhikaṃ suṭṭhu paccayataṃ karoti. ‘‘Upagacchati yāpeti āyūhatī’’ti tasseva vevacanāni. Abhisaṅkharaṇameva hi āyūhanādīni. Nibbattetīti tesaṃ dhammānaṃ ruppanādibhāvena nibbattiyā paccayo hotīti attho. Cetayitalakkhaṇassa saṅkhārassāti idaṃ saṅkhārakkhandhadhammānaṃ cetanāpadhānattā vuttaṃ. Tathā hi bhagavā suttantabhājanīye saṅkhārakkhandhaṃ vibhajantena cetanāva vibhattā.
วาติงฺคณํ พฺรหติผลํฯ จตุรสฺสวลฺลีติ ติวุตาลตาฯ อขาริกนฺติ ขารรสรหิตํ, ตํ ปน ปณฺณผลาทิฯ ยตฺถ โลณรโส อธิโก, ตํ โลณิกนฺติ อาห ‘‘โลณยาคู’’ติอาทิฯ อมฺพิลาทิเภทํ รสํฯ
Vātiṅgaṇaṃ brahatiphalaṃ. Caturassavallīti tivutālatā. Akhārikanti khārarasarahitaṃ, taṃ pana paṇṇaphalādi. Yattha loṇaraso adhiko, taṃ loṇikanti āha ‘‘loṇayāgū’’tiādi. Ambilādibhedaṃ rasaṃ.
อาการสณฺฐานคหณวเสนาติ นีลปีตาทิอาการคหณวเสน เจว วฎฺฎจตุรสฺสาทิสณฺฐานคหณวเสน จฯ วินาปิ อาการสณฺฐานาติ อาการสณฺฐาเนหิ วินา, เต ฐเปตฺวาปิฯ ปจฺจตฺตเภทคหณวเสนาติ ตสฺส ตสฺส อารมฺมณสฺส ปเภทคหณวเสนฯ อสโมฺมหโตติ ยาถาวโตฯ วิเสโส วิเสสตฺถทีปนโต, อวิเสโส อยํ ธโมฺม อวิเสสทีปนโตฯ เตนาห ‘‘วิเสโส เวทิตโพฺพ’’ติฯ ชานนญฺหิ อวิสิฎฺฐํ, ตํ สมาสปทโต อุปสคฺคา วิเสเสนฺติฯ ตถา หิ สญฺชานนปทํ ปจฺจภิญฺญาณนิมิตฺตํ อาการคหณมตฺตํ โพเธติ, วิชานนปทํ ตโต วิสิฎฺฐวิสยคหณํ ฯ ปชานนปทํ ปน ตโตปิ วิสิฎฺฐตรํ ปการโต อวโพธํ โพเธติฯ เตนาห ‘‘ตสฺสาปี’’ติอาทิฯ อารมฺมณสญฺชานนมตฺตเมวาติ นีลาทิเภทสฺส อารมฺมณสฺส สลฺลกฺขณมตฺตเมวฯ อวธารเณน ลกฺขณปฎิเวธตฺตํ นิวเตฺตติฯ เตนาห ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทิฯ ญาณสมฺปยุตฺตจิเตฺตหิ วิปสฺสนฺตสฺส วิปสฺสนาย ปคุณภาเว สติ ญาณวิปฺปยุเตฺตน จิเตฺตนปิ วิปสฺสนา โหติเยวาติ อาห ‘‘อนิจฺจาทิวเสน ลกฺขณปฎิเวธญฺจ ปาเปตี’’ติฯ ปฎิเวธนฺติ จ อุปลทฺธิเมว วทติ, น ปฎิวิชฺฌนํฯ เตนาห ‘‘อุสฺสกฺกิตฺวา ปนา’’ติอาทิฯ อุสฺสกฺกิตฺวาติ อุสฺสกฺกาเปตฺวา มคฺคปาตุภาวมฺปิ ปาเปติ อสโมฺมหสภาวตฺตาฯ ยถา ลกฺขณปฎิเวธกาเล สญฺชานนลกฺขณวเสน สญฺญาณอนุรูปวเสเนว ปวตฺตํ, เอวํ วิญฺญาณวิชานนวเสน วายํ อนุรูปวเสเนว ปวตฺตตีติ ทฎฺฐพฺพํฯ
Ākārasaṇṭhānagahaṇavasenāti nīlapītādiākāragahaṇavasena ceva vaṭṭacaturassādisaṇṭhānagahaṇavasena ca. Vināpi ākārasaṇṭhānāti ākārasaṇṭhānehi vinā, te ṭhapetvāpi. Paccattabhedagahaṇavasenāti tassa tassa ārammaṇassa pabhedagahaṇavasena. Asammohatoti yāthāvato. Viseso visesatthadīpanato, aviseso ayaṃ dhammo avisesadīpanato. Tenāha ‘‘viseso veditabbo’’ti. Jānanañhi avisiṭṭhaṃ, taṃ samāsapadato upasaggā visesenti. Tathā hi sañjānanapadaṃ paccabhiññāṇanimittaṃ ākāragahaṇamattaṃ bodheti, vijānanapadaṃ tato visiṭṭhavisayagahaṇaṃ . Pajānanapadaṃ pana tatopi visiṭṭhataraṃ pakārato avabodhaṃ bodheti. Tenāha ‘‘tassāpī’’tiādi. Ārammaṇasañjānanamattamevāti nīlādibhedassa ārammaṇassa sallakkhaṇamattameva. Avadhāraṇena lakkhaṇapaṭivedhattaṃ nivatteti. Tenāha ‘‘anicca’’ntiādi. Ñāṇasampayuttacittehi vipassantassa vipassanāya paguṇabhāve sati ñāṇavippayuttena cittenapi vipassanā hotiyevāti āha ‘‘aniccādivasena lakkhaṇapaṭivedhañca pāpetī’’ti. Paṭivedhanti ca upaladdhimeva vadati, na paṭivijjhanaṃ. Tenāha ‘‘ussakkitvā panā’’tiādi. Ussakkitvāti ussakkāpetvā maggapātubhāvampi pāpeti asammohasabhāvattā. Yathā lakkhaṇapaṭivedhakāle sañjānanalakkhaṇavasena saññāṇaanurūpavaseneva pavattaṃ, evaṃ viññāṇavijānanavasena vāyaṃ anurūpavaseneva pavattatīti daṭṭhabbaṃ.
อิทานิ ตมตฺถํ เหรญฺญิกาทิอุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาหฯ หิรญฺญํ วุจฺจติ กหาปณํ, หิรญฺญชานเน นิยุโตฺต เหรญฺญิโกฯ โลกโวหาเร อชาตา อสญฺชาตา พุทฺธิ เอตสฺสาติ อชาตพุทฺธิ, พาลทารโกฯ โวหารกุสโล คามวาสี ปุริโส คามิกปุริโสฯ อุปโภคปริโภคารหตฺตา อุปโภคปริโภคํฯ ตมฺพกํสมยตฺตา กูโฎฯ มหาสารตฺตา เฉโกฯ อฑฺฒสารตฺตา กรโฎฯ นิหีนสารตฺตา สโณฺหฯ เอตฺถ จ ยถา เหรญฺญิโก กหาปณํ จิตฺตาทิภาวโต อุทฺธํ กูฎาทิภาวํ รูปทสฺสนาทิวเสน อุปฺปตฺติฎฺฐานโตปิ ชานโนฺต อเนกาการโต ชานาติ, เอวํ ปญฺญา อารมฺมณํ นานปฺปการโต ชานาติ ปฎิวิชฺฌติ, ตาย สทฺธิํ ปวตฺตมานวิญฺญาณมฺปิ ยถาวิสยํ อารมฺมณํ ชานาติฯ
Idāni tamatthaṃ heraññikādiupamāya vibhāvetuṃ ‘‘yathā hī’’tiādimāha. Hiraññaṃ vuccati kahāpaṇaṃ, hiraññajānane niyutto heraññiko. Lokavohāre ajātā asañjātā buddhi etassāti ajātabuddhi, bāladārako. Vohārakusalo gāmavāsī puriso gāmikapuriso. Upabhogaparibhogārahattā upabhogaparibhogaṃ. Tambakaṃsamayattā kūṭo. Mahāsārattā cheko. Aḍḍhasārattā karaṭo. Nihīnasārattā saṇho. Ettha ca yathā heraññiko kahāpaṇaṃ cittādibhāvato uddhaṃ kūṭādibhāvaṃ rūpadassanādivasena uppattiṭṭhānatopi jānanto anekākārato jānāti, evaṃ paññā ārammaṇaṃ nānappakārato jānāti paṭivijjhati, tāya saddhiṃ pavattamānaviññāṇampi yathāvisayaṃ ārammaṇaṃ jānāti.
เอวํ สฺวายํ เนสํ ชานเน วิเสโส อเญฺญสํ อวิสโย, พุทฺธานํ เอว วิสโยติ อิทํ วิเสสํ มิลินฺทปเญฺหน วิภาเวตุํ ‘‘เตนาหา’’ติอาทิมาห, ตํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Evaṃ svāyaṃ nesaṃ jānane viseso aññesaṃ avisayo, buddhānaṃ eva visayoti idaṃ visesaṃ milindapañhena vibhāvetuṃ ‘‘tenāhā’’tiādimāha, taṃ suviññeyyameva.
อตฺตสุญฺญานํ สภาวธมฺมานํ ธมฺมมตฺตตาย กถิตตฺตา ‘‘อนตฺตลกฺขณํ กเถตฺวา’’ติ วุตฺตํฯ เหฎฺฐิมมคฺคา จ ยทิ อธิคตา, อรหตฺตสฺส อนธิคตตฺตา ‘‘เอกเทสมเตฺตนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อนิจฺจลกฺขณํ ทเสฺสตุํ อิทํ ปพฺพมารทฺธํ, อิตรานิ เทฺว ลกฺขณานิ ตสฺส ปริหารภาเวนาติ อธิปฺปาโยฯ
Attasuññānaṃ sabhāvadhammānaṃ dhammamattatāya kathitattā ‘‘anattalakkhaṇaṃ kathetvā’’ti vuttaṃ. Heṭṭhimamaggā ca yadi adhigatā, arahattassa anadhigatattā ‘‘ekadesamattenā’’ti vuttaṃ, taṃ aniccalakkhaṇaṃ dassetuṃ idaṃ pabbamāraddhaṃ, itarāni dve lakkhaṇāni tassa parihārabhāvenāti adhippāyo.
ยสฺมา ปเนตฺถ ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว’’ติอาทิเทสนาย ตีสุ ลกฺขเณสุ อิทเมว ปธานภาเวน ทสฺสิตํ, อิทํ อปฺปธานภาเวนาติ น สกฺกา วตฺตุํ, ตสฺมา ‘‘ตีณิ ลกฺขณานิ สโมธาเนตฺวา ทเสฺสตุมฺปี’’ติ วุตฺตํฯ อปจินาตีติ อปจยคามิธเมฺม นิวเตฺตติ เอกํสโต อปจยคามิปฎิปทาย ปริปูรณโตฯ เตนาห ‘‘โน อาจินาตี’’ติอาทิฯ วฎฺฎํ วินาเสตีติ วิธมติ อทสฺสนํ คเมติฯ เนว จินาตีติ น วเฑฺฒติฯ ตเทวาติ ตํ วฎฺฎํ เอวฯ วิสฺสเชฺชตีติ ฉเฑฺฑติฯ วิกิรตีติ วิทฺธํเสติฯ วิธูเปตีติ วฎฺฎตฺตยสงฺขาตํ อคฺคิกฺขนฺธํ วิคตธูมํ วิคตสนฺตาปํ กโรตีติ อโตฺถติ อาห ‘‘นิพฺพาเปตี’’ติฯ
Yasmā panettha ‘‘taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave’’tiādidesanāya tīsu lakkhaṇesu idameva padhānabhāvena dassitaṃ, idaṃ appadhānabhāvenāti na sakkā vattuṃ, tasmā ‘‘tīṇi lakkhaṇāni samodhānetvā dassetumpī’’ti vuttaṃ. Apacinātīti apacayagāmidhamme nivatteti ekaṃsato apacayagāmipaṭipadāya paripūraṇato. Tenāha ‘‘no ācinātī’’tiādi. Vaṭṭaṃ vināsetīti vidhamati adassanaṃ gameti. Neva cinātīti na vaḍḍheti. Tadevāti taṃ vaṭṭaṃ eva. Vissajjetīti chaḍḍeti. Vikiratīti viddhaṃseti. Vidhūpetīti vaṭṭattayasaṅkhātaṃ aggikkhandhaṃ vigatadhūmaṃ vigatasantāpaṃ karotīti atthoti āha ‘‘nibbāpetī’’ti.
เอวํ ปสฺสนฺติอาทิ อนาคามิผเล ฐิตสฺส อริยสาวกสฺส อคฺคมคฺคผลาธิคมาย เทสนาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วฎฺฎํ วินาเสตฺวา ฐิตํ มหาขีณาสวํ ทเสฺสสฺสามี’’ติฯ ขีณาสวสฺส อนาคตภาวทสฺสนํเยว, สพฺพา จายํ เหฎฺฐิมา เทสนา สุทฺธวิปสฺสนากถา, สหปฐมมคฺคา วา สหวิชฺชูปมธมฺมา วา วิปสฺสนากถาติ ทเสฺสโนฺต ‘‘เอตฺตเกน ฐาเนนา’’ติอาทิมาหฯ
Evaṃ passantiādi anāgāmiphale ṭhitassa ariyasāvakassa aggamaggaphalādhigamāya desanāti adhippāyenāha ‘‘vaṭṭaṃ vināsetvā ṭhitaṃ mahākhīṇāsavaṃ dassessāmī’’ti. Khīṇāsavassa anāgatabhāvadassanaṃyeva, sabbā cāyaṃ heṭṭhimā desanā suddhavipassanākathā, sahapaṭhamamaggā vā sahavijjūpamadhammā vā vipassanākathāti dassento ‘‘ettakena ṭhānenā’’tiādimāha.
นมสฺสนฺติเยว มหตา คารวพหุมาเนนฯ เตนาห ‘‘นโม เต ปุริสาชญฺญา’’ติอาทิฯ ตตฺถ นิทสฺสนํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อายสฺมนฺตํ นีตเตฺถรํ วิยา’’ติ วตฺวา ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘เถโร’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ ขุรเคฺคเยวาติ เกโสโรปนตฺถํ ขุรธาราย อเคฺค สีเส ฐปิเต ตจปญฺจกกมฺมฎฺฐานมุเขน ภาวนํ อนุยุญฺชโนฺต อรหตฺตํ ปตฺวาฯ พฺรหฺมวิมานาติ พฺรหฺมานํ นิวาสภูตา วิมานาฯ
Namassantiyeva mahatā gāravabahumānena. Tenāha ‘‘namo te purisājaññā’’tiādi. Tattha nidassanaṃ dassento ‘‘āyasmantaṃ nītattheraṃ viyā’’ti vatvā tamatthaṃ vibhāvetuṃ ‘‘thero’’tiādimāha. Tattha khuraggeyevāti kesoropanatthaṃ khuradhārāya agge sīse ṭhapite tacapañcakakammaṭṭhānamukhena bhāvanaṃ anuyuñjanto arahattaṃ patvā. Brahmavimānāti brahmānaṃ nivāsabhūtā vimānā.
ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Khajjanīyasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๗. ขชฺชนียสุตฺตํ • 7. Khajjanīyasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. ขชฺชนียสุตฺตวณฺณนา • 7. Khajjanīyasuttavaṇṇanā