Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā |
๖. ขณฺฑสุมนเตฺถรคาถาวณฺณนา
6. Khaṇḍasumanattheragāthāvaṇṇanā
เอกปุปฺผํ จชิตฺวานาติ อายสฺมโต ขณฺฑสุมนเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โส กิร ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล กุลเคเห นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปโตฺต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต ตสฺส ถูปสฺส สมนฺตโต จนฺทนเวทิกาย ปริกฺขิปิตฺวา มหนฺตํ ปูชํ อกาสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวมนุเสฺสสุ อุฬารํ สมฺปตฺติํ อนุภวโนฺต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล กุฎุมฺพิกกุเล นิพฺพโตฺต สตฺถริ ปรินิพฺพุเต กนกถูปํ อุทฺทิสฺส รญฺญา ปุปฺผปูชาย กยิรมานาย ปุปฺผานิ อลภโนฺต เอกํ ขณฺฑสุมนปุปฺผํ ทิสฺวา มหตา มูเลน ตํ กิณิตฺวา คณฺหโนฺต เจติเย ปูชํ กโรโนฺต อุฬารํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปาเทสิฯ โส เตน ปุญฺญกเมฺมน เทวโลเก นิพฺพตฺติตฺวา อสีติ วสฺสโกฎิโย สคฺคสุขํ อนุภวิตฺวา อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ปาวายํ มลฺลราชกุเล นิพฺพตฺติฯ ตสฺส ชาตกาเล เคเห ขณฺฑสกฺขรา สุมนปุปฺผานิ จ อุปฺปนฺนานิ อเหสุํฯ เตนสฺส ขณฺฑสุมโนติ นามมกํสุฯ โส วิญฺญุตํ ปโตฺต ภควติ ปาวายํ จุนฺทสฺส อมฺพวเน วิหรเนฺต อุปสงฺกมิตฺวา ธมฺมํ สุตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา วิปสฺสนาย กมฺมํ กโรโนฺต นจิรเสฺสว ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๕.๑๕-๒๐) –
Ekapupphaṃcajitvānāti āyasmato khaṇḍasumanattherassa gāthā. Kā uppatti? So kira padumuttarassa bhagavato kāle kulagehe nibbattitvā viññutaṃ patto satthari parinibbute tassa thūpassa samantato candanavedikāya parikkhipitvā mahantaṃ pūjaṃ akāsi. So tena puññakammena devamanussesu uḷāraṃ sampattiṃ anubhavanto kassapassa bhagavato kāle kuṭumbikakule nibbatto satthari parinibbute kanakathūpaṃ uddissa raññā pupphapūjāya kayiramānāya pupphāni alabhanto ekaṃ khaṇḍasumanapupphaṃ disvā mahatā mūlena taṃ kiṇitvā gaṇhanto cetiye pūjaṃ karonto uḷāraṃ pītisomanassaṃ uppādesi. So tena puññakammena devaloke nibbattitvā asīti vassakoṭiyo saggasukhaṃ anubhavitvā imasmiṃ buddhuppāde pāvāyaṃ mallarājakule nibbatti. Tassa jātakāle gehe khaṇḍasakkharā sumanapupphāni ca uppannāni ahesuṃ. Tenassa khaṇḍasumanoti nāmamakaṃsu. So viññutaṃ patto bhagavati pāvāyaṃ cundassa ambavane viharante upasaṅkamitvā dhammaṃ sutvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā vipassanāya kammaṃ karonto nacirasseva chaḷabhiñño ahosi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.15.15-20) –
‘‘ปทุมุตฺตโร นาม ชิโน, โลกเชโฎฺฐ นราสโภ;
‘‘Padumuttaro nāma jino, lokajeṭṭho narāsabho;
ชลิตฺวา อคฺคิกฺขโนฺธว, สมฺพุโทฺธ ปรินิพฺพุโตฯ
Jalitvā aggikkhandhova, sambuddho parinibbuto.
‘‘นิพฺพุเต จ มหาวีเร, ถูโป วิตฺถาริโก อหุ;
‘‘Nibbute ca mahāvīre, thūpo vitthāriko ahu;
ทูรโตว อุปเฎฺฐนฺติ, ธาตุเคหวรุตฺตเมฯ
Dūratova upaṭṭhenti, dhātugehavaruttame.
‘‘ปสนฺนจิโตฺต, สุมโน, อกํ จนฺทนเวทิกํ;
‘‘Pasannacitto, sumano, akaṃ candanavedikaṃ;
ทิสฺสติ ถูปขโนฺธ จ, ถูปานุจฺฉวิโก ตทาฯ
Dissati thūpakhandho ca, thūpānucchaviko tadā.
‘‘ภเว นิพฺพตฺตมานมฺหิ, เทวเตฺต อถ มานุเส;
‘‘Bhave nibbattamānamhi, devatte atha mānuse;
โอมตฺตํ เม น ปสฺสามิ, ปุพฺพกมฺมสฺสิทํ ผลํฯ
Omattaṃ me na passāmi, pubbakammassidaṃ phalaṃ.
‘‘ปญฺจทสกปฺปสเต, อิโต อฎฺฐ ชนา อหุํ;
‘‘Pañcadasakappasate, ito aṭṭha janā ahuṃ;
สเพฺพ สมตฺตนามา เต จกฺกวตฺตี มหพฺพลาฯ
Sabbe samattanāmā te cakkavattī mahabbalā.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.
อรหตฺตํ ปน ปตฺวา อตฺตโน ปุริมชาติํ อนุสฺสรโนฺต ตตฺถ อตฺตโน สุมนปุปฺผปริจฺจาคสฺส สคฺคสมฺปตฺตินิมิตฺตกํ นิพฺพานูปนิสฺสยตญฺจ ทิสฺวา อุทานวเสน ตมตฺถํ ปกาเสโนฺต –
Arahattaṃ pana patvā attano purimajātiṃ anussaranto tattha attano sumanapupphapariccāgassa saggasampattinimittakaṃ nibbānūpanissayatañca disvā udānavasena tamatthaṃ pakāsento –
๙๖.
96.
‘‘เอกปุปฺผํ จชิตฺวาน, อสีติ วสฺสโกฎิโย;
‘‘Ekapupphaṃ cajitvāna, asīti vassakoṭiyo;
สเคฺคสุ ปริจาเรตฺวา, เสสเกนมฺหิ นิพฺพุโต’’ติฯ – คาถํ อภาสิ;
Saggesu paricāretvā, sesakenamhi nibbuto’’ti. – gāthaṃ abhāsi;
ตตฺถ เอกปุปฺผนฺติ เอกํ กุสุมํ, ตํ ปน อิธ สุมนปุปฺผํ อธิเปฺปตํฯ จชิตฺวานาติ สตฺถุ ถูปปูชากรณวเสน ปริจฺจชิตฺวา ปริจฺจาคเหตุฯ อสีติ วสฺสโกฎิโยติ มนุสฺสคณนาย วสฺสานํ อสีติ โกฎิโย, อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ, อิทญฺจ ฉสุ กามสเคฺคสุ ทุติเย อปราปรุปฺปตฺติวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ตสฺมา สเคฺคสูติ ตาวติํสสงฺขาเต สคฺคโลเก, ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนวเสน เหตฺถ พหุวจนํฯ ปริจาเรตฺวาติ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อินฺทฺริยานิ ปริจาเรตฺวา สุขํ อนุภวิตฺวา, เทวจฺฉราหิ วา อตฺตานํ ปริจาเรตฺวา อุปฎฺฐาเปตฺวาฯ เสสเกนมฺหิ นิพฺพุโตติ ปุปฺผปูชาย วเสน ปวตฺตกุสลเจตนาสุ ภวสมฺปตฺติ ทายกกมฺมโต เสเสน ยํ ตตฺถ วิวฎฺฎูปนิสฺสยภูตํ, ตํ สนฺธาย วทติฯ พหู หิ ตตฺถ ปุพฺพาปรวเสน ปวตฺตา เจตนาฯ เสสเกนาติ วา ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสน อปริกฺขีเณเยว ตสฺมิํ กมฺมวิปาเก นิพฺพุโต อมฺหิ, กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพุโตสฺมิฯ เอเตน ยสฺมิํ อตฺตภาเว ฐตฺวา อตฺตนา อรหตฺตํ สจฺฉิกตํ, โสปิ จริมตฺตภาโว ตสฺส กมฺมวิปาโกติ ทเสฺสติฯ ยาทิสํ สนฺธาย อญฺญตฺถาปิ ‘‘ตเสฺสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ (ปารา. ๒๒๘; สํ. นิ. ๑.๑๓๑) วุตฺตํฯ
Tattha ekapupphanti ekaṃ kusumaṃ, taṃ pana idha sumanapupphaṃ adhippetaṃ. Cajitvānāti satthu thūpapūjākaraṇavasena pariccajitvā pariccāgahetu. Asīti vassakoṭiyoti manussagaṇanāya vassānaṃ asīti koṭiyo, accantasaṃyoge cetaṃ upayogavacanaṃ, idañca chasu kāmasaggesu dutiye aparāparuppattivasena vuttanti veditabbaṃ. Tasmā saggesūti tāvatiṃsasaṅkhāte saggaloke, punappunaṃ uppajjanavasena hettha bahuvacanaṃ. Paricāretvāti rūpādīsu ārammaṇesu indriyāni paricāretvā sukhaṃ anubhavitvā, devaccharāhi vā attānaṃ paricāretvā upaṭṭhāpetvā. Sesakenamhi nibbutoti pupphapūjāya vasena pavattakusalacetanāsu bhavasampatti dāyakakammato sesena yaṃ tattha vivaṭṭūpanissayabhūtaṃ, taṃ sandhāya vadati. Bahū hi tattha pubbāparavasena pavattā cetanā. Sesakenāti vā tasseva kammassa vipākāvasesena aparikkhīṇeyeva tasmiṃ kammavipāke nibbuto amhi, kilesaparinibbānena parinibbutosmi. Etena yasmiṃ attabhāve ṭhatvā attanā arahattaṃ sacchikataṃ, sopi carimattabhāvo tassa kammavipākoti dasseti. Yādisaṃ sandhāya aññatthāpi ‘‘tasseva kammassa vipākāvasesenā’’ti (pārā. 228; saṃ. ni. 1.131) vuttaṃ.
ขณฺฑสุมนเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Khaṇḍasumanattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๖. ขณฺฑสุมนเตฺถรคาถา • 6. Khaṇḍasumanattheragāthā