Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๙. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตํ
9. Khippanisantisuttaṃ
๑๖๙. อถ โข อายสฺมา อานโนฺท เยนายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุเตฺตน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ 1 วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา อานโนฺท อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
169. Atha kho āyasmā ānando yenāyasmā sāriputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā sāriputtena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ 2 vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā ānando āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca –
‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ, กุสเลสุ ธเมฺมสุ สุคฺคหิตคฺคาหี จ, พหุญฺจ คณฺหาติ, คหิตญฺจสฺส นปฺปมุสฺสตี’’ติ? ‘‘อายสฺมา โข อานโนฺท พหุสฺสุโตฯ ปฎิภาตุ อายสฺมนฺตํเยว อานนฺท’’นฺติฯ ‘‘เตนหาวุโส สาริปุตฺต, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต อายสฺมโต อานนฺทสฺส ปจฺจโสฺสสิฯ อายสฺมา อานโนฺท เอตทโวจ –
‘‘Kittāvatā nu kho, āvuso sāriputta, bhikkhu khippanisanti ca hoti, kusalesu dhammesu suggahitaggāhī ca, bahuñca gaṇhāti, gahitañcassa nappamussatī’’ti? ‘‘Āyasmā kho ānando bahussuto. Paṭibhātu āyasmantaṃyeva ānanda’’nti. ‘‘Tenahāvuso sāriputta, suṇāhi, sādhukaṃ manasi karohi; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho āyasmā sāriputto āyasmato ānandassa paccassosi. Āyasmā ānando etadavoca –
‘‘อิธาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อตฺถกุสโล จ โหติ, ธมฺมกุสโล จ, พฺยญฺชนกุสโล จ , นิรุตฺติกุสโล จ, ปุพฺพาปรกุสโล จฯ เอตฺตาวตา โข , อาวุโส สาริปุตฺต, ภิกฺขุ ขิปฺปนิสนฺติ จ โหติ กุสเลสุ ธเมฺมสุ, สุคฺคหิตคฺคาหี จ, พหุญฺจ คณฺหาติ, คหิตญฺจสฺส นปฺปมุสฺสตี’’ติฯ ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส! อพฺภุตํ, อาวุโส!! ยาว สุภาสิตํ จิทํ อายสฺมตา อานเนฺทนฯ อิเมหิ จ มยํ ปญฺจหิ ธเมฺมหิ สมนฺนาคตํ อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ธาเรม – ‘อายสฺมา อานโนฺท อตฺถกุสโล ธมฺมกุสโล พฺยญฺชนกุสโล นิรุตฺติกุสโล ปุพฺพาปรกุสโล’’’ติฯ นวมํฯ
‘‘Idhāvuso sāriputta, bhikkhu atthakusalo ca hoti, dhammakusalo ca, byañjanakusalo ca , niruttikusalo ca, pubbāparakusalo ca. Ettāvatā kho , āvuso sāriputta, bhikkhu khippanisanti ca hoti kusalesu dhammesu, suggahitaggāhī ca, bahuñca gaṇhāti, gahitañcassa nappamussatī’’ti. ‘‘Acchariyaṃ, āvuso! Abbhutaṃ, āvuso!! Yāva subhāsitaṃ cidaṃ āyasmatā ānandena. Imehi ca mayaṃ pañcahi dhammehi samannāgataṃ āyasmantaṃ ānandaṃ dhārema – ‘āyasmā ānando atthakusalo dhammakusalo byañjanakusalo niruttikusalo pubbāparakusalo’’’ti. Navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. ขิปฺปนิสนฺติสุตฺตวณฺณนา • 9. Khippanisantisuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗-๙. โจทนาสุตฺตาทิวณฺณนา • 7-9. Codanāsuttādivaṇṇanā