Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi

    ๕. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกํ

    5. Khuddakavatthukkhandhakaṃ

    ขุทฺทกวตฺถุกถา

    Khuddakavatthukathā

    ๒๔๓. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเก มุฎฺฐิกมลฺลาติ มุฎฺฐิเกน มถนฺติ อญฺญมญฺญํ หิํสนฺตีติ มุฎฺฐิกมลฺลาฯ อิมินา ปาฬิยํ ปทสฺส เหฎฺฐุปริยํ ทเสฺสติฯ คามมุทวาติ เอตฺถ ฉวิราคมณฺฑนานุยุเตฺตน มุโท โมทนํ เอเตสมตฺถีติ มุทวา, คาเม วสนฺตา มุทวา คามมุทวาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ฉวิราคมณฺฑนานุยุตฺตา นาคริกมนุสฺสา’’ติฯ ‘‘วณฺณวา อเหสุ’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๑๙๓; ปาจิ. ๖๗) วิย วจนํ ทฎฺฐพฺพํฯ ถเมฺภติ เอตฺถ น ยตฺถ กตฺถจิ ถโมฺภ โหติ, อถ โข นฺหานติเตฺถ นิขณิตฺวา ฐปิตถโมฺภเยวาติ อาห ‘‘นฺหานติเตฺถ นิขณิตฺวา ฐปิตตฺถเมฺภ’’ติฯ

    243. Khuddakavatthukkhandhake muṭṭhikamallāti muṭṭhikena mathanti aññamaññaṃ hiṃsantīti muṭṭhikamallā. Iminā pāḷiyaṃ padassa heṭṭhupariyaṃ dasseti. Gāmamudavāti ettha chavirāgamaṇḍanānuyuttena mudo modanaṃ etesamatthīti mudavā, gāme vasantā mudavā gāmamudavāti dassento āha ‘‘chavirāgamaṇḍanānuyuttā nāgarikamanussā’’ti. ‘‘Vaṇṇavā ahesu’’ntiādīsu (pārā. 193; pāci. 67) viya vacanaṃ daṭṭhabbaṃ. Thambheti ettha na yattha katthaci thambho hoti, atha kho nhānatitthe nikhaṇitvā ṭhapitathambhoyevāti āha ‘‘nhānatitthe nikhaṇitvā ṭhapitatthambhe’’ti.

    อิฎฺฐกาสิลาทารุกุฎฺฎานนฺติ อิฎฺฐกากุฎฺฎสิลากุฎฺฎทารุกุฎฺฎานํฯ อฎฺฐปทากาเรนาติ อฎฺฐปทผลกากาเรนฯ ราชิโยติ เลขาโยฯ ตตฺถาติ อฎฺฎาเน, อากิริตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ คนฺธพฺพหตฺถโกติ คนฺธพฺพานํ วีณาหโตฺถ วิยาติ คนฺธพฺพหตฺถโกฯ ทารูหิ กตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ทารุมยหเตฺถนา’’ติฯ เตนาติ คนฺธพฺพหเตฺถน, คเหตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ กุรุวินฺทกปาสาณจุณฺณานีติ เอวํนามกสฺส ปาสาณสฺส จุณฺณานิฯ นฺติ กตคุฬิกกลาปกํ, คเหตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ วิคฺคยฺหาติ อญฺญมญฺญสฺส สรีเร ทฬฺหํ คเหตฺวาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อญฺญมญฺญํ สรีเรน สรีร’’นฺติฯ มกรทนฺตเกติ มกรนามกสฺส มจฺฉสฺส ทนฺตสทิเส ทเนฺตฯ มลฺลกมูลสณฺฐาเนนาติ เขฬปฎิคฺคหปาทสณฺฐาเนนฯ คิลานสฺสาปีติ ปิสโทฺท อคิลานสฺส ปเควาติ ทเสฺสติฯ

    Iṭṭhakāsilādārukuṭṭānanti iṭṭhakākuṭṭasilākuṭṭadārukuṭṭānaṃ. Aṭṭhapadākārenāti aṭṭhapadaphalakākārena. Rājiyoti lekhāyo. Tatthāti aṭṭāne, ākiritvāti sambandho. Gandhabbahatthakoti gandhabbānaṃ vīṇāhattho viyāti gandhabbahatthako. Dārūhi katattā vuttaṃ ‘‘dārumayahatthenā’’ti. Tenāti gandhabbahatthena, gahetvāti sambandho. Kuruvindakapāsāṇacuṇṇānīti evaṃnāmakassa pāsāṇassa cuṇṇāni. Tanti kataguḷikakalāpakaṃ, gahetvāti sambandho. Viggayhāti aññamaññassa sarīre daḷhaṃ gahetvāti dassento āha ‘‘aññamaññaṃ sarīrena sarīra’’nti. Makaradantaketi makaranāmakassa macchassa dantasadise dante. Mallakamūlasaṇṭhānenāti kheḷapaṭiggahapādasaṇṭhānena. Gilānassāpīti pisaddo agilānassa pagevāti dasseti.

    ๒๔๔. ทเนฺตติ มกรทเนฺตฯ อกตํ มลฺลกํ อกตมลฺลกํฯ กปาลขณฺฑํ วาติ วาสโทฺท สมุจฺจยโตฺถฯ กาสผุลฺลวิรหิตตฺตา วตฺถวฎฺฎิ อุกฺกาสิกา นามฯ นตฺถิ กาสํ ผุลฺลเมติสฺสาติ อุกฺกาสา, สา เอว อุกฺกาสิกาฯ ยสฺส กสฺสจีติ คิลานาคิลานสฺส วา ชราทุพฺพลตรุณพลวสฺส วาฯ ปิฎฺฐินฺติ ปิฎฺฐิยํ, อยเมว วา ปาโฐฯ ปาณิตลสฺส ปุถุฎฺฐานํ ปุถุปาณิ, เตน กตํ ปุถุปาณิกํ, หตฺถปริกมฺมํ, เตน วุตฺตํ ‘‘หตฺถปริกมฺมํ วุจฺจตี’’ติฯ สเพฺพสนฺติ นฺหายนฺตานํ วา อนฺหายนฺตานํ วา สเพฺพสํฯ

    244.Danteti makaradante. Akataṃ mallakaṃ akatamallakaṃ. Kapālakhaṇḍaṃ vāti vāsaddo samuccayattho. Kāsaphullavirahitattā vatthavaṭṭi ukkāsikā nāma. Natthi kāsaṃ phullametissāti ukkāsā, sā eva ukkāsikā. Yassa kassacīti gilānāgilānassa vā jarādubbalataruṇabalavassa vā. Piṭṭhinti piṭṭhiyaṃ, ayameva vā pāṭho. Pāṇitalassa puthuṭṭhānaṃ puthupāṇi, tena kataṃ puthupāṇikaṃ, hatthaparikammaṃ, tena vuttaṃ ‘‘hatthaparikammaṃ vuccatī’’ti. Sabbesanti nhāyantānaṃ vā anhāyantānaṃ vā sabbesaṃ.

    ๒๔๕. กณฺณโตติ กณฺณจฺฉิทฺทโตฯ มุโตฺตลมฺพกาทิวลฺลิสทิสตฺตา วลฺลิกา นามฯ ปลมฺพกสุตฺตนฺติ ปริมุญฺจิตฺวา ลมฺพิยติ อเนนาติ ปลมฺพกํ, ตเมว สุตฺตํ ปลมฺพกสุตฺตํฯ วลยนฺติ นิยุรํฯ

    245.Kaṇṇatoti kaṇṇacchiddato. Muttolambakādivallisadisattā vallikā nāma. Palambakasuttanti parimuñcitvā lambiyati anenāti palambakaṃ, tameva suttaṃ palambakasuttaṃ. Valayanti niyuraṃ.

    ๒๔๖. ทฺวีหิ มาเสหิ นิยุตฺตํ ทุมาสิกํฯ เทฺว องฺคุลานิ เอตสฺสาติ ทุวงฺคุลํ, เกโสฯ อุภเยนปีติ ทุมาสิกทุวงฺคุลสงฺขาเตน อุภเยนปิ ฯ อยมฺปิ อุกฺกฎฺฐปริเจฺฉโทว วุโตฺตติ โยชนาฯ ตโตติ ทุมาสิกทุวงฺคุลโตฯ

    246. Dvīhi māsehi niyuttaṃ dumāsikaṃ. Dve aṅgulāni etassāti duvaṅgulaṃ, keso. Ubhayenapīti dumāsikaduvaṅgulasaṅkhātena ubhayenapi . Ayampi ukkaṭṭhaparicchedova vuttoti yojanā. Tatoti dumāsikaduvaṅgulato.

    โอสเณฺฐนฺตีติ เอตฺถ โอลิขิตฺวา สมํ ปติฎฺฐาเปนฺตีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โอลิขิตฺวา สนฺนิสีทาเปนฺตี’’ติฯ ทนฺตมยาทีสูติ อาทิสเทฺทน อฎฺฐิมยาทโย สงฺคณฺหาติฯ หตฺถผเณนาติ หตฺถสงฺขาเตน ผเณนฯ จิกฺขเลฺลนาติ จิกฺขลฺลสทิเสน นิยฺยาเสนฯ อุทกเตเลนาติ เอตฺถ อุทกญฺจ เตลญฺจาติ จ อุทกสงฺขาเตน เตเลนาติ จ อตฺถํ นิวเตฺตโนฺต อาห ‘‘อุทกมิสฺสเกน เตเลนา’’ติฯ อิมินา อุทเกน มิสฺสกํ เตลํ อุทกเตลนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ อุฎฺฐโลเมติ อุฎฺฐิตโลเมฯ หตฺถํ เตเมตฺวาติ หตฺถํ อุทกเตเลน เตเมตฺวาฯ อุณฺหาภิตตฺตรโชกิณฺณสิรานมฺปีติ อุเณฺหน อภิตโตฺต จ รเชหิ โอกิณฺณสิโร จ อุณฺหาภิตตฺตรโชกิณฺณสิรา, อถ วา อุเณฺหน อภิตโตฺต สิโร เอเตสนฺติ อุณฺหาภิตตฺตสิรา, รเชหิ โอกิโณฺณ สิโร เอเตสนฺติ รโชกิณฺณสิรา , อุณฺหาภิตตฺตสิรา จ รโชกิณฺณสิรา จ อุณฺหาภิตตฺตรโชกิณฺณสิรา, ปุพฺพปเท อุตฺตรปทโลโป, เตสมฺปิฯ อลฺลหเตฺถนาติ อทฺทหเตฺถน, อยเมว วา ปาโฐฯ

    Osaṇṭhentīti ettha olikhitvā samaṃ patiṭṭhāpentīti dassento āha ‘‘olikhitvā sannisīdāpentī’’ti. Dantamayādīsūti ādisaddena aṭṭhimayādayo saṅgaṇhāti. Hatthaphaṇenāti hatthasaṅkhātena phaṇena. Cikkhallenāti cikkhallasadisena niyyāsena. Udakatelenāti ettha udakañca telañcāti ca udakasaṅkhātena telenāti ca atthaṃ nivattento āha ‘‘udakamissakena telenā’’ti. Iminā udakena missakaṃ telaṃ udakatelanti vacanatthaṃ dasseti. Uṭṭhalometi uṭṭhitalome. Hatthaṃ temetvāti hatthaṃ udakatelena temetvā. Uṇhābhitattarajokiṇṇasirānampīti uṇhena abhitatto ca rajehi okiṇṇasiro ca uṇhābhitattarajokiṇṇasirā, atha vā uṇhena abhitatto siro etesanti uṇhābhitattasirā, rajehi okiṇṇo siro etesanti rajokiṇṇasirā , uṇhābhitattasirā ca rajokiṇṇasirā ca uṇhābhitattarajokiṇṇasirā, pubbapade uttarapadalopo, tesampi. Allahatthenāti addahatthena, ayameva vā pāṭho.

    ๒๔๗. เยสุ กํสปตฺตาทีสุ มุขนิมิตฺตํ ปญฺญายติ, สพฺพานิ ตานิ กํสปตฺตาทีนิปีติ โยชนาฯ ยตฺถ กตฺถจีติ ยสฺมิํ กสฺมิํจิ อาทาเส วา อุทกปเตฺต วาติ สมฺพโนฺธฯ สญฺฉวิ นุ โขติ สญฺชาตา ฉวิ นุ โข, อหํ ชิโณฺณ อมฺหิ นุ โข, โนติ โยชนาฯ

    247. Yesu kaṃsapattādīsu mukhanimittaṃ paññāyati, sabbāni tāni kaṃsapattādīnipīti yojanā. Yattha katthacīti yasmiṃ kasmiṃci ādāse vā udakapatte vāti sambandho. Sañchavi nu khoti sañjātā chavi nu kho, ahaṃ jiṇṇo amhi nu kho, noti yojanā.

    มุขํ อาลิมฺปนฺตีติ เอตฺถ เกหิ อาลิมฺปนฺตีติ อาห ‘‘วิปฺปสนฺนฉวิราคกเรหิ มุขเลปเนหี’’ติฯ ‘‘มโนสิลายา’’ติ อิมินา มโนสิลา เอว มโนสิลิกาติ ทเสฺสติฯ ตานีติ ลญฺฉนานิฯ หริตาลาทีหิปีติ ปิสเทฺทน น เกวลํ มโนสิลิกาย เอว, อถ โข หริตาลาทีหิปีติ ทเสฺสติฯ

    Mukhaṃ ālimpantīti ettha kehi ālimpantīti āha ‘‘vippasannachavirāgakarehi mukhalepanehī’’ti. ‘‘Manosilāyā’’ti iminā manosilā eva manosilikāti dasseti. Tānīti lañchanāni. Haritālādīhipīti pisaddena na kevalaṃ manosilikāya eva, atha kho haritālādīhipīti dasseti.

    ๒๔๘. ภิกฺขเว นจฺจํ วาติอาทีสุ เอวํ วินิจฺฉโย เวทิตโพฺพติ โยชนาฯ นิจฺจาเปนฺตสฺส วาติ ปเรหิ นจฺจาเปนฺตสฺส วาฯ สาธุคีตนฺติ สุนฺทรํ อนิจฺจตาทิปฎิสํยุตฺตํ คีตํ, สชฺชนานํ วาฯ ทนฺตคีตมฺปิ น วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ นฺติ คีตํฯ ปุพฺพภาเคติ คายนโต ปุพฺพภาเคฯ คายาเปนฺตสฺสาปีติ ปเรหิ วา คายาเปนฺตสฺสาปิฯ ยํ ปนาติ กิริยาปรามสนํฯ ยํ ปหรติ, ตตฺถ ปหรเณ อนาปตฺตีติ โยชนาฯ สพฺพนฺติ อขิลํ นจฺจคีตวาทิตํฯ ปสฺสโตติ ปสฺสนฺตสฺส จ สุณนฺตสฺส จฯ สวนมฺปิ หิ เอกเสเสน วา สามญฺญนิเทฺทเสน วา ปสฺสเนเนว สงฺคหิตํฯ วิหารโตติ อนจฺจอคีตอวาทิตฎฺฐานวิหารโตฯ วิหารนฺติ นจฺจคีตวาทิตฎฺฐานวิหารํฯ อสนสาลายาติ คาเม ฐิตาย อสนสาลายฯ

    248.Nabhikkhave naccaṃ vātiādīsu evaṃ vinicchayo veditabboti yojanā. Niccāpentassa vāti parehi naccāpentassa vā. Sādhugītanti sundaraṃ aniccatādipaṭisaṃyuttaṃ gītaṃ, sajjanānaṃ vā. Dantagītampi na vaṭṭatīti sambandho. Yanti gītaṃ. Pubbabhāgeti gāyanato pubbabhāge. Gāyāpentassāpīti parehi vā gāyāpentassāpi. Yaṃ panāti kiriyāparāmasanaṃ. Yaṃ paharati, tattha paharaṇe anāpattīti yojanā. Sabbanti akhilaṃ naccagītavāditaṃ. Passatoti passantassa ca suṇantassa ca. Savanampi hi ekasesena vā sāmaññaniddesena vā passaneneva saṅgahitaṃ. Vihāratoti anaccaagītaavāditaṭṭhānavihārato. Vihāranti naccagītavāditaṭṭhānavihāraṃ. Asanasālāyāti gāme ṭhitāya asanasālāya.

    ๒๔๙. สรกิริยนฺติ สรสฺส กิริยํฯ อิมินา สรกุตฺตินฺติ เอตฺถ สรสฺส กรณํ สรกุตฺตีติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ อลทฺธํ สมาธินฺติ สมฺพโนฺธฯ ปจฺฉิมา ชนตาติ เอตฺถ สมูหิํ อวยวํ วินา สมูหสฺส อวยวิโน อภาวา ตาปจฺจโย สฺวโตฺถปิ โหตีติ อาห ‘‘ปจฺฉิโม ชโน’’ติฯ ตํ ตํ วตฺตนฺติ สุตฺตนฺตวตฺตาทิํ ตํ ตํ วตฺตํฯ อกฺขรานิ วินาเสตฺวาติ อญฺญถา วตฺตพฺพานิ อกฺขรานิ อญฺญถา วทเนน จ ทีฆาทีนิ รสฺสาทิวทเนน จ วินาเสตฺวาฯ ธเมฺม ปนาติ เอตฺถ สโทฺท ปน วิเสสโชตโกฯ คีตโต วิเสโสว เวทิตโพฺพติ หิ อโตฺถฯ สุตฺตนฺตวตฺตนฺติ สุตฺตนฺตสฺส อุจฺจารณํ วตฺตํฯ เอเสว นโย ‘‘ชาตกวตฺตํ คาถาวตฺต’’นฺติ เอตฺถาปิฯ นฺติ วตฺตํฯ ยทิ ปน ตํ วินาเสตฺวา อติทีฆํ กาตุํ น วฎฺฎติ, เอวํ สติ ยถา สุตฺตนฺตวตฺตาทีนิ โหนฺติ, ตถา กถํ ทเสฺสตพฺพานีติ อาห ‘‘จตุรเสฺสน วเตฺตนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ จตุรเสฺสน วเตฺตนาติ ปริปุเณฺณน อุจฺจารณวเตฺตนฯ ปริมณฺฑลานีติ สมนฺตโต มณฺฑลานิ พิมฺพานิ ปุณฺณานีติ อโตฺถฯ ‘‘สเรน ภณิต’’นฺติ อิมินา สรภญฺญนฺติ เอตฺถ สเรน ภณิตพฺพนฺติ สรภญฺญนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ สรภเญฺญ กิร อตฺถีติ สมฺพโนฺธ ฯ ตรงฺควตฺถาทีนํ อุจฺจารณวิธานานิ (วชิร. ฎี. จูฬวคฺค ๒๔๙; สารตฺถ. ฎี. จูฬวคฺค ๓.๒๔๙; วิ. วิ. ฎี. จูฬวคฺค ๒.๒๔๘-๙) เอตรหิ นตฺถิฯ ทฺวตฺติํสวตฺตานีติ จ สงฺขฺยามตฺตเมว อตฺถิ, น สเงฺขฺยยฺยํฯ ตสฺมา ฎีกาสุ (สารตฺถ. ฎี. จูฬวคฺค ๓.๒๔๙; วชิร. ฎี. จูฬวคฺค. ๒๔๙) ‘‘ตรงฺควตฺตาทีนํ อุจฺจารณวิธานานิ นฎฺฐปโยคานี’’ติ วุตฺตํฯ อตฺถีติ สํวิชฺชนฺติฯ อยญฺหิ อตฺถิสโทฺท นิปาโตฯ เตสูติ ทฺวตฺติํสวเตฺตสุฯ นฺติ วตฺตํฯ อุจฺจารณวิธานานิ นฎฺฐปโยคานิปิ เตสํ สเพฺพสํ สามญฺญลกฺขณํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สเพฺพส’’นฺติอาทิฯ ตตฺถ สเพฺพสนฺติ ทฺวตฺติํสวตฺตานํ, ลกฺขณนฺติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อวินาเสตฺวา’’ติ วตฺวา ตเมวตฺถํ ปากฎํ กโรโนฺต อาห ‘‘วิการํ อกตฺวา’’ติฯ ตตฺถ วิการกรณํ นาม ยตฺตกาหิ มตฺตาหิ อกฺขรํ ปริปุณฺณํ โหติ, ตโต อธิกมตฺตายุตฺตํ กตฺวา กถนํ, ตถา อกตฺวา สมณสารุเปฺปน จตุรเสฺสน นเยน ปวตฺตนํเยว ลกฺขณนฺติ อโตฺถฯ

    249.Sarakiriyanti sarassa kiriyaṃ. Iminā sarakuttinti ettha sarassa karaṇaṃ sarakuttīti vacanatthaṃ dasseti. Aladdhaṃ samādhinti sambandho. Pacchimā janatāti ettha samūhiṃ avayavaṃ vinā samūhassa avayavino abhāvā tāpaccayo svatthopi hotīti āha ‘‘pacchimo jano’’ti. Taṃ taṃ vattanti suttantavattādiṃ taṃ taṃ vattaṃ. Akkharāni vināsetvāti aññathā vattabbāni akkharāni aññathā vadanena ca dīghādīni rassādivadanena ca vināsetvā. Dhamme panāti ettha saddo pana visesajotako. Gītato visesova veditabboti hi attho. Suttantavattanti suttantassa uccāraṇaṃ vattaṃ. Eseva nayo ‘‘jātakavattaṃ gāthāvatta’’nti etthāpi. Tanti vattaṃ. Yadi pana taṃ vināsetvā atidīghaṃ kātuṃ na vaṭṭati, evaṃ sati yathā suttantavattādīni honti, tathā kathaṃ dassetabbānīti āha ‘‘caturassena vattenā’’tiādi. Tattha caturassenavattenāti paripuṇṇena uccāraṇavattena. Parimaṇḍalānīti samantato maṇḍalāni bimbāni puṇṇānīti attho. ‘‘Sarena bhaṇita’’nti iminā sarabhaññanti ettha sarena bhaṇitabbanti sarabhaññanti vacanatthaṃ dasseti. Sarabhaññe kira atthīti sambandho . Taraṅgavatthādīnaṃ uccāraṇavidhānāni (vajira. ṭī. cūḷavagga 249; sārattha. ṭī. cūḷavagga 3.249; vi. vi. ṭī. cūḷavagga 2.248-9) etarahi natthi. Dvattiṃsavattānīti ca saṅkhyāmattameva atthi, na saṅkhyeyyaṃ. Tasmā ṭīkāsu (sārattha. ṭī. cūḷavagga 3.249; vajira. ṭī. cūḷavagga. 249) ‘‘taraṅgavattādīnaṃ uccāraṇavidhānāni naṭṭhapayogānī’’ti vuttaṃ. Atthīti saṃvijjanti. Ayañhi atthisaddo nipāto. Tesūti dvattiṃsavattesu. Yanti vattaṃ. Uccāraṇavidhānāni naṭṭhapayogānipi tesaṃ sabbesaṃ sāmaññalakkhaṇaṃ dassento āha ‘‘sabbesa’’ntiādi. Tattha sabbesanti dvattiṃsavattānaṃ, lakkhaṇanti sambandho. ‘‘Avināsetvā’’ti vatvā tamevatthaṃ pākaṭaṃ karonto āha ‘‘vikāraṃ akatvā’’ti. Tattha vikārakaraṇaṃ nāma yattakāhi mattāhi akkharaṃ paripuṇṇaṃ hoti, tato adhikamattāyuttaṃ katvā kathanaṃ, tathā akatvā samaṇasāruppena caturassena nayena pavattanaṃyeva lakkhaṇanti attho.

    พาหิรโลมิํ อุณฺณินฺติ เอตฺถ ‘‘พาหิรโลมิ’’นฺติ ปทํ ภาวนปุํสกนฺติ อาห ‘‘อุณฺณโลมานิ พหิ กตฺวา’’ติฯ ‘‘อุณฺณปาวาร’’นฺติ อิมินา อุณฺณีติ เอตฺถ อุตฺตรปทโลปํ ทเสฺสติฯ อถ วา ปาวารปเทน อุณฺณา เอตสฺส อตฺถีติ อุณฺณีติ กตฺวา ตทฺธิตปจฺจยสฺส สรูปํ ทเสฺสติฯ ‘‘ตถา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฎ’’นฺติ วจนสฺส อตฺถาปตฺตินยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โลมานิ อโนฺต กตฺวา ปารุปิตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ

    Bāhiralomiṃ uṇṇinti ettha ‘‘bāhiralomi’’nti padaṃ bhāvanapuṃsakanti āha ‘‘uṇṇalomāni bahi katvā’’ti. ‘‘Uṇṇapāvāra’’nti iminā uṇṇīti ettha uttarapadalopaṃ dasseti. Atha vā pāvārapadena uṇṇā etassa atthīti uṇṇīti katvā taddhitapaccayassa sarūpaṃ dasseti. ‘‘Tathā dhārentassa dukkaṭa’’nti vacanassa atthāpattinayaṃ dassento āha ‘‘lomāni anto katvā pārupituṃ vaṭṭatī’’ti.

    ๒๕๑. องฺคชาตํ ฉินฺทนฺตเสฺสวาติ องฺคชาตเมว ฉินฺทนฺตสฺสาติ โยชนาฯ อถ วา องฺคชาตํ ฉินฺทนฺตสฺส ถุลฺลจฺจยเมวาติ โยชนาฯ อหิกีฎทฎฺฐาทีสุ นิมิตฺตภูเตสุ ฉินฺทนฺตสฺสาติ โยชนาฯ

    251.Aṅgajātaṃ chindantassevāti aṅgajātameva chindantassāti yojanā. Atha vā aṅgajātaṃ chindantassa thullaccayamevāti yojanā. Ahikīṭadaṭṭhādīsu nimittabhūtesu chindantassāti yojanā.

    ๒๕๒. อุปฺปนฺนา โหตีติ ปฎิลาภวเสน อุปฺปนฺนา โหติฯ อุปฺปนฺนภาวํ ปากฎํ กโรโนฺต อาห ‘‘โส’’ติอาทิฯ ตตฺถ โสติ ราชคหโก เสฎฺฐิ, กีฬตีติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺสาติ เสฎฺฐิสฺสฯ อิทํ ปทํ ‘‘ชาเล’’ติ ปเท สามฺยตฺถฉฎฺฐี, ‘‘อุปฺปนฺนา โหตี’’ติ ปเท สมฺปทานํฯ นฺติ จนฺทนคณฺฐิํฯ อสฺสาติ เสฎฺฐิสฺสฯ อิทํ ปทํ ‘‘ปุริสา’’ติ ปเท สามฺยตฺถฉฎฺฐี, ‘‘อทํสู’’ติ ปเท สมฺปทานํฯ วิกุพฺพนิทฺธีติ วิวิธํ, วิการํ วา กุพฺพนวเสน ปวตฺตา อิทฺธิ (ปฎิ. ม. ๓.๑๒-๑๖; วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๙-๓๗๓)ฯ อธิฎฺฐานิทฺธีติ อธิฎฺฐานวเสน ปวตฺตา อิทฺธิ (ปฎิ. ม. ๓.๑๒-๑๖; วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๙-๓๗๓)ฯ

    252.Uppannā hotīti paṭilābhavasena uppannā hoti. Uppannabhāvaṃ pākaṭaṃ karonto āha ‘‘so’’tiādi. Tattha soti rājagahako seṭṭhi, kīḷatīti sambandho. Tassāti seṭṭhissa. Idaṃ padaṃ ‘‘jāle’’ti pade sāmyatthachaṭṭhī, ‘‘uppannā hotī’’ti pade sampadānaṃ. Tanti candanagaṇṭhiṃ. Assāti seṭṭhissa. Idaṃ padaṃ ‘‘purisā’’ti pade sāmyatthachaṭṭhī, ‘‘adaṃsū’’ti pade sampadānaṃ. Vikubbaniddhīti vividhaṃ, vikāraṃ vā kubbanavasena pavattā iddhi (paṭi. ma. 3.12-16; visuddhi. 2.369-373). Adhiṭṭhāniddhīti adhiṭṭhānavasena pavattā iddhi (paṭi. ma. 3.12-16; visuddhi. 2.369-373).

    คิหี อุปนาเมนฺตีติ สมฺพโนฺธฯ พฺยญฺชนํ กตฺวาติ พฺยญฺชนํ ปกฺขิปนํ กตฺวาฯ นฺติ สุวณฺณตฎฺฎิกาทิํฯ อามสิตุมฺปีติ ปิสโทฺท ปเคว ปฎิคฺคณฺหิตุนฺติ ทเสฺสติฯ สงฺฆิกปริโภเคน วาติ วาสโทฺท ปนสทฺทโตฺถฯ สงฺฆิกปริโภเคน ปนาติ หิ อโตฺถฯ คิหิวิกฎานิ วาติ วาสโทฺท สมฺปิณฺฑนโตฺถฯ คิหิวิกฎานิ ภาชนานิปิ วฎฺฎนฺตีติ หิ อโตฺถฯ กํสโลหวฎฺฎโลหานํ สภาคตฺตา วุตฺตํ ‘‘กํส…เป.… สงฺคหิโต’’ติฯ

    Gihī upanāmentīti sambandho. Byañjanaṃ katvāti byañjanaṃ pakkhipanaṃ katvā. Tanti suvaṇṇataṭṭikādiṃ. Āmasitumpīti pisaddo pageva paṭiggaṇhitunti dasseti. Saṅghikaparibhogena vāti saddo panasaddattho. Saṅghikaparibhogena panāti hi attho. Gihivikaṭāni vāti saddo sampiṇḍanattho. Gihivikaṭāni bhājanānipi vaṭṭantīti hi attho. Kaṃsalohavaṭṭalohānaṃ sabhāgattā vuttaṃ ‘‘kaṃsa…pe… saṅgahito’’ti.

    ๒๕๓. ‘‘ลิขิตุ’’นฺติ เอตํ วุตฺตนฺติ โยชนาฯ ปกติมณฺฑลนฺติ เอตฺถ กิํ มกรทนฺตมตฺตมฺปิ อจฺฉินฺนมณฺฑลนฺติ อาห ‘‘มกรทนฺตจฺฉินฺนกมณฺฑลเมวา’’ติฯ

    253. ‘‘Likhitu’’nti etaṃ vuttanti yojanā. Pakatimaṇḍalanti ettha kiṃ makaradantamattampi acchinnamaṇḍalanti āha ‘‘makaradantacchinnakamaṇḍalamevā’’ti.

    ๒๕๔. ปหริตฺวาติ อาวฎฺฎนโต อญฺญมญฺญํ ปหริตฺวาฯ ตโย ปเตฺต อุปรุปริ ฐเปตุํ วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ ภูมิอาธารโก นาม ภูมิยา อาสโนฺน ทนฺตาทีหิ กโต วลยาธารโกฯ ทารุอาธารโก นาม เอกทารุนา กโต อาธารโกฯ ทณฺฑาธารโก นาม จตุทณฺฑโต ปฎฺฐาย พหูหิ ทเณฺฑหิ กโต อาธารโกฯ ตตฺถาติ ภมโกฎิสทิสทารุ อาธารกติทณฺฑกาธาเรสุฯ คเหตฺวา เอวาติ ปตฺตํ คเหตฺวา เอว, เอกเมว ฐเปตพฺพํ อิติ วุตฺตนฺติ โยชนาฯ

    254.Paharitvāti āvaṭṭanato aññamaññaṃ paharitvā. Tayo patte uparupari ṭhapetuṃ vaṭṭatīti sambandho. Bhūmiādhārako nāma bhūmiyā āsanno dantādīhi kato valayādhārako. Dāruādhārako nāma ekadārunā kato ādhārako. Daṇḍādhārako nāma catudaṇḍato paṭṭhāya bahūhi daṇḍehi kato ādhārako. Tatthāti bhamakoṭisadisadāru ādhārakatidaṇḍakādhāresu. Gahetvā evāti pattaṃ gahetvā eva, ekameva ṭhapetabbaṃ iti vuttanti yojanā.

    ตเตฺถวาติ มิฑฺฒเนฺตเยวฯ วิตฺถิณฺณายาติ วิตฺถารายฯ พาหิรปเสฺสติ กุฎฺฎสฺส พาหิรปเสฺสฯ กตายาติ กุฎฺฎสฺส ถิรภาวตฺถํ กตายฯ เอตฺถาติ ปริภณฺฑเนฺตฯ

    Tatthevāti miḍḍhanteyeva. Vitthiṇṇāyāti vitthārāya. Bāhirapasseti kuṭṭassa bāhirapasse. Katāyāti kuṭṭassa thirabhāvatthaṃ katāya. Etthāti paribhaṇḍante.

    ยํ วตฺถํ ปตฺถริตฺวา ปโตฺต ฐปิยตีติ วตฺถํ โจฬกํ นามาติ โยชนาฯ ตสฺมิํ ปนาติ โจฬเก ปนฯ ยตฺถาติ ยสฺสํ วาลิกายํฯ น ทุสฺสตีติ ปโตฺต น ทุสฺสติฯ ปตฺตมาฬกนฺติ ปตฺตสฺส ฐปนตฺถาย กตํ อฎฺฎํฯ ภณฺฑกุกฺขฬิกาติ ปตฺตาทิภณฺฑกานํ ปกฺขิปนา อุกฺขฬิกาฯ ยตฺถ กตฺถจีติ ภิตฺติขีลาทิเก ยสฺมิํ กสฺมิํจิฯ ลเคฺคนฺตสฺสาติ ปตฺตํ ถวิกาย ลเคฺคนฺตสฺสฯ นิสีทนสยนตฺถํ วา กตํ โหตูติ โยชนาฯ อเญฺญนาติ ปตฺตโต อเญฺญนฯ อฎฺฎกฉเนฺนนาติ อฎฺฎปติรูเปน, อฎฺฎกสทิเสนาติ อโตฺถฯ ตตฺถาติ อฎฺฎกฉเนฺนน ฐปิเต มญฺจปีเฐฯ อํเส พทฺธิยติ อเนนาติ อํสพโทฺธ, โสเยว อํสพทฺธโก, เตน ลเคฺคตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ ฉเตฺต ฐเปตุํ น วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ ภเตฺตน ปูโร ภตฺตปูโร, ปโตฺตฯ พนฺธิตฺวา ฐปิเต ฉเตฺต วา อฎฺฎกํ กตฺวา ฐปิเต ฉเตฺต วาติ โยชนาฯ โย โกจิ ภตฺตปูโรปิ ตุจฺฉปโตฺตปีติ สมฺพโนฺธฯ

    Yaṃ vatthaṃ pattharitvā patto ṭhapiyatīti vatthaṃ coḷakaṃ nāmāti yojanā. Tasmiṃ panāti coḷake pana. Yatthāti yassaṃ vālikāyaṃ. Na dussatīti patto na dussati. Pattamāḷakanti pattassa ṭhapanatthāya kataṃ aṭṭaṃ. Bhaṇḍakukkhaḷikāti pattādibhaṇḍakānaṃ pakkhipanā ukkhaḷikā. Yattha katthacīti bhittikhīlādike yasmiṃ kasmiṃci. Laggentassāti pattaṃ thavikāya laggentassa. Nisīdanasayanatthaṃ vā kataṃ hotūti yojanā. Aññenāti pattato aññena. Aṭṭakachannenāti aṭṭapatirūpena, aṭṭakasadisenāti attho. Tatthāti aṭṭakachannena ṭhapite mañcapīṭhe. Aṃse baddhiyati anenāti aṃsabaddho, soyeva aṃsabaddhako, tena laggetvāti sambandho. Chatte ṭhapetuṃ na vaṭṭatīti sambandho. Bhattena pūro bhattapūro, patto. Bandhitvā ṭhapite chatte vā aṭṭakaṃ katvā ṭhapite chatte vāti yojanā. Yo koci bhattapūropi tucchapattopīti sambandho.

    ๒๕๕. ยสฺสาติ ภิกฺขุโนฯ หเตฺถ ปโตฺต อตฺถิ, โส เอว ภิกฺขุ ปตฺตหโตฺถ น โหติ, อปิจ โข ปน หเตฺถ วา ปิฎฺฐิปาเท วา ยตฺถ กตฺถจิ สรีราวยเว ปตฺตสฺมิํ สตีติ โยชนาฯ เอเสว นโย อนนฺตรวาเกฺยปิฯ อิเมหิ วาเกฺยหิ ‘‘ปตฺตหโตฺถ’’ติ จ ‘‘กวาฎํ ปณาเมตุ’’นฺติ จ อุปลกฺขณมตฺตเมวาติ ทเสฺสติฯ สูจิํ วา อวาปุริตุนฺติ สมฺพโนฺธฯ กุญฺจิกาย วาติ วาสโทฺท ‘‘สรีราวยเวนา’’ติ ปทํ อเปกฺขติฯ

    255.Yassāti bhikkhuno. Hatthe patto atthi, so eva bhikkhu pattahattho na hoti, apica kho pana hatthe vā piṭṭhipāde vā yattha katthaci sarīrāvayave pattasmiṃ satīti yojanā. Eseva nayo anantaravākyepi. Imehi vākyehi ‘‘pattahattho’’ti ca ‘‘kavāṭaṃ paṇāmetu’’nti ca upalakkhaṇamattamevāti dasseti. Sūciṃ vā avāpuritunti sambandho. Kuñcikāya vāti saddo ‘‘sarīrāvayavenā’’ti padaṃ apekkhati.

    ลาพุกฎาหนฺติ ลมฺพตีติ ลาพุ, ลาพุยา กฎาหํ ลาพุกฎาหํฯ ‘‘ตาวกาลิก’’นฺติ อิมินา เอกวารเมว เตน อามิสํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตฺวา ฉเฑฺฑตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ ฆฎิกปาลนฺติ ภาชนกปาลํฯ อภุํ เมติ อวฑฺฒิ มยฺหํ, อุปฺปชฺชิตฺถาติ อโตฺถฯ ‘‘อภุ เม’’ติ (ม. นิ. อฎฺฐ. ๒.๑๔๙; ม. นิ. ฎี. ๒.๑๔๙) วตฺตเพฺพ นิคฺคหิตาคมวเสน เอวํ วุตฺตํฯ อุตฺราสวจนนฺติ อุตฺราเสน วจนการณํ ปทํฯ ทินฺนกเมวาติ ปเรหิ ทินฺนกเมว อามิสนฺติ สมฺพโนฺธฯ

    Lābukaṭāhanti lambatīti lābu, lābuyā kaṭāhaṃ lābukaṭāhaṃ. ‘‘Tāvakālika’’nti iminā ekavārameva tena āmisaṃ gahetvā paribhuñjitvā chaḍḍetabbanti dasseti. Ghaṭikapālanti bhājanakapālaṃ. Abhuṃ meti avaḍḍhi mayhaṃ, uppajjitthāti attho. ‘‘Abhu me’’ti (ma. ni. aṭṭha. 2.149; ma. ni. ṭī. 2.149) vattabbe niggahitāgamavasena evaṃ vuttaṃ. Utrāsavacananti utrāsena vacanakāraṇaṃ padaṃ. Dinnakamevāti parehi dinnakameva āmisanti sambandho.

    จเมฺพตฺวาติ มุเขน จเมฺพตฺวาฯ อปวิทฺธามิสานีติ ฉฑฺฑิตานิ อามิสานิฯ เอเตสูติ จลกาทีสุฯ อนุจฺฉิฎฺฐํ สุทฺธปตฺตนฺติ นตฺถิ อุจฺฉิโฎฺฐ เอตฺถาติ อนุจฺฉิโฎฺฐ, สุทฺธปโตฺต, ตํฯ อุจฺฉิฎฺฐหเตฺถนาติ อุจฺฉิโฎฺฐ เอตฺถ อตฺถีติ อุจฺฉิโฎฺฐ, โสเยว หโตฺถ อุจฺฉิฎฺฐหโตฺถ, เตนฯ วามหเตฺถน อาสิญฺจิตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ เอตฺถาติ สุทฺธปเตฺตฯ เอตฺตาวตาปีติ เอตฺตเกน เอกอุทกเคณฺฑุสคหณมเตฺตนาปิฯ โสติ สุทฺธปโตฺตฯ หตฺถํ ปนาติ อุจฺฉิฎฺฐหตฺถมฺปิฯ ปนสโทฺท เหตฺถ สมฺปิณฺฑนโตฺถฯ ยํ อฎฺฐิํ วา ยํ จลกํ วาติ โยชนาฯ ตตฺถาติ มจฺฉมํสผลาทีสุฯ นฺติ อฎฺฐิจลกํฯ ยํ ปนาติ อฎฺฐิจลกาทิํ ปน, ปฎิขาทิตุกาโมติ สมฺพโนฺธ, ปุน ขาทิตุกาโมติ อโตฺถฯ ตเตฺถวาติ ปเตฺต เอวฯ กตฺวาติ ฐปนํ กตฺวาฯ ยํ กิญฺจิ อฎฺฐิกณฺฎกาทินฺติ สมฺพโนฺธฯ

    Cambetvāti mukhena cambetvā. Apaviddhāmisānīti chaḍḍitāni āmisāni. Etesūti calakādīsu. Anucchiṭṭhaṃ suddhapattanti natthi ucchiṭṭho etthāti anucchiṭṭho, suddhapatto, taṃ. Ucchiṭṭhahatthenāti ucchiṭṭho ettha atthīti ucchiṭṭho, soyeva hattho ucchiṭṭhahattho, tena. Vāmahatthena āsiñcitvāti sambandho. Etthāti suddhapatte. Ettāvatāpīti ettakena ekaudakageṇḍusagahaṇamattenāpi. Soti suddhapatto. Hatthaṃ panāti ucchiṭṭhahatthampi. Panasaddo hettha sampiṇḍanattho. Yaṃ aṭṭhiṃ vā yaṃ calakaṃ vāti yojanā. Tatthāti macchamaṃsaphalādīsu. Tanti aṭṭhicalakaṃ. Yaṃ panāti aṭṭhicalakādiṃ pana, paṭikhāditukāmoti sambandho, puna khāditukāmoti attho. Tatthevāti patte eva. Katvāti ṭhapanaṃ katvā. Yaṃ kiñci aṭṭhikaṇṭakādinti sambandho.

    ๒๕๖. สตฺถกเวฐนกนฺติ สตฺถกสฺส เวฐนกรณํฯ ปิปฺผลิกํ วา ทณฺฑสตฺถกํ นามาติ โยชนาฯ ปิปฺผาเลติ เอตายาติ ปิปฺผลิ, สาเยว ปิปฺผลิกํฯ อญฺญมฺปีติ ปิปฺผลิกโต อญฺญมฺปิฯ ยํกิญฺจิ ทณฺฑํ โยเชตฺวา กตสตฺถกํ วา ทณฺฑสตฺถกํ นามาติ โยชนาฯ อิมินา ทเณฺฑน โยชิตํ สตฺถกํ ทณฺฑสตฺถกนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ

    256.Satthakaveṭhanakanti satthakassa veṭhanakaraṇaṃ. Pipphalikaṃ vā daṇḍasatthakaṃ nāmāti yojanā. Pipphāleti etāyāti pipphali, sāyeva pipphalikaṃ. Aññampīti pipphalikato aññampi. Yaṃkiñci daṇḍaṃ yojetvā katasatthakaṃ vā daṇḍasatthakaṃ nāmāti yojanā. Iminā daṇḍena yojitaṃ satthakaṃ daṇḍasatthakanti vacanatthaṃ dasseti.

    มลคฺคหิตาติ อยมลคฺคหิตาฯ กิเณฺณนาติ มทิราทิพีเชน กิเณฺณนฯ เตนาติ ปาสาณจุณฺณสงฺขาเตน สริตเกนฯ มเกฺขตุนฺติ สูจิํ มเกฺขตุํฯ มกฺขิตมธุสิตฺถกํ ตํ สริตกํ ปริภิชฺชตีติ โยชนาฯ มธุสิตฺถกปิโลติกนฺติ มธุสิตฺถเกน มกฺขิตํ ปิโลติกํฯ ตตฺถาติ นิเสฺสณิยํฯ ยาย รชฺชุยา กถิเน พนฺธนฺติ, สา รชฺชุ กถินรชฺชุ นามาติ โยชนาฯ ตตฺถาติ ทีฆสฺส ภิกฺขุโน ปมาเณน กเต กถิเนฯ ทณฺฑเกติ กถินทณฺฑกมฺหิฯ ตสฺสาติ ทีฆสฺส ภิกฺขุโน ปมาเณน กตสฺส กถินสฺสฯ อิตรสฺส ภิกฺขุโนติ ทีฆภิกฺขุโต อิตรสฺส รสฺสภิกฺขุโนฯ

    Malaggahitāti ayamalaggahitā. Kiṇṇenāti madirādibījena kiṇṇena. Tenāti pāsāṇacuṇṇasaṅkhātena saritakena. Makkhetunti sūciṃ makkhetuṃ. Makkhitamadhusitthakaṃ taṃ saritakaṃ paribhijjatīti yojanā. Madhusitthakapilotikanti madhusitthakena makkhitaṃ pilotikaṃ. Tatthāti nisseṇiyaṃ. Yāya rajjuyā kathine bandhanti, sā rajju kathinarajju nāmāti yojanā. Tatthāti dīghassa bhikkhuno pamāṇena kate kathine. Daṇḍaketi kathinadaṇḍakamhi. Tassāti dīghassa bhikkhuno pamāṇena katassa kathinassa. Itarassa bhikkhunoti dīghabhikkhuto itarassa rassabhikkhuno.

    ทณฺฑกถินปมาเณน กตสฺส กฎสารกสฺสาติ โยชนาฯ ‘‘ทุคุณกรณ’’นฺติ อิมินา ปิทลกนฺติ ทุคุณกรณสงฺขาตสฺส กิริยาวิเสสสฺส นามนฺติ ทเสฺสติฯ วินนฺธนรชฺชุนฺติ วิเสเสน นหิยติ พนฺธิยติ เอตายาติ วินนฺธนา, สาเยว รชฺชุ วินนฺธนรชฺชุ, ตเมวตฺถํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘วินนฺธิตุํ รชฺชุ’’นฺติฯ วินนฺธนสุตฺตกนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ เตน สุตฺตเกนาติ วินนฺธนสุตฺตเกนฯ ตตฺถาติ ขุทฺทกนิเสฺสณิยํ กาจิ สุตฺตนฺตริกาโยติ สมฺพโนฺธฯ ปมาณสญฺญากรณนฺติ สุตฺตนฺตริกปมาณสฺส สญฺญากรณํฯ กาฬสุเตฺตน สญฺญากรณํ วิย หลิทฺทิสุเตฺตน สญฺญากรณนฺติ โยชนาฯ องฺคุลิยา ปฎิคฺคณฺหนฺตีติ เอตฺถ ‘‘ปฎิคฺคณฺหนฺตี’’ติ ปทสฺส ‘‘องฺคุลิยา’’ติ กรณเสฺสว วุตฺตตฺตา กมฺมสฺส อวุตฺตตฺตา ตสฺส กมฺมํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘สูจิมุข’’นฺติฯ องฺคุลิโกสกนฺติ องฺคุลิกญฺจุกํฯ

    Daṇḍakathinapamāṇena katassa kaṭasārakassāti yojanā. ‘‘Duguṇakaraṇa’’nti iminā pidalakanti duguṇakaraṇasaṅkhātassa kiriyāvisesassa nāmanti dasseti. Vinandhanarajjunti visesena nahiyati bandhiyati etāyāti vinandhanā, sāyeva rajju vinandhanarajju, tamevatthaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘vinandhituṃ rajju’’nti. Vinandhanasuttakanti etthāpi eseva nayo. Tena suttakenāti vinandhanasuttakena. Tatthāti khuddakanisseṇiyaṃ kāci suttantarikāyoti sambandho. Pamāṇasaññākaraṇanti suttantarikapamāṇassa saññākaraṇaṃ. Kāḷasuttena saññākaraṇaṃ viya haliddisuttena saññākaraṇanti yojanā. Aṅguliyā paṭiggaṇhantīti ettha ‘‘paṭiggaṇhantī’’ti padassa ‘‘aṅguliyā’’ti karaṇasseva vuttattā kammassa avuttattā tassa kammaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘sūcimukha’’nti. Aṅgulikosakanti aṅgulikañcukaṃ.

    ๒๕๗. ปาติจโงฺกฎกาทินฺติ เอตฺถ ปาติ นาม ปฎิคฺคหสณฺฐาเนน กโต สูจิอาทิภณฺฑฎฺฐปโน ภาชนวิเสโสฯ อากิริตฺวาติ ปกฺขิปิตฺวาฯ โอธุนิตฺวาติ ปโปฺผเฎตฺวาฯ ฆนทณฺฑกนฺติ นิรนฺตรทณฺฑกํฯ อโนฺตกตฺวาติ กถินสฺส อโนฺตกตฺวาฯ

    257.Pāticaṅkoṭakādinti ettha pāti nāma paṭiggahasaṇṭhānena kato sūciādibhaṇḍaṭṭhapano bhājanaviseso. Ākiritvāti pakkhipitvā. Odhunitvāti papphoṭetvā. Ghanadaṇḍakanti nirantaradaṇḍakaṃ. Antokatvāti kathinassa antokatvā.

    ๒๕๘. วินนฺธิตฺวาติ โจฬเกน วินนฺธิตฺวาฯ

    258.Vinandhitvāti coḷakena vinandhitvā.

    ๒๕๙. อปริสฺสาวนกเสฺสว ภิกฺขุโนติ โยชนาฯ โย ปน ยาจตีติ สมฺพโนฺธฯ มเชฺฌทณฺฑเกติ ทณฺฑกสฺส มเชฺฌฯ อุทกนฺติ อกปฺปิยอุทกํฯ นฺติ อุทกํฯ นฺติ ปริสฺสาวนํฯ อุทกํ ปริสุทฺธํ หุตฺวา สวติ คจฺฉติ ปวตฺตติ อเนนาติ ปริสฺสาวนํฯ ยํ อุทเก โอตฺถริตฺวา ฆเฎน อุทกํ คณฺหนฺติ, ตํ โอตฺถรกํ นามาติ โยชนาฯ ตเมวตฺถํ วิตฺถาเรโนฺต อาห ‘‘ตํ หี’’ติอาทิฯ นฺติ ปริสฺสาวนํ, พนฺธิตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ เตสูติ จตูสุ ขาณุเกสุฯ สพฺพปริยเนฺตติ สพฺพปริสฺสาวนสฺส ปริยเนฺต โมเจตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ โอตฺถริตฺวาติ โอคาเหตฺวาฯ จีวรกุฎิกาติ จีวเรน กตา กุฎิกา, สา มกสานํ ปริตฺตาณตฺถํ กตตฺตา มกสกุฎิกาติ วุจฺจติฯ

    259. Aparissāvanakasseva bhikkhunoti yojanā. Yo pana yācatīti sambandho. Majjhedaṇḍaketi daṇḍakassa majjhe. Udakanti akappiyaudakaṃ. Tanti udakaṃ. Yanti parissāvanaṃ. Udakaṃ parisuddhaṃ hutvā savati gacchati pavattati anenāti parissāvanaṃ. Yaṃ udake ottharitvā ghaṭena udakaṃ gaṇhanti, taṃ ottharakaṃ nāmāti yojanā. Tamevatthaṃ vitthārento āha ‘‘taṃ hī’’tiādi. Tanti parissāvanaṃ, bandhitvāti sambandho. Tesūti catūsu khāṇukesu. Sabbapariyanteti sabbaparissāvanassa pariyante mocetvāti sambandho. Ottharitvāti ogāhetvā. Cīvarakuṭikāti cīvarena katā kuṭikā, sā makasānaṃ parittāṇatthaṃ katattā makasakuṭikāti vuccati.

    ๒๖๐. เสมฺหาทิโทสุสฺสนฺนกายาติ เสมฺหาทิโทเสหิ อุสฺสนฺนกายาฯ อคฺคฬตฺถโมฺภติ กวาฎตฺถโมฺภฯ ยตฺถาติ อคฺคฬตฺถเมฺภฯ ตตฺถาติ ทฺวารพาหายฯ ตตฺถาติ อคฺคฬปาสเกฯ ธูโม นิกฺขมติ เอเตนาติ ธูมเนโตฺต, ฉิโทฺทฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ธูมนิกฺขมนฉิทฺท’’นฺติ ฯ ‘‘คเนฺธหี’’ติ อิมินา ‘‘วาเสตุ’’นฺติ ปทสฺส กรณํ ทเสฺสติฯ ‘‘อุทกฎฺฐปนฎฺฐาน’’นฺติ อิมินา อุทกฎฺฐานนฺติ เอตฺถ อุทกสฺส ฐปนํ ฐานํ อุทกฎฺฐานนฺติ มเชฺฌปทโลปสมาสํ ทเสฺสติฯ ตตฺถาติ อุทกฎฺฐาเนฯ โกฎฺฐโกติ เอตฺถ น ยตฺถ กตฺถจิ, ยสฺส กสฺสจิ วา โกฎฺฐโก โหติ, อปิ จ โข ปน ทฺวาเร เอว, ทฺวารเสฺสว วา โกฎฺฐโกติ อาห ‘‘ทฺวารโกฎฺฐโก’’ติฯ

    260.Semhādidosussannakāyāti semhādidosehi ussannakāyā. Aggaḷatthambhoti kavāṭatthambho. Yatthāti aggaḷatthambhe. Tatthāti dvārabāhāya. Tatthāti aggaḷapāsake. Dhūmo nikkhamati etenāti dhūmanetto, chiddo. Tena vuttaṃ ‘‘dhūmanikkhamanachidda’’nti . ‘‘Gandhehī’’ti iminā ‘‘vāsetu’’nti padassa karaṇaṃ dasseti. ‘‘Udakaṭṭhapanaṭṭhāna’’nti iminā udakaṭṭhānanti ettha udakassa ṭhapanaṃ ṭhānaṃ udakaṭṭhānanti majjhepadalopasamāsaṃ dasseti. Tatthāti udakaṭṭhāne. Koṭṭhakoti ettha na yattha katthaci, yassa kassaci vā koṭṭhako hoti, api ca kho pana dvāre eva, dvārasseva vā koṭṭhakoti āha ‘‘dvārakoṭṭhako’’ti.

    ๒๖๑. ปริกมฺมนฺติ ปิฎฺฐิอาทิปริกมฺมํฯ ปฎิจฺฉาทิยติ อิมายาติ ปฎิจฺฉาทิ, วตฺถเมว ปฎิจฺฉาทิ วตฺถปฎิจฺฉาทิฯ อุทกํ น โหตีติ เอตฺถ ปาโนทกํ นิวเตฺตโนฺต อาห ‘‘นฺหาโนทกํ น โหตี’’ติฯ

    261.Parikammanti piṭṭhiādiparikammaṃ. Paṭicchādiyati imāyāti paṭicchādi, vatthameva paṭicchādi vatthapaṭicchādi. Udakaṃ na hotīti ettha pānodakaṃ nivattento āha ‘‘nhānodakaṃ na hotī’’ti.

    ๒๖๒. ปณฺณิกานํ ตุลํ วิย อุทกอุพฺพาหนกตุลนฺติ โยชนาฯ ทีฆวรตฺตาทีหีติอาทิสเทฺทน รชฺชุ อาทโย สงฺคณฺหาติฯ อรหตฺถฆฎิยนฺตํ นาม จกฺกสณฺฐานํ อเนการํ อเร อเร ฆฎานิ พนฺธิตฺวา เอเกน วา ทฺวีหิ วา ปริพฺภมิยมานํ ยนฺตํฯ อรสงฺขาเตสุ หเตฺถสุ ฆฎา พนฺธิตพฺพา เอตฺถาติ อรหตฺถฆฎิ, ตเมว ยนฺตํ อรหตฺถฆฎิยนฺตํฯ จมฺมภาชนนฺติ จมฺมมยํ ภาชนํฯ อปริกฺขิตฺตา โหตีติ จนฺทนิกา อปาการา โหติฯ อุทกปุญฺชนํ วฎฺฎตีติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺมินฺติ อุทกปุญฺชเนฯ ‘‘อุทกปุญฺชนี’’ติปิ ปาโฐฯ เอวํ สติ ตาย อุทกปุญฺชนิยาติ อโตฺถฯ ปจฺจุทฺธริตุนฺติ อปเนตุํฯ

    262. Paṇṇikānaṃ tulaṃ viya udakaubbāhanakatulanti yojanā. Dīghavarattādīhītiādisaddena rajju ādayo saṅgaṇhāti. Arahatthaghaṭiyantaṃ nāma cakkasaṇṭhānaṃ anekāraṃ are are ghaṭāni bandhitvā ekena vā dvīhi vā paribbhamiyamānaṃ yantaṃ. Arasaṅkhātesu hatthesu ghaṭā bandhitabbā etthāti arahatthaghaṭi, tameva yantaṃ arahatthaghaṭiyantaṃ. Cammabhājananti cammamayaṃ bhājanaṃ. Aparikkhittā hotīti candanikā apākārā hoti. Udakapuñjanaṃ vaṭṭatīti sambandho. Tasminti udakapuñjane. ‘‘Udakapuñjanī’’tipi pāṭho. Evaṃ sati tāya udakapuñjaniyāti attho. Paccuddharitunti apanetuṃ.

    ๒๖๓. อา สมนฺตโต วิทฺธํ ปกฺขปาสกเมตฺถาติ อาวิทฺธปกฺขปาสกํฯ มณฺฑเลติ กณฺณิกมณฺฑลมฺหิฯ กตํ กูฎญฺจ ฉทนญฺจ เอตฺถาติ กตกูฎจฺฉทนํ, ชนฺตาฆรํ, ตสฺสฯ เอตนฺติ ‘‘นิเลฺลขชนฺตาฆร’’นฺติ เอตํ นามํฯ ‘‘จตฺตาโร มาเส’’ติ อิมินา ‘‘จตุมาส’’นฺติ ทิคุสมาสสฺส วากฺยํ ทเสฺสติฯ

    263. Ā samantato viddhaṃ pakkhapāsakametthāti āviddhapakkhapāsakaṃ. Maṇḍaleti kaṇṇikamaṇḍalamhi. Kataṃ kūṭañca chadanañca etthāti katakūṭacchadanaṃ, jantāgharaṃ, tassa. Etanti ‘‘nillekhajantāghara’’nti etaṃ nāmaṃ. ‘‘Cattāro māse’’ti iminā ‘‘catumāsa’’nti digusamāsassa vākyaṃ dasseti.

    ๒๖๔. นมตกนฺติ เอตฺถ เหฎฺฐา วุตฺตนมตกโต (จูฬว. อฎฺฐ. ๒๕๖) วิเสสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เอฬกโลเมหี’’ติอาทิฯ อวายิมนฺติ วายิตฺวา น กตํฯ จมฺมขณฺฑปริหาเรนาติ จมฺมขณฺฑํ วิย อธิฎฺฐานวิกปฺปนอปนยเนน, ปริภุญฺชิตพฺพนฺติ อโตฺถฯ เปฬายาติ อฎฺฐํสาทิอากาเรน กตาย มญฺชูสายฯ เอตนฺติ ‘‘อาสิตฺตกูปธาน’’นฺติ เอตํ นามํฯ ทารุมยาปีติ ปิสโทฺท น ตมฺพโลหรชตมยา เอวาติ ทเสฺสติฯ เอเตฺถวาติ มโฬริกายเมวฯ อาธารกสเงฺขปคมนโตติ อาธารเก สเงฺขปํ คมนโตฯ หีติ สจฺจํ, ยสฺมา วาฯ ปุเพฺพ ปตฺตรกฺขนตฺถํ อาธารโก อนุญฺญาโต, อิทานิ ภุญฺชนตฺถนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ เอโก ภิกฺขุ คจฺฉตีติ สมฺพโนฺธฯ เสสกนฺติ คเหตพฺพผลปูเวหิ เสสกํฯ ตสฺมิํ ขเณติ ตสฺมิํ ภุญฺชนกฺขเณฯ

    264.Namatakanti ettha heṭṭhā vuttanamatakato (cūḷava. aṭṭha. 256) visesaṃ dassento āha ‘‘eḷakalomehī’’tiādi. Avāyimanti vāyitvā na kataṃ. Cammakhaṇḍaparihārenāti cammakhaṇḍaṃ viya adhiṭṭhānavikappanaapanayanena, paribhuñjitabbanti attho. Peḷāyāti aṭṭhaṃsādiākārena katāya mañjūsāya. Etanti ‘‘āsittakūpadhāna’’nti etaṃ nāmaṃ. Dārumayāpīti pisaddo na tambaloharajatamayā evāti dasseti. Etthevāti maḷorikāyameva. Ādhārakasaṅkhepagamanatoti ādhārake saṅkhepaṃ gamanato. ti saccaṃ, yasmā vā. Pubbe pattarakkhanatthaṃ ādhārako anuññāto, idāni bhuñjanatthanti daṭṭhabbaṃ. Eko bhikkhu gacchatīti sambandho. Sesakanti gahetabbaphalapūvehi sesakaṃ. Tasmiṃ khaṇeti tasmiṃ bhuñjanakkhaṇe.

    ๒๖๕. เอเกเกนปิ อเงฺคนาติ ปิสโทฺท สมฺภาวนโตฺถ, ตโต ปน อธิเกหิ อเงฺคหิ ปเควาติ หิ อโตฺถฯ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส นิกฺกุชฺชิตุนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺสาติ อุปาสกสฺสฯ น คเหตโพฺพติ สเงฺฆน น คเหตโพฺพฯ อสุกสฺส อุปาสกสฺสาติ สมฺพโนฺธฯ อุกฺกุชฺชนกาเลติ ปตฺตสฺส อุกฺกุชฺชนกาเลฯ ยาจาเปตฺวาติ ปตฺตนิกุชฺชิเตน อุปาสเกน ยาจาเปตฺวาฯ หตฺถปาสนฺติ สงฺฆสฺส หตฺถปาสํฯ

    265.Ekekenapi aṅgenāti pisaddo sambhāvanattho, tato pana adhikehi aṅgehi pagevāti hi attho. Samannāgatassa upāsakassa nikkujjitunti sambandho. Tassāti upāsakassa. Na gahetabboti saṅghena na gahetabbo. Asukassa upāsakassāti sambandho. Ukkujjanakāleti pattassa ukkujjanakāle. Yācāpetvāti pattanikujjitena upāsakena yācāpetvā. Hatthapāsanti saṅghassa hatthapāsaṃ.

    ๒๖๘. ปุรกฺขตฺวาติ เอตฺถ ปุรสทฺทสฺส อคฺคตฺถภาวญฺจ กรสทฺทสฺส ขาเทสภาวญฺจ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อคฺคโต กตฺวา’’ติฯ โสติ โพธิราชกุมาโร, สนฺถรีติ สมฺพโนฺธฯ ลจฺฉามีติ ลภิสฺสามิ, เอส โพธิราชกุมาโร ปุตฺตลาภาย อภโพฺพติ โยชนาฯ อกฺกมเน โทสํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยที’’ติอาทิฯ ปจฺฉาติ อกฺกมนโต ปจฺฉาฯ อยนฺติ ภควาฯ อิทนฺติ การณํฯ ตาวาติ สิกฺขาปทปญฺญตฺติโต, สิกฺขาปทปญฺญตฺติยา วา ปฐมํฯ ปริภวโตติ คิหีนํ ปริภวโตฯ

    268.Purakkhatvāti ettha purasaddassa aggatthabhāvañca karasaddassa khādesabhāvañca dassento āha ‘‘aggato katvā’’ti. Soti bodhirājakumāro, santharīti sambandho. Lacchāmīti labhissāmi, esa bodhirājakumāro puttalābhāya abhabboti yojanā. Akkamane dosaṃ dassento āha ‘‘yadī’’tiādi. Pacchāti akkamanato pacchā. Ayanti bhagavā. Idanti kāraṇaṃ. Tāvāti sikkhāpadapaññattito, sikkhāpadapaññattiyā vā paṭhamaṃ. Paribhavatoti gihīnaṃ paribhavato.

    มงฺคลตฺถายาติ อโรคาทิกสฺส มงฺคลสฺส อตฺถายฯ โธตปาทกนฺติ เอตฺถ โธเตหิ ปาเทหิ อกฺกมนฎฺฐาเน อตฺถริตํ โธตปาทกนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โธตปาทกํ นามา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ‘‘ปจฺจตฺถรณํ อตฺถต’’นฺติ อิมินา ‘‘โธตปาทก’’นฺติ เอตฺถ ณิกปจฺจยสฺส อตฺถริตเตฺถ ปวตฺตภาวํ ทเสฺสติฯ

    Maṅgalatthāyāti arogādikassa maṅgalassa atthāya. Dhotapādakanti ettha dhotehi pādehi akkamanaṭṭhāne attharitaṃ dhotapādakanti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘dhotapādakaṃ nāmā’’tiādi. Tattha ‘‘paccattharaṇaṃ atthata’’nti iminā ‘‘dhotapādaka’’nti ettha ṇikapaccayassa attharitatthe pavattabhāvaṃ dasseti.

    ๒๖๙. ปทุมกณฺณิกาการนฺติ ปทุมกณฺณิกสณฺฐานํฯ กตํ ปาทฆํสนํ กตกํ นามาติ โยชนาฯ นฺติ กตกํ, ปฎิกฺขิตฺตเมวาติ สมฺพโนฺธฯ โปตฺถเกสุ ตํสโทฺท คลิโตติ ทฎฺฐโพฺพฯ พาหุลฺลิกานุโยคตฺตาติ ปจฺจยพหุลภาวาย อนุโยคตฺตาฯ ปาสาณเผณโกปีติ ปาสาณอพฺพุทมฺปิฯ พีชนีติ จตุรสฺสพีชนีฯ นฺติ วิธูปนํ, กตํ โหตูติ สมฺพโนฺธฯ อิธาปิ ตํสโทฺท คลิโตฯ เวฬุทนฺตวิลีเวหิ วา โมรปิเญฺฉหิ วา จมฺมวิกตีหิ วา กตํ โหตูติ โยชนาฯ สพฺพํ วิธูปนนฺติ สมฺพโนฺธฯ ปาฬิยํ ตาลวณฺฎนฺติ สห วเณฺฎน กตํ ตาลํ ตาลวณฺฎํ, ตาลสเทฺทน ตํมยา มณฺฑลพีชนี คเหตพฺพา วิการีวิการภาเวน สมฺพนฺธตฺตาฯ มกสพีชนีติ มกสานํ ปลายนกพีชนี, ทนฺตมยวิสาณมยทณฺฑกาปิ มกสพีชนี วฎฺฎตีติ โยชนาฯ ‘‘วากมยพีชนิยา’’ติ ปทํ ‘‘สงฺคหิตา’’ติ ปเท อาธาโร, กรณํ วาฯ

    269.Padumakaṇṇikākāranti padumakaṇṇikasaṇṭhānaṃ. Kataṃ pādaghaṃsanaṃ katakaṃ nāmāti yojanā. Tanti katakaṃ, paṭikkhittamevāti sambandho. Potthakesu taṃsaddo galitoti daṭṭhabbo. Bāhullikānuyogattāti paccayabahulabhāvāya anuyogattā. Pāsāṇapheṇakopīti pāsāṇaabbudampi. Bījanīti caturassabījanī. Tanti vidhūpanaṃ, kataṃ hotūti sambandho. Idhāpi taṃsaddo galito. Veḷudantavilīvehi vā morapiñchehi vā cammavikatīhi vā kataṃ hotūti yojanā. Sabbaṃ vidhūpananti sambandho. Pāḷiyaṃ tālavaṇṭanti saha vaṇṭena kataṃ tālaṃ tālavaṇṭaṃ, tālasaddena taṃmayā maṇḍalabījanī gahetabbā vikārīvikārabhāvena sambandhattā. Makasabījanīti makasānaṃ palāyanakabījanī, dantamayavisāṇamayadaṇḍakāpi makasabījanī vaṭṭatīti yojanā. ‘‘Vākamayabījaniyā’’ti padaṃ ‘‘saṅgahitā’’ti pade ādhāro, karaṇaṃ vā.

    ๒๗๐. ยสฺสาติ ภิกฺขุสฺส จกฺขุํ วา ทุพฺพลํ โหตีติ โยชนาฯ อโญฺญติ กายฑาหาทีหิ อาพาเธหิ อโญฺญ, โกจิ อาพาโธ วา อุปฺปชฺชตีติ โยชนาฯ ‘‘วเสฺส ปนา’’ติ ปทํ ‘‘จีวรคุตฺตตฺถ’’นฺติ ปเท เอว สมฺพนฺธิตพฺพํฯ จีวรคุตฺตตฺถนฺติ จีวรสฺส วสฺสเตมนโต คุตฺตตฺถํ, วาฬมิคโจรภเยสุ สเนฺตสูติ สมฺพโนฺธฯ ตาลปณฺณาทินา เอเกน ปเณฺณน กตํ ฉตฺตํ เอกปณฺณจฺฉตฺตํฯ สพฺพเตฺถวาติ สเพฺพสุ เอว คามารเญฺญสุฯ

    270.Yassāti bhikkhussa cakkhuṃ vā dubbalaṃ hotīti yojanā. Aññoti kāyaḍāhādīhi ābādhehi añño, koci ābādho vā uppajjatīti yojanā. ‘‘Vasse panā’’ti padaṃ ‘‘cīvaraguttattha’’nti pade eva sambandhitabbaṃ. Cīvaraguttatthanti cīvarassa vassatemanato guttatthaṃ, vāḷamigacorabhayesu santesūti sambandho. Tālapaṇṇādinā ekena paṇṇena kataṃ chattaṃ ekapaṇṇacchattaṃ. Sabbatthevāti sabbesu eva gāmāraññesu.

    ‘‘อสิ อสฺสา’’ติ อิมินา อสิสฺสาติ ปทสฺส อนวกาสวิธิํ ทเสฺสติฯ อสีติ ขโคฺคฯ อสฺสาติ โจรสฺส, อสีติ สมฺพโนฺธฯ วิโชฺชตลตีติ เอตฺถ อลปจฺจโย รูปสิทฺธิมโตฺตวาติ อาห ‘‘วิโชฺชตตี’’ติฯ ‘‘จตุหโตฺถเยวา’’ติ อิมินา ปมาณยุโตฺตติ ปทสฺส อตฺถํ ทเสฺสติฯ ตโตติ จตุหตฺถโตฯ สเพฺพสนฺติ คิลานาคิลานานํฯ ‘‘สกฺกา ปนา’’ติ ปทํ ‘‘น วฎฺฎตี’’ติ ปเท กตฺตา, ‘‘ทาตพฺพา’’ติ ปเท กมฺมํฯ สมฺมนฺนิตฺวาว ทาตพฺพา, น วินา สมฺมุติยาติ อธิปฺปาโยฯ

    ‘‘Asi assā’’ti iminā asissāti padassa anavakāsavidhiṃ dasseti. Asīti khaggo. Assāti corassa, asīti sambandho. Vijjotalatīti ettha alapaccayo rūpasiddhimattovāti āha ‘‘vijjotatī’’ti. ‘‘Catuhatthoyevā’’ti iminā pamāṇayuttoti padassa atthaṃ dasseti. Tatoti catuhatthato. Sabbesanti gilānāgilānānaṃ. ‘‘Sakkā panā’’ti padaṃ ‘‘na vaṭṭatī’’ti pade kattā, ‘‘dātabbā’’ti pade kammaṃ. Sammannitvāva dātabbā, na vinā sammutiyāti adhippāyo.

    ๒๗๓. อาคตนฺติ อุทริยโต นิกฺขมิตฺวา อาคตํฯ อุคฺคารนฺติ คลโต อุคฺคารํ โภชนนฺติ สมฺพโนฺธฯ สนฺธาเรตฺวาติ ปติฎฺฐาเปตฺวาฯ อสนฺธาริตเมว หุตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ

    273.Āgatanti udariyato nikkhamitvā āgataṃ. Uggāranti galato uggāraṃ bhojananti sambandho. Sandhāretvāti patiṭṭhāpetvā. Asandhāritameva hutvāti sambandho.

    นฺติ ขาทนียโภชนียํ, ปติตนฺติ สมฺพโนฺธฯ นฺติ ขาทนียโภชนียํ, คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุนฺติ สมฺพโนฺธฯ อิทนฺติ วจนํฯ

    Yanti khādanīyabhojanīyaṃ, patitanti sambandho. Tanti khādanīyabhojanīyaṃ, gahetvā paribhuñjitunti sambandho. Idanti vacanaṃ.

    ๒๗๔. กุพฺพํ กริสฺสามีติ เอตฺถ กริยติ อุจฺจาริยตีติ กุพฺพนฺติ วุเตฺต สโทฺทติ อาห ‘‘สทฺทํ กริสฺสามี’’ติฯ สทฺทนฺติ ‘‘อยํ มํ ภิกฺขุ วิปฺปกโรตี’’ติ อุจฺจาสทฺทํฯ นขาทีหีติอาทิสเทฺทน มุขกุเฎฺฎ สงฺคณฺหาติฯ อนุรกฺขนตฺถนฺติ อนุทเยน ปาลนตฺถํฯ นขเจฺฉทนนฺติ นขํ ฉินฺทติ อเนนาติ นขเจฺฉทนํ, สตฺถกาทิฯ วีสติมฎฺฐนฺติ เอตฺถ วีสติยา นขานํ มฎฺฐํ วีสติมฎฺฐนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘วีสติปิ นเข’’ติอาทิฯ ลิขิตมเฎฺฐติ ลิขิเต หุตฺวา มเฎฺฐฯ การาเปนฺตีติ นหาปิเต การาเปนฺติฯ นขโตติ นขโต วา นขนฺตรโต วาฯ อปกฑฺฒิตุนฺติ กฑฺฒิตฺวา อปเนตุํฯ

    274.Kubbaṃ karissāmīti ettha kariyati uccāriyatīti kubbanti vutte saddoti āha ‘‘saddaṃ karissāmī’’ti. Saddanti ‘‘ayaṃ maṃ bhikkhu vippakarotī’’ti uccāsaddaṃ. Nakhādīhītiādisaddena mukhakuṭṭe saṅgaṇhāti. Anurakkhanatthanti anudayena pālanatthaṃ. Nakhacchedananti nakhaṃ chindati anenāti nakhacchedanaṃ, satthakādi. Vīsatimaṭṭhanti ettha vīsatiyā nakhānaṃ maṭṭhaṃ vīsatimaṭṭhanti dassento āha ‘‘vīsatipi nakhe’’tiādi. Likhitamaṭṭheti likhite hutvā maṭṭhe. Kārāpentīti nahāpite kārāpenti. Nakhatoti nakhato vā nakhantarato vā. Apakaḍḍhitunti kaḍḍhitvā apanetuṃ.

    ๒๗๕. ขุรโกสกนฺติ ขุรสฺส ฐปนกํฯ กตฺตริยาติ กนฺติยติ ฉินฺทิยติ อิมายาติ กตฺตริ, อโยมโย เอโก อุปกรณวิเสโส, ตายฯ ‘‘เฉทาเปนฺตี’’ติ อิมินา กปฺปาเปนฺตีติ เอตฺถ กปฺปสทฺทสฺส วิธฺยตฺถํ อธิปฺปาเยน ทเสฺสติฯ มสฺสุํ วฑฺฒาเปนฺตีติ เอตฺถ มสฺสุํ วเฑฺฒตฺวา รุหาเปนฺตีติ อตฺถํ ปฎิกฺขิปโนฺต อาห ‘‘มสฺสุํ ทีฆํ การาเปนฺตี’’ติฯ เอฬกมสฺสูติ เอฬกสฺส วิย มสฺสูติ เอฬกมสฺสุฯ ‘‘โคโลมิก’’นฺติ วุจฺจตีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘จตุโกณ’’นฺติ อิมินา จตุรสฺสนฺติ เอตฺถ อํสสโทฺท โกณโตฺถติ ทเสฺสติฯ จตุรสฺสนฺติ เอตฺถ หิ ‘‘จตุรํส’’นฺติ วตฺตเพฺพ นิคฺคหิตสฺส โลปํ กตฺวา ปรสฺส สการสฺส เทฺวภาวํ กตฺวา ‘‘จตุรสฺส’’นฺติ วุตฺตํฯ โลมสํหรณนฺติ โลมานํ อปนยนํฯ โลมราชิฎฺฐปนนฺติ โลมเลขาฐปนํฯ สพฺพตฺถาติ สเพฺพสุ, มสฺสุกปฺปนาทีสูติ สมฺพโนฺธฯ คณฺฑวณรุธิอาพาธปจฺจยาติ คโณฺฑ จ วโณ จ รุธิ จ คณฺฑวณรุธโย, เตเยว อาพาธา คณฺฑวณรุธิอาพาธา, เตสํ ปจฺจยาฯ วโณติ มหโนฺต วโณฯ รุธีติ ขุทฺทโก วโณฯ สกฺขราทีหีติ สกฺขรมธุสิตฺถเกหิฯ สณฺฑาโสติ สุฎฺฐุ โลมํ ฑํสตีติ สณฺฑาโสฯ นฺติ โลมํ, ฐิตนฺติ สมฺพโนฺธฯ กตฺถ ฐิตนฺติ อาห ‘‘ภมุกาย วา’’ติอาทิฯ กิํ หุตฺวา ฐิตนฺติ อาห – ‘‘อุคฺคนฺตฺวา วิภจฺฉํ ฐิต’’นฺติ, วิภจฺฉํ หุตฺวา ฐิตนฺติ โยชนาฯ วิเสเสน โสภณํ ภกฺขตีติ วิภโจฺฉ, อโสภโณฯ ‘‘วิคจฺฉ’’นฺติปิ ปาโฐ, วิรูปํ คจฺฉติ, คมยตีติ วา วิคโจฺฉฯ ตตฺถ ปุริมปาโฐเยว มูลปาโฐติ ทฎฺฐโพฺพติฯ ปลิตํ วา อปลิตํ วา ตาทิสํ โลมนฺติ โยชนาฯ

    275.Khurakosakanti khurassa ṭhapanakaṃ. Kattariyāti kantiyati chindiyati imāyāti kattari, ayomayo eko upakaraṇaviseso, tāya. ‘‘Chedāpentī’’ti iminā kappāpentīti ettha kappasaddassa vidhyatthaṃ adhippāyena dasseti. Massuṃ vaḍḍhāpentīti ettha massuṃ vaḍḍhetvā ruhāpentīti atthaṃ paṭikkhipanto āha ‘‘massuṃ dīghaṃ kārāpentī’’ti. Eḷakamassūti eḷakassa viya massūti eḷakamassu. ‘‘Golomika’’nti vuccatīti sambandho. ‘‘Catukoṇa’’nti iminā caturassanti ettha aṃsasaddo koṇatthoti dasseti. Caturassanti ettha hi ‘‘caturaṃsa’’nti vattabbe niggahitassa lopaṃ katvā parassa sakārassa dvebhāvaṃ katvā ‘‘caturassa’’nti vuttaṃ. Lomasaṃharaṇanti lomānaṃ apanayanaṃ. Lomarājiṭṭhapananti lomalekhāṭhapanaṃ. Sabbatthāti sabbesu, massukappanādīsūti sambandho. Gaṇḍavaṇarudhiābādhapaccayāti gaṇḍo ca vaṇo ca rudhi ca gaṇḍavaṇarudhayo, teyeva ābādhā gaṇḍavaṇarudhiābādhā, tesaṃ paccayā. Vaṇoti mahanto vaṇo. Rudhīti khuddako vaṇo. Sakkharādīhīti sakkharamadhusitthakehi. Saṇḍāsoti suṭṭhu lomaṃ ḍaṃsatīti saṇḍāso. Yanti lomaṃ, ṭhitanti sambandho. Kattha ṭhitanti āha ‘‘bhamukāya vā’’tiādi. Kiṃ hutvā ṭhitanti āha – ‘‘uggantvā vibhacchaṃ ṭhita’’nti, vibhacchaṃ hutvā ṭhitanti yojanā. Visesena sobhaṇaṃ bhakkhatīti vibhaccho, asobhaṇo. ‘‘Vigaccha’’ntipi pāṭho, virūpaṃ gacchati, gamayatīti vā vigaccho. Tattha purimapāṭhoyeva mūlapāṭhoti daṭṭhabboti. Palitaṃ vā apalitaṃ vā tādisaṃ lomanti yojanā.

    ๒๗๗. กํสปตฺถริกาติ เอตฺถ กํสอาปเณ ปตฺถรนฺติ ปสาเรนฺตีติ กํสปตฺถริกาติ วุเตฺต กํสภณฺฑวาณิชา คเหตพฺพาติ อาห ‘‘กํสภณฺฑวาณิชา’’ติฯ วาสิทณฺฑาทีนํ อปาตนตฺถํ พนฺธติ อเนน โลเหนาติ พนฺธนํ, ตเมว มตฺตํ อปฺปนฺติ พนฺธนมตฺตํฯ

    277.Kaṃsapattharikāti ettha kaṃsaāpaṇe pattharanti pasārentīti kaṃsapattharikāti vutte kaṃsabhaṇḍavāṇijā gahetabbāti āha ‘‘kaṃsabhaṇḍavāṇijā’’ti. Vāsidaṇḍādīnaṃ apātanatthaṃ bandhati anena lohenāti bandhanaṃ, tameva mattaṃ appanti bandhanamattaṃ.

    ๒๗๘. นิกฺขมเนฺตนาติ อารามโต นิกฺขมเนฺตนฯ ยตฺถาติ ยสฺมิํ ฐาเนฯ ‘‘สริตฺวา’’ติ อิมินา อสริตฺวา ปิณฺฑาย จริตพฺพนฺติ ทเสฺสติฯ พหุรชฺชุกนฺติ พหู รชฺชุโย เอตสฺสาติ พหุรชฺชุกํฯ อิมินา กลาเปน พหุรชฺชูนํ สมูเหน กตฺตพฺพนฺติ กลาปุกนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติ, อิการสฺสุกาโรฯ เทฑฺฑุภกนฺติ เอตฺถ เทฑฺฑุภสเทฺทน ตสฺส สีสํ คเหตพฺพํ เอกเทสูปจาเรน, เทฑฺฑุภํ วิยาติ เทฑฺฑุภกํ, สทิสเตฺถ กปจฺจโย โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อุทกสปฺปสีสสทิส’’นฺติฯ ‘‘มุรชวฎฺฎิสณฺฐาน’’นฺติ อิมินา มุรชสเทฺทน มุรชวฎฺฎิ คเหตพฺพา ตสฺส วิการตฺตา, เตน สทิสํ มุรชนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ เวเฐตฺวาติ พหุรชฺชุเก เอกโต เวเฐตฺวาฯ มทฺทวีณสโทฺท ปามงฺคปริยาโยฯ มทฺทวีณํ วิยาติ มทฺทวีณํฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ปามงฺคสณฺฐาน’’นฺติฯ ‘‘ปเคว พหูนี’’ติ อิมินา ‘‘เอกมฺปี’’ติ เอตฺถ ปิสทฺทสฺส สมฺภาวนตฺถํ ทเสฺสติฯ มจฺฉกณฺฎกวายิมาติ มจฺฉกณฺฎกํ วิย ทเสฺสตฺวา วายิมาฯ กุญฺชรจฺฉิกาทิเภทาติ วารณอจฺฉิกาทิเภทาฯ วารโณ หิ กุํ ภูมิํ ชราเปตีติ กุญฺชโรติ (วิ. ว. อฎฺฐ. ๓๑; อ. นิ. ฎี. ๑.๑.๒) จ กุเญฺช นิกุเญฺช รมตีติ กุญฺชโรติ จ วุจฺจติฯ ตสฺส อจฺฉิ วิยาติ กุญฺชรจฺฉิกํ, ตํ อาทิ เยสํ ตานีติ กุญฺชรจฺฉิกาทีนิ, เตสํ เภทาติ กุญฺชรจฺฉิกาทิเภทาฯ อาทิสเทฺทน โคณจฺฉิกาทโย สงฺคณฺหาติฯ ‘‘กุญฺจิกาโกสกสณฺฐาน’’นฺติ อิมินา สูกรสฺส อนฺตํ วิย สูกรนฺตกนฺติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ สูกรสฺส หิ อนฺตํ กุญฺจิกาโกสกํ วิย มเชฺฌ สุสิโร โหติฯ สูกรนฺตกํ อนุโลเมตีติ สูกรนฺตเกน อนุโลเมติฯ ทสาสุเยวาติ กายพนฺธนสฺส อเนฺตสุเยวฯ เอตฺถาติ ทสาสุฯ ‘‘จตุนฺนํ อุปริ น วฎฺฎตี’’ติ อิมินา มุรชทสา ตโต อุปริ วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ เวเฐตฺวาติ รชฺชุํ วเตฺถน เวเฐตฺวาฯ มุทฺทิกสณฺฐาเนนาติ วรกสีสสณฺฐาเนนฯ เอวํ สิพฺพิตาติ เอวํ สิพฺพิยมานาฯ หีติ ผลโชตโกฯ ปาสโนฺตติ ปาสโกฎิฯ

    278.Nikkhamantenāti ārāmato nikkhamantena. Yatthāti yasmiṃ ṭhāne. ‘‘Saritvā’’ti iminā asaritvā piṇḍāya caritabbanti dasseti. Bahurajjukanti bahū rajjuyo etassāti bahurajjukaṃ. Iminā kalāpena bahurajjūnaṃ samūhena kattabbanti kalāpukanti vacanatthaṃ dasseti, ikārassukāro. Deḍḍubhakanti ettha deḍḍubhasaddena tassa sīsaṃ gahetabbaṃ ekadesūpacārena, deḍḍubhaṃ viyāti deḍḍubhakaṃ, sadisatthe kapaccayo hoti. Tena vuttaṃ ‘‘udakasappasīsasadisa’’nti. ‘‘Murajavaṭṭisaṇṭhāna’’nti iminā murajasaddena murajavaṭṭi gahetabbā tassa vikārattā, tena sadisaṃ murajanti vacanatthaṃ dasseti. Veṭhetvāti bahurajjuke ekato veṭhetvā. Maddavīṇasaddo pāmaṅgapariyāyo. Maddavīṇaṃ viyāti maddavīṇaṃ. Tena vuttaṃ ‘‘pāmaṅgasaṇṭhāna’’nti. ‘‘Pageva bahūnī’’ti iminā ‘‘ekampī’’ti ettha pisaddassa sambhāvanatthaṃ dasseti. Macchakaṇṭakavāyimāti macchakaṇṭakaṃ viya dassetvā vāyimā. Kuñjaracchikādibhedāti vāraṇaacchikādibhedā. Vāraṇo hi kuṃ bhūmiṃ jarāpetīti kuñjaroti (vi. va. aṭṭha. 31; a. ni. ṭī. 1.1.2) ca kuñje nikuñje ramatīti kuñjaroti ca vuccati. Tassa acchi viyāti kuñjaracchikaṃ, taṃ ādi yesaṃ tānīti kuñjaracchikādīni, tesaṃ bhedāti kuñjaracchikādibhedā. Ādisaddena goṇacchikādayo saṅgaṇhāti. ‘‘Kuñcikākosakasaṇṭhāna’’nti iminā sūkarassa antaṃ viya sūkarantakanti atthaṃ dasseti. Sūkarassa hi antaṃ kuñcikākosakaṃ viya majjhe susiro hoti. Sūkarantakaṃ anulometīti sūkarantakena anulometi. Dasāsuyevāti kāyabandhanassa antesuyeva. Etthāti dasāsu. ‘‘Catunnaṃ upari na vaṭṭatī’’ti iminā murajadasā tato upari vaṭṭatīti dasseti. Veṭhetvāti rajjuṃ vatthena veṭhetvā. Muddikasaṇṭhānenāti varakasīsasaṇṭhānena. Evaṃ sibbitāti evaṃ sibbiyamānā. ti phalajotako. Pāsantoti pāsakoṭi.

    ๒๘๐. โอลมฺพกํ กตฺวา นิวตฺถํ หตฺถิโสณฺฑกํ นามาติ โยชนาฯ โจฬิกอิตฺถีนนฺติ โจฬรเฎฺฐ นิวาสีนํ อิตฺถีนํฯ หตฺถิยา โสโณฺฑ วิย หตฺถิโสณฺฑกํ นิวตฺถํฯ มจฺฉวาลํ วิยาติ มจฺฉวาลกํฯ จตฺตาโร กณฺณา เอตสฺส นิวตฺถสฺสาติ จตุกณฺณกํฯ ตาลวณฺฎํ วิยาติ ตาลวณฺฎกํฯ สตํ วลิโน เอตสฺส นิวตฺถสฺสาติ สตวลิกํฯ ‘‘อเนกกฺขตฺตุ’’นฺติ อิมินา ‘‘สตวลิก’’นฺติ เอตฺถ สตสทฺทสฺส อเนกตฺถวาจกตํ ทเสฺสติฯ ‘‘วามทกฺขิณปเสฺสสุ วา’’ติ อิมินา ปุริมนิวตฺถํ กฎิโต ปฎฺฐาย เหฎฺฐา นิวตฺถํ นามาติ ทเสฺสติฯ

    280. Olambakaṃ katvā nivatthaṃ hatthisoṇḍakaṃ nāmāti yojanā. Coḷikaitthīnanti coḷaraṭṭhe nivāsīnaṃ itthīnaṃ. Hatthiyā soṇḍo viya hatthisoṇḍakaṃ nivatthaṃ. Macchavālaṃ viyāti macchavālakaṃ. Cattāro kaṇṇā etassa nivatthassāti catukaṇṇakaṃ. Tālavaṇṭaṃ viyāti tālavaṇṭakaṃ. Sataṃ valino etassa nivatthassāti satavalikaṃ. ‘‘Anekakkhattu’’nti iminā ‘‘satavalika’’nti ettha satasaddassa anekatthavācakataṃ dasseti. ‘‘Vāmadakkhiṇapassesu vā’’ti iminā purimanivatthaṃ kaṭito paṭṭhāya heṭṭhā nivatthaṃ nāmāti dasseti.

    สํวลฺลิตฺวา นิวตฺถํ สํวลฺลิยํฯ มโลฺล จ กมฺมกาโร จ มลฺลกมฺมการา, เต อาทโย เยสํ เตติ มลฺลกมฺมการาทโยฯ อาทิสเทฺทน ธุตฺตาทโย สงฺคณฺหาติฯ ยมฺปิ นิวตฺถํ นิวาเสนฺติ, สพฺพํ ตํ นิวตฺถํ น วฎฺฎตีติ โยชนาฯ เอกํ วา โกณนฺติ สมฺพโนฺธฯ โกเณติ อนฺตรวาสกสฺส โกเณฯ ‘‘ตถา’’ติ อิมินา ‘‘เอกํ วา เทฺว วา โกเณ อุกฺขิปิตฺวา อนฺตรวาสกสฺส อุปริ ลเคฺคนฺตี’’ติ อตฺถํ อติทิสติฯ อโนฺตกาสาวสฺส ทเสฺสตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ เทฺว นิวาเสเนฺตน อคิลาเนนาติ โยชนาฯ สคุณนฺติ อโนฺตกาสาเวน พหิกาสาวํ สมานคุณํ กตฺวาฯ อิตีติอาทิ นิคมนํฯ ยญฺจาติ ยํ นิวตฺถญฺจฯ อิธาติ ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเกฯ ยญฺจ เสขิยวณฺณนายํ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๕๗๖ อาทโย) ปฎิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ สพฺพํ ตํ นิวตฺถนฺติ โยชนาฯ นิพฺพิการํ กตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ อุโภ กเณฺณติ เหฎฺฐา ฐิเต อุโภ กเณฺณ อุปริ จ ฐิเต อุโภ กเณฺณฯ นฺติ ปริมณฺฑลปารุปนํฯ

    Saṃvallitvā nivatthaṃ saṃvalliyaṃ. Mallo ca kammakāro ca mallakammakārā, te ādayo yesaṃ teti mallakammakārādayo. Ādisaddena dhuttādayo saṅgaṇhāti. Yampi nivatthaṃ nivāsenti, sabbaṃ taṃ nivatthaṃ na vaṭṭatīti yojanā. Ekaṃ vā koṇanti sambandho. Koṇeti antaravāsakassa koṇe. ‘‘Tathā’’ti iminā ‘‘ekaṃ vā dve vā koṇe ukkhipitvā antaravāsakassa upari laggentī’’ti atthaṃ atidisati. Antokāsāvassa dassetvāti sambandho. Dve nivāsentena agilānenāti yojanā. Saguṇanti antokāsāvena bahikāsāvaṃ samānaguṇaṃ katvā. Itītiādi nigamanaṃ. Yañcāti yaṃ nivatthañca. Idhāti khuddakavatthukkhandhake. Yañca sekhiyavaṇṇanāyaṃ (pāci. aṭṭha. 576 ādayo) paṭikkhittanti sambandho. Sabbaṃ taṃ nivatthanti yojanā. Nibbikāraṃ katvāti sambandho. Ubhokaṇṇeti heṭṭhā ṭhite ubho kaṇṇe upari ca ṭhite ubho kaṇṇe. Tanti parimaṇḍalapārupanaṃ.

    ตตฺถาติ ‘‘คิหิปารุต’’นฺติ วจเน ยํกิญฺจิ อญฺญถาปารุตํ อตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺมาติ ยสฺมา คิหิปารุตํ นาม, ตสฺมา, ปริมณฺฑลํ ปารุปิตพฺพนฺติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘ยถา ปารุปนฺติ, ยถา จ ฐเปนฺตี’’ติอาทินา โยชนา กาตพฺพาฯ ตเสฺสวาติ ทีฆสาฎกเสฺสวฯ ตเสฺสวาติ สาฎกเสฺสวฯ ปาฬิการโกติ ปาฬิํ คณฺหนฺตํ วา วาเจนฺตํ วา การโกฯ ตถาติ ยถา ปารุปนฺติ, ตถาฯ

    Tatthāti ‘‘gihipāruta’’nti vacane yaṃkiñci aññathāpārutaṃ atthīti sambandho. Tasmāti yasmā gihipārutaṃ nāma, tasmā, parimaṇḍalaṃ pārupitabbanti sambandho. ‘‘Yathā pārupanti, yathā ca ṭhapentī’’tiādinā yojanā kātabbā. Tassevāti dīghasāṭakasseva. Tassevāti sāṭakasseva. Pāḷikārakoti pāḷiṃ gaṇhantaṃ vā vācentaṃ vā kārako. Tathāti yathā pārupanti, tathā.

    ๒๘๑. กุหิญฺจิ ฐานํ คจฺฉโต รโญฺญติ โยชนาฯ ‘‘ปริกฺขารภณฺฑวหนมนุสฺสา’’ติ อิมินา เต มนุสฺสา มุณฺฑํ สีสํ โจฬเกน เวเฐนฺตีติ มุณฺฑเวฐิโน นามาติ ทเสฺสติฯ อธิปฺปาโยติ อุชฺฌายนฺตานํ มนุสฺสานมธิปฺปาโยฯ อนฺตรากาชนฺติ เอตฺถ อนฺตราสโทฺท มชฺฌตฺถวาจโกติ อาห ‘‘มเชฺฌ’’ติฯ ‘‘ลเคฺคตฺวา’’ติอาทินา กาชสฺส อนฺตเร ลเคฺคตฺวา วหิตพฺพํ อนฺตรากาชนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ

    281. Kuhiñci ṭhānaṃ gacchato raññoti yojanā. ‘‘Parikkhārabhaṇḍavahanamanussā’’ti iminā te manussā muṇḍaṃ sīsaṃ coḷakena veṭhentīti muṇḍaveṭhino nāmāti dasseti. Adhippāyoti ujjhāyantānaṃ manussānamadhippāyo. Antarākājanti ettha antarāsaddo majjhatthavācakoti āha ‘‘majjhe’’ti. ‘‘Laggetvā’’tiādinā kājassa antare laggetvā vahitabbaṃ antarākājanti vacanatthaṃ dasseti.

    ๒๘๒. ‘‘จกฺขูนํ หิต’’นฺติ อิมินา อจกฺขุสฺสนฺติ เอตฺถ สฺสปจฺจโย จกฺขุสทฺทโต หิตเตฺถ โหตีติ ทเสฺสติฯ ปมาณงฺคุเลนาติ วฑฺฒกีนํ ปมาณยุเตฺตน องฺคุเลนฯ

    282. ‘‘Cakkhūnaṃ hita’’nti iminā acakkhussanti ettha ssapaccayo cakkhusaddato hitatthe hotīti dasseti. Pamāṇaṅgulenāti vaḍḍhakīnaṃ pamāṇayuttena aṅgulena.

    ๒๘๓. ‘‘ติณวนาทีสู’’ติ อิมินา ทายํ อาลิเมฺปนฺตีติ เอตฺถ ทายสโทฺท วนวาจโกติ ทเสฺสติฯ ‘‘อคฺคิํ เทนฺตี’’ติ อิมินา อาปุโพฺพ ลิปิธาตุ อุปสคฺควเสน อคฺคิทานโตฺถติ ทเสฺสติฯ ปริตฺตนฺติ เอตฺถ สมนฺตโต ตายติ อเนนาติ ปริตฺตนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อปฺปหริตกรเณน วา ปริขาขเณน วา ปริตฺตาณ’’นฺติฯ เอตฺถาติ ปริตฺตกรเณฯ ทาตุํ ลพฺภตีติ สยํ ทาตุํ ลพฺภติฯ หริตุนฺติ อปเนตุํฯ ปตฺตํ วา อปตฺตํ วา อคฺคินฺติ สมฺพโนฺธฯ ตถาติ อคฺคิทานาทินา อากาเรนฯ อุทเกน นิพฺพาเปเนฺตน ภิกฺขุนาติ สมฺพโนฺธฯ

    283. ‘‘Tiṇavanādīsū’’ti iminā dāyaṃ ālimpentīti ettha dāyasaddo vanavācakoti dasseti. ‘‘Aggiṃ dentī’’ti iminā āpubbo lipidhātu upasaggavasena aggidānatthoti dasseti. Parittanti ettha samantato tāyati anenāti parittanti dassento āha ‘‘appaharitakaraṇena vā parikhākhaṇena vā parittāṇa’’nti. Etthāti parittakaraṇe. Dātuṃ labbhatīti sayaṃ dātuṃ labbhati. Haritunti apanetuṃ. Pattaṃ vā apattaṃ vā agginti sambandho. Tathāti aggidānādinā ākārena. Udakena nibbāpentena bhikkhunāti sambandho.

    ๒๘๔. สติ กรณีเยติ เอตฺถ กรณียสโทฺท กิจฺจปริยาโยติ อาห ‘‘สุกฺขกฎฺฐาทิคฺคหณกิเจฺจ’’ติฯ ‘‘สุกฺขกฎฺฐาทิคฺคหณ’’ อิติ ปเทน กิจฺจสรูปํ ทเสฺสติฯ ‘‘ปุริสปฺปมาณ’’นฺติ อิมินา โปริสิยนฺติ เอตฺถ ณิยปจฺจโย ปมาณเตฺถ โหตีติ ทเสฺสติฯ ปุริสปฺปมาณํ นาม อุปริ พาหุทฺวยตตสฺส ปุริสสฺส ปมาณํฯ ทิสฺวา วา หุตฺวา วา ทิสฺวาติ โยชนาฯ อติอุจฺจมฺปีติ ปิสโทฺท สมฺภาวนโตฺถฯ นีจํ ปน รุกฺขํ ปเควาติ หิ อโตฺถฯ

    284.Satikaraṇīyeti ettha karaṇīyasaddo kiccapariyāyoti āha ‘‘sukkhakaṭṭhādiggahaṇakicce’’ti. ‘‘Sukkhakaṭṭhādiggahaṇa’’ iti padena kiccasarūpaṃ dasseti. ‘‘Purisappamāṇa’’nti iminā porisiyanti ettha ṇiyapaccayo pamāṇatthe hotīti dasseti. Purisappamāṇaṃ nāma upari bāhudvayatatassa purisassa pamāṇaṃ. Disvā vā hutvā vā disvāti yojanā. Atiuccampīti pisaddo sambhāvanattho. Nīcaṃ pana rukkhaṃ pagevāti hi attho.

    ๒๘๕. กลฺยาณวากฺกรณาติ เอตฺถ กริยติ อุจฺจาริยตีติ กรโณ, สโทฺท, วาจาเยว กรโณ วากฺกรโณ, กลฺยาโณ วากฺกรโณ เอเตสนฺติ กลฺยาณวากฺกรณาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘มธุรสทฺทา’’ติฯ เวทํ วิยาติ สุติํ วิยฯ วาจนามคฺคนฺติ วาจนาย อุปายํฯ สกาติ สมฺมาสมฺพุทฺธสงฺขาตสฺส สสฺส อตฺตโน เอสา สกาฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สมฺมาสมฺพุเทฺธนา’’ติฯ สมฺมาสมฺพุเทฺธน หิ มาคธนิรุตฺติยา เอว ธโมฺม ภาสิโต, ตสฺมา สา มาคธนิรุตฺติ สกา นามาติ วุจฺจติฯ นิรุตฺตีติ อตฺถํ นีหริตฺวา วุจฺจเต อิมาย สทฺทปญฺญตฺติยาติ นิรุตฺติ, วจธาตุสฺส วการสฺส อุกาโร, สพฺพโวหาโร ลพฺภติฯ อิธ ปน ‘‘สกายา’’ติ วุตฺตตฺตา มาคธโวหาโร เอวฯ เตน วุตฺตํ ‘‘มาคธโวหาโร’’ติฯ ‘‘สภาวนิรุตฺตี’’ติปิ ปาโฐฯ เอวญฺหิ สติ สพฺพสตฺตานํ สภาเวน ปวตฺตา มูลภาสาภูตา มาคธนิรุตฺติเยวฯ

    285.Kalyāṇavākkaraṇāti ettha kariyati uccāriyatīti karaṇo, saddo, vācāyeva karaṇo vākkaraṇo, kalyāṇo vākkaraṇo etesanti kalyāṇavākkaraṇāti dassento āha ‘‘madhurasaddā’’ti. Vedaṃ viyāti sutiṃ viya. Vācanāmagganti vācanāya upāyaṃ. Sakāti sammāsambuddhasaṅkhātassa sassa attano esā sakā. Tena vuttaṃ ‘‘sammāsambuddhenā’’ti. Sammāsambuddhena hi māgadhaniruttiyā eva dhammo bhāsito, tasmā sā māgadhanirutti sakā nāmāti vuccati. Niruttīti atthaṃ nīharitvā vuccate imāya saddapaññattiyāti nirutti, vacadhātussa vakārassa ukāro, sabbavohāro labbhati. Idha pana ‘‘sakāyā’’ti vuttattā māgadhavohāro eva. Tena vuttaṃ ‘‘māgadhavohāro’’ti. ‘‘Sabhāvaniruttī’’tipi pāṭho. Evañhi sati sabbasattānaṃ sabhāvena pavattā mūlabhāsābhūtā māgadhaniruttiyeva.

    ๒๘๖. โลกายตํ นาม ติตฺถิยสตฺถนฺติ สมฺพโนฺธฯ อิมินาว การเณนาติ ‘‘เสโต กาโก, กสฺมา? อฎฺฐีนํ เสตตฺตาฯ รโตฺต พโก, กสฺมา? โลหิตสฺส รตฺตตฺตา’’ อิติ (ม. นิ. อฎฺฐ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. อฎฺฐ. ๓.๕.๑๐๘๐; อ. นิ. ๑๐.๖๙-๗๐) อิมินา เอว การเณนฯ

    286. Lokāyataṃ nāma titthiyasatthanti sambandho. Imināva kāraṇenāti ‘‘seto kāko, kasmā? Aṭṭhīnaṃ setattā. Ratto bako, kasmā? Lohitassa rattattā’’ iti (ma. ni. aṭṭha. 2.223; saṃ. ni. aṭṭha. 3.5.1080; a. ni. 10.69-70) iminā eva kāraṇena.

    ๒๘๘. อนฺตรา อโหสีติ เอตฺถ อนฺตรสโทฺท พฺยวธานโตฺถติ อาห ‘‘อนฺตริตา อโหสิ ปฎิจฺฉนฺนา’’ติฯ เตน สเทฺทน ธมฺมกถา พฺยวธานา อโหสีติ อโตฺถฯ

    288.Antarāahosīti ettha antarasaddo byavadhānatthoti āha ‘‘antaritā ahosi paṭicchannā’’ti. Tena saddena dhammakathā byavadhānā ahosīti attho.

    ๒๘๙. อาพาธปฺปจฺจยาติ เอตฺถ อาพาธสฺส เภสชฺชสงฺขาโต ปจฺจโย อาพาธปจฺจโยติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยสฺสา’’ติอาทิฯ อิมินา อาพาโธเยว ปจฺจโย อาพาธปจฺจโยติ อตฺถํ ปฎิกฺขิปติฯ

    289.Ābādhappaccayāti ettha ābādhassa bhesajjasaṅkhāto paccayo ābādhapaccayoti dassento āha ‘‘yassā’’tiādi. Iminā ābādhoyeva paccayo ābādhapaccayoti atthaṃ paṭikkhipati.

    ๒๙๓. ทุกฺกฎวตฺถุ นาม อกปฺปิยโวหาราทินา มาลาวจฺฉโรปนาทิ, ปาจิตฺติยวตฺถุ นาม มาลาวจฺฉโรปนาทิอตฺถาย ปถวีขณนาทิฯ ปหรณีติ ปหรติ อิมายาติ ปหรณีฯ เอตนฺติ ‘‘ปหรณี’’ติ เอตํ นามํฯ ยสฺส กสฺสจิ อาวุธสงฺขาตสฺส โลหภณฺฑสฺสาติ สมฺพโนฺธฯ นฺติ อาวุธสงฺขาตํ โลหภณฺฑํฯ วุตฺตเมวาติ ‘‘กตกํ นาม ปทุมกณฺณิกาการ’’นฺติอาทินา (จูฬว. อฎฺฐ. ๒๖๙) วุตฺตเมวฯ ธนิยเสฺสวาติ ธนิยสฺส เอวฯ อเญฺญสญฺหิ กตาย สพฺพมตฺติกามยกุฎิยา อปากฎตฺตา วุตฺตํ ‘‘ธนิยเสฺสวา’’ติฯ อถ วา ธนิยสฺส สพฺพมตฺติกามยกุฎิ อิวาติ โยชนาฯ สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมิํ ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธเกฯ

    293. Dukkaṭavatthu nāma akappiyavohārādinā mālāvaccharopanādi, pācittiyavatthu nāma mālāvaccharopanādiatthāya pathavīkhaṇanādi. Paharaṇīti paharati imāyāti paharaṇī. Etanti ‘‘paharaṇī’’ti etaṃ nāmaṃ. Yassa kassaci āvudhasaṅkhātassa lohabhaṇḍassāti sambandho. Tanti āvudhasaṅkhātaṃ lohabhaṇḍaṃ. Vuttamevāti ‘‘katakaṃ nāma padumakaṇṇikākāra’’ntiādinā (cūḷava. aṭṭha. 269) vuttameva. Dhaniyassevāti dhaniyassa eva. Aññesañhi katāya sabbamattikāmayakuṭiyā apākaṭattā vuttaṃ ‘‘dhaniyassevā’’ti. Atha vā dhaniyassa sabbamattikāmayakuṭi ivāti yojanā. Sabbatthāti sabbasmiṃ khuddakavatthukkhandhake.

    อิติ ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกวณฺณนาย โยชนา สมตฺตาฯ

    Iti khuddakavatthukkhandhakavaṇṇanāya yojanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / ขุทฺทกวตฺถูนิ • Khuddakavatthūni

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ขุทฺทกวตฺถุกถา • Khuddakavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา • Khuddakavatthukathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact