Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā

    ๕. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกวณฺณนา

    5. Khuddakavatthukkhandhakavaṇṇanā

    ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา

    Khuddakavatthukathāvaṇṇanā

    ๒๔๔. ปุถุปาณินา กตฺตพฺพํ กมฺมํ ปุถุปาณิกํ

    244. Puthupāṇinā kattabbaṃ kammaṃ puthupāṇikaṃ.

    ๒๔๕. ‘‘กณฺณโต นิกฺขนฺตมุโตฺตลมฺพกาทีนํ กุณฺฑลาทีน’’นฺติ ลิขิตํฯ ‘‘กายูร’’นฺติ ปาฬิปาโฐฯ ‘‘เกยูราทีนี’’ติ อาจริเยนุทฺธฎํฯ

    245. ‘‘Kaṇṇato nikkhantamuttolambakādīnaṃ kuṇḍalādīna’’nti likhitaṃ. ‘‘Kāyūra’’nti pāḷipāṭho. ‘‘Keyūrādīnī’’ti ācariyenuddhaṭaṃ.

    ๒๔๘. ‘‘สาธุคีตํ นาม ปรินิพฺพุตฎฺฐาเน คีต’’นฺติ ลิขิตํฯ ทนฺตคีตํ คายิตุกามานํ วากฺกกรณียํฯ ทนฺตคีตสฺส วิภาวนตฺถํ ‘‘ยํ คายิสฺสามา’’ติอาทิมาหฯ

    248.‘‘Sādhugītaṃ nāma parinibbutaṭṭhāne gīta’’nti likhitaṃ. Dantagītaṃ gāyitukāmānaṃ vākkakaraṇīyaṃ. Dantagītassa vibhāvanatthaṃ ‘‘yaṃ gāyissāmā’’tiādimāha.

    ๒๔๙. จตุรสฺสวตฺตํ นาม จตุปฺปาทคาถาวตฺตํฯ ‘‘ตรงฺควตฺตาทีนิ อุจฺจารณวิธานานิ นฎฺฐปโยคานี’’ติ ลิขิตํฯ พาหิรโลมินฺติ ภาวนปุํสกํ, ยถา ตสฺส อุณฺณปาวารสฺส พหิทฺธา โลมานิ ทิสฺสนฺติ, ตถา ธาเรนฺตสฺส ทุกฺกฎนฺติ วุตฺตํ โหติฯ

    249.Caturassavattaṃ nāma catuppādagāthāvattaṃ. ‘‘Taraṅgavattādīni uccāraṇavidhānāni naṭṭhapayogānī’’ti likhitaṃ. Bāhiralominti bhāvanapuṃsakaṃ, yathā tassa uṇṇapāvārassa bahiddhā lomāni dissanti, tathā dhārentassa dukkaṭanti vuttaṃ hoti.

    ๒๕๑. วิรูปเกฺขหีติอาทิ สหโยคกรณวจนํฯ สรพูติ เคหโคฬิกาฯ สา กิร เสตา สวิสา โหติฯ โสหนฺติ ยสฺส เม เอเตหิ เมตฺตํ, โสหํ นโม กโรมิ ภควโตติ สมฺพโนฺธฯ อญฺญมฺหิ…เป.… เฉตพฺพมฺหีติ ราคานุสเยฯ

    251.Virūpakkhehītiādi sahayogakaraṇavacanaṃ. Sarabūti gehagoḷikā. Sā kira setā savisā hoti. Sohanti yassa me etehi mettaṃ, sohaṃ namo karomi bhagavatoti sambandho. Aññamhi…pe… chetabbamhīti rāgānusaye.

    ๒๕๒. อุฎฺฎิตฺวาติ ปกฺขิปิตฺวาฯ โอตรตูติ อิทฺธิยา โอตาเรตฺวา คณฺหาตุฯ อนุปริยายีติ อนุปริพฺภมิฯ

    252.Uṭṭitvāti pakkhipitvā. Otaratūti iddhiyā otāretvā gaṇhātu. Anupariyāyīti anuparibbhami.

    ๒๕๓. น อจฺฉุปิยนฺตีติ น ลคฺคนฺติฯ รูปกากิณฺณานีติ อิตฺถิรูปาทีหิ โวกิณฺณานิฯ

    253.Na acchupiyantīti na lagganti. Rūpakākiṇṇānīti itthirūpādīhi vokiṇṇāni.

    ๒๕๔. อาลินฺทกมิฑฺฒิกาทีนนฺติ ปมุขมิฑฺฒิกาทีนํฯ ปริวเตฺตตฺวา ตเตฺถวาติ เอตฺถ ‘‘ปริวเตฺตตฺวา ตติยวาเร ตเตฺถว มิฑฺฒิยา ปติฎฺฐาตี’’ติ ลิขิตํฯ ปริภณฺฑํ นาม เคหสฺส พหิ กุฎฺฎปาทสฺส ถิรภาวตฺถํ กตา ตนุกมิฑฺฒิกา วุจฺจติฯ เอตฺถ ‘‘ปริวฎฺฎิตฺวา ปโตฺต ภิชฺชตีติ อธิกรณเภทาสงฺกาย อภาเว ฐาเน ฐเปตุํ วฎฺฎตี’’ติ ลิขิตํฯ ปตฺตมาฬโก วฎฺฎิตฺวา ปตฺตานํ อปตนตฺถํ วฎฺฎํ วา จตุรสฺสํ วา อิฎฺฐกาทีหิ ปริกฺขิปิตฺวา มาฬกจฺฉเนฺนน กโตฯ ‘‘ปตฺตมณฺฑลิกา ปตฺตปจฺฉิกา ตาลปตฺตาทีหิ กตา’’ติ จ ลิขิตํฯ มิฑฺฒเนฺต อาธารเก ฐเปตุํ วฎฺฎติ ปตฺตสนฺธารณตฺถํ วุตฺตตฺตาฯ มเญฺจ อาธารเกปิ น วฎฺฎติ นิสีทนปจฺจยา วาริตตฺตาฯ อาสนฺนภูมิกตฺตา โอลเมฺพตุํ วฎฺฎติ

    254.Ālindakamiḍḍhikādīnanti pamukhamiḍḍhikādīnaṃ. Parivattetvā tatthevāti ettha ‘‘parivattetvā tatiyavāre tattheva miḍḍhiyā patiṭṭhātī’’ti likhitaṃ. Paribhaṇḍaṃ nāma gehassa bahi kuṭṭapādassa thirabhāvatthaṃ katā tanukamiḍḍhikā vuccati. Ettha ‘‘parivaṭṭitvā patto bhijjatīti adhikaraṇabhedāsaṅkāya abhāve ṭhāne ṭhapetuṃ vaṭṭatī’’ti likhitaṃ. Pattamāḷako vaṭṭitvā pattānaṃ apatanatthaṃ vaṭṭaṃ vā caturassaṃ vā iṭṭhakādīhi parikkhipitvā māḷakacchannena kato. ‘‘Pattamaṇḍalikā pattapacchikā tālapattādīhi katā’’ti ca likhitaṃ. Miḍḍhante ādhārake ṭhapetuṃ vaṭṭati pattasandhāraṇatthaṃ vuttattā. Mañce ādhārakepi na vaṭṭati nisīdanapaccayā vāritattā. Āsannabhūmikattā olambetuṃ vaṭṭati.

    ๒๕๕. ‘‘อํสกูเฎ ลเคฺคตฺวาติ วจนโต อคฺคหเตฺถ ลเคฺคตฺวา อเงฺก ฐเปตุํ น วฎฺฎตี’’ติ เกจิ วทนฺติ, น สุนฺทรํ, ‘‘น เกวลํ ยสฺส ปโตฺต’’ติอาทิ ยทิ หเตฺถน คหิตปเตฺต เภทสญฺญา, ปเคว อเญฺญน สรีราวยเวนาติ กตฺวา วุตฺตํฯ ปาฬิยํ ปน ปจุรโวหารวเสน วุตฺตํฯ ฆฎิกปาลมยํ ฆฎิกฎาหํฉวสีสสฺส ปตฺตนฺติ ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีรํ, ขีรสฺส ธาราติอาทิโวหารวเสน วุตฺตํฯ มเญฺจ นิสีทิตุํ อาคโตติ อโตฺถฯ ‘‘ปิสาจิลฺลิกาติ ปิสาจทารกา’’ติปิ วทนฺติฯ ทินฺนกเมว ปฎิคฺคหิตเมวฯ จเพฺพตฺวาติ ขาทิตฺวาฯ อฎฺฐิกานิ จ กณฺฎกานิ จ อฎฺฐิกกณฺฎกานิฯ ‘‘เอเตสุ สเพฺพสุ ปณฺณตฺติํ ชานาตุ วา, มา วา, อาปตฺติเยวา’’ติ ลิขิตํฯ

    255. ‘‘Aṃsakūṭe laggetvāti vacanato aggahatthe laggetvā aṅke ṭhapetuṃ na vaṭṭatī’’ti keci vadanti, na sundaraṃ, ‘‘na kevalaṃ yassa patto’’tiādi yadi hatthena gahitapatte bhedasaññā, pageva aññena sarīrāvayavenāti katvā vuttaṃ. Pāḷiyaṃ pana pacuravohāravasena vuttaṃ. Ghaṭikapālamayaṃ ghaṭikaṭāhaṃ. Chavasīsassa pattanti ‘‘silāputtakassa sarīraṃ, khīrassa dhārātiādivohāravasena vuttaṃ. Mañce nisīdituṃ āgatoti attho. ‘‘Pisācillikāti pisācadārakā’’tipi vadanti. Dinnakameva paṭiggahitameva. Cabbetvāti khāditvā. Aṭṭhikāni ca kaṇṭakāni ca aṭṭhikakaṇṭakāni. ‘‘Etesu sabbesu paṇṇattiṃ jānātu vā, mā vā, āpattiyevā’’ti likhitaṃ.

    ๒๕๖. วิปฺผาเฬตฺวาติ ผาเฬตฺวาฯ กิเณฺณน ปูเรตุนฺติ สุรากิเณฺณน ปูเรตุํฯ พิทลกํ นาม ทิคุณกรณสงฺขาตสฺส กิริยาวิเสสสฺส อธิวจนํฯ กสฺส ทิคุณกรณํ? เยน กิลญฺชาทินา มหนฺตํ กถินมตฺถตํ, ตสฺสฯ ตญฺหิ ทณฺฑกถินปฺปมาเณน ปริยเนฺต สํหริตฺวา ทิคุณํ กาตพฺพํฯ อญฺญถา ขุทฺทกจีวรสฺส อนุวาตปริภณฺฑาทิวิธานกรเณ หตฺถสฺส โอกาโส น โหติฯ สลากาย สติ ทฺวินฺนํ จีวรานํ อญฺญตรํ ญตฺวา สิพฺพิตาสิพฺพิตํ สุขํ ปญฺญายติฯ ทณฺฑกถิเน กเต น พหูหิ สหาเยหิ ปโยชนํฯ ‘‘อสํกุฎิตฺวา จีวรํ สมํ โหติฯ โกณาปิ สมา โหนฺตี’’ติ ลิขิตํ, ‘‘หลิทฺทิสุเตฺตน สญฺญากรณ’’นฺติ วุตฺตตฺตา หลิทฺทิสุเตฺตน จีวรํ สิเพฺพตุมฺปิ วฎฺฎตีติ สิทฺธํฯ ตตฺถ หิ เกจิ อกปฺปิยสญฺญิโนฯ ปฎิคฺคโห นาม องฺคุลิโกโสฯ

    256.Vipphāḷetvāti phāḷetvā. Kiṇṇena pūretunti surākiṇṇena pūretuṃ. Bidalakaṃ nāma diguṇakaraṇasaṅkhātassa kiriyāvisesassa adhivacanaṃ. Kassa diguṇakaraṇaṃ? Yena kilañjādinā mahantaṃ kathinamatthataṃ, tassa. Tañhi daṇḍakathinappamāṇena pariyante saṃharitvā diguṇaṃ kātabbaṃ. Aññathā khuddakacīvarassa anuvātaparibhaṇḍādividhānakaraṇe hatthassa okāso na hoti. Salākāya sati dvinnaṃ cīvarānaṃ aññataraṃ ñatvā sibbitāsibbitaṃ sukhaṃ paññāyati. Daṇḍakathine kate na bahūhi sahāyehi payojanaṃ. ‘‘Asaṃkuṭitvā cīvaraṃ samaṃ hoti. Koṇāpi samā hontī’’ti likhitaṃ, ‘‘haliddisuttena saññākaraṇa’’nti vuttattā haliddisuttena cīvaraṃ sibbetumpi vaṭṭatīti siddhaṃ. Tattha hi keci akappiyasaññino. Paṭiggaho nāma aṅgulikoso.

    ๒๕๗-๘. ปาตีติ ปฎิคฺคหสณฺฐานํฯ ปฎิคฺคหตฺถวิกนฺติ องฺคุลิโกสตฺถวิกํฯ สูจิสตฺถกานํ ปุเพฺพ อาเวสนตฺถวิกาย อนุญฺญาตตฺตา ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เภสชฺชตฺถวิก’’นฺติ วุตฺตํฯ เอตฺถ สูจิสตฺถกาทีนิปิ ฐเปตพฺพานีติ นิทานํ สูเจติฯ สเจปิ อุปนโนฺท ภิกฺขุ อลชฺชี, ตถาปิ สนฺตกเมตํ อมูลเจฺฉทกตภิกฺขุโน ลชฺชิโนปิ สมานสฺส กปฺปตีติ ยุชฺชติฯ น สมฺมตีติ น ปโหติฯ

    257-8.Pātīti paṭiggahasaṇṭhānaṃ. Paṭiggahatthavikanti aṅgulikosatthavikaṃ. Sūcisatthakānaṃ pubbe āvesanatthavikāya anuññātattā ‘‘anujānāmi, bhikkhave, bhesajjatthavika’’nti vuttaṃ. Ettha sūcisatthakādīnipi ṭhapetabbānīti nidānaṃ sūceti. Sacepi upanando bhikkhu alajjī, tathāpi santakametaṃ amūlacchedakatabhikkhuno lajjinopi samānassa kappatīti yujjati. Na sammatīti na pahoti.

    ๒๖๐-๑. พหิ กุฎฺฎสฺส สมนฺตโต นีจวตฺถุกํ กตฺวา ฐิตํ ‘‘มณฺฑลิก’’นฺติ วุจฺจติฯ ชนฺตาฆรปฺปฎิจฺฉาทินา ฉนฺนสฺส นคฺคิยํ ยสฺส น ปญฺญายติ, ตเสฺสว ปริกมฺมํ กาตพฺพํฯ เอส นโย อุทกวตฺถปฎิจฺฉาทีสุปิฯ

    260-1. Bahi kuṭṭassa samantato nīcavatthukaṃ katvā ṭhitaṃ ‘‘maṇḍalika’’nti vuccati. Jantāgharappaṭicchādinā channassa naggiyaṃ yassa na paññāyati, tasseva parikammaṃ kātabbaṃ. Esa nayo udakavatthapaṭicchādīsupi.

    ๒๖๒-๓. ปณิยา นาม ปณิยการกาฯ อากฑฺฒนยนฺตํ อากฑฺฒิยมานํ กูปสฺส อุปริภาเค ปริพฺภมติฯ อรหฎฆฎิยนฺตํ สกฎจกฺกสณฺฐานยนฺตํฯ ตสฺส อเร อเร ฆฎิกานิ พนฺธิตฺวา เอเกน, ทฺวีหิ วา ปริพฺภมิยมานสฺส อุทกนิพฺพาหนํ เวทิตพฺพํฯ อาวิทฺธปกฺขปาสํ นาม ยตฺถ มณฺฑลากาเรน ปกฺขปาสา พชฺฌนฺติ อาวิทฺธวตฺถตา วิย อาวิทฺธปกฺขปาสกาฯ ปุเพฺพ ปตฺตสโงฺคปนตฺถํ, อิทานิ ฐเปตพฺพํ ภุญฺชิตุํ อาธารโก อนุญฺญาโตฯ

    262-3.Paṇiyā nāma paṇiyakārakā. Ākaḍḍhanayantaṃ ākaḍḍhiyamānaṃ kūpassa uparibhāge paribbhamati. Arahaṭaghaṭiyantaṃ sakaṭacakkasaṇṭhānayantaṃ. Tassa are are ghaṭikāni bandhitvā ekena, dvīhi vā paribbhamiyamānassa udakanibbāhanaṃ veditabbaṃ. Āviddhapakkhapāsaṃ nāma yattha maṇḍalākārena pakkhapāsā bajjhanti āviddhavatthatā viya āviddhapakkhapāsakā. Pubbe pattasaṅgopanatthaṃ, idāni ṭhapetabbaṃ bhuñjituṃ ādhārako anuññāto.

    ๒๗๓. ปรคลํ คจฺฉตีติ อิมสฺส ปโยคาภาวา วฎฺฎติฯ กมฺมสเตนาติ มหตา อุสฺสาเหนฯ

    273.Paragalaṃgacchatīti imassa payogābhāvā vaṭṭati. Kammasatenāti mahatā ussāhena.

    ๒๗๗-๘. โลหภณฺฑํ นาม กํสโต เสสโลหภณฺฑํฯ มุทฺทิกกายพนฺธนํ นาม จตุรสฺสํ อกตฺวา สชฺชิตํฯ ปามงฺคทสา จตุรสฺสาฯ มุทิงฺคสณฺฐาเนนาติ สงฺฆาฎิยา มุทิงฺคสิพฺพนากาเรน วรกสีสากาเรนฯ ปวนโนฺตติ ปาสโนฺตฯ ‘‘ทสามูล’’นฺติ จ ลิขิตํฯ อกายพนฺธเนน สญฺจิจฺจ วา อสญฺจิจฺจ วา คามปฺปเวสเน อาปตฺติฯ ‘‘สริตฎฺฐานโต พนฺธิตฺวา ปวิสิตพฺพํ, นิวตฺติตพฺพํ วา’’ติ ลิขิตํฯ

    277-8.Lohabhaṇḍaṃ nāma kaṃsato sesalohabhaṇḍaṃ. Muddikakāyabandhanaṃ nāma caturassaṃ akatvā sajjitaṃ. Pāmaṅgadasā caturassā. Mudiṅgasaṇṭhānenāti saṅghāṭiyā mudiṅgasibbanākārena varakasīsākārena. Pavanantoti pāsanto. ‘‘Dasāmūla’’nti ca likhitaṃ. Akāyabandhanena sañcicca vā asañcicca vā gāmappavesane āpatti. ‘‘Saritaṭṭhānato bandhitvā pavisitabbaṃ, nivattitabbaṃ vā’’ti likhitaṃ.

    ๒๗๙. สตฺตงฺคุลํ วา อฎฺฐงฺคุลํ วาติ เอตฺถ ‘‘สุคตงฺคุเลนา’’ติ อวุตฺตตฺตา ปกติองฺคุเลน สารุปฺปตฺถาย วเฑฺฒตฺวาปิ กโรนฺติ เจ, น โทโสฯ

    279. Sattaṅgulaṃ vā aṭṭhaṅgulaṃ vāti ettha ‘‘sugataṅgulenā’’ti avuttattā pakatiaṅgulena sāruppatthāya vaḍḍhetvāpi karonti ce, na doso.

    ๒๘๐. ตาลวณฺฎากาเรน สีหฬิตฺถีนํ วิยฯ

    280. Tālavaṇṭākārena sīhaḷitthīnaṃ viya.

    ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Khuddakavatthukkhandhakavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / ขุทฺทกวตฺถูนิ • Khuddakavatthūni

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ขุทฺทกวตฺถุกถา • Khuddakavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา • Khuddakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา • Khuddakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ขุทฺทกวตฺถุกถา • Khuddakavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact