Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi

    ๕. ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกํ

    5. Khuddakavatthukkhandhakaṃ

    ขุทฺทกวตฺถูนิ

    Khuddakavatthūni

    ๒๔๓. เตน สมเยน พุโทฺธ ภควา ราชคเห วิหรติ เวฬุวเน กลนฺทกนิวาเปฯ เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู นหายมานา รุเกฺข กายํ อุคฺฆํเสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปิฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา นหายมานา รุเกฺข กายํ อุคฺฆํเสสฺสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปิ, เสยฺยถาปิ มลฺลมุฎฺฐิกา คามโมทฺทวา’’ติ 1! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู นหายมานา รุเกฺข กายํ อุคฺฆํเสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, ภิกฺขเว , เตสํ โมฆปุริสานํ อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม เต, ภิกฺขเว, โมฆปุริสา นหายมานา รุเกฺข กายํ อุคฺฆํเสสฺสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปิ? เนตํ, ภิกฺขเว, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, นหายมาเนน ภิกฺขุนา รุเกฺข กาโย อุคฺฆํเสตโพฺพฯ โย อุคฺฆํเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    243. Tena samayena buddho bhagavā rājagahe viharati veḷuvane kalandakanivāpe. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū nahāyamānā rukkhe kāyaṃ ugghaṃsenti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpi. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā nahāyamānā rukkhe kāyaṃ ugghaṃsessanti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpi, seyyathāpi mallamuṭṭhikā gāmamoddavā’’ti 2! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā bhikkhū paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira, bhikkhave, chabbaggiyā bhikkhū nahāyamānā rukkhe kāyaṃ ugghaṃsenti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpī’’ti? ‘‘Saccaṃ bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, bhikkhave , tesaṃ moghapurisānaṃ ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma te, bhikkhave, moghapurisā nahāyamānā rukkhe kāyaṃ ugghaṃsessanti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpi? Netaṃ, bhikkhave, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, nahāyamānena bhikkhunā rukkhe kāyo ugghaṃsetabbo. Yo ugghaṃseyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู นหายมานา ถเมฺภ กายํ อุคฺฆํเสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปิฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา นหายมานา ถเมฺภ กายํ อุคฺฆํเสสฺสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปิ, เสยฺยถาปิ มลฺลมุฎฺฐิกา คามโมทฺทวา’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, นหายมาเนน ภิกฺขุนา ถเมฺภ กาโย อุคฺฆํเสตโพฺพฯ โย อุคฺฆํเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū nahāyamānā thambhe kāyaṃ ugghaṃsenti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpi. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā nahāyamānā thambhe kāyaṃ ugghaṃsessanti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpi, seyyathāpi mallamuṭṭhikā gāmamoddavā’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ bhagavā’’ti…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, nahāyamānena bhikkhunā thambhe kāyo ugghaṃsetabbo. Yo ugghaṃseyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู นหายมานา กุเฎฺฎ 3 กายํ อุคฺฆํเสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปิฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา นหายมานา กุเฎฺฎ กายํ อุคฺฆํเสสฺสนฺติ, อูรุมฺปิ พาหุมฺปิ อุรมฺปิ ปิฎฺฐิมฺปิ, เสยฺยถาปิ มลฺลมุฎฺฐิกา คามโมทฺทวา’’ติ…เป.… ‘‘น, ภิกฺขเว, นหายมาเนน ภิกฺขุนา กุเฎฺฎ กาโย อุคฺฆํเสตโพฺพฯ โย อุคฺฆํเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū nahāyamānā kuṭṭe 4 kāyaṃ ugghaṃsenti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpi. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā nahāyamānā kuṭṭe kāyaṃ ugghaṃsessanti, ūrumpi bāhumpi urampi piṭṭhimpi, seyyathāpi mallamuṭṭhikā gāmamoddavā’’ti…pe… ‘‘na, bhikkhave, nahāyamānena bhikkhunā kuṭṭe kāyo ugghaṃsetabbo. Yo ugghaṃseyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อฎฺฎาเน 5 นหายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, อฎฺฎาเน นหายิตพฺพํฯ โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū aṭṭāne 6 nahāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihī kāmabhoginoti ! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ bhagavā’’ti…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, aṭṭāne nahāyitabbaṃ. Yo nahāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู คนฺธพฺพหตฺถเกน นหายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘น, ภิกฺขเว, คนฺธพฺพหตฺถเกน นหายิตพฺพํฯ โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū gandhabbahatthakena nahāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihī kāmabhoginoti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘na, bhikkhave, gandhabbahatthakena nahāyitabbaṃ. Yo nahāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู กุรุวินฺทกสุตฺติยา นหายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, กุรุวินฺทกสุตฺติยา นหายิตพฺพํฯ โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū kuruvindakasuttiyā nahāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihī kāmabhoginoti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, kuruvindakasuttiyā nahāyitabbaṃ. Yo nahāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู วิคฺคยฺห ปริกมฺมํ การาเปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, วิคฺคยฺห ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํฯ โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū viggayha parikammaṃ kārāpenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihī kāmabhoginoti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, viggayha parikammaṃ kārāpetabbaṃ. Yo kārāpeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู มลฺลเกน นหายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, มลฺลเกน นหายิตพฺพํฯ โย นหาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū mallakena nahāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihī kāmabhoginoti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, mallakena nahāyitabbaṃ. Yo nahāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๔๔. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน กจฺฉุโรคาพาโธ โหติฯ น ตสฺส วินา มลฺลเกน ผาสุ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส อกตมลฺลก’’นฺติฯ

    244. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno kacchurogābādho hoti. Na tassa vinā mallakena phāsu hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gilānassa akatamallaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ชราทุพฺพโล นหายมาโน น สโกฺกติ อตฺตโน กายํ อุคฺฆํเสตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุกฺกาสิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu jarādubbalo nahāyamāno na sakkoti attano kāyaṃ ugghaṃsetuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ukkāsika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปิฎฺฐิปริกมฺมํ กาตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปุถุปาณิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū piṭṭhiparikammaṃ kātuṃ kukkuccāyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, puthupāṇika’’nti.

    ๒๔๕. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู วลฺลิกํ ธาเรนฺติ…เป.… ปามงฺคํ ธาเรนฺติ…เป.… กณฺฐสุตฺตกํ ธาเรนฺติ…เป.… กฎิสุตฺตกํ ธาเรนฺติ…เป.… โอวฎฺฎิกํ ธาเรนฺติ…เป.… กายุรํ ธาเรนฺติ…เป.… หตฺถาภรณํ ธาเรนฺติ…เป.… องฺคุลิมุทฺทิกํ ธาเรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ…เป.… เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว, ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู วลฺลิกํ ธาเรนฺติ…เป.… ปามงฺคํ ธาเรนฺติ, กณฺฐสุตฺตกํ ธาเรนฺติ, กฎิสุตฺตกํ ธาเรนฺติ, โอวฎฺฎิกํ ธาเรนฺติ, กายุรํ ธาเรนฺติ, หตฺถาภรณํ ธาเรนฺติ, องฺคุลิมุทฺทิกํ ธาเรนฺตี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, วลฺลิกา ธาเรตพฺพา…เป.… น ปามโงฺค ธาเรตโพฺพ… น กณฺฐสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ… น กฎิสุตฺตกํ ธาเรตพฺพํ… น โอวฎฺฎิกํ ธาเรตพฺพํ… น กายุรํ ธาเรตพฺพํ… น หตฺถาภรณํ ธาเรตพฺพํ… น องฺคุลิมุทฺทิกา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    245. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū vallikaṃ dhārenti…pe… pāmaṅgaṃ dhārenti…pe… kaṇṭhasuttakaṃ dhārenti…pe… kaṭisuttakaṃ dhārenti…pe… ovaṭṭikaṃ dhārenti…pe… kāyuraṃ dhārenti…pe… hatthābharaṇaṃ dhārenti…pe… aṅgulimuddikaṃ dhārenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti…pe… seyyathāpi gihī kāmabhoginoti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Saccaṃ kira, bhikkhave, chabbaggiyā bhikkhū vallikaṃ dhārenti…pe… pāmaṅgaṃ dhārenti, kaṇṭhasuttakaṃ dhārenti, kaṭisuttakaṃ dhārenti, ovaṭṭikaṃ dhārenti, kāyuraṃ dhārenti, hatthābharaṇaṃ dhārenti, aṅgulimuddikaṃ dhārentī’’ti? ‘‘Saccaṃ bhagavā’’ti…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, vallikā dhāretabbā…pe… na pāmaṅgo dhāretabbo… na kaṇṭhasuttakaṃ dhāretabbaṃ… na kaṭisuttakaṃ dhāretabbaṃ… na ovaṭṭikaṃ dhāretabbaṃ… na kāyuraṃ dhāretabbaṃ… na hatthābharaṇaṃ dhāretabbaṃ… na aṅgulimuddikā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๔๖. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ทีเฆ เกเส ธาเรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆา เกสา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุมาสิกํ วา ทุวงฺคุลํ วา’’ติฯ

    246. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū dīghe kese dhārenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, dīghā kesā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, dumāsikaṃ vā duvaṅgulaṃ vā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู โกเจฺฉน เกเส โอสเณฺฐนฺติ 7 …เป.… ผณเกน เกเส โอสเณฺฐนฺติ, หตฺถผณเกน เกเส โอสเณฺฐนฺติ, สิตฺถเตลเกน เกเส โอสเณฺฐนฺติ, อุทกเตลเกน เกเส โอสเณฺฐนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, โกเจฺฉน เกสา โอสเณฺฐตพฺพา…เป.… น สิตฺถเตลเกน เกสา โอสเณฺฐตพฺพา… น อุทกเตลเกน เกสา โอสเณฺฐตพฺพาฯ โย โอสเณฺฐยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū kocchena kese osaṇṭhenti 8 …pe… phaṇakena kese osaṇṭhenti, hatthaphaṇakena kese osaṇṭhenti, sitthatelakena kese osaṇṭhenti, udakatelakena kese osaṇṭhenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, kocchena kesā osaṇṭhetabbā…pe… na sitthatelakena kesā osaṇṭhetabbā… na udakatelakena kesā osaṇṭhetabbā. Yo osaṇṭheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๔๗. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อาทาเสปิ อุทกปเตฺตปิ มุขนิมิตฺตํ โอโลเกนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อาทาเส วา อุทกปเตฺต วา มุขนิมิตฺตํ โอโลเกตพฺพํฯ โย โอโลเกยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    247. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū ādāsepi udakapattepi mukhanimittaṃ olokenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, ādāse vā udakapatte vā mukhanimittaṃ oloketabbaṃ. Yo olokeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน มุเข วโณ โหติฯ โส ภิกฺขู ปุจฺฉิ – ‘‘กีทิโส เม, อาวุโส, วโณ’’ติ? ภิกฺขู เอวมาหํสุ – ‘‘เอทิโส เต, อาวุโส วโณ’’ติฯ โส น สทฺทหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปฺปจฺจยา อาทาเส วา อุทกปเตฺต วา มุขนิมิตฺตํ โอโลเกตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno mukhe vaṇo hoti. So bhikkhū pucchi – ‘‘kīdiso me, āvuso, vaṇo’’ti? Bhikkhū evamāhaṃsu – ‘‘ediso te, āvuso vaṇo’’ti. So na saddahati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ābādhappaccayā ādāse vā udakapatte vā mukhanimittaṃ oloketu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู มุขํ อาลิมฺปนฺติ…เป.… มุขํ อุมฺมเทฺทนฺติ, มุขํ จุเณฺณนฺติ, มโนสิลิกาย มุขํ ลเญฺฉนฺติ, องฺคราคํ กโรนฺติ, มุขราคํ กโรนฺติ, องฺคราคมุขราคํ กโรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, มุขํ อาลิมฺปิตพฺพํ…เป.… น มุขํ อุมฺมทฺทิตพฺพํ, น มุขํ จุเณฺณตพฺพํ, น มโนสิลิกาย มุขํ ลเญฺฉตพฺพํ, น องฺคราโค กาตโพฺพ, น มุขราโค กาตโพฺพ , น องฺคราคมุขราโค กาตโพฺพฯ โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū mukhaṃ ālimpanti…pe… mukhaṃ ummaddenti, mukhaṃ cuṇṇenti, manosilikāya mukhaṃ lañchenti, aṅgarāgaṃ karonti, mukharāgaṃ karonti, aṅgarāgamukharāgaṃ karonti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, mukhaṃ ālimpitabbaṃ…pe… na mukhaṃ ummadditabbaṃ, na mukhaṃ cuṇṇetabbaṃ, na manosilikāya mukhaṃ lañchetabbaṃ, na aṅgarāgo kātabbo, na mukharāgo kātabbo , na aṅgarāgamukharāgo kātabbo. Yo kareyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน จกฺขุโรคาพาโธ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปฺปจฺจยา มุขํ อาลิมฺปิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno cakkhurogābādho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ābādhappaccayā mukhaṃ ālimpitu’’nti.

    ๒๔๘. เตน โข ปน สมเยน ราชคเห คิรคฺคสมโชฺช 9 โหติฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู คิรคฺคสมชฺชํ ทสฺสนาย อคมํสุฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา นจฺจมฺปิ คีตมฺปิ วาทิตมฺปิ ทสฺสนาย คจฺฉิสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, นจฺจํ วา คีตํ วา วาทิตํ วา ทสฺสนาย คนฺตพฺพํฯ โย คเจฺฉยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    248. Tena kho pana samayena rājagahe giraggasamajjo 10 hoti. Chabbaggiyā bhikkhū giraggasamajjaṃ dassanāya agamaṃsu. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā naccampi gītampi vāditampi dassanāya gacchissanti, seyyathāpi gihī kāmabhogino’’ti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, naccaṃ vā gītaṃ vā vāditaṃ vā dassanāya gantabbaṃ. Yo gaccheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๔๙. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ยเถว 11 มยํ คายาม, เอวเมวิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายิสฺสนฺตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว…เป.… ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺตสฺสฯ อตฺตนาปิ ตสฺมิํ สเร สารชฺชติ, ปเรปิ ตสฺมิํ สเร สารชฺชนฺติ, คหปติกาปิ อุชฺฌายนฺติ, สรกุตฺติมฺปิ นิกามยมานสฺส สมาธิสฺส ภโงฺค โหติ, ปจฺฉิมา ชนตา ทิฎฺฐานุคติํ อาปชฺชติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา อายตเกน คีตสฺสเรน ธมฺมํ คายนฺตสฺสฯ น, ภิกฺขเว, อายตเกน คีตสฺสเรน ธโมฺม คายิตโพฺพฯ โย คาเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    249. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū āyatakena gītassarena dhammaṃ gāyanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘yatheva 12 mayaṃ gāyāma, evamevime samaṇā sakyaputtiyā āyatakena gītassarena dhammaṃ gāyantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma chabbaggiyā bhikkhū āyatakena gītassarena dhammaṃ gāyissantī’’ti! Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Saccaṃ kira, bhikkhave…pe… ‘‘saccaṃ bhagavā’’ti…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘pañcime, bhikkhave, ādīnavā āyatakena gītassarena dhammaṃ gāyantassa. Attanāpi tasmiṃ sare sārajjati, parepi tasmiṃ sare sārajjanti, gahapatikāpi ujjhāyanti, sarakuttimpi nikāmayamānassa samādhissa bhaṅgo hoti, pacchimā janatā diṭṭhānugatiṃ āpajjati – ime kho, bhikkhave, pañca ādīnavā āyatakena gītassarena dhammaṃ gāyantassa. Na, bhikkhave, āyatakena gītassarena dhammo gāyitabbo. Yo gāyeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สรภเญฺญ กุกฺกุจฺจายนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สรภญฺญ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū sarabhaññe kukkuccāyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, sarabhañña’’nti.

    ‘‘เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู พาหิรโลมิํ 13 อุณฺณิํ ธาเรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, พาหิยโลมิ อุณฺณิ ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    ‘‘Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū bāhiralomiṃ 14 uṇṇiṃ dhārenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bāhiyalomi uṇṇi dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๕๐. เตน โข ปน สมเยน รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส อาราเม อมฺพา ผลิโน โหนฺติฯ รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน อนุญฺญาตํ โหติ – ‘‘ยถาสุขํ อยฺยา อมฺพํ ปริภุญฺชนฺตู’’ติฯ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ตรุณเญฺญว อมฺพํ ปาตาเปตฺวา ปริภุญฺชิํสุฯ รโญฺญ จ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส อเมฺพน อโตฺถ โหติฯ อถ โข ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร มนุเสฺส อาณาเปสิ – ‘‘คจฺฉถ, ภเณ, อารามํ คนฺตฺวา อมฺพํ อาหรถา’’ติ ฯ ‘‘เอวํ เทวา’’ติ โข เต มนุสฺสา รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส ปฎิสฺสุตฺวา อารามํ คนฺตฺวา อารามปาลํ เอตทโวจุํ – ‘‘เทวสฺส, ภเณ, อเมฺพน อโตฺถ, อมฺพํ เทถา’’ติฯ ‘‘นตฺถายฺยา อมฺพํฯ ตรุณเญฺญว อมฺพํ ปาตาเปตฺวา ภิกฺขู ปริภุญฺชิํสู’’ติฯ อถ โข เต มนุสฺสา รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘สุปริภุตฺตํ, ภเณ, อเยฺยหิ อมฺพํ, อปิ จ ภควตา มตฺตา วณฺณิตา’’ติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา น มตฺตํ ชานิตฺวา รโญฺญ อมฺพํ ปริภุญฺชิสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อมฺพํ ปริภุญฺชิตพฺพํฯ โย ปริภุเญฺชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    250. Tena kho pana samayena rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa ārāme ambā phalino honti. Raññā māgadhena seniyena bimbisārena anuññātaṃ hoti – ‘‘yathāsukhaṃ ayyā ambaṃ paribhuñjantū’’ti. Chabbaggiyā bhikkhū taruṇaññeva ambaṃ pātāpetvā paribhuñjiṃsu. Rañño ca māgadhassa seniyassa bimbisārassa ambena attho hoti. Atha kho rājā māgadho seniyo bimbisāro manusse āṇāpesi – ‘‘gacchatha, bhaṇe, ārāmaṃ gantvā ambaṃ āharathā’’ti . ‘‘Evaṃ devā’’ti kho te manussā rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa paṭissutvā ārāmaṃ gantvā ārāmapālaṃ etadavocuṃ – ‘‘devassa, bhaṇe, ambena attho, ambaṃ dethā’’ti. ‘‘Natthāyyā ambaṃ. Taruṇaññeva ambaṃ pātāpetvā bhikkhū paribhuñjiṃsū’’ti. Atha kho te manussā rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Suparibhuttaṃ, bhaṇe, ayyehi ambaṃ, api ca bhagavatā mattā vaṇṇitā’’ti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā na mattaṃ jānitvā rañño ambaṃ paribhuñjissantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, ambaṃ paribhuñjitabbaṃ. Yo paribhuñjeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ปูคสฺส สงฺฆภตฺตํ โหติฯ สูเป อมฺพเปสิกาโย ปกฺขิตฺตา โหนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นปฺปฎิคฺคณฺหนฺติฯ ‘‘ปฎิคฺคณฺหถ, ภิกฺขเว, ปริภุญฺชถฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมฺพเปสิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa pūgassa saṅghabhattaṃ hoti. Sūpe ambapesikāyo pakkhittā honti. Bhikkhū kukkuccāyantā nappaṭiggaṇhanti. ‘‘Paṭiggaṇhatha, bhikkhave, paribhuñjatha. Anujānāmi, bhikkhave, ambapesika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ปูคสฺส สงฺฆภตฺตํ โหติฯ เต น ปริยาปุณิํสุ อมฺพเปสิกํ กาตุํ, ภตฺตเคฺค สกเลเหว อเมฺพหิ เทนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นปฺปฎิคฺคณฺหนฺติฯ ‘‘ปฎิคฺคณฺหถ , ภิกฺขเว, ปริภุญฺชถฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปญฺจหิ สมณกเปฺปหิ ผลํ ปริภุญฺชิตุํ – อคฺคิปริจิตํ , สตฺถปริจิตํ, นขปริจิตํ, อพีชํ, นิพฺพตฺตพีชเญฺญว 15 ปญฺจมํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ ปญฺจหิ สมณกเปฺปหิ ผลํ ปริภุญฺชิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa pūgassa saṅghabhattaṃ hoti. Te na pariyāpuṇiṃsu ambapesikaṃ kātuṃ, bhattagge sakaleheva ambehi denti. Bhikkhū kukkuccāyantā nappaṭiggaṇhanti. ‘‘Paṭiggaṇhatha , bhikkhave, paribhuñjatha. Anujānāmi, bhikkhave, pañcahi samaṇakappehi phalaṃ paribhuñjituṃ – aggiparicitaṃ , satthaparicitaṃ, nakhaparicitaṃ, abījaṃ, nibbattabījaññeva 16 pañcamaṃ. Anujānāmi, bhikkhave, imehi pañcahi samaṇakappehi phalaṃ paribhuñjitu’’nti.

    ๒๕๑. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อหินา ทโฎฺฐ กาลงฺกโต โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น หิ นูน โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมเตฺตน จิเตฺตน ผริฯ สเจ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมเตฺตน จิเตฺตน ผเรยฺย, น หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อหินา ทโฎฺฐ กาลงฺกเรยฺยฯ กตมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ? วิรูปกฺขํ อหิราชกุลํ, เอราปถํ อหิราชกุลํ, ฉพฺยาปุตฺตํ อหิราชกุลํ, กณฺหาโคตมํ อหิราชกุลํ ฯ น หิ นูน โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมเตฺตน จิเตฺตน ผริฯ สเจ หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมเตฺตน จิเตฺตน ผเรยฺย, น หิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อหินา ทโฎฺฐ กาลงฺกเรยฺยฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิมานิ จตฺตาริ อหิราชกุลานิ เมเตฺตน จิเตฺตน ผริตุํ, อตฺตคุตฺติยา อตฺตรกฺขาย อตฺตปริตฺตํ กาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, กาตพฺพํ –

    251. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu ahinā daṭṭho kālaṅkato hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na hi nūna so, bhikkhave, bhikkhu imāni cattāri ahirājakulāni mettena cittena phari. Sace hi so, bhikkhave, bhikkhu imāni cattāri ahirājakulāni mettena cittena phareyya, na hi so, bhikkhave, bhikkhu ahinā daṭṭho kālaṅkareyya. Katamāni cattāri ahirājakulāni? Virūpakkhaṃ ahirājakulaṃ, erāpathaṃ ahirājakulaṃ, chabyāputtaṃ ahirājakulaṃ, kaṇhāgotamaṃ ahirājakulaṃ . Na hi nūna so, bhikkhave, bhikkhu imāni cattāri ahirājakulāni mettena cittena phari. Sace hi so, bhikkhave, bhikkhu imāni cattāri ahirājakulāni mettena cittena phareyya, na hi so, bhikkhave, bhikkhu ahinā daṭṭho kālaṅkareyya. Anujānāmi, bhikkhave, imāni cattāri ahirājakulāni mettena cittena pharituṃ, attaguttiyā attarakkhāya attaparittaṃ kātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, kātabbaṃ –

    17 ‘‘วิรูปเกฺขหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ เอราปเถหิ เม;

    18 ‘‘Virūpakkhehi me mettaṃ, mettaṃ erāpathehi me;

    ฉพฺยาปุเตฺตหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ กณฺหาโคตมเกหิ จฯ

    Chabyāputtehi me mettaṃ, mettaṃ kaṇhāgotamakehi ca.

    ‘‘อปาทเกหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ ทฺวิปาทเกหิ เม;

    ‘‘Apādakehi me mettaṃ, mettaṃ dvipādakehi me;

    จตุปฺปเทหิ เม เมตฺตํ, เมตฺตํ พหุปฺปเทหิ เมฯ

    Catuppadehi me mettaṃ, mettaṃ bahuppadehi me.

    ‘‘มา มํ อปาทโก หิํสิ, มา มํ หิํสิ ทฺวิปาทโก;

    ‘‘Mā maṃ apādako hiṃsi, mā maṃ hiṃsi dvipādako;

    มา มํ จตุปฺปโท หิํสิ, มา มํ หิํสิ พหุปฺปโทฯ

    Mā maṃ catuppado hiṃsi, mā maṃ hiṃsi bahuppado.

    ‘‘สเพฺพ สตฺตา สเพฺพ ปาณา, สเพฺพ ภูตา จ เกวลา;

    ‘‘Sabbe sattā sabbe pāṇā, sabbe bhūtā ca kevalā;

    สเพฺพ ภทฺรานิ ปสฺสนฺตุ, มา กิญฺจิ ปาปมาคมาฯ

    Sabbe bhadrāni passantu, mā kiñci pāpamāgamā.

    ‘‘อปฺปมาโณ พุโทฺธ, อปฺปมาโณ ธโมฺม,

    ‘‘Appamāṇo buddho, appamāṇo dhammo,

    อปฺปมาโณ สโงฺฆ, ปมาณวนฺตานิ สรีสปานิ 19

    Appamāṇo saṅgho, pamāṇavantāni sarīsapāni 20.

    ‘‘อหิ วิจฺฉิกา สตปที, อุณฺณนาภิ สรพู มูสิกา;

    ‘‘Ahi vicchikā satapadī, uṇṇanābhi sarabū mūsikā;

    กตา เม รกฺขา กตํ เม ปริตฺตํ, ปฎิกฺกมนฺตุ ภูตานิฯ

    Katā me rakkhā kataṃ me parittaṃ, paṭikkamantu bhūtāni.

    ‘‘โสหํ นโม ภควโต, นโม สตฺตนฺนํ สมฺมาสมฺพุทฺธาน’’นฺติฯ

    ‘‘Sohaṃ namo bhagavato, namo sattannaṃ sammāsambuddhāna’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อนภิรติยา ปีฬิโต อตฺตโน องฺคชาตํ ฉินฺทิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อญฺญมฺหิ โส, ภิกฺขเว, โมฆปุริโส เฉตพฺพมฺหิ, อญฺญํ ฉินฺทิฯ น, ภิกฺขเว, อตฺตโน องฺคชาตํ เฉตพฺพํฯ โย ฉิเนฺทยฺย, อาปตฺติ ถุลฺลจฺจยสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu anabhiratiyā pīḷito attano aṅgajātaṃ chindi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Aññamhi so, bhikkhave, moghapuriso chetabbamhi, aññaṃ chindi. Na, bhikkhave, attano aṅgajātaṃ chetabbaṃ. Yo chindeyya, āpatti thullaccayassā’’ti.

    ๒๕๒. เตน โข ปน สมเยน ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส มหคฺฆสฺส จนฺทนสฺส 21 จนฺทนคณฺฐิ อุปฺปนฺนา โหติฯ อถ โข ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ยํนูนาหํ อิมาย จนฺทนคณฺฐิยา ปตฺตํ เลขาเปยฺยํฯ เลขญฺจ เม ปริโภคํ ภวิสฺสติ, ปตฺตญฺจ ทานํ ทสฺสามี’’ติฯ อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐิ ตาย จนฺทนคณฺฐิยา ปตฺตํ เลขาเปตฺวา สิกฺกาย อุฑฺฑิตฺวา 22 เวฬเคฺค อาลเคฺคตฺวา เวฬุปรมฺปราย พนฺธิตฺวา 23 เอวมาห – ‘‘โย สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อรหา เจว อิทฺธิมา จ ทินฺนํเยว ปตฺตํ โอหรตู’’ติฯ อถ โข ปูรโณ กสฺสโป เยน ราชคหโก เสฎฺฐิ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชคหกํ เสฎฺฐิํ เอตทโวจ – ‘‘อหญฺหิ, คหปติ, อรหา เจว อิทฺธิมา จ, เทหิ เม ปตฺต’’นฺติฯ ‘‘สเจ, ภเนฺต, อายสฺมา อรหา เจว อิทฺธิมา จ ทินฺนํเยว ปตฺตํ โอหรตู’’ติฯ อถ โข มกฺขลิ โคสาโล… อชิโต เกสกมฺพโล… ปกุโธ กจฺจายโน… สญฺจโย เพลฎฺฐปุโตฺต 24 … นิคโณฺฐ นาฎปุโตฺต 25 เยน ราชคหโก เสฎฺฐิ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชคหกํ เสฎฺฐิํ เอตทโวจ – ‘‘อหญฺหิ, คหปติ, อรหา เจว อิทฺธิมา จ, เทหิ เม ปตฺต’’นฺติฯ ‘‘สเจ, ภเนฺต, อายสฺมา อรหา เจว อิทฺธิมา จ, ทินฺนํเยว ปตฺตํ โอหรตู’’ติฯ

    252. Tena kho pana samayena rājagahakassa seṭṭhissa mahagghassa candanassa 26 candanagaṇṭhi uppannā hoti. Atha kho rājagahakassa seṭṭhissa etadahosi – ‘‘yaṃnūnāhaṃ imāya candanagaṇṭhiyā pattaṃ lekhāpeyyaṃ. Lekhañca me paribhogaṃ bhavissati, pattañca dānaṃ dassāmī’’ti. Atha kho rājagahako seṭṭhi tāya candanagaṇṭhiyā pattaṃ lekhāpetvā sikkāya uḍḍitvā 27 veḷagge ālaggetvā veḷuparamparāya bandhitvā 28 evamāha – ‘‘yo samaṇo vā brāhmaṇo vā arahā ceva iddhimā ca dinnaṃyeva pattaṃ oharatū’’ti. Atha kho pūraṇo kassapo yena rājagahako seṭṭhi tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā rājagahakaṃ seṭṭhiṃ etadavoca – ‘‘ahañhi, gahapati, arahā ceva iddhimā ca, dehi me patta’’nti. ‘‘Sace, bhante, āyasmā arahā ceva iddhimā ca dinnaṃyeva pattaṃ oharatū’’ti. Atha kho makkhali gosālo… ajito kesakambalo… pakudho kaccāyano… sañcayo belaṭṭhaputto 29 … nigaṇṭho nāṭaputto 30 yena rājagahako seṭṭhi tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā rājagahakaṃ seṭṭhiṃ etadavoca – ‘‘ahañhi, gahapati, arahā ceva iddhimā ca, dehi me patta’’nti. ‘‘Sace, bhante, āyasmā arahā ceva iddhimā ca, dinnaṃyeva pattaṃ oharatū’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ มหาโมคฺคลฺลาโน อายสฺมา จ ปิโณฺฑลภารทฺวาโช ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ราชคหํ ปิณฺฑาย ปวิสิํสุฯ อถ โข อายสฺมา ปิโณฺฑลภารทฺวาโช อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘อายสฺมา โข มหาโมคฺคลฺลาโน อรหา เจว อิทฺธิมา จฯ คจฺฉาวุโส, โมคฺคลฺลาน, เอตํ ปตฺตํ โอหรฯ ตุเยฺหโส ปโตฺต’’ติฯ ‘‘อายสฺมา โข ภารทฺวาโช อรหา เจว อิทฺธิมา จฯ คจฺฉาวุโส, ภารทฺวาช, เอตํ ปตฺตํ โอหรฯ ตุเยฺหโส ปโตฺต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ปิโณฺฑลภารทฺวาโช เวหาสํ อพฺภุคฺคนฺตฺวา ตํ ปตฺตํ คเหตฺวา ติกฺขตฺตุํ ราชคหํ อนุปริยายิฯ

    Tena kho pana samayena āyasmā ca mahāmoggallāno āyasmā ca piṇḍolabhāradvājo pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya rājagahaṃ piṇḍāya pavisiṃsu. Atha kho āyasmā piṇḍolabhāradvājo āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca – ‘‘āyasmā kho mahāmoggallāno arahā ceva iddhimā ca. Gacchāvuso, moggallāna, etaṃ pattaṃ ohara. Tuyheso patto’’ti. ‘‘Āyasmā kho bhāradvājo arahā ceva iddhimā ca. Gacchāvuso, bhāradvāja, etaṃ pattaṃ ohara. Tuyheso patto’’ti. Atha kho āyasmā piṇḍolabhāradvājo vehāsaṃ abbhuggantvā taṃ pattaṃ gahetvā tikkhattuṃ rājagahaṃ anupariyāyi.

    เตน โข ปน สมเยน ราชคหโก เสฎฺฐิ สปุตฺตทาโร สเก นิเวสเน ฐิโต โหติ ปญฺชลิโก นมสฺสมาโน – อิเธว, ภเนฺต, อโยฺย ภารทฺวาโช อมฺหากํ นิเวสเน ปติฎฺฐาตูติฯ อถ โข อายสฺมา ปิโณฺฑลภารทฺวาโช ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส นิเวสเน ปติฎฺฐาสิฯ อถ โข ราชคหโก เสฎฺฐิ อายสฺมโต ปิโณฺฑลภารทฺวาชสฺส หตฺถโต ปตฺตํ คเหตฺวา มหคฺฆสฺส ขาทนียสฺส ปูเรตฺวา อายสฺมโต ปิโณฺฑลภารทฺวาชสฺส อทาสิฯ อถ โข อายสฺมา ปิโณฺฑลภารทฺวาโช ตํ ปตฺตํ คเหตฺวา อารามํ อคมาสิฯ อโสฺสสุํ โข มนุสฺสา – อเยฺยน กิร ปิโณฺฑลภารทฺวาเชน ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส ปโตฺต โอหาริโตติฯ เต จ มนุสฺสา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา อายสฺมนฺตํ ปิโณฺฑลภารทฺวาชํ ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อนุพนฺธิํสุฯ

    Tena kho pana samayena rājagahako seṭṭhi saputtadāro sake nivesane ṭhito hoti pañjaliko namassamāno – idheva, bhante, ayyo bhāradvājo amhākaṃ nivesane patiṭṭhātūti. Atha kho āyasmā piṇḍolabhāradvājo rājagahakassa seṭṭhissa nivesane patiṭṭhāsi. Atha kho rājagahako seṭṭhi āyasmato piṇḍolabhāradvājassa hatthato pattaṃ gahetvā mahagghassa khādanīyassa pūretvā āyasmato piṇḍolabhāradvājassa adāsi. Atha kho āyasmā piṇḍolabhāradvājo taṃ pattaṃ gahetvā ārāmaṃ agamāsi. Assosuṃ kho manussā – ayyena kira piṇḍolabhāradvājena rājagahakassa seṭṭhissa patto ohāritoti. Te ca manussā uccāsaddā mahāsaddā āyasmantaṃ piṇḍolabhāradvājaṃ piṭṭhito piṭṭhito anubandhiṃsu.

    อเสฺสสิ โข ภควา อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ; สุตฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘กิํ นุ โข โส, อานนฺท, อุจฺจาสโทฺท มหาสโทฺท’’ติ? ‘‘อายสฺมตา, ภเนฺต, ปิโณฺฑลภารทฺวาเชน ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส ปโตฺต โอหาริโตฯ อโสฺสสุํ โข, ภเนฺต, มนุสฺสา – อเยฺยน กิร ปิโณฺฑลภารทฺวาเชน ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส ปโตฺต โอหาริโตติฯ เต จ, ภเนฺต, มนุสฺสา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา อายสฺมนฺตํ ปิโณฺฑลภารทฺวาชํ ปิฎฺฐิโต ปิฎฺฐิโต อนุพนฺธาฯ โส เอโส, ภเนฺต, ภควา อุจฺจาสโทฺท มหาสโทฺท’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อายสฺมนฺตํ ปิโณฺฑลภารทฺวาชํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตยา, ภารทฺวาช, ราชคหกสฺส เสฎฺฐิสฺส ปโตฺต โอหาริโต’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, ภารทฺวาช, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, ภารทฺวาช, ฉวสฺส ทารุปตฺตสฺส การณา คิหีนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสสฺสสิ! เสยฺยถาปิ, ภารทฺวาช, มาตุคาโม ฉวสฺส มาสกรูปสฺส การณา โกปินํ ทเสฺสติ, เอวเมว โข ตยา, ภารทฺวาช, ฉวสฺส ทารุปตฺตสฺส การณา คิหีนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทสฺสิตํฯ เนตํ, ภารทฺวาช, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหีนํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อิทฺธิปาฎิหาริยํ ทเสฺสตพฺพํฯ โย ทเสฺสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ภินฺทเถตํ, ภิกฺขเว, ทารุปตฺตํ สกลิกํ สกลิกํ กตฺวา , ภิกฺขูนํ อญฺชนุปปิสนํ เทถฯ น จ, ภิกฺขเว, ทารุปโตฺต ธาเรตโพฺพฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Assesi kho bhagavā uccāsaddaṃ mahāsaddaṃ; sutvāna āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘kiṃ nu kho so, ānanda, uccāsaddo mahāsaddo’’ti? ‘‘Āyasmatā, bhante, piṇḍolabhāradvājena rājagahakassa seṭṭhissa patto ohārito. Assosuṃ kho, bhante, manussā – ayyena kira piṇḍolabhāradvājena rājagahakassa seṭṭhissa patto ohāritoti. Te ca, bhante, manussā uccāsaddā mahāsaddā āyasmantaṃ piṇḍolabhāradvājaṃ piṭṭhito piṭṭhito anubandhā. So eso, bhante, bhagavā uccāsaddo mahāsaddo’’ti. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā āyasmantaṃ piṇḍolabhāradvājaṃ paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tayā, bhāradvāja, rājagahakassa seṭṭhissa patto ohārito’’ti? ‘‘Saccaṃ bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, bhāradvāja, ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tvaṃ, bhāradvāja, chavassa dārupattassa kāraṇā gihīnaṃ uttarimanussadhammaṃ iddhipāṭihāriyaṃ dassessasi! Seyyathāpi, bhāradvāja, mātugāmo chavassa māsakarūpassa kāraṇā kopinaṃ dasseti, evameva kho tayā, bhāradvāja, chavassa dārupattassa kāraṇā gihīnaṃ uttarimanussadhammaṃ iddhipāṭihāriyaṃ dassitaṃ. Netaṃ, bhāradvāja, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, gihīnaṃ uttarimanussadhammaṃ iddhipāṭihāriyaṃ dassetabbaṃ. Yo dasseyya, āpatti dukkaṭassa. Bhindathetaṃ, bhikkhave, dārupattaṃ sakalikaṃ sakalikaṃ katvā , bhikkhūnaṃ añjanupapisanaṃ detha. Na ca, bhikkhave, dārupatto dhāretabbo. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวเจ ปเตฺต ธาเรนฺติ โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, โสวณฺณมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ…เป.… น รูปิยมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น มณิมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น เวฬุริยมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น ผลิกมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น กํสมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น กาจมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น ติปุมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น สีสมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพ… น ตมฺพโลหมโย ปโตฺต ธาเรตโพฺพฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เทฺว ปเตฺต – อโยปตฺตํ, มตฺติกาปตฺต’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvace patte dhārenti sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, sovaṇṇamayo patto dhāretabbo…pe… na rūpiyamayo patto dhāretabbo… na maṇimayo patto dhāretabbo… na veḷuriyamayo patto dhāretabbo… na phalikamayo patto dhāretabbo… na kaṃsamayo patto dhāretabbo… na kācamayo patto dhāretabbo… na tipumayo patto dhāretabbo… na sīsamayo patto dhāretabbo… na tambalohamayo patto dhāretabbo. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, dve patte – ayopattaṃ, mattikāpatta’’nti.

    ๒๕๓. เตน โข ปน สมเยน ปตฺตมูลํ ฆํสิยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตมณฺฑล’’นฺติฯ

    253. Tena kho pana samayena pattamūlaṃ ghaṃsiyati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, pattamaṇḍala’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรนฺติ โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เทฺว ปตฺตมณฺฑลานิ – ติปุมยํ, สีสมย’’นฺติฯ พหลานิ มณฺฑลานิ น อจฺฉุปิยนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ลิขิตุ’’นฺติฯ วลี 31 โหนฺติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกรทนฺตกํ ฉินฺทิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacāni pattamaṇḍalāni dhārenti sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uccāvacāni pattamaṇḍalāni dhāretabbāni. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, dve pattamaṇḍalāni – tipumayaṃ, sīsamaya’’nti. Bahalāni maṇḍalāni na acchupiyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, likhitu’’nti. Valī 32 honti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, makaradantakaṃ chinditu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู จิตฺรานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรนฺติ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานิฯ ตานิ รถิกายปิ ทเสฺสนฺตา อาหิณฺฑนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, จิตฺรานิ ปตฺตมณฺฑลานิ ธาเรตพฺพานิ รูปกากิณฺณานิ ภิตฺติกมฺมกตานิฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปกติมณฺฑล’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū citrāni pattamaṇḍalāni dhārenti rūpakākiṇṇāni bhittikammakatāni. Tāni rathikāyapi dassentā āhiṇḍanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, citrāni pattamaṇḍalāni dhāretabbāni rūpakākiṇṇāni bhittikammakatāni. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, pakatimaṇḍala’’nti.

    ๒๕๔. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู โสทกํ ปตฺตํ ปฎิสาเมนฺติฯ ปโตฺต ทุสฺสติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, โสทโก ปโตฺต ปฎิสาเมตโพฺพฯ โย ปฎิสาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอตาเปตฺวา ปตฺตํ ปฎิสาเมตุ’’นฺติฯ

    254. Tena kho pana samayena bhikkhū sodakaṃ pattaṃ paṭisāmenti. Patto dussati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, sodako patto paṭisāmetabbo. Yo paṭisāmeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, otāpetvā pattaṃ paṭisāmetu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู โสทกํ 33 ปตฺตํ โอตาเปนฺติฯ ปโตฺต ทุคฺคโนฺธ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, โสทโก ปโตฺต โอตาเปตโพฺพฯ โย โอตาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โวทกํ กตฺวา โอตาเปตฺวา ปตฺตํ ปฎิสาเมตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū sodakaṃ 34 pattaṃ otāpenti. Patto duggandho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, sodako patto otāpetabbo. Yo otāpeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, vodakaṃ katvā otāpetvā pattaṃ paṭisāmetu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อุเณฺห ปตฺตํ นิทหนฺติฯ ปตฺตสฺส วโณฺณ ทุสฺสติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุเณฺห ปโตฺต นิทหิตโพฺพฯ โย นิทเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุหุตฺตํ อุเณฺห โอตาเปตฺวา ปตฺตํ ปฎิสาเมตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū uṇhe pattaṃ nidahanti. Pattassa vaṇṇo dussati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uṇhe patto nidahitabbo. Yo nidaheyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, muhuttaṃ uṇhe otāpetvā pattaṃ paṭisāmetu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลา ปตฺตา อโชฺฌกาเส อนาธารา นิกฺขิตฺตา โหนฺติฯ วาตมณฺฑลิกาย อาวเฎฺฎตฺวา ปตฺตา ภิชฺชิํสุ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตาธารก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena sambahulā pattā ajjhokāse anādhārā nikkhittā honti. Vātamaṇḍalikāya āvaṭṭetvā pattā bhijjiṃsu . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, pattādhāraka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู มิฑฺฒเนฺต ปตฺตํ นิกฺขิปนฺติฯ ปริปติตฺวา 35 ปโตฺต ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, มิฑฺฒเนฺต ปโตฺต นิกฺขิปิตโพฺพฯ โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū miḍḍhante pattaṃ nikkhipanti. Paripatitvā 36 patto bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, miḍḍhante patto nikkhipitabbo. Yo nikkhipeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปริภณฺฑเนฺต ปตฺตํ นิกฺขิปนฺติฯ ปริปติตฺวา ปโตฺต ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปริภณฺฑเนฺต ปโตฺต นิกฺขิปิตโพฺพฯ โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū paribhaṇḍante pattaṃ nikkhipanti. Paripatitvā patto bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, paribhaṇḍante patto nikkhipitabbo. Yo nikkhipeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ฉมาย ปตฺตํ นิกฺกุชฺชนฺติฯ โอโฎฺฐ ฆํสิยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณสนฺถารก’’นฺติฯ ติณสนฺถารโก อุปจิกาหิ ขชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โจฬก’’นฺติฯ โจฬกํ อุปจิกาหิ ขชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตมาฬก’’นฺติฯ ปตฺตมาฬโก ปริปติตฺวา ปโตฺต ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตกุโณฺฑลิก’’นฺติฯ ปตฺตกุโณฺฑลิกาย ปโตฺต ฆํสิยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปตฺตถวิก’’นฺติ ฯ อํสพทฺธโก น โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū chamāya pattaṃ nikkujjanti. Oṭṭho ghaṃsiyati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, tiṇasanthāraka’’nti. Tiṇasanthārako upacikāhi khajjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, coḷaka’’nti. Coḷakaṃ upacikāhi khajjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, pattamāḷaka’’nti. Pattamāḷako paripatitvā patto bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, pattakuṇḍolika’’nti. Pattakuṇḍolikāya patto ghaṃsiyati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, pattathavika’’nti . Aṃsabaddhako na hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, aṃsabaddhakaṃ bandhanasuttaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ภิตฺติขิเลปิ นาคทนฺตเกปิ ปตฺตํ ลเคฺคนฺติฯ ปริปติตฺวา ปโตฺต ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปโตฺต ลเคฺคตโพฺพฯ โย ลเคฺคยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū bhittikhilepi nāgadantakepi pattaṃ laggenti. Paripatitvā patto bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, patto laggetabbo. Yo laggeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู มเญฺจ ปตฺตํ นิกฺขิปนฺติ, สติสโมฺมสา นิสีทนฺตา โอตฺถริตฺวา ปตฺตํ ภิเนฺทนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, มเญฺจ ปโตฺต นิกฺขิปิตโพฺพฯ โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū mañce pattaṃ nikkhipanti, satisammosā nisīdantā ottharitvā pattaṃ bhindenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, mañce patto nikkhipitabbo. Yo nikkhipeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปีเฐ ปตฺตํ นิกฺขิปนฺติ, สติสโมฺมสา นิสีทนฺตา โอตฺถริตฺวา ปตฺตํ ภิเนฺทนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปีเฐ ปโตฺต นิกฺขิปิตโพฺพฯ โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū pīṭhe pattaṃ nikkhipanti, satisammosā nisīdantā ottharitvā pattaṃ bhindenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, pīṭhe patto nikkhipitabbo. Yo nikkhipeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อเงฺก ปตฺตํ นิกฺขิปนฺติ, สติสโมฺมสา อุฎฺฐหนฺติฯ ปริปติตฺวา ปโตฺต ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อเงฺก ปโตฺต นิกฺขิปิตโพฺพฯ โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū aṅke pattaṃ nikkhipanti, satisammosā uṭṭhahanti. Paripatitvā patto bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, aṅke patto nikkhipitabbo. Yo nikkhipeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ฉเตฺต ปตฺตํ นิกฺขิปนฺติฯ วาตมณฺฑลิกาย ฉตฺตํ อุกฺขิปิยติ ปริปติตฺวา ปโตฺต ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ฉเตฺต ปโตฺต นิกฺขิปิตโพฺพฯ โย นิกฺขิเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū chatte pattaṃ nikkhipanti. Vātamaṇḍalikāya chattaṃ ukkhipiyati paripatitvā patto bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, chatte patto nikkhipitabbo. Yo nikkhipeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๕๕. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปตฺตหตฺถา กวาฎํ ปณาเมนฺติฯ กวาโฎ อาวฎฺฎิตฺวา ปโตฺต ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปตฺตหเตฺถน กวาฎํ ปณาเมตพฺพํ 37ฯ โย ปณาเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    255. Tena kho pana samayena bhikkhū pattahatthā kavāṭaṃ paṇāmenti. Kavāṭo āvaṭṭitvā patto bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, pattahatthena kavāṭaṃ paṇāmetabbaṃ 38. Yo paṇāmeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ตุมฺพกฎาเห ปิณฺฑาย จรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ตุมฺพกฎาเห ปิณฺฑาย จริตพฺพํฯ โย จเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū tumbakaṭāhe piṇḍāya caranti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi titthiyāti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, tumbakaṭāhe piṇḍāya caritabbaṃ. Yo careyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ฆฎิกฎาเห 39 ปิณฺฑาย จรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ติตฺถิยาติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ฆฎิกฎาเห ปิณฺฑาย จริตพฺพํฯ โย จเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū ghaṭikaṭāhe 40 piṇḍāya caranti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi titthiyāti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, ghaṭikaṭāhe piṇḍāya caritabbaṃ. Yo careyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สพฺพปํสุกูลิโก โหติฯ โส ฉวสีสสฺส ปตฺตํ ธาเรติฯ อญฺญตรา อิตฺถี ปสฺสิตฺวา ภีตา วิสฺสรมกาสิ – ‘‘อภุํ เม ปิสาโจ วตาย’’นฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ฉวสีสสฺส ปตฺตํ ธาเรสฺสนฺติ, เสยฺยถาปิ ปิสาจิลฺลิกา’’ติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ฉวสีสสฺส ปโตฺต ธาเรตโพฺพฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น จ, ภิกฺขเว, สพฺพปํสุกูลิเกน ภวิตพฺพํฯ โย ภเวยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sabbapaṃsukūliko hoti. So chavasīsassa pattaṃ dhāreti. Aññatarā itthī passitvā bhītā vissaramakāsi – ‘‘abhuṃ me pisāco vatāya’’nti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā chavasīsassa pattaṃ dhāressanti, seyyathāpi pisācillikā’’ti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, chavasīsassa patto dhāretabbo. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Na ca, bhikkhave, sabbapaṃsukūlikena bhavitabbaṃ. Yo bhaveyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู จลกานิปิ อฎฺฐิกานิปิ อุจฺฉิโฎฺฐทกมฺปิ ปเตฺตน นีหรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘ยสฺมิํ เยวิเม สมณา สกฺยปุตฺติยา ภุญฺชนฺติ โสว เนสํ ปฎิคฺคโห’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น ภิกฺขเว, จลกานิ วา อฎฺฐิกานิ วา อุจฺฉิโฎฺฐทกํ วา ปเตฺตน นีหริตพฺพํฯ โย นีหเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฎิคฺคห’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū calakānipi aṭṭhikānipi ucchiṭṭhodakampi pattena nīharanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘yasmiṃ yevime samaṇā sakyaputtiyā bhuñjanti sova nesaṃ paṭiggaho’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na bhikkhave, calakāni vā aṭṭhikāni vā ucchiṭṭhodakaṃ vā pattena nīharitabbaṃ. Yo nīhareyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, paṭiggaha’’nti.

    ๒๕๖. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู หเตฺถน วิปฺผาเฬตฺวา จีวรํ สิเพฺพนฺติฯ จีวรํ วิโลมิกํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺถกํ นมตก’’นฺติฯ

    256. Tena kho pana samayena bhikkhū hatthena vipphāḷetvā cīvaraṃ sibbenti. Cīvaraṃ vilomikaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, satthakaṃ namataka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส ทณฺฑสตฺถกํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทณฺฑสตฺถก’’นฺติ ฯ

    Tena kho pana samayena saṅghassa daṇḍasatthakaṃ uppannaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, daṇḍasatthaka’’nti .

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวเจ สตฺถกทเณฺฑ ธาเรนฺติ โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา สตฺถกทณฺฑา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ ทนฺตมยํ วิสาณมยํ นฬมยํ เวฬุมยํ กฎฺฐมยํ ชตุมยํ ผลมยํ โลหมยํ สงฺขนาภิมย’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvace satthakadaṇḍe dhārenti sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uccāvacā satthakadaṇḍā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ dantamayaṃ visāṇamayaṃ naḷamayaṃ veḷumayaṃ kaṭṭhamayaṃ jatumayaṃ phalamayaṃ lohamayaṃ saṅkhanābhimaya’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู กุกฺกุฎปเตฺตนปิ เวฬุเปสิกายปิ จีวรํ สิเพฺพนฺติฯ จีวรํ ทุสฺสิพฺพิตํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สูจิ’’นฺติฯ สูจิโย กณฺณกิตาโย โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว , สูจินาฬิก’’นฺติฯ สูจินาฬิกายปิ กณฺณกิตาโย โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กิเณฺณน ปูเรตุ’’นฺติฯ กิเณฺณปิ กณฺณกิตาโย โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺตุยา ปูเรตุ’’นฺติฯ สตฺตุยาปิ กณฺณกิตาโย โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สริตก’’นฺติฯ สริตเกปิ กณฺณกิตาโย โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มธุสิตฺถเกน สาเรตุ’’นฺติฯ สริตกํ ปริภิชฺชติฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สริตกสิปาฎิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū kukkuṭapattenapi veḷupesikāyapi cīvaraṃ sibbenti. Cīvaraṃ dussibbitaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, sūci’’nti. Sūciyo kaṇṇakitāyo honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave , sūcināḷika’’nti. Sūcināḷikāyapi kaṇṇakitāyo honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, kiṇṇena pūretu’’nti. Kiṇṇepi kaṇṇakitāyo honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, sattuyā pūretu’’nti. Sattuyāpi kaṇṇakitāyo honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, saritaka’’nti. Saritakepi kaṇṇakitāyo honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, madhusitthakena sāretu’’nti. Saritakaṃ paribhijjati. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, saritakasipāṭika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ตตฺถ ตตฺถ ขิลํ นิกฺขณิตฺวา สมฺพนฺธิตฺวา จีวรํ สิเพฺพนฺติฯ จีวรํ วิกณฺณํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กถินํ กถินรชฺชุํ 41 ตตฺถ ตตฺถ โอพนฺธิตฺวา จีวรํ สิเพฺพตุ’’นฺติฯ วิสเม กถินํ ปตฺถรนฺติฯ กถินํ ปริภิชฺชติ…เป.… ‘‘น, ภิกฺขเว, วิสเม กถินํ ปตฺถริตพฺพํฯ โย ปตฺถเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū tattha tattha khilaṃ nikkhaṇitvā sambandhitvā cīvaraṃ sibbenti. Cīvaraṃ vikaṇṇaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, kathinaṃ kathinarajjuṃ 42 tattha tattha obandhitvā cīvaraṃ sibbetu’’nti. Visame kathinaṃ pattharanti. Kathinaṃ paribhijjati…pe… ‘‘na, bhikkhave, visame kathinaṃ pattharitabbaṃ. Yo patthareyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ฉมาย กถินํ ปตฺถรนฺติฯ กถินํ ปํสุกิตํ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติณสนฺถารก’’นฺติฯ กถินสฺส อโนฺต ชีรติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อนุวาตํ ปริภณฺฑํ อาโรเปตุ’’นฺติฯ กถินํ นปฺปโหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทณฺฑกถินํ พิทลกํ สลากํ วินนฺธนรชฺชุํ วินนฺธนสุตฺตํ วินนฺธิตฺวา จีวรํ สิเพฺพตุ’’นฺติฯ สุตฺตนฺตริกาโย วิสมา โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, กฬิมฺภก’’นฺติฯ สุตฺตา วงฺกา โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โมฆสุตฺตก’’นฺติฯ

    Chamāya kathinaṃ pattharanti. Kathinaṃ paṃsukitaṃ hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tiṇasanthāraka’’nti. Kathinassa anto jīrati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, anuvātaṃ paribhaṇḍaṃ āropetu’’nti. Kathinaṃ nappahoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, daṇḍakathinaṃ bidalakaṃ salākaṃ vinandhanarajjuṃ vinandhanasuttaṃ vinandhitvā cīvaraṃ sibbetu’’nti. Suttantarikāyo visamā honti…pe… ‘‘anujānāmi , bhikkhave, kaḷimbhaka’’nti. Suttā vaṅkā honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, moghasuttaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อโธเตหิ ปาเทหิ กถินํ อกฺกมนฺติฯ กถินํ ทุสฺสติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อโธเตหิ ปาเทหิ กถินํ อกฺกมิตพฺพํฯ โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū adhotehi pādehi kathinaṃ akkamanti. Kathinaṃ dussati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, adhotehi pādehi kathinaṃ akkamitabbaṃ. Yo akkameyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อเลฺลหิ ปาเทหิ กถินํ อกฺกมนฺติฯ กถินํ ทุสฺสติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น , ภิกฺขเว, อเลฺลหิ ปาเทหิ กถินํ อกฺกมิตพฺพํฯ โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū allehi pādehi kathinaṃ akkamanti. Kathinaṃ dussati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na , bhikkhave, allehi pādehi kathinaṃ akkamitabbaṃ. Yo akkameyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สอุปาหนา กถินํ อกฺกมนฺติฯ กถินํ ทุสฺสติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, สอุปาหเนน กถินํ อกฺกมิตพฺพํฯ โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū saupāhanā kathinaṃ akkamanti. Kathinaṃ dussati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, saupāhanena kathinaṃ akkamitabbaṃ. Yo akkameyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู จีวรํ สิพฺพนฺตา องฺคุลิยา ปฎิคฺคณฺหนฺติฯ องฺคุลิโย ทุกฺขา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฎิคฺคห’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū cīvaraṃ sibbantā aṅguliyā paṭiggaṇhanti. Aṅguliyo dukkhā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, paṭiggaha’’nti.

    ๒๕๗. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวเจ ปฎิคฺคเห ธาเรนฺติ โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา ปฎิคฺคหา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ…เป.… สงฺขนาภิมย’’นฺติฯ

    257. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvace paṭiggahe dhārenti sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uccāvacā paṭiggahā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ…pe… saṅkhanābhimaya’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน สูจิโยปิ สตฺถกาปิ ปฎิคฺคหาปิ นสฺสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาเวสนวิตฺถก’’นฺติฯ อาเวสนวิตฺถเก สมากุลา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฎิคฺคหถวิก’’นฺติฯ อํสพทฺธโก น โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena sūciyopi satthakāpi paṭiggahāpi nassanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, āvesanavitthaka’’nti. Āvesanavitthake samākulā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, paṭiggahathavika’’nti. Aṃsabaddhako na hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, aṃsabaddhakaṃ bandhanasuttaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อโพฺภกาเส จีวรํ สิพฺพนฺตา สีเตนปิ อุเณฺหนปิ กิลมนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กถินสาลํ กถินมณฺฑป’’นฺติฯ กถินสาลา นีจวตฺถุกา โหติ, อุทเกน โอตฺถริยฺยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว อุจฺจวตฺถุกํ กาตุ’’นฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโย โสปาเน – อิฎฺฐกาโสปานํ, สิลาโสปานํ, ทารุโสปาน’’นฺติฯ อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติฯ กถินสาลาย ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา 43 อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ – เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฎิกํ จีวรวํสํ จีวรรชฺชุก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū abbhokāse cīvaraṃ sibbantā sītenapi uṇhenapi kilamanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, kathinasālaṃ kathinamaṇḍapa’’nti. Kathinasālā nīcavatthukā hoti, udakena otthariyyati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave uccavatthukaṃ kātu’’nti. Cayo paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Ārohantā vihaññanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tayo sopāne – iṭṭhakāsopānaṃ, silāsopānaṃ, dārusopāna’’nti. Ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti. Kathinasālāya tiṇacuṇṇaṃ paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā 44 ullittāvalittaṃ kātuṃ – setavaṇṇaṃ kāḷavaṇṇaṃ gerukaparikammaṃ mālākammaṃ latākammaṃ makaradantakaṃ pañcapaṭikaṃ cīvaravaṃsaṃ cīvararajjuka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู จีวรํ สิเพฺพตฺวา ตเตฺถว กถินํ อุชฺฌิตฺวา ปกฺกมนฺติ, อุนฺทูเรหิปิ อุปจิกาหิปิ ขชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กถินํ สงฺฆริตุ’’นฺติฯ กถินํ ปริภิชฺชติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โคฆํสิกาย กถินํ สงฺฆริตุ’’นฺติฯ กถินํ วินิเวฐิยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, พนฺธนรชฺชุ’’นฺติ ฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū cīvaraṃ sibbetvā tattheva kathinaṃ ujjhitvā pakkamanti, undūrehipi upacikāhipi khajjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, kathinaṃ saṅgharitu’’nti. Kathinaṃ paribhijjati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, goghaṃsikāya kathinaṃ saṅgharitu’’nti. Kathinaṃ viniveṭhiyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, bandhanarajju’’nti .

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู กุเฎฺฎปิ ถเมฺภปิ กถินํ อุสฺสาเปตฺวา ปกฺกมนฺติฯ ปริปติตฺวา กถินํ ภิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภิตฺติขิเล วา นาคทเนฺต วา ลเคฺคตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū kuṭṭepi thambhepi kathinaṃ ussāpetvā pakkamanti. Paripatitvā kathinaṃ bhijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, bhittikhile vā nāgadante vā laggetu’’nti.

    ๒๕๘. อถ โข ภควา ราชคเห ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน เวสาลี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สูจิกมฺปิ สตฺถกมฺปิ เภสชฺชมฺปิ ปเตฺตน อาทาย คจฺฉนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เภสชฺชตฺถวิก’’นฺติฯ อํสพทฺธโก น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตก’’นฺติฯ

    258. Atha kho bhagavā rājagahe yathābhirantaṃ viharitvā yena vesālī tena cārikaṃ pakkāmi. Tena kho pana samayena bhikkhū sūcikampi satthakampi bhesajjampi pattena ādāya gacchanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, bhesajjatthavika’’nti. Aṃsabaddhako na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, aṃsabaddhakaṃ bandhanasuttaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อุปาหนาโย กายพนฺธเนน พนฺธิตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ อญฺญตโร อุปาสโก ตํ ภิกฺขุํ อภิวาเทโนฺต อุปาหนาโย สีเสน ฆเฎฺฎติฯ โส ภิกฺขุ มงฺกุ อโหสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุปาหนตฺถวิก’’นฺติฯ อํสพทฺธโก น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu upāhanāyo kāyabandhanena bandhitvā gāmaṃ piṇḍāya pāvisi. Aññataro upāsako taṃ bhikkhuṃ abhivādento upāhanāyo sīsena ghaṭṭeti. So bhikkhu maṅku ahosi. Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, upāhanatthavika’’nti. Aṃsabaddhako na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, aṃsabaddhakaṃ bandhanasuttaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อนฺตรามเคฺค อุทกํ อกปฺปิยํ โหติฯ ปริสฺสาวนํ น โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, ปริสฺสาวน’’นฺติฯ โจฬกํ นปฺปโหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กฎจฺฉุปริสฺสาวน’’นฺติฯ โจฬกํ นปฺปโหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธมฺมกรณ’’นฺติ 45

    Tena kho pana samayena antarāmagge udakaṃ akappiyaṃ hoti. Parissāvanaṃ na hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi , bhikkhave, parissāvana’’nti. Coḷakaṃ nappahoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, kaṭacchuparissāvana’’nti. Coḷakaṃ nappahoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, dhammakaraṇa’’nti 46.

    ๒๕๙. เตน โข ปน สมเยน เทฺว ภิกฺขู โกสเลสุ ชนปเท อทฺธานมคฺคปฺปฎิปนฺนา โหนฺติฯ เอโก ภิกฺขุ อนาจารํ อาจรติฯ ทุติโย ภิกฺขุ ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘มา, อาวุโส, เอวรูปํ อกาสิฯ เนตํ กปฺปตี’’ติฯ โส ตสฺมิํ อุปนนฺธิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ปิปาสาย ปีฬิโต อุปนทฺธํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘เทหิ เม, อาวุโส, ปริสฺสาวนํ, ปานียํ ปิวิสฺสามี’’ติฯ อุปนโทฺธ ภิกฺขุ น อทาสิฯ โส ภิกฺขุ ปิปาสาย ปีฬิโต กาลมกาสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาโน น อทาสี’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาโน น ทสฺสตี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สจฺจํ กิร ตฺวํ, ภิกฺขุ, ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาโน น อทาสี’’ติ? ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา – ‘‘อนนุจฺฉวิกํ, โมฆปุริส, อนนุโลมิกํ อปฺปติรูปํ อสฺสามณกํ อกปฺปิยํ อกรณียํฯ กถญฺหิ นาม ตฺวํ, โมฆปุริส, ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาโน น ทสฺสสิฯ เนตํ, โมฆปุริส , อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น ภิกฺขเว, อทฺธานมคฺคปฺปฎิปเนฺนน ภิกฺขุนา ปริสฺสาวนํ ยาจิยมาเนน น ทาตพฺพํฯ โย น ทเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ น จ, ภิกฺขเว, อปริสฺสาวนเกน อทฺธาโน ปฎิปชฺชิตโพฺพฯ โย ปฎิปเชฺชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ สเจ น โหติ ปริสฺสาวนํ วา ธมฺมกรโณ วา, สงฺฆาฎิกโณฺณปิ อธิฎฺฐาตโพฺพ – อิมินา ปริสฺสาเวตฺวา ปิวิสฺสามี’’ติฯ อถ โข ภควา อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน เวสาลี ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํ ฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู นวกมฺมํ กโรนฺติฯ ปริสฺสาวนํ น สมฺมติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทณฺฑปริสฺสาวน’’นฺติฯ ทณฺฑปริสฺสาวนํ น สมฺมติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอตฺถรก’’นฺติฯ

    259. Tena kho pana samayena dve bhikkhū kosalesu janapade addhānamaggappaṭipannā honti. Eko bhikkhu anācāraṃ ācarati. Dutiyo bhikkhu taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘mā, āvuso, evarūpaṃ akāsi. Netaṃ kappatī’’ti. So tasmiṃ upanandhi. Atha kho so bhikkhu pipāsāya pīḷito upanaddhaṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘dehi me, āvuso, parissāvanaṃ, pānīyaṃ pivissāmī’’ti. Upanaddho bhikkhu na adāsi. So bhikkhu pipāsāya pīḷito kālamakāsi. Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, āvuso, parissāvanaṃ yāciyamāno na adāsī’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu parissāvanaṃ yāciyamāno na dassatī’’ti! Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā taṃ bhikkhuṃ paṭipucchi – ‘‘saccaṃ kira tvaṃ, bhikkhu, parissāvanaṃ yāciyamāno na adāsī’’ti? ‘‘Saccaṃ bhagavā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā – ‘‘ananucchavikaṃ, moghapurisa, ananulomikaṃ appatirūpaṃ assāmaṇakaṃ akappiyaṃ akaraṇīyaṃ. Kathañhi nāma tvaṃ, moghapurisa, parissāvanaṃ yāciyamāno na dassasi. Netaṃ, moghapurisa , appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na bhikkhave, addhānamaggappaṭipannena bhikkhunā parissāvanaṃ yāciyamānena na dātabbaṃ. Yo na dadeyya, āpatti dukkaṭassa. Na ca, bhikkhave, aparissāvanakena addhāno paṭipajjitabbo. Yo paṭipajjeyya, āpatti dukkaṭassa. Sace na hoti parissāvanaṃ vā dhammakaraṇo vā, saṅghāṭikaṇṇopi adhiṭṭhātabbo – iminā parissāvetvā pivissāmī’’ti. Atha kho bhagavā anupubbena cārikaṃ caramāno yena vesālī tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ . Tena kho pana samayena bhikkhū navakammaṃ karonti. Parissāvanaṃ na sammati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, daṇḍaparissāvana’’nti. Daṇḍaparissāvanaṃ na sammati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ottharaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู มกเสหิ อุพฺพาฬฺหา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกสกุฎิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū makasehi ubbāḷhā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, makasakuṭika’’nti.

    ๒๖๐. เตน โข ปน สมเยน เวสาลิยํ ปณีตานํ ภตฺตานํ ภตฺตปฎิปาฎิ อฎฺฐิตา โหติฯ ภิกฺขู ปณีตานิ โภชนานิ ภุญฺชิตฺวา อภิสนฺนกายา โหนฺติ พหฺวาพาธา 47ฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ เวสาลิํ อคมาสิ เกนจิเทว กรณีเยนฯ อทฺทสา โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ภิกฺขู อภิสนฺนกาเย พหฺวาพาเธฯ ทิสฺวาน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตรหิ, ภเนฺต, ภิกฺขู อภิสนฺนกายา พหฺวาพาธาฯ สาธุ, ภเนฺต, ภควา ภิกฺขูนํ จงฺกมญฺจ ชนฺตาฆรญฺจ อนุชานาตุฯ เอวํ ภิกฺขู อปฺปาพาธา ภวิสฺสนฺตี’’ติฯ อถ โข ภควา ชีวกํ โกมารภจฺจํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข ชีวโก โกมารภโจฺจ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุเตฺตชิโต สมฺปหํสิโต อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จงฺกมญฺจ ชนฺตาฆรญฺจา’’ติฯ

    260. Tena kho pana samayena vesāliyaṃ paṇītānaṃ bhattānaṃ bhattapaṭipāṭi aṭṭhitā hoti. Bhikkhū paṇītāni bhojanāni bhuñjitvā abhisannakāyā honti bahvābādhā 48. Atha kho jīvako komārabhacco vesāliṃ agamāsi kenacideva karaṇīyena. Addasā kho jīvako komārabhacco bhikkhū abhisannakāye bahvābādhe. Disvāna yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho jīvako komārabhacco bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘etarahi, bhante, bhikkhū abhisannakāyā bahvābādhā. Sādhu, bhante, bhagavā bhikkhūnaṃ caṅkamañca jantāgharañca anujānātu. Evaṃ bhikkhū appābādhā bhavissantī’’ti. Atha kho bhagavā jīvakaṃ komārabhaccaṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho jīvako komārabhacco bhagavatā dhammiyā kathāya sandassito samādapito samuttejito sampahaṃsito uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, caṅkamañca jantāgharañcā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู วิสเม จงฺกเม จงฺกมนฺติฯ ปาทา ทุกฺขา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมํ กาตุ’’นฺติฯ จงฺกโม นีจวตฺถุโก โหติฯ อุทเกน โอตฺถริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจวตฺถุกํ กาตุ’’นฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโย โสปาเน – อิฎฺฐกาโสปานํ, สิลาโสปานํ, ทารุโสปาน’’นฺติฯ อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū visame caṅkame caṅkamanti. Pādā dukkhā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, samaṃ kātu’’nti. Caṅkamo nīcavatthuko hoti. Udakena otthariyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, uccavatthukaṃ kātu’’nti. Cayo paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Ārohantā vihaññanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tayo sopāne – iṭṭhakāsopānaṃ, silāsopānaṃ, dārusopāna’’nti. Ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู จงฺกเม จงฺกมนฺตา ปริปตนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จงฺกมนเวทิก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū caṅkame caṅkamantā paripatanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, caṅkamanavedika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อโชฺฌกาเส จงฺกมนฺตา สีเตนปิ อุเณฺหนปิ กิลมนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จงฺกมนสาล’’นฺติฯ จงฺกมนสาลายํ ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ – เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฎิกํ จีวรวํสํ จีวรรชฺชุ’’นฺติฯ ชนฺตาฆรํ นีจวตฺถุกํ โหติ, อุทเกน โอตฺถริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจวตฺถุกํ กาตุ’’นฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโย โสปาเน – อิฎฺฐกาโสปานํ, สิลาโสปานํ, ทารุโสปาน’’นฺติฯ อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติ ฯ ชนฺตาฆรสฺส กวาฎํ น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กวาฎํ ปิฎฺฐสงฺฆาฎํ 49 อุทุกฺขลิกํ อุตฺตรปาสกํ อคฺคฬวฎฺฎิกํ กปิสีสกํ สูจิกํ ฆฎิกํ ตาฬจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนฉิทฺทํ อาวิญฺฉนรชฺชุ’’นฺติ ฯ ชนฺตาฆรสฺส กุฎฺฎปาโท ชีรติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มณฺฑลิกํ กาตุ’’นฺติฯ ชนฺตาฆรสฺส ธูมเนตฺตํ น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธูมเนตฺต’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū ajjhokāse caṅkamantā sītenapi uṇhenapi kilamanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, caṅkamanasāla’’nti. Caṅkamanasālāyaṃ tiṇacuṇṇaṃ paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātuṃ – setavaṇṇaṃ kāḷavaṇṇaṃ gerukaparikammaṃ mālākammaṃ latākammaṃ makaradantakaṃ pañcapaṭikaṃ cīvaravaṃsaṃ cīvararajju’’nti. Jantāgharaṃ nīcavatthukaṃ hoti, udakena otthariyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, uccavatthukaṃ kātu’’nti. Cayo paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Ārohantā vihaññanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tayo sopāne – iṭṭhakāsopānaṃ, silāsopānaṃ, dārusopāna’’nti. Ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti . Jantāgharassa kavāṭaṃ na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, kavāṭaṃ piṭṭhasaṅghāṭaṃ 50 udukkhalikaṃ uttarapāsakaṃ aggaḷavaṭṭikaṃ kapisīsakaṃ sūcikaṃ ghaṭikaṃ tāḷacchiddaṃ āviñchanachiddaṃ āviñchanarajju’’nti . Jantāgharassa kuṭṭapādo jīrati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, maṇḍalikaṃ kātu’’nti. Jantāgharassa dhūmanettaṃ na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, dhūmanetta’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ขุทฺทเก ชนฺตาฆเร มเชฺฌ อคฺคิฎฺฐานํ กโรนฺติฯ อุปจาโร น โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ขุทฺทเก ชนฺตาฆเร เอกมนฺตํ อคฺคิฎฺฐานํ กาตุํ, มหลฺลเก มเชฺฌ’’ติฯ ชนฺตาฆเร อคฺคิ มุขํ ฑหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุขมตฺติก’’นฺติฯ หเตฺถ มตฺติกํ เตเมนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มตฺติกาโทณิก’’นฺติฯ มตฺติกา ทุคฺคนฺธา โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วาเสตุ’’นฺติฯ ชนฺตาฆเร อคฺคิ กายํ ฑหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกํ อติหริตุ’’นฺติฯ ปาติยาปิ ปเตฺตนปิ อุทกํ อติหรนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกฎฺฐานํ, อุทกสราวก’’นฺติฯ ชนฺตาฆรํ ติณจฺฉทนํ น เสเทติ 51 …เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุ’’นฺติฯ ชนฺตาฆรํ จิกฺขลฺลํ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สนฺถริตุํ ตโย สนฺถเร – อิฎฺฐกาสนฺถรํ, สิลาสนฺถรํ , ทารุสนฺถร’’นฺติฯ จิกฺขลฺลํเยว โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โธวิตุ’’นฺติฯ อุทกํ สนฺติฎฺฐติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกนิทฺธมน’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū khuddake jantāghare majjhe aggiṭṭhānaṃ karonti. Upacāro na hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, khuddake jantāghare ekamantaṃ aggiṭṭhānaṃ kātuṃ, mahallake majjhe’’ti. Jantāghare aggi mukhaṃ ḍahati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, mukhamattika’’nti. Hatthe mattikaṃ tementi…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, mattikādoṇika’’nti. Mattikā duggandhā hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vāsetu’’nti. Jantāghare aggi kāyaṃ ḍahati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakaṃ atiharitu’’nti. Pātiyāpi pattenapi udakaṃ atiharanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakaṭṭhānaṃ, udakasarāvaka’’nti. Jantāgharaṃ tiṇacchadanaṃ na sedeti 52 …pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātu’’nti. Jantāgharaṃ cikkhallaṃ hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, santharituṃ tayo santhare – iṭṭhakāsantharaṃ, silāsantharaṃ , dārusanthara’’nti. Cikkhallaṃyeva hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, dhovitu’’nti. Udakaṃ santiṭṭhati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakaniddhamana’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ชนฺตาฆเร ฉมาย นิสีทนฺติ, คตฺตานิ กณฺฑูวนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชนฺตาฆรปีฐ’’นฺติฯ เตน โข ปน สมเยน ชนฺตาฆรํ อปริกฺขิตฺตํ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขิปิตุํ ตโย ปากาเร – อิฎฺฐกาปาการํ, สิลาปาการํ, ทารุปาการ’’นฺติฯ โกฎฺฐโก น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกฎฺฐก’’นฺติฯ โกฎฺฐโก นีจวตฺถุโก โหติ, อุทเกน โอตฺถริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจวตฺถุกํ กาตุ’’นฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโย โสปาเน – อิฎฺฐกาโสปานํ, สิลาโสปานํ, ทารุโสปาน’’นฺติฯ อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติฯ โกฎฺฐกสฺส กวาฎํ น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กวาฎํ ปิฎฺฐสงฺฆาฎํ อุทุกฺขลิกํ อุตฺตรปาสกํ อคฺคฬวฎฺฎิํ กปิสีสกํ สูจิกํ ฆฎิกํ ตาฬจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนฉิทฺทํ อาวิญฺฉนรชฺชุ’’นฺติฯ โกฎฺฐเก ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ – เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฎิกนฺติฯ ปริเวณํ จิกฺขลฺลํ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มรุมฺพํ อุปกิริตุ’’นฺติฯ น ปริยาปุณนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปทรสิลํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติฯ อุทกํ สนฺติฎฺฐติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกนิทฺธมน’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū jantāghare chamāya nisīdanti, gattāni kaṇḍūvanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, jantāgharapīṭha’’nti. Tena kho pana samayena jantāgharaṃ aparikkhittaṃ hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, parikkhipituṃ tayo pākāre – iṭṭhakāpākāraṃ, silāpākāraṃ, dārupākāra’’nti. Koṭṭhako na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, koṭṭhaka’’nti. Koṭṭhako nīcavatthuko hoti, udakena otthariyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, uccavatthukaṃ kātu’’nti. Cayo paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Ārohantā vihaññanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tayo sopāne – iṭṭhakāsopānaṃ, silāsopānaṃ, dārusopāna’’nti. Ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti. Koṭṭhakassa kavāṭaṃ na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, kavāṭaṃ piṭṭhasaṅghāṭaṃ udukkhalikaṃ uttarapāsakaṃ aggaḷavaṭṭiṃ kapisīsakaṃ sūcikaṃ ghaṭikaṃ tāḷacchiddaṃ āviñchanachiddaṃ āviñchanarajju’’nti. Koṭṭhake tiṇacuṇṇaṃ paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātuṃ – setavaṇṇaṃ kāḷavaṇṇaṃ gerukaparikammaṃ mālākammaṃ latākammaṃ makaradantakaṃ pañcapaṭikanti. Pariveṇaṃ cikkhallaṃ hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, marumbaṃ upakiritu’’nti. Na pariyāpuṇanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, padarasilaṃ nikkhipitu’’nti. Udakaṃ santiṭṭhati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakaniddhamana’’nti.

    ๒๖๑. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู นคฺคา นคฺคํ อภิวาเทนฺติ…เป.… นคฺคา นคฺคํ อภิวาทาเปนฺติ, นคฺคา นคฺคสฺส ปริกมฺมํ กโรนฺติ, นคฺคา นคฺคสฺส ปริกมฺมํ การาเปนฺติ, นคฺคา นคฺคสฺส เทนฺติ, นคฺคา ปฎิคฺคณฺหนฺติ, นคฺคา ขาทนฺติ, นคฺคา ภุญฺชนฺติ, นคฺคา สายนฺติ, นคฺคา ปิวนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, นเคฺคน 53 นโคฺค อภิวาเทตโพฺพ…เป.… น นเคฺคน อภิวาเทตพฺพํ… น นเคฺคน 54 นโคฺค อภิวาทาเปตโพฺพ… น นเคฺคน อภิวาทาเปตพฺพํ… น นเคฺคน นคฺคสฺส ปริกมฺมํ กาตพฺพํ… น นเคฺคน นคฺคสฺส ปริกมฺมํ การาเปตพฺพํ… น นเคฺคน นคฺคสฺส ทาตพฺพํ… น นเคฺคน ปฎิคฺคเหตพฺพํ… น นเคฺคน ขาทิตพฺพํ… น นเคฺคน ภุญฺชิตพฺพํ… น นเคฺคน สายิตพฺพํ… น นเคฺคน ปาตพฺพํฯ โย ปิเวยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    261. Tena kho pana samayena bhikkhū naggā naggaṃ abhivādenti…pe… naggā naggaṃ abhivādāpenti, naggā naggassa parikammaṃ karonti, naggā naggassa parikammaṃ kārāpenti, naggā naggassa denti, naggā paṭiggaṇhanti, naggā khādanti, naggā bhuñjanti, naggā sāyanti, naggā pivanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, naggena 55 naggo abhivādetabbo…pe… na naggena abhivādetabbaṃ… na naggena 56 naggo abhivādāpetabbo… na naggena abhivādāpetabbaṃ… na naggena naggassa parikammaṃ kātabbaṃ… na naggena naggassa parikammaṃ kārāpetabbaṃ… na naggena naggassa dātabbaṃ… na naggena paṭiggahetabbaṃ… na naggena khāditabbaṃ… na naggena bhuñjitabbaṃ… na naggena sāyitabbaṃ… na naggena pātabbaṃ. Yo piveyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ชนฺตาฆเร ฉมาย จีวรํ นิกฺขิปนฺติฯ จีวรํ ปํสุกิตํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จีวรวํสํ จีวรรชฺชุ’’นฺติฯ เทเว วสฺสเนฺต จีวรํ โอวสฺสติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว , ชนฺตาฆรสาล’’นฺติฯ ชนฺตาฆรสาลา นีจวตฺถุกา โหติ, อุทเกน โอตฺถริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจวตฺถุกํ กาตุ’’นฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ…เป.… อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติฯ ชนฺตาฆรสาลาย ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ…เป.… จีวรวํสํ จีวรรชฺชุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū jantāghare chamāya cīvaraṃ nikkhipanti. Cīvaraṃ paṃsukitaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, cīvaravaṃsaṃ cīvararajju’’nti. Deve vassante cīvaraṃ ovassati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave , jantāgharasāla’’nti. Jantāgharasālā nīcavatthukā hoti, udakena otthariyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, uccavatthukaṃ kātu’’nti. Cayo paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ…pe… ārohantā vihaññanti…pe… ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti. Jantāgharasālāya tiṇacuṇṇaṃ paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātuṃ…pe… cīvaravaṃsaṃ cīvararajju’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ชนฺตาฆเรปิ อุทเกปิ ปริกมฺมํ กาตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติโสฺส ปฎิจฺฉาทิโย – ชนฺตาฆรปฎิจฺฉาทิํ, อุทกปฎิจฺฉาทิํ, วตฺถปฎิจฺฉาทิ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū jantāgharepi udakepi parikammaṃ kātuṃ kukkuccāyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, tisso paṭicchādiyo – jantāgharapaṭicchādiṃ, udakapaṭicchādiṃ, vatthapaṭicchādi’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ชนฺตาฆเร อุทกํ น โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, อุทปาน’’นฺติฯ อุทปานสฺส กูลํ ลุชฺชติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ อุทปาโน นีจวตฺถุโก โหติ, อุทเกน โอตฺถริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจวตฺถุกํ กาตุ’’นฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena jantāghare udakaṃ na hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi , bhikkhave, udapāna’’nti. Udapānassa kūlaṃ lujjati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Udapāno nīcavatthuko hoti, udakena otthariyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, uccavatthukaṃ kātu’’nti. Cayo paripatati…pe… ārohantā vihaññanti…pe… ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti.

    ๒๖๒. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู วลฺลิกายปิ กายพนฺธเนนปิ อุทกํ วาเหนฺติ 57ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกวาหนรชฺชุ’’นฺติฯ หตฺถา ทุกฺขา โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตุลํ กรกฎกํ จกฺกวฎฺฎก’’นฺติฯ ภาชนา พหู ภิชฺชนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโย วารเก – โลหวารกํ, ทารุวารกํ, จมฺมกฺขณฺฑ’’นฺติฯ

    262. Tena kho pana samayena bhikkhū vallikāyapi kāyabandhanenapi udakaṃ vāhenti 58. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, udakavāhanarajju’’nti. Hatthā dukkhā honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tulaṃ karakaṭakaṃ cakkavaṭṭaka’’nti. Bhājanā bahū bhijjanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tayo vārake – lohavārakaṃ, dāruvārakaṃ, cammakkhaṇḍa’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อโชฺฌกาเส อุทกํ วาเหนฺตา สีเตนปิ อุเณฺหนปิ กิลมนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทปานสาล’’นฺติฯ อุทปานสาลาย ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ – เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฎิกํ จีวรวํสํ จีวรรชฺชุ’’นฺติฯ อุทปาโน อปารุโต โหติ, ติณจุเณฺณหิปิ ปํสุเกหิปิ โอกิริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธาน’’นฺติฯ อุทกภาชนํ น สํวิชฺชติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกโทณิํ อุทกกฎาห’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū ajjhokāse udakaṃ vāhentā sītenapi uṇhenapi kilamanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, udapānasāla’’nti. Udapānasālāya tiṇacuṇṇaṃ paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātuṃ – setavaṇṇaṃ kāḷavaṇṇaṃ gerukaparikammaṃ mālākammaṃ latākammaṃ makaradantakaṃ pañcapaṭikaṃ cīvaravaṃsaṃ cīvararajju’’nti. Udapāno apāruto hoti, tiṇacuṇṇehipi paṃsukehipi okiriyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, apidhāna’’nti. Udakabhājanaṃ na saṃvijjati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakadoṇiṃ udakakaṭāha’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อาราเม ตหํ ตหํ นหายนฺติฯ อาราโม จิกฺขโลฺล โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จนฺทนิก’’นฺติฯ จนฺทนิกา ปากฎา โหติฯ ภิกฺขู หิริยนฺติ นหายิตุํ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขิปิตุํ ตโย ปากาเร – อิฎฺฐกาปาการํ, สิลาปาการํ, ทารุปาการ’’นฺติฯ จนฺทนิกา จิกฺขลฺลา โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สนฺถริตุํ ตโย สนฺถเร – อิฎฺฐกาสนฺถรํ, สิลาสนฺถรํ, ทารุสนฺถร’’นฺติฯ อุทกํ สนฺติฎฺฐติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกนิทฺธมน’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū ārāme tahaṃ tahaṃ nahāyanti. Ārāmo cikkhallo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, candanika’’nti. Candanikā pākaṭā hoti. Bhikkhū hiriyanti nahāyituṃ…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, parikkhipituṃ tayo pākāre – iṭṭhakāpākāraṃ, silāpākāraṃ, dārupākāra’’nti. Candanikā cikkhallā hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, santharituṃ tayo santhare – iṭṭhakāsantharaṃ, silāsantharaṃ, dārusanthara’’nti. Udakaṃ santiṭṭhati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakaniddhamana’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ คตฺตานิ สีติคตานิ โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกปุญฺฉนิํ โจฬเกนปิ ปจฺจุทฺธริตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhūnaṃ gattāni sītigatāni honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakapuñchaniṃ coḷakenapi paccuddharitu’’nti.

    ๒๖๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร อุปาสโก สงฺฆสฺส อตฺถาย โปกฺขรณิํ กาเรตุกาโม โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โปกฺขรณิ’’นฺติฯ โปกฺขรณิยา กูลํ ลุชฺชติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโย โสปาเน – อิฎฺฐกาโสปานํ, สิลาโสปานํ, ทารุโสปาน’’นฺติฯ อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติฯ โปกฺขรณิยา อุทกํ ปุราณํ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกมาติกํ อุทกนิทฺธมน’’นฺติฯ

    263. Tena kho pana samayena aññataro upāsako saṅghassa atthāya pokkharaṇiṃ kāretukāmo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, pokkharaṇi’’nti. Pokkharaṇiyā kūlaṃ lujjati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Ārohantā vihaññanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tayo sopāne – iṭṭhakāsopānaṃ, silāsopānaṃ, dārusopāna’’nti. Ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti. Pokkharaṇiyā udakaṃ purāṇaṃ hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakamātikaṃ udakaniddhamana’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สงฺฆสฺส อตฺถาย นิเลฺลขํ ชนฺตาฆรํ กตฺตุกาโม โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นิเลฺลขํ ชนฺตาฆร’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu saṅghassa atthāya nillekhaṃ jantāgharaṃ kattukāmo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, nillekhaṃ jantāghara’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู จาตุมาสํ นิสีทเนน วิปฺปวสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘น, ภิกฺขเว, จาตุมาสํ นิสีทเนน วิปฺปวสิตพฺพํฯ โย วิปฺปวเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū cātumāsaṃ nisīdanena vippavasanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘na, bhikkhave, cātumāsaṃ nisīdanena vippavasitabbaṃ. Yo vippavaseyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๖๔. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ปุปฺผาภิกิเณฺณสุ สยเนสุ สยนฺติฯ มนุสฺสา วิหารจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ปสฺสิตฺวา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปุปฺผาภิกิเณฺณสุ สยเนสุ สยิตพฺพํฯ โย สเยยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ ฯ

    264. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū pupphābhikiṇṇesu sayanesu sayanti. Manussā vihāracārikaṃ āhiṇḍantā passitvā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, pupphābhikiṇṇesu sayanesu sayitabbaṃ. Yo sayeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti .

    เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา คนฺธมฺปิ มาลมฺปิ อาทาย อารามํ อาคจฺฉนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น ปฎิคฺคณฺหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คนฺธํ คเหตฺวา กวาเฎ ปญฺจงฺคุลิกํ ทาตุํ, ปุปฺผํ คเหตฺวา วิหาเร เอกมนฺตํ นิกฺขิปิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena manussā gandhampi mālampi ādāya ārāmaṃ āgacchanti. Bhikkhū kukkuccāyantā na paṭiggaṇhanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gandhaṃ gahetvā kavāṭe pañcaṅgulikaṃ dātuṃ, pupphaṃ gahetvā vihāre ekamantaṃ nikkhipitu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส นมตกํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นมตก’’นฺติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘นมตกํ อธิฎฺฐาตพฺพํ นุ โข อุทาหุ วิกเปฺปตพฺพ’’นฺติ…เป.… ‘‘น, ภิกฺขเว, นมตกํ อธิฎฺฐาตพฺพํ, น วิกเปฺปตพฺพ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena saṅghassa namatakaṃ uppannaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, namataka’’nti. Atha kho bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘namatakaṃ adhiṭṭhātabbaṃ nu kho udāhu vikappetabba’’nti…pe… ‘‘na, bhikkhave, namatakaṃ adhiṭṭhātabbaṃ, na vikappetabba’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อาสิตฺตกูปธาเน ภุญฺชนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘น, ภิกฺขเว, อาสิตฺตกูปธาเน ภุญฺชิตพฺพํฯ โย ภุเญฺชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติ ฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū āsittakūpadhāne bhuñjanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘na, bhikkhave, āsittakūpadhāne bhuñjitabbaṃ. Yo bhuñjeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti .

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติฯ โส ภุญฺชมาโน น สโกฺกติ หเตฺถน ปตฺตํ สนฺธาเรตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มโฬริก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gilāno hoti. So bhuñjamāno na sakkoti hatthena pattaṃ sandhāretuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, maḷorika’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เอกภาชเนปิ ภุญฺชนฺติ…เป.… เอกถาลเกปิ ปิวนฺติ, เอกมเญฺจปิ ตุวเฎฺฎนฺติ, เอกตฺถรณาปิ ตุวเฎฺฎนฺติ, เอกปาวุรณาปิ ตุวเฎฺฎนฺติ, เอกตฺถรณปาวุรณาปิ ตุวเฎฺฎนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, เอกภาชเน ภุญฺชิตพฺพํ…เป.… น เอกถาลเก ปาตพฺพํ… น เอกมเญฺจ ตุวฎฺฎิตพฺพํ… น เอกตฺถรณา 59 ตุวฎฺฎิตพฺพํ… น เอกปาวุรณา 60 ตุวฎฺฎิตพฺพํ… น เอกตฺถรณปาวุรณา 61 ตุวฎฺฎิตพฺพํฯ โย ตุวเฎฺฎยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū ekabhājanepi bhuñjanti…pe… ekathālakepi pivanti, ekamañcepi tuvaṭṭenti, ekattharaṇāpi tuvaṭṭenti, ekapāvuraṇāpi tuvaṭṭenti, ekattharaṇapāvuraṇāpi tuvaṭṭenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, ekabhājane bhuñjitabbaṃ…pe… na ekathālake pātabbaṃ… na ekamañce tuvaṭṭitabbaṃ… na ekattharaṇā 62 tuvaṭṭitabbaṃ… na ekapāvuraṇā 63 tuvaṭṭitabbaṃ… na ekattharaṇapāvuraṇā 64 tuvaṭṭitabbaṃ. Yo tuvaṭṭeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๖๕. เตน โข ปน สมเยน วโฑฺฒ ลิจฺฉวี เมตฺติยภูมชกานํ ภิกฺขูนํ สหาโย โหติฯ อถ โข วโฑฺฒ ลิจฺฉวี เยน เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘วนฺทามิ อยฺยา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู นาลปิํสุฯ ทุติยมฺปิ โข วโฑฺฒ ลิจฺฉวี เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘วนฺทามิ อยฺยา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู นาลปิํสุฯ ตติยมฺปิ โข วโฑฺฒ ลิจฺฉวี เมตฺติยภูมชเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘วนฺทามิ อยฺยา’’ติฯ ตติยมฺปิ โข เมตฺติยภูมชกา ภิกฺขู นาลปิํสุฯ ‘‘กฺยาหํ อยฺยานํ อปรชฺฌามิ, กิสฺส มํ อยฺยา นาลปนฺตี’’ติ? ‘‘ตถา หิ ปน ตฺวํ, อาวุโส วฑฺฒ, อเมฺห ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน วิเหฐิยมาเน อชฺฌุเปกฺขสี’’ติฯ ‘‘กฺยาหํ อยฺยา กโรมี’’ติ? ‘‘สเจ โข ตฺวํ, อาวุโส วฑฺฒ, อิเจฺฉยฺยาสิ, อเชฺชว ภควา อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ นาสาเปยฺยา’’ติฯ ‘‘กฺยาหํ อยฺยา กโรมิ, กิํ มยา สกฺกา กาตุ’’นฺติ? ‘‘เอหิ ตฺวํ, อาวุโส วฑฺฒ, เยน ภควา เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอวํ วเทหิ – ‘อิทํ, ภเนฺต, นจฺฉนฺนํ นปฺปติรูปํฯ ยายํ, ภเนฺต, ทิสา อภยา อนีติกา อนุปทฺทวา สายํ ทิสา สภยา สอีติกา สอุปทฺทวา; ยโต นิวาตํ ตโต สวาตํ ; อุทกํ มเญฺญ อาทิตฺตํ; อเยฺยน เม ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน ปชาปติ ทูสิตา’’’ติฯ ‘‘เอวํ อยฺยา’’ติ โข วโฑฺฒ ลิจฺฉวี เมตฺติยภูมชกานํ ภิกฺขูนํ ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วโฑฺฒ ลิจฺฉวี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิทํ, ภเนฺต, นจฺฉนฺนํ นปฺปติรูปํฯ ยายํ, ภเนฺต, ทิสา อภยา อนีติกา อนุปทฺทวา สายํ ทิสา สภยา สอีติกา สอุปทฺทวา; ยโต นิวาตํ ตโต สวาตํ; อุทกํ มเญฺญ อาทิตฺตํ; อเยฺยน เม ทเพฺพน มลฺลปุเตฺตน ปชาปติ ทูสิตา’’ติฯ

    265. Tena kho pana samayena vaḍḍho licchavī mettiyabhūmajakānaṃ bhikkhūnaṃ sahāyo hoti. Atha kho vaḍḍho licchavī yena mettiyabhūmajakā bhikkhū tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā mettiyabhūmajake bhikkhū etadavoca – ‘‘vandāmi ayyā’’ti. Evaṃ vutte mettiyabhūmajakā bhikkhū nālapiṃsu. Dutiyampi kho vaḍḍho licchavī mettiyabhūmajake bhikkhū etadavoca – ‘‘vandāmi ayyā’’ti. Dutiyampi kho mettiyabhūmajakā bhikkhū nālapiṃsu. Tatiyampi kho vaḍḍho licchavī mettiyabhūmajake bhikkhū etadavoca – ‘‘vandāmi ayyā’’ti. Tatiyampi kho mettiyabhūmajakā bhikkhū nālapiṃsu. ‘‘Kyāhaṃ ayyānaṃ aparajjhāmi, kissa maṃ ayyā nālapantī’’ti? ‘‘Tathā hi pana tvaṃ, āvuso vaḍḍha, amhe dabbena mallaputtena viheṭhiyamāne ajjhupekkhasī’’ti. ‘‘Kyāhaṃ ayyā karomī’’ti? ‘‘Sace kho tvaṃ, āvuso vaḍḍha, iccheyyāsi, ajjeva bhagavā āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ nāsāpeyyā’’ti. ‘‘Kyāhaṃ ayyā karomi, kiṃ mayā sakkā kātu’’nti? ‘‘Ehi tvaṃ, āvuso vaḍḍha, yena bhagavā tenupasaṅkama, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ evaṃ vadehi – ‘idaṃ, bhante, nacchannaṃ nappatirūpaṃ. Yāyaṃ, bhante, disā abhayā anītikā anupaddavā sāyaṃ disā sabhayā saītikā saupaddavā; yato nivātaṃ tato savātaṃ ; udakaṃ maññe ādittaṃ; ayyena me dabbena mallaputtena pajāpati dūsitā’’’ti. ‘‘Evaṃ ayyā’’ti kho vaḍḍho licchavī mettiyabhūmajakānaṃ bhikkhūnaṃ paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho vaḍḍho licchavī bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idaṃ, bhante, nacchannaṃ nappatirūpaṃ. Yāyaṃ, bhante, disā abhayā anītikā anupaddavā sāyaṃ disā sabhayā saītikā saupaddavā; yato nivātaṃ tato savātaṃ; udakaṃ maññe ādittaṃ; ayyena me dabbena mallaputtena pajāpati dūsitā’’ti.

    อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ ปฎิปุจฺฉิ – ‘‘สรสิ ตฺวํ, ทพฺพ, เอวรูปํ กตฺตา ยถายํ วโฑฺฒ อาหา’’ติ? ‘‘ยถา มํ, ภเนฺต, ภควา ชานาตี’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา…เป.… ตติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สรสิ ตฺวํ, ทพฺพ, เอวรูปํ กตฺตา ยถายํ วโฑฺฒ อาหา’’ติ? ‘‘ยถา มํ, ภเนฺต, ภควา ชานาตี’’ติฯ ‘‘น โข, ทพฺพ, ทพฺพา เอวํ นิเพฺพเฐนฺติฯ สเจ ตยา กตํ, กตนฺติ วเทหิ; สเจ อกตํ, อกตนฺติ วเทหี’’ติฯ ‘‘ยโต อหํ, ภเนฺต, ชาโต นาภิชานามิ สุปินเนฺตนปิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวิตา, ปเคว ชาคโร’’ติฯ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สโงฺฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺชตุ, อสโมฺภคํ สเงฺฆน กโรตุฯ

    Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ paṭipucchi – ‘‘sarasi tvaṃ, dabba, evarūpaṃ kattā yathāyaṃ vaḍḍho āhā’’ti? ‘‘Yathā maṃ, bhante, bhagavā jānātī’’ti. Dutiyampi kho bhagavā…pe… tatiyampi kho bhagavā āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ etadavoca – ‘‘sarasi tvaṃ, dabba, evarūpaṃ kattā yathāyaṃ vaḍḍho āhā’’ti? ‘‘Yathā maṃ, bhante, bhagavā jānātī’’ti. ‘‘Na kho, dabba, dabbā evaṃ nibbeṭhenti. Sace tayā kataṃ, katanti vadehi; sace akataṃ, akatanti vadehī’’ti. ‘‘Yato ahaṃ, bhante, jāto nābhijānāmi supinantenapi methunaṃ dhammaṃ paṭisevitā, pageva jāgaro’’ti. Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, saṅgho vaḍḍhassa licchavissa pattaṃ nikkujjatu, asambhogaṃ saṅghena karotu.

    ‘‘อฎฺฐหิ, ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปโตฺต นิกฺกุชฺชิตโพฺพ – ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, ภิกฺขูนํ อวาสาย 65 ปริสกฺกติ, ภิกฺขู อโกฺกสติ ปริภาสติ, ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทติ, พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อิเมหิ อฎฺฐหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, นิกฺกุชฺชิตโพฺพฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    ‘‘Aṭṭhahi, bhikkhave, aṅgehi samannāgatassa upāsakassa patto nikkujjitabbo – bhikkhūnaṃ alābhāya parisakkati, bhikkhūnaṃ anatthāya parisakkati, bhikkhūnaṃ avāsāya 66 parisakkati, bhikkhū akkosati paribhāsati, bhikkhū bhikkhūhi bhedeti, buddhassa avaṇṇaṃ bhāsati, dhammassa avaṇṇaṃ bhāsati, saṅghassa avaṇṇaṃ bhāsati. Anujānāmi, bhikkhave, imehi aṭṭhahaṅgehi samannāgatassa upāsakassa pattaṃ nikkujjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, nikkujjitabbo. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ๒๖๖. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ วโฑฺฒ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ นิกฺกุเชฺชยฺย, อสโมฺภคํ สเงฺฆน กเรยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    266. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Vaḍḍho licchavī āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ amūlikāya sīlavipattiyā anuddhaṃseti. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho vaḍḍhassa licchavissa pattaṃ nikkujjeyya, asambhogaṃ saṅghena kareyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ วโฑฺฒ ลิจฺฉวี อายสฺมนฺตํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสติฯ สโงฺฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ นิกฺกุชฺชติ, อสโมฺภคํ สเงฺฆน กโรติ ฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตสฺส นิกฺกุชฺชนา, อสโมฺภคํ สเงฺฆน กรณํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Vaḍḍho licchavī āyasmantaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ amūlikāya sīlavipattiyā anuddhaṃseti. Saṅgho vaḍḍhassa licchavissa pattaṃ nikkujjati, asambhogaṃ saṅghena karoti . Yassāyasmato khamati vaḍḍhassa licchavissa pattassa nikkujjanā, asambhogaṃ saṅghena karaṇaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘นิกฺกุชฺชิโต สเงฺฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปโตฺต, อสโมฺภโค สเงฺฆนฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Nikkujjito saṅghena vaḍḍhassa licchavissa patto, asambhogo saṅghena. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    อถ โข อายสฺมา อานโนฺท ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา วฑฺฒํ ลิจฺฉวิํ เอตทโวจ – ‘‘สเงฺฆน เต, อาวุโส วฑฺฒ, ปโตฺต นิกฺกุชฺชิโตฯ อสโมฺภโคสิ สเงฺฆนา’’ติฯ อถ โข วโฑฺฒ ลิจฺฉวี – สเงฺฆน กิร เม ปโตฺต นิกฺกุชฺชิโต, อสโมฺภโคมฺหิ กิร สเงฺฆนาติ – ตเตฺถว มุจฺฉิโต ปปโตฯ อถ โข วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส มิตฺตามจฺจา ญาติสาโลหิตา วฑฺฒํ ลิจฺฉวิํ เอตทโวจุํ – ‘‘อลํ, อาวุโส วฑฺฒ, มา โสจิ, มา ปริเทวิฯ มยํ ภควนฺตํ ปสาเทสฺสาม ภิกฺขุสงฺฆญฺจา’’ติฯ

    Atha kho āyasmā ānando pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena vaḍḍhassa licchavissa nivesanaṃ tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā vaḍḍhaṃ licchaviṃ etadavoca – ‘‘saṅghena te, āvuso vaḍḍha, patto nikkujjito. Asambhogosi saṅghenā’’ti. Atha kho vaḍḍho licchavī – saṅghena kira me patto nikkujjito, asambhogomhi kira saṅghenāti – tattheva mucchito papato. Atha kho vaḍḍhassa licchavissa mittāmaccā ñātisālohitā vaḍḍhaṃ licchaviṃ etadavocuṃ – ‘‘alaṃ, āvuso vaḍḍha, mā soci, mā paridevi. Mayaṃ bhagavantaṃ pasādessāma bhikkhusaṅghañcā’’ti.

    อถ โข วโฑฺฒ ลิจฺฉวี สปุตฺตทาโร สมิตฺตามโจฺจ สญาติสาโลหิโต อลฺลวโตฺถ อลฺลเกโส เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อจฺจโย มํ, ภเนฺต, อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, โยหํ อยฺยํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสสิํฯ ตสฺส เม, ภเนฺต, ภควา อจฺจยํ อจฺจยโต ปฎิคฺคณฺหาตุ อายติํ สํวรายา’’ติฯ ‘‘ตคฺฆ ตฺวํ, อาวุโส วฑฺฒ, อจฺจโย อจฺจคมา ยถาพาลํ ยถามูฬฺหํ ยถาอกุสลํ, ยํ ตฺวํ ทพฺพํ มลฺลปุตฺตํ อมูลิกาย สีลวิปตฺติยา อนุทฺธํเสสิฯ ยโต จ โข ตฺวํ, อาวุโส วฑฺฒ, อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกโรสิ, ตํ เต มยํ ปฎิคฺคณฺหามฯ วุฑฺฒิเหสา, อาวุโส วฑฺฒ, อริยสฺส วินเย โย อจฺจยํ อจฺจยโต ทิสฺวา ยถาธมฺมํ ปฎิกโรติ, อายติํ สํวรํ อาปชฺชตี’’ติฯ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, ภิกฺขเว, สโงฺฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺชตุ, สโมฺภคํ สเงฺฆน กโรตุฯ

    Atha kho vaḍḍho licchavī saputtadāro samittāmacco sañātisālohito allavattho allakeso yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavato pādesu sirasā nipatitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘accayo maṃ, bhante, accagamā yathābālaṃ yathāmūḷhaṃ yathāakusalaṃ, yohaṃ ayyaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ amūlikāya sīlavipattiyā anuddhaṃsesiṃ. Tassa me, bhante, bhagavā accayaṃ accayato paṭiggaṇhātu āyatiṃ saṃvarāyā’’ti. ‘‘Taggha tvaṃ, āvuso vaḍḍha, accayo accagamā yathābālaṃ yathāmūḷhaṃ yathāakusalaṃ, yaṃ tvaṃ dabbaṃ mallaputtaṃ amūlikāya sīlavipattiyā anuddhaṃsesi. Yato ca kho tvaṃ, āvuso vaḍḍha, accayaṃ accayato disvā yathādhammaṃ paṭikarosi, taṃ te mayaṃ paṭiggaṇhāma. Vuḍḍhihesā, āvuso vaḍḍha, ariyassa vinaye yo accayaṃ accayato disvā yathādhammaṃ paṭikaroti, āyatiṃ saṃvaraṃ āpajjatī’’ti. Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘tena hi, bhikkhave, saṅgho vaḍḍhassa licchavissa pattaṃ ukkujjatu, sambhogaṃ saṅghena karotu.

    ‘‘อฎฺฐหิ, ภิกฺขเว, อเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปโตฺต อุกฺกุชฺชิตโพฺพ – น ภิกฺขูนํ อลาภาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขูนํ อนตฺถาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขูนํ อวาสาย ปริสกฺกติ, น ภิกฺขู อโกฺกสติ ปริภาสติ, น ภิกฺขู ภิกฺขูหิ เภเทติ, น พุทฺธสฺส อวณฺณํ ภาสติ, น ธมฺมสฺส อวณฺณํ ภาสติ, น สงฺฆสฺส อวณฺณํ ภาสติฯ อนุชานามิ , ภิกฺขเว, อิเมหิ อฎฺฐหเงฺคหิ สมนฺนาคตสฺส อุปาสกสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺชิตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, อุกฺกุชฺชิตโพฺพฯ เตน, ภิกฺขเว, วเฑฺฒน ลิจฺฉวินา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘สเงฺฆน เม, ภเนฺต, ปโตฺต นิกฺกุชฺชิโต, อสโมฺภโคมฺหิ สเงฺฆนฯ โสหํ, ภเนฺต, สมฺมา วตฺตามิ, โลมํ ปาเตมิ, เนตฺถารํ วตฺตามิ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจามี’ติฯ ทุติยมฺปิ ยาจิตโพฺพฯ ตติยมฺปิ ยาจิตโพฺพฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    ‘‘Aṭṭhahi, bhikkhave, aṅgehi samannāgatassa upāsakassa patto ukkujjitabbo – na bhikkhūnaṃ alābhāya parisakkati, na bhikkhūnaṃ anatthāya parisakkati, na bhikkhūnaṃ avāsāya parisakkati, na bhikkhū akkosati paribhāsati, na bhikkhū bhikkhūhi bhedeti, na buddhassa avaṇṇaṃ bhāsati, na dhammassa avaṇṇaṃ bhāsati, na saṅghassa avaṇṇaṃ bhāsati. Anujānāmi , bhikkhave, imehi aṭṭhahaṅgehi samannāgatassa upāsakassa pattaṃ ukkujjituṃ. Evañca pana, bhikkhave, ukkujjitabbo. Tena, bhikkhave, vaḍḍhena licchavinā saṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘saṅghena me, bhante, patto nikkujjito, asambhogomhi saṅghena. Sohaṃ, bhante, sammā vattāmi, lomaṃ pātemi, netthāraṃ vattāmi, saṅghaṃ pattukkujjanaṃ yācāmī’ti. Dutiyampi yācitabbo. Tatiyampi yācitabbo. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ๒๖๗. ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ สเงฺฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปโตฺต นิกฺกุชฺชิโต, อสโมฺภโค สเงฺฆนฯ โส สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ, สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ อุกฺกุเชฺชยฺย, สโมฺภคํ สเงฺฆน กเรยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    267. ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Saṅghena vaḍḍhassa licchavissa patto nikkujjito, asambhogo saṅghena. So sammā vattati, lomaṃ pāteti, netthāraṃ vattati, saṅghaṃ pattukkujjanaṃ yācati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho vaḍḍhassa licchavissa pattaṃ ukkujjeyya, sambhogaṃ saṅghena kareyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ สเงฺฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปโตฺต นิกฺกุชฺชิโต, อสโมฺภโค สเงฺฆนฯ โส สมฺมา วตฺตติ, โลมํ ปาเตติ, เนตฺถารํ วตฺตติ , สงฺฆํ ปตฺตุกฺกุชฺชนํ ยาจติฯ สโงฺฆ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตํ อุกฺกุชฺชติ, สโมฺภคํ สเงฺฆน กโรติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปตฺตสฺส อุกฺกุชฺชนา, สโมฺภคํ สเงฺฆน กรณํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Saṅghena vaḍḍhassa licchavissa patto nikkujjito, asambhogo saṅghena. So sammā vattati, lomaṃ pāteti, netthāraṃ vattati , saṅghaṃ pattukkujjanaṃ yācati. Saṅgho vaḍḍhassa licchavissa pattaṃ ukkujjati, sambhogaṃ saṅghena karoti. Yassāyasmato khamati vaḍḍhassa licchavissa pattassa ukkujjanā, sambhogaṃ saṅghena karaṇaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘อุกฺกุชฺชิโต สเงฺฆน วฑฺฒสฺส ลิจฺฉวิสฺส ปโตฺต, สโมฺภโค สเงฺฆนฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Ukkujjito saṅghena vaḍḍhassa licchavissa patto, sambhogo saṅghena. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    ๒๖๘. อถ โข ภควา เวสาลิยํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน ภคฺคา เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน ภคฺคา ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา ภเคฺคสุ วิหรติ สุสุมารคิเร 67 เภสกฬาวเน มิคทาเยฯ เตน โข ปน สมเยน โพธิสฺส ราชกุมารสฺส โกกนโท 68 นาม ปาสาโท อจิรการิโต โหติ, อนชฺฌาวุโตฺถ สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เกนจิ วา มนุสฺสภูเตนฯ อถ โข โพธิ ราชกุมาโร สญฺชิกาปุตฺตํ มาณวํ อามเนฺตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม สญฺจิกาปุตฺต, เยน ภควา เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺท; อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฎฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉ – ‘โพธิ, ภเนฺต, ราชกุมาโร ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฎฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉตี’ติฯ เอวญฺจ วเทหิ – ‘อธิวาเสตุ กิร, ภเนฺต , ภควา โพธิสฺส ราชกุมารสฺส สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’’’ติฯ ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข สญฺจิกาปุโตฺต มาณโว โพธิสฺส ราชกุมารสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิ, สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข สญฺจิกาปุโตฺต มาณโว ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘โพธิ โข ราชกุมาโร โภโต โคตมสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฎฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติฯ เอวญฺจ วเทติ – ‘อธิวาเสตุ กิร ภวํ โคตโม โพธิสฺส ราชกุมารสฺส สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ อถ โข สญฺจิกาปุโตฺต มาณโว ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา เยน โพธิ ราชกุมาโร เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา โพธิํ ราชกุมารํ เอตทโวจ – ‘‘อโวจุมฺห โข มยํ โภโต วจเนน ตํ ภวนฺตํ โคตมํ – ‘โพธิ โข ราชกุมาโร โภโต โคตมสฺส ปาเท สิรสา วนฺทติ, อปฺปาพาธํ อปฺปาตงฺกํ ลหุฎฺฐานํ พลํ ผาสุวิหารํ ปุจฺฉติฯ เอวญฺจ วเทติ – อธิวาเสตุ กิร ภวํ โคตโม โพธิสฺส ราชกุมารสฺส สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’ติฯ อธิวุตฺถญฺจ ปน สมเณน โคตเมนา’’ติฯ

    268. Atha kho bhagavā vesāliyaṃ yathābhirantaṃ viharitvā yena bhaggā tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena bhaggā tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā bhaggesu viharati susumāragire 69 bhesakaḷāvane migadāye. Tena kho pana samayena bodhissa rājakumārassa kokanado 70 nāma pāsādo acirakārito hoti, anajjhāvuttho samaṇena vā brāhmaṇena vā kenaci vā manussabhūtena. Atha kho bodhi rājakumāro sañjikāputtaṃ māṇavaṃ āmantesi – ‘‘ehi tvaṃ, samma sañcikāputta, yena bhagavā tenupasaṅkama, upasaṅkamitvā mama vacanena bhagavato pāde sirasā vanda; appābādhaṃ appātaṅkaṃ lahuṭṭhānaṃ balaṃ phāsuvihāraṃ puccha – ‘bodhi, bhante, rājakumāro bhagavato pāde sirasā vandati, appābādhaṃ appātaṅkaṃ lahuṭṭhānaṃ balaṃ phāsuvihāraṃ pucchatī’ti. Evañca vadehi – ‘adhivāsetu kira, bhante , bhagavā bodhissa rājakumārassa svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’’’ti. ‘‘Evaṃ bho’’ti kho sañcikāputto māṇavo bodhissa rājakumārassa paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi, sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho sañcikāputto māṇavo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘bodhi kho rājakumāro bhoto gotamassa pāde sirasā vandati, appābādhaṃ appātaṅkaṃ lahuṭṭhānaṃ balaṃ phāsuvihāraṃ pucchati. Evañca vadeti – ‘adhivāsetu kira bhavaṃ gotamo bodhissa rājakumārassa svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena. Atha kho sañcikāputto māṇavo bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā yena bodhi rājakumāro tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bodhiṃ rājakumāraṃ etadavoca – ‘‘avocumha kho mayaṃ bhoto vacanena taṃ bhavantaṃ gotamaṃ – ‘bodhi kho rājakumāro bhoto gotamassa pāde sirasā vandati, appābādhaṃ appātaṅkaṃ lahuṭṭhānaṃ balaṃ phāsuvihāraṃ pucchati. Evañca vadeti – adhivāsetu kira bhavaṃ gotamo bodhissa rājakumārassa svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’ti. Adhivutthañca pana samaṇena gotamenā’’ti.

    อถ โข โพธิ ราชกุมาโร ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยาทาเปตฺวา, โกกนทญฺจ ปาสาทํ โอทาเตหิ ทุเสฺสหิ สนฺถราเปตฺวา ยาว ปจฺฉิมโสปานกเฬวรา, สญฺจิกาปุตฺตํ มาณวํ อามเนฺตสิ – ‘‘เอหิ ตฺวํ, สมฺม สญฺจิกาปุตฺต, เยน ภควา เตนุปสงฺกม, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจหิ – ‘กาโล, ภเนฺต นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’’นฺติฯ ‘‘เอวํ โภ’’ติ โข สญฺจิกาปุโตฺต มาณโว โพธิสฺส ราชกุมารสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต กาลํ อาโรเจสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม, นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ

    Atha kho bodhi rājakumāro tassā rattiyā accayena paṇītaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyādāpetvā, kokanadañca pāsādaṃ odātehi dussehi santharāpetvā yāva pacchimasopānakaḷevarā, sañcikāputtaṃ māṇavaṃ āmantesi – ‘‘ehi tvaṃ, samma sañcikāputta, yena bhagavā tenupasaṅkama, upasaṅkamitvā bhagavato kālaṃ ārocehi – ‘kālo, bhante niṭṭhitaṃ bhatta’’’nti. ‘‘Evaṃ bho’’ti kho sañcikāputto māṇavo bodhissa rājakumārassa paṭissutvā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavato kālaṃ ārocesi – ‘‘kālo, bho gotama, niṭṭhitaṃ bhatta’’nti.

    อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน โพธิสฺส ราชกุมารสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิฯ เตน โข ปน สมเยน โพธิ ราชกุมาโร พหิทฺวารโกฎฺฐเก ฐิโต โหติ, ภควนฺตํ อาคมยมาโนฯ อทฺทสา โข โพธิ ราชกุมาโร ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน ตโต ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปุเรกฺขตฺวา เยน โกกนโท ปาสาโท เตนุปสงฺกมิฯ อถ โข ภควา ปจฺฉิมโสปานกเฬวรํ นิสฺสาย อฎฺฐาสิฯ อถ โข โพธิ ราชกุมาโร ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อกฺกมตุ, ภเนฺต, ภควา ทุสฺสานิ, อกฺกมตุ สุคโต ทุสฺสานิ, ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต ภควา ตุณฺหี อโหสิฯ ทุติยมฺปิ โข…เป.… ตติยมฺปิ โข โพธิ ราชกุมาโร ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อกฺกมตุ, ภเนฺต, ภควา ทุสฺสานิ, อกฺกมตุ สุคโต ทุสฺสานิ, ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อปโลเกสิฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท โพธิํ ราชกุมารํ เอตทโวจ – ‘‘สํหรนฺตุ, ราชกุมาร, ทุสฺสานิฯ น ภควา เจลปฎิกํ 71 อกฺกมิสฺสติ ปจฺฉิมํ ชนตํ ตถาคโต อนุกมฺปตี’’ติฯ

    Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena bodhissa rājakumārassa nivesanaṃ tenupasaṅkami. Tena kho pana samayena bodhi rājakumāro bahidvārakoṭṭhake ṭhito hoti, bhagavantaṃ āgamayamāno. Addasā kho bodhi rājakumāro bhagavantaṃ dūratova āgacchantaṃ. Disvāna tato paccuggantvā bhagavantaṃ abhivādetvā purekkhatvā yena kokanado pāsādo tenupasaṅkami. Atha kho bhagavā pacchimasopānakaḷevaraṃ nissāya aṭṭhāsi. Atha kho bodhi rājakumāro bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘akkamatu, bhante, bhagavā dussāni, akkamatu sugato dussāni, yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. Evaṃ vutte bhagavā tuṇhī ahosi. Dutiyampi kho…pe… tatiyampi kho bodhi rājakumāro bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘akkamatu, bhante, bhagavā dussāni, akkamatu sugato dussāni, yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. Atha kho bhagavā āyasmantaṃ ānandaṃ apalokesi. Atha kho āyasmā ānando bodhiṃ rājakumāraṃ etadavoca – ‘‘saṃharantu, rājakumāra, dussāni. Na bhagavā celapaṭikaṃ 72 akkamissati pacchimaṃ janataṃ tathāgato anukampatī’’ti.

    อถ โข โพธิ ราชกุมาโร ทุสฺสานิ สํหราเปตฺวา อุปริโกกนเท ปาสาเท อาสนํ ปญฺญเปสิฯ อถ โข ภควา โกกนทํ ปาสาทํ อภิรุหิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนฯ อถ โข โพธิ ราชกุมาโร พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปตฺวา สมฺปวาเรตฺวา, ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ, เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข โพธิํ ราชกุมารํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, เจลปฎิกา อกฺกมิตพฺพาฯ โย อกฺกเมยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Atha kho bodhi rājakumāro dussāni saṃharāpetvā uparikokanade pāsāde āsanaṃ paññapesi. Atha kho bhagavā kokanadaṃ pāsādaṃ abhiruhitvā paññatte āsane nisīdi saddhiṃ bhikkhusaṅghena. Atha kho bodhi rājakumāro buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappetvā sampavāretvā, bhagavantaṃ bhuttāviṃ onītapattapāṇiṃ, ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho bodhiṃ rājakumāraṃ bhagavā dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, celapaṭikā akkamitabbā. Yo akkameyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรา อิตฺถี อปคตคพฺภา ภิกฺขู นิมเนฺตตฺวา ทุสฺสํ ปญฺญเปตฺวา เอตทโวจ – ‘‘อกฺกมถ, ภเนฺต , ทุสฺส’’นฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น อกฺกมนฺติฯ ‘‘อกฺกมถ, ภเนฺต, ทุสฺสํ มงฺคลตฺถายา’’ติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา น อกฺกมิํสุฯ อถ โข สา อิตฺถี อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม อยฺยา มงฺคลตฺถาย ยาจิยมานา เจลปฺปฎิกํ น อกฺกมิสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺสา อิตฺถิยา อุชฺฌายนฺติยา ขิยฺยนฺติยา วิปาเจนฺติยาฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘คิหี, ภิกฺขเว, มงฺคลิกาฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิหีนํ มงฺคลตฺถาย ยาจิยมาเนน เจลปฺปฎิกํ อกฺกมิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarā itthī apagatagabbhā bhikkhū nimantetvā dussaṃ paññapetvā etadavoca – ‘‘akkamatha, bhante , dussa’’nti. Bhikkhū kukkuccāyantā na akkamanti. ‘‘Akkamatha, bhante, dussaṃ maṅgalatthāyā’’ti. Bhikkhū kukkuccāyantā na akkamiṃsu. Atha kho sā itthī ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma ayyā maṅgalatthāya yāciyamānā celappaṭikaṃ na akkamissantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tassā itthiyā ujjhāyantiyā khiyyantiyā vipācentiyā. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Gihī, bhikkhave, maṅgalikā. Anujānāmi, bhikkhave, gihīnaṃ maṅgalatthāya yāciyamānena celappaṭikaṃ akkamitu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู โธตปาทกํ อกฺกมิตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โธตปาทกํ อกฺกมิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū dhotapādakaṃ akkamituṃ kukkuccāyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, dhotapādakaṃ akkamitu’’nti.

    ทุติยภาณวาโร นิฎฺฐิโตฯ

    Dutiyabhāṇavāro niṭṭhito.

    ๒๖๙. อถ โข ภควา ภเคฺคสุ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ฆฎกญฺจ กตกญฺจ สมฺมชฺชนิญฺจ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฎิคฺคณฺหาตุ เม, ภเนฺต, ภควา ฆฎกญฺจ กตกญฺจ สมฺมชฺชนิญฺจ, ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา ฆฎกญฺจ สมฺมชฺชนิญฺจฯ น ภควา กตกํ ปฎิคฺคเหสิฯ อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิตา สมาทปิตา สมุเตฺตชิตา สมฺปหํสิตา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ

    269. Atha kho bhagavā bhaggesu yathābhirantaṃ viharitvā yena sāvatthi tena cārikaṃ pakkāmi. Anupubbena cārikaṃ caramāno yena sāvatthi tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho visākhā migāramātā ghaṭakañca katakañca sammajjaniñca ādāya yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnā kho visākhā migāramātā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘paṭiggaṇhātu me, bhante, bhagavā ghaṭakañca katakañca sammajjaniñca, yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā ghaṭakañca sammajjaniñca. Na bhagavā katakaṃ paṭiggahesi. Atha kho bhagavā visākhaṃ migāramātaraṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho visākhā migāramātā bhagavatā dhammiyā kathāya sandassitā samādapitā samuttejitā sampahaṃsitā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi.

    อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฆฎกญฺจ สมฺมชฺชนิญฺจฯ น, ภิกฺขเว, กตกํ ปริภุญฺชิตพฺพํฯ โย ปริภุเญฺชยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติโสฺส ปาทฆํสนิโย – สกฺขรํ, กถลํ, สมุทฺทเผณก’’นฺติฯ

    Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ghaṭakañca sammajjaniñca. Na, bhikkhave, katakaṃ paribhuñjitabbaṃ. Yo paribhuñjeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, tisso pādaghaṃsaniyo – sakkharaṃ, kathalaṃ, samuddapheṇaka’’nti.

    อถ โข วิสาขา มิคารมาตา วิธูปนญฺจ ตาลวณฺฎญฺจ 73 อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปฎิคฺคณฺหาตุ เม, ภเนฺต, ภควา วิธูปนญฺจ ตาลวณฺฎญฺจ, ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา วิธูปนญฺจ ตาลวณฺฎญฺจฯ

    Atha kho visākhā migāramātā vidhūpanañca tālavaṇṭañca 74 ādāya yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnā kho visākhā migāramātā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘paṭiggaṇhātu me, bhante, bhagavā vidhūpanañca tālavaṇṭañca, yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā vidhūpanañca tālavaṇṭañca.

    อถ โข ภควา วิสาขํ มิคารมาตรํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิ…เป.… ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิธูปนญฺจ ตาลวณฺฎญฺจา’’ติฯ

    Atha kho bhagavā visākhaṃ migāramātaraṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi…pe… padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vidhūpanañca tālavaṇṭañcā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส มกสพีชนี อุปฺปนฺนา โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มกสพีชนิ’’นฺติฯ จามริพีชนี อุปฺปนฺนา โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, จามริพีชนี ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติโสฺส พีชนิโย – วากมยํ, อุสีรมยํ, โมรปิญฺฉมย’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena saṅghassa makasabījanī uppannā hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, makasabījani’’nti. Cāmaribījanī uppannā hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, cāmaribījanī dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, tisso bījaniyo – vākamayaṃ, usīramayaṃ, morapiñchamaya’’nti.

    ๒๗๐. เตน โข ปน สมเยน สงฺฆสฺส ฉตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฉตฺต’’นฺติฯ

    270. Tena kho pana samayena saṅghassa chattaṃ uppannaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, chatta’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ฉตฺตปฺปคฺคหิตา 75 อาหิณฺฑนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร อุปาสโก สมฺพหุเลหิ อาชีวกสาวเกหิ สทฺธิํ อุยฺยานํ อคมาสิฯ อทฺทสาสุํ โข เต อาชีวกสาวกา ฉพฺพคฺคิเย ภิกฺขู ทูรโตว ฉตฺตปฺปคฺคหิเต อาคจฺฉเนฺตฯ ทิสฺวาน ตํ อุปาสกํ เอตทโวจุํ – ‘‘เอเต โข, อยฺยา 76, ตุมฺหากํ ภทนฺตา ฉตฺตปฺปคฺคหิตา อาคจฺฉนฺติ, เสยฺยถาปิ คณกมหามตฺตา’’ติฯ ‘‘นายฺยา เอเต ภิกฺขู, ปริพฺพาชกา’’ติฯ ‘ภิกฺขู น ภิกฺขู’ติ อพฺภุตํ อกํสุฯ อถ โข โส อุปาสโก อุปคเต สญฺชานิตฺวา อุชฺฌายติ ขิยฺยติ วิปาเจติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภทนฺตา ฉตฺตปฺปคฺคหิตา อาหิณฺฑิสฺสนฺตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู ตสฺส อุปาสกสฺส อุชฺฌายนฺตสฺส ขิยฺยนฺตสฺส วิปาเจนฺตสฺสฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘สจฺจํ กิร, ภิกฺขเว…เป.… ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ฉตฺตํ ธาเรตพฺพํฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū chattappaggahitā 77 āhiṇḍanti. Tena kho pana samayena aññataro upāsako sambahulehi ājīvakasāvakehi saddhiṃ uyyānaṃ agamāsi. Addasāsuṃ kho te ājīvakasāvakā chabbaggiye bhikkhū dūratova chattappaggahite āgacchante. Disvāna taṃ upāsakaṃ etadavocuṃ – ‘‘ete kho, ayyā 78, tumhākaṃ bhadantā chattappaggahitā āgacchanti, seyyathāpi gaṇakamahāmattā’’ti. ‘‘Nāyyā ete bhikkhū, paribbājakā’’ti. ‘Bhikkhū na bhikkhū’ti abbhutaṃ akaṃsu. Atha kho so upāsako upagate sañjānitvā ujjhāyati khiyyati vipāceti – ‘‘kathañhi nāma bhadantā chattappaggahitā āhiṇḍissantī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tassa upāsakassa ujjhāyantassa khiyyantassa vipācentassa. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Saccaṃ kira, bhikkhave…pe… ‘‘saccaṃ bhagavā’’ti…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, chattaṃ dhāretabbaṃ. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติฯ ตสฺส ภิกฺขุโน วินา ฉตฺตํ น ผาสุ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ฉตฺตํ ธาเรตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gilāno hoti. Tassa bhikkhuno vinā chattaṃ na phāsu hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gilānassa chattaṃ dhāretu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู – คิลานเสฺสว ภควตา ฉตฺตํ อนุญฺญาตํ โน อคิลานสฺสาติ – อาราเม อารามูปจาเร ฉตฺตํ ธาเรตุํ กุกฺกุจฺจายนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อคิลาเนนปิ อาราเม อารามูปจาเร ฉตฺตํ ธาเรตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū – gilānasseva bhagavatā chattaṃ anuññātaṃ no agilānassāti – ārāme ārāmūpacāre chattaṃ dhāretuṃ kukkuccāyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, agilānenapi ārāme ārāmūpacāre chattaṃ dhāretu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ สิกฺกาย ปตฺตํ อุฎฺฎิตฺวา ทเณฺฑ อาลคฺคิตฺวา วิกาเล อญฺญตเรน คามทฺวาเรน อติกฺกมติฯ มนุสฺสา – ‘เอสโยฺย โจโร คจฺฉติ, อสิสฺส วิโชฺชตลตี’ติ อนุปติตฺวา คเหตฺวา สญฺชานิตฺวา มุญฺจิํสุฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, ทณฺฑสิกฺกํ ธาเรสี’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ ทณฺฑสิกฺกํ ธาเรสฺสสี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘สจฺจํ ภควา’’ติ…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, ทณฺฑสิกฺกา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu sikkāya pattaṃ uṭṭitvā daṇḍe ālaggitvā vikāle aññatarena gāmadvārena atikkamati. Manussā – ‘esayyo coro gacchati, asissa vijjotalatī’ti anupatitvā gahetvā sañjānitvā muñciṃsu. Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, āvuso, daṇḍasikkaṃ dhāresī’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu daṇḍasikkaṃ dhāressasī’’ti! Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘saccaṃ bhagavā’’ti…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, daṇḍasikkā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติ, น สโกฺกติ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสมฺมุติํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺพาฯ เตน คิลาเนน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภเนฺต, คิลาโน; น สโกฺกมิ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํฯ โสหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ ทณฺฑสมฺมุติํ ยาจามี’ติฯ ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ ตติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gilāno hoti, na sakkoti vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gilānassa bhikkhuno daṇḍasammutiṃ dātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, dātabbā. Tena gilānena bhikkhunā saṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā vuḍḍhānaṃ bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘ahaṃ, bhante, gilāno; na sakkomi vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ. Sohaṃ, bhante, saṅghaṃ daṇḍasammutiṃ yācāmī’ti. Dutiyampi yācitabbā. Tatiyampi yācitabbā. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโน, น สโกฺกติ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํฯ โส สงฺฆํ ทณฺฑสมฺมุติํ ยาจติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสมฺมุติํ ทเทยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno, na sakkoti vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ. So saṅghaṃ daṇḍasammutiṃ yācati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasammutiṃ dadeyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโน, น สโกฺกติ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํฯ โส สงฺฆํ ทณฺฑสมฺมุติํ ยาจติฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสมฺมุติํ เทติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสมฺมุติยา ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno, na sakkoti vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ. So saṅghaṃ daṇḍasammutiṃ yācati. Saṅgho itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasammutiṃ deti. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasammutiyā dānaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘ทินฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสมฺมุติฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Dinnā saṅghena itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasammuti. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    ๒๗๑. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติ, น สโกฺกติ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ภิกฺขุโน สิกฺกาสมฺมุติํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺพาฯ เตน คิลาเนน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภเนฺต, คิลาโน; น สโกฺกมิ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ โสหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ สิกฺกาสมฺมุติํ ยาจามี’ติฯ ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ ตติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    271. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gilāno hoti, na sakkoti vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gilānassa bhikkhuno sikkāsammutiṃ dātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, dātabbā. Tena gilānena bhikkhunā saṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā vuḍḍhānaṃ bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘ahaṃ, bhante, gilāno; na sakkomi vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. Sohaṃ, bhante, saṅghaṃ sikkāsammutiṃ yācāmī’ti. Dutiyampi yācitabbā. Tatiyampi yācitabbā. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโน, น สโกฺกติ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ โส สงฺฆํ สิกฺกาสมฺมุติํ ยาจติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สิกฺกาสมฺมุติํ ทเทยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno, na sakkoti vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. So saṅghaṃ sikkāsammutiṃ yācati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmassa bhikkhuno sikkāsammutiṃ dadeyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโน, น สโกฺกติ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ โส สงฺฆํ สิกฺกาสมฺมุติํ ยาจติฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สิกฺกาสมฺมุติํ เทติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สิกฺกาสมฺมุติยา ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno, na sakkoti vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. So saṅghaṃ sikkāsammutiṃ yācati. Saṅgho itthannāmassa bhikkhuno sikkāsammutiṃ deti. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno sikkāsammutiyā dānaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘ทินฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน สิกฺกาสมฺมุติฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Dinnā saṅghena itthannāmassa bhikkhuno sikkāsammuti. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    ๒๗๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติ, น สโกฺกติ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํ, น สโกฺกติ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิลานสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติํ ทาตุํฯ เอวญฺจ ปน, ภิกฺขเว, ทาตพฺพา ฯ เตน คิลาเนน ภิกฺขุนา สงฺฆํ อุปสงฺกมิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ปาเท วนฺทิตฺวา อุกฺกุฎิกํ นิสีทิตฺวา อญฺชลิํ ปคฺคเหตฺวา เอวมสฺส วจนีโย – ‘อหํ, ภเนฺต, คิลาโน; น สโกฺกมิ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํ; น สโกฺกมิ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ โสหํ, ภเนฺต, สงฺฆํ ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติํ ยาจามี’ติฯ ทุติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ ตติยมฺปิ ยาจิตพฺพาฯ พฺยเตฺตน ภิกฺขุนา ปฎิพเลน สโงฺฆ ญาเปตโพฺพ –

    272. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gilāno hoti, na sakkoti vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ, na sakkoti vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gilānassa bhikkhuno daṇḍasikkāsammutiṃ dātuṃ. Evañca pana, bhikkhave, dātabbā . Tena gilānena bhikkhunā saṅghaṃ upasaṅkamitvā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā vuḍḍhānaṃ bhikkhūnaṃ pāde vanditvā ukkuṭikaṃ nisīditvā añjaliṃ paggahetvā evamassa vacanīyo – ‘ahaṃ, bhante, gilāno; na sakkomi vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ; na sakkomi vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. Sohaṃ, bhante, saṅghaṃ daṇḍasikkāsammutiṃ yācāmī’ti. Dutiyampi yācitabbā. Tatiyampi yācitabbā. Byattena bhikkhunā paṭibalena saṅgho ñāpetabbo –

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโน, น สโกฺกติ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํ, น สโกฺกติ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ โส สงฺฆํ ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติํ ยาจติฯ ยทิ สงฺฆสฺส ปตฺตกลฺลํ, สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติํ ทเทยฺยฯ เอสา ญตฺติฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno, na sakkoti vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ, na sakkoti vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. So saṅghaṃ daṇḍasikkāsammutiṃ yācati. Yadi saṅghassa pattakallaṃ, saṅgho itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasikkāsammutiṃ dadeyya. Esā ñatti.

    ‘‘สุณาตุ เม, ภเนฺต, สโงฺฆฯ อยํ อิตฺถนฺนาโม ภิกฺขุ คิลาโน น สโกฺกติ วินา ทเณฺฑน อาหิณฺฑิตุํ, น สโกฺกติ วินา สิกฺกาย ปตฺตํ ปริหริตุํฯ โส สงฺฆํ ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติํ ยาจติฯ สโงฺฆ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติํ เทติฯ ยสฺสายสฺมโต ขมติ อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติยา ทานํ, โส ตุณฺหสฺส; ยสฺส นกฺขมติ, โส ภาเสยฺยฯ

    ‘‘Suṇātu me, bhante, saṅgho. Ayaṃ itthannāmo bhikkhu gilāno na sakkoti vinā daṇḍena āhiṇḍituṃ, na sakkoti vinā sikkāya pattaṃ pariharituṃ. So saṅghaṃ daṇḍasikkāsammutiṃ yācati. Saṅgho itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasikkāsammutiṃ deti. Yassāyasmato khamati itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasikkāsammutiyā dānaṃ, so tuṇhassa; yassa nakkhamati, so bhāseyya.

    ‘‘ทินฺนา สเงฺฆน อิตฺถนฺนามสฺส ภิกฺขุโน ทณฺฑสิกฺกาสมฺมุติฯ ขมติ สงฺฆสฺส, ตสฺมา ตุณฺหี, เอวเมตํ ธารยามี’’ติฯ

    ‘‘Dinnā saṅghena itthannāmassa bhikkhuno daṇḍasikkāsammuti. Khamati saṅghassa, tasmā tuṇhī, evametaṃ dhārayāmī’’ti.

    ๒๗๓. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ โรมนฺถโก 79 โหติฯ โส โรมนฺถิตฺวา โรมนฺถิตฺวา อโชฺฌหรติฯ ภิกฺขู อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘วิกาลายํ 80 ภิกฺขุ โภชนํ ภุญฺชตี’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘เอโส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อจิรํโคโยนิยา จุโตฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โรมนฺถกสฺส โรมนฺถนํฯ น จ, ภิกฺขเว, พหิมุขทฺวารํ นีหริตฺวา อโชฺฌหริตพฺพํฯ โย อโชฺฌหเรยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติฯ

    273. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu romanthako 81 hoti. So romanthitvā romanthitvā ajjhoharati. Bhikkhū ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘vikālāyaṃ 82 bhikkhu bhojanaṃ bhuñjatī’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Eso, bhikkhave, bhikkhu aciraṃgoyoniyā cuto. Anujānāmi, bhikkhave, romanthakassa romanthanaṃ. Na ca, bhikkhave, bahimukhadvāraṃ nīharitvā ajjhoharitabbaṃ. Yo ajjhohareyya, yathādhammo kāretabbo’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ปูคสฺส สงฺฆภตฺตํ โหติฯ ภตฺตเคฺค พหุสิตฺถานิ ปกิริยิํสุ 83ฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา โอทเน ทิยฺยมาเน น สกฺกจฺจํ ปฎิคฺคเหสฺสนฺติ, เอกเมกํ สิตฺถํ กมฺมสเตน นิฎฺฐายตี’’ติ! อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ ทิยฺยมานํ ปตติ, ตํ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุํฯ ปริจฺจตฺตํ ตํ, ภิกฺขเว, ทายเกหี’’ติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa pūgassa saṅghabhattaṃ hoti. Bhattagge bahusitthāni pakiriyiṃsu 84. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā odane diyyamāne na sakkaccaṃ paṭiggahessanti, ekamekaṃ sitthaṃ kammasatena niṭṭhāyatī’’ti! Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, yaṃ diyyamānaṃ patati, taṃ sāmaṃ gahetvā paribhuñjituṃ. Pariccattaṃ taṃ, bhikkhave, dāyakehī’’ti.

    ๒๗๔. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทีเฆหิ นเขหิ ปิณฺฑาย จรติฯ อญฺญตรา อิตฺถี ปสฺสิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ, ภเนฺต, เมถุนํ ธมฺมํ ปฎิเสวา’’ติฯ ‘‘อลํ, ภคินิ, เนตํ กปฺปตี’’ติฯ ‘‘สเจ โข ตฺวํ, ภเนฺต, นปฺปฎิเสวิสฺสสิ, อิทานาหํ อตฺตโน นเขหิ คตฺตานิ วิลิขิตฺวา กุปฺปํ กริสฺสามิ – อยํ มํ ภิกฺขุ วิปฺปกโรตี’’ติฯ ‘‘ปชานาหิ ตฺวํ, ภคินี’’ติฯ อถ โข สา อิตฺถี อตฺตโน นเขหิ คตฺตานิ วิลิขิตฺวา กุปฺปํ อกาสิ – อยํ มํ ภิกฺขุ วิปฺปกโรตีติฯ มนุสฺสา อุปธาวิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ อคฺคเหสุํฯ อทฺทสาสุํ โข เต มนุสฺสา ตสฺสา อิตฺถิยา นเข ฉวิมฺปิ โลหิตมฺปิฯ ทิสฺวาน – อิมิสฺสาเยว อิตฺถิยา อิทํ กมฺมํ, อการโก ภิกฺขูติ – ตํ ภิกฺขุํ มุญฺจิํสุฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ‘‘กิํ ปน ตฺวํ, อาวุโส, ทีเฆ นเข ธาเรสี’’ติ? ‘‘เอวมาวุโส’’ติฯ เย เต ภิกฺขู อปฺปิจฺฉา…เป.… เต อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม ภิกฺขุ ทีเฆ นเข ธาเรสฺสสี’’ติ! อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆา นขา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    274. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu dīghehi nakhehi piṇḍāya carati. Aññatarā itthī passitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘ehi, bhante, methunaṃ dhammaṃ paṭisevā’’ti. ‘‘Alaṃ, bhagini, netaṃ kappatī’’ti. ‘‘Sace kho tvaṃ, bhante, nappaṭisevissasi, idānāhaṃ attano nakhehi gattāni vilikhitvā kuppaṃ karissāmi – ayaṃ maṃ bhikkhu vippakarotī’’ti. ‘‘Pajānāhi tvaṃ, bhaginī’’ti. Atha kho sā itthī attano nakhehi gattāni vilikhitvā kuppaṃ akāsi – ayaṃ maṃ bhikkhu vippakarotīti. Manussā upadhāvitvā taṃ bhikkhuṃ aggahesuṃ. Addasāsuṃ kho te manussā tassā itthiyā nakhe chavimpi lohitampi. Disvāna – imissāyeva itthiyā idaṃ kammaṃ, akārako bhikkhūti – taṃ bhikkhuṃ muñciṃsu. Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. ‘‘Kiṃ pana tvaṃ, āvuso, dīghe nakhe dhāresī’’ti? ‘‘Evamāvuso’’ti. Ye te bhikkhū appicchā…pe… te ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma bhikkhu dīghe nakhe dhāressasī’’ti! Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, dīghā nakhā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู นเขนปิ นขํ ฉินฺทนฺติ, มุเขนปิ นขํ ฉินฺทนฺติ, กุเฎฺฎปิ ฆํสนฺติฯ องฺคุลิโย ทุกฺขา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นขเจฺฉทน’’นฺติฯ สโลหิตํ นขํ ฉินฺทนฺติฯ องฺคุลิโย ทุกฺขา โหนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มํสปฺปมาเณน นขํ ฉินฺทิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū nakhenapi nakhaṃ chindanti, mukhenapi nakhaṃ chindanti, kuṭṭepi ghaṃsanti. Aṅguliyo dukkhā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, nakhacchedana’’nti. Salohitaṃ nakhaṃ chindanti. Aṅguliyo dukkhā honti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, maṃsappamāṇena nakhaṃ chinditu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู วีสติมฎฺฐํ 85 การาเปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น , ภิกฺขเว, วีสติมฎฺฐํ การาเปตพฺพํฯ โย การาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มลมตฺตํ อปกฑฺฒิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū vīsatimaṭṭhaṃ 86 kārāpenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na , bhikkhave, vīsatimaṭṭhaṃ kārāpetabbaṃ. Yo kārāpeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, malamattaṃ apakaḍḍhitu’’nti.

    ๒๗๕. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ เกสา ทีฆา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อุสฺสหนฺติ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อญฺญมญฺญํ เกเส โอโรเปตุ’’นฺติ? ‘‘อุสฺสหนฺติ ภควา’’ติ ฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา…เป.… ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ขุรํ ขุรสิลํ ขุรสิปาฎิกํ นมตกํ สพฺพํ ขุรภณฺฑ’’นฺติฯ

    275. Tena kho pana samayena bhikkhūnaṃ kesā dīghā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Ussahanti pana, bhikkhave, bhikkhū aññamaññaṃ kese oropetu’’nti? ‘‘Ussahanti bhagavā’’ti . Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā…pe… bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, khuraṃ khurasilaṃ khurasipāṭikaṃ namatakaṃ sabbaṃ khurabhaṇḍa’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู มสฺสุํ กปฺปาเปนฺติ…เป.… มสฺสุํ วฑฺฒาเปนฺติ… โคโลมิกํ การาเปนฺติ… จตุรสฺสกํ การาเปนฺติ… ปริมุขํ การาเปนฺติ… อฑฺฒทุกํ 87 การาเปนฺติ… ทาฐิกํ ฐเปนฺติ… สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว , มสฺสุ กปฺปาเปตพฺพํ…เป.… น มสฺสุ วฑฺฒาเปตพฺพํ… น โคโลมิกํ การาเปตพฺพํ… น จตุรสฺสกํ การาเปตพฺพํ… น ปริมุขํ การาเปตพฺพํ… น อฑฺฒทุกํ การาเปตพฺพํ… น ทาฐิกา ฐเปตพฺพา… น สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตพฺพํฯ โย สํหราเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū massuṃ kappāpenti…pe… massuṃ vaḍḍhāpenti… golomikaṃ kārāpenti… caturassakaṃ kārāpenti… parimukhaṃ kārāpenti… aḍḍhadukaṃ 88 kārāpenti… dāṭhikaṃ ṭhapenti… sambādhe lomaṃ saṃharāpenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave , massu kappāpetabbaṃ…pe… na massu vaḍḍhāpetabbaṃ… na golomikaṃ kārāpetabbaṃ… na caturassakaṃ kārāpetabbaṃ… na parimukhaṃ kārāpetabbaṃ… na aḍḍhadukaṃ kārāpetabbaṃ… na dāṭhikā ṭhapetabbā… na sambādhe lomaṃ saṃharāpetabbaṃ. Yo saṃharāpeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน สมฺพาเธ วโณ โหติฯ เภสชฺชํ น สนฺติฎฺฐติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปฺปจฺจยา สมฺพาเธ โลมํ สํหราเปตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno sambādhe vaṇo hoti. Bhesajjaṃ na santiṭṭhati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ābādhappaccayā sambādhe lomaṃ saṃharāpetu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู กตฺตริกาย เกเส เฉทาเปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, กตฺตริกาย เกสา เฉทาเปตพฺพาฯ โย เฉทาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū kattarikāya kese chedāpenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, kattarikāya kesā chedāpetabbā. Yo chedāpeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน สีเส วโณ โหติ, น สโกฺกติ ขุเรน เกเส โอโรเปตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปฺปจฺจยา กตฺตริกาย เกเส เฉทาเปตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno sīse vaṇo hoti, na sakkoti khurena kese oropetuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ābādhappaccayā kattarikāya kese chedāpetu’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทีฆานิ นาสิกาโลมานิ ธาเรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ปิสาจิลฺลิกาติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ทีฆํ นาสิกาโลมํ ธาเรตพฺพํฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū dīghāni nāsikālomāni dhārenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi pisācillikāti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, dīghaṃ nāsikālomaṃ dhāretabbaṃ. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู สกฺขริกายปิ มธุสิตฺถเกนปิ นาสิกาโลมํ คาหาเปนฺติฯ นาสิกา ทุกฺขา โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สณฺฑาส’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū sakkharikāyapi madhusitthakenapi nāsikālomaṃ gāhāpenti. Nāsikā dukkhā honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, saṇḍāsa’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ปลิตํ คาหาเปนฺติ ฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ปลิตํ คาหาเปตพฺพํฯ โย คาหาเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū palitaṃ gāhāpenti . Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, palitaṃ gāhāpetabbaṃ. Yo gāhāpeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๗๖. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน กณฺณคูถเกหิ กณฺณา ถกิตา โหนฺติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กณฺณมลหรณิ’’นฺติฯ

    276. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno kaṇṇagūthakehi kaṇṇā thakitā honti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, kaṇṇamalaharaṇi’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา กณฺณมลหรณิโย ธาเรนฺติ โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา กณฺณมลหรณิโย ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ ทนฺตมยํ วิสาณมยํ นฬมยํ เวฬุมยํ กฎฺฐมยํ ชตุมยํ ผลมยํ โลหมยํ สงฺขนาภิมย’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacā kaṇṇamalaharaṇiyo dhārenti sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uccāvacā kaṇṇamalaharaṇiyo dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassāti. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ dantamayaṃ visāṇamayaṃ naḷamayaṃ veḷumayaṃ kaṭṭhamayaṃ jatumayaṃ phalamayaṃ lohamayaṃ saṅkhanābhimaya’’nti.

    ๒๗๗. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู พหุํ โลหภณฺฑํ กํสภณฺฑํ สนฺนิจยํ กโรนฺติฯ มนุสฺสา วิหารจาริกํ อาหิณฺฑนฺตา ปสฺสิตฺวา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา พหุํ โลหภณฺฑํ กํสภณฺฑํ สนฺนิจยํ กริสฺสนฺติ , เสยฺยถาปิ กํสปตฺถริกา’’ติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, พหุํ โลหภณฺฑํ กํสภณฺฑํ สนฺนิจโย กาตโพฺพฯ โย กเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    277. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū bahuṃ lohabhaṇḍaṃ kaṃsabhaṇḍaṃ sannicayaṃ karonti. Manussā vihāracārikaṃ āhiṇḍantā passitvā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā bahuṃ lohabhaṇḍaṃ kaṃsabhaṇḍaṃ sannicayaṃ karissanti , seyyathāpi kaṃsapattharikā’’ti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, bahuṃ lohabhaṇḍaṃ kaṃsabhaṇḍaṃ sannicayo kātabbo. Yo kareyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อญฺชนิมฺปิ อญฺชนิสลากมฺปิ กณฺณมลหรณิมฺปิ พนฺธนมตฺตมฺปิ กุกฺกุจฺจายนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อญฺชนิํ อญฺชนิสลากํ กณฺณมลหรณิํ พนฺธนมตฺต’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū añjanimpi añjanisalākampi kaṇṇamalaharaṇimpi bandhanamattampi kukkuccāyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, añjaniṃ añjanisalākaṃ kaṇṇamalaharaṇiṃ bandhanamatta’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สงฺฆาฎิปลฺลตฺถิกาย นิสีทนฺติฯ สงฺฆาฎิยา ปตฺตา ลุชฺชนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, สงฺฆาฎิปลฺลตฺถิกาย นิสีทิตพฺพํฯ โย นิสีเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū saṅghāṭipallatthikāya nisīdanti. Saṅghāṭiyā pattā lujjanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, saṅghāṭipallatthikāya nisīditabbaṃ. Yo nisīdeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหติฯ ตสฺส วินา อาโยเคน 89 น ผาสุ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาโยค’’นฺติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข อาโยโค กาตโพฺพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตนฺตกํ เวมํ กวฎํ 90 สลากํ สพฺพํ ตนฺตภณฺฑก’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu gilāno hoti. Tassa vinā āyogena 91 na phāsu hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, āyoga’’nti. Atha kho bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘kathaṃ nu kho āyogo kātabbo’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, tantakaṃ vemaṃ kavaṭaṃ 92 salākaṃ sabbaṃ tantabhaṇḍaka’’nti.

    ๒๗๘. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อกายพนฺธโน คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ ตสฺส รถิกาย อนฺตรวาสโก ปภสฺสิตฺถฯ มนุสฺสา อุกฺกุฎฺฐิมกํสุ ฯ โส ภิกฺขุ มงฺกุ อโหสิ ฯ อถ โข โส ภิกฺขุ อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อกายพนฺธเนน คาโม ปวิสิตโพฺพฯ โย ปวิเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กายพนฺธน’’นฺติฯ

    278. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu akāyabandhano gāmaṃ piṇḍāya pāvisi. Tassa rathikāya antaravāsako pabhassittha. Manussā ukkuṭṭhimakaṃsu . So bhikkhu maṅku ahosi . Atha kho so bhikkhu ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, akāyabandhanena gāmo pavisitabbo. Yo paviseyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, kāyabandhana’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจานิ กายพนฺธนานิ ธาเรนฺติ – กลาพุกํ, เทฑฺฑุภกํ, มุรชํ, มทฺทวีณํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจานิ กายพนฺธนานิ ธาเรตพฺพานิ – กลาพุกํ, เทฑฺฑุภกํ, มุรชํ, มทฺทวีณํฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เทฺว กายพนฺธนานิ – ปฎฺฎิกํ, สูกรนฺตก’’นฺติฯ กายพนฺธนสฺส ทสา ชีรนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุรชํ มทฺทวีณ’’นฺติฯ กายพนฺธนสฺส อโนฺต ชีรติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โสภณํ คุณก’’นฺติฯ กายพนฺธนสฺส ปวนโนฺต ชีรติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิธ’’นฺติ 93

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacāni kāyabandhanāni dhārenti – kalābukaṃ, deḍḍubhakaṃ, murajaṃ, maddavīṇaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uccāvacāni kāyabandhanāni dhāretabbāni – kalābukaṃ, deḍḍubhakaṃ, murajaṃ, maddavīṇaṃ. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, dve kāyabandhanāni – paṭṭikaṃ, sūkarantaka’’nti. Kāyabandhanassa dasā jīranti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, murajaṃ maddavīṇa’’nti. Kāyabandhanassa anto jīrati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, sobhaṇaṃ guṇaka’’nti. Kāyabandhanassa pavananto jīrati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vidha’’nti 94.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวเจ วิเธ ธาเรนฺติ โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา วิธา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ…เป.… สงฺขนาภิมยํ สุตฺตมย’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvace vidhe dhārenti sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uccāvacā vidhā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ…pe… saṅkhanābhimayaṃ suttamaya’’nti.

    ๒๗๙. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา อานโนฺท ลหุกา สงฺฆาฎิโย ปารุปิตฺวา คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ วาตมณฺฑลิกาย สงฺฆาฎิโย อุกฺขิปิยิํสุฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท อารามํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คณฺฐิกํ ปาสก’’นฺติฯ

    279. Tena kho pana samayena āyasmā ānando lahukā saṅghāṭiyo pārupitvā gāmaṃ piṇḍāya pāvisi. Vātamaṇḍalikāya saṅghāṭiyo ukkhipiyiṃsu. Atha kho āyasmā ānando ārāmaṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gaṇṭhikaṃ pāsaka’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา คณฺฐิกาโย ธาเรนฺติ โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา คณฺฐิกา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ ทนฺตมยํ วิสาณมยํ นฬมยํ เวฬุมยํ กฎฺฐมยํ ชตุมยํ ผลมยํ โลหมยํ สงฺขนาภิมยํ สุตฺตมย’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacā gaṇṭhikāyo dhārenti sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, uccāvacā gaṇṭhikā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ dantamayaṃ visāṇamayaṃ naḷamayaṃ veḷumayaṃ kaṭṭhamayaṃ jatumayaṃ phalamayaṃ lohamayaṃ saṅkhanābhimayaṃ suttamaya’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู คณฺฐิกมฺปิ ปาสกมฺปิ จีวเร อเปฺปนฺติฯ จีวรํ ชีรติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คณฺฐิกผลกํ ปาสกผลก’’นฺติฯ คณฺฐิกผลกมฺปิ ปาสกผลกมฺปิ อเนฺต อเปฺปนฺติฯ โกโฎฺฎ 95 วิวริยติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คณฺฐิกผลกํ อเนฺต อเปฺปตุํ; ปาสกผลกํ สตฺตงฺคุลํ วา อฎฺฐงฺคุลํ วา โอคาเหตฺวา อเปฺปตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena bhikkhū gaṇṭhikampi pāsakampi cīvare appenti. Cīvaraṃ jīrati . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gaṇṭhikaphalakaṃ pāsakaphalaka’’nti. Gaṇṭhikaphalakampi pāsakaphalakampi ante appenti. Koṭṭo 96 vivariyati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, gaṇṭhikaphalakaṃ ante appetuṃ; pāsakaphalakaṃ sattaṅgulaṃ vā aṭṭhaṅgulaṃ vā ogāhetvā appetu’’nti.

    ๒๘๐. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู คิหินิวตฺถํ นิวาเสนฺติ – หตฺถิโสณฺฑกํ, มจฺฉวาฬกํ, จตุกณฺณกํ, ตาลวณฺฎกํ, สตวลิกํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหินิวตฺถํ นิวาเสตพฺพํ – หตฺถิโสณฺฑกํ, มจฺฉวาฬกํ, จตุกณฺณกํ, ตาลวณฺฎกํ, สตวลิกํฯ โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    280. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū gihinivatthaṃ nivāsenti – hatthisoṇḍakaṃ, macchavāḷakaṃ, catukaṇṇakaṃ, tālavaṇṭakaṃ, satavalikaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, gihinivatthaṃ nivāsetabbaṃ – hatthisoṇḍakaṃ, macchavāḷakaṃ, catukaṇṇakaṃ, tālavaṇṭakaṃ, satavalikaṃ. Yo nivāseyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู คิหิปารุตํ ปารุปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, คิหิปารุตํ ปารุปิตพฺพํฯ โย ปารุเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū gihipārutaṃ pārupanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, gihipārutaṃ pārupitabbaṃ. Yo pārupeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู สํเวลฺลิยํ นิวาเสนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ รโญฺญ มุณฺฑวฎฺฎีติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, สํเวลฺลิยํ นิวาเสตพฺพํฯ โย นิวาเสยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū saṃvelliyaṃ nivāsenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi rañño muṇḍavaṭṭīti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, saṃvelliyaṃ nivāsetabbaṃ. Yo nivāseyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๘๑. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุภโตกาชํ หรนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ รโญฺญ มุณฺฑวฎฺฎีติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อุภโตกาชํ หริตพฺพํฯ โย หเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกโตกาชํ อนฺตรากาชํ สีสภารํ ขนฺธภารํ กฎิภารํ โอลมฺพก’’นฺติฯ

    281. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū ubhatokājaṃ haranti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi rañño muṇḍavaṭṭīti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, ubhatokājaṃ haritabbaṃ. Yo hareyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, ekatokājaṃ antarākājaṃ sīsabhāraṃ khandhabhāraṃ kaṭibhāraṃ olambaka’’nti.

    ๒๘๒. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ทนฺตกฎฺฐํ น ขาทนฺติฯ มุขํ ทุคฺคนฺธํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ

    282. Tena kho pana samayena bhikkhū dantakaṭṭhaṃ na khādanti. Mukhaṃ duggandhaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ.

    ‘‘ปญฺจิเม , ภิกฺขเว, อาทีนวา ทนฺตกฎฺฐสฺส อขาทเนฯ อจกฺขุสฺสํ, มุขํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, รสหรณิโย น วิสุชฺฌนฺติ, ปิตฺตํ เสมฺหํ ภตฺตํ ปริโยนนฺธติ, ภตฺตมสฺส นจฺฉาเทติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อาทีนวา ทนฺตกฎฺฐสฺส อขาทเนฯ

    ‘‘Pañcime , bhikkhave, ādīnavā dantakaṭṭhassa akhādane. Acakkhussaṃ, mukhaṃ duggandhaṃ hoti, rasaharaṇiyo na visujjhanti, pittaṃ semhaṃ bhattaṃ pariyonandhati, bhattamassa nacchādeti – ime kho, bhikkhave, pañca ādīnavā dantakaṭṭhassa akhādane.

    ‘‘ปญฺจิเม, ภิกฺขเว, อานิสํสา ทนฺตกฎฺฐสฺส ขาทเนฯ จกฺขุสฺสํ, มุขํ น ทุคฺคนฺธํ โหติ, รสหรณิโย วิสุชฺฌนฺติ, ปิตฺตํ เสมฺหํ ภตฺตํ น ปริโยนนฺธติ, ภตฺตมสฺส ฉาเทติ – อิเม โข, ภิกฺขเว, ปญฺจ อานิสํสา ทนฺตกฎฺฐสฺส ขาทเนฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทนฺตกฎฺฐ’’นฺติฯ

    ‘‘Pañcime, bhikkhave, ānisaṃsā dantakaṭṭhassa khādane. Cakkhussaṃ, mukhaṃ na duggandhaṃ hoti, rasaharaṇiyo visujjhanti, pittaṃ semhaṃ bhattaṃ na pariyonandhati, bhattamassa chādeti – ime kho, bhikkhave, pañca ānisaṃsā dantakaṭṭhassa khādane. Anujānāmi, bhikkhave, dantakaṭṭha’’nti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ทีฆานิ ทนฺตกฎฺฐานิ ขาทนฺติ, เตเหว สามเณรํ อาโกเฎนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น , ภิกฺขเว, ทีฆํ ทนฺตกฎฺฐํ ขาทิตพฺพํฯ โย ขาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐงฺคุลปรมํ ทนฺตกฎฺฐํ, น จ เตน สามเณโร อาโกเฎตโพฺพฯ โย อาโกเฎยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū dīghāni dantakaṭṭhāni khādanti, teheva sāmaṇeraṃ ākoṭenti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na , bhikkhave, dīghaṃ dantakaṭṭhaṃ khāditabbaṃ. Yo khādeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhaṅgulaparamaṃ dantakaṭṭhaṃ, na ca tena sāmaṇero ākoṭetabbo. Yo ākoṭeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน อติมฎาหกํ ทนฺตกฎฺฐํ ขาทนฺตสฺส กเณฺฐ วิลคฺคํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, อติมฎาหกํ ทนฺตกฎฺฐํ ขาทิตพฺพํฯ โย ขาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตุรงฺคุลปจฺฉิมํ 97 ทนฺตกฎฺฐ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno atimaṭāhakaṃ dantakaṭṭhaṃ khādantassa kaṇṭhe vilaggaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, atimaṭāhakaṃ dantakaṭṭhaṃ khāditabbaṃ. Yo khādeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, caturaṅgulapacchimaṃ 98 dantakaṭṭha’’nti.

    ๒๘๓. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ทายํ อาลิเมฺปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ ทวฑาหกาติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ทาโย อาลิมฺปิตโพฺพฯ โย อาลิเมฺปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    283. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū dāyaṃ ālimpenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi davaḍāhakāti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, dāyo ālimpitabbo. Yo ālimpeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน วิหารา ติณคหนา โหนฺติ, ทวฑาเห ฑยฺหมาเน วิหารา ฑยฺหนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺติ ปฎคฺคิํ ทาตุํ, ปริตฺตํ กาตุํฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทวฑาเห ฑยฺหมาเน ปฎคฺคิํ ทาตุํ, ปริตฺตํ กาตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena vihārā tiṇagahanā honti, davaḍāhe ḍayhamāne vihārā ḍayhanti. Bhikkhū kukkuccāyanti paṭaggiṃ dātuṃ, parittaṃ kātuṃ. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, davaḍāhe ḍayhamāne paṭaggiṃ dātuṃ, parittaṃ kātu’’nti.

    ๒๘๔. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู รุกฺขํ อภิรุหนฺติ, รุกฺขา รุกฺขํ สงฺกมนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ มกฺกฎาติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, รุโกฺข อภิรุหิตโพฺพฯ โย อภิรุเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    284. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū rukkhaṃ abhiruhanti, rukkhā rukkhaṃ saṅkamanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi makkaṭāti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, rukkho abhiruhitabbo. Yo abhiruheyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน โกสเลสุ ชนปเท สาวตฺถิํ คจฺฉนฺตสฺส อนฺตรามเคฺค หตฺถี ปริยุฎฺฐาติฯ อถ โข โส ภิกฺขุ รุกฺขมูลํ อุปธาวิตฺวา กุกฺกุจฺจายโนฺต รุกฺขํ น อภิรุหิฯ โส หตฺถี อเญฺญน อคมาสิฯ อถ โข โส ภิกฺขุ สาวตฺถิํ คนฺตฺวา ภิกฺขูนํ เอตมตฺถํ อาโรเจสิฯ ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ กรณีเย โปริสํ รุกฺขํ อภิรุหิตุํ อาปทาสุ ยาวทตฺถ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno kosalesu janapade sāvatthiṃ gacchantassa antarāmagge hatthī pariyuṭṭhāti. Atha kho so bhikkhu rukkhamūlaṃ upadhāvitvā kukkuccāyanto rukkhaṃ na abhiruhi. So hatthī aññena agamāsi. Atha kho so bhikkhu sāvatthiṃ gantvā bhikkhūnaṃ etamatthaṃ ārocesi. Bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, sati karaṇīye porisaṃ rukkhaṃ abhiruhituṃ āpadāsu yāvadattha’’nti.

    ๒๘๕. เตน โข ปน สมเยน ยเมฬเกกุฎา นาม 99 ภิกฺขู เทฺว ภาติกา โหนฺติ พฺราหฺมณชาติกา กลฺยาณวาจา กลฺยาณวากฺกรณาฯ เต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘เอตรหิ, ภเนฺต, ภิกฺขู นานานามา นานาโคตฺตา นานาชจฺจา นานากุลา ปพฺพชิตาฯ เต สกาย นิรุตฺติยา พุทฺธวจนํ ทูเสนฺติฯ หนฺท มยํ, ภเนฺต, พุทฺธวจนํ ฉนฺทโส อาโรเปมา’’ติฯ วิครหิ พุโทฺธ ภควา…เป.… ‘‘กถญฺหิ นาม ตุเมฺห, โมฆปุริสา, เอวํ วกฺขถ – ‘หนฺท มยํ, ภเนฺต, พุทฺธวจนํ ฉนฺทโส อาโรเปมา’ติฯ เนตํ, โมฆปุริสา, อปฺปสนฺนานํ วา ปสาทาย…เป.… วิครหิตฺวา…เป.… ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘น, ภิกฺขเว, พุทฺธวจนํ ฉนฺทโส อาโรเปตพฺพํฯ โย อาโรเปยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สกาย นิรุตฺติยา พุทฺธวจนํ ปริยาปุณิตุ’’นฺติฯ

    285. Tena kho pana samayena yameḷakekuṭā nāma 100 bhikkhū dve bhātikā honti brāhmaṇajātikā kalyāṇavācā kalyāṇavākkaraṇā. Te yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu. Ekamantaṃ nisinnā kho te bhikkhū bhagavantaṃ etadavocuṃ – ‘‘etarahi, bhante, bhikkhū nānānāmā nānāgottā nānājaccā nānākulā pabbajitā. Te sakāya niruttiyā buddhavacanaṃ dūsenti. Handa mayaṃ, bhante, buddhavacanaṃ chandaso āropemā’’ti. Vigarahi buddho bhagavā…pe… ‘‘kathañhi nāma tumhe, moghapurisā, evaṃ vakkhatha – ‘handa mayaṃ, bhante, buddhavacanaṃ chandaso āropemā’ti. Netaṃ, moghapurisā, appasannānaṃ vā pasādāya…pe… vigarahitvā…pe… dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘na, bhikkhave, buddhavacanaṃ chandaso āropetabbaṃ. Yo āropeyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, sakāya niruttiyā buddhavacanaṃ pariyāpuṇitu’’nti.

    ๒๘๖. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู โลกายตํ ปริยาปุณนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ อโสฺสสุํ โข ภิกฺขู เตสํ มนุสฺสานํ อุชฺฌายนฺตานํ ขิยฺยนฺตานํ วิปาเจนฺตานํฯ อถ โข เต ภิกฺขู ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อปิ นุ โข, ภิกฺขเว, โลกายเต สารทสฺสาวี อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย วุทฺธิํ วิรุฬฺหิํ เวปุลฺลํ อาปเชฺชยฺยา’’ติ? ‘‘โนเหตํ ภเนฺต’’ฯ ‘‘อิมสฺมิํ วา ปน ธมฺมวินเย สารทสฺสาวี โลกายตํ ปริยาปุเณยฺยา’’ติ? ‘‘โนเหตํ ภเนฺต’’ฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, โลกายตํ ปริยาปุณิตพฺพํฯ โย ปริยาปุเณยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    286. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū lokāyataṃ pariyāpuṇanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Assosuṃ kho bhikkhū tesaṃ manussānaṃ ujjhāyantānaṃ khiyyantānaṃ vipācentānaṃ. Atha kho te bhikkhū bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Api nu kho, bhikkhave, lokāyate sāradassāvī imasmiṃ dhammavinaye vuddhiṃ viruḷhiṃ vepullaṃ āpajjeyyā’’ti? ‘‘Nohetaṃ bhante’’. ‘‘Imasmiṃ vā pana dhammavinaye sāradassāvī lokāyataṃ pariyāpuṇeyyā’’ti? ‘‘Nohetaṃ bhante’’. ‘‘Na, bhikkhave, lokāyataṃ pariyāpuṇitabbaṃ. Yo pariyāpuṇeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู โลกายตํ วาเจนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, โลกายตํ วาเจตพฺพํฯ โย วาเจยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū lokāyataṃ vācenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, lokāyataṃ vācetabbaṃ. Yo vāceyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๘๗. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ติรจฺฉานวิชฺชํ ปริยาปุณนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานวิชฺชา ปริยาปุณิตพฺพาฯ โย ปริยาปุเณยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    287. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū tiracchānavijjaṃ pariyāpuṇanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, tiracchānavijjā pariyāpuṇitabbā. Yo pariyāpuṇeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู ติรจฺฉานวิชฺชํ วาเจนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานวิชฺชา วาเจตพฺพาฯ โย วาเจยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū tiracchānavijjaṃ vācenti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Na, bhikkhave, tiracchānavijjā vācetabbā. Yo vāceyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    ๒๘๘. เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสโนฺต ขิปิฯ ภิกฺขู – ‘ชีวตุ, ภเนฺต, ภควา; ชีวตุ สุคโต’ติ – อุจฺจาสทฺทํ มหาสทฺทํ อกํสุฯ เตน สเทฺทน ธมฺมกถา อนฺตรา อโหสิฯ อถ โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อปิ นุ โข, ภิกฺขเว, ขิปิเต ‘ชีวา’ติ วุโตฺต 101 ตปฺปจฺจยา ชีเวยฺย วา มเรยฺย วา’’ติ? ‘‘โนเหตํ ภเนฺต’’ฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ขิปิเต ‘ชีวา’ติ วตฺตโพฺพฯ โย วเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    288. Tena kho pana samayena bhagavā mahatiyā parisāya parivuto dhammaṃ desento khipi. Bhikkhū – ‘jīvatu, bhante, bhagavā; jīvatu sugato’ti – uccāsaddaṃ mahāsaddaṃ akaṃsu. Tena saddena dhammakathā antarā ahosi. Atha kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘api nu kho, bhikkhave, khipite ‘jīvā’ti vutto 102 tappaccayā jīveyya vā mareyya vā’’ti? ‘‘Nohetaṃ bhante’’. ‘‘Na, bhikkhave, khipite ‘jīvā’ti vattabbo. Yo vadeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน มนุสฺสา ภิกฺขูนํ ขิปิเต ‘ชีวถ ภเนฺต’ติ วทนฺติฯ ภิกฺขู กุกฺกุจฺจายนฺตา นาลปนฺติฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘กถญฺหิ นาม สมณา สกฺยปุตฺติยา ‘ชีวถ ภเนฺต’ติ วุจฺจมานา นาลปิสฺสนฺตี’’ติ! ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘คิหี, ภิกฺขเว, มงฺคลิกาฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คิหีนํ ‘ชีวถ ภเนฺต’ติ วุจฺจมาเนน ‘จิรํ ชีวา’ติ วตฺตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena manussā bhikkhūnaṃ khipite ‘jīvatha bhante’ti vadanti. Bhikkhū kukkuccāyantā nālapanti. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘kathañhi nāma samaṇā sakyaputtiyā ‘jīvatha bhante’ti vuccamānā nālapissantī’’ti! Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Gihī, bhikkhave, maṅgalikā. Anujānāmi, bhikkhave, gihīnaṃ ‘jīvatha bhante’ti vuccamānena ‘ciraṃ jīvā’ti vattu’’nti.

    ๒๘๙. เตน โข ปน สมเยน ภควา มหติยา ปริสาย ปริวุโต ธมฺมํ เทเสโนฺต นิสิโนฺน โหติฯ อญฺญตเรน ภิกฺขุนา ลสุณํ ขายิตํ โหติฯ โส – มา ภิกฺขู พฺยาพาธิํสูติ – เอกมนฺตํ นิสีทิฯ อทฺทสา โข ภควา ตํ ภิกฺขุํ เอกมนฺตํ นิสินฺนํฯ ทิสฺวาน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘กิํ นุ โข โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน’’ติ ? ‘‘เอเตน, ภเนฺต, ภิกฺขุนา ลสุณํ ขายิตํฯ โส – มา ภิกฺขู พฺยาพาธิํสูติ – เอกมนฺตํ นิสิโนฺน’’ติฯ ‘‘อปิ นุ โข, ภิกฺขเว 103, ตํ ขาทิตพฺพํ, ยํ ขาทิตฺวา เอวรูปาย ธมฺมกถาย ปริพาหิโย อสฺสา’’ติ? ‘‘โนเหตํ ภเนฺต’’ฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, ลสุณํ ขาทิตพฺพํฯ โย ขาเทยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสา’’ติฯ

    289. Tena kho pana samayena bhagavā mahatiyā parisāya parivuto dhammaṃ desento nisinno hoti. Aññatarena bhikkhunā lasuṇaṃ khāyitaṃ hoti. So – mā bhikkhū byābādhiṃsūti – ekamantaṃ nisīdi. Addasā kho bhagavā taṃ bhikkhuṃ ekamantaṃ nisinnaṃ. Disvāna bhikkhū āmantesi – ‘‘kiṃ nu kho so, bhikkhave, bhikkhu ekamantaṃ nisinno’’ti ? ‘‘Etena, bhante, bhikkhunā lasuṇaṃ khāyitaṃ. So – mā bhikkhū byābādhiṃsūti – ekamantaṃ nisinno’’ti. ‘‘Api nu kho, bhikkhave 104, taṃ khāditabbaṃ, yaṃ khāditvā evarūpāya dhammakathāya paribāhiyo assā’’ti? ‘‘Nohetaṃ bhante’’. ‘‘Na, bhikkhave, lasuṇaṃ khāditabbaṃ. Yo khādeyya, āpatti dukkaṭassā’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส อุทรวาตาพาโธ โหติฯ อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยนายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ปุเพฺพ เต, อาวุโส สาริปุตฺต, อุทรวาตาพาโธ เกน ผาสุ โหตี’’ติ? ‘‘ลสุเณน เม, อาวุโส’’ติ 105ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาพาธปฺปจฺจยา ลสุณํ ขาทิตุ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena āyasmato sāriputtassa udaravātābādho hoti. Atha kho āyasmā mahāmoggallāno yenāyasmā sāriputto tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca – ‘‘pubbe te, āvuso sāriputta, udaravātābādho kena phāsu hotī’’ti? ‘‘Lasuṇena me, āvuso’’ti 106. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ābādhappaccayā lasuṇaṃ khāditu’’nti.

    ๒๙๐. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อาราเม ตหํ ตหํ ปสฺสาวํ กโรนฺติฯ อาราโม ทุสฺสติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอกมนฺตํ ปสฺสาวํ กาตุ’’นฺติ ฯ อาราโม ทุคฺคโนฺธ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปสฺสาวกุมฺภิ’’นฺติฯ ทุกฺขํ นิสินฺนา ปสฺสาวํ กโรนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปสฺสาวปาทุก’’นฺติฯ ปสฺสาวปาทุกา ปากฎา โหนฺติฯ ภิกฺขู หิริยนฺติ ปสฺสาวํ กาตุํ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขิปิตุํ ตโย ปากาเร – อิฎฺฐกาปาการํ, สิลาปาการํ, ทารุปาการ’’นฺติฯ ปสฺสาวกุมฺภี อปารุตา ทุคฺคนฺธา โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธาน’’นฺติฯ

    290. Tena kho pana samayena bhikkhū ārāme tahaṃ tahaṃ passāvaṃ karonti. Ārāmo dussati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, ekamantaṃ passāvaṃ kātu’’nti . Ārāmo duggandho hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, passāvakumbhi’’nti. Dukkhaṃ nisinnā passāvaṃ karonti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, passāvapāduka’’nti. Passāvapādukā pākaṭā honti. Bhikkhū hiriyanti passāvaṃ kātuṃ…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, parikkhipituṃ tayo pākāre – iṭṭhakāpākāraṃ, silāpākāraṃ, dārupākāra’’nti. Passāvakumbhī apārutā duggandhā hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, apidhāna’’nti.

    ๒๙๑. เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อาราเม ตหํ ตหํ วจฺจํ กโรนฺติฯ อาราโม ทุสฺสติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ , ภิกฺขเว, เอกมนฺตํ วจฺจํ กาตุ’’นฺติฯ อาราโม ทุคฺคโนฺธ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วจฺจกูป’’นฺติฯ วจฺจกูปสฺส กูลํ ลุชฺชติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ วจฺจกูโป นีจวตฺถุโก โหติ, อุทเกน โอตฺถริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุจฺจวตฺถุกํ กาตุ’’นฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จินิตุํ ตโย จเย – อิฎฺฐกาจยํ, สิลาจยํ, ทารุจย’’นฺติฯ อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตโย โสปาเน – อิฎฺฐกาโสปานํ, สิลาโสปานํ, ทารุโสปาน’’นฺติฯ อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาลมฺพนพาห’’นฺติฯ อเนฺต นิสินฺนา วจฺจํ กโรนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สนฺถริตฺวา มเชฺฌ ฉิทฺทํ กตฺวา วจฺจํ กาตุ’’นฺติ ฯ ทุกฺขํ นิสินฺนา วจฺจํ กโรนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วจฺจปาทุก’’นฺติฯ พหิทฺธา ปสฺสาวํ กโรนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปสฺสาวโทณิก’’นฺติฯ อวเลขนกฎฺฐํ น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อวเลขนกฎฺฐ’’นฺติฯ อวเลขนปิฐโร น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อวเลขนปิฐร’’นฺติฯ วจฺจกูโป อปารุโต ทุคฺคโนฺธ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธาน’’นฺติฯ อโชฺฌกาเส วจฺจํ กโรนฺตา สีเตนปิ อุเณฺหนปิ กิลมนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วจฺจกุฎิ’’นฺติฯ วจฺจกุฎิยา กวาฎํ น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กวาฎํ ปิฎฺฐสงฺฆาฎํ อุทุกฺขลิกํ อุตฺตรปาสกํ อคฺคฬวฎฺฎิํ กปิสีสกํ สูจิกํ ฆฎิกํ ตาฬจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนรชฺชุ’’นฺติฯ วจฺจกุฎิยา ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ – เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฎิกํ จีวรวํสํ จีวรรชฺชุ’’นฺติฯ

    291. Tena kho pana samayena bhikkhū ārāme tahaṃ tahaṃ vaccaṃ karonti. Ārāmo dussati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi , bhikkhave, ekamantaṃ vaccaṃ kātu’’nti. Ārāmo duggandho hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vaccakūpa’’nti. Vaccakūpassa kūlaṃ lujjati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Vaccakūpo nīcavatthuko hoti, udakena otthariyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, uccavatthukaṃ kātu’’nti. Cayo paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, cinituṃ tayo caye – iṭṭhakācayaṃ, silācayaṃ, dārucaya’’nti. Ārohantā vihaññanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, tayo sopāne – iṭṭhakāsopānaṃ, silāsopānaṃ, dārusopāna’’nti. Ārohantā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ālambanabāha’’nti. Ante nisinnā vaccaṃ karontā paripatanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, santharitvā majjhe chiddaṃ katvā vaccaṃ kātu’’nti . Dukkhaṃ nisinnā vaccaṃ karonti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vaccapāduka’’nti. Bahiddhā passāvaṃ karonti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, passāvadoṇika’’nti. Avalekhanakaṭṭhaṃ na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, avalekhanakaṭṭha’’nti. Avalekhanapiṭharo na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, avalekhanapiṭhara’’nti. Vaccakūpo apāruto duggandho hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, apidhāna’’nti. Ajjhokāse vaccaṃ karontā sītenapi uṇhenapi kilamanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, vaccakuṭi’’nti. Vaccakuṭiyā kavāṭaṃ na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, kavāṭaṃ piṭṭhasaṅghāṭaṃ udukkhalikaṃ uttarapāsakaṃ aggaḷavaṭṭiṃ kapisīsakaṃ sūcikaṃ ghaṭikaṃ tāḷacchiddaṃ āviñchanacchiddaṃ āviñchanarajju’’nti. Vaccakuṭiyā tiṇacuṇṇaṃ paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātuṃ – setavaṇṇaṃ kāḷavaṇṇaṃ gerukaparikammaṃ mālākammaṃ latākammaṃ makaradantakaṃ pañcapaṭikaṃ cīvaravaṃsaṃ cīvararajju’’nti.

    ๒๙๒. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ชราทุพฺพโล วจฺจํ กตฺวา วุฎฺฐหโนฺต ปริปตติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอลมฺพก’’นฺติฯ วจฺจกุฎิ อปริกฺขิตฺตา โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขิปิตุํ ตโย ปากาเร – อิฎฺฐกาปาการํ, สิลาปาการํ, ทารุปาการ’’นฺติฯ โกฎฺฐโก น โหติ…เป.… (‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โกฎฺฐก’’นฺติฯ โกฎฺฐกสฺส กวาฎํ น โหติ) 107 …เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กวาฎํ ปิฎฺฐสงฺฆาฎํ อุทุกฺขลิกํ อุตฺตรปาสกํ อคฺคฬวฎฺฎิํ กปิสีสกํ สูจิกํ ฆฎิกํ ตาฬจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนจฺฉิทฺทํ อาวิญฺฉนรชฺชุ’’นฺติฯ โกฎฺฐเก ติณจุณฺณํ ปริปตติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โอคุเมฺผตฺวา อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ กาตุํ – เสตวณฺณํ กาฬวณฺณํ เครุกปริกมฺมํ มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ มกรทนฺตกํ ปญฺจปฎิก’’นฺติฯ ปริเวณํ จิกฺขลฺลํ โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มรุมฺพํ ปกิริตุ’’นฺติฯ น ปริยาปุณนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปทรสิลํ 108 นิกฺขิปิตุ’’นฺติฯ อุทกํ สนฺติฎฺฐติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกนิทฺธมน’’นฺติฯ อาจมนกุมฺภี น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาจมนกุมฺภิ’’นฺติฯ อาจมนสราวโก น โหติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาจมนสราวก’’นฺติฯ ทุกฺขํ นิสินฺนา อาจเมนฺติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อาจมนปาทุก’’นฺติฯ อาจมนปาทุกา ปากฎา โหนฺติ, ภิกฺขู หิริยนฺติ อาจเมตุํ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปริกฺขิปิตุํ ตโย ปากาเร – อิฎฺฐกาปาการํ, สิลาปาการํ, ทารุปาการ’’นฺติฯ อาจมนกุมฺภี อปารุตา โหติ, ติณจุเณฺณหิปิ ปํสุเกหิปิ โอกิริยฺยติ…เป.… ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธาน’’นฺติฯ

    292. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu jarādubbalo vaccaṃ katvā vuṭṭhahanto paripatati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. ‘‘Anujānāmi, bhikkhave, olambaka’’nti. Vaccakuṭi aparikkhittā hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, parikkhipituṃ tayo pākāre – iṭṭhakāpākāraṃ, silāpākāraṃ, dārupākāra’’nti. Koṭṭhako na hoti…pe… (‘‘anujānāmi, bhikkhave, koṭṭhaka’’nti. Koṭṭhakassa kavāṭaṃ na hoti) 109 …pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, kavāṭaṃ piṭṭhasaṅghāṭaṃ udukkhalikaṃ uttarapāsakaṃ aggaḷavaṭṭiṃ kapisīsakaṃ sūcikaṃ ghaṭikaṃ tāḷacchiddaṃ āviñchanacchiddaṃ āviñchanarajju’’nti. Koṭṭhake tiṇacuṇṇaṃ paripatati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ogumphetvā ullittāvalittaṃ kātuṃ – setavaṇṇaṃ kāḷavaṇṇaṃ gerukaparikammaṃ mālākammaṃ latākammaṃ makaradantakaṃ pañcapaṭika’’nti. Pariveṇaṃ cikkhallaṃ hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, marumbaṃ pakiritu’’nti. Na pariyāpuṇanti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, padarasilaṃ 110 nikkhipitu’’nti. Udakaṃ santiṭṭhati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, udakaniddhamana’’nti. Ācamanakumbhī na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ācamanakumbhi’’nti. Ācamanasarāvako na hoti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ācamanasarāvaka’’nti. Dukkhaṃ nisinnā ācamenti…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ācamanapāduka’’nti. Ācamanapādukā pākaṭā honti, bhikkhū hiriyanti ācametuṃ…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, parikkhipituṃ tayo pākāre – iṭṭhakāpākāraṃ, silāpākāraṃ, dārupākāra’’nti. Ācamanakumbhī apārutā hoti, tiṇacuṇṇehipi paṃsukehipi okiriyyati…pe… ‘‘anujānāmi, bhikkhave, apidhāna’’nti.

    ๒๙๓. เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู เอวรูปํ อนาจารํ อาจรนฺติ – มาลาวจฺฉํ โรเปนฺติปิ โรปาเปนฺติปิ, สิญฺจนฺติปิ สิญฺจาเปนฺติปิ, โอจินนฺติปิ โอจินาเปนฺติปิ, คเนฺถนฺติปิ คนฺถาเปนฺติปิ, เอกโตวณฺฎิกมาลํ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, อุภโตวณฺฎิกมาลํ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, มญฺชริกํ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, วิธูติกํ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, วฎํสกํ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, อาเวฬํ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิ, อุรจฺฉทํ กโรนฺติปิ การาเปนฺติปิฯ เต กุลิตฺถีนํ กุลธีตานํ กุลกุมารีนํ กุลสุณฺหานํ กุลทาสีนํ เอกโตวณฺฎิกมาลํ หรนฺติปิ หราเปนฺติปิ, อุภโตวณฺฎิกมาลํ หรนฺติปิ หราเปนฺติปิ, มญฺชริกํ หรนฺติปิ หราเปนฺติปิ, วิธูติกํ หรนฺติปิ หราเปนฺติปิ, วฎํสกํ หรนฺติปิ หราเปนฺติปิ, อาเวฬํ หรนฺติปิ หราเปนฺติปิ, อุรจฺฉทํ หรนฺติปิ หราเปนฺติปิฯ เต กุลิตฺถีหิ กุลธีตาหิ กุลกุมารีหิ กุลสุณฺหาหิ กุลทาสีหิ สทฺธิํ เอกภาชเนปิ ภุญฺชนฺติ, เอกถาลเกปิ ปิวนฺติ, เอกาสเนปิ นิสีทนฺติ, เอกมเญฺจปิ ตุวเฎฺฎนฺติ, เอกตฺถรณาปิ ตุวเฎฺฎนฺติ, เอกปาวุรณาปิ ตุวเฎฺฎนฺติ, เอกตฺถรณปาวุรณาปิ ตุวเฎฺฎนฺติ, วิกาเลปิ ภุญฺชนฺติ, มชฺชมฺปิ ปิวนฺติ, มาลาคนฺธวิเลปนมฺปิ ธาเรนฺติ, นจฺจนฺติปิ, คายนฺติปิ, วาเทนฺติปิ, ลาเสนฺติปิ; นจฺจนฺติยาปิ นจฺจนฺติ, นจฺจนฺติยาปิ คายนฺติ, นจฺจนฺติยาปิ วาเทนฺติ, นจฺจนฺติยาปิ ลาเสนฺติ…เป.… ลาเสนฺติยาปิ นจฺจนฺติ, ลาเสนฺติยาปิ คายนฺติ, ลาเสนฺติยาปิ วาเทนฺติ, ลาเสนฺติยาปิ ลาเสนฺติ; อฎฺฐปเทปิ กีฬนฺติ, ทสปเทปิ กีฬนฺติ, อากาเสปิ กีฬนฺติ, ปริหารปเถปิ กีฬนฺติ, สนฺติกายปิ กีฬนฺติ, ขลิกายปิ กีฬนฺติ, ฆฎิกายปิ กีฬนฺติ, สลากหเตฺถนปิ กีฬนฺติ, อเกฺขนปิ กีฬนฺติ, ปงฺคจีเรนปิ กีฬนฺติ, วงฺกเกนปิ กีฬนฺติ, โมกฺขจิกายปิ กีฬนฺติ, จิงฺคุลเกนปิ กีฬนฺติ, ปตฺตาฬฺหเกนปิ กีฬนฺติ, รถเกนปิ กีฬนฺติ, ธนุเกนปิ กีฬนฺติ , อกฺขริกายปิ กีฬนฺติ, มเนสิกายปิ กีฬนฺติ, ยถาวเชฺชนปิ กีฬนฺติ; หตฺถิสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺติ, อสฺสสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺติ, รถสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺติ, ธนุสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺติ; ถรุสฺมิมฺปิ สิกฺขนฺติ; หตฺถิสฺสปิ ปุรโต ธาวนฺติ, อสฺสสฺสปิ ปุรโต ธาวนฺติ, รถสฺสปิ ปุรโต ธาวนฺติปิ อาธาวนฺติปิ; อุเสฺสเฬนฺติปิ, อโปฺผเฎนฺติปิ, นิพฺพุชฺฌนฺติปิ, มุฎฺฐีหิปิ ยุชฺฌนฺติ; รงฺคมเชฺฌปิ สงฺฆาฎิํ ปตฺถริตฺวา นจฺจกิํ เอวํ วทนฺติ – ‘‘อิธ, ภคินิ, นจฺจสฺสู’’ติ; นลาฎิกมฺปิ เทนฺติ; วิวิธมฺปิ อนาจารํ อาจรนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ…เป.… ‘‘น, ภิกฺขเว, วิวิธํ อนาจารํ อาจริตพฺพํฯ โย อาจเรยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพ’’ติฯ

    293. Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū evarūpaṃ anācāraṃ ācaranti – mālāvacchaṃ ropentipi ropāpentipi, siñcantipi siñcāpentipi, ocinantipi ocināpentipi, ganthentipi ganthāpentipi, ekatovaṇṭikamālaṃ karontipi kārāpentipi, ubhatovaṇṭikamālaṃ karontipi kārāpentipi, mañjarikaṃ karontipi kārāpentipi, vidhūtikaṃ karontipi kārāpentipi, vaṭaṃsakaṃ karontipi kārāpentipi, āveḷaṃ karontipi kārāpentipi, uracchadaṃ karontipi kārāpentipi. Te kulitthīnaṃ kuladhītānaṃ kulakumārīnaṃ kulasuṇhānaṃ kuladāsīnaṃ ekatovaṇṭikamālaṃ harantipi harāpentipi, ubhatovaṇṭikamālaṃ harantipi harāpentipi, mañjarikaṃ harantipi harāpentipi, vidhūtikaṃ harantipi harāpentipi, vaṭaṃsakaṃ harantipi harāpentipi, āveḷaṃ harantipi harāpentipi, uracchadaṃ harantipi harāpentipi. Te kulitthīhi kuladhītāhi kulakumārīhi kulasuṇhāhi kuladāsīhi saddhiṃ ekabhājanepi bhuñjanti, ekathālakepi pivanti, ekāsanepi nisīdanti, ekamañcepi tuvaṭṭenti, ekattharaṇāpi tuvaṭṭenti, ekapāvuraṇāpi tuvaṭṭenti, ekattharaṇapāvuraṇāpi tuvaṭṭenti, vikālepi bhuñjanti, majjampi pivanti, mālāgandhavilepanampi dhārenti, naccantipi, gāyantipi, vādentipi, lāsentipi; naccantiyāpi naccanti, naccantiyāpi gāyanti, naccantiyāpi vādenti, naccantiyāpi lāsenti…pe… lāsentiyāpi naccanti, lāsentiyāpi gāyanti, lāsentiyāpi vādenti, lāsentiyāpi lāsenti; aṭṭhapadepi kīḷanti, dasapadepi kīḷanti, ākāsepi kīḷanti, parihārapathepi kīḷanti, santikāyapi kīḷanti, khalikāyapi kīḷanti, ghaṭikāyapi kīḷanti, salākahatthenapi kīḷanti, akkhenapi kīḷanti, paṅgacīrenapi kīḷanti, vaṅkakenapi kīḷanti, mokkhacikāyapi kīḷanti, ciṅgulakenapi kīḷanti, pattāḷhakenapi kīḷanti, rathakenapi kīḷanti, dhanukenapi kīḷanti , akkharikāyapi kīḷanti, manesikāyapi kīḷanti, yathāvajjenapi kīḷanti; hatthismimpi sikkhanti, assasmimpi sikkhanti, rathasmimpi sikkhanti, dhanusmimpi sikkhanti; tharusmimpi sikkhanti; hatthissapi purato dhāvanti, assassapi purato dhāvanti, rathassapi purato dhāvantipi ādhāvantipi; usseḷentipi, apphoṭentipi, nibbujjhantipi, muṭṭhīhipi yujjhanti; raṅgamajjhepi saṅghāṭiṃ pattharitvā naccakiṃ evaṃ vadanti – ‘‘idha, bhagini, naccassū’’ti; nalāṭikampi denti; vividhampi anācāraṃ ācaranti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ…pe… ‘‘na, bhikkhave, vividhaṃ anācāraṃ ācaritabbaṃ. Yo ācareyya, yathādhammo kāretabbo’’ti.

    เตน โข ปน สมเยน อายสฺมเนฺต อุรุเวลกสฺสเป ปพฺพชิเต สงฺฆสฺส พหุํ โลหภณฺฑํ ทารุภณฺฑํ มตฺติกาภณฺฑํ อุปฺปนฺนํ โหติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กิํ นุ โข ภควตา โลหภณฺฑํ อนุญฺญาตํ, กิํ อนนุญฺญาตํ; กิํ ทารุภณฺฑํ อนุญฺญาตํ, กิํ อนนุญฺญาตํ; กิํ มตฺติกาภณฺฑํ อนุญฺญาตํ, กิํ อนนุญฺญาต’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ฐเปตฺวา ปหรณิํ สพฺพํ โลหภณฺฑํ, ฐเปตฺวา อาสนฺทิํ ปลฺลงฺกํ ทารุปตฺตํ ทารุปาทุกํ สพฺพํ ทารุภณฺฑํ, ฐเปตฺวา กตกญฺจ กุมฺภการิกญฺจ สพฺพํ มตฺติกาภณฺฑ’’นฺติฯ

    Tena kho pana samayena āyasmante uruvelakassape pabbajite saṅghassa bahuṃ lohabhaṇḍaṃ dārubhaṇḍaṃ mattikābhaṇḍaṃ uppannaṃ hoti. Atha kho bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘kiṃ nu kho bhagavatā lohabhaṇḍaṃ anuññātaṃ, kiṃ ananuññātaṃ; kiṃ dārubhaṇḍaṃ anuññātaṃ, kiṃ ananuññātaṃ; kiṃ mattikābhaṇḍaṃ anuññātaṃ, kiṃ ananuññāta’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, ṭhapetvā paharaṇiṃ sabbaṃ lohabhaṇḍaṃ, ṭhapetvā āsandiṃ pallaṅkaṃ dārupattaṃ dārupādukaṃ sabbaṃ dārubhaṇḍaṃ, ṭhapetvā katakañca kumbhakārikañca sabbaṃ mattikābhaṇḍa’’nti.

    ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธโก ปญฺจโมฯ

    Khuddakavatthukkhandhako pañcamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    รุเกฺข ถเมฺภ จ กุเฎฺฎ จ, อฎฺฎาเน คนฺธสุตฺติยา;

    Rukkhe thambhe ca kuṭṭe ca, aṭṭāne gandhasuttiyā;

    วิคยฺห มลฺลโก กจฺฉุ, ชรา จ ปุถุปาณิกาฯ

    Vigayha mallako kacchu, jarā ca puthupāṇikā.

    วลฺลิกาปิ จ ปามโงฺค, กณฺฐสุตฺตํ น ธารเย;

    Vallikāpi ca pāmaṅgo, kaṇṭhasuttaṃ na dhāraye;

    กฎิ โอวฎฺฎิ กายุรํ, หตฺถาภรณมุทฺทิกาฯ

    Kaṭi ovaṭṭi kāyuraṃ, hatthābharaṇamuddikā.

    ทีเฆ โกเจฺฉ ผเณ หเตฺถ, สิตฺถา อุทกเตลเก;

    Dīghe kocche phaṇe hatthe, sitthā udakatelake;

    อาทาสุทปตฺตวณา, อาเลโปมฺมทฺทจุณฺณนาฯ

    Ādāsudapattavaṇā, ālepommaddacuṇṇanā.

    ลเญฺฉนฺติ องฺคราคญฺจ, มุขราคํ ตทูภยํ;

    Lañchenti aṅgarāgañca, mukharāgaṃ tadūbhayaṃ;

    จกฺขุโรคํ คิรคฺคญฺจ, อายตํ สรพาหิรํฯ

    Cakkhurogaṃ giraggañca, āyataṃ sarabāhiraṃ.

    อมฺพเปสิสกเลหิ, อหิจฺฉินฺทิ จ จนฺทนํ;

    Ambapesisakalehi, ahicchindi ca candanaṃ;

    อุจฺจาวจา ปตฺตมูลา, สุวโณฺณ พหลา วลีฯ

    Uccāvacā pattamūlā, suvaṇṇo bahalā valī.

    จิตฺรา ทุสฺสติ ทุคฺคโนฺธ, อุเณฺห ภิชฺชิํสุ มิฑฺฒิยา;

    Citrā dussati duggandho, uṇhe bhijjiṃsu miḍḍhiyā;

    ปริภณฺฑํ ติณํ โจฬํ, มาลํ กุโณฺฑลิกาย จฯ

    Paribhaṇḍaṃ tiṇaṃ coḷaṃ, mālaṃ kuṇḍolikāya ca.

    ถวิกา อํสพทฺธญฺจ, ตถา พนฺธนสุตฺตกา;

    Thavikā aṃsabaddhañca, tathā bandhanasuttakā;

    ขิเล มเญฺจ จ ปีเฐ จ, อเงฺก ฉเตฺต ปณามนาฯ

    Khile mañce ca pīṭhe ca, aṅke chatte paṇāmanā.

    ตุมฺพฆฎิฉวสีสํ, จลกานิ ปฎิคฺคโห;

    Tumbaghaṭichavasīsaṃ, calakāni paṭiggaho;

    วิปฺผาลิทณฺฑโสวณฺณํ, ปเตฺต เปสิ จ นาฬิกาฯ

    Vipphālidaṇḍasovaṇṇaṃ, patte pesi ca nāḷikā.

    กิณฺณสตฺตุ สริตญฺจ, มธุสิตฺถํ สิปาฎิกํ;

    Kiṇṇasattu saritañca, madhusitthaṃ sipāṭikaṃ;

    วิกณฺณํ พนฺธิวิสมํ, ฉมาชิรปโหติ จฯ

    Vikaṇṇaṃ bandhivisamaṃ, chamājirapahoti ca.

    กฬิมฺภํ โมฆสุตฺตญฺจ, อโธตลฺลํ อุปาหนา;

    Kaḷimbhaṃ moghasuttañca, adhotallaṃ upāhanā;

    องฺคุเล ปฎิคฺคหญฺจ, วิตฺถกํ ถวิกพทฺธกาฯ

    Aṅgule paṭiggahañca, vitthakaṃ thavikabaddhakā.

    อโชฺฌกาเส นีจวตฺถุ, จโย จาปิ วิหญฺญเร;

    Ajjhokāse nīcavatthu, cayo cāpi vihaññare;

    ปริปติ ติณจุณฺณํ, อุลฺลิตฺตอวลิตฺตกํฯ

    Paripati tiṇacuṇṇaṃ, ullittaavalittakaṃ.

    เสตํ กาฬกวณฺณญฺจ, ปริกมฺมญฺจ เครุกํ;

    Setaṃ kāḷakavaṇṇañca, parikammañca gerukaṃ;

    มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ, มกรทนฺตกปาฎิกํฯ

    Mālākammaṃ latākammaṃ, makaradantakapāṭikaṃ.

    จีวรวํสํ รชฺชุญฺจ, อนุญฺญาสิ วินายโก;

    Cīvaravaṃsaṃ rajjuñca, anuññāsi vināyako;

    อุชฺฌิตฺวา ปกฺกมนฺติ จ, กถินํ ปริภิชฺชติฯ

    Ujjhitvā pakkamanti ca, kathinaṃ paribhijjati.

    วินิเวฐิยติ กุเฎฺฎปิ, ปเตฺตนาทาย คจฺฉเร;

    Viniveṭhiyati kuṭṭepi, pattenādāya gacchare;

    ถวิกา พนฺธสุตฺตญฺจ, พนฺธิตฺวา จ อุปาหนาฯ

    Thavikā bandhasuttañca, bandhitvā ca upāhanā.

    อุปาหนตฺถวิกญฺจ, อํสพทฺธญฺจ สุตฺตกํ;

    Upāhanatthavikañca, aṃsabaddhañca suttakaṃ;

    อุทกากปฺปิยํ มเคฺค, ปริสฺสาวนโจฬกํฯ

    Udakākappiyaṃ magge, parissāvanacoḷakaṃ.

    ธมฺมกรณํ เทฺว ภิกฺขู, เวสาลิํ อคมา มุนิ;

    Dhammakaraṇaṃ dve bhikkhū, vesāliṃ agamā muni;

    ทณฺฑํ โอตฺถรกํ ตตฺถ, อนุญฺญาสิ ปริสฺสาวนํฯ

    Daṇḍaṃ ottharakaṃ tattha, anuññāsi parissāvanaṃ.

    มกเสหิ ปณีเตน, พหฺวาพาธา จ ชีวโก;

    Makasehi paṇītena, bahvābādhā ca jīvako;

    จงฺกมนชนฺตาฆรํ , วิสเม นีจวตฺถุโกฯ

    Caṅkamanajantāgharaṃ , visame nīcavatthuko.

    ตโย จเย วิหญฺญนฺติ, โสปานาลมฺพเวทิกํ;

    Tayo caye vihaññanti, sopānālambavedikaṃ;

    อโชฺฌกาเส ติณจุณฺณํ, อุลฺลิตฺตอวลิตฺตกํฯ

    Ajjhokāse tiṇacuṇṇaṃ, ullittaavalittakaṃ.

    เสตกํ กาฬวณฺณญฺจ, ปริกมฺมญฺจ เครุกํ;

    Setakaṃ kāḷavaṇṇañca, parikammañca gerukaṃ;

    มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ, มกรทนฺตกปาฎิกํฯ

    Mālākammaṃ latākammaṃ, makaradantakapāṭikaṃ.

    วํสํ จีวรรชฺชุญฺจ, อุจฺจญฺจ วตฺถุกํ กเร;

    Vaṃsaṃ cīvararajjuñca, uccañca vatthukaṃ kare;

    จโย โสปานพาหญฺจ, กวาฎํ ปิฎฺฐสงฺฆาฎํฯ

    Cayo sopānabāhañca, kavāṭaṃ piṭṭhasaṅghāṭaṃ.

    อุทุกฺขลุตฺตรปาสกํ, วฎฺฎิญฺจ กปิสีสกํ;

    Udukkhaluttarapāsakaṃ, vaṭṭiñca kapisīsakaṃ;

    สูจิฆฎิตาฬจฺฉิทฺทํ, อาวิญฺฉนญฺจ รชฺชุกํฯ

    Sūcighaṭitāḷacchiddaṃ, āviñchanañca rajjukaṃ.

    มณฺฑลํ ธูมเนตฺตญฺจ, มเชฺฌ จ มุขมตฺติกา;

    Maṇḍalaṃ dhūmanettañca, majjhe ca mukhamattikā;

    โทณิ ทุคฺคนฺธา ทหติ, อุทกฎฺฐานํ สราวกํฯ

    Doṇi duggandhā dahati, udakaṭṭhānaṃ sarāvakaṃ.

    น เสเทติ จ จิกฺขลฺลํ, โธวิ นิทฺธมนํ กเร;

    Na sedeti ca cikkhallaṃ, dhovi niddhamanaṃ kare;

    ปีฐญฺจ โกฎฺฐเก กมฺมํ, มรุมฺพา สิลา นิทฺธมนํฯ

    Pīṭhañca koṭṭhake kammaṃ, marumbā silā niddhamanaṃ.

    นคฺคา ฉมาย วสฺสเนฺต, ปฎิจฺฉาที ตโย ตหิํ;

    Naggā chamāya vassante, paṭicchādī tayo tahiṃ;

    อุทปานํ ลุชฺชติ นีจํ, วลฺลิยา กายพนฺธเนฯ

    Udapānaṃ lujjati nīcaṃ, valliyā kāyabandhane.

    ตุลํ กฎกฎํ จกฺกํ, พหู ภิชฺชนฺติ ภาชนา;

    Tulaṃ kaṭakaṭaṃ cakkaṃ, bahū bhijjanti bhājanā;

    โลหทารุจมฺมขณฺฑํ, สาลาติณาปิธานิ จฯ

    Lohadārucammakhaṇḍaṃ, sālātiṇāpidhāni ca.

    โทณิจนฺทนิ ปาการํ, จิกฺขลฺลํ นิทฺธมเนน จ;

    Doṇicandani pākāraṃ, cikkhallaṃ niddhamanena ca;

    สีติคตํ โปกฺขรณิํ, ปุราณญฺจ นิเลฺลขณํฯ

    Sītigataṃ pokkharaṇiṃ, purāṇañca nillekhaṇaṃ.

    จาตุมาสํ สยนฺติ จ, นมตกญฺจ 111 นธิฎฺฐเห;

    Cātumāsaṃ sayanti ca, namatakañca 112 nadhiṭṭhahe;

    อาสิตฺตกํ มโฬริกํ, ภุญฺชเนฺตกํ ตุวเฎฺฎยฺยุํฯ

    Āsittakaṃ maḷorikaṃ, bhuñjantekaṃ tuvaṭṭeyyuṃ.

    วโฑฺฒ โพธิ น อกฺกมิ, ฆฎํ กตกสมฺมชฺชนิ;

    Vaḍḍho bodhi na akkami, ghaṭaṃ katakasammajjani;

    สกฺขรํ กถลเญฺจว, เผณกํ ปาทฆํสนีฯ

    Sakkharaṃ kathalañceva, pheṇakaṃ pādaghaṃsanī.

    วิธูปนํ ตาลวณฺฎํ, มกสญฺจาปิ จามรี;

    Vidhūpanaṃ tālavaṇṭaṃ, makasañcāpi cāmarī;

    ฉตฺตํ วินา จ อาราเม, ตโย สิกฺกาย สมฺมุติฯ

    Chattaṃ vinā ca ārāme, tayo sikkāya sammuti.

    โรมสิตฺถา นขา ทีฆา, ฉินฺทนฺตงฺคุลิกา ทุกฺขา;

    Romasitthā nakhā dīghā, chindantaṅgulikā dukkhā;

    สโลหิตํ ปมาณญฺจ, วีสติ ทีฆเกสตาฯ

    Salohitaṃ pamāṇañca, vīsati dīghakesatā.

    ขุรํ สิลํ สิปาฎิกํ, นมตกํ ขุรภณฺฑกํ;

    Khuraṃ silaṃ sipāṭikaṃ, namatakaṃ khurabhaṇḍakaṃ;

    มสฺสุํ กเปฺปนฺติ วเฑฺฒนฺติ, โคโลมิจตุรสฺสกํฯ

    Massuṃ kappenti vaḍḍhenti, golomicaturassakaṃ.

    ปริมุขํ อฑฺฒทุกญฺจ, ทาฐิสมฺพาธสํหเร;

    Parimukhaṃ aḍḍhadukañca, dāṭhisambādhasaṃhare;

    อาพาธา กตฺตริวโณ, ทีฆํ สกฺขริกาย จฯ

    Ābādhā kattarivaṇo, dīghaṃ sakkharikāya ca.

    ปลิตํ ถกิตํ อุจฺจา, โลหภณฺฑญฺชนี สห;

    Palitaṃ thakitaṃ uccā, lohabhaṇḍañjanī saha;

    ปลฺลตฺถิกญฺจ อาโยโค, วฎํ สลากพนฺธนํฯ

    Pallatthikañca āyogo, vaṭaṃ salākabandhanaṃ.

    กลาพุกํ เทฑฺฑุภกํ, มุรชํ มทฺทวีณกํ;

    Kalābukaṃ deḍḍubhakaṃ, murajaṃ maddavīṇakaṃ;

    ปฎฺฎิกา สูกรนฺตญฺจ, ทสา มุรชเวณิกา;

    Paṭṭikā sūkarantañca, dasā murajaveṇikā;

    อโนฺต โสภํ คุณกญฺจ, ปวนโนฺตปิ ชีรติฯ

    Anto sobhaṃ guṇakañca, pavanantopi jīrati.

    คณฺฐิกา อุจฺจาวจญฺจ, ผลกเนฺตปิ โอคาเห;

    Gaṇṭhikā uccāvacañca, phalakantepi ogāhe;

    คิหิวตฺถํ หตฺถิโสณฺฑํ, มจฺฉกํ จตุกณฺณกํฯ

    Gihivatthaṃ hatthisoṇḍaṃ, macchakaṃ catukaṇṇakaṃ.

    ตาลวณฺฎํ สตวลิ, คิหิปารุตปารุปํ;

    Tālavaṇṭaṃ satavali, gihipārutapārupaṃ;

    สํเวลฺลิ อุภโตกาชํ, ทนฺตกฎฺฐํ อาโกฎเนฯ

    Saṃvelli ubhatokājaṃ, dantakaṭṭhaṃ ākoṭane.

    กเณฺฐ วิลคฺคํ ทายญฺจ, ปฎคฺคิ รุกฺขหตฺถินา;

    Kaṇṭhe vilaggaṃ dāyañca, paṭaggi rukkhahatthinā;

    ยเมเฬ โลกายตกํ, ปริยาปุณิํสุ วาจยุํฯ

    Yameḷe lokāyatakaṃ, pariyāpuṇiṃsu vācayuṃ.

    ติรจฺฉานกถา วิชฺชา, ขิปิ มงฺคลํ ขาทิ จ;

    Tiracchānakathā vijjā, khipi maṅgalaṃ khādi ca;

    วาตาพาโธ ทุสฺสติ จ, ทุคฺคโนฺธ ทุกฺขปาทุกาฯ

    Vātābādho dussati ca, duggandho dukkhapādukā.

    หิริยนฺติ ปารุทุคฺคโนฺธ, ตหํ ตหํ กโรนฺติ จ;

    Hiriyanti pāruduggandho, tahaṃ tahaṃ karonti ca;

    ทุคฺคโนฺธ กูปํ ลุชฺชนฺติ, อุจฺจวตฺถุ จเยน จฯ

    Duggandho kūpaṃ lujjanti, uccavatthu cayena ca.

    โสปานาลมฺพนพาหา อเนฺต, ทุกฺขญฺจ ปาทุกา;

    Sopānālambanabāhā ante, dukkhañca pādukā;

    พหิทฺธา โทณิ กฎฺฐญฺจ, ปิฐโร จ อปารุโตฯ

    Bahiddhā doṇi kaṭṭhañca, piṭharo ca apāruto.

    วจฺจกุฎิํ กวาฎญฺจ, ปิฎฺฐสงฺฆาฎเมว จ;

    Vaccakuṭiṃ kavāṭañca, piṭṭhasaṅghāṭameva ca;

    อุทุกฺขลุตฺตรปาโส, วฎฺฎิญฺจ กปิสีสกํฯ

    Udukkhaluttarapāso, vaṭṭiñca kapisīsakaṃ.

    สูจิฆฎิตาฬจฺฉิทฺทํ, อาวิญฺฉนจฺฉิทฺทเมว จ;

    Sūcighaṭitāḷacchiddaṃ, āviñchanacchiddameva ca;

    รชฺชุ อุลฺลิตฺตาวลิตฺตํ, เสตวณฺณญฺจ กาฬกํฯ

    Rajju ullittāvalittaṃ, setavaṇṇañca kāḷakaṃ.

    มาลากมฺมํ ลตากมฺมํ, มกรํ ปญฺจปฎิกํ;

    Mālākammaṃ latākammaṃ, makaraṃ pañcapaṭikaṃ;

    จีวรวํสํ รชฺชุญฺจ, ชราทุพฺพลปาการํฯ

    Cīvaravaṃsaṃ rajjuñca, jarādubbalapākāraṃ.

    โกฎฺฐเก จาปิ ตเถว, มรุมฺพํ ปทรสิลา;

    Koṭṭhake cāpi tatheva, marumbaṃ padarasilā;

    สนฺติฎฺฐติ นิทฺธมนํ, กุมฺภิญฺจาปิ สราวกํฯ

    Santiṭṭhati niddhamanaṃ, kumbhiñcāpi sarāvakaṃ.

    ทุกฺขํ หิริ อปิธานํ, อนาจารญฺจ อาจรุํ;

    Dukkhaṃ hiri apidhānaṃ, anācārañca ācaruṃ;

    โลหภณฺฑํ อนุญฺญาสิ, ฐปยิตฺวา ปหรณิํฯ

    Lohabhaṇḍaṃ anuññāsi, ṭhapayitvā paharaṇiṃ.

    ฐปยิตฺวา สนฺทิปลฺลงฺกํ, ทารุปตฺตญฺจ ปาทุกํ;

    Ṭhapayitvā sandipallaṅkaṃ, dārupattañca pādukaṃ;

    สพฺพํ ทารุมยํ ภณฺฑํ, อนุญฺญาสิ มหามุนิฯ

    Sabbaṃ dārumayaṃ bhaṇḍaṃ, anuññāsi mahāmuni.

    กตกํ กุมฺภการญฺจ, ฐปยิตฺวา ตถาคโต;

    Katakaṃ kumbhakārañca, ṭhapayitvā tathāgato;

    สพฺพมฺปิ มตฺติกาภณฺฑํ, อนุญฺญาสิ อนุกมฺปโกฯ

    Sabbampi mattikābhaṇḍaṃ, anuññāsi anukampako.

    ยสฺส วตฺถุสฺส นิเทฺทโส, ปุริเมน ยทิ สมํ;

    Yassa vatthussa niddeso, purimena yadi samaṃ;

    ตมฺปิ สํขิตฺตํ อุทฺทาเน, นยโต ตํ วิชานิยาฯ

    Tampi saṃkhittaṃ uddāne, nayato taṃ vijāniyā.

    เอวํ ทสสตา วตฺถู, วินเย ขุทฺทกวตฺถุเก;

    Evaṃ dasasatā vatthū, vinaye khuddakavatthuke;

    สทฺธมฺมฎฺฐิติโก เจว, เปสลานญฺจนุคฺคโหฯ

    Saddhammaṭṭhitiko ceva, pesalānañcanuggaho.

    สุสิกฺขิโต วินยธโร, หิตจิโตฺต สุเปสโล;

    Susikkhito vinayadharo, hitacitto supesalo;

    ปทีปกรโณ ธีโร, ปูชารโห พหุสฺสุโตติฯ

    Padīpakaraṇo dhīro, pūjāraho bahussutoti.

    ขุทฺทกวตฺถุกฺขนฺธกํ นิฎฺฐิตํฯ

    Khuddakavatthukkhandhakaṃ niṭṭhitaṃ.







    Footnotes:
    1. คามโปทฺทวา (สี.), คามปูตวา (สฺยา.)
    2. gāmapoddavā (sī.), gāmapūtavā (syā.)
    3. กุเฑฺฑ (สี. สฺยา.)
    4. kuḍḍe (sī. syā.)
    5. อฎฺฐาเน (สี. สฺยา.)
    6. aṭṭhāne (sī. syā.)
    7. โอสเณฺหนฺติ (สี. สฺยา.)
    8. osaṇhenti (sī. syā.)
    9. สมชฺชา (อภิธานคเนฺถสุ)
    10. samajjā (abhidhānaganthesu)
    11. ยถา จ (ก.)
    12. yathā ca (ka.)
    13. พาหิยโลมิํ (ก.)
    14. bāhiyalomiṃ (ka.)
    15. นิพฺพฎฺฎพีชํ (สี. สฺยา.)
    16. nibbaṭṭabījaṃ (sī. syā.)
    17. ชา. ๑.๒.๑๐๕-๑๐๖; อ. นิ. ๔.๖๗ อิทํ วตฺถุ อาคตํ
    18. jā. 1.2.105-106; a. ni. 4.67 idaṃ vatthu āgataṃ
    19. สิริํสปานิ (สี. สฺยา.)
    20. siriṃsapāni (sī. syā.)
    21. จนฺทนสารสฺส (สี. สฺยา.)
    22. วาหิตฺวา (สี.)
    23. วาหิตฺวา (สฺยา.)
    24. สญฺชโย เพลฺลฎฺฐิปุโตฺต (สี.)
    25. นาถปุโตฺต (สี.)
    26. candanasārassa (sī. syā.)
    27. vāhitvā (sī.)
    28. vāhitvā (syā.)
    29. sañjayo bellaṭṭhiputto (sī.)
    30. nāthaputto (sī.)
    31. จลี (ก.)
    32. calī (ka.)
    33. สอุทกํ (ก.)
    34. saudakaṃ (ka.)
    35. ปริวฎฺฎิตฺวา (สฺยา.)
    36. parivaṭṭitvā (syā.)
    37. กวาโฎ ปณาเมตโพฺพ (ก.)
    38. kavāṭo paṇāmetabbo (ka.)
    39. ฆฎิกฎาเหน (สฺยา.)
    40. ghaṭikaṭāhena (syā.)
    41. กฐินํ กฐินรชฺชุํ (สี. สฺยา.)
    42. kaṭhinaṃ kaṭhinarajjuṃ (sī. syā.)
    43. โอคุเมฺพตฺวา (สี. สฺยา.)
    44. ogumbetvā (sī. syā.)
    45. ธมฺมกรณํ (สี. สฺยา.), ธมกรณํ (ก.)
    46. dhammakaraṇaṃ (sī. syā.), dhamakaraṇaṃ (ka.)
    47. พวฺหาพาธา (สี.)
    48. bavhābādhā (sī.)
    49. ปีฐสํฆาฎํ (ก.)
    50. pīṭhasaṃghāṭaṃ (ka.)
    51. ติณจฺฉาทเนน ฉาเทติ (ก.)
    52. tiṇacchādanena chādeti (ka.)
    53. อิทํ ปทํ กตฺถจิ นตฺถิ
    54. อิทํ ปทํ กตฺถจิ นตฺถิ
    55. idaṃ padaṃ katthaci natthi
    56. idaṃ padaṃ katthaci natthi
    57. วาหนฺติ (ก.)
    58. vāhanti (ka.)
    59. น เอกตฺถรเณ
    60. น เอกปาวุรเณ
    61. น เอกตฺถรณปาวุรเณ (สฺยา.)
    62. na ekattharaṇe
    63. na ekapāvuraṇe
    64. na ekattharaṇapāvuraṇe (syā.)
    65. อนาวาสาย (สฺยา.)
    66. anāvāsāya (syā.)
    67. สุํสุมารคิเร (สี. สฺยา.), สํสุมารคิเร (ก.)
    68. โกกนุโท (ก.)
    69. suṃsumāragire (sī. syā.), saṃsumāragire (ka.)
    70. kokanudo (ka.)
    71. เจลปตฺติกํ (สี.)
    72. celapattikaṃ (sī.)
    73. ตาลวณฺฑญฺจ (ก.)
    74. tālavaṇḍañca (ka.)
    75. ฉตฺตํ ปคฺคเหตฺวา (ก.)
    76. อโยฺย (ก.)
    77. chattaṃ paggahetvā (ka.)
    78. ayyo (ka.)
    79. โรมฎฺฐโก (ก.)
    80. กถํ หิ นาม วิกาลายํ(ก.)
    81. romaṭṭhako (ka.)
    82. kathaṃ hi nāma vikālāyaṃ(ka.)
    83. วิปฺปกิรียิํสุ (สี.), ปริกิริํสุ (สฺยา.)
    84. vippakirīyiṃsu (sī.), parikiriṃsu (syā.)
    85. วีสติมฎฺฎํ (สี.)
    86. vīsatimaṭṭaṃ (sī.)
    87. อฑฺฒุรกํ (สี.), อฑฺฒรุกํ (สฺยา.)
    88. aḍḍhurakaṃ (sī.), aḍḍharukaṃ (syā.)
    89. อาโยคา (สี. สฺยา.)
    90. เวมกํ วฎฺฎํ (สี.), เวมกํ วฎํ (สฺยา.)
    91. āyogā (sī. syā.)
    92. vemakaṃ vaṭṭaṃ (sī.), vemakaṃ vaṭaṃ (syā.)
    93. วีถนฺติ (สี. สฺยา.)
    94. vīthanti (sī. syā.)
    95. โกโณ (สี. สฺยา.)
    96. koṇo (sī. syā.)
    97. จตุรงฺคุลํ ปจฺฉิมํ (ก.)
    98. caturaṅgulaṃ pacchimaṃ (ka.)
    99. ยเมฬุเตกุลา นาม (สี.), เมฎฺฐโกกุฎฺฐา นาม (สฺยา.)
    100. yameḷutekulā nāma (sī.), meṭṭhakokuṭṭhā nāma (syā.)
    101. วุเตฺต (ก.)
    102. vutte (ka.)
    103. ภิกฺขเว ภิกฺขุนา (สฺยา.)
    104. bhikkhave bhikkhunā (syā.)
    105. อถ โข อายสฺมา สาริปุโตฺต อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ ‘‘ปุเพฺพ โข เม อาวุโส โมคฺคลฺลาน อุทรวาตาพาโธ ลสุเณน ผาสุ โหตี’’ติ (ก.)
    106. atha kho āyasmā sāriputto āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca ‘‘pubbe kho me āvuso moggallāna udaravātābādho lasuṇena phāsu hotī’’ti (ka.)
    107. (อนุชานามิ ภิกฺขเว โกฎฺฐกนฺติฯ โกฎฺฐโก นีจวตฺถุโก โหติ…เป.… อนุชานามิ ภิกฺขเว อุจฺจวตฺถุกํ กาตุนฺติฯ จโย ปริปตติ…เป.… อนุชานามิ ภิกฺขเว จินิตุํ ตโย จเย อิฎฺฐกาจยํ สิลาจยํ ทารุจยนฺติฯ อาโรหนฺตา วิหญฺญนฺติ…เป.… อนุชานามิ ภิกฺขเว ตโย โสปาเน อิฎฺฐกาโสปานํ สิลาโสปานํ ทารุโสปานนฺติฯ อาโรหนฺตา ปริปตนฺติ…เป.… อนุชานามิ ภิกฺขเว อาลมฺพนพาหนฺติฯ โกฎฺฐกสฺส กวาฎํ น โหติฯ) (สฺยา. กํ.)
    108. ปฎฺฎสิลํ (ก.)
    109. (anujānāmi bhikkhave koṭṭhakanti. koṭṭhako nīcavatthuko hoti…pe… anujānāmi bhikkhave uccavatthukaṃ kātunti. cayo paripatati…pe… anujānāmi bhikkhave cinituṃ tayo caye iṭṭhakācayaṃ silācayaṃ dārucayanti. ārohantā vihaññanti…pe… anujānāmi bhikkhave tayo sopāne iṭṭhakāsopānaṃ silāsopānaṃ dārusopānanti. ārohantā paripatanti…pe… anujānāmi bhikkhave ālambanabāhanti. koṭṭhakassa kavāṭaṃ na hoti.) (syā. kaṃ.)
    110. paṭṭasilaṃ (ka.)
    111. คนฺธปุปฺผํ (สฺยา.)
    112. gandhapupphaṃ (syā.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ขุทฺทกวตฺถุกถา • Khuddakavatthukathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา • Khuddakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา • Khuddakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ขุทฺทกวตฺถุกถาวณฺณนา • Khuddakavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ขุทฺทกวตฺถุกถา • Khuddakavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact