Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๓. กิํทิฎฺฐิกสุตฺตํ
3. Kiṃdiṭṭhikasuttaṃ
๙๓. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ทิวา ทิวสฺส สาวตฺถิยา นิกฺขมิ ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อกาโล โข ตาว ภควนฺตํ ทสฺสนายฯ ปฎิสลฺลีโน ภควาฯ มโนภาวนียานมฺปิ ภิกฺขูนํ อกาโล ทสฺสนายฯ ปฎิสลฺลีนา มโนภาวนียา ภิกฺขูฯ ยํนูนาหํ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกเมยฺย’’นฺติฯ
93. Ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati divā divassa sāvatthiyā nikkhami bhagavantaṃ dassanāya. Atha kho anāthapiṇḍikassa gahapatissa etadahosi – ‘‘akālo kho tāva bhagavantaṃ dassanāya. Paṭisallīno bhagavā. Manobhāvanīyānampi bhikkhūnaṃ akālo dassanāya. Paṭisallīnā manobhāvanīyā bhikkhū. Yaṃnūnāhaṃ yena aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ ārāmo tenupasaṅkameyya’’nti.
อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ อาราโม เตนุปสงฺกมิฯ เตน โข ปน สมเยน อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา สงฺคมฺม สมาคมฺม อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเนกวิหิตํ ติรจฺฉานกถํ กเถนฺตา นิสินฺนา โหนฺติฯ อทฺทสํสุ โข เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน อญฺญมญฺญํ สณฺฐาเปสุํ – ‘‘อปฺปสทฺทา โภโนฺต โหนฺตุ, มา โภโนฺต สทฺทมกตฺถฯ อยํ อนาถปิณฺฑิโก คหปติ อารามํ อาคจฺฉติ สมณสฺส โคตมสฺส สาวโกฯ ยาวตา โข ปน สมณสฺส โคตมสฺส สาวกา คิหี โอทาตวสนา สาวตฺถิยํ ปฎิวสนฺติ, อยํ เตสํ อญฺญตโร อนาถปิณฺฑิโก คหปติฯ อปฺปสทฺทกามา โข ปน เต อายสฺมโนฺต อปฺปสทฺทวินีตา อปฺปสทฺทสฺส วณฺณวาทิโนฯ อเปฺปว นาม อปฺปสทฺทํ ปริสํ วิทิตฺวา อุปสงฺกมิตพฺพํ มเญฺญยฺยา’’ติฯ
Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati yena aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ ārāmo tenupasaṅkami. Tena kho pana samayena aññatitthiyā paribbājakā saṅgamma samāgamma unnādino uccāsaddamahāsaddā anekavihitaṃ tiracchānakathaṃ kathentā nisinnā honti. Addasaṃsu kho te aññatitthiyā paribbājakā anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ dūratova āgacchantaṃ. Disvāna aññamaññaṃ saṇṭhāpesuṃ – ‘‘appasaddā bhonto hontu, mā bhonto saddamakattha. Ayaṃ anāthapiṇḍiko gahapati ārāmaṃ āgacchati samaṇassa gotamassa sāvako. Yāvatā kho pana samaṇassa gotamassa sāvakā gihī odātavasanā sāvatthiyaṃ paṭivasanti, ayaṃ tesaṃ aññataro anāthapiṇḍiko gahapati. Appasaddakāmā kho pana te āyasmanto appasaddavinītā appasaddassa vaṇṇavādino. Appeva nāma appasaddaṃ parisaṃ viditvā upasaṅkamitabbaṃ maññeyyā’’ti.
อถ โข เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา ตุณฺหี อเหสุํฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เต อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอตทโวจุํ – ‘‘วเทหิ, คหปติ, กิํทิฎฺฐิโก สมโณ โคตโม’’ติ? ‘‘น โข อหํ, ภเนฺต, ภควโต สพฺพํ ทิฎฺฐิํ ชานามี’’ติฯ
Atha kho te aññatitthiyā paribbājakā tuṇhī ahesuṃ. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati yena te aññatitthiyā paribbājakā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā tehi aññatitthiyehi paribbājakehi saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ te aññatitthiyā paribbājakā etadavocuṃ – ‘‘vadehi, gahapati, kiṃdiṭṭhiko samaṇo gotamo’’ti? ‘‘Na kho ahaṃ, bhante, bhagavato sabbaṃ diṭṭhiṃ jānāmī’’ti.
‘‘อิติ กิร ตฺวํ, คหปติ, น สมณสฺส โคตมสฺส สพฺพํ ทิฎฺฐิํ ชานาสิ; วเทหิ, คหปติ, กิํทิฎฺฐิกา ภิกฺขู’’ติ? ‘‘ภิกฺขูนมฺปิ โข อหํ, ภเนฺต, น สพฺพํ ทิฎฺฐิํ ชานามี’’ติฯ
‘‘Iti kira tvaṃ, gahapati, na samaṇassa gotamassa sabbaṃ diṭṭhiṃ jānāsi; vadehi, gahapati, kiṃdiṭṭhikā bhikkhū’’ti? ‘‘Bhikkhūnampi kho ahaṃ, bhante, na sabbaṃ diṭṭhiṃ jānāmī’’ti.
‘‘อิติ กิร ตฺวํ, คหปติ, น สมณสฺส โคตมสฺส สพฺพํ ทิฎฺฐิํ ชานาสิ นปิ ภิกฺขูนํ สพฺพํ ทิฎฺฐิํ ชานาสิ; วเทหิ, คหปติ, กิํทิฎฺฐิโกสิ ตุว’’นฺติ? ‘‘เอตํ โข, ภเนฺต, อเมฺหหิ น ทุกฺกรํ พฺยากาตุํ ยํทิฎฺฐิกา มยํฯ อิงฺฆ ตาว อายสฺมโนฺต ยถาสกานิ ทิฎฺฐิคตานิ พฺยากโรนฺตุ, ปจฺฉาเปตํ อเมฺหหิ น ทุกฺกรํ ภวิสฺสติ พฺยากาตุํ ยํทิฎฺฐิกา มย’’นฺติฯ
‘‘Iti kira tvaṃ, gahapati, na samaṇassa gotamassa sabbaṃ diṭṭhiṃ jānāsi napi bhikkhūnaṃ sabbaṃ diṭṭhiṃ jānāsi; vadehi, gahapati, kiṃdiṭṭhikosi tuva’’nti? ‘‘Etaṃ kho, bhante, amhehi na dukkaraṃ byākātuṃ yaṃdiṭṭhikā mayaṃ. Iṅgha tāva āyasmanto yathāsakāni diṭṭhigatāni byākarontu, pacchāpetaṃ amhehi na dukkaraṃ bhavissati byākātuṃ yaṃdiṭṭhikā maya’’nti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ – เอวํทิฎฺฐิโก อหํ, คหปตี’’ติฯ
Evaṃ vutte aññataro paribbājako anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘sassato loko, idameva saccaṃ moghamaññanti – evaṃdiṭṭhiko ahaṃ, gahapatī’’ti.
อญฺญตโรปิ โข ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ – เอวํทิฎฺฐิโก อหํ, คหปตี’’ติฯ
Aññataropi kho paribbājako anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘asassato loko, idameva saccaṃ moghamaññanti – evaṃdiṭṭhiko ahaṃ, gahapatī’’ti.
อญฺญตโรปิ โข ปริพฺพาชโก อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจ – ‘‘อนฺตวา โลโก…เป.… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ – เอวํทิฎฺฐิโก อหํ, คหปตี’’ติฯ
Aññataropi kho paribbājako anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ etadavoca – ‘‘antavā loko…pe… anantavā loko… taṃ jīvaṃ taṃ sarīraṃ… aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīraṃ… hoti tathāgato paraṃ maraṇā… na hoti tathāgato paraṃ maraṇā… hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā… neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā, idameva saccaṃ moghamaññanti – evaṃdiṭṭhiko ahaṃ, gahapatī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เต ปริพฺพาชเก เอตทโวจ – ‘‘ยฺวายํ, ภเนฺต, อายสฺมา เอวมาห – ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ – เอวํทิฎฺฐิโก อหํ, คหปตี’ติ , อิมสฺส อยมายสฺมโต ทิฎฺฐิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วาฯ สา โข ปเนสา ทิฎฺฐิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนาฯ ยํ โข ปน กิญฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํฯ ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํฯ ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโตฯ
Evaṃ vutte anāthapiṇḍiko gahapati te paribbājake etadavoca – ‘‘yvāyaṃ, bhante, āyasmā evamāha – ‘sassato loko, idameva saccaṃ moghamaññanti – evaṃdiṭṭhiko ahaṃ, gahapatī’ti , imassa ayamāyasmato diṭṭhi attano vā ayonisomanasikārahetu uppannā paratoghosapaccayā vā. Sā kho panesā diṭṭhi bhūtā saṅkhatā cetayitā paṭiccasamuppannā. Yaṃ kho pana kiñci bhūtaṃ saṅkhataṃ cetayitaṃ paṭiccasamuppannaṃ tadaniccaṃ. Yadaniccaṃ taṃ dukkhaṃ. Yaṃ dukkhaṃ tadeveso āyasmā allīno, tadeveso āyasmā ajjhupagato.
‘‘โยปายํ , ภเนฺต, อายสฺมา เอวมาห – ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ – เอวํทิฎฺฐิโก อหํ, คหปตี’ติ, อิมสฺสาปิ อยมายสฺมโต ทิฎฺฐิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วาฯ สา โข ปเนสา ทิฎฺฐิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนาฯ ยํ โข ปน กิญฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํฯ ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํฯ ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโตฯ
‘‘Yopāyaṃ , bhante, āyasmā evamāha – ‘asassato loko, idameva saccaṃ moghamaññanti – evaṃdiṭṭhiko ahaṃ, gahapatī’ti, imassāpi ayamāyasmato diṭṭhi attano vā ayonisomanasikārahetu uppannā paratoghosapaccayā vā. Sā kho panesā diṭṭhi bhūtā saṅkhatā cetayitā paṭiccasamuppannā. Yaṃ kho pana kiñci bhūtaṃ saṅkhataṃ cetayitaṃ paṭiccasamuppannaṃ tadaniccaṃ. Yadaniccaṃ taṃ dukkhaṃ. Yaṃ dukkhaṃ tadeveso āyasmā allīno, tadeveso āyasmā ajjhupagato.
‘‘โยปายํ, ภเนฺต, อายสฺมา เอวมาห – ‘อนฺตวา โลโก …เป.… อนนฺตวา โลโก… ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ… อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ… โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ – เอวํทิฎฺฐิโก อหํ, คหปตี’ติ, อิมสฺสาปิ อยมายสฺมโต ทิฎฺฐิ อตฺตโน วา อโยนิโสมนสิการเหตุ อุปฺปนฺนา ปรโตโฆสปจฺจยา วาฯ สา โข ปเนสา ทิฎฺฐิ ภูตา สงฺขตา เจตยิตา ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนาฯ ยํ โข ปน กิญฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํฯ ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํฯ ยํ ทุกฺขํ ตเทเวโส อายสฺมา อลฺลีโน, ตเทเวโส อายสฺมา อชฺฌุปคโต’’ติฯ
‘‘Yopāyaṃ, bhante, āyasmā evamāha – ‘antavā loko …pe… anantavā loko… taṃ jīvaṃ taṃ sarīraṃ… aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīraṃ… hoti tathāgato paraṃ maraṇā… na hoti tathāgato paraṃ maraṇā… hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā… neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā, idameva saccaṃ moghamaññanti – evaṃdiṭṭhiko ahaṃ, gahapatī’ti, imassāpi ayamāyasmato diṭṭhi attano vā ayonisomanasikārahetu uppannā paratoghosapaccayā vā. Sā kho panesā diṭṭhi bhūtā saṅkhatā cetayitā paṭiccasamuppannā. Yaṃ kho pana kiñci bhūtaṃ saṅkhataṃ cetayitaṃ paṭiccasamuppannaṃ tadaniccaṃ. Yadaniccaṃ taṃ dukkhaṃ. Yaṃ dukkhaṃ tadeveso āyasmā allīno, tadeveso āyasmā ajjhupagato’’ti.
เอวํ วุเตฺต เต ปริพฺพาชกา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ เอตทโวจุํ – ‘‘พฺยากตานิ โข, คหปติ, อเมฺหหิ สเพฺพเหว ยถาสกานิ ทิฎฺฐิคตานิฯ วเทหิ, คหปติ, กิํทิฎฺฐิโกสิ ตุว’’นฺติ? ‘‘ยํ โข, ภเนฺต, กิญฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํฯ ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํฯ ‘ยํ ทุกฺขํ ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ – เอวํทิฎฺฐิโก อหํ, ภเนฺต’’ติฯ
Evaṃ vutte te paribbājakā anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ etadavocuṃ – ‘‘byākatāni kho, gahapati, amhehi sabbeheva yathāsakāni diṭṭhigatāni. Vadehi, gahapati, kiṃdiṭṭhikosi tuva’’nti? ‘‘Yaṃ kho, bhante, kiñci bhūtaṃ saṅkhataṃ cetayitaṃ paṭiccasamuppannaṃ tadaniccaṃ. Yadaniccaṃ taṃ dukkhaṃ. ‘Yaṃ dukkhaṃ taṃ netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti – evaṃdiṭṭhiko ahaṃ, bhante’’ti.
‘‘ยํ โข, คหปติ, กิญฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํฯ ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํฯ ยํ ทุกฺขํ ตเทว ตฺวํ, คหปติ, อลฺลีโน, ตเทว ตฺวํ, คหปติ, อชฺฌุปคโต’’ติฯ
‘‘Yaṃ kho, gahapati, kiñci bhūtaṃ saṅkhataṃ cetayitaṃ paṭiccasamuppannaṃ tadaniccaṃ. Yadaniccaṃ taṃ dukkhaṃ. Yaṃ dukkhaṃ tadeva tvaṃ, gahapati, allīno, tadeva tvaṃ, gahapati, ajjhupagato’’ti.
‘‘ยํ โข, ภเนฺต, กิญฺจิ ภูตํ สงฺขตํ เจตยิตํ ปฎิจฺจสมุปฺปนฺนํ ตทนิจฺจํฯ ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํฯ ‘ยํ ทุกฺขํ ตํ เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, นเมโส อตฺตา’ติ – เอวเมตํ ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย สุทิฎฺฐํ ฯ ตสฺส จ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานามี’’ติฯ
‘‘Yaṃ kho, bhante, kiñci bhūtaṃ saṅkhataṃ cetayitaṃ paṭiccasamuppannaṃ tadaniccaṃ. Yadaniccaṃ taṃ dukkhaṃ. ‘Yaṃ dukkhaṃ taṃ netaṃ mama, nesohamasmi, nameso attā’ti – evametaṃ yathābhūtaṃ sammappaññāya sudiṭṭhaṃ . Tassa ca uttari nissaraṇaṃ yathābhūtaṃ pajānāmī’’ti.
เอวํ วุเตฺต เต ปริพฺพาชกา ตุณฺหีภูตา มงฺกุภูตา ปตฺตกฺขนฺธา อโธมุขา ปชฺฌายนฺตา อปฺปฎิภานา นิสีทิํสุฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เต ปริพฺพาชเก ตุณฺหีภูเต มงฺกุภูเต ปตฺตกฺขเนฺธ อโธมุเข ปชฺฌายเนฺต อปฺปฎิภาเน วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ยาวตโก อโหสิ เตหิ อญฺญติตฺถิเยหิ ปริพฺพาชเกหิ สทฺธิํ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิฯ ‘‘สาธุ สาธุ, คหปติ! เอวํ โข เต, คหปติ, โมฆปุริสา กาเลน กาลํ สหธเมฺมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเหตพฺพา’’ติฯ
Evaṃ vutte te paribbājakā tuṇhībhūtā maṅkubhūtā pattakkhandhā adhomukhā pajjhāyantā appaṭibhānā nisīdiṃsu. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati te paribbājake tuṇhībhūte maṅkubhūte pattakkhandhe adhomukhe pajjhāyante appaṭibhāne viditvā uṭṭhāyāsanā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho anāthapiṇḍiko gahapati yāvatako ahosi tehi aññatitthiyehi paribbājakehi saddhiṃ kathāsallāpo taṃ sabbaṃ bhagavato ārocesi. ‘‘Sādhu sādhu, gahapati! Evaṃ kho te, gahapati, moghapurisā kālena kālaṃ sahadhammena suniggahitaṃ niggahetabbā’’ti.
อถ โข ภควา อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควตา ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺสิโต สมาทปิโต สมุเตฺตชิโต สมฺปหํสิโต อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ
Atha kho bhagavā anāthapiṇḍikaṃ gahapatiṃ dhammiyā kathāya sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi. Atha kho anāthapiṇḍiko gahapati bhagavatā dhammiyā kathāya sandassito samādapito samuttejito sampahaṃsito uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi.
อถ โข ภควา อจิรปกฺกเนฺต อนาถปิณฺฑิเก คหปติมฺหิ ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘โยปิ โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วสฺสสตุปสมฺปโนฺน 1 อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย, โสปิ เอวเมวํ อญฺญติตฺถิเย ปริพฺพาชเก สหธเมฺมน สุนิคฺคหิตํ นิคฺคเณฺหยฺย ยถา ตํ อนาถปิณฺฑิเกน คหปตินา นิคฺคหิตา’’ติฯ ตติยํฯ
Atha kho bhagavā acirapakkante anāthapiṇḍike gahapatimhi bhikkhū āmantesi – ‘‘yopi so, bhikkhave, bhikkhu vassasatupasampanno 2 imasmiṃ dhammavinaye, sopi evamevaṃ aññatitthiye paribbājake sahadhammena suniggahitaṃ niggaṇheyya yathā taṃ anāthapiṇḍikena gahapatinā niggahitā’’ti. Tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. กิํทิฎฺฐิกสุตฺตวณฺณนา • 3. Kiṃdiṭṭhikasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๔. กามโภคีสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-4. Kāmabhogīsuttādivaṇṇanā