Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๒๔๘] ๘. กิํสุโกปมชาตกวณฺณนา
[248] 8. Kiṃsukopamajātakavaṇṇanā
สเพฺพหิ กิํสุโก ทิโฎฺฐติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต กิํสุโกปมสุตฺตนฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ จตฺตาโร หิ ภิกฺขู ตถาคตํ อุปสงฺกมิตฺวา กมฺมฎฺฐานํ ยาจิํสุ, สตฺถา เตสํ กมฺมฎฺฐานํ กเถสิฯ เต กมฺมฎฺฐานํ คเหตฺวา อตฺตโน รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐานานิ อคมิํสุฯ เตสุ เอโก ฉ ผสฺสายตนานิ ปริคฺคณฺหิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ, เอโก ปญฺจกฺขเนฺธ, เอโก จตฺตาโร มหาภูเต, เอโก อฎฺฐารส ธาตุโยฯ เต อตฺตโน อตฺตโน อธิคตวิเสสํ สตฺถุ อาโรเจสุํฯ อเถกสฺส ภิกฺขุโน ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘‘อิเมสํ กมฺมฎฺฐานานิ นานา, นิพฺพานํ เอกํ, กถํ สเพฺพหิ อรหตฺตํ ปตฺต’’นฺติฯ โส สตฺถารํ ปุจฺฉิฯ สตฺถา ‘‘กิํ เต, ภิกฺขุ, กิํสุกทิฎฺฐภาติเกหิ นานตฺต’’นฺติ วตฺวา ‘‘อิทํ โน, ภเนฺต, การณํ กเถถา’’ติ ภิกฺขูหิ ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Sabbehikiṃsuko diṭṭhoti idaṃ satthā jetavane viharanto kiṃsukopamasuttantaṃ ārabbha kathesi. Cattāro hi bhikkhū tathāgataṃ upasaṅkamitvā kammaṭṭhānaṃ yāciṃsu, satthā tesaṃ kammaṭṭhānaṃ kathesi. Te kammaṭṭhānaṃ gahetvā attano rattiṭṭhānadivāṭṭhānāni agamiṃsu. Tesu eko cha phassāyatanāni pariggaṇhitvā arahattaṃ pāpuṇi, eko pañcakkhandhe, eko cattāro mahābhūte, eko aṭṭhārasa dhātuyo. Te attano attano adhigatavisesaṃ satthu ārocesuṃ. Athekassa bhikkhuno parivitakko udapādi – ‘‘imesaṃ kammaṭṭhānāni nānā, nibbānaṃ ekaṃ, kathaṃ sabbehi arahattaṃ patta’’nti. So satthāraṃ pucchi. Satthā ‘‘kiṃ te, bhikkhu, kiṃsukadiṭṭhabhātikehi nānatta’’nti vatvā ‘‘idaṃ no, bhante, kāraṇaṃ kathethā’’ti bhikkhūhi yācito atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต ตสฺส จตฺตาโร ปุตฺตา อเหสุํฯ เต เอกทิวสํ สารถิํ ปโกฺกเสตฺวา ‘‘มยํ, สมฺม, กิํสุกํ ทฎฺฐุกามา, กิํสุกรุกฺขํ โน ทเสฺสหี’’ติ อาหํสุฯ สารถิ ‘‘สาธุ, ทเสฺสสฺสามี’’ติ วตฺวา จตุนฺนมฺปิ เอกโต อทเสฺสตฺวา เชฎฺฐราชปุตฺตํ ตาว รเถ นิสีทาเปตฺวา อรญฺญํ เนตฺวา ‘‘อยํ กิํสุโก’’ติ ขาณุกกาเล กิํสุกํ ทเสฺสสิฯ อปรสฺส พหลปลาสกาเล, อปรสฺส ปุปฺผิตกาเล, อปรสฺส ผลิตกาเลฯ อปรภาเค จตฺตาโรปิ ภาตโร เอกโต นิสินฺนา ‘‘กิํสุโก นาม กีทิโส’’ติ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํฯ ตโต เอโก ‘‘เสยฺยาถาปิ ฌามถูโณ’’ติ อาหฯ ทุติโย ‘‘เสยฺยถาปิ นิโคฺรธรุโกฺข’’ติ, ตติโย ‘‘เสยฺยถาปิ มํสเปสี’’ติ, จตุโตฺถ ‘‘เสยฺยถาปิ สิรีโส’’ติฯ เต อญฺญมญฺญสฺส กถาย อปริตุฎฺฐา ปิตุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘เทว, กิํสุโก นาม กีทิโส’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘ตุเมฺหหิ กิํ กถิต’’นฺติ วุเตฺต อตฺตนา กถิตนีหารํ รโญฺญ กเถสุํฯ ราชา ‘‘จตูหิปิ ตุเมฺหหิ กิํสุโก ทิโฎฺฐ, เกวลํ โว กิํสุกสฺส ทเสฺสโนฺต สารถิ ‘อิมสฺมิํ กาเล กิํสุโก กีทิโส , อิมสฺมิํ กีทิโส’ติ วิภชิตฺวา น ปุจฺฉิโต, เตน โว กงฺขา อุปฺปนฺนา’’ติ วตฺวา ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente tassa cattāro puttā ahesuṃ. Te ekadivasaṃ sārathiṃ pakkosetvā ‘‘mayaṃ, samma, kiṃsukaṃ daṭṭhukāmā, kiṃsukarukkhaṃ no dassehī’’ti āhaṃsu. Sārathi ‘‘sādhu, dassessāmī’’ti vatvā catunnampi ekato adassetvā jeṭṭharājaputtaṃ tāva rathe nisīdāpetvā araññaṃ netvā ‘‘ayaṃ kiṃsuko’’ti khāṇukakāle kiṃsukaṃ dassesi. Aparassa bahalapalāsakāle, aparassa pupphitakāle, aparassa phalitakāle. Aparabhāge cattāropi bhātaro ekato nisinnā ‘‘kiṃsuko nāma kīdiso’’ti kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ. Tato eko ‘‘seyyāthāpi jhāmathūṇo’’ti āha. Dutiyo ‘‘seyyathāpi nigrodharukkho’’ti, tatiyo ‘‘seyyathāpi maṃsapesī’’ti, catuttho ‘‘seyyathāpi sirīso’’ti. Te aññamaññassa kathāya aparituṭṭhā pitu santikaṃ gantvā ‘‘deva, kiṃsuko nāma kīdiso’’ti pucchitvā ‘‘tumhehi kiṃ kathita’’nti vutte attanā kathitanīhāraṃ rañño kathesuṃ. Rājā ‘‘catūhipi tumhehi kiṃsuko diṭṭho, kevalaṃ vo kiṃsukassa dassento sārathi ‘imasmiṃ kāle kiṃsuko kīdiso , imasmiṃ kīdiso’ti vibhajitvā na pucchito, tena vo kaṅkhā uppannā’’ti vatvā paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๙๖.
196.
‘‘สเพฺพหิ กิํสุโก ทิโฎฺฐ, กิํ เนฺวตฺถ วิจิกิจฺฉถ;
‘‘Sabbehi kiṃsuko diṭṭho, kiṃ nvettha vicikicchatha;
น หิ สเพฺพสุ ฐาเนสุ, สารถี ปริปุจฺฉิโต’’ติฯ
Na hi sabbesu ṭhānesu, sārathī paripucchito’’ti.
ตตฺถ น หิ สเพฺพสุ ฐาเนสุ, สารถี ปริปุจฺฉิโตติ สเพฺพหิ โว กิํสุโก ทิโฎฺฐ, กิํ นุ ตุเมฺห เอตฺถ วิจิกิจฺฉถ, สเพฺพสุ ฐาเนสุ กิํสุโกเวโส, ตุเมฺหหิ ปน น หิ สเพฺพสุ ฐาเนสุ สารถิ ปริปุจฺฉิโต, เตน โว กงฺขา อุปฺปนฺนาติฯ
Tattha na hi sabbesu ṭhānesu, sārathī paripucchitoti sabbehi vo kiṃsuko diṭṭho, kiṃ nu tumhe ettha vicikicchatha, sabbesu ṭhānesu kiṃsukoveso, tumhehi pana na hi sabbesu ṭhānesu sārathi paripucchito, tena vo kaṅkhā uppannāti.
สตฺถา อิมํ การณํ ทเสฺสตฺวา ‘‘ยถา, ภิกฺขุ, เต จตฺตาโร ภาติกา วิภาคํ กตฺวา อปุจฺฉิตตฺตา กิํสุเก กงฺขํ อุปฺปาเทสุํ, เอวํ ตฺวมฺปิ อิมสฺมิํ ธเมฺม กงฺขํ อุปฺปาเทสี’’ติ วตฺวา อภิสมฺพุโทฺธ หุตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
Satthā imaṃ kāraṇaṃ dassetvā ‘‘yathā, bhikkhu, te cattāro bhātikā vibhāgaṃ katvā apucchitattā kiṃsuke kaṅkhaṃ uppādesuṃ, evaṃ tvampi imasmiṃ dhamme kaṅkhaṃ uppādesī’’ti vatvā abhisambuddho hutvā dutiyaṃ gāthamāha –
๑๙๗.
197.
‘‘เอวํ สเพฺพหิ ญาเณหิ, เยสํ ธมฺมา อชานิตา;
‘‘Evaṃ sabbehi ñāṇehi, yesaṃ dhammā ajānitā;
เต เว ธเมฺมสุ กงฺขนฺติ, กิํสุกสฺมิํว ภาตโร’’ติฯ
Te ve dhammesu kaṅkhanti, kiṃsukasmiṃva bhātaro’’ti.
ตสฺสโตฺถ – ยถา เต ภาตโร สเพฺพสุ ฐาเนสุ กิํสุกสฺส อทิฎฺฐตฺตา กงฺขิํสุ, เอวํ สเพฺพหิ วิปสฺสนาญาเณหิ เยสํ สเพฺพ ฉผสฺสายตนขนฺธภูตธาตุเภทา ธมฺมา อชานิตา, โสตาปตฺติมคฺคสฺส อนธิคตตฺตา อปฺปฎิวิทฺธา, เต เว เตสุ ผสฺสายตนาทิธเมฺมสุ กงฺขนฺติ ยถา เอกสฺมิํเยว กิํสุกสฺมิํ จตฺตาโร ภาตโรติฯ
Tassattho – yathā te bhātaro sabbesu ṭhānesu kiṃsukassa adiṭṭhattā kaṅkhiṃsu, evaṃ sabbehi vipassanāñāṇehi yesaṃ sabbe chaphassāyatanakhandhabhūtadhātubhedā dhammā ajānitā, sotāpattimaggassa anadhigatattā appaṭividdhā, te ve tesu phassāyatanādidhammesu kaṅkhanti yathā ekasmiṃyeva kiṃsukasmiṃ cattāro bhātaroti.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา พาราณสิราชา อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā bārāṇasirājā ahameva ahosi’’nti.
กิํสุโกปมชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ
Kiṃsukopamajātakavaṇṇanā aṭṭhamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๔๘. กิํสุโกปมชาตกํ • 248. Kiṃsukopamajātakaṃ