Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๘. กิํสุโกปมสุตฺตํ

    8. Kiṃsukopamasuttaṃ

    ๒๔๕. อถ โข อญฺญตโร ภิกฺขุ เยนญฺญตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ, เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติฯ

    245. Atha kho aññataro bhikkhu yenaññataro bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kittāvatā nu kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti? ‘‘Yato kho, āvuso, bhikkhu channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca yathābhūtaṃ pajānāti, ettāvatā kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti.

    อถ โข โส ภิกฺขุ อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน 1, เยนญฺญตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ, เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติฯ

    Atha kho so bhikkhu asantuṭṭho tassa bhikkhussa pañhaveyyākaraṇena 2, yenaññataro bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kittāvatā nu kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti? ‘‘Yato kho, āvuso, bhikkhu pañcannaṃ upādānakkhandhānaṃ samudayañca atthaṅgamañca yathābhūtaṃ pajānāti, ettāvatā kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti.

    อถ โข โส ภิกฺขุ อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน, เยนญฺญตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ, เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติฯ

    Atha kho so bhikkhu asantuṭṭho tassa bhikkhussa pañhaveyyākaraṇena, yenaññataro bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kittāvatā nu kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti? ‘‘Yato kho, āvuso, bhikkhu catunnaṃ mahābhūtānaṃ samudayañca atthaṅgamañca yathābhūtaṃ pajānāti, ettāvatā kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti.

    อถ โข โส ภิกฺขุ อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน, เยนญฺญตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติ? ‘‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ , สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, เอตฺตาวตา, โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติฯ

    Atha kho so bhikkhu asantuṭṭho tassa bhikkhussa pañhaveyyākaraṇena, yenaññataro bhikkhu tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavoca – ‘‘kittāvatā nu kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti? ‘‘Yato kho, āvuso, bhikkhu yaṃ kiñci samudayadhammaṃ , sabbaṃ taṃ nirodhadhammanti yathābhūtaṃ pajānāti, ettāvatā, kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti.

    อถ โข โส ภิกฺขุ อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธาหํ, ภเนฺต, เยนญฺญตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจํ – กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’ติ? เอวํ วุเตฺต, ภเนฺต, โส ภิกฺขุ มํ เอตทโวจ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ, เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’ติฯ อถ ขฺวาหํ, ภเนฺต, อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน , เยนญฺญตโร ภิกฺขุ เตนุปสงฺกมิํ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ เอตทโวจํ – ‘กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’ติ? เอวํ วุเตฺต, ภเนฺต, โส ภิกฺขุ มํ เอตทโวจ – ‘ยโต โข, อาวุโส, ภิกฺขุ ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ…เป.… จตุนฺนํ มหาภูตานํ สมุทยญฺจ อตฺถงฺคมญฺจ ยถาภูตํ ปชานาติ…เป.… ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’ติฯ อถ ขฺวาหํ, ภเนฺต, อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ภิกฺขุสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํ ( ) 3ฯ กิตฺตาวตา นุ โข, ภเนฺต, ภิกฺขุโน ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหตี’’ติ?

    Atha kho so bhikkhu asantuṭṭho tassa bhikkhussa pañhaveyyākaraṇena, yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idhāhaṃ, bhante, yenaññataro bhikkhu tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavocaṃ – kittāvatā nu kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’ti? Evaṃ vutte, bhante, so bhikkhu maṃ etadavoca – ‘yato kho, āvuso, bhikkhu channaṃ phassāyatanānaṃ samudayañca atthaṅgamañca yathābhūtaṃ pajānāti, ettāvatā kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’ti. Atha khvāhaṃ, bhante, asantuṭṭho tassa bhikkhussa pañhaveyyākaraṇena , yenaññataro bhikkhu tenupasaṅkamiṃ; upasaṅkamitvā taṃ bhikkhuṃ etadavocaṃ – ‘kittāvatā nu kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’ti? Evaṃ vutte, bhante, so bhikkhu maṃ etadavoca – ‘yato kho, āvuso, bhikkhu pañcannaṃ upādānakkhandhānaṃ…pe… catunnaṃ mahābhūtānaṃ samudayañca atthaṅgamañca yathābhūtaṃ pajānāti…pe… yaṃ kiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ nirodhadhammanti yathābhūtaṃ pajānāti, ettāvatā kho, āvuso, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’ti. Atha khvāhaṃ, bhante, asantuṭṭho tassa bhikkhussa pañhaveyyākaraṇena yena bhagavā tenupasaṅkamiṃ ( ) 4. Kittāvatā nu kho, bhante, bhikkhuno dassanaṃ suvisuddhaṃ hotī’’ti?

    ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, ปุริสสฺส กิํสุโก อทิฎฺฐปุโพฺพ อสฺสฯ โส เยนญฺญตโร ปุริโส กิํสุกสฺส ทสฺสาวี เตนุปสงฺกเมยฺยฯ อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุริสํ เอวํ วเทยฺย – ‘กีทิโส, โภ ปุริส, กิํสุโก’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘กาฬโก โข, อโมฺภ ปุริส, กิํสุโก – เสยฺยถาปิ ฌามขาณู’ติฯ เตน โข ปน, ภิกฺขุ, สมเยน ตาทิโสวสฺส กิํสุโก ยถาปิ 5 ตสฺส ปุริสสฺส ทสฺสนํฯ อถ โข, โส ภิกฺขุ, ปุริโส อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ปุริสสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน, เยนญฺญตโร ปุริโส กิํสุกสฺส ทสฺสาวี เตนุปสงฺกเมยฺย; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุริสํ เอวํ วเทยฺย – ‘กีทิโส , โภ ปุริส, กิํสุโก’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘โลหิตโก โข, อโมฺภ ปุริส, กิํสุโก – เสยฺยถาปิ มํสเปสี’ติฯ เตน โข ปน, ภิกฺขุ, สมเยน ตาทิโสวสฺส กิํสุโก ยถาปิ ตสฺส ปุริสสฺส ทสฺสนํฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ปุริโส อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ปุริสสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน, เยนญฺญตโร ปุริโส กิํสุกสฺส ทสฺสาวี เตนุปสงฺกเมยฺย ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุริสํ เอวํ วเทยฺย – ‘กีทิโส, โภ ปุริส, กิํสุโก’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘โอจีรกชาโต 6 โข, อโมฺภ ปุริส, กิํสุโก อาทินฺนสิปาฎิโก – เสยฺยถาปิ สิรีโส’ติฯ เตน โข ปน, ภิกฺขุ, สมเยน ตาทิโสวสฺส กิํสุโก, ยถาปิ ตสฺส ปุริสสฺส ทสฺสนํฯ อถ โข โส ภิกฺขุ ปุริโส อสนฺตุโฎฺฐ ตสฺส ปุริสสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน , เยนญฺญตโร ปุริโส กิํสุกสฺส ทสฺสาวี เตนุปสงฺกเมยฺย; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุริสํ เอวํ วเทยฺย – ‘กีทิโส, โภ ปุริส, กิํสุโก’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘พหลปตฺตปลาโส สนฺทจฺฉาโย 7 โข, อโมฺภ ปุริส, กิํสุโก – เสยฺยถาปิ นิโคฺรโธ’ติฯ เตน โข ปน, ภิกฺขุ, สมเยน ตาทิโสวสฺส กิํสุโก, ยถาปิ ตสฺส ปุริสสฺส ทสฺสนํฯ เอวเมว โข, ภิกฺขุ, ยถา ยถา อธิมุตฺตานํ เตสํ สปฺปุริสานํ ทสฺสนํ สุวิสุทฺธํ โหติ, ตถา ตถา โข เตหิ สปฺปุริเสหิ พฺยากตํฯ

    ‘‘Seyyathāpi, bhikkhu, purisassa kiṃsuko adiṭṭhapubbo assa. So yenaññataro puriso kiṃsukassa dassāvī tenupasaṅkameyya. Upasaṅkamitvā taṃ purisaṃ evaṃ vadeyya – ‘kīdiso, bho purisa, kiṃsuko’ti? So evaṃ vadeyya – ‘kāḷako kho, ambho purisa, kiṃsuko – seyyathāpi jhāmakhāṇū’ti. Tena kho pana, bhikkhu, samayena tādisovassa kiṃsuko yathāpi 8 tassa purisassa dassanaṃ. Atha kho, so bhikkhu, puriso asantuṭṭho tassa purisassa pañhaveyyākaraṇena, yenaññataro puriso kiṃsukassa dassāvī tenupasaṅkameyya; upasaṅkamitvā taṃ purisaṃ evaṃ vadeyya – ‘kīdiso , bho purisa, kiṃsuko’ti? So evaṃ vadeyya – ‘lohitako kho, ambho purisa, kiṃsuko – seyyathāpi maṃsapesī’ti. Tena kho pana, bhikkhu, samayena tādisovassa kiṃsuko yathāpi tassa purisassa dassanaṃ. Atha kho so bhikkhu puriso asantuṭṭho tassa purisassa pañhaveyyākaraṇena, yenaññataro puriso kiṃsukassa dassāvī tenupasaṅkameyya ; upasaṅkamitvā taṃ purisaṃ evaṃ vadeyya – ‘kīdiso, bho purisa, kiṃsuko’ti? So evaṃ vadeyya – ‘ocīrakajāto 9 kho, ambho purisa, kiṃsuko ādinnasipāṭiko – seyyathāpi sirīso’ti. Tena kho pana, bhikkhu, samayena tādisovassa kiṃsuko, yathāpi tassa purisassa dassanaṃ. Atha kho so bhikkhu puriso asantuṭṭho tassa purisassa pañhaveyyākaraṇena , yenaññataro puriso kiṃsukassa dassāvī tenupasaṅkameyya; upasaṅkamitvā taṃ purisaṃ evaṃ vadeyya – ‘kīdiso, bho purisa, kiṃsuko’ti? So evaṃ vadeyya – ‘bahalapattapalāso sandacchāyo 10 kho, ambho purisa, kiṃsuko – seyyathāpi nigrodho’ti. Tena kho pana, bhikkhu, samayena tādisovassa kiṃsuko, yathāpi tassa purisassa dassanaṃ. Evameva kho, bhikkhu, yathā yathā adhimuttānaṃ tesaṃ sappurisānaṃ dassanaṃ suvisuddhaṃ hoti, tathā tathā kho tehi sappurisehi byākataṃ.

    ‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขุ, รโญฺญ ปจฺจนฺติมํ นครํ ทฬฺหุทฺธาปํ 11 ทฬฺหปาการโตรณํ ฉทฺวารํฯ ตตฺรสฺส โทวาริโก ปณฺฑิโต พฺยโตฺต เมธาวี, อญฺญาตานํ นิวาเรตา, ญาตานํ ปเวเสตาฯ ปุรตฺถิมาย ทิสาย อาคนฺตฺวา สีฆํ ทูตยุคํ ตํ โทวาริกํ เอวํ วเทยฺย – ‘กหํ, โภ ปุริส, อิมสฺส นครสฺส นครสฺสามี’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘เอโส, ภเนฺต, มเชฺฌ สิงฺฆาฎเก นิสิโนฺน’ติฯ อถ โข ตํ สีฆํ ทูตยุคํ นครสฺสามิกสฺส ยถาภูตํ วจนํ นิยฺยาเตตฺวา ยถาคตมคฺคํ ปฎิปเชฺชยฺยฯ ปจฺฉิมาย ทิสาย อาคนฺตฺวา สีฆํ ทูตยุคํ…เป.… อุตฺตราย ทิสาย… ทกฺขิณาย ทิสาย อาคนฺตฺวา สีฆํ ทูตยุคํ ตํ โทวาริกํ เอวํ วเทยฺย – ‘กหํ, โภ ปุริส, อิมสฺส นครสฺสามี’ติ? โส เอวํ วเทยฺย – ‘เอโส, ภเนฺต, มเชฺฌ สิงฺฆาฎเก นิสิโนฺน’ติฯ อถ โข ตํ สีฆํ ทูตยุคํ นครสฺสามิกสฺส ยถาภูตํ วจนํ นิยฺยาเตตฺวา ยถาคตมคฺคํ ปฎิปเชฺชยฺยฯ

    ‘‘Seyyathāpi, bhikkhu, rañño paccantimaṃ nagaraṃ daḷhuddhāpaṃ 12 daḷhapākāratoraṇaṃ chadvāraṃ. Tatrassa dovāriko paṇḍito byatto medhāvī, aññātānaṃ nivāretā, ñātānaṃ pavesetā. Puratthimāya disāya āgantvā sīghaṃ dūtayugaṃ taṃ dovārikaṃ evaṃ vadeyya – ‘kahaṃ, bho purisa, imassa nagarassa nagarassāmī’ti? So evaṃ vadeyya – ‘eso, bhante, majjhe siṅghāṭake nisinno’ti. Atha kho taṃ sīghaṃ dūtayugaṃ nagarassāmikassa yathābhūtaṃ vacanaṃ niyyātetvā yathāgatamaggaṃ paṭipajjeyya. Pacchimāya disāya āgantvā sīghaṃ dūtayugaṃ…pe… uttarāya disāya… dakkhiṇāya disāya āgantvā sīghaṃ dūtayugaṃ taṃ dovārikaṃ evaṃ vadeyya – ‘kahaṃ, bho purisa, imassa nagarassāmī’ti? So evaṃ vadeyya – ‘eso, bhante, majjhe siṅghāṭake nisinno’ti. Atha kho taṃ sīghaṃ dūtayugaṃ nagarassāmikassa yathābhūtaṃ vacanaṃ niyyātetvā yathāgatamaggaṃ paṭipajjeyya.

    ‘‘อุปมา โข มฺยายํ, ภิกฺขุ, กตา อตฺถสฺส วิญฺญาปนายฯ อยเญฺจตฺถ อโตฺถ – ‘นคร’นฺติ โข, ภิกฺขุ, อิมเสฺสตํ จาตุมหาภูติกสฺส กายสฺส อธิวจนํ มาตาเปตฺติกสมฺภวสฺส โอทนกุมฺมาสูปจยสฺส อนิจฺจุจฺฉาทนปริมทฺทนเภทนวิทฺธํสนธมฺมสฺสฯ ‘ฉ ทฺวารา’ติ โข, ภิกฺขุ, ฉเนฺนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํฯ ‘โทวาริโก’ติ โข, ภิกฺขุ, สติยา เอตํ อธิวจนํฯ ‘สีฆํ ทูตยุค’นฺติ โข, ภิกฺขุ, สมถวิปสฺสนาเนตํ อธิวจนํฯ ‘นครสฺสามี’ติ โข, ภิกฺขุ, วิญฺญาณเสฺสตํ อธิวจนํฯ ‘มเชฺฌ สิงฺฆาฎโก’ติ โข , ภิกฺขุ, จตุเนฺนตํ มหาภูตานํ อธิวจนํ – ปถวีธาตุยา, อาโปธาตุยา, เตโชธาตุยา, วาโยธาตุยาฯ ‘ยถาภูตํ วจน’นฺติ โข, ภิกฺขุ, นิพฺพานเสฺสตํ อธิวจนํฯ ‘ยถาคตมโคฺค’ติ โข, ภิกฺขุ, อริยเสฺสตํ อฎฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺส อธิวจนํ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิยา…เป.… สมฺมาสมาธิสฺสา’’ติฯ อฎฺฐมํฯ

    ‘‘Upamā kho myāyaṃ, bhikkhu, katā atthassa viññāpanāya. Ayañcettha attho – ‘nagara’nti kho, bhikkhu, imassetaṃ cātumahābhūtikassa kāyassa adhivacanaṃ mātāpettikasambhavassa odanakummāsūpacayassa aniccucchādanaparimaddanabhedanaviddhaṃsanadhammassa. ‘Cha dvārā’ti kho, bhikkhu, channetaṃ ajjhattikānaṃ āyatanānaṃ adhivacanaṃ. ‘Dovāriko’ti kho, bhikkhu, satiyā etaṃ adhivacanaṃ. ‘Sīghaṃ dūtayuga’nti kho, bhikkhu, samathavipassanānetaṃ adhivacanaṃ. ‘Nagarassāmī’ti kho, bhikkhu, viññāṇassetaṃ adhivacanaṃ. ‘Majjhe siṅghāṭako’ti kho , bhikkhu, catunnetaṃ mahābhūtānaṃ adhivacanaṃ – pathavīdhātuyā, āpodhātuyā, tejodhātuyā, vāyodhātuyā. ‘Yathābhūtaṃ vacana’nti kho, bhikkhu, nibbānassetaṃ adhivacanaṃ. ‘Yathāgatamaggo’ti kho, bhikkhu, ariyassetaṃ aṭṭhaṅgikassa maggassa adhivacanaṃ, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhiyā…pe… sammāsamādhissā’’ti. Aṭṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. ปญฺหาเวยฺยากรเณน (สฺยา. กํ. ก.)
    2. pañhāveyyākaraṇena (syā. kaṃ. ka.)
    3. (อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจํ) (ก.)
    4. (upasaṅkamitvā bhagavantaṃ etadavocaṃ) (ka.)
    5. ยถา (สี. สฺยา. กํ.) ทุติยวาราทีสุ ปน ‘‘ยถาปิ’’เตฺวว ทิสฺสติ
    6. โอชีรกชาโต (สี.), โอทีรกชาโต (ปี.)
    7. สณฺฑจฺฉาโย (สฺยา. กํ.)
    8. yathā (sī. syā. kaṃ.) dutiyavārādīsu pana ‘‘yathāpi’’tveva dissati
    9. ojīrakajāto (sī.), odīrakajāto (pī.)
    10. saṇḍacchāyo (syā. kaṃ.)
    11. ทฬฺหุทฺทาปํ (สี. ปี.)
    12. daḷhuddāpaṃ (sī. pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. กิํสุโกปมสุตฺตวณฺณนา • 8. Kiṃsukopamasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘. กิํสุโกปมสุตฺตวณฺณนา • 8. Kiṃsukopamasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact