Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๘. กิํสุโกปมสุตฺตวณฺณนา
8. Kiṃsukopamasuttavaṇṇanā
๒๔๕. จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปริญฺญาภิสมยาทิวเสน วิวิธทสฺสนนฺติ กิจฺจวเสน นานาทสฺสนํ โหตีติ วุตฺตํ, ‘‘ทสฺสนนฺติ ปฐมมคฺคเสฺสตํ อธิวจน’’นฺติ ฯ ตยิทํ อุปริมเคฺคสุ ภาวนาปริยายสฺส นิรุฬฺหตฺตา ปฐมมคฺคสฺส ปฐมํ นิพฺพานทสฺสนโตฯ เตนาห ‘‘ปฐมมโคฺค หี’’ติอาทิ ฯ โกจิ ยถาวุตฺตํ อวิปรีตํ อตฺถํ อชานโนฺต ญาณทสฺสนํ นาม อารมฺมณกรณสฺส วเสน อติปฺปสงฺคํ อาสเงฺกยฺยาติ ตํ นิวเตฺตตุํ ‘‘โคตฺรภู ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ น ทสฺสนนฺติ วุจฺจตีติ เอตฺถ ราชทสฺสนํ อุทาหรนฺติฯ จตฺตาโรปิ มคฺคา ทสฺสนเมว ยถาวุเตฺตนเตฺถน, ภาวนาปริยาโย ปน อุปริ ติณฺณํ มคฺคานํ ปฐมมคฺคอุปายสฺส ภาวนากาเรน ปวตฺตนโตฯ ทสฺสนํ วิสุทฺธิ เอตฺถาติ ทสฺสนวิสุทฺธิกํ, นิพฺพานํฯ ผสฺสายตนํ กมฺมฎฺฐานํ อสฺส อตฺถีติ ผสฺสายตนกมฺมฎฺฐานิโกฯ เอส นโย เสเสสุปิ ปเทสุฯ
245. Catunnaṃ ariyasaccānaṃ pariññābhisamayādivasena vividhadassananti kiccavasena nānādassanaṃ hotīti vuttaṃ, ‘‘dassananti paṭhamamaggassetaṃ adhivacana’’nti . Tayidaṃ uparimaggesu bhāvanāpariyāyassa niruḷhattā paṭhamamaggassa paṭhamaṃ nibbānadassanato. Tenāha ‘‘paṭhamamaggo hī’’tiādi . Koci yathāvuttaṃ aviparītaṃ atthaṃ ajānanto ñāṇadassanaṃ nāma ārammaṇakaraṇassa vasena atippasaṅgaṃ āsaṅkeyyāti taṃ nivattetuṃ ‘‘gotrabhū panā’’tiādi vuttaṃ. Na dassananti vuccatīti ettha rājadassanaṃ udāharanti. Cattāropi maggā dassanameva yathāvuttenatthena, bhāvanāpariyāyo pana upari tiṇṇaṃ maggānaṃ paṭhamamaggaupāyassa bhāvanākārena pavattanato. Dassanaṃ visuddhi etthāti dassanavisuddhikaṃ, nibbānaṃ. Phassāyatanaṃ kammaṭṭhānaṃ assa atthīti phassāyatanakammaṭṭhāniko. Esa nayo sesesupi padesu.
ปเทสสงฺขาเรสูติ สงฺขาเรกเทเสสุฯ เหฎฺฐิมปริเจฺฉเทน ปถวิอาทิเก ธมฺมมเตฺต ทิเฎฺฐ รูปปริคฺคโห, จกฺขุวิญฺญาณาทิเก ตํสหคตธมฺมมเตฺต ทิเฎฺฐ อรูปปริคฺคโห จ สิชฺฌตีติ วทนฺติฯ
Padesasaṅkhāresūti saṅkhārekadesesu. Heṭṭhimaparicchedena pathaviādike dhammamatte diṭṭhe rūpapariggaho, cakkhuviññāṇādike taṃsahagatadhammamatte diṭṭhe arūpapariggaho ca sijjhatīti vadanti.
อธิคตมคฺคเมว กเถสีติ เยน มุเขน วิปสฺสนาภินิเวสํ อกาสิ, ตเมวสฺส มุขํ กเถสิฯ อยํ ปนาติ กมฺมฎฺฐานํ ปุจฺฉโนฺต ภิกฺขุฯ อิเมสนฺติ ผสฺสายตนกมฺมฎฺฐานิกปญฺจกฺขนฺธกมฺมฎฺฐานิกานํ วจนํฯ ‘‘อญฺญมญฺญํ น สเมตี’’ติ วตฺวา ตเมวตฺถํ ปากฎํ กโรติ ‘‘ปฐเมนา’’ติอาทินาฯ ปญฺจกฺขนฺธวิมุตฺตสฺส สงฺขารสฺส อภาวา ‘‘นิปฺปเทเสสู’’ติ วุตฺตํฯ ตเถวาติ ยเถว ผสฺสายตนกมฺมฎฺฐานิกํ, ตเถว ตํ ปญฺจกฺขนฺธกมฺมฎฺฐานิกํ ปุจฺฉิตฺวาฯ
Adhigatamaggameva kathesīti yena mukhena vipassanābhinivesaṃ akāsi, tamevassa mukhaṃ kathesi. Ayaṃ panāti kammaṭṭhānaṃ pucchanto bhikkhu. Imesanti phassāyatanakammaṭṭhānikapañcakkhandhakammaṭṭhānikānaṃ vacanaṃ. ‘‘Aññamaññaṃ na sametī’’ti vatvā tamevatthaṃ pākaṭaṃ karoti ‘‘paṭhamenā’’tiādinā. Pañcakkhandhavimuttassa saṅkhārassa abhāvā ‘‘nippadesesū’’ti vuttaṃ. Tathevāti yatheva phassāyatanakammaṭṭhānikaṃ, tatheva taṃ pañcakkhandhakammaṭṭhānikaṃ pucchitvā.
สมปฺปวตฺตา ธาตุโยติ รสาทโย สรีรธาตุโย สมปฺปวตฺตา, น วิสมาการสณฺฐิตา อเหสุํฯ เตนาห ‘‘กลฺลสรีรํ พลปฺปตฺต’’นฺติฯ ‘‘อตีตา สงฺขารา’’ติอาทิ วิปสฺสนาภินิเวสวเสน วุตฺตํฯ สมฺมสนํ สพฺพตฺถกเมว อิจฺฉิตพฺพํฯ จาริภูมินฺติ โคจรฎฺฐานํฯ
Samappavattā dhātuyoti rasādayo sarīradhātuyo samappavattā, na visamākārasaṇṭhitā ahesuṃ. Tenāha ‘‘kallasarīraṃ balappatta’’nti. ‘‘Atītā saṅkhārā’’tiādi vipassanābhinivesavasena vuttaṃ. Sammasanaṃ sabbatthakameva icchitabbaṃ. Cāribhūminti gocaraṭṭhānaṃ.
การกภาวนฺติ ภาวนานุยุญฺชนภาวํฯ ปณฺฑุโรคปุริโสติ ปณฺฑุโรคี ปุริโสฯ อริฎฺฐนฺติ สุตฺตํฯ เภสชฺชํ กตฺวาติ เภสชฺชปโยคํ กตฺวาฯ กริสฺสามีติ เภสชฺชํ กริสฺสามิฯ ฌามถุโณ วิยาติ ทฑฺฒถุโณ วิย ขารกชาลนทฺธตฺตา ตรุณมกุลสนฺตานสญฺฉนฺนตฺตาฯ
Kārakabhāvanti bhāvanānuyuñjanabhāvaṃ. Paṇḍurogapurisoti paṇḍurogī puriso. Ariṭṭhanti suttaṃ. Bhesajjaṃ katvāti bhesajjapayogaṃ katvā. Karissāmīti bhesajjaṃ karissāmi. Jhāmathuṇo viyāti daḍḍhathuṇo viya khārakajālanaddhattā taruṇamakulasantānasañchannattā.
ทกฺขิณทฺวารคาเมติ ทกฺขิณทฺวารสมีเป คาเมฯ โลหิตโกติ โลหิตวโณฺณฯ โอจิรกชาโตติ ชาตโอลมฺพมานจิรโก วิยฯ อาทินฺนสิปาฎิโกติ คหิตผลโปตโกฯ สนฺทจฺฉาโยติ พหลจฺฉาโยฯ ยสฺมา ตสฺส รุกฺขสฺส สาขา อวิรฬา ฆนปฺปตฺตา อญฺญมญฺญํ สํสนฺทิตฺวา ฐิตา, ตสฺมา ฉายาปิสฺส ตาทิสีติ วุตฺตํ ‘‘สนฺทจฺฉาโย นาม สํสนฺทิตฺวา ฐิตจฺฉาโย’’ติ, ฆนจฺฉาโยติ อโตฺถฯ ตตฺถาติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํฯ
Dakkhiṇadvāragāmeti dakkhiṇadvārasamīpe gāme. Lohitakoti lohitavaṇṇo. Ocirakajātoti jātaolambamānacirako viya. Ādinnasipāṭikoti gahitaphalapotako. Sandacchāyoti bahalacchāyo. Yasmā tassa rukkhassa sākhā aviraḷā ghanappattā aññamaññaṃ saṃsanditvā ṭhitā, tasmā chāyāpissa tādisīti vuttaṃ ‘‘sandacchāyo nāma saṃsanditvā ṭhitacchāyo’’ti, ghanacchāyoti attho. Tatthātiādi upamāsaṃsandanaṃ.
เยน เยนากาเรน อธิมุตฺตานนฺติ ฉผสฺสายตนาทิมุเขน เยน เยน วิปสฺสนาภินิเวเสน วิปสฺสนฺตานํ นิพฺพานญฺจ อธิมุตฺตานํฯ สุฎฺฐุ วิสุทฺธํ ปริญฺญาติสมยาทิสิทฺธิยาฯ เตน เตเนวากาเรนาติ อตฺตนาธิมุตฺตากาเรนฯ อิทานิ ตํ ตํ อาการํ อุปมาย สทฺธิํ โยเชตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ อารทฺธํฯ ตํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Yenayenākārena adhimuttānanti chaphassāyatanādimukhena yena yena vipassanābhinivesena vipassantānaṃ nibbānañca adhimuttānaṃ. Suṭṭhu visuddhaṃ pariññātisamayādisiddhiyā. Tena tenevākārenāti attanādhimuttākārena. Idāni taṃ taṃ ākāraṃ upamāya saddhiṃ yojetvā dassetuṃ ‘‘yathā hī’’tiādi āraddhaṃ. Taṃ suviññeyyameva.
อิทนฺติ นคโรปมํฯ ตํ สลฺลกฺขิตนฺติ กิํสุโกปมทีปิตํ อตฺถชาตํ สเจ สลฺลกฺขิตํฯ อสฺส ภิกฺขุโนฯ ธมฺมเทสนตฺถนฺติ ยถาสลฺลกฺขิตสฺส อตฺถสฺส วเสน ลทฺธวิเสสสฺส อุปพฺรูหนายฯ ตเสฺสวตฺถสฺสาติ ตสฺส ทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาตสฺส อตฺถสฺสฯ โจราสงฺกา น โหนฺติ มชฺฌิมเทสรชฺชสฺส ปสนฺนภาวโตฯ ติปุริสุเพฺพธานีติ อุเพฺพเธน ติปุริสปฺปมาณานิ นานาภิตฺติวิจิตฺตานิ ถมฺภานํ อุปริ วิวิธมาลากมฺมาทิวิจิตฺตธนุราการลกฺขิตานิ มโนรมานิฯ เตนาห ‘‘นครสฺส อลงฺการตฺถ’’นฺติฯ นครทฺวารสฺส ถิรภาวาปาทนวเสน ฐเปตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘โจรนิวารณตฺถานิปิ โหนฺติเยวา’’ติฯ ปิฎฺฐสงฺฆาตสฺสาติ ทฺวารพาหสฺสฯ ‘‘อิเม อาวาสิกา, อิเม อาคนฺตุกา, ตตฺถาปิ จ อิเมหิ นครสฺส นครสามิกสฺส จ อโตฺถฯ อิเมสํ วเสน อนโตฺถ สิยา’’ติ ชานนญาณสงฺขาเตน ปณฺฑิเจฺจน สมนฺนาคโตฯ อญฺญาตนิวารเณ ปฎุภาวสงฺขาเตน เวยฺยตฺติเยน สมนฺนาคโตฯ ฐานุปฺปตฺติกปญฺญาสงฺขาตายาติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ อตฺถกิเจฺจ ตงฺขณุปฺปชฺชนกปฎิภานสงฺขาตายฯ
Idanti nagaropamaṃ. Taṃ sallakkhitanti kiṃsukopamadīpitaṃ atthajātaṃ sace sallakkhitaṃ. Assa bhikkhuno. Dhammadesanatthanti yathāsallakkhitassa atthassa vasena laddhavisesassa upabrūhanāya. Tassevatthassāti tassa dassanavisuddhisaṅkhātassa atthassa. Corāsaṅkā na honti majjhimadesarajjassa pasannabhāvato. Tipurisubbedhānīti ubbedhena tipurisappamāṇāni nānābhittivicittāni thambhānaṃ upari vividhamālākammādivicittadhanurākāralakkhitāni manoramāni. Tenāha ‘‘nagarassa alaṅkārattha’’nti. Nagaradvārassa thirabhāvāpādanavasena ṭhapetabbattā vuttaṃ ‘‘coranivāraṇatthānipi hontiyevā’’ti. Piṭṭhasaṅghātassāti dvārabāhassa. ‘‘Ime āvāsikā, ime āgantukā, tatthāpi ca imehi nagarassa nagarasāmikassa ca attho. Imesaṃ vasena anattho siyā’’ti jānanañāṇasaṅkhātena paṇḍiccena samannāgato. Aññātanivāraṇe paṭubhāvasaṅkhātena veyyattiyena samannāgato. Ṭhānuppattikapaññāsaṅkhātāyāti tasmiṃ tasmiṃ atthakicce taṅkhaṇuppajjanakapaṭibhānasaṅkhātāya.
รญฺญา อายุโตฺต นิโยชิโต ราชายุโตฺต, ตตฺถ ตตฺถ รโญฺญ กาตพฺพกิเจฺจ ฐปิตปุริโสฯ กติปาเหเยวาติ กติปยทิวเสเยว อกิจฺจกรเณน ตสฺส ฐานํ วิพฺภโม ชาโตติ กตฺวา วุตฺตํ – ‘‘สพฺพานิ วินิจฺฉยฎฺฐานาทีนิ หาเรตฺวา’’ติฯ
Raññā āyutto niyojito rājāyutto, tattha tattha rañño kātabbakicce ṭhapitapuriso. Katipāheyevāti katipayadivaseyeva akiccakaraṇena tassa ṭhānaṃ vibbhamo jātoti katvā vuttaṃ – ‘‘sabbāni vinicchayaṭṭhānādīni hāretvā’’ti.
สีสมสฺส ฉินฺทาหีติ สีสภูตํ อุตฺตมงฺคฎฺฐานิยํ ตตฺถ ตสฺส ราชกิจฺจํ ฉินฺทาติ อโตฺถฯ อญฺญถา ตสฺส ปากติเก อเตฺถ คยฺหมาเน ปาณาติปาโต อาณโตฺต นาม สิยาฯ น หิ จกฺกวตฺติราชา ตาทิสํ อาณาเปติ, อเญฺญสมฺปิ ตโต นิวารกตฺตาฯ อถ วา ฉินฺทาหีติ มม อาณาย อสฺส สีสํ ฉินฺทโนฺต วิย อตฺตานํ ทเสฺสหิ, เอวํ โส ตโตฺถวาทปฎิกรตฺตปโตฺต โอทเมยฺยาติ, ตถา เจว อุปริ ปฎิปตฺติ อาคตาฯ ตตฺถาติ เอตสฺมิํ ปจฺจนฺติมนคเรฯ
Sīsamassa chindāhīti sīsabhūtaṃ uttamaṅgaṭṭhāniyaṃ tattha tassa rājakiccaṃ chindāti attho. Aññathā tassa pākatike atthe gayhamāne pāṇātipāto āṇatto nāma siyā. Na hi cakkavattirājā tādisaṃ āṇāpeti, aññesampi tato nivārakattā. Atha vā chindāhīti mama āṇāya assa sīsaṃ chindanto viya attānaṃ dassehi, evaṃ so tatthovādapaṭikarattapatto odameyyāti, tathā ceva upari paṭipatti āgatā. Tatthāti etasmiṃ paccantimanagare.
อุปฺปเนฺนนาติ สมถกมฺมฎฺฐาเน อุปฺปเนฺนนฯ
Uppannenāti samathakammaṭṭhāne uppannena.
ตเสฺสวาติ สกฺกายสงฺขาตสฺส นครสฺส ‘‘ทฺวารานี’’ติ วุตฺตานีติ อาเนตฺวา สมฺพโนฺธฯ ‘‘สีฆํ ทูตยุค’’นฺติ วุตฺตาติ โยชนาฯ หทยวตฺถุรูปสฺส มเชฺฌ สิงฺฆาฎกภาเวน คหิตตฺตา ‘‘หทยวตฺถุสฺส นิสฺสยภูตานํ มหาภูตาน’’นฺติ วุตฺตํฯ ยทิ เอวํ วตฺถุรูปเมว คเหตพฺพํ, ตเทเวตฺถ อคฺคเหตฺวา กสฺมา มหาภูตคฺคหณนฺติ อาห ‘‘วตฺถุรูปสฺส หี’’ติอาทิฯ ยาทิโสติ สมฺมาทิฎฺฐิอาทีนํ วเสน ยาทิโส เอว ปุเพฺพ อาคตวิปสฺสนามโคฺคฯ ‘‘อยมฺปิ อฎฺฐงฺคสมนฺนาคตตฺตา ตาทิโส เอวา’’ติ วตฺวา อริยมโคฺค ‘‘ยถาคตมโคฺค’’ติ วุโตฺตฯ อิทํ ตาเวตฺถาติ เอตฺถ เอตสฺมิํ สุเตฺต ธมฺมเทสนตฺถํ อาภตาย ยถาวุตฺตอุปมาย อิทํ สํสนฺทนํฯ
Tassevāti sakkāyasaṅkhātassa nagarassa ‘‘dvārānī’’ti vuttānīti ānetvā sambandho. ‘‘Sīghaṃ dūtayuga’’nti vuttāti yojanā. Hadayavatthurūpassa majjhe siṅghāṭakabhāvena gahitattā ‘‘hadayavatthussa nissayabhūtānaṃ mahābhūtāna’’nti vuttaṃ. Yadi evaṃ vatthurūpameva gahetabbaṃ, tadevettha aggahetvā kasmā mahābhūtaggahaṇanti āha ‘‘vatthurūpassa hī’’tiādi. Yādisoti sammādiṭṭhiādīnaṃ vasena yādiso eva pubbe āgatavipassanāmaggo. ‘‘Ayampi aṭṭhaṅgasamannāgatattā tādiso evā’’ti vatvā ariyamaggo ‘‘yathāgatamaggo’’ti vutto. Idaṃ tāvetthāti ettha etasmiṃ sutte dhammadesanatthaṃ ābhatāya yathāvuttaupamāya idaṃ saṃsandanaṃ.
อิทํ สํสนฺทนนฺติ อิทานิ วกฺขมานํ อุปมาย สํสนฺทนํฯ นครสามิอุปมา ปญฺจกฺขนฺธวเสน ทสฺสนวิสุทฺธิปตฺตํ ขีณาสวํ ทเสฺสตุํ อาภตาฯ สิงฺฆาฎกูปมา จตุมหาภูตวเสน ทสฺสนวิสุทฺธิปตฺตํ ขีณาสวํ ทเสฺสตุํ อาภตาติ โยชนาฯ ‘‘จตุสจฺจเมว กถิต’’นฺติ วตฺวา ตานิ สจฺจานิ นิทฺธาเรตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘สกเลนปิ หี’’ติอาทิ วุตฺตํฯ อิธ นครสมฺภาโร ฉทฺวาราทโยฯ เตน หิ ฉผสฺสายตนาทโย อุปมิตาฯ เต ปน ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนาติ วุตฺตํ ‘‘นครสมฺภาเรน ทุกฺขสจฺจเมว กถิต’’นฺติฯ
Idaṃ saṃsandananti idāni vakkhamānaṃ upamāya saṃsandanaṃ. Nagarasāmiupamā pañcakkhandhavasena dassanavisuddhipattaṃ khīṇāsavaṃ dassetuṃ ābhatā. Siṅghāṭakūpamā catumahābhūtavasena dassanavisuddhipattaṃ khīṇāsavaṃ dassetuṃ ābhatāti yojanā. ‘‘Catusaccameva kathita’’nti vatvā tāni saccāni niddhāretvā dassetuṃ ‘‘sakalenapi hī’’tiādi vuttaṃ. Idha nagarasambhāro chadvārādayo. Tena hi chaphassāyatanādayo upamitā. Te pana dukkhasaccapariyāpannāti vuttaṃ ‘‘nagarasambhārena dukkhasaccameva kathita’’nti.
กิํสุโกปมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kiṃsukopamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๘. กิํสุโกปมสุตฺตํ • 8. Kiṃsukopamasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘. กิํสุโกปมสุตฺตวณฺณนา • 8. Kiṃsukopamasuttavaṇṇanā