Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๓. กิสาโคตมีสุตฺตวณฺณนา
3. Kisāgotamīsuttavaṇṇanā
๑๖๔. ตติเย กิสาโคตมีติ อปฺปมํสโลหิตตาย กิสา, โคตมีติ ปนสฺสา นามํฯ ปุเพฺพ กิร สาวตฺถิยํ เอกสฺมิํ กุเล อสีติโกฎิธนํ สพฺพํ องฺคาราว ชาตํฯ กุฎุมฺพิโก องฺคารชาตานิ อนีหริตฺวา – ‘‘อวสฺสํ โกจิ ปุญฺญวา ภวิสฺสติ, ตสฺส ปุเญฺญน ปุน ปากติกํ ภวิสฺสตี’’ติ สุวณฺณหิรญฺญสฺส จาฎิโย ปูเรตฺวา อาปเณ ฐเปตฺวา สมีเป นิสีทิฯ อเถกา ทุคฺคตกุลสฺส ธีตา – ‘‘อฑฺฒมาสกํ คเหตฺวา ทารุสากํ อาหริสฺสามี’’ติ วีถิํ คตา ตํ ทิสฺวา กุฎุมฺพิกํ อาห – ‘‘อาปเณ ตาว ธนํ เอตฺตกํ, เคเห กิตฺตกํ ภวิสฺสตี’’ติฯ กิํ ทิสฺวา อมฺม เอวํ กเถสีติ? อิมํ หิรญฺญสุวณฺณนฺติฯ โส ‘‘ปุญฺญวตี เอสา ภวิสฺสตี’’ติ ตสฺสา วสนฎฺฐานํ ปุจฺฉิตฺวา อาปเณ ภณฺฑํ ปฎิสาเมตฺวา ตสฺสา มาตาปิตโร อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาห – ‘‘อมฺหากํ เคเห วยปฺปโตฺต ทารโก อตฺถิ, ตเสฺสตํ ทาริกํ เทถา’’ติฯ กิํ สามิ ทุคฺคเตหิ สทฺธิํ เกฬิํ กโรสีติ? มิตฺตสนฺถโว นาม ทุคฺคเตหิปิ สทฺธิํ โหติ, เทถ นํ, กุฎุมฺพสามินี ภวิสฺสตีติ นํ คเหตฺวา ฆรํ อาเนสิฯ สา สํวาสมนฺวาย ปุตฺตํ วิชาตาฯ ปุโตฺต ปทสา อาหิณฺฑนกาเล กาลมกาสิฯ สา ทุคฺคตกุเล อุปฺปชฺชิตฺวา มหากุลํ คนฺตฺวาปิ ‘‘ปุตฺตวินาสํ ปตฺตามฺหี’’ติ อุปฺปนฺนพลวโสกา ปุตฺตสฺส สรีรกิจฺจํ วาเรตฺวา ตํ มตกเฬวรํ อาทาย นคเร วิปฺปลปนฺตี จรติฯ
164. Tatiye kisāgotamīti appamaṃsalohitatāya kisā, gotamīti panassā nāmaṃ. Pubbe kira sāvatthiyaṃ ekasmiṃ kule asītikoṭidhanaṃ sabbaṃ aṅgārāva jātaṃ. Kuṭumbiko aṅgārajātāni anīharitvā – ‘‘avassaṃ koci puññavā bhavissati, tassa puññena puna pākatikaṃ bhavissatī’’ti suvaṇṇahiraññassa cāṭiyo pūretvā āpaṇe ṭhapetvā samīpe nisīdi. Athekā duggatakulassa dhītā – ‘‘aḍḍhamāsakaṃ gahetvā dārusākaṃ āharissāmī’’ti vīthiṃ gatā taṃ disvā kuṭumbikaṃ āha – ‘‘āpaṇe tāva dhanaṃ ettakaṃ, gehe kittakaṃ bhavissatī’’ti. Kiṃ disvā amma evaṃ kathesīti? Imaṃ hiraññasuvaṇṇanti. So ‘‘puññavatī esā bhavissatī’’ti tassā vasanaṭṭhānaṃ pucchitvā āpaṇe bhaṇḍaṃ paṭisāmetvā tassā mātāpitaro upasaṅkamitvā evamāha – ‘‘amhākaṃ gehe vayappatto dārako atthi, tassetaṃ dārikaṃ dethā’’ti. Kiṃ sāmi duggatehi saddhiṃ keḷiṃ karosīti? Mittasanthavo nāma duggatehipi saddhiṃ hoti, detha naṃ, kuṭumbasāminī bhavissatīti naṃ gahetvā gharaṃ ānesi. Sā saṃvāsamanvāya puttaṃ vijātā. Putto padasā āhiṇḍanakāle kālamakāsi. Sā duggatakule uppajjitvā mahākulaṃ gantvāpi ‘‘puttavināsaṃ pattāmhī’’ti uppannabalavasokā puttassa sarīrakiccaṃ vāretvā taṃ matakaḷevaraṃ ādāya nagare vippalapantī carati.
เอกทิวสํ มหติยา พุทฺธวีถิยา ทสพลสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา – ‘‘ปุตฺตสฺส เม อโรคภาวตฺถาย เภสชฺชํ เทถ ภควา’’ติ อาหฯ คจฺฉ สาวตฺถิํ อาหิณฺฑิตฺวา ยสฺมิํ เคเห มตปุโพฺพ นตฺถิ, ตโต สิทฺธตฺถกํ อาหร, ปุตฺตสฺส เต เภสชฺชํ ภวิสฺสตีติฯ สา นครํ ปวิสิตฺวา ธุรเคหโต ปฎฺฐาย ภควตา วุตฺตนเยน คนฺตฺวา สิทฺธตฺถกํ ยาจนฺตี ฆเร ฆเร, ‘‘กุโต ตฺวํ เอวรูปํ ฆรํ ปสฺสิสฺสสี’’ติ วุตฺตา กติปยานิ เคหานิ อาหิณฺฑิตฺวา – ‘‘สเพฺพสมฺปิ กิรายํ ธมฺมตา, น มยฺหํ ปุตฺตเสฺสวา’’ติ สาลายํ ฉวํ ฉเฑฺฑตฺวา ปพฺพชฺชํ ยาจิฯ สตฺถา ‘‘อิมํ ปพฺพาเชตู’’ติ ภิกฺขุนิอุปสฺสยํ เปเสสิฯ สา ขุรเคฺคเยว อรหตฺตํ ปาปุณิฯ อิมํ เถริํ สนฺธาย ‘‘อถ โข กิสาโคตมี’’ติ วุตฺตํฯ
Ekadivasaṃ mahatiyā buddhavīthiyā dasabalassa santikaṃ gantvā – ‘‘puttassa me arogabhāvatthāya bhesajjaṃ detha bhagavā’’ti āha. Gaccha sāvatthiṃ āhiṇḍitvā yasmiṃ gehe matapubbo natthi, tato siddhatthakaṃ āhara, puttassa te bhesajjaṃ bhavissatīti. Sā nagaraṃ pavisitvā dhuragehato paṭṭhāya bhagavatā vuttanayena gantvā siddhatthakaṃ yācantī ghare ghare, ‘‘kuto tvaṃ evarūpaṃ gharaṃ passissasī’’ti vuttā katipayāni gehāni āhiṇḍitvā – ‘‘sabbesampi kirāyaṃ dhammatā, na mayhaṃ puttassevā’’ti sālāyaṃ chavaṃ chaḍḍetvā pabbajjaṃ yāci. Satthā ‘‘imaṃ pabbājetū’’ti bhikkhuniupassayaṃ pesesi. Sā khuraggeyeva arahattaṃ pāpuṇi. Imaṃ theriṃ sandhāya ‘‘atha kho kisāgotamī’’ti vuttaṃ.
เอกมาสีติ เอกา อาสิฯ รุทมฺมุขีติ รุทมานมุขี วิยฯ อจฺจนฺตํ มตปุตฺตามฺหีติ เอตฺถ อนฺตํ อตีตํ อจฺจนฺตํ, ภาวนปุํสกเมตํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปุตฺตมรณํ อนฺตํ อตีตํ โหติ, เอวํ มตปุตฺตา อหํ, อิทานิ มม ปุน ปุตฺตมรณํ นาม นตฺถิฯ ปุริสา เอตทนฺติกาติ ปุริสาปิ เม เอตทนฺติกาว ฯ โย เม ปุตฺตมรณสฺส อโนฺต, ปุริสานมฺปิ เม เอเสวโนฺต, อภพฺพา อหํ อิทานิ ปุริสํ คเวสิตุนฺติฯ สพฺพตฺถ วิหตา นนฺทีติ สเพฺพสุ ขนฺธายตนธาตุภวโยนิคติฐิตินิวาเสสุ มม ตณฺหานนฺที วิหตาฯ ตโมกฺขโนฺธติ อวิชฺชากฺขโนฺธฯ ปทาลิโตติ ญาเณน ภิโนฺนฯ ตติยํฯ
Ekamāsīti ekā āsi. Rudammukhīti rudamānamukhī viya. Accantaṃ mataputtāmhīti ettha antaṃ atītaṃ accantaṃ, bhāvanapuṃsakametaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – yathā puttamaraṇaṃ antaṃ atītaṃ hoti, evaṃ mataputtā ahaṃ, idāni mama puna puttamaraṇaṃ nāma natthi. Purisā etadantikāti purisāpi me etadantikāva . Yo me puttamaraṇassa anto, purisānampi me esevanto, abhabbā ahaṃ idāni purisaṃ gavesitunti. Sabbattha vihatā nandīti sabbesu khandhāyatanadhātubhavayonigatiṭhitinivāsesu mama taṇhānandī vihatā. Tamokkhandhoti avijjākkhandho. Padālitoti ñāṇena bhinno. Tatiyaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. กิสาโคตมีสุตฺตํ • 3. Kisāgotamīsuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓. กิสาโคตมีสุตฺตวณฺณนา • 3. Kisāgotamīsuttavaṇṇanā