Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) |
๑๑. โกธนสุตฺตวณฺณนา
11. Kodhanasuttavaṇṇanā
๖๔. เอกาทสเม สปตฺตกรณาติ วา สปเตฺตหิ กาตพฺพาฯ โกธนนฺติ กุชฺฌนสีลํฯ โกธโนยนฺติ กุชฺฌโน อยํฯ อยนฺติ จ นิปาตมตฺตํฯ โกธปเรโตติ โกเธน อนุคโต, ปราภิภูโต วาฯ ทุพฺพโณฺณว โหตีติ ปกติยา วณฺณวาปิ อลงฺกตปฺปฎิยโตฺตปิ มุขวิการาทิวเสน วิรูโป เอว โหติฯ เอตรหิ อายติญฺจาติ โกธาภิภูตสฺส เอกนฺตมิทํ ผลนฺติ ทีเปตุํ ‘‘ทุพฺพโณฺณวา’’ติ อวธารณํ กตฺวา ปุน ‘‘โกธาภิภูโต’’ติ วุตฺตํฯ
64. Ekādasame sapattakaraṇāti vā sapattehi kātabbā. Kodhananti kujjhanasīlaṃ. Kodhanoyanti kujjhano ayaṃ. Ayanti ca nipātamattaṃ. Kodhaparetoti kodhena anugato, parābhibhūto vā. Dubbaṇṇova hotīti pakatiyā vaṇṇavāpi alaṅkatappaṭiyattopi mukhavikārādivasena virūpo eva hoti. Etarahi āyatiñcāti kodhābhibhūtassa ekantamidaṃ phalanti dīpetuṃ ‘‘dubbaṇṇovā’’ti avadhāraṇaṃ katvā puna ‘‘kodhābhibhūto’’ti vuttaṃ.
อยสภาวนฺติ อกิตฺติมภาวํฯ อตฺตโน ปเรสญฺจ อนตฺถํ ชเนตีติ อนตฺถชนโนฯ อนฺตรโตติ อพฺภนฺตรโต, จิตฺตโต วาฯ ตํ ชโน นาวพุชฺฌตีติ โกธสงฺขาตํ อนฺตรโต อพฺภนฺตเร อตฺตโน จิเตฺตเยว ชาตํ อนตฺถชนนจิตฺตปฺปโกปนาทิภยํ ภยเหตุํ อยํ พาลมหาชโน น ชานาติฯ ยนฺติ ยตฺถฯ ภุมฺมเตฺถ หิ เอตํ ปจฺจตฺตวจนํฯ ยสฺมิํ กาเล โกโธ สหเต นรํ, อนฺธตมํ ตทา โหตีติ สมฺพโนฺธฯ ยนฺติ วา การณวจนํ, ยสฺมา โกโธ อุปฺปชฺชมาโน นรํ สหเต อภิภวติ, ตสฺมา อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยทา กุโทฺธติ อโตฺถ ยํ-ตํ-สทฺทานํ เอกนฺตสมฺพนฺธภาวโตฯ อถ วา ยนฺติ กิริยาปรามสนํฯ สหเตติ ยเทตํ โกธสฺส สหนํ อภิภวนํ, เอตํ อนฺธตมํ ภวนนฺติ อโตฺถฯ อถ วา ยํ นรํ โกโธ สหเต อภิภวติ, ตสฺส อนฺธตมํ ตทา โหติฯ ตโต จ กุโทฺธ อตฺถํ น ชานาติ, กุโทฺธ ธมฺมํ น ปสฺสตีติฯ
Ayasabhāvanti akittimabhāvaṃ. Attano paresañca anatthaṃ janetīti anatthajanano. Antaratoti abbhantarato, cittato vā. Taṃ jano nāvabujjhatīti kodhasaṅkhātaṃ antarato abbhantare attano citteyeva jātaṃ anatthajananacittappakopanādibhayaṃ bhayahetuṃ ayaṃ bālamahājano na jānāti. Yanti yattha. Bhummatthe hi etaṃ paccattavacanaṃ. Yasmiṃ kāle kodho sahate naraṃ, andhatamaṃ tadā hotīti sambandho. Yanti vā kāraṇavacanaṃ, yasmā kodho uppajjamāno naraṃ sahate abhibhavati, tasmā andhatamaṃ tadā hoti, yadā kuddhoti attho yaṃ-taṃ-saddānaṃ ekantasambandhabhāvato. Atha vā yanti kiriyāparāmasanaṃ. Sahateti yadetaṃ kodhassa sahanaṃ abhibhavanaṃ, etaṃ andhatamaṃ bhavananti attho. Atha vā yaṃ naraṃ kodho sahate abhibhavati, tassa andhatamaṃ tadā hoti. Tato ca kuddho atthaṃ na jānāti, kuddho dhammaṃ na passatīti.
ภูนํ วุจฺจติ วุทฺธิ, ตสฺส หนนํ ฆาโต เอเตสนฺติ ภูนหจฺจานิฯ เตนาห ‘‘หตวุทฺธีนี’’ติฯ ทม-สเทฺทน วุตฺตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ปญฺญาวีริเยน ทิฎฺฐิยาติ วุตฺตนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘กตเรน ทเมนา’’ติอาทิมาหฯ อเนกโตฺถ หิ ทม-สโทฺทฯ ‘‘สเจฺจน ทโนฺต ทมสา อุเปโต, เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๙๕; สุ. นิ. ๔๖๗) เอตฺถ หิ อินฺทฺริยสํวโร ทโมติ วุโตฺต ‘‘มนจฺฉฎฺฐานิ อินฺทฺริยานิ ทเมตี’’ติ กตฺวาฯ ‘‘ยทิ สจฺจา ทมา จาคา, ขนฺตฺยา ภิโยฺยธ วิชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๙๑) เอตฺถ ปญฺญา ทโม ‘‘สํกิเลสํ ทเมติ ปชหตี’’ติ กตฺวาฯ ‘‘ทาเนน ทเมน สํยเมน สจฺจวเชฺชน อตฺถิ ปุญฺญํ, อตฺถิ ปุญฺญสฺส อาคโม’’ติ (สํ. นิ. ๔.๓๖๕) เอตฺถ อุโปสถกมฺมํ ทโม ‘‘อุปวสนวเสน กายกมฺมาทีนิ ทเมตี’’ติ กตฺวาฯ ‘‘สกฺขิสฺสสิ โข ตฺวํ, ปุณฺณ, อิมินา ทมูปสเมน สมนฺนาคโต สุนาปรนฺตสฺมิํ ชนปทนฺตเร วิหริตุ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๓๙๖; สํ. นิ. ๔.๘๘) เอตฺถ อธิวาสนกฺขนฺติ ทโม ‘‘โกธูปนาหมกฺขาทิเก ทเมติ วิโนเทตี’’ติ กตฺวาฯ ‘‘น มานกามสฺส ทโม อิธตฺถิ, น โมนมตฺถิ อสมาหิตสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๑.๙) เอตฺถ อภิสโมฺพชฺฌงฺคาทิโก สมาธิปกฺขิโก ธโมฺม ทโม ‘‘ทมฺมติ จิตฺตํ เอเตนา’’ติ กตฺวาฯ อิธาปิ ‘‘ตํ ทเมน สมุจฺฉิเนฺท, ปญฺญาวีริเยน ทิฎฺฐิยา’’ติ วจนโต ทม-สเทฺทน ปญฺญาวีริยทิฎฺฐิโย วุตฺตาฯ
Bhūnaṃ vuccati vuddhi, tassa hananaṃ ghāto etesanti bhūnahaccāni. Tenāha ‘‘hatavuddhīnī’’ti. Dama-saddena vuttamevatthaṃ vibhāvetuṃ paññāvīriyena diṭṭhiyāti vuttanti dassento ‘‘katarena damenā’’tiādimāha. Anekattho hi dama-saddo. ‘‘Saccena danto damasā upeto, vedantagū vusitabrahmacariyo’’ti (saṃ. ni. 1.195; su. ni. 467) ettha hi indriyasaṃvaro damoti vutto ‘‘manacchaṭṭhāni indriyāni dametī’’ti katvā. ‘‘Yadi saccā damā cāgā, khantyā bhiyyodha vijjatī’’ti (saṃ. ni. 1.246; su. ni. 191) ettha paññā damo ‘‘saṃkilesaṃ dameti pajahatī’’ti katvā. ‘‘Dānena damena saṃyamena saccavajjena atthi puññaṃ, atthi puññassa āgamo’’ti (saṃ. ni. 4.365) ettha uposathakammaṃ damo ‘‘upavasanavasena kāyakammādīni dametī’’ti katvā. ‘‘Sakkhissasi kho tvaṃ, puṇṇa, iminā damūpasamena samannāgato sunāparantasmiṃ janapadantare viharitu’’nti (ma. ni. 3.396; saṃ. ni. 4.88) ettha adhivāsanakkhanti damo ‘‘kodhūpanāhamakkhādike dameti vinodetī’’ti katvā. ‘‘Na mānakāmassa damo idhatthi, na monamatthi asamāhitassā’’ti (saṃ. ni. 1.9) ettha abhisambojjhaṅgādiko samādhipakkhiko dhammo damo ‘‘dammati cittaṃ etenā’’ti katvā. Idhāpi ‘‘taṃ damena samucchinde, paññāvīriyena diṭṭhiyā’’ti vacanato dama-saddena paññāvīriyadiṭṭhiyo vuttā.
โกธนสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kodhanasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
อพฺยากตวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Abyākatavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๑๑. โกธนสุตฺตํ • 11. Kodhanasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑๑. โกธนสุตฺตวณฺณนา • 11. Kodhanasuttavaṇṇanā