Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๙. โกกาลิกสุตฺตวณฺณนา

    9. Kokālikasuttavaṇṇanā

    ๘๙. นวเม โกกาลิโก ภิกฺขุ เยน ภควา เตนุปสงฺกมีติ โกยํ โกกาลิโก, กสฺมา จ อุปสงฺกมิ? อยํ กิร โกกาลิกรเฎฺฐ โกกาลิกนคเร โกกาลิกเสฎฺฐิสฺส ปุโตฺต ปพฺพชิตฺวา ปิตรา การิเต วิหาเร วสติ จูฬโกกาลิโกติ นาเมน, น ปน เทวทตฺตสฺส สิโสฺสฯ โส หิ พฺราหฺมณปุโตฺต มหาโกกาลิโก นามฯ ภควติ ปน สาวตฺถิยํ วิหรเนฺต เทฺว อคฺคสาวกา ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธิํ ชนปทจาริกํ จรมานา อุปกฎฺฐาย วสฺสูปนายิกาย วิเวกวาสํ วสิตุกามา เต ภิกฺขู อุโยฺยเชตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรมาทาย ตสฺมิํ ชนปเท ตํ นครํ ปตฺวา วิหารํ อคมิํสุฯ ตตฺถ เนสํ โกกาลิโก วตฺตํ อกาสิฯ เตปิ เตน สทฺธิํ สโมฺมทิตฺวา, ‘‘อาวุโส, มยํ อิธ เตมาสํ วสิสฺสาม, มา โน กสฺสจิ อาโรเจสี’’ติ ปฎิญฺญํ คเหตฺวา วสิํสุฯ วสิตฺวา ปวารณาทิวเส ปวาเรตฺวา ‘‘คจฺฉาม มยํ, อาวุโส’’ติ โกกาลิกํ อาปุจฺฉิํสุฯ โกกาลิโก ‘‘อชฺช, อาวุโส, เอกทิวสํ วสิตฺวา เสฺว คมิสฺสถา’’ติ วตฺวา ทุติยทิวเส นครํ ปวิสิตฺวา มนุเสฺส อามเนฺตสิ – ‘‘อาวุโส, ตุเมฺห เทฺว อคฺคสาวเก อิธ อาคนฺตฺวา วสมาเนปิ น ชานาถ, น เต โกจิ ปจฺจเยนปิ นิมเนฺตตี’’ติฯ นครวาสิโน ‘‘กหํ, ภเนฺต, เถรา, กสฺมา โน นาโรจยิตฺถา’’ติ? กิํ, อาวุโส, อาโรจิเตน, กิํ น ปสฺสถ เทฺว ภิกฺขู เถราสเน นิสีทเนฺต, เอเต อคฺคสาวกาติฯ เต ขิปฺปํ สนฺนิปติตฺวา สปฺปิผาณิตาทีนิ เจว จีวรทุสฺสานิ จ สํหริํสุฯ

    89. Navame kokāliko bhikkhu yena bhagavā tenupasaṅkamīti koyaṃ kokāliko, kasmā ca upasaṅkami? Ayaṃ kira kokālikaraṭṭhe kokālikanagare kokālikaseṭṭhissa putto pabbajitvā pitarā kārite vihāre vasati cūḷakokālikoti nāmena, na pana devadattassa sisso. So hi brāhmaṇaputto mahākokāliko nāma. Bhagavati pana sāvatthiyaṃ viharante dve aggasāvakā pañcamattehi bhikkhusatehi saddhiṃ janapadacārikaṃ caramānā upakaṭṭhāya vassūpanāyikāya vivekavāsaṃ vasitukāmā te bhikkhū uyyojetvā attano pattacīvaramādāya tasmiṃ janapade taṃ nagaraṃ patvā vihāraṃ agamiṃsu. Tattha nesaṃ kokāliko vattaṃ akāsi. Tepi tena saddhiṃ sammoditvā, ‘‘āvuso, mayaṃ idha temāsaṃ vasissāma, mā no kassaci ārocesī’’ti paṭiññaṃ gahetvā vasiṃsu. Vasitvā pavāraṇādivase pavāretvā ‘‘gacchāma mayaṃ, āvuso’’ti kokālikaṃ āpucchiṃsu. Kokāliko ‘‘ajja, āvuso, ekadivasaṃ vasitvā sve gamissathā’’ti vatvā dutiyadivase nagaraṃ pavisitvā manusse āmantesi – ‘‘āvuso, tumhe dve aggasāvake idha āgantvā vasamānepi na jānātha, na te koci paccayenapi nimantetī’’ti. Nagaravāsino ‘‘kahaṃ, bhante, therā, kasmā no nārocayitthā’’ti? Kiṃ, āvuso, ārocitena, kiṃ na passatha dve bhikkhū therāsane nisīdante, ete aggasāvakāti. Te khippaṃ sannipatitvā sappiphāṇitādīni ceva cīvaradussāni ca saṃhariṃsu.

    โกกาลิโก จิเนฺตสิ – ‘‘ปรมปฺปิจฺฉา อคฺคสาวกา ปยุตฺตวาจาย อุปฺปนฺนลาภํ น สาทิยิสฺสนฺติ, อสาทิยนฺตา ‘อาวาสิกสฺส เทถา’ติ วกฺขนฺตี’’ติ ตํ ลาภํ คาหาเปตฺวา เถรานํ สนฺติกํ อคมาสิฯ เถรา ทิสฺวาว ‘‘อิเม ปจฺจยา เนว อมฺหากํ, น โกกาลิกสฺส กปฺปนฺตี’’ติ ปฎิกฺขิปิตฺวา ปกฺกมิํสุฯ โกกาลิโก ‘‘กถญฺหิ นาม สยํ อคฺคณฺหนฺตา มยฺหมฺปิ อทาเปตฺวา ปกฺกมิสฺสนฺตี’’ติ อาฆาตํ อุปฺปาเทสิ ฯ เตปิ ภควโต สนฺติกํ คนฺตฺวา ภควนฺตํ วนฺทิตฺวา ปุน อตฺตโน ปริสํ อาทาย ชนปทจาริกํ จรนฺตา อนุปุเพฺพน ตสฺมิํ รเฎฺฐ ตเมว นครํ ปจฺจาคมิํสุฯ นาครา เถเร สญฺชานิตฺวา สห ปริกฺขาเรหิ ทานํ สเชฺชตฺวา นครมเชฺฌ มณฺฑปํ กตฺวา ทานํ อทํสุ, เถรานญฺจ ปริกฺขาเร อุปนาเมสุํฯ เถรา ภิกฺขุสงฺฆสฺส นิยฺยาทยิํสุฯ ตํ ทิสฺวา โกกาลิโก จิเนฺตสิ – ‘‘อิเม ปุเพฺพ อปฺปิจฺฉา อเหสุํ, อิทานิ ปาปิจฺฉา ชาตา, ปุเพฺพปิ อปฺปิจฺฉสนฺตุฎฺฐปวิวิตฺตสทิสาว มเญฺญ’’ติ เถเร อุปสงฺกมิตฺวา, ‘‘อาวุโส, ตุเมฺห ปุเพฺพ อปฺปิจฺฉา วิย, อิทานิ ปน ปาปภิกฺขู ชาตตฺถา’’ติ วตฺวา ‘‘มูลฎฺฐาเนเยว เนสํ ปติฎฺฐํ ภินฺทิสฺสามี’’ติ ตรมานรูโป นิกฺขมิตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ อยเมส โกกาลิโก, อิมินา จ การเณน อุปสงฺกมีติ เวทิตโพฺพฯ

    Kokāliko cintesi – ‘‘paramappicchā aggasāvakā payuttavācāya uppannalābhaṃ na sādiyissanti, asādiyantā ‘āvāsikassa dethā’ti vakkhantī’’ti taṃ lābhaṃ gāhāpetvā therānaṃ santikaṃ agamāsi. Therā disvāva ‘‘ime paccayā neva amhākaṃ, na kokālikassa kappantī’’ti paṭikkhipitvā pakkamiṃsu. Kokāliko ‘‘kathañhi nāma sayaṃ aggaṇhantā mayhampi adāpetvā pakkamissantī’’ti āghātaṃ uppādesi . Tepi bhagavato santikaṃ gantvā bhagavantaṃ vanditvā puna attano parisaṃ ādāya janapadacārikaṃ carantā anupubbena tasmiṃ raṭṭhe tameva nagaraṃ paccāgamiṃsu. Nāgarā there sañjānitvā saha parikkhārehi dānaṃ sajjetvā nagaramajjhe maṇḍapaṃ katvā dānaṃ adaṃsu, therānañca parikkhāre upanāmesuṃ. Therā bhikkhusaṅghassa niyyādayiṃsu. Taṃ disvā kokāliko cintesi – ‘‘ime pubbe appicchā ahesuṃ, idāni pāpicchā jātā, pubbepi appicchasantuṭṭhapavivittasadisāva maññe’’ti there upasaṅkamitvā, ‘‘āvuso, tumhe pubbe appicchā viya, idāni pana pāpabhikkhū jātatthā’’ti vatvā ‘‘mūlaṭṭhāneyeva nesaṃ patiṭṭhaṃ bhindissāmī’’ti taramānarūpo nikkhamitvā yena bhagavā tenupasaṅkami. Ayamesa kokāliko, iminā ca kāraṇena upasaṅkamīti veditabbo.

    ภควา ตํ ตุริตตุริตํ อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวาว อาวเชฺชโนฺต อญฺญาสิ ‘‘อยํ อคฺคสาวเก อโกฺกสิตุกาโม อาคโต, สกฺกา นุ โข ปฎิเสเธตุ’’นฺติฯ ตโต ‘‘น สกฺกา ปฎิเสเธตุํ, เถเรสุ อปรชฺฌิตฺวา อาคโต, เอกํเสน ปน ปทุมนิรเย นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ทิสฺวา ‘‘สาริปุตฺตโมคฺคลฺลาเนปิ นาม ครหนฺตํ สุตฺวา น นิเสเธตี’’ติ วาทโมจนตฺถํ อริยูปวาทสฺส จ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ มา เหวนฺติ ติกฺขตฺตุํ ปฎิเสเธสิฯ ตตฺถ มา เหวนฺติ มา เอวํ อภณิฯ สทฺธายิโกติ สทฺธาย อาคมกโร ปสาทาวโห, สทฺธาตพฺพวจโน วาฯ ปจฺจยิโกติ ปตฺติยายิตพฺพวจโนฯ

    Bhagavā taṃ turitaturitaṃ āgacchantaṃ disvāva āvajjento aññāsi ‘‘ayaṃ aggasāvake akkositukāmo āgato, sakkā nu kho paṭisedhetu’’nti. Tato ‘‘na sakkā paṭisedhetuṃ, theresu aparajjhitvā āgato, ekaṃsena pana padumaniraye nibbattissatī’’ti disvā ‘‘sāriputtamoggallānepi nāma garahantaṃ sutvā na nisedhetī’’ti vādamocanatthaṃ ariyūpavādassa ca mahāsāvajjabhāvadassanatthaṃ mā hevanti tikkhattuṃ paṭisedhesi. Tattha mā hevanti mā evaṃ abhaṇi. Saddhāyikoti saddhāya āgamakaro pasādāvaho, saddhātabbavacano vā. Paccayikoti pattiyāyitabbavacano.

    ปกฺกามีติ กมฺมานุภาเวน โจทิยมาโน ปกฺกามิฯ โอกาสกตญฺหิ กมฺมํ น สกฺกา ปฎิพาหิตุํฯ อจิรปกฺกนฺตสฺสาติ ปกฺกนฺตสฺส สโต นจิเรเนวฯ สโพฺพ กาโย ผุโฎ อโหสีติ เกสคฺคมตฺตมฺปิ โอกาสํ อวเชฺชตฺวา สกลสรีรํ อฎฺฐีนิ ภินฺทิตฺวา อุคฺคตาหิ ปีฬกาหิ อโชฺฌตฺถฎํ อโหสิฯ ยสฺมา ปน พุทฺธานุภาเวน ตถารูปํ กมฺมํ พุทฺธานํ สมฺมุขีภาเว วิปากํ ทาตุํ น สโกฺกติ, ทสฺสนูปจาเร วิชหิตมเตฺต เทติ, ตสฺมา ตสฺส อจิรปกฺกนฺตสฺส ปีฬกา อุฎฺฐหิํสุฯ กลายมตฺติโยติ จณกมตฺติโยฯ เพลุวสลาฎุกมตฺติโยติ ตรุณเพลุวมตฺติโยฯ ปภิชฺชิํสูติ ภิชฺชิํสุฯ ตาสุ ภินฺนาสุ สกลสรีรํ ปนสปกฺกํ วิย อโหสิฯ โส ปเกฺกน คเตฺตน เชตวนทฺวารโกฎฺฐเก วิสคิลิโต มโจฺฉ วิย กทลิปเตฺตสุ นิปชฺชิฯ อถ ธมฺมสฺสวนตฺถํ อาคตาคตา มนุสฺสา ‘‘ธิ โกกาลิก, ธิ โกกาลิก, อยุตฺตมกาสิ, อตฺตโนเยว มุขํ นิสฺสาย อนยพฺยสนํ ปโตฺตสี’’ติ อาหํสุฯ เตสํ สทฺทํ สุตฺวา อารกฺขเทวตา ธิกฺการมกํสุ, อารกฺขเทวตานํ อากาสเทวตาติ อิมินา อุปาเยน ยาว อกนิฎฺฐภวนา เอกธิกฺกาโร อุทปาทิฯ

    Pakkāmīti kammānubhāvena codiyamāno pakkāmi. Okāsakatañhi kammaṃ na sakkā paṭibāhituṃ. Acirapakkantassāti pakkantassa sato nacireneva. Sabbo kāyo phuṭo ahosīti kesaggamattampi okāsaṃ avajjetvā sakalasarīraṃ aṭṭhīni bhinditvā uggatāhi pīḷakāhi ajjhotthaṭaṃ ahosi. Yasmā pana buddhānubhāvena tathārūpaṃ kammaṃ buddhānaṃ sammukhībhāve vipākaṃ dātuṃ na sakkoti, dassanūpacāre vijahitamatte deti, tasmā tassa acirapakkantassa pīḷakā uṭṭhahiṃsu. Kalāyamattiyoti caṇakamattiyo. Beluvasalāṭukamattiyoti taruṇabeluvamattiyo. Pabhijjiṃsūti bhijjiṃsu. Tāsu bhinnāsu sakalasarīraṃ panasapakkaṃ viya ahosi. So pakkena gattena jetavanadvārakoṭṭhake visagilito maccho viya kadalipattesu nipajji. Atha dhammassavanatthaṃ āgatāgatā manussā ‘‘dhi kokālika, dhi kokālika, ayuttamakāsi, attanoyeva mukhaṃ nissāya anayabyasanaṃ pattosī’’ti āhaṃsu. Tesaṃ saddaṃ sutvā ārakkhadevatā dhikkāramakaṃsu, ārakkhadevatānaṃ ākāsadevatāti iminā upāyena yāva akaniṭṭhabhavanā ekadhikkāro udapādi.

    ตุรูติ โกกาลิกสฺส อุปชฺฌาโย ตุรุเตฺถโร นาม อนาคามิผลํ วตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพโตฺตฯ โส ภุมฺมฎฺฐเทวตา อาทิํ กตฺวา ‘‘อยุตฺตํ โกกาลิเกน กตํ อคฺคสาวเก อนฺติมวตฺถุนา อพฺภาจิกฺขเนฺตนา’’ติ ปรมฺปราย พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตํ ตํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘มา มยฺหํ ปสฺสนฺตเสฺสว วราโก นสฺสิ, โอวทิสฺสามิ นํ เถเรสุ จิตฺตปฺปสาทตฺถายา’’ติ อาคนฺตฺวา ตสฺส ปุรโต อฎฺฐาสิฯ ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ – ‘‘ตุรู ปเจฺจกพฺรหฺมา’’ติฯ เปสลาติ ปิยสีลาฯ โกสิ ตฺวํ, อาวุโสติ นิสินฺนโกว กพรกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา เอวมาหฯ ปสฺส ยาวญฺจ เต อิทํ อปรทฺธติ ยตฺตกํ ตยา อปรทฺธํ, อตฺตโน นลาเฎ มหาคณฺฑํ อปสฺสโนฺต สาสปมตฺตาย ปีฬกาย มํ โจเทตพฺพํ มญฺญสีติ อาหฯ

    Turūti kokālikassa upajjhāyo turutthero nāma anāgāmiphalaṃ vatvā brahmaloke nibbatto. So bhummaṭṭhadevatā ādiṃ katvā ‘‘ayuttaṃ kokālikena kataṃ aggasāvake antimavatthunā abbhācikkhantenā’’ti paramparāya brahmalokasampattaṃ taṃ saddaṃ sutvā ‘‘mā mayhaṃ passantasseva varāko nassi, ovadissāmi naṃ theresu cittappasādatthāyā’’ti āgantvā tassa purato aṭṭhāsi. Taṃ sandhāyetaṃ vuttaṃ – ‘‘turū paccekabrahmā’’ti. Pesalāti piyasīlā. Kosi tvaṃ, āvusoti nisinnakova kabarakkhīni ummīletvā evamāha. Passa yāvañca te idaṃ aparaddhati yattakaṃ tayā aparaddhaṃ, attano nalāṭe mahāgaṇḍaṃ apassanto sāsapamattāya pīḷakāya maṃ codetabbaṃ maññasīti āha.

    อถ นํ ‘‘อทิฎฺฐิปฺปโตฺต อยํ โกกาลิโก, คิลิตวิโส วิย น กสฺสจิ วจนํ น กริสฺสตี’’ติ ญตฺวา ปุริสสฺส หีติอาทิมาหฯ ตตฺถ กุฐารีติ กุฐาริสทิสา ผรุสวาจาฯ ฉินฺทตีติ กุสลมูลสงฺขาเต มูเลเยว นิกนฺตติฯ นินฺทิยนฺติ นินฺทิตพฺพํ ทุสฺสีลปุคฺคลํฯ ปสํสตีติ อุตฺตมเตฺถ สมฺภาเวตฺวา ขีณาสโวติ วทติฯ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโยติ โย วา ปสํสิตโพฺพ ขีณาสโว, ตํ อนฺติมวตฺถุนา โจเทโนฺต ‘‘ทุสฺสีโล อย’’นฺติ วทติฯ วิจินาติ มุเขน โส กลินฺติ โส ตํ อปราธํ มุเขน วิจินาติ นามฯ กลินา เตนาติ เตน อปราเธน สุขํ น วินฺทติฯ นินฺทิยปสํสาย หิ ปสํสิยนินฺทาย จ สมโกว วิปาโกฯ

    Atha naṃ ‘‘adiṭṭhippatto ayaṃ kokāliko, gilitaviso viya na kassaci vacanaṃ na karissatī’’ti ñatvā purisassa hītiādimāha. Tattha kuṭhārīti kuṭhārisadisā pharusavācā. Chindatīti kusalamūlasaṅkhāte mūleyeva nikantati. Nindiyanti ninditabbaṃ dussīlapuggalaṃ. Pasaṃsatīti uttamatthe sambhāvetvā khīṇāsavoti vadati. Taṃ vā nindati yo pasaṃsiyoti yo vā pasaṃsitabbo khīṇāsavo, taṃ antimavatthunā codento ‘‘dussīlo aya’’nti vadati. Vicināti mukhena so kalinti so taṃ aparādhaṃ mukhena vicināti nāma. Kalinātenāti tena aparādhena sukhaṃ na vindati. Nindiyapasaṃsāya hi pasaṃsiyanindāya ca samakova vipāko.

    สพฺพสฺสาปิ สหาปิ อตฺตนาติ สเพฺพน สเกน ธเนนปิ อตฺตนาปิ สทฺธิํ โย อเกฺขสุ ธนปราชโย นาม, อยํ อปฺปมตฺตโก อปราโธฯ โย สุคเตสูติ โย ปน สมฺมคฺคเตสุ ปุคฺคเลสุ จิตฺตํ ทูเสยฺย, อยํ จิตฺตปโทโสว ตโต กลิโต มหนฺตตโร กลิฯ

    Sabbassāpi sahāpi attanāti sabbena sakena dhanenapi attanāpi saddhiṃ yo akkhesu dhanaparājayo nāma, ayaṃ appamattako aparādho. Yo sugatesūti yo pana sammaggatesu puggalesu cittaṃ dūseyya, ayaṃ cittapadosova tato kalito mahantataro kali.

    อิทานิ ตสฺส มหนฺตตรภาวํ ทเสฺสโนฺต สตํ สหสฺสานนฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ สตํ สหสฺสานนฺติ นิรพฺพุทคณนาย สตสหสฺสญฺจฯ ฉตฺติํสตีติ อปรานิ ฉตฺติํสติ นิรพฺพุทานิฯ ปญฺจ จาติ อพฺพุทคณนาย ปญฺจ อพฺพุทานิฯ ยมริยครหีติ ยํ อริเย ครหโนฺต นิรยํ อุปปชฺชติ, ตตฺถ เอตฺตกํ อายุปฺปมาณนฺติ อโตฺถฯ

    Idāni tassa mahantatarabhāvaṃ dassento sataṃ sahassānantiādimāha. Tattha sataṃ sahassānanti nirabbudagaṇanāya satasahassañca. Chattiṃsatīti aparāni chattiṃsati nirabbudāni. Pañca cāti abbudagaṇanāya pañca abbudāni. Yamariyagarahīti yaṃ ariye garahanto nirayaṃ upapajjati, tattha ettakaṃ āyuppamāṇanti attho.

    กาลมกาสีติ อุปชฺฌาเย ปกฺกเนฺต กาลํ อกาสิฯ ปทุมนิรยนฺติ ปาฎิเยโกฺก ปทุมนิรโย นาม นตฺถิ, อวีจิมหานิรยสฺมิํเยว ปน ปทุมคณนาย ปจฺจิตเพฺพ เอกสฺมิํ ฐาเน นิพฺพตฺติฯ

    Kālamakāsīti upajjhāye pakkante kālaṃ akāsi. Padumanirayanti pāṭiyekko padumanirayo nāma natthi, avīcimahānirayasmiṃyeva pana padumagaṇanāya paccitabbe ekasmiṃ ṭhāne nibbatti.

    วีสติขาริโกติ มาคธเกน ปเตฺถน จตฺตาโร ปตฺถา, โกสลรเฎฺฐ เอโก ปโตฺถ โหติฯ เตน ปเตฺถน จตฺตาโร ปตฺถา อาฬฺหกํ , จตฺตาริ อาฬฺหกานิ โทณํ, จตุโทณา มานิกา, จตุมานิกา ขารี, ตาย ขาริยา วีสติขาริโกฯ ติลวาโหติ มาคธกานํ สุขุมติลานํ ติลสกฎํฯ อพฺพุโท นิรโยติ อพฺพุโท นาม ปาฎิเยโกฺก นิรโย นตฺถิ, อวีจิมฺหิเยว ปน อพฺพุทคณนาย ปจฺจิตพฺพฎฺฐานเสฺสตํ นามํฯ นิรพฺพุทาทีสุปิ เอเสว นโยฯ

    Vīsatikhārikoti māgadhakena patthena cattāro patthā, kosalaraṭṭhe eko pattho hoti. Tena patthena cattāro patthā āḷhakaṃ , cattāri āḷhakāni doṇaṃ, catudoṇā mānikā, catumānikā khārī, tāya khāriyā vīsatikhāriko. Tilavāhoti māgadhakānaṃ sukhumatilānaṃ tilasakaṭaṃ. Abbudo nirayoti abbudo nāma pāṭiyekko nirayo natthi, avīcimhiyeva pana abbudagaṇanāya paccitabbaṭṭhānassetaṃ nāmaṃ. Nirabbudādīsupi eseva nayo.

    วสฺสคณนาปิ ปเนตฺถ เอวํ เวทิตพฺพา – ยเถว หิ สตํ สตสหสฺสานิ โกฎิ โหติ, เอวํ สตํ สตสหสฺสโกฎิโย ปโกฎิ นาม โหติ, สตํ สตสหสฺสปโกฎิโย โกฎิปโกฎิ นาม, สตํ สตสหสฺสโกฎิปโกฎิโย นหุตํ, สตํ สตสหสฺสนหุตานิ นินฺนหุตํ, สตํ สตสหสฺสนินฺนหุตานิ เอกํ อพฺพุทํ, ตโต วีสติคุณํ นิรพฺพุทํ, เอส นโย สพฺพตฺถาติฯ ทสมํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ

    Vassagaṇanāpi panettha evaṃ veditabbā – yatheva hi sataṃ satasahassāni koṭi hoti, evaṃ sataṃ satasahassakoṭiyo pakoṭi nāma hoti, sataṃ satasahassapakoṭiyo koṭipakoṭi nāma, sataṃ satasahassakoṭipakoṭiyo nahutaṃ, sataṃ satasahassanahutāni ninnahutaṃ, sataṃ satasahassaninnahutāni ekaṃ abbudaṃ, tato vīsatiguṇaṃ nirabbudaṃ, esa nayo sabbatthāti. Dasamaṃ heṭṭhā vuttanayeneva veditabbaṃ. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.

    เถรวโคฺค จตุโตฺถฯ

    Theravaggo catuttho.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๙. โกกาลิกสุตฺตํ • 9. Kokālikasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙-๑๐. โกกาลิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 9-10. Kokālikasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact