Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Aṅguttara Nikāya, English translation |
องฺคุตฺตร นิกาย ๑๐ฯ๙๖
Numbered Discourses 10.96
๑๐ฯ อุปาลิวคฺค
10. With Upāli
โกกนุทสุตฺต
With Kokanada
เอกํ สมยํ อายสฺมา อานนฺโท ราชคเห วิหรติ ตโปทาราเมฯ อถ โข อายสฺมา อานนฺโท รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย เยน ตโปทา เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิญฺจิตุํฯ ตโปทาย คตฺตานิ ปริสิญฺจิตฺวา ปจฺจุตฺตริตฺวา เอกจีวโร อฏฺฐาสิ คตฺตานิ ปุพฺพาปยมาโนฯ โกกนุโทปิ โข ปริพฺพาชโก รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฏฺฐาย เยน ตโปทา เตนุปสงฺกมิ คตฺตานิ ปริสิญฺจิตุํฯ
At one time Venerable Ānanda was staying near Rājagaha in the Hot Springs Monastery. Then Ānanda rose at the crack of dawn and went to the hot springs to bathe. When he had bathed and emerged from the water he stood in one robe drying himself. The wanderer Kokanada also rose at the crack of dawn and went to the hot springs to bathe.
อทฺทสา โข โกกนุโท ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวาน อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ เอตทโวจ: “เกฺวตฺถ, อาวุโส”ติ?
He saw Ānanda coming off in the distance and said to him, “Who’s here, friend?”
“อหมาวุโส, ภิกฺขู”ติฯ
“I’m a bhikkhu, friend.”
“กตเมสํ, อาวุโส, ภิกฺขูนนฺ”ติ?
“Of which bhikkhus?”
“สมณานํ, อาวุโส, สกฺยปุตฺติยานนฺ”ติฯ
“Of the ascetics who follow the Sakyan.”
“ปุจฺเฉยฺยาม มยํ อายสฺมนฺตํ กิญฺจิเทว เทสํ, สเจ อายสฺมา โอกาสํ กโรติ ปญฺหสฺส เวยฺยากรณายา”ติฯ
“I’d like to ask the venerable about a certain point, if you’d take the time to answer.”
“ปุจฺฉาวุโส, สุตฺวา เวทิสฺสามา”ติฯ
“Ask, friend. When I’ve heard it I’ll know.”
“กึ นุ โข, โภ, ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ—เอวํทิฏฺฐิ ภวนฺ”ติ?
“Is this your view: ‘The cosmos is eternal. This is the only truth, other ideas are silly’?”
“น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺฐิ: ‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'”ติฯ
“That’s not my view, friend.”
“กึ ปน, โภ, ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ—เอวํทิฏฺฐิ ภวนฺ”ติ?
“Then is this your view: ‘The cosmos is not eternal. This is the only truth, other ideas are silly’?”
“น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺฐิ: ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'”ติฯ
“That’s not my view, friend.”
“กึ นุ โข, โภ, อนฺตวา โลโก …เป… อนนฺตวา โลโก … ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ … อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ … โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ—เอวํทิฏฺฐิ ภวนฺ”ติ?
“Then is this your view: ‘The world is finite …’ … ‘The world is infinite …’ … ‘The soul and the body are the same thing …’ … ‘The soul and the body are different things …’ … ‘A Realized One still exists after death …’ … ‘A Realized One no longer exists after death …’ … ‘A Realized One both still exists and no longer exists after death …’ … ‘A Realized One neither still exists nor no longer exists after death. This is the only truth, other ideas are silly’?”
“น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺฐิ: ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'”ติฯ
“That’s not my view, friend.”
“เตน หิ ภวํ น ชานาติ, น ปสฺสตี”ติ?
“Then, sir, do you neither know nor see?”
“น โข อหํ, อาวุโส, น ชานามิ น ปสฺสามิฯ ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี”ติฯ
“That’s not so, friend. I do know and see.”
“‘กึ นุ โข, โภ, สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ—เอวํทิฏฺฐิ ภวนฺ'ติ, อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน: ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺฐิ—สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ วเทสิฯ
“When asked about all these points, you say that’s not your view.
‘กึ ปน, โภ, อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ—เอวํทิฏฺฐิ ภวนฺ'ติ, อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน: ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺฐิ—อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ วเทสิฯ
กึ นุ โข, โภ, อนฺตวา โลโก …เป… อนนฺตวา โลโก … ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ … อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ … โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ—เอวํทิฏฺฐิ ภวนฺติ, อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน: ‘น โข อหํ, อาวุโส, เอวํทิฏฺฐิ—เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ วเทสิฯ
‘เตน หิ ภวํ น ชานาติ น ปสฺสตี'ติ, อิติ ปุฏฺโฐ สมาโน: ‘น โข อหํ, อาวุโส, น ชานามิ น ปสฺสามิฯ ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี'ติ วเทสิฯ ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ”ติ?
Yet when asked whether you neither know nor see, you say, ‘That’s not so, friend. I do know and see.’ How then should we see the meaning of this statement?”
“‘สสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ โข, อาวุโส, ทิฏฺฐิคตเมตํฯ ‘อสสฺสโต โลโก, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ โข, อาวุโส, ทิฏฺฐิคตเมตํฯ อนฺตวา โลโก …เป… อนนฺตวา โลโก … ตํ ชีวํ ตํ สรีรํ … อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรํ … โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา … ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺ'ติ โข, อาวุโส, ทิฏฺฐิคตเมตํฯ
“‘The cosmos is eternal. This is the only truth, other ideas are silly:’ that’s a misconception. ‘The cosmos is not eternal. This is the only truth, other ideas are silly:’ that’s a misconception. ‘The world is finite …’ … ‘The world is infinite …’ … ‘The soul and the body are the same thing …’ … ‘The soul and the body are different things …’ … ‘A Realized One still exists after death …’ … ‘A Realized One no longer exists after death …’ … ‘A Realized One both still exists and no longer exists after death …’ … ‘A Realized One neither still exists nor no longer exists after death. This is the only truth, other ideas are silly:’ that’s a misconception.
ยาวตา, อาวุโส, ทิฏฺฐิ ยาวตา ทิฏฺฐิฏฺฐานํ ทิฏฺฐิอธิฏฺฐานํ ทิฏฺฐิปริยุฏฺฐานํ ทิฏฺฐิสมุฏฺฐานํ ทิฏฺฐิสมุคฺฆาโต, ตมหํ ชานามิ ตมหํ ปสฺสามิฯ ตมหํ ชานนฺโต ตมหํ ปสฺสนฺโต กฺยาหํ วกฺขามิ: ‘น ชานามิ น ปสฺสามี'ติ? ชานามหํ, อาวุโส, ปสฺสามี”ติฯ
I know and see the scope of convictions, the scope of grounds for views, fixation on views, obsession with views, the origin of views, and the uprooting of views. Knowing and seeing thus, why should I say: ‘I neither know nor see?’ I do know and see.”
“โก นาโม อายสฺมา, กถญฺจ ปนายสฺมนฺตํ สพฺรหฺมจารี ชานนฺตี”ติ?
“What is the venerable’s name? And how are you known among your spiritual companions?”
“‘อานนฺโท'ติ โข เม, อาวุโส, นามํฯ ‘อานนฺโท'ติ จ ปน มํ สพฺรหฺมจารี ชานนฺตี”ติฯ
“Friend, my name is Ānanda. And that’s how I’m known among my spiritual companions.”
“มหาจริเยน วต กิร, โภ, สทฺธึ มนฺตยมานา น ชานิมฺห: ‘อายสฺมา อานนฺโท'ติฯ สเจ หิ มยํ ชาเนยฺยาม: ‘อยํ อายสฺมา อานนฺโท'ติ, เอตฺตกมฺปิ โน นปฺปฏิภาเยยฺยฯ ขมตุ จ เม อายสฺมา อานนฺโท”ติฯ
“Goodness! I had no idea I was consulting such a great teacher as Venerable Ānanda! If I had known who you were, I wouldn’t have said so much. May Venerable Ānanda please forgive me.”
ฉฏฺฐํฯ
The authoritative text of the Aṅguttara Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]