Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi

    ๑๐. โกสมฺพกกฺขนฺธกํ

    10. Kosambakakkhandhakaṃ

    ๒๗๑. โกสมฺพกวิวาทกถา

    271. Kosambakavivādakathā

    ๔๕๑. โกสมฺพกกฺขนฺธเก อยมนุปุพฺพิกถา เอวํ เวทิตพฺพาติ โยชนาฯ วินยํ ปาฬิโต จ, ตทตฺถโต จ ธาเรตีติ วินยธโร, ตถา สุตฺตนฺตํ ธาเรตีติ สุตฺตนฺติโกฯ เตสูติ ทฺวีสุ ภิกฺขูสุฯ สุตฺตนฺติโก ภิกฺขุ นิกฺขมีติ สมฺพโนฺธฯ อาจมนอุทกาวเสสนฺติ อาจเมติ โธวติ อเนนาติ อาจมนํ, ตเมว อุทกํ อาจมนอุทกํ, ตเมว อวเสสํ อาจมนอุทกาวเสสํ, อวเสสอาจมนอุทกนฺติ อโตฺถฯ ตํ ภิกฺขุนฺติ สุตฺตนฺติกํ ภิกฺขุํฯ เอตฺถาติ อาจมนอุทกาวเสสฎฺฐปเนฯ ‘‘สเจ โหติ, เทเสสฺสามี’’ติ อิมินา อตฺตโน สุพฺพจภาวญฺจ สิกฺขากามตญฺจ ทเสฺสติฯ เตติ ตยา, กถนฺติ สมฺพโนฺธฯ อถ วา เตติ ตุยฺหํ, นตฺถีติ สมฺพโนฺธฯ อสญฺจิจฺจ อสติยา กตตฺตา อนาปตฺติปโกฺขปิ ภเวยฺยาติ อาห ‘‘นตฺถิ อาปตฺตี’’ติฯ เอตฺถ ปน อาปตฺติเยวฯ โสติ สุตฺตนฺติโกฯ

    451. Kosambakakkhandhake ayamanupubbikathā evaṃ veditabbāti yojanā. Vinayaṃ pāḷito ca, tadatthato ca dhāretīti vinayadharo, tathā suttantaṃ dhāretīti suttantiko. Tesūti dvīsu bhikkhūsu. Suttantiko bhikkhu nikkhamīti sambandho. Ācamanaudakāvasesanti ācameti dhovati anenāti ācamanaṃ, tameva udakaṃ ācamanaudakaṃ, tameva avasesaṃ ācamanaudakāvasesaṃ, avasesaācamanaudakanti attho. Taṃ bhikkhunti suttantikaṃ bhikkhuṃ. Etthāti ācamanaudakāvasesaṭṭhapane. ‘‘Sace hoti, desessāmī’’ti iminā attano subbacabhāvañca sikkhākāmatañca dasseti. Teti tayā, kathanti sambandho. Atha vā teti tuyhaṃ, natthīti sambandho. Asañcicca asatiyā katattā anāpattipakkhopi bhaveyyāti āha ‘‘natthi āpattī’’ti. Ettha pana āpattiyeva. Soti suttantiko.

    วินยธโรปีติ วินยธโร ปน, อาโรเจสีติ สมฺพโนฺธฯ อาปชฺชมาโนปีติ ปิสโทฺท ครหโตฺถฯ เตติ วินยธรสฺส นิสฺสิตกา, อาหํสูติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺสาติ สุตฺตนฺติกสฺสฯ เตติ สุตฺตนฺติกสฺส นิสฺสิตกา, อาโรเจสุนฺติ สมฺพโนฺธฯ โสติ สุตฺตนฺติโกฯ มุสาวาทีติ อภูตโต, อภูตํ วา วจนํ วทนสีโลฯ เอโสติ วินยธโรฯ เตติ สุตฺตนฺติกสฺส นิสฺสิตกา, อาหํสูติ สมฺพโนฺธฯ ตโตติ กลหวฑฺฒนการณาฯ วินยธโร อกาสีติ สมฺพโนฺธฯ

    Vinayadharopīti vinayadharo pana, ārocesīti sambandho. Āpajjamānopīti pisaddo garahattho. Teti vinayadharassa nissitakā, āhaṃsūti sambandho. Tassāti suttantikassa. Teti suttantikassa nissitakā, ārocesunti sambandho. Soti suttantiko. Musāvādīti abhūtato, abhūtaṃ vā vacanaṃ vadanasīlo. Esoti vinayadharo. Teti suttantikassa nissitakā, āhaṃsūti sambandho. Tatoti kalahavaḍḍhanakāraṇā. Vinayadharo akāsīti sambandho.

    ๔๕๓. ‘‘น ตาว ภิโนฺน’’ติ อิมินา ภิโนฺนติ เอตฺถ ตปจฺจยสฺส อวสฺสมฺภาวิยเตฺถ อนาคตกาลิกตํ ทเสฺสติฯ ตเมวตฺถํ สห อุปมาย ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อปิจา’’ติอาทิฯ นฺติ สสฺสํฯ ‘‘ภิชฺชิสฺสตี’’ติ อิมินา ภิชฺชิสฺสตีติ ภิโนฺนติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ โส จ โขติ สโงฺฆฯ กลหวเสน ภิชฺชิสฺสตีติ สมฺพโนฺธฯ สมฺภมอตฺถวเสนาติ สํเวคอตฺถวเสนฯ สมฺภมสโทฺท หิ ตีสุ อเตฺถสุ วตฺตติ คารเว, ภีติยํ, สํเวเค จาติฯ อิธ ปน สํเวเค วตฺตติฯ ภิกฺขุสงฺฆสฺส ภิเนฺน สํเวคอตฺถวเสนาติ อธิปฺปาโยฯ อิทํ เหฎฺฐา กถิตาย ‘‘ภเย โกเธ ปสํสาย’’นฺติ คาถาย (ปารา. อฎฺฐ. ๑.๑๕) จสเทฺทน สมฺปิณฺฑิตํ สมฺภมอตฺถํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฎฺฐพฺพํฯ เอตฺถาติ ‘‘ภิโนฺน ภิกฺขุสโงฺฆ ภิโนฺน ภิกฺขุสโงฺฆ’’ติ ปาเฐฯ อาเมฑิตนฺติ อา ปุนปฺปุนํ ภยาทิปีฬิตตฺตา เมเฑน อุมฺมาเทน อิตํ กถิตํ อาเมฑิตํฯ

    453. ‘‘Na tāva bhinno’’ti iminā bhinnoti ettha tapaccayassa avassambhāviyatthe anāgatakālikataṃ dasseti. Tamevatthaṃ saha upamāya dassento āha ‘‘apicā’’tiādi. Tanti sassaṃ. ‘‘Bhijjissatī’’ti iminā bhijjissatīti bhinnoti vacanatthaṃ dasseti. So ca khoti saṅgho. Kalahavasena bhijjissatīti sambandho. Sambhamaatthavasenāti saṃvegaatthavasena. Sambhamasaddo hi tīsu atthesu vattati gārave, bhītiyaṃ, saṃvege cāti. Idha pana saṃvege vattati. Bhikkhusaṅghassa bhinne saṃvegaatthavasenāti adhippāyo. Idaṃ heṭṭhā kathitāya ‘‘bhaye kodhe pasaṃsāya’’nti gāthāya (pārā. aṭṭha. 1.15) casaddena sampiṇḍitaṃ sambhamaatthaṃ sandhāya vuttanti daṭṭhabbaṃ. Etthāti ‘‘bhinno bhikkhusaṅgho bhinno bhikkhusaṅgho’’ti pāṭhe. Āmeḍitanti ā punappunaṃ bhayādipīḷitattā meḍena ummādena itaṃ kathitaṃ āmeḍitaṃ.

    ๔๕๔. หีติ วิตฺถาโรฯ ภควา วเทยฺยาติ สมฺพโนฺธฯ อุกฺขิปนฺติ อปเนนฺตีติ อุเกฺขปกาฯ อุกฺขิตฺตมนุวตฺตนฺตีติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตกาฯ เอเตสนฺติ อุกฺขิตฺตานุวตฺตกานํฯ ปุน เอเตสนฺติ อุเกฺขปกานํฯ ปโกฺขติ สขาฯ ตนฺติเมวาติ ปาฬิเมว, พฺยาปารเมว วาฯ

    454.ti vitthāro. Bhagavā vadeyyāti sambandho. Ukkhipanti apanentīti ukkhepakā. Ukkhittamanuvattantīti ukkhittānuvattakā. Etesanti ukkhittānuvattakānaṃ. Puna etesanti ukkhepakānaṃ. Pakkhoti sakhā. Tantimevāti pāḷimeva, byāpārameva vā.

    ๔๕๕. โยติ ภิกฺขุฯ จิตฺตํ อุปฺปาเทตีติ สมฺพโนฺธฯ ตุเมฺหติ ธมฺมวาทิโน สนฺธาย วุตฺตํฯ กิํ ภณถาติ กิํ วจนํ ภณถฯ อิติ ปุจฺฉิตฺวาติ สมฺพโนฺธฯ เตสญฺจาติ ธมฺมวาทีนญฺจฯ อิตเรสญฺจาติ อธมฺมวาทีนญฺจฯ อิเมติ อตฺตโน ปเกฺข อิเม ภิกฺขูฯ เตสนฺติ อธมฺมวาทีนํฯ ‘‘กมฺมํ โกเปตี’’ติ ‘‘นานาสํวาสกจตุโตฺถ เจ ภิกฺขเว กมฺมํ กเรยฺย, อกมฺมํ, น จ กรณีย’’นฺติ วจนโต (มหาว. ๓๘๙) กมฺมํ โกเปติฯ อิตเรสมฺปีติ ธมฺมวาทีนมฺปิฯ ธมฺมวาทีนํ ปเกฺข นิสีทิตฺวา อธมฺมวาทีนํ ลทฺธิํ คณฺหโนฺตปิ ธมฺมวาทีนํ นานาสํวาสโก โหติเยว, อยํ นโย วุตฺตนยสฺส อตฺถโต สิโทฺธติ กตฺวา อิธ น วุโตฺตฯ เอวนฺติอาทิ นิคมนํฯ โยติ ภิกฺขุ, ปวิสติ คณฺหาตีติ สมฺพโนฺธฯ นิสิโนฺน หุตฺวาติ โยชนาฯ อิเมติ อตฺตโน ปเกฺข อิเม ภิกฺขูฯ อิตเรติ ปรปเกฺข อิตเร ภิกฺขูฯ เตสนฺติ ธมฺมวาทีนํฯ ยตฺถ ตตฺถ วา ปน ปเกฺขติ ยสฺมิํ กสฺมิํจิ วา ธมฺมวาทีนํ ปเกฺขฯ อิเม ธมฺมวาทิโนติ คณฺหาตีติ ตํตํปกฺขคเต ภิกฺขู ยาถาวโต วา อยาถาวโต วา ‘‘อิเม ธมฺมวาทิโน’’ติ คณฺหาติฯ

    455.Yoti bhikkhu. Cittaṃ uppādetīti sambandho. Tumheti dhammavādino sandhāya vuttaṃ. Kiṃ bhaṇathāti kiṃ vacanaṃ bhaṇatha. Iti pucchitvāti sambandho. Tesañcāti dhammavādīnañca. Itaresañcāti adhammavādīnañca. Imeti attano pakkhe ime bhikkhū. Tesanti adhammavādīnaṃ. ‘‘Kammaṃ kopetī’’ti ‘‘nānāsaṃvāsakacatuttho ce bhikkhave kammaṃ kareyya, akammaṃ, na ca karaṇīya’’nti vacanato (mahāva. 389) kammaṃ kopeti. Itaresampīti dhammavādīnampi. Dhammavādīnaṃ pakkhe nisīditvā adhammavādīnaṃ laddhiṃ gaṇhantopi dhammavādīnaṃ nānāsaṃvāsako hotiyeva, ayaṃ nayo vuttanayassa atthato siddhoti katvā idha na vutto. Evantiādi nigamanaṃ. Yoti bhikkhu, pavisati gaṇhātīti sambandho. Nisinno hutvāti yojanā. Imeti attano pakkhe ime bhikkhū. Itareti parapakkhe itare bhikkhū. Tesanti dhammavādīnaṃ. Yattha tattha vā pana pakkheti yasmiṃ kasmiṃci vā dhammavādīnaṃ pakkhe. Ime dhammavādinoti gaṇhātīti taṃtaṃpakkhagate bhikkhū yāthāvato vā ayāthāvato vā ‘‘ime dhammavādino’’ti gaṇhāti.

    ๔๕๖. กาเยน กตํ กมฺมํ กายกมฺมํ, วจิยา กตํ กมฺมํ วจีกมฺมํฯ ตตฺถ กายกมฺมํ อุปทํเสนฺตา ภิกฺขู ปหรนฺตา อุปทํเสนฺติฯ วจีกมฺมํ อุปทํเสนฺตา ภิกฺขู ผรุสํ วทนฺตา อุปทํเสนฺติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘กาเยน ปหรนฺตา’’ติอาทิฯ อุปทํเสนฺตีติ ปวเตฺตนฺติฯ ‘‘โกธวเสนา’’ติ อิมินา เปมวเสนาติ อตฺถํ นิวเตฺตติฯ อธมฺมิยานีติ อธเมฺมน กตฺตพฺพานิฯ ‘‘กิจฺจานี’’ติ อิมินา อิยปจฺจยสฺส สรูปํ ทเสฺสติฯ อสโมฺมทิกาติ เอตฺถ ยการโลโปติ อาห ‘‘อสโมฺมทิกายา’’ติฯ ‘‘กถายา’’ติ อิมินา อสโมฺมทํ ชเนตีติ อสโมฺมทิกาติ กตฺวา ณิกปจฺจยสฺส สรูปํ ทเสฺสติฯ อุปจารํ มุญฺจิตฺวาติ เอตฺถ อุปจาโร นาม อญฺญมญฺญํ ปหรนฺตานํ หตฺถสฺส ปาปุณนฎฺฐานํ, ตํ มุญฺจิตฺวาติ อโตฺถฯ อาสนนฺตริกายาติ เอตฺถ เอกํ อาสนํ อนฺตรํ พฺยวหิตํ อิมิสฺสา นิสินฺนกิริยายาติ อาสนนฺตริกาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เอเกกํ อาสนํ อนฺตร’’นฺติฯ ‘‘กตฺวา’’ติ อิมินา กิริยาวิเสสนภาวํ ทเสฺสติฯ

    456. Kāyena kataṃ kammaṃ kāyakammaṃ, vaciyā kataṃ kammaṃ vacīkammaṃ. Tattha kāyakammaṃ upadaṃsentā bhikkhū paharantā upadaṃsenti. Vacīkammaṃ upadaṃsentā bhikkhū pharusaṃ vadantā upadaṃsenti. Tena vuttaṃ ‘‘kāyena paharantā’’tiādi. Upadaṃsentīti pavattenti. ‘‘Kodhavasenā’’ti iminā pemavasenāti atthaṃ nivatteti. Adhammiyānīti adhammena kattabbāni. ‘‘Kiccānī’’ti iminā iyapaccayassa sarūpaṃ dasseti. Asammodikāti ettha yakāralopoti āha ‘‘asammodikāyā’’ti. ‘‘Kathāyā’’ti iminā asammodaṃ janetīti asammodikāti katvā ṇikapaccayassa sarūpaṃ dasseti. Upacāraṃ muñcitvāti ettha upacāro nāma aññamaññaṃ paharantānaṃ hatthassa pāpuṇanaṭṭhānaṃ, taṃ muñcitvāti attho. Āsanantarikāyāti ettha ekaṃ āsanaṃ antaraṃ byavahitaṃ imissā nisinnakiriyāyāti āsanantarikāti dassento āha ‘‘ekekaṃ āsanaṃ antara’’nti. ‘‘Katvā’’ti iminā kiriyāvisesanabhāvaṃ dasseti.

    ๔๕๗-๘. อยํ อสฺส ภิกฺขุโน อธิปฺปาโย กิราติ โยชนาฯ เอเตติ โกธาภิภูเต ภิกฺขูฯ ภควา ปน กเถสีติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อนโตฺถ อโต’’ติ อิมินา อนตฺถโตติ ปทสฺส โอการโลปสนฺธิํ ทเสฺสติฯ เตสํ ปทานมตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เอตสฺมา’’ติอาทิฯ ‘‘อถ วา’’ติอาทินา ‘‘อนตฺถโท’’ติ วตฺตเพฺพ ‘‘สุคโต’’ติอาทีสุ วิย ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา อนตฺถโตติ วุตฺตนฺติ ทเสฺสติฯ อนตฺถโทติ อนตฺถํ ททาตีติ อนตฺถโทฯ

    457-8. Ayaṃ assa bhikkhuno adhippāyo kirāti yojanā. Eteti kodhābhibhūte bhikkhū. Bhagavā pana kathesīti sambandho. ‘‘Anattho ato’’ti iminā anatthatoti padassa okāralopasandhiṃ dasseti. Tesaṃ padānamatthaṃ dassento āha ‘‘etasmā’’tiādi. ‘‘Atha vā’’tiādinā ‘‘anatthado’’ti vattabbe ‘‘sugato’’tiādīsu viya da-kārassa ta-kāraṃ katvā anatthatoti vuttanti dasseti. Anatthadoti anatthaṃ dadātīti anatthado.

    ๔๖๔. ปุถุสโทฺทติ เอตฺถ ปุถุสโทฺท มหนฺตปริยาโยติ อาห ‘‘มหา’’ติฯ อสฺสาติ ภณฺฑนการกสฺส ชนสฺสฯ สมชโนติ เอตฺถ สมสโทฺท สทิสปริยาโยติ อาห ‘‘เอกสทิโส’’ติ, ตุลฺยาธิกรณสมาโสยํฯ ภณฺฑนการโก อยํ ชโนติ โยชนาฯ ตตฺถาติ ภณฺฑนการเกสุ ชเนสุฯ อญฺญมฺปิ เอกํ อิทํ การณนฺติ สมฺพโนฺธฯ น มญฺญิตฺถาติ โกจิ เอโกปิ น มญฺญิตฺถาติ โยชนาฯ อิมินา อมญฺญรุนฺติ เอตฺถ อาวิภตฺติยา ‘‘รุ’’นฺติ อาเทโส ทสฺสิโตฯ

    464.Puthusaddoti ettha puthusaddo mahantapariyāyoti āha ‘‘mahā’’ti. Assāti bhaṇḍanakārakassa janassa. Samajanoti ettha samasaddo sadisapariyāyoti āha ‘‘ekasadiso’’ti, tulyādhikaraṇasamāsoyaṃ. Bhaṇḍanakārako ayaṃ janoti yojanā. Tatthāti bhaṇḍanakārakesu janesu. Aññampi ekaṃ idaṃ kāraṇanti sambandho. Na maññitthāti koci ekopi na maññitthāti yojanā. Iminā amaññarunti ettha āvibhattiyā ‘‘ru’’nti ādeso dassito.

    ปริมุฎฺฐาติ ปริมุฎฺฐา สติ เอเตสนฺติ ปริมุฎฺฐาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปริมุฎฺฐสติโน’’ติฯ อฎฺฐกฺขรคาถายํ ‘‘ปญฺจมํ ลฆุ สพฺพตฺถา’’ติ วุตฺตตฺตา ปญฺจมสฺส ราการสฺส รโสฺส โหติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ราการสฺส รสฺสาเทโส กโต’’ติฯ กถํ ภาณิโนติ วาจํ ภาณิโนฯ มุขายามนฺติ เอตฺถ อายามสโทฺท วิตฺถารปริยาโย, วิตฺถาโร จ นาม ปสารณนฺติ อาห ‘‘ปสาเรตุ’’นฺติฯ สมฺปทานตฺถโชตเกน ตุํปจฺจเยน สมฺปทานเตฺถ อุปโยควจนนฺติ ทเสฺสติฯ นีตาติ กมฺมวาจกสฺส กิตสฺส อปฺปธานกมฺมํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อิมํ นิลฺลชฺชภาว’’นฺติฯ ทฺวิกมฺมกธาตุภาวโต ‘‘อตฺตโน’’ติ ปธานกมฺมมฺปิ อชฺฌาหริตพฺพํฯ นฺติ กลหํฯ ‘‘ชาน’’นฺติ ปเทน ‘‘วิทู’’ติ ปทสฺส อตฺถญฺจ วากฺยญฺจ ทเสฺสติฯ วิทนฺติ ชานนฺตีติ วิทูติ วจนโตฺถ กาตโพฺพติ อธิปฺปาโยฯ สาทีนโวติอาทีนเวน โทเสน สห ปวโตฺตฯ อยนฺติ กลโหฯ

    Parimuṭṭhāti parimuṭṭhā sati etesanti parimuṭṭhāti dassento āha ‘‘parimuṭṭhasatino’’ti. Aṭṭhakkharagāthāyaṃ ‘‘pañcamaṃ laghu sabbatthā’’ti vuttattā pañcamassa rākārassa rasso hoti. Tena vuttaṃ ‘‘rākārassa rassādeso kato’’ti. Kathaṃ bhāṇinoti vācaṃ bhāṇino. Mukhāyāmanti ettha āyāmasaddo vitthārapariyāyo, vitthāro ca nāma pasāraṇanti āha ‘‘pasāretu’’nti. Sampadānatthajotakena tuṃpaccayena sampadānatthe upayogavacananti dasseti. Nītāti kammavācakassa kitassa appadhānakammaṃ dassento āha ‘‘imaṃ nillajjabhāva’’nti. Dvikammakadhātubhāvato ‘‘attano’’ti padhānakammampi ajjhāharitabbaṃ. Tanti kalahaṃ. ‘‘Jāna’’nti padena ‘‘vidū’’ti padassa atthañca vākyañca dasseti. Vidanti jānantīti vidūti vacanattho kātabboti adhippāyo. Sādīnavotiādīnavena dosena saha pavatto. Ayanti kalaho.

    เย จ ตํ อุปนยฺหนฺตีติ เอตฺถ ตสทฺทสฺส วิสยํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํ ‘‘อาฆาต’’นฺติฯ เยติ ชนาฯ อุปนยฺหนฺติ อุปนหนฺติ พนฺธนฺติฯ สนนฺตโนติ เอตฺถ สนนฺตนสโทฺท ปุราณปริยาโยติ อาห ‘‘โปราโณ’’ติฯ

    Yeca taṃ upanayhantīti ettha tasaddassa visayaṃ dassetuṃ vuttaṃ ‘‘āghāta’’nti. Yeti janā. Upanayhanti upanahanti bandhanti. Sanantanoti ettha sanantanasaddo purāṇapariyāyoti āha ‘‘porāṇo’’ti.

    ‘‘อเญฺญ’’ติ อิมินา ปเรติ เอตฺถ ปรสทฺทสฺส ปจฺฉาภาคตฺถาทโย นิวาเรติฯ มยเมตฺถ ยมามเสติ เอตฺถ เอตสทฺทสฺส วิสยํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สงฺฆมเชฺฌ’’ติฯ ยมุธาตุ อุปยมนโตฺถ เสกาโร นิปาตมโตฺตติ อาห ‘‘อุปยมามา’’ติฯ ‘‘สตตํ สมิตํ มจฺจุสนฺติกํ คจฺฉามา’’ติ อิมินา ‘‘น ชานนฺตี’’ติ ปทสฺส อาการํ ทเสฺสติฯ ตตฺถาติ มหาชนกาเย เย ปณฺฑิตาติ โยชนาฯ เอวํ หีติ เอวเมวฯ ชานนฺตา เต ปณฺฑิตา ปฎิปชฺชนฺตีติ โยชนาฯ เมธนฺตา หิํสนฺตา คจฺฉนฺติ ปวตฺตนฺตีติ เมธคา กลหาฯ เกจิ เมธธาตุโต ณฺวุปจฺจยํ วทนฺติ, เตสํ มเตน เมธกาติ ปฐมกฺขเรน ปาโฐ ภเวยฺยฯ

    ‘‘Aññe’’ti iminā pareti ettha parasaddassa pacchābhāgatthādayo nivāreti. Mayamettha yamāmaseti ettha etasaddassa visayaṃ dassento āha ‘‘saṅghamajjhe’’ti. Yamudhātu upayamanattho sekāro nipātamattoti āha ‘‘upayamāmā’’ti. ‘‘Satataṃ samitaṃ maccusantikaṃ gacchāmā’’ti iminā ‘‘na jānantī’’ti padassa ākāraṃ dasseti. Tatthāti mahājanakāye ye paṇḍitāti yojanā. Evaṃ hīti evameva. Jānantā te paṇḍitā paṭipajjantīti yojanā. Medhantā hiṃsantā gacchanti pavattantīti medhagā kalahā. Keci medhadhātuto ṇvupaccayaṃ vadanti, tesaṃ matena medhakāti paṭhamakkharena pāṭho bhaveyya.

    เตสมฺปีติ พฺรหฺมทตฺตทีฆาวุกุมารานมฺปิฯ สงฺคตีติ สมาคโมฯ โวติ ตุมฺหากํฯ เยสํ ตุมฺหากํ เนว มาตาปิตูนํ อฎฺฐีนิ ฉินฺนานิ, น ปาณา หตา, น ควสฺสธนานิ หฎานิฯ เตสํ ตุมฺหากํ กสฺมา สงฺคติ น โหตีติ โยชนาฯ

    Tesampīti brahmadattadīghāvukumārānampi. Saṅgatīti samāgamo. Voti tumhākaṃ. Yesaṃ tumhākaṃ neva mātāpitūnaṃ aṭṭhīni chinnāni, na pāṇā hatā, na gavassadhanāni haṭāni. Tesaṃ tumhākaṃ kasmā saṅgati na hotīti yojanā.

    สพฺพานิ ปริสฺสยานีติ เอตฺถ สพฺพานีติ วุตฺตการณญฺจ ลิงฺควิปลฺลาสญฺจ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ปากฎปริสฺสเย จ ปฎิจฺฉนฺนปริสฺสเย จา’’ติฯ ‘‘อภิภวิตฺวา’’ติ อิมินา อภิภุยฺยาติ ปทสฺส ตฺวาปจฺจยนฺตภาวํ ทเสฺสติฯ เตนาติ นิปเกน สหาเยนฯ

    Sabbāni parissayānīti ettha sabbānīti vuttakāraṇañca liṅgavipallāsañca dassento āha ‘‘pākaṭaparissaye ca paṭicchannaparissaye cā’’ti. ‘‘Abhibhavitvā’’ti iminā abhibhuyyāti padassa tvāpaccayantabhāvaṃ dasseti. Tenāti nipakena sahāyena.

    ราชาวาติ เอตฺถ ราชา อิวาติ ปทวิภาคํ กตฺวา ราชสทฺทสฺส อุปลกฺขณวเสน มหาชนก, อรินฺทมราชาโน จ อิวสทฺทสฺส โอปมฺมตฺถโชตกญฺจ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยถา’’ติอาทิฯ รฎฺฐวิชิตสทฺทา อญฺญมญฺญปริยายาฯ วิเสสนวิเสสฺยานํ กามาจารโต คมฺยมานตฺตา วุตฺตํ ‘‘วิชิตํ รฎฺฐ’’นฺติฯ ‘‘มาตโงฺค อรเญฺญ นาโค อิวา’’ติ อิมินา ปทวิภาคํ ทเสฺสติฯ เตสํ ปทานํ อตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘มาตโงฺคติ หตฺถี วุจฺจตี’’ติอาทิฯ ‘‘หตฺถี วุจฺจตี’’ติ อิมินา มหโนฺต อโงฺค สรีรเมตสฺสาติ มาตโงฺคติ วจนเตฺถน หตฺถี มาตโงฺค นามาติ ทเสฺสติฯ มหนฺตสทฺทสฺส มาตาเทโสฯ นาคสโทฺท อุรเค จ หตฺถิมฺหิ จ นาครุเกฺข จ อุตฺตเม จ นามปญฺญตฺติยญฺจาติ ปญฺจสุ อเตฺถสุ วตฺตติ, อิธ อุตฺตมเตฺถติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘นาโคติ มหนฺตาธิวจนเมต’’นฺติฯ มาตงฺครเญฺญวาติ เอตฺถ อิวสทฺทสฺส โอปมฺมตฺถโชตกภาวํ ทเสฺสตฺวา อตฺถโยชนํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิฯ ‘‘ยถา จ ปาลิเลยฺยโก’’ติ อิมินา มาตงฺคนาคสฺส สรูปํ อุปลกฺขเณน ทเสฺสติฯ

    Rājāvāti ettha rājā ivāti padavibhāgaṃ katvā rājasaddassa upalakkhaṇavasena mahājanaka, arindamarājāno ca ivasaddassa opammatthajotakañca dassento āha ‘‘yathā’’tiādi. Raṭṭhavijitasaddā aññamaññapariyāyā. Visesanavisesyānaṃ kāmācārato gamyamānattā vuttaṃ ‘‘vijitaṃ raṭṭha’’nti. ‘‘Mātaṅgo araññe nāgo ivā’’ti iminā padavibhāgaṃ dasseti. Tesaṃ padānaṃ atthaṃ dassento āha ‘‘mātaṅgoti hatthī vuccatī’’tiādi. ‘‘Hatthī vuccatī’’ti iminā mahanto aṅgo sarīrametassāti mātaṅgoti vacanatthena hatthī mātaṅgo nāmāti dasseti. Mahantasaddassa mātādeso. Nāgasaddo urage ca hatthimhi ca nāgarukkhe ca uttame ca nāmapaññattiyañcāti pañcasu atthesu vattati, idha uttamattheti dassento āha ‘‘nāgoti mahantādhivacanameta’’nti. Mātaṅgaraññevāti ettha ivasaddassa opammatthajotakabhāvaṃ dassetvā atthayojanaṃ dassento āha ‘‘yathā hī’’tiādi. ‘‘Yathā ca pālileyyako’’ti iminā mātaṅganāgassa sarūpaṃ upalakkhaṇena dasseti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
    ๒๗๑. โกสมฺพกวิวาทกถา • 271. Kosambakavivādakathā
    ๒๗๒. ทีฆาวุวตฺถุ • 272. Dīghāvuvatthu

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / โกสมฺพกวิวาทกถา • Kosambakavivādakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā
    โกสมฺพกวิวาทกถาวณฺณนา • Kosambakavivādakathāvaṇṇanā
    ทีฆาวุวตฺถุกถาวณฺณนา • Dīghāvuvatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā
    โกสมฺพกวิวาทกถาวณฺณนา • Kosambakavivādakathāvaṇṇanā
    ทีฆาวุวตฺถุกถาวณฺณนา • Dīghāvuvatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / โกสมฺพกวิวาทกถาวณฺณนา • Kosambakavivādakathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact