Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๘๓] ๘. กุกฺกุฎชาตกวณฺณนา

    [383] 8. Kukkuṭajātakavaṇṇanā

    สุจิตฺตปตฺตฉทนาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เอกํ อุกฺกณฺฐิตภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ ตญฺหิ ภิกฺขุํ สตฺถา ‘‘กสฺมา อุกฺกณฺฐิโตสี’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘เอกํ อลงฺกตปฎิยตฺตํ อิตฺถิํ ทิสฺวา กิเลสวเสน, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘ภิกฺขุ อิตฺถิโย นาม วเญฺจตฺวา อุปลาเปตฺวา อตฺตโน วสํ คตกาเล วินาสํ ปาเปนฺติ, โลลพิฬารี วิย โหนฺตี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Sucittapattachadanāti idaṃ satthā jetavane viharanto ekaṃ ukkaṇṭhitabhikkhuṃ ārabbha kathesi. Tañhi bhikkhuṃ satthā ‘‘kasmā ukkaṇṭhitosī’’ti pucchitvā ‘‘ekaṃ alaṅkatapaṭiyattaṃ itthiṃ disvā kilesavasena, bhante’’ti vutte ‘‘bhikkhu itthiyo nāma vañcetvā upalāpetvā attano vasaṃ gatakāle vināsaṃ pāpenti, lolabiḷārī viya hontī’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต อรเญฺญ กุกฺกุฎโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา อเนกสตกุกฺกุฎปริวาโร อรเญฺญ วสติฯ ตสฺส อวิทูเร เอกา พิฬาริกาปิ วสติฯ สา ฐเปตฺวา โพธิสตฺตํ อวเสเส กุกฺกุเฎ อุปาเยน วเญฺจตฺวา ขาทิฯ โพธิสโตฺต ตสฺสา คหณํ น คจฺฉติฯ สา จิเนฺตสิ ‘‘อยํ กุกฺกุโฎ อติวิย สโฐ อมฺหากญฺจ สฐภาวํ อุปายกุสลภาวญฺจ น ชานาติ, อิมํ มยา ‘อหํ ภริยา เต ภวิสฺสามี’ติ อุปลาเปตฺวา อตฺตโน วสํ อาคตกาเล ขาทิตุํ วฎฺฎตี’’ติฯ สา เตน นิสินฺนรุกฺขสฺส มูลํ คนฺตฺวา วณฺณสมฺภาสนปุพฺพงฺคมาย วาจาย ตํ ยาจมานา ปฐมํ คาถมาห –

    Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto araññe kukkuṭayoniyaṃ nibbattitvā anekasatakukkuṭaparivāro araññe vasati. Tassa avidūre ekā biḷārikāpi vasati. Sā ṭhapetvā bodhisattaṃ avasese kukkuṭe upāyena vañcetvā khādi. Bodhisatto tassā gahaṇaṃ na gacchati. Sā cintesi ‘‘ayaṃ kukkuṭo ativiya saṭho amhākañca saṭhabhāvaṃ upāyakusalabhāvañca na jānāti, imaṃ mayā ‘ahaṃ bhariyā te bhavissāmī’ti upalāpetvā attano vasaṃ āgatakāle khādituṃ vaṭṭatī’’ti. Sā tena nisinnarukkhassa mūlaṃ gantvā vaṇṇasambhāsanapubbaṅgamāya vācāya taṃ yācamānā paṭhamaṃ gāthamāha –

    ๕๘.

    58.

    ‘‘สุจิตฺตปตฺตฉทน, ตมฺพจูฬ วิหงฺคม;

    ‘‘Sucittapattachadana, tambacūḷa vihaṅgama;

    โอโรห ทุมสาขาย, มุธา ภริยา ภวามิ เต’’ติฯ

    Oroha dumasākhāya, mudhā bhariyā bhavāmi te’’ti.

    ตตฺถ สุจิตฺตปตฺตฉทนาติ สุจิเตฺตหิ ปเตฺตหิ กตจฺฉทนฯ มุธาติ วินา มูเลน น กิญฺจิ คเหตฺวา อหํ ภริยา เต ภวามิฯ

    Tattha sucittapattachadanāti sucittehi pattehi katacchadana. Mudhāti vinā mūlena na kiñci gahetvā ahaṃ bhariyā te bhavāmi.

    ตํ สุตฺวา โพธิสโตฺต ‘‘อิมาย มม สเพฺพ ญาตกา ขาทิตา, อิทานิ มํ อุปลาเปตฺวา ขาทิตุกามา อโหสิ, อุโยฺยเชสฺสามิ น’’นฺติ จิเนฺตตฺวา ทุติยํ คาถมาห –

    Taṃ sutvā bodhisatto ‘‘imāya mama sabbe ñātakā khāditā, idāni maṃ upalāpetvā khāditukāmā ahosi, uyyojessāmi na’’nti cintetvā dutiyaṃ gāthamāha –

    ๕๙.

    59.

    ‘‘จตุปฺปที ตฺวํ กลฺยาณิ, ทฺวิปทาหํ มโนรเม;

    ‘‘Catuppadī tvaṃ kalyāṇi, dvipadāhaṃ manorame;

    มิคี ปกฺขี อสญฺญุตฺตา, อญฺญํ ปริเยส สามิก’’นฺติฯ

    Migī pakkhī asaññuttā, aññaṃ pariyesa sāmika’’nti.

    ตตฺถ มิคีติ พิฬาริํ สนฺธายาหฯ อสญฺญุตฺตาติ ชยมฺปติกา ภวิตุํ อยุตฺตา อสมฺพนฺธา, นตฺถิ เตสํ อีทิโส สมฺพโนฺธติ ทีเปติฯ

    Tattha migīti biḷāriṃ sandhāyāha. Asaññuttāti jayampatikā bhavituṃ ayuttā asambandhā, natthi tesaṃ īdiso sambandhoti dīpeti.

    ตํ สุตฺวา ตโต สา ‘‘อยํ อติวิย สโฐ, เยน เกนจิ อุปาเยน วเญฺจตฺวา นํ ขาทิสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา ตติยํ คาถมาห –

    Taṃ sutvā tato sā ‘‘ayaṃ ativiya saṭho, yena kenaci upāyena vañcetvā naṃ khādissāmī’’ti cintetvā tatiyaṃ gāthamāha –

    ๖๐.

    60.

    ‘‘โกมาริกา เต เหสฺสามิ, มญฺชุกา ปิยภาณินี;

    ‘‘Komārikā te hessāmi, mañjukā piyabhāṇinī;

    วินฺท มํ อริเยน เวเทน, สาวย มํ ยทิจฺฉสี’’ติฯ

    Vinda maṃ ariyena vedena, sāvaya maṃ yadicchasī’’ti.

    ตตฺถ โกมาริกาติ อหํ เอตฺตกํ กาลํ อญฺญํ ปุริสํ น ชานามิ, ตว โกมาริกา ภริยา ภวิสฺสามีติ วทติฯ มญฺชุกา ปิยภาณินีติ ตว มธุรกถา ปิยภาณินีเยว ภวิสฺสามิฯ วินฺท มนฺติ ปฎิลภ มํฯ อริเยน เวเทนาติ สุนฺทเรน ปฎิลาเภนฯ อหมฺปิ หิ อิโต ปุเพฺพ ปุริสสมฺผสฺสํ น ชานามิ, ตฺวมฺปิ อิตฺถิสมฺผสฺสํ น ชานาสิ, อิติ ปกติยา พฺรหฺมจารี พฺรหฺมจารินิํ มํ นิโทฺทเสน ลาเภน ลภฯ ยทิ มํ อิจฺฉสิ, อถ เม วจนํ น สทฺทหสิ, ทฺวาทสโยชนาย พาราณสิยา เภริํ จราเปตฺวา ‘‘อยํ เม ทาสี’’ติ สาวย, มํ อตฺตโน ทาสํ กตฺวา คณฺหาหีติ วทติฯ

    Tattha komārikāti ahaṃ ettakaṃ kālaṃ aññaṃ purisaṃ na jānāmi, tava komārikā bhariyā bhavissāmīti vadati. Mañjukā piyabhāṇinīti tava madhurakathā piyabhāṇinīyeva bhavissāmi. Vinda manti paṭilabha maṃ. Ariyena vedenāti sundarena paṭilābhena. Ahampi hi ito pubbe purisasamphassaṃ na jānāmi, tvampi itthisamphassaṃ na jānāsi, iti pakatiyā brahmacārī brahmacāriniṃ maṃ niddosena lābhena labha. Yadi maṃ icchasi, atha me vacanaṃ na saddahasi, dvādasayojanāya bārāṇasiyā bheriṃ carāpetvā ‘‘ayaṃ me dāsī’’ti sāvaya, maṃ attano dāsaṃ katvā gaṇhāhīti vadati.

    ตโต โพธิสโตฺต ‘‘อิมํ ตเชฺชตฺวา ปลาเปตุํ วฎฺฎตี’’ติ จิเนฺตตฺวา จตุตฺถํ คาถมาห –

    Tato bodhisatto ‘‘imaṃ tajjetvā palāpetuṃ vaṭṭatī’’ti cintetvā catutthaṃ gāthamāha –

    ๖๑.

    61.

    ‘‘กุณปาทินิ โลหิตเป, โจริ กุกฺกุฎโปถินิ;

    ‘‘Kuṇapādini lohitape, cori kukkuṭapothini;

    น ตฺวํ อริเยน เวเทน, มมํ ภตฺตารมิจฺฉสี’’ติฯ

    Na tvaṃ ariyena vedena, mamaṃ bhattāramicchasī’’ti.

    ตตฺถ น ตฺวํ อริเยนาติ ตฺวํ อริเยน พฺรหฺมจริยวาสลาเภน มํ ภตฺตารํ น อิจฺฉสิ, วเญฺจตฺวา ปน มํ ขาทิตุกามาสิ, นสฺส ปาเปติ ตํ ปลาเปสิฯ สา ปน ปลายิตฺวาว คตา, น ปุน โอโลเกตุมฺปิ วิสหิฯ

    Tattha na tvaṃ ariyenāti tvaṃ ariyena brahmacariyavāsalābhena maṃ bhattāraṃ na icchasi, vañcetvā pana maṃ khāditukāmāsi, nassa pāpeti taṃ palāpesi. Sā pana palāyitvāva gatā, na puna oloketumpi visahi.

    ๖๒.

    62.

    ‘‘เอวมฺปิ จตุรา นารี, ทิสฺวาน สธนํ นรํ;

    ‘‘Evampi caturā nārī, disvāna sadhanaṃ naraṃ;

    เนนฺติ สณฺหาหิ วาจาหิ, พิฬารี วิย กุกฺกุฎํฯ

    Nenti saṇhāhi vācāhi, biḷārī viya kukkuṭaṃ.

    ๖๓.

    63.

    ‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, น ขิปฺปมนุพุชฺฌติ;

    ‘‘Yo ca uppatitaṃ atthaṃ, na khippamanubujjhati;

    อมิตฺตวสมเนฺวติ, ปจฺฉา จ อนุตปฺปติฯ

    Amittavasamanveti, pacchā ca anutappati.

    ๖๔.

    64.

    ‘‘โย จ อุปฺปติตํ อตฺถํ, ขิปฺปเมว นิโพธติ;

    ‘‘Yo ca uppatitaṃ atthaṃ, khippameva nibodhati;

    มุจฺจเต สตฺตุสมฺพาธา, กุกฺกุโฎว พิฬาริยา’’ติฯ – อิมา อภิสมฺพุทฺธคาถา;

    Muccate sattusambādhā, kukkuṭova biḷāriyā’’ti. – imā abhisambuddhagāthā;

    ตตฺถ จตุราติ จาตุริเยน สมนฺนาคตาฯ นารีติ อิตฺถิโยฯ เนนฺตีติ อตฺตโน วสํ อุปเนนฺติฯ พิฬารี วิยาติ ยถา สา พิฬารี ตํ กุกฺกุฎํ เนตุํ วายมติ, เอวํ อญฺญาปิ นาริโย เนนฺติเยวฯ อุปฺปติตํ อตฺถนฺติ อุปฺปนฺนํ กิญฺจิเทว อตฺถํฯ น อนุพุชฺฌตีติ ยถาสภาเวน น ชานาติ, ปจฺฉา จ อนุตปฺปติฯ กุกฺกุโฎวาติ ยถา โส ญาณสมฺปโนฺน กุกฺกุโฎ พิฬาริโต มุโตฺต, เอวํ สตฺตุสมฺพาธโต มุจฺจตีติ อโตฺถฯ

    Tattha caturāti cāturiyena samannāgatā. Nārīti itthiyo. Nentīti attano vasaṃ upanenti. Biḷārī viyāti yathā sā biḷārī taṃ kukkuṭaṃ netuṃ vāyamati, evaṃ aññāpi nāriyo nentiyeva. Uppatitaṃ atthanti uppannaṃ kiñcideva atthaṃ. Na anubujjhatīti yathāsabhāvena na jānāti, pacchā ca anutappati. Kukkuṭovāti yathā so ñāṇasampanno kukkuṭo biḷārito mutto, evaṃ sattusambādhato muccatīti attho.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน อุกฺกณฺฐิตภิกฺขุ โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิฯ ตทา กุกฺกุฎราชา อหเมว อโหสินฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne ukkaṇṭhitabhikkhu sotāpattiphale patiṭṭhahi. Tadā kukkuṭarājā ahameva ahosinti.

    กุกฺกุฎชาตกวณฺณนา อฎฺฐมาฯ

    Kukkuṭajātakavaṇṇanā aṭṭhamā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๘๓. กุกฺกุฎชาตกํ • 383. Kukkuṭajātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact