Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
๒. กุกฺกุฎงฺคปโญฺห
2. Kukkuṭaṅgapañho
๒. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘กุกฺกุฎสฺส ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ ปญฺจ องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, กุกฺกุโฎ กาเลน สมเยน ปฎิสลฺลียติ, เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กาเลน สมเยเนว เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฎฺฐเปตฺวา สรีรํ ปฎิชคฺคิตฺวา นหายิตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา วุฑฺฒานํ ภิกฺขูนํ ทสฺสนาย คนฺตฺวา กาเลน สมเยน สุญฺญาคารํ ปวิสิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฎสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
2. ‘‘Bhante nāgasena, ‘kukkuṭassa pañca aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni pañca aṅgāni gahetabbānī’’ti? ‘‘Yathā, mahārāja, kukkuṭo kālena samayena paṭisallīyati, evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena kālena samayeneva cetiyaṅgaṇaṃ sammajjitvā pānīyaṃ paribhojanīyaṃ upaṭṭhapetvā sarīraṃ paṭijaggitvā nahāyitvā cetiyaṃ vanditvā vuḍḍhānaṃ bhikkhūnaṃ dassanāya gantvā kālena samayena suññāgāraṃ pavisitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, kukkuṭassa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฎ กาเลน สมเยเนว วุฎฺฐาติฯ เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน กาเลน สมเยเนว วุฎฺฐหิตฺวา เจติยงฺคณํ สมฺมชฺชิตฺวา ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฎฺฐเปตฺวา สรีรํ ปฎิชคฺคิตฺวา เจติยํ วนฺทิตฺวา ปุนเทว สุญฺญาคารํ ปวิสิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฎสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, kukkuṭo kālena samayeneva vuṭṭhāti. Evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena kālena samayeneva vuṭṭhahitvā cetiyaṅgaṇaṃ sammajjitvā pānīyaṃ paribhojanīyaṃ upaṭṭhapetvā sarīraṃ paṭijaggitvā cetiyaṃ vanditvā punadeva suññāgāraṃ pavisitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, kukkuṭassa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฎ ปถวิํ ขณิตฺวา ขณิตฺวา อโชฺฌหารํ อโชฺฌหรติฯ เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา อโชฺฌหารํ อโชฺฌหริตพฺพํ ‘เนว ทวาย น มทาย น มณฺฑนาย น วิภูสนาย, ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ฐิติยา ยาปนาย วิหิํสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหาย, อิติ ปุราณญฺจ เวทนํ ปฎิหงฺขามิ นวญฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามิ, ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสติ อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’ติฯ อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฎสฺส ตติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, kukkuṭo pathaviṃ khaṇitvā khaṇitvā ajjhohāraṃ ajjhoharati. Evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena paccavekkhitvā paccavekkhitvā ajjhohāraṃ ajjhoharitabbaṃ ‘neva davāya na madāya na maṇḍanāya na vibhūsanāya, yāvadeva imassa kāyassa ṭhitiyā yāpanāya vihiṃsūparatiyā brahmacariyānuggahāya, iti purāṇañca vedanaṃ paṭihaṅkhāmi navañca vedanaṃ na uppādessāmi, yātrā ca me bhavissati anavajjatā ca phāsuvihāro cā’ti. Idaṃ, mahārāja, kukkuṭassa tatiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā devātidevena –
‘‘‘กนฺตาเร ปุตฺตมํสํว, อกฺขสฺสพฺภญฺชนํ ยถา;
‘‘‘Kantāre puttamaṃsaṃva, akkhassabbhañjanaṃ yathā;
เอวํ อาหริ อาหารํ, ยาปนตฺถมมุจฺฉิโต’ติฯ
Evaṃ āhari āhāraṃ, yāpanatthamamucchito’ti.
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฎ สจกฺขุโกปิ รตฺติํ อโนฺธ โหติฯ เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน อนเนฺธเนว อเนฺธน วิย ภวิตพฺพํ, อรเญฺญปิ โคจรคาเม ปิณฺฑาย จรเนฺตนปิ รชนีเยสุ รูปสทฺทคนฺธรสโผฎฺฐพฺพธเมฺมสุ อเนฺธน พธิเรน มูเคน วิย ภวิตพฺพํ, น นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ, นานุพฺยญฺชนํ คเหตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฎสฺส จตุตฺถํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, เถเรน มหากจฺจายเนน –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, kukkuṭo sacakkhukopi rattiṃ andho hoti. Evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena anandheneva andhena viya bhavitabbaṃ, araññepi gocaragāme piṇḍāya carantenapi rajanīyesu rūpasaddagandharasaphoṭṭhabbadhammesu andhena badhirena mūgena viya bhavitabbaṃ, na nimittaṃ gahetabbaṃ, nānubyañjanaṃ gahetabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, kukkuṭassa catutthaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, therena mahākaccāyanena –
‘จกฺขุมาสฺส ยถา อโนฺธ, โสตวา พธิโร ยถา;
‘Cakkhumāssa yathā andho, sotavā badhiro yathā;
‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, กุกฺกุโฎ เลฑฺฑุทณฺฑลคุฬมุคฺคเรหิ ปริปาติยโนฺตปิ สกํ เคหํ น วิชหติฯ เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน จีวรกมฺมํ กโรเนฺตนปิ นวกมฺมํ กโรเนฺตนปิ วตฺตปฺปฎิวตฺตํ กโรเนฺตนปิ อุทฺทิสเนฺตนปิ อุทฺทิสาเปเนฺตนปิ โยนิโส มนสิกาโร น วิชหิตโพฺพ, สกํ โข ปเนตํ, มหาราช, โยคิโน เคหํ, ยทิทํ โยนิโส มนสิกาโร ฯ อิทํ, มหาราช, กุกฺกุฎสฺส ปญฺจมํ องฺคํ คเหตพฺพํ ฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, ภควตา เทวาติเทเวน ‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน โคจโร สโก เปตฺติโก วิสโย? ยทิทํ จตฺตาโร สติปฎฺฐานา’ติฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุเตฺตน ธมฺมเสนาปตินาปิ –
‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, kukkuṭo leḍḍudaṇḍalaguḷamuggarehi paripātiyantopi sakaṃ gehaṃ na vijahati. Evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena cīvarakammaṃ karontenapi navakammaṃ karontenapi vattappaṭivattaṃ karontenapi uddisantenapi uddisāpentenapi yoniso manasikāro na vijahitabbo, sakaṃ kho panetaṃ, mahārāja, yogino gehaṃ, yadidaṃ yoniso manasikāro . Idaṃ, mahārāja, kukkuṭassa pañcamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ . Bhāsitampetaṃ, mahārāja, bhagavatā devātidevena ‘ko ca, bhikkhave, bhikkhuno gocaro sako pettiko visayo? Yadidaṃ cattāro satipaṭṭhānā’ti. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, therena sāriputtena dhammasenāpatināpi –
‘‘‘ยถา สุทโนฺต มาตโงฺค, สกํ โสณฺฑํ น มทฺทติ;
‘‘‘Yathā sudanto mātaṅgo, sakaṃ soṇḍaṃ na maddati;
ภกฺขาภกฺขํ วิชานาติ, อตฺตโน วุตฺติกปฺปนํฯ
Bhakkhābhakkhaṃ vijānāti, attano vuttikappanaṃ.
‘‘‘ตเถว พุทฺธปุเตฺตน, อปฺปมเตฺตน วา ปน;
‘‘‘Tatheva buddhaputtena, appamattena vā pana;
ชินวจนํ น มทฺทิตพฺพํ, มนสิการวรุตฺตม’’’นฺติฯ
Jinavacanaṃ na madditabbaṃ, manasikāravaruttama’’’nti.
กุกฺกุฎงฺคปโญฺห ทุติโยฯ
Kukkuṭaṅgapañho dutiyo.
Footnotes: