Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā |
๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา
13. Kuladūsakasikkhāpadavaṇṇanā
๔๓๑. น เกวลํ วิหาโร เอว กีฎาคิริ, โสปิ คาโม ‘‘กีฎาคิริ’’เจฺจว วุจฺจติฯ คามญฺหิ สนฺธาย ปรโต ‘‘น อสฺสชิปุนพฺพสุเกหิ ภิกฺขูหิ กีฎาคิริสฺมิํ วตฺถพฺพ’’นฺติ วุตฺตํฯ เอกสํวจฺฉเร ทฺวิกฺขตฺตุํ วสฺสติ กิร, ตํ สนฺธาย ‘‘ทฺวีหิ เมเฆหี’’ติ วุตฺตํฯ สมธิกนฺติ ฉ ชเน สนฺธายฯ อกตวตฺถุนฺติ นวํ อฎฺฐุปฺปตฺติํฯ ‘‘ชาภิสุมนาทิคจฺฉํ อลฺลานํ หริตานํ เอวา’’ติ ลิขิตํฯ ภูตคามพีชคามเภทโต ปเนส เภโทฯ วตตฺถายาติ วติอตฺถายฯ ยํกิญฺจีติ โสทกํ วา นิรุทกํ วาฯ อารามาทิอตฺถายาติ วนราชิกาทิอตฺถายฯ มาลาวจฺฉโรปนํ กุลทูสกํเยว สนฺธาย, คนฺถนาทิสพฺพํ น สนฺธาย วุตฺตนฺติฯ กถํ ปญฺญายตีติ เจ? ตํ ทเสฺสตุํ ‘‘พุเทฺธน ธโมฺม’’ติอาทิฯ ‘‘อาเวฬํ อาพิฬ’’นฺติปิ ปาโฐฯ
431. Na kevalaṃ vihāro eva kīṭāgiri, sopi gāmo ‘‘kīṭāgiri’’cceva vuccati. Gāmañhi sandhāya parato ‘‘na assajipunabbasukehi bhikkhūhi kīṭāgirismiṃ vatthabba’’nti vuttaṃ. Ekasaṃvacchare dvikkhattuṃ vassati kira, taṃ sandhāya ‘‘dvīhi meghehī’’ti vuttaṃ. Samadhikanti cha jane sandhāya. Akatavatthunti navaṃ aṭṭhuppattiṃ. ‘‘Jābhisumanādigacchaṃ allānaṃ haritānaṃ evā’’ti likhitaṃ. Bhūtagāmabījagāmabhedato panesa bhedo. Vatatthāyāti vatiatthāya. Yaṃkiñcīti sodakaṃ vā nirudakaṃ vā. Ārāmādiatthāyāti vanarājikādiatthāya. Mālāvaccharopanaṃ kuladūsakaṃyeva sandhāya, ganthanādisabbaṃ na sandhāya vuttanti. Kathaṃ paññāyatīti ce? Taṃ dassetuṃ ‘‘buddhena dhammo’’tiādi. ‘‘Āveḷaṃ ābiḷa’’ntipi pāṭho.
โคปฺผนนฺติ คนฺถนํฯ เวฐิมนฺติ ตคฺคติกเมวฯ เวธิมํ อเญฺญน เกนจิ ปุปฺผํ เวเธตฺวา กตํ ฯ กณฺฎกมฺปิ พนฺธิตุนฺติ เอตฺถ ‘‘สยํ วิชฺฌนตฺถํ น วฎฺฎติฯ อญฺญสฺสตฺถาย วฎฺฎตี’’ติ วทนฺติฯ ชาลมยํ วิตานํ ชาลวิตานํฯ ปุปฺผปฎิจฺฉกํ ควกฺขํ วิย สฉิทฺทํ กโรนฺติฯ ตาลปณฺณคุฬกนฺติ ตาลปณฺณมยํ ปุน กตมฺปิ ปฎิฉิชฺชกเมวฯ ธมฺมรชฺชุ เจติยํ วา โพธิํ วา ปุปฺผปฺปเวสนตฺถํ อาวิชฺฌิตฺวา พทฺธรชฺชุฯ ‘‘กาสาเวน พทฺธมฺปิ สุตฺตวากาทีหิ พทฺธํ ภณฺฑิตสทิส’’นฺติ ลิขิตํฯ อํสภณฺฑิกํ ปสิพฺพเก ปกฺขิตฺตสทิสตฺตา เวธิมํ น ชาตํ, ตสฺมา ‘‘สิถิลพทฺธสฺส อนฺตรนฺตรา ปกฺขิปิตุํ น วฎฺฎตี’’ติ วทนฺติฯ ‘‘อญฺญมญฺญํ อผุสาเปตฺวา อเนกกฺขตฺตุมฺปิ ปริกฺขิปิตุํ วฎฺฎตี’’ติ วทนฺติฯ ปูริตนฺติ ทีฆโต ปสาเรตฺวา ปูริตํฯ ฆฎิกทามโอลมฺพโกติ ‘‘ยมกทามโอลมฺพโก’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘เคณฺฑุขรปตฺตทามานํ ปฎิกฺขิตฺตตฺตา เจลาทีหิ กตทามมฺปิ น วฎฺฎติ อกปฺปิยานุโลมตฺตา’’ติ วทนฺติฯ
Gopphananti ganthanaṃ. Veṭhimanti taggatikameva. Vedhimaṃ aññena kenaci pupphaṃ vedhetvā kataṃ . Kaṇṭakampi bandhitunti ettha ‘‘sayaṃ vijjhanatthaṃ na vaṭṭati. Aññassatthāya vaṭṭatī’’ti vadanti. Jālamayaṃ vitānaṃ jālavitānaṃ. Pupphapaṭicchakaṃ gavakkhaṃ viya sachiddaṃ karonti. Tālapaṇṇaguḷakanti tālapaṇṇamayaṃ puna katampi paṭichijjakameva. Dhammarajju cetiyaṃ vā bodhiṃ vā pupphappavesanatthaṃ āvijjhitvā baddharajju. ‘‘Kāsāvena baddhampi suttavākādīhi baddhaṃ bhaṇḍitasadisa’’nti likhitaṃ. Aṃsabhaṇḍikaṃ pasibbake pakkhittasadisattā vedhimaṃ na jātaṃ, tasmā ‘‘sithilabaddhassa antarantarā pakkhipituṃ na vaṭṭatī’’ti vadanti. ‘‘Aññamaññaṃ aphusāpetvā anekakkhattumpi parikkhipituṃ vaṭṭatī’’ti vadanti. Pūritanti dīghato pasāretvā pūritaṃ. Ghaṭikadāmaolambakoti ‘‘yamakadāmaolambako’’ti likhitaṃ. ‘‘Geṇḍukharapattadāmānaṃ paṭikkhittattā celādīhi katadāmampi na vaṭṭati akappiyānulomattā’’ti vadanti.
‘‘เรจกํ นาม ตถาลาสิยนาฎนฎานํ นจฺจ’’นฺติ ลิขิตํฯ ตํ ‘‘ปริวตฺตนฺตี’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘สาริโย นาม รุตสุนขา สิงฺคาลกมฺมกุรุงฺคเกฬิปเน ฐิตา’’ติ กิร ปาโฐฯ ‘‘นิพุชฺฌนฺตี’’ติ ปาฬิฯ
‘‘Recakaṃ nāma tathālāsiyanāṭanaṭānaṃ nacca’’nti likhitaṃ. Taṃ ‘‘parivattantī’’ti vuttaṃ. ‘‘Sāriyo nāma rutasunakhā siṅgālakammakuruṅgakeḷipane ṭhitā’’ti kira pāṭho. ‘‘Nibujjhantī’’ti pāḷi.
๔๓๒. อพลพลาทิ-ปทานํ อุปฺปฎิปาฎิยาฯ ยถา ปาโมกฺขานํ วเสน สเพฺพปิ ‘‘อสฺสชิปุนพฺพสุกา’’ติ วุตฺตา, ตถา ปาโมกฺขปฺปตฺตสาวกสฺส วเสน ตทายตฺตวุตฺติเน สเพฺพปิ ‘‘สาริปุตฺตา’’ติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘คจฺฉถ ตุเมฺห สาริปุตฺตา’’ติฯ
432.Abalabalādi-padānaṃ uppaṭipāṭiyā. Yathā pāmokkhānaṃ vasena sabbepi ‘‘assajipunabbasukā’’ti vuttā, tathā pāmokkhappattasāvakassa vasena tadāyattavuttine sabbepi ‘‘sāriputtā’’ti. Tena vuttaṃ ‘‘gacchatha tumhe sāriputtā’’ti.
๔๓๓. ‘‘คาเม วา น วสิตพฺพ’’นฺติ อิมินาว ตสฺมิํ คาเม อญฺญตฺถ น วสิตพฺพนฺติ สิทฺธํฯ ‘‘ตสฺมิํ วิหาเร วา’’ติ กสฺมา วุตฺตนฺติ เจ? อตฺถสพฺภาวโตฯ ยสฺมิญฺหิ คาเม กุลทูสกกมฺมํ กตํ, ตสฺมิํ คาเม, ยสฺมิํ วิหาเร วสเนฺตน กุลทูสนํ กตํ, ตํ วิหารํ ฐเปตฺวา อญฺญสฺมิํ วสิตุํ น วฎฺฎตีติ ทสฺสนตฺถํฯ ตํ กถนฺติ เจ? ‘‘คาเม วา น วสิตพฺพ’’นฺติ วจเนน ยสฺมิํ คาเม กุลทูสนกมฺมํ กตํ, ตสฺมิํ วิหาเรปิ วสิตุํ น ลพฺภตีติ อาปนฺนํ, ตํ ทิสฺวา ‘‘ตสฺมิํ วิหาเร’’ติ วุตฺตํ, เตน ตสฺมิํ คาเม อญฺญสฺมิํ วสิตุํ ลพฺภตีติ สิทฺธํฯ ‘‘ตสฺมิํ วิหาเร วสเนฺตนา’’ติ อิมินา ตสฺมิํ คาเม อญฺญตฺถ วสเนฺตน สามนฺตคาเม ปิณฺฑาย จริตุํ วฎฺฎตีติ ทีปิตํ โหติฯ สามนฺตวิหาเรปีติ สามนฺตวิหาโร นาม ตสฺมิํเยว คาเม ตสฺส วิหารสฺส สามนฺตวิหาโร จ ตสฺส คามสฺส สามนฺตวิหาโร จาติ อุภยํ วุจฺจติ, เอเตน ตสฺมิํ คาเม อญฺญตฺถ วสเนฺตน ตสฺมิํ คาเม ปิณฺฑาย น จริตพฺพํฯ สามนฺตคาเมปิ ปิณฺฑาย จริตุํ วฎฺฎติ, ปุน ยสฺมิํ คาเม กุลทูสนกมฺมํ กตํ, ตสฺส สามนฺตคาเม กุลทูสกวิหารสฺส สามนฺตวตฺถุวิหาเร วสเนฺตน ตสฺมิํ คาเมปิ จริตุํ วฎฺฎติฯ ยสฺมิํ สามนฺตคาเม กุลทูสกํ น กตํ, ตสฺมิมฺปิ จริตุํ วฎฺฎติ, เนว วิหาเรติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘น นคเร จริตุ’’นฺติ วุตฺตตฺตา อญฺญสฺมิํ วิหาเร ตสฺมิํ คาเม วสิตุํ วฎฺฎตีติ ทีปิตํ โหตีติ เอเกฯ คณฺฐิปเทสุ ปน วิจารณา เอว นตฺถิ, ตสฺมา สุฎฺฐุ วิจาเรตฺวา กเถตพฺพํฯ
433. ‘‘Gāme vā na vasitabba’’nti imināva tasmiṃ gāme aññattha na vasitabbanti siddhaṃ. ‘‘Tasmiṃ vihāre vā’’ti kasmā vuttanti ce? Atthasabbhāvato. Yasmiñhi gāme kuladūsakakammaṃ kataṃ, tasmiṃ gāme, yasmiṃ vihāre vasantena kuladūsanaṃ kataṃ, taṃ vihāraṃ ṭhapetvā aññasmiṃ vasituṃ na vaṭṭatīti dassanatthaṃ. Taṃ kathanti ce? ‘‘Gāme vā na vasitabba’’nti vacanena yasmiṃ gāme kuladūsanakammaṃ kataṃ, tasmiṃ vihārepi vasituṃ na labbhatīti āpannaṃ, taṃ disvā ‘‘tasmiṃ vihāre’’ti vuttaṃ, tena tasmiṃ gāme aññasmiṃ vasituṃ labbhatīti siddhaṃ. ‘‘Tasmiṃ vihāre vasantenā’’ti iminā tasmiṃ gāme aññattha vasantena sāmantagāme piṇḍāya carituṃ vaṭṭatīti dīpitaṃ hoti. Sāmantavihārepīti sāmantavihāro nāma tasmiṃyeva gāme tassa vihārassa sāmantavihāro ca tassa gāmassa sāmantavihāro cāti ubhayaṃ vuccati, etena tasmiṃ gāme aññattha vasantena tasmiṃ gāme piṇḍāya na caritabbaṃ. Sāmantagāmepi piṇḍāya carituṃ vaṭṭati, puna yasmiṃ gāme kuladūsanakammaṃ kataṃ, tassa sāmantagāme kuladūsakavihārassa sāmantavatthuvihāre vasantena tasmiṃ gāmepi carituṃ vaṭṭati. Yasmiṃ sāmantagāme kuladūsakaṃ na kataṃ, tasmimpi carituṃ vaṭṭati, neva vihāreti adhippāyo. ‘‘Nanagare caritu’’nti vuttattā aññasmiṃ vihāre tasmiṃ gāme vasituṃ vaṭṭatīti dīpitaṃ hotīti eke. Gaṇṭhipadesu pana vicāraṇā eva natthi, tasmā suṭṭhu vicāretvā kathetabbaṃ.
๔๓๖-๗. ทาเปตุํ น ลภนฺติ, ปุปฺผทานญฺหิ สิยาฯ ตเสฺสว น กปฺปตีติ เอตฺถ ยาคุอาทีนิ อาเนตฺวา ‘‘ททนฺตู’’ติ อิจฺฉาวเสน วทติ เจ, สเพฺพสํ น กปฺปติ, เกวลํ ปน สุทฺธจิเตฺตน อตฺตานํ วา ปเรสํ วา อนุทฺทิสิตฺวา ‘‘อิเม มนุสฺสา ทานํ ทตฺวา ปุญฺญํ ปสวนฺตู’’ติ วทนฺตสฺส ตเสฺสว น กปฺปติ ยาคุอาทีนํ ปจฺจยปฎิสํยุตฺตกถาย อุปฺปนฺนตฺตาฯ มหาอฎฺฐกถายมฺปิ ‘‘ปญฺจนฺนมฺปิ สหธมฺมิกาน’’นฺติ วิเสเสตฺวา อวุตฺตตฺตา อตฺถโต สยเมวาติ อปเรฯ อาจริยา ปน ‘‘ยถา มหาปจฺจริยํ, กุรุนฺทิยญฺจ ‘ตเสฺสวา’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ, เอวํ มหาอฎฺฐกถายํ วิเสเสตฺวา น วุตฺตํ, ตสฺมา สเพฺพสํ น กปฺปตี’’ติ วทนฺติฯ
436-7.Dāpetuṃ na labhanti, pupphadānañhi siyā. Tasseva na kappatīti ettha yāguādīni ānetvā ‘‘dadantū’’ti icchāvasena vadati ce, sabbesaṃ na kappati, kevalaṃ pana suddhacittena attānaṃ vā paresaṃ vā anuddisitvā ‘‘ime manussā dānaṃ datvā puññaṃ pasavantū’’ti vadantassa tasseva na kappati yāguādīnaṃ paccayapaṭisaṃyuttakathāya uppannattā. Mahāaṭṭhakathāyampi ‘‘pañcannampi sahadhammikāna’’nti visesetvā avuttattā atthato sayamevāti apare. Ācariyā pana ‘‘yathā mahāpaccariyaṃ, kurundiyañca ‘tassevā’ti visesetvā vuttaṃ, evaṃ mahāaṭṭhakathāyaṃ visesetvā na vuttaṃ, tasmā sabbesaṃ na kappatī’’ti vadanti.
กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kuladūsakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
เตรสกกณฺฑวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Terasakakaṇḍavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / ๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทํ • 13. Kuladūsakasikkhāpadaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā / ๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา • 13. Kuladūsakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา • 13. Kuladūsakasikkhāpadavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ๑๓. กุลทูสกสิกฺขาปทวณฺณนา • 13. Kuladūsakasikkhāpadavaṇṇanā