Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) |
๙. กุลสุตฺตวณฺณนา
9. Kulasuttavaṇṇanā
๓๖๑. เอวํ ปวตฺตอีหิติกาติ เอวํ ทฺวิธา ปวตฺตอีหิติกาฯ ทฺวีหิติกา ทุกฺกรชีวิกปโยคาฯ สลากมตฺตํ วุตฺตํ เอตฺถาติ สลากา วุตฺตา, ปุริมปเท อุตฺตรปทโลโปฯ อุภโตโกฎิกนฺติ ยทิ ‘‘กุลานุทยํ น วเณฺณมี’’ติ วทติ, ‘‘ภูตา นิกฺกรุณา สมณ ตุเมฺห’’ติ วาทํ อาโรเปหิฯ อถ สพฺพทาปิ ‘‘กุลานุทยํ วเณฺณมี’’ติ วทติฯ เอวํ สเนฺต ‘‘กสฺมา เอวํ ทุพฺภิเกฺข กาเล มหติยา ปริสาย ปริวุโต ชนปทจาริกํ จรนฺตา กุลูปเจฺฉทาย ปฎิปชฺชถา’’ติ เอวํ อุภโตโกฎิกํ วาทํ อาโรเปหีติ คามณิํ อุโยฺยเชสิฯ
361.Evaṃ pavattaīhitikāti evaṃ dvidhā pavattaīhitikā. Dvīhitikā dukkarajīvikapayogā. Salākamattaṃ vuttaṃ etthāti salākā vuttā, purimapade uttarapadalopo. Ubhatokoṭikanti yadi ‘‘kulānudayaṃ na vaṇṇemī’’ti vadati, ‘‘bhūtā nikkaruṇā samaṇa tumhe’’ti vādaṃ āropehi. Atha sabbadāpi ‘‘kulānudayaṃ vaṇṇemī’’ti vadati. Evaṃ sante ‘‘kasmā evaṃ dubbhikkhe kāle mahatiyā parisāya parivuto janapadacārikaṃ carantā kulūpacchedāya paṭipajjathā’’ti evaṃ ubhatokoṭikaṃ vādaṃ āropehīti gāmaṇiṃ uyyojesi.
เทฺว อเนฺตติ อุโภ โกฎิโยฯ พหิ นีหริตุนฺติ น วเณฺณมิ วเณฺณมีติ เทฺว อเนฺต โมเจโนฺต ตํ ปุจฺฉิตมตฺถํ พหิ นีหรติ นามฯ ตตฺถ โทสํ ทตฺวา โจเทโนฺต ตํ อปุจฺฉํ กโรโนฺต คิลิตฺวา วิย อโนฺต ปเวเสติ นามฯ
Dve anteti ubho koṭiyo. Bahi nīharitunti na vaṇṇemi vaṇṇemīti dve ante mocento taṃ pucchitamatthaṃ bahi nīharati nāma. Tattha dosaṃ datvā codento taṃ apucchaṃ karonto gilitvā viya anto paveseti nāma.
อิโต โส คามณีติอาทิ อตฺตโน ภิกฺขูนํ อเญฺญสญฺจ อตฺถกามานํ ภิกฺขปฺปทาเนน อนิฎฺฐปฺปตฺติอภาวทสฺสนตฺถํ อารทฺธํฯ ทาเนน สมฺภูตานีติ ทานมเยน ปุญฺญกิริยวตฺถุนา สมฺมเทว ภูติํ วฑฺฒิํ ปตฺตานิฯ สเจฺจน อริยโวหาเรน สมฺมเทว ภูตานิ อุปฺปนฺนานิ สจฺจสมฺภูตานีติ อาห ‘‘สจฺจํ นาม สจฺจวาทิตา’’ติฯ เสสสีลนฺติ อฎฺฐวิธอริยโวหารโต อญฺญสีลํฯ นิหิตนฺติ ตสฺมิํ กุเล ปุพฺพปุริเสหิ นิธานภาเวน นิหิตํฯ ทุปฺปยุตฺตาติ กสิวาณิชฺชาทิวเสน ทุฎฺฐุ ปยุตฺตา กมฺมนฺตาฯ วิปชฺชนฺตีติ นสฺสนฺติฯ กุลงฺคาโรติ กุลสฺส องฺคารสทิโส วินาสกปุคฺคโลฯ อนิจฺจตาติ มรณํฯ ตสฺมิํ กุเล ปธานปุริสานํ โภคานํ วา สพฺพโส วินาโสฯ เตนาห ‘‘หุตฺวา อภาโว’’ติอาทิฯ
Ito so gāmaṇītiādi attano bhikkhūnaṃ aññesañca atthakāmānaṃ bhikkhappadānena aniṭṭhappattiabhāvadassanatthaṃ āraddhaṃ. Dānena sambhūtānīti dānamayena puññakiriyavatthunā sammadeva bhūtiṃ vaḍḍhiṃ pattāni. Saccena ariyavohārena sammadeva bhūtāni uppannāni saccasambhūtānīti āha ‘‘saccaṃ nāma saccavāditā’’ti. Sesasīlanti aṭṭhavidhaariyavohārato aññasīlaṃ. Nihitanti tasmiṃ kule pubbapurisehi nidhānabhāvena nihitaṃ. Duppayuttāti kasivāṇijjādivasena duṭṭhu payuttā kammantā. Vipajjantīti nassanti. Kulaṅgāroti kulassa aṅgārasadiso vināsakapuggalo. Aniccatāti maraṇaṃ. Tasmiṃ kule padhānapurisānaṃ bhogānaṃ vā sabbaso vināso. Tenāha ‘‘hutvā abhāvo’’tiādi.
กุลสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Kulasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. กุลสุตฺตํ • 9. Kulasuttaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. กุลสุตฺตวณฺณนา • 9. Kulasuttavaṇṇanā