Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๔. กุลูปกสุตฺตํ
4. Kulūpakasuttaṃ
๑๔๗. สาวตฺถิยํ วิหรติ…เป.… ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, กถํรูโป ภิกฺขุ อรหติ กุลูปโก โหตุํ, กถํรูโป ภิกฺขุ น อรหติ กุลูปโก โหตุ’’นฺติ? ภควํมูลกา โน, ภเนฺต, ธมฺมา…เป.… ภควา เอตทโวจ –
147. Sāvatthiyaṃ viharati…pe… ‘‘taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, kathaṃrūpo bhikkhu arahati kulūpako hotuṃ, kathaṃrūpo bhikkhu na arahati kulūpako hotu’’nti? Bhagavaṃmūlakā no, bhante, dhammā…pe… bhagavā etadavoca –
‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํจิโตฺต กุลานิ อุปสงฺกมติ – ‘เทนฺตุเยว เม, มา นาทํสุ; พหุกเญฺญว เม เทนฺตุ, มา โถกํ; ปณีตเญฺญว เม เทนฺตุ, มา ลูขํ; สีฆเญฺญว เม เทนฺตุ, มา ทนฺธํ; สกฺกจฺจเญฺญว เม เทนฺตุ, มา อสกฺกจฺจ’นฺติฯ ตสฺส เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เอวํจิตฺตสฺส กุลานิ อุปสงฺกมโต น เทนฺติ, เตน ภิกฺขุ สนฺทียติ; โส ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ โถกํ เทนฺติ, โน พหุกํ…เป.… ลูขํ เทนฺติ, โน ปณีตํ… ทนฺธํ เทนฺติ, โน สีฆํ, เตน ภิกฺขุ สนฺทียติ; โส ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ อสกฺกจฺจํ เทนฺติ, โน สกฺกจฺจํ; เตน ภิกฺขุ สนฺทียติ; โส ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ เอวรูโป โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ น อรหติ กูลูปโก โหตุํฯ
‘‘Yo hi koci, bhikkhave, bhikkhu evaṃcitto kulāni upasaṅkamati – ‘dentuyeva me, mā nādaṃsu; bahukaññeva me dentu, mā thokaṃ; paṇītaññeva me dentu, mā lūkhaṃ; sīghaññeva me dentu, mā dandhaṃ; sakkaccaññeva me dentu, mā asakkacca’nti. Tassa ce, bhikkhave, bhikkhuno evaṃcittassa kulāni upasaṅkamato na denti, tena bhikkhu sandīyati; so tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Thokaṃ denti, no bahukaṃ…pe… lūkhaṃ denti, no paṇītaṃ… dandhaṃ denti, no sīghaṃ, tena bhikkhu sandīyati; so tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Asakkaccaṃ denti, no sakkaccaṃ; tena bhikkhu sandīyati; so tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Evarūpo kho, bhikkhave, bhikkhu na arahati kūlūpako hotuṃ.
‘‘โย จ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํจิโตฺต กุลานิ อุปสงฺกมติ – ‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา ปรกุเลสุ – เทนฺตุเยว เม, มา นาทํสุ; พหุกเญฺญว เม เทนฺตุ, มา โถกํ; ปณีตเญฺญว เม เทนฺตุ, มา ลูขํ; ทีฆเญฺญว เม เทนฺตุ, มา ทนฺธํ; สกฺกจฺจเญฺญว เม เทนฺตุ, มา อสกฺกจฺจ’นฺติฯ ตสฺส เจ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน เอวํจิตฺตสฺส กุลานิ อุปสงฺกมโต น เทนฺติ; เตน ภิกฺขุ น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ โถกํ เทนฺติ, โน พหุกํ; เตน ภิกฺขุ น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ ลูขํ เทนฺติ, โน ปณีตํ; เตน ภิกฺขุ น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ ทนฺธํ เทนฺติ, โน สีฆํ; เตน ภิกฺขุ น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ อสกฺกจฺจํ เทนฺติ, โน สกฺกจฺจํ; เตน ภิกฺขุ น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ เอวรูโป โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรหติ กุลูปโก โหตุํฯ
‘‘Yo ca kho, bhikkhave, bhikkhu evaṃcitto kulāni upasaṅkamati – ‘taṃ kutettha labbhā parakulesu – dentuyeva me, mā nādaṃsu; bahukaññeva me dentu, mā thokaṃ; paṇītaññeva me dentu, mā lūkhaṃ; dīghaññeva me dentu, mā dandhaṃ; sakkaccaññeva me dentu, mā asakkacca’nti. Tassa ce, bhikkhave, bhikkhuno evaṃcittassa kulāni upasaṅkamato na denti; tena bhikkhu na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Thokaṃ denti, no bahukaṃ; tena bhikkhu na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Lūkhaṃ denti, no paṇītaṃ; tena bhikkhu na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Dandhaṃ denti, no sīghaṃ; tena bhikkhu na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Asakkaccaṃ denti, no sakkaccaṃ; tena bhikkhu na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Evarūpo kho, bhikkhave, bhikkhu arahati kulūpako hotuṃ.
‘‘กสฺสโป, ภิกฺขเว, เอวํจิโตฺต กุลานิ อุปสงฺกมติ – ‘ตํ กุเตตฺถ ลพฺภา ปรกุเลสุ – เทนฺตุเยว เม, มา นาทํสุ; พหุกเญฺญว เม เทนฺตุ, มา โถกํ; ปณีตเญฺญว เม เทนฺตุ, มา ลูขํ; สีฆเญฺญว เม เทนฺตุ, มา ทนฺธํ; สกฺกจฺจเญฺญว เม เทนฺตุ, มา อสกฺกจฺจ’นฺติฯ ตสฺส เจ, ภิกฺขเว, กสฺสปสฺส เอวํจิตฺตสฺส กุลานิ อุปสงฺกมโต น เทนฺติ; เตน กสฺสโป น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ โถกํ เทนฺติ, โน พหุกํ; เตน กสฺสโป น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ ลูขํ เทนฺติ , โน ปณีตํ; เตน กสฺสโป น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ ทนฺธํ เทนฺติ, โน สีฆํ; เตน กสฺสโป น สนฺทียติ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ อสกฺกจฺจํ เทนฺติ, โน สกฺกจฺจํ; เตน กสฺสโป น สนฺทียติ ; โส น ตโตนิทานํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฎิสํเวทยติฯ กสฺสเปน วา หิ โว, ภิกฺขเว, โอวทิสฺสามิ โย วา ปนสฺส กสฺสปสทิโสฯ โอวทิเตหิ จ ปน โว ตถตฺตาย ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติฯ จตุตฺถํฯ
‘‘Kassapo, bhikkhave, evaṃcitto kulāni upasaṅkamati – ‘taṃ kutettha labbhā parakulesu – dentuyeva me, mā nādaṃsu; bahukaññeva me dentu, mā thokaṃ; paṇītaññeva me dentu, mā lūkhaṃ; sīghaññeva me dentu, mā dandhaṃ; sakkaccaññeva me dentu, mā asakkacca’nti. Tassa ce, bhikkhave, kassapassa evaṃcittassa kulāni upasaṅkamato na denti; tena kassapo na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Thokaṃ denti, no bahukaṃ; tena kassapo na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Lūkhaṃ denti , no paṇītaṃ; tena kassapo na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Dandhaṃ denti, no sīghaṃ; tena kassapo na sandīyati; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Asakkaccaṃ denti, no sakkaccaṃ; tena kassapo na sandīyati ; so na tatonidānaṃ dukkhaṃ domanassaṃ paṭisaṃvedayati. Kassapena vā hi vo, bhikkhave, ovadissāmi yo vā panassa kassapasadiso. Ovaditehi ca pana vo tathattāya paṭipajjitabba’’nti. Catutthaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. กุลูปกสุตฺตวณฺณนา • 4. Kulūpakasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๔. กุลูปกสุตฺตวณฺณนา • 4. Kulūpakasuttavaṇṇanā