Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๕. ปญฺจมวโคฺค

    5. Pañcamavaggo

    ๑. กุมารกสฺสปเตฺถรคาถาวณฺณนา

    1. Kumārakassapattheragāthāvaṇṇanā

    อโห พุทฺธา อโห ธมฺมาติ อายสฺมโต กุมารกสฺสปเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว ปุญฺญานิ อุปจินโนฺต ปทุมุตฺตรสฺส ภควโต กาเล พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปาปุณิฯ ‘‘กุลเคเห’’ติ ปน องฺคุตฺตรฎฺฐกถายํ (อ. นิ. อฎฺฐ. ๑.๑.๒๑๗) วุตฺตํฯ โส สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ธมฺมํ สุณโนฺต สตฺถารํ เอกํ ภิกฺขุํ จิตฺตกถิกานํ อคฺคฎฺฐาเน ฐเปนฺตํ ทิสฺวา สยมฺปิ ตํ ฐานนฺตรํ อากงฺขโนฺต ปณิธานํ กตฺวา ตทนุรูปานิ ปุญฺญานิ กโรโนฺต กสฺสปสฺส ภควโต กาเล สมณธมฺมํ กตฺวา สุคตีสุเยว สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท ราชคเห เสฎฺฐิธีตาย กุจฺฉิมฺหิ ปฎิสนฺธิํ คณฺหิฯ สา กิร กุมาริกากาเลเยว ปพฺพชิตุกามา หุตฺวา มาตาปิตโร ยาจิตฺวา ปพฺพชฺชํ อลภมานา กุลฆรํ คตาปิ คพฺภสณฺฐิตมฺปิ อชานนฺตี สามิกํ อาราเธตฺวา เตน อนุญฺญาตา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตาฯ ตสฺสา คพฺภินิภาวํ ทิสฺวา ภิกฺขุนิโย เทวทตฺตํ ปุจฺฉิํสุฯ โส ‘‘อสฺสมณี’’ติ อาหฯ ปุน ทสพลํ ปุจฺฉิํสุฯ สตฺถา อุปาลิเตฺถรํ ปฎิจฺฉาเปสิฯ เถโร สาวตฺถินครวาสีนิ กุลานิ วิสาขญฺจ อุปาสิกํ ปโกฺกสาเปตฺวา สราชิกาย ปริสาย วินิจฺฉินโนฺต ‘‘ปุเร ลโทฺธ คโพฺภ, ปพฺพชฺชา อโรคา’’ติ อาหฯ สตฺถา ‘‘สุวินิจฺฉิตํ อธิกรณ’’นฺติ เถรสฺส สาธุการํ อทาสิฯ

    Ahobuddhā aho dhammāti āyasmato kumārakassapattherassa gāthā. Kā uppatti? Ayampi purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave puññāni upacinanto padumuttarassa bhagavato kāle brāhmaṇakule nibbattitvā viññutaṃ pāpuṇi. ‘‘Kulagehe’’ti pana aṅguttaraṭṭhakathāyaṃ (a. ni. aṭṭha. 1.1.217) vuttaṃ. So satthu santikaṃ gantvā dhammaṃ suṇanto satthāraṃ ekaṃ bhikkhuṃ cittakathikānaṃ aggaṭṭhāne ṭhapentaṃ disvā sayampi taṃ ṭhānantaraṃ ākaṅkhanto paṇidhānaṃ katvā tadanurūpāni puññāni karonto kassapassa bhagavato kāle samaṇadhammaṃ katvā sugatīsuyeva saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde rājagahe seṭṭhidhītāya kucchimhi paṭisandhiṃ gaṇhi. Sā kira kumārikākāleyeva pabbajitukāmā hutvā mātāpitaro yācitvā pabbajjaṃ alabhamānā kulagharaṃ gatāpi gabbhasaṇṭhitampi ajānantī sāmikaṃ ārādhetvā tena anuññātā bhikkhunīsu pabbajitā. Tassā gabbhinibhāvaṃ disvā bhikkhuniyo devadattaṃ pucchiṃsu. So ‘‘assamaṇī’’ti āha. Puna dasabalaṃ pucchiṃsu. Satthā upālittheraṃ paṭicchāpesi. Thero sāvatthinagaravāsīni kulāni visākhañca upāsikaṃ pakkosāpetvā sarājikāya parisāya vinicchinanto ‘‘pure laddho gabbho, pabbajjā arogā’’ti āha. Satthā ‘‘suvinicchitaṃ adhikaraṇa’’nti therassa sādhukāraṃ adāsi.

    สา ภิกฺขุนี สุวณฺณพิมฺพสทิสํ ปุตฺตํ วิชายิฯ ตํ ราชา ปเสนทิโกสโล โปเสสิฯ ‘‘กสฺสโป’’ติ จสฺส นามํ อกํสุฯ อปรภาเค อลงฺกริตฺวา สตฺถุ สนฺติกํ เนตฺวา ปพฺพาเชสิฯ กุมารกาเล ปพฺพชิตตฺตา ภควตา ‘‘กสฺสปํ ปโกฺกสถ, อิทํ ผลํ วา ขาทนียํ วา กสฺสปสฺส เทถา’’ติ วุเตฺต ‘‘กตรกสฺสปสฺสา’’ติฯ ‘‘กุมารกสฺสปสฺสา’’ติฯ เอวํ คหิตนามตฺตา รโญฺญ โปสาวนิกปุตฺตตฺตา จ วุฑฺฒกาเลปิ กุมารกสฺสโปเตฺวว ปญฺญายิตฺถฯ

    Sā bhikkhunī suvaṇṇabimbasadisaṃ puttaṃ vijāyi. Taṃ rājā pasenadikosalo posesi. ‘‘Kassapo’’ti cassa nāmaṃ akaṃsu. Aparabhāge alaṅkaritvā satthu santikaṃ netvā pabbājesi. Kumārakāle pabbajitattā bhagavatā ‘‘kassapaṃ pakkosatha, idaṃ phalaṃ vā khādanīyaṃ vā kassapassa dethā’’ti vutte ‘‘katarakassapassā’’ti. ‘‘Kumārakassapassā’’ti. Evaṃ gahitanāmattā rañño posāvanikaputtattā ca vuḍḍhakālepi kumārakassapotveva paññāyittha.

    โส ปพฺพชิตกาลโต ปฎฺฐาย วิปสฺสนาย เจว กมฺมํ กโรติ, พุทฺธวจนญฺจ อุคฺคณฺหาติฯ อถ เตน สทฺธิํ ปพฺพตมตฺถเก สมณธมฺมํ กตฺวา อนาคามี หุตฺวา สุทฺธาวาเส นิพฺพโตฺต มหาพฺรหฺมา ‘‘วิปสฺสนาย มุขํ ทเสฺสตฺวา มคฺคผลปฺปตฺติยา อุปายํ กริสฺสามี’’ติ ปญฺจทส ปเญฺห อภิสงฺขริตฺวา อนฺธวเน วสนฺตสฺส เถรสฺส ‘‘อิเม ปเญฺห สตฺถารํ ปุเจฺฉยฺยาสี’’ติ อาจิกฺขิตฺวา คโตฯ โส เต ปเญฺห ภควนฺตํ ปุจฺฉิฯ ภควาปิสฺส พฺยากาสิฯ เถโร สตฺถารา กถิตนิยาเมเนว เต อุคฺคณฺหิตฺวา วิปสฺสนํ คพฺภํ คณฺหาเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิฯ เตน วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๒.๕๔.๑๕๐-๑๗๗) –

    So pabbajitakālato paṭṭhāya vipassanāya ceva kammaṃ karoti, buddhavacanañca uggaṇhāti. Atha tena saddhiṃ pabbatamatthake samaṇadhammaṃ katvā anāgāmī hutvā suddhāvāse nibbatto mahābrahmā ‘‘vipassanāya mukhaṃ dassetvā maggaphalappattiyā upāyaṃ karissāmī’’ti pañcadasa pañhe abhisaṅkharitvā andhavane vasantassa therassa ‘‘ime pañhe satthāraṃ puccheyyāsī’’ti ācikkhitvā gato. So te pañhe bhagavantaṃ pucchi. Bhagavāpissa byākāsi. Thero satthārā kathitaniyāmeneva te uggaṇhitvā vipassanaṃ gabbhaṃ gaṇhāpetvā arahattaṃ pāpuṇi. Tena vuttaṃ apadāne (apa. thera 2.54.150-177) –

    ‘‘อิโต สตสหสฺสมฺหิ, กเปฺป อุปฺปชฺชิ นายโก;

    ‘‘Ito satasahassamhi, kappe uppajji nāyako;

    สพฺพโลกหิโต วีโร, ปทุมุตฺตรนามโกฯ

    Sabbalokahito vīro, padumuttaranāmako.

    ‘‘ตทาหํ พฺราหฺมโณ หุตฺวา, วิสฺสุโต เวทปารคู;

    ‘‘Tadāhaṃ brāhmaṇo hutvā, vissuto vedapāragū;

    ทิวาวิหารํ วิจรํ, อทฺทสํ โลกนายกํฯ

    Divāvihāraṃ vicaraṃ, addasaṃ lokanāyakaṃ.

    ‘‘จตุสจฺจํ ปกาเสนฺตํ, โพธยนฺตํ สเทวกํ;

    ‘‘Catusaccaṃ pakāsentaṃ, bodhayantaṃ sadevakaṃ;

    วิจิตฺตกถิกานคฺคํ, วณฺณยนฺตํ มหาชเนฯ

    Vicittakathikānaggaṃ, vaṇṇayantaṃ mahājane.

    ‘‘ตทา มุทิตจิโตฺตหํ, นิมเนฺตตฺวา ตถาคตํ;

    ‘‘Tadā muditacittohaṃ, nimantetvā tathāgataṃ;

    นานารเตฺตหิ วเตฺถหิ, อลงฺกริตฺวาน มณฺฑปํฯ

    Nānārattehi vatthehi, alaṅkaritvāna maṇḍapaṃ.

    ‘‘นานารตนปโชฺชตํ, สสงฺฆํ โภชยิํ ตหิํ;

    ‘‘Nānāratanapajjotaṃ, sasaṅghaṃ bhojayiṃ tahiṃ;

    โภชยิตฺวาน สตฺตาหํ, นานคฺครสโภชนํฯ

    Bhojayitvāna sattāhaṃ, nānaggarasabhojanaṃ.

    ‘‘นานาจิเตฺตหิ ปุเปฺผหิ, ปูชยิตฺวา สสาวกํ;

    ‘‘Nānācittehi pupphehi, pūjayitvā sasāvakaṃ;

    นิปจฺจ ปาทมูลมฺหิ, ตํ ฐาน ปตฺถยิํ อหํฯ

    Nipacca pādamūlamhi, taṃ ṭhāna patthayiṃ ahaṃ.

    ‘‘ตทา มุนิวโร อาห, กรุเณกรสาสโย;

    ‘‘Tadā munivaro āha, karuṇekarasāsayo;

    ปสฺสเถตํ ทิชวรํ, ปทุมานนโลจนํฯ

    Passathetaṃ dijavaraṃ, padumānanalocanaṃ.

    ‘‘ปีติปาโมชฺชพหุลํ , สมุคฺคตตนูรุหํ;

    ‘‘Pītipāmojjabahulaṃ , samuggatatanūruhaṃ;

    หาสมฺหิตวิสาลกฺขํ, มม สาสนลาลสํฯ

    Hāsamhitavisālakkhaṃ, mama sāsanalālasaṃ.

    ‘‘ปติตํ ปาทมูเล เม, เอกาวตฺถสุมานสํ;

    ‘‘Patitaṃ pādamūle me, ekāvatthasumānasaṃ;

    เอส ปเตฺถติ ตํ ฐานํ, วิจิตฺตกถิกตฺตนํฯ

    Esa pattheti taṃ ṭhānaṃ, vicittakathikattanaṃ.

    ‘‘สตสหสฺสิโต กเปฺป, โอกฺกากกุลสมฺภโว;

    ‘‘Satasahassito kappe, okkākakulasambhavo;

    โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ

    Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.

    ‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;

    ‘‘Tassa dhammesu dāyādo, oraso dhammanimmito;

    กุมารกสฺสโป นาม, เหสฺสติ สตฺถุ สาวโกฯ

    Kumārakassapo nāma, hessati satthu sāvako.

    ‘‘วิจิตฺตปุปฺผทุสฺสานํ, รตนานญฺจ วาหสา;

    ‘‘Vicittapupphadussānaṃ, ratanānañca vāhasā;

    วิจิตฺตกถิกานํ โส, อคฺคตํ ปาปุณิสฺสติฯ

    Vicittakathikānaṃ so, aggataṃ pāpuṇissati.

    ‘‘เตน กเมฺมน สุกเตน, เจตนาปณิธีหิ จ;

    ‘‘Tena kammena sukatena, cetanāpaṇidhīhi ca;

    ชหิตฺวา มานุสํ เทหํ, ตาวติํสมคจฺฉหํฯ

    Jahitvā mānusaṃ dehaṃ, tāvatiṃsamagacchahaṃ.

    ‘‘ปริพฺภมํ ภวาภเว, รงฺคมเชฺฌ ยถา นโฎ;

    ‘‘Paribbhamaṃ bhavābhave, raṅgamajjhe yathā naṭo;

    สาขมิคตฺรโช หุตฺวา, มิคิยา กุจฺฉิโมกฺกมิํฯ

    Sākhamigatrajo hutvā, migiyā kucchimokkamiṃ.

    ‘‘ตทา มยิ กุจฺฉิคเต, วชฺฌวาโร อุปฎฺฐิโต;

    ‘‘Tadā mayi kucchigate, vajjhavāro upaṭṭhito;

    สาเขน จตฺตา เม มาตา, นิโคฺรธํ สรณํ คตาฯ

    Sākhena cattā me mātā, nigrodhaṃ saraṇaṃ gatā.

    ‘‘เตน สา มิคราเชน, มรณา ปริโมจิตา;

    ‘‘Tena sā migarājena, maraṇā parimocitā;

    ปริจฺจชิตฺวา สปาณํ, มเมวํ โอวที ตทาฯ

    Pariccajitvā sapāṇaṃ, mamevaṃ ovadī tadā.

    ‘‘นิโคฺรธเมว เสเวยฺย, น สาขมุปสํวเส;

    ‘‘Nigrodhameva seveyya, na sākhamupasaṃvase;

    นิโคฺรธสฺมิํ มตํ เสโยฺย, ยเญฺจ สาขมฺหิ ชีวิตํฯ

    Nigrodhasmiṃ mataṃ seyyo, yañce sākhamhi jīvitaṃ.

    ‘‘เตนานุสิฎฺฐา มิคยูถเปน, อหญฺจ มาตา จ ตเถตเร จ;

    ‘‘Tenānusiṭṭhā migayūthapena, ahañca mātā ca tathetare ca;

    อาคมฺม รมฺมํ ตุสิตาธิวาสํ, คตา ปวาสํ สฆรํ ยเถวฯ

    Āgamma rammaṃ tusitādhivāsaṃ, gatā pavāsaṃ sagharaṃ yatheva.

    ‘‘ปุโน กสฺสปวีรสฺส, อตฺถเมนฺตมฺหิ สาสเน;

    ‘‘Puno kassapavīrassa, atthamentamhi sāsane;

    อารุยฺห เสลสิขรํ, ยุญฺชิตฺวา ชินสาสนํฯ

    Āruyha selasikharaṃ, yuñjitvā jinasāsanaṃ.

    ‘‘อิทานาหํ ราชคเห, ชาโต เสฎฺฐิกุเล อหุํ;

    ‘‘Idānāhaṃ rājagahe, jāto seṭṭhikule ahuṃ;

    อาปนฺนสตฺตา เม มาตา, ปพฺพชิ อนคาริยํฯ

    Āpannasattā me mātā, pabbaji anagāriyaṃ.

    ‘‘สคพฺภํ ตํ วิทิตฺวาน, เทวทตฺตมุปานยุํ;

    ‘‘Sagabbhaṃ taṃ viditvāna, devadattamupānayuṃ;

    โส อโวจ วินาเสถ, ปาปิกํ ภิกฺขุนิํ อิมํฯ

    So avoca vināsetha, pāpikaṃ bhikkhuniṃ imaṃ.

    ‘‘อิทานิปิ มุนิเนฺทน, ชิเนน อนุกมฺปิตา;

    ‘‘Idānipi munindena, jinena anukampitā;

    สุขินี อชนี มยฺหํ, มาตา ภิกฺขุนุปสฺสเยฯ

    Sukhinī ajanī mayhaṃ, mātā bhikkhunupassaye.

    ‘‘ตํ วิทิตฺวา มหีปาโล, โกสโล มํ อโปสยิ;

    ‘‘Taṃ viditvā mahīpālo, kosalo maṃ aposayi;

    กุมารปริหาเนน, นาเมนาหญฺจ กสฺสโปฯ

    Kumāraparihānena, nāmenāhañca kassapo.

    ‘‘มหากสฺสปมาคมฺม, อหํ กุมารกสฺสโป;

    ‘‘Mahākassapamāgamma, ahaṃ kumārakassapo;

    วมฺมิกสทิสํ กายํ, สุตฺวา พุเทฺธน เทสิตํฯ

    Vammikasadisaṃ kāyaṃ, sutvā buddhena desitaṃ.

    ‘‘ตโต จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม, อนุปาทาย สพฺพโส;

    ‘‘Tato cittaṃ vimucci me, anupādāya sabbaso;

    ปายาสิํ ทมยิตฺวาหํ, เอตทคฺคมปาปุณิํฯ

    Pāyāsiṃ damayitvāhaṃ, etadaggamapāpuṇiṃ.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    อรหตฺตํ ปน ปตฺวา จิตฺตกถิกภาเวน สตฺถารา เอตทเคฺค ฐปิโต อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา รตนตฺตยคุณวิภาวนมุเขน อญฺญํ พฺยากโรโนฺต –

    Arahattaṃ pana patvā cittakathikabhāvena satthārā etadagge ṭhapito attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā ratanattayaguṇavibhāvanamukhena aññaṃ byākaronto –

    ๒๐๑.

    201.

    ‘‘อโห พุทฺธา อโห ธมฺมา, อโห โน สตฺถุ สมฺปทา;

    ‘‘Aho buddhā aho dhammā, aho no satthu sampadā;

    ยตฺถ เอตาทิสํ ธมฺมํ, สาวโก สจฺฉิกาหิติฯ

    Yattha etādisaṃ dhammaṃ, sāvako sacchikāhiti.

    ๒๐๒.

    202.

    ‘‘อสเงฺขเยฺยสุ กเปฺปสุ, สกฺกายาธิคตา อหู;

    ‘‘Asaṅkheyyesu kappesu, sakkāyādhigatā ahū;

    เตสมยํ ปจฺฉิมโก, จริโมยํ สมุสฺสโย;

    Tesamayaṃ pacchimako, carimoyaṃ samussayo;

    ชาติมรณสํสาโร, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโว’’ติฯ – คาถาทฺวยํ อภาสิ;

    Jātimaraṇasaṃsāro, natthi dāni punabbhavo’’ti. – gāthādvayaṃ abhāsi;

    ตตฺถ อโหติ อจฺฉริยเตฺถ นิปาโตฯ พุทฺธาติ สพฺพญฺญุพุทฺธา, คารววเสน พหุวจนํ, อโห อจฺฉริยา สมฺพุทฺธาติ อโตฺถฯ ธมฺมาติ ปริยตฺติธเมฺมน สทฺธิํ นว โลกุตฺตรธมฺมาฯ อโห โน สตฺถุ สมฺปทาติ อมฺหากํ สตฺถุ ทสพลสฺส อโห สมฺปตฺติโยฯ ยตฺถาติ ยสฺมิํ สตฺถริ พฺรหฺมจริยวาเสนฯ เอตาทิสํ ธมฺมํ, สาวโก สจฺฉิกาหิตีติ เอตาทิสํ เอวรูปํ สุวิสุทฺธชฺฌานาภิญฺญาปริวารํ อนวเสสกิเลสกฺขยาวหํ สนฺตํ ปณีตํ อนุตฺตรํ ธมฺมํ สาวโกปิ นาม สจฺฉิกริสฺสติ, ตสฺมา เอวํวิธคุณวิเสสาธิคมเหตุภูตา อโห อจฺฉริยา พุทฺธา ภควโนฺต, อจฺฉริยา ธมฺมคุณา, อจฺฉริยา อมฺหากํ สตฺถุ สมฺปตฺติโยติ รตนตฺตยสฺส คุณาธิมุตฺติํ ปเวเทสีติฯ ธมฺมสมฺปตฺติกิตฺตเนเนว หิ สงฺฆสุปฺปฎิปตฺติ กิตฺติตา โหตีติฯ

    Tattha ahoti acchariyatthe nipāto. Buddhāti sabbaññubuddhā, gāravavasena bahuvacanaṃ, aho acchariyā sambuddhāti attho. Dhammāti pariyattidhammena saddhiṃ nava lokuttaradhammā. Aho no satthu sampadāti amhākaṃ satthu dasabalassa aho sampattiyo. Yatthāti yasmiṃ satthari brahmacariyavāsena. Etādisaṃ dhammaṃ, sāvako sacchikāhitīti etādisaṃ evarūpaṃ suvisuddhajjhānābhiññāparivāraṃ anavasesakilesakkhayāvahaṃ santaṃ paṇītaṃ anuttaraṃ dhammaṃ sāvakopi nāma sacchikarissati, tasmā evaṃvidhaguṇavisesādhigamahetubhūtā aho acchariyā buddhā bhagavanto, acchariyā dhammaguṇā, acchariyā amhākaṃ satthu sampattiyoti ratanattayassa guṇādhimuttiṃ pavedesīti. Dhammasampattikittaneneva hi saṅghasuppaṭipatti kittitā hotīti.

    เอวํ สาธารณวเสน ทสฺสิตํ ธมฺมสฺส สจฺฉิกิริยํ อิทานิ อตฺตุปนายิกํ กตฺวา ทเสฺสโนฺต ‘‘อสเงฺขเยฺยสู’’ติ คาถมาหฯ ตตฺถ อสเงฺขเยฺยสูติ คณนปถํ วีติวเตฺตสุ มหากเปฺปสุฯ สกฺกายาติ ปญฺจุปาทานกฺขนฺธาฯ เต หิ ปรมตฺถโต วิชฺชมานธมฺมสมูหตาย ‘‘สกฺกายา’’ติ วุจฺจนฺติฯ อหูติ นิวตฺตนูปายสฺส อนธิคตตฺตา อนปคตา อเหสุํฯ เตสมยํ ปจฺฉิมโก จริโมยํ สมุสฺสโยติ ยสฺมา อยํ สพฺพปจฺฉิมโก, ตโต เอว จริโม, ตสฺมา ชาติมรณสหิโต ขนฺธาทิปฎิปาฎิสญฺญิโต สํสาโร อิทานิ อายติํ ปุนพฺภวาภาวโต ปุนพฺภโว นตฺถิ, อยมนฺติมา ชาตีติ อโตฺถฯ

    Evaṃ sādhāraṇavasena dassitaṃ dhammassa sacchikiriyaṃ idāni attupanāyikaṃ katvā dassento ‘‘asaṅkheyyesū’’ti gāthamāha. Tattha asaṅkheyyesūti gaṇanapathaṃ vītivattesu mahākappesu. Sakkāyāti pañcupādānakkhandhā. Te hi paramatthato vijjamānadhammasamūhatāya ‘‘sakkāyā’’ti vuccanti. Ahūti nivattanūpāyassa anadhigatattā anapagatā ahesuṃ. Tesamayaṃ pacchimako carimoyaṃ samussayoti yasmā ayaṃ sabbapacchimako, tato eva carimo, tasmā jātimaraṇasahito khandhādipaṭipāṭisaññito saṃsāro idāni āyatiṃ punabbhavābhāvato punabbhavo natthi, ayamantimā jātīti attho.

    กุมารกสฺสปเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Kumārakassapattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๑. กุมารกสฺสปเตฺถรคาถา • 1. Kumārakassapattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact