Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๔. กุมารกสุตฺตวณฺณนา
4. Kumārakasuttavaṇṇanā
๔๔. จตุเตฺถ กุมารกาติ ตรุณปุคฺคลาฯ เย สุภาสิตทุพฺภาสิตสฺส อตฺถํ ชานนฺติ, เต อิธ กุมารกาติ อธิเปฺปตาฯ อิเม หิ สตฺตา ชาตทิวสโต ปฎฺฐาย ยาว ปญฺจทสวสฺสกา, ตาว ‘‘กุมารกา, พาลา’’ติ จ วุจฺจนฺติ, ตโต ปรํ วีสติวสฺสานิ ‘‘ยุวาโน’’ติฯ มจฺฉเก พาเธนฺตีติ มคฺคสมีเป เอกสฺมิํ ตฬาเก นิทาฆกาเล อุทเก ปริกฺขีเณ นินฺนฎฺฐาเน ฐิตํ อุทกํ อุสฺสิญฺจิตฺวา ขุทฺทกมเจฺฉ คณฺหนฺติ เจว หนนฺติ จ ‘‘ปจิตฺวา ขาทิสฺสามา’’ติฯ เตนุปสงฺกมีติ มคฺคโต โถกํ ตฬากํ อติกฺกมิตฺวา ฐิโต, ตสฺมา ‘‘อุปสงฺกมี’’ติ วทติฯ กสฺมา ปน อุปสงฺกมิ? เต กุมารเก อตฺตนิ วิสฺสาสํ ชเนตุํ อุปสงฺกมิฯ ภายถ โวติ เอตฺถ โวติ นิปาตมตฺตํฯ ทุกฺขสฺสาติ นิสฺสเกฺก สามิวจนํ, ทุกฺขสฺมาติ อโตฺถฯ อปฺปิยํ โว ทุกฺขนฺติ ‘‘กิํ ตุมฺหากํ สรีเร อุปฺปชฺชนกทุกฺขํ อปฺปิยํ อนิฎฺฐ’’นฺติ ปุจฺฉติฯ
44. Catutthe kumārakāti taruṇapuggalā. Ye subhāsitadubbhāsitassa atthaṃ jānanti, te idha kumārakāti adhippetā. Ime hi sattā jātadivasato paṭṭhāya yāva pañcadasavassakā, tāva ‘‘kumārakā, bālā’’ti ca vuccanti, tato paraṃ vīsativassāni ‘‘yuvāno’’ti. Macchake bādhentīti maggasamīpe ekasmiṃ taḷāke nidāghakāle udake parikkhīṇe ninnaṭṭhāne ṭhitaṃ udakaṃ ussiñcitvā khuddakamacche gaṇhanti ceva hananti ca ‘‘pacitvā khādissāmā’’ti. Tenupasaṅkamīti maggato thokaṃ taḷākaṃ atikkamitvā ṭhito, tasmā ‘‘upasaṅkamī’’ti vadati. Kasmā pana upasaṅkami? Te kumārake attani vissāsaṃ janetuṃ upasaṅkami. Bhāyatha voti ettha voti nipātamattaṃ. Dukkhassāti nissakke sāmivacanaṃ, dukkhasmāti attho. Appiyaṃ vo dukkhanti ‘‘kiṃ tumhākaṃ sarīre uppajjanakadukkhaṃ appiyaṃ aniṭṭha’’nti pucchati.
เอตมตฺถํ วิทิตฺวาติ อิเม สตฺตา อตฺตโน ทุกฺขํ อนิจฺฉนฺตา เอว หุตฺวา ทุกฺขเหตุํ ปฎิปชฺชนฺตา อตฺตโน ตํ อิจฺฉนฺตา เอว นาม โหนฺตีติ เอตมตฺถํ สพฺพาการโต วิทิตฺวาฯ อิมํ อุทานนฺติ อิมํ ปาปกิริยาย นิเสธนํ อาทีนววิภาวนญฺจ อุทานํ อุทาเนสิฯ
Etamatthaṃ viditvāti ime sattā attano dukkhaṃ anicchantā eva hutvā dukkhahetuṃ paṭipajjantā attano taṃ icchantā eva nāma hontīti etamatthaṃ sabbākārato viditvā. Imaṃ udānanti imaṃ pāpakiriyāya nisedhanaṃ ādīnavavibhāvanañca udānaṃ udānesi.
ตสฺสโตฺถ – ยทิ ตุมฺหากํ สกลมาปายิกํ, สุคติยญฺจ อปฺปายุกตามนุสฺสโทภคฺคิยาทิเภทํ ทุกฺขํ อปฺปิยํ อนิฎฺฐํ, ยทิ ตุเมฺห ตโต ภายถ, อาวิ วา ปเรสํ ปากฎภาววเสน อปฺปฎิจฺฉนฺนํ กตฺวา กาเยน วา วาจาย วา ปาณาติปาตาทิปฺปเภทํ ยทิ วา รโห อปากฎภาววเสน ปฎิจฺฉนฺนํ กตฺวา มโนทฺวาเร เอว อภิชฺฌาทิปฺปเภทํ อณุมตฺตมฺปิ ปาปกํ ลามกธมฺมํ มากตฺถ มา กริตฺถ, อถ ปน ตํ ปาปกมฺมํ เอตรหิ กโรถ, อายติํ วา กริสฺสถ, นิรยาทีสุ จตูสุ อปาเยสุ มนุเสฺสสุ จ ตสฺส ผลภูตํ ทุกฺขํ อิโต วา เอโตฺต วา ปลายเนฺต อเมฺห นานุพนฺธิสฺสตีติ อธิปฺปาเยน อุเปจฺจ อเปจฺจ ปลายตมฺปิ ตุมฺหากํ ตโต มุตฺติ โมโกฺข นตฺถิฯ คติกาลาทิปจฺจยนฺตรสมวาเย วิปจฺจิสฺสติเยวาติ ทเสฺสติฯ ‘‘ปลายเน’’ติปิ ปฐนฺติ, วุตฺตนเยน ยตฺถ กตฺถจิ คมเน ปกฺกมเน สตีติ อโตฺถฯ อยญฺจ อโตฺถ ‘‘น อนฺตลิเกฺข น สมุทฺทมเชฺฌ…เป.… ปาปกมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑๒๗; มิ. ป. ๔.๒.๔) อิมาย คาถาย ทีเปตโพฺพฯ
Tassattho – yadi tumhākaṃ sakalamāpāyikaṃ, sugatiyañca appāyukatāmanussadobhaggiyādibhedaṃ dukkhaṃ appiyaṃ aniṭṭhaṃ, yadi tumhe tato bhāyatha, āvi vā paresaṃ pākaṭabhāvavasena appaṭicchannaṃ katvā kāyena vā vācāya vā pāṇātipātādippabhedaṃ yadi vā raho apākaṭabhāvavasena paṭicchannaṃ katvā manodvāre eva abhijjhādippabhedaṃ aṇumattampi pāpakaṃ lāmakadhammaṃ mākattha mā karittha, atha pana taṃ pāpakammaṃ etarahi karotha, āyatiṃ vā karissatha, nirayādīsu catūsu apāyesu manussesu ca tassa phalabhūtaṃ dukkhaṃ ito vā etto vā palāyante amhe nānubandhissatīti adhippāyena upecca apecca palāyatampi tumhākaṃ tato mutti mokkho natthi. Gatikālādipaccayantarasamavāye vipaccissatiyevāti dasseti. ‘‘Palāyane’’tipi paṭhanti, vuttanayena yattha katthaci gamane pakkamane satīti attho. Ayañca attho ‘‘na antalikkhe na samuddamajjhe…pe… pāpakammā’’ti (dha. pa. 127; mi. pa. 4.2.4) imāya gāthāya dīpetabbo.
จตุตฺถสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Catutthasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๔. กุมารกสุตฺตํ • 4. Kumārakasuttaṃ