Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā

    ๖. กุมารเปตวตฺถุวณฺณนา

    6. Kumārapetavatthuvaṇṇanā

    สาวตฺถิ นาม นครนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เทฺว เปเต อารพฺภ กเถสิฯ สาวตฺถิยํ กิร โกสลรโญฺญ เทฺว ปุตฺตา ปาสาทิกา ปฐมวเย ฐิตา โยพฺพนมทมตฺตา ปรทารกมฺมํ กตฺวา กาลํ กตฺวา ปริขาปิเฎฺฐ เปตา หุตฺวา นิพฺพตฺติํสุฯ เต รตฺติยํ เภรเวน สเทฺทน ปริเทวิํสุฯ มนุสฺสา ตํ สุตฺวา ภีตตสิตา ‘‘เอวํ กเต อิทํ อวมงฺคลํ วูปสมฺมตี’’ติ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส มหาทานํ ทตฺวา ตํ ปวตฺติํ ภควโต อาโรเจสุํฯ ภควา ‘‘อุปาสกา ตสฺส สทฺทสฺส สวเนน ตุมฺหากํ น โกจิ อนฺตราโย’’ติ วตฺวา ตสฺส การณํ อาจิกฺขิตฺวา เตสํ ธมฺมํ เทเสตุํ –

    Sāvatthināma nagaranti idaṃ satthā jetavane viharanto dve pete ārabbha kathesi. Sāvatthiyaṃ kira kosalarañño dve puttā pāsādikā paṭhamavaye ṭhitā yobbanamadamattā paradārakammaṃ katvā kālaṃ katvā parikhāpiṭṭhe petā hutvā nibbattiṃsu. Te rattiyaṃ bheravena saddena parideviṃsu. Manussā taṃ sutvā bhītatasitā ‘‘evaṃ kate idaṃ avamaṅgalaṃ vūpasammatī’’ti buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa mahādānaṃ datvā taṃ pavattiṃ bhagavato ārocesuṃ. Bhagavā ‘‘upāsakā tassa saddassa savanena tumhākaṃ na koci antarāyo’’ti vatvā tassa kāraṇaṃ ācikkhitvā tesaṃ dhammaṃ desetuṃ –

    ๗๔๖.

    746.

    ‘‘สาวตฺถิ นาม นครํ, หิมวนฺตสฺส ปสฺสโต;

    ‘‘Sāvatthi nāma nagaraṃ, himavantassa passato;

    ตตฺถ อาสุํ เทฺว กุมารา, ราชปุตฺตาติ เม สุตํฯ

    Tattha āsuṃ dve kumārā, rājaputtāti me sutaṃ.

    ๗๔๗.

    747.

    ‘‘สมฺมตฺตา รชนีเยสุ, กามสฺสาทาภินนฺทิโน;

    ‘‘Sammattā rajanīyesu, kāmassādābhinandino;

    ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธา, น เต ปสฺสิํสุนาคตํฯ

    Paccuppannasukhe giddhā, na te passiṃsunāgataṃ.

    ๗๔๘.

    748.

    ‘‘เต จุตา จ มนุสฺสตฺตา, ปรโลกํ อิโต คตา;

    ‘‘Te cutā ca manussattā, paralokaṃ ito gatā;

    เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตา, ปุเพฺพ ทุกฺกฎมตฺตโนฯ

    Tedha ghosentyadissantā, pubbe dukkaṭamattano.

    ๗๔๙.

    749.

    ‘‘พหูสุ วต สเนฺตสุ, เทยฺยธเมฺม อุปฎฺฐิเต;

    ‘‘Bahūsu vata santesu, deyyadhamme upaṭṭhite;

    นาสกฺขิมฺหา จ อตฺตานํ, ปริตฺตํ กาตุํ สุขาวหํฯ

    Nāsakkhimhā ca attānaṃ, parittaṃ kātuṃ sukhāvahaṃ.

    ๗๕๐.

    750.

    ‘‘กิํ ตโต ปาปกํ อสฺส, ยํ โน ราชกุลา จุตา;

    ‘‘Kiṃ tato pāpakaṃ assa, yaṃ no rājakulā cutā;

    อุปปนฺนา เปตฺติวิสยํ, ขุปฺปิปาสสมปฺปิตาฯ

    Upapannā pettivisayaṃ, khuppipāsasamappitā.

    ๗๕๑.

    751.

    ‘‘สามิโน อิธ หุตฺวาน, โหนฺติ อสามิโน ตหิํ;

    ‘‘Sāmino idha hutvāna, honti asāmino tahiṃ;

    ภมนฺติ ขุปฺปิปาสาย, มนุสฺสา อุนฺนโตนตาฯ

    Bhamanti khuppipāsāya, manussā unnatonatā.

    ๗๕๒.

    752.

    ‘‘เอตมาทีนวํ ญตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวํ;

    ‘‘Etamādīnavaṃ ñatvā, issaramadasambhavaṃ;

    ปหาย อิสฺสรมทํ, ภเว สคฺคคโต นโร;

    Pahāya issaramadaṃ, bhave saggagato naro;

    กายสฺส เภทา สปฺปโญฺญ, สคฺคํ โส อุปปชฺชตี’’ติ – คาถา อภาสิ;

    Kāyassa bhedā sappañño, saggaṃ so upapajjatī’’ti – gāthā abhāsi;

    ๗๔๖. ตตฺถ อิติ เม สุตนฺติ น เกวลํ อตฺตโน ญาเณน ทิฎฺฐเมว, อถ โข โลเก ปากฎภาเวน เอวํ มยา สุตนฺติ อโตฺถฯ

    746. Tattha iti me sutanti na kevalaṃ attano ñāṇena diṭṭhameva, atha kho loke pākaṭabhāvena evaṃ mayā sutanti attho.

    ๗๔๗. กามสฺสาทาภินนฺทิโนติ กามคุเณสุ อสฺสาทวเสน อภินนฺทนสีลาฯ ปจฺจุปฺปนฺนสุเข คิทฺธาติ วตฺตมานสุขมเตฺต คิทฺธา คถิตา หุตฺวาฯ น เต ปสฺสิํสุนาคตนฺติ ทุจฺจริตํ ปหาย สุจริตํ จริตฺวา อนาคตํ อายติํ เทวมนุเสฺสสุ ลทฺธพฺพํ สุขํ เต น จิเนฺตสุํฯ

    747.Kāmassādābhinandinoti kāmaguṇesu assādavasena abhinandanasīlā. Paccuppannasukhe giddhāti vattamānasukhamatte giddhā gathitā hutvā. Na te passiṃsunāgatanti duccaritaṃ pahāya sucaritaṃ caritvā anāgataṃ āyatiṃ devamanussesu laddhabbaṃ sukhaṃ te na cintesuṃ.

    ๗๔๘. เตธ โฆเสนฺตฺยทิสฺสนฺตาติ เต ปุเพฺพ ราชปุตฺตภูตา เปตา อิธ สาวตฺถิยา สมีเป อทิสฺสมานรูปา โฆเสนฺติ กนฺทนฺติฯ กิํ กนฺทนฺตีติ อาห ‘‘ปุเพฺพ ทุกฺกฎมตฺตโน’’ติฯ

    748.Tedha ghosentyadissantāti te pubbe rājaputtabhūtā petā idha sāvatthiyā samīpe adissamānarūpā ghosenti kandanti. Kiṃ kandantīti āha ‘‘pubbe dukkaṭamattano’’ti.

    ๗๔๙. อิทานิ เตสํ กนฺทนสฺส การณํ เหตุโต จ ผลโต จ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุํ ‘‘พหูสุ วต สเนฺตสู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ

    749. Idāni tesaṃ kandanassa kāraṇaṃ hetuto ca phalato ca vibhajitvā dassetuṃ ‘‘bahūsu vata santesū’’tiādi vuttaṃ.

    ตตฺถ พหูสุ วต สเนฺตสูติ อเนเกสุ ทกฺขิเณเยฺยสุ วิชฺชมาเนสุฯ เทยฺยธเมฺม อุปฎฺฐิเตติ อตฺตโน สนฺตเก ทาตพฺพเทยฺยธเมฺมปิ สมีเป ฐิเต, ลพฺภมาเนติ อโตฺถฯ ปริตฺตํ สุขาวหนฺติ อปฺปมตฺตกมฺปิ อายติํ สุขาวหํ ปุญฺญํ กตฺวา อตฺตานํ โสตฺถิํ นิรุปทฺทวํ กาตุํ นาสกฺขิมฺหา วตาติ โยชนาฯ

    Tattha bahūsu vata santesūti anekesu dakkhiṇeyyesu vijjamānesu. Deyyadhamme upaṭṭhiteti attano santake dātabbadeyyadhammepi samīpe ṭhite, labbhamāneti attho. Parittaṃ sukhāvahanti appamattakampi āyatiṃ sukhāvahaṃ puññaṃ katvā attānaṃ sotthiṃ nirupaddavaṃ kātuṃ nāsakkhimhā vatāti yojanā.

    ๗๕๐. กิํ ตโต ปาปกํ อสฺสาติ ตโต ปาปกํ ลามกํ นาม กิํ อญฺญํ อสฺส สิยาฯ ยํ โน ราชกุลา จุตาติ เยน ปาปกเมฺมน มยํ ราชกุลโต จุตา อิธ เปตฺติวิสยํ อุปปนฺนา เปเตสุ นิพฺพตฺตา ขุปฺปิปาสสมปฺปิตา วิจรามาติ อโตฺถฯ

    750.Kiṃ tato pāpakaṃ assāti tato pāpakaṃ lāmakaṃ nāma kiṃ aññaṃ assa siyā. Yaṃ no rājakulā cutāti yena pāpakammena mayaṃ rājakulato cutā idha pettivisayaṃ upapannā petesu nibbattā khuppipāsasamappitā vicarāmāti attho.

    ๗๕๑. สามิโน อิธ หุตฺวานาติ อิธ อิมสฺมิํ โลเก ยสฺมิํเยว ฐาเน ปุเพฺพ สามิโน หุตฺวา วิจรนฺติ, ตหิํ ตสฺมิํเยว ฐาเน โหนฺติ อสฺสามิโนฯ มนุสฺสา อุนฺนโตนตาติ มนุสฺสกาเล สามิโน หุตฺวา กาลกตา กมฺมวเสน โอนตา ภมนฺติ ขุปฺปิปาสาย, ปสฺส สํสารปกตินฺติ ทเสฺสติฯ

    751.Sāmino idha hutvānāti idha imasmiṃ loke yasmiṃyeva ṭhāne pubbe sāmino hutvā vicaranti, tahiṃ tasmiṃyeva ṭhāne honti assāmino. Manussā unnatonatāti manussakāle sāmino hutvā kālakatā kammavasena onatā bhamanti khuppipāsāya, passa saṃsārapakatinti dasseti.

    ๗๕๒. เอตมาทีนวํ ญตฺวา, อิสฺสรมทสมฺภวนฺติ เอตํ อิสฺสริยมทวเสน สมฺภูตํ อปายูปปตฺติสงฺขาตํ อาทีนวํ โทสํ ญตฺวา ปหาย อิสฺสริยมทํ ปุญฺญปฺปสุโต หุตฺวาฯ ภเว สคฺคคโต นโรติ สคฺคํ เทวโลกํ คโตเยว ภเวยฺยฯ

    752.Etamādīnavaṃ ñatvā, issaramadasambhavanti etaṃ issariyamadavasena sambhūtaṃ apāyūpapattisaṅkhātaṃ ādīnavaṃ dosaṃ ñatvā pahāya issariyamadaṃ puññappasuto hutvā. Bhave saggagato naroti saggaṃ devalokaṃ gatoyeva bhaveyya.

    อิติ สตฺถา เตสํ เปตานํ ปวตฺติํ กเถตฺวา เตหิ มนุเสฺสหิ กตํ ทานํ เตสํ เปตานํ อุทฺทิสาเปตฺวา สมฺปตฺตปริสาย อชฺฌาสยานุรูปํ ธมฺมํ เทเสสิฯ สา เทสนา มหาชนสฺส สาตฺถิกา อโหสีติฯ

    Iti satthā tesaṃ petānaṃ pavattiṃ kathetvā tehi manussehi kataṃ dānaṃ tesaṃ petānaṃ uddisāpetvā sampattaparisāya ajjhāsayānurūpaṃ dhammaṃ desesi. Sā desanā mahājanassa sātthikā ahosīti.

    กุมารเปตวตฺถุวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Kumārapetavatthuvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi / ๖. กุมารเปตวตฺถุ • 6. Kumārapetavatthu


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact