Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi |
๕๓๖. กุณาลชาตกํ (๔)
536. Kuṇālajātakaṃ (4)
เอวมกฺขายติ, เอวมนุสูยติ 1ฯ สโพฺพสธธรณิธเร เนกปุปฺผมาลฺยวิตเต คช-ควช มหิํส-รุรุ-จมร-ปสท-ขคฺค-โคกณฺณ-สีห-พฺยคฺฆ-ทีปิ-อจฺฉ-โกก-ตรจฺฉ-อุทฺทาร-กทลิมิค- พิฬาร-สส-กณฺณิกานุจริเตอากิณฺณเนลมณฺฑลมหาวราหนาคกุลกเรณุ 2 -สงฺฆาธิวุเฎฺฐ 3 อิสฺสมิค- สาขมิค-สรภมิค-เอณีมิค-วาตมิค-ปสทมิค-ปุริสาลุ 4 -กิมฺปุริส-ยกฺข-รกฺขสนิเสวิเต อมชฺชวมญฺชรีธร-ปหฎฺฐ 5 -ปุปฺผผุสิตคฺคา 6 เนกปาทปคณวิตเตกุรร-จโกร-วารณ-มยูร-ปรภต- ชีวญฺชีวก-เจลาวกา-ภิงฺการ-กรวีกมตฺตวิหงฺคคณ-สตต 7 สมฺปฆุเฎฺฐอญฺชน-มโนสิลา-หริตาล- หิงฺคุลกเหม-รชตกนกาเนกธาตุสตวินทฺธปฎิมณฺฑิตปฺปเทเส เอวรูเป ขลุ, โภ, รเมฺม วนสเณฺฑ กุณาโล นาม สกุโณ ปฎิวสติ อติวิย จิโตฺต อติวิย จิตฺตปตฺตจฺฉทโนฯ
Evamakkhāyati, evamanusūyati 8. Sabbosadhadharaṇidhare nekapupphamālyavitate gaja-gavaja mahiṃsa-ruru-camara-pasada-khagga-gokaṇṇa-sīha-byaggha-dīpi-accha-koka-taraccha-uddāra-kadalimiga- biḷāra-sasa-kaṇṇikānucariteākiṇṇanelamaṇḍalamahāvarāhanāgakulakareṇu 9 -saṅghādhivuṭṭhe 10 issamiga- sākhamiga-sarabhamiga-eṇīmiga-vātamiga-pasadamiga-purisālu 11 -kimpurisa-yakkha-rakkhasanisevite amajjavamañjarīdhara-pahaṭṭha 12 -pupphaphusitaggā 13 nekapādapagaṇavitatekurara-cakora-vāraṇa-mayūra-parabhata- jīvañjīvaka-celāvakā-bhiṅkāra-karavīkamattavihaṅgagaṇa-satata 14 sampaghuṭṭheañjana-manosilā-haritāla- hiṅgulakahema-rajatakanakānekadhātusatavinaddhapaṭimaṇḍitappadese evarūpe khalu, bho, ramme vanasaṇḍe kuṇālo nāma sakuṇo paṭivasati ativiya citto ativiya cittapattacchadano.
ปญฺจสตา ทิชกญฺญาโย ปุรโต ปุรโต อุเฑฺฑนฺติ – ‘‘มา นํ กุณาลํ สกุณํ โคปาลกา วา ปสุปาลกา วา ติณหารกา วา กฎฺฐหารกา วา วนกมฺมิกา วา กเฎฺฐน วา กฐเลน วา 33 ปาณินา วา ( ) 34 เลฑฺฑุนา วา ทเณฺฑน วา สเตฺถน วา สกฺขราหิ วา 35 ปหารํ อทํสุฯ มายํ กุณาโล สกุโณ คเจฺฉหิ วา ลตาหิ วา รุเกฺขหิ วา สาขาหิ วา 36 ถเมฺภหิ วา ปาสาเณหิ วา พลวเนฺตหิ วา ปกฺขีหิ สงฺคเมสี’’ติ 37ฯ
Pañcasatā dijakaññāyo purato purato uḍḍenti – ‘‘mā naṃ kuṇālaṃ sakuṇaṃ gopālakā vā pasupālakā vā tiṇahārakā vā kaṭṭhahārakā vā vanakammikā vā kaṭṭhena vā kaṭhalena vā 38 pāṇinā vā ( ) 39 leḍḍunā vā daṇḍena vā satthena vā sakkharāhi vā 40 pahāraṃ adaṃsu. Māyaṃ kuṇālo sakuṇo gacchehi vā latāhi vā rukkhehi vā sākhāhi vā 41 thambhehi vā pāsāṇehi vā balavantehi vā pakkhīhi saṅgamesī’’ti 42.
ปญฺจสตา ทิชกญฺญาโย ปจฺฉโต ปจฺฉโต อุเฑฺฑนฺติ สณฺหาหิ สขิลาหิ มญฺชูหิ มธุราหิ วาจาหิ สมุทาจรนฺติโย – ‘‘มายํ กุณาโล สกุโณ อาสเน ปริยุกฺกณฺฐี’’ติฯ
Pañcasatā dijakaññāyo pacchato pacchato uḍḍenti saṇhāhi sakhilāhi mañjūhi madhurāhi vācāhi samudācarantiyo – ‘‘māyaṃ kuṇālo sakuṇo āsane pariyukkaṇṭhī’’ti.
ปญฺจสตา ทิชกญฺญาโย ทิโสทิสํ อุเฑฺฑนฺติ อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลมาหรนฺติโย – ‘‘มายํ กุณาโล สกุโณ ขุทาย ปริกิลมิตฺถา’’ติฯ
Pañcasatā dijakaññāyo disodisaṃ uḍḍenti anekarukkhavividhavikatiphalamāharantiyo – ‘‘māyaṃ kuṇālo sakuṇo khudāya parikilamitthā’’ti.
อถ ขลุ, โภ, ตา 43 ทิชกญฺญาโย ตํ กุณาลํ สกุณํ อาราเมเนว อารามํ อุยฺยาเนเนว อุยฺยานํ นทีติเตฺถเนว นทีติตฺถํ ปพฺพตสิขเรเนว ปพฺพตสิขรํ อมฺพวเนเนว อมฺพวนํ ชมฺพุวเนเนว ชมฺพุวนํ ลพุชวเนเนว ลพุชวนํ นาฬิเกรสญฺจาริเยเนว 44 นาฬิเกรสญฺจาริยํ ขิปฺปเมว อภิสโมฺภนฺติ รติตฺถาย 45ฯ
Atha khalu, bho, tā 46 dijakaññāyo taṃ kuṇālaṃ sakuṇaṃ ārāmeneva ārāmaṃ uyyāneneva uyyānaṃ nadītittheneva nadītitthaṃ pabbatasikhareneva pabbatasikharaṃ ambavaneneva ambavanaṃ jambuvaneneva jambuvanaṃ labujavaneneva labujavanaṃ nāḷikerasañcāriyeneva 47 nāḷikerasañcāriyaṃ khippameva abhisambhonti ratitthāya 48.
อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตาหิ ทิชกญฺญาหิ ทิวสํ ปริพฺยูโฬฺห เอวํ อปสาเทติ – ‘‘นสฺสถ ตุเมฺห วสลิโย, วินสฺสถ ตุเมฺห วสลิโย, โจริโย ธุตฺติโย อสติโย ลหุจิตฺตาโย กตสฺส อปฺปฎิการิกาโย อนิโล วิย เยนกามํคมาโย’’ติฯ
Atha khalu, bho, kuṇālo sakuṇo tāhi dijakaññāhi divasaṃ paribyūḷho evaṃ apasādeti – ‘‘nassatha tumhe vasaliyo, vinassatha tumhe vasaliyo, coriyo dhuttiyo asatiyo lahucittāyo katassa appaṭikārikāyo anilo viya yenakāmaṃgamāyo’’ti.
ตเสฺสว ขลุ, โภ, หิมวโต ปพฺพตราชสฺส ปุรตฺถิมทิสาภาเค สุสุขุมสุนิปุณคิริปฺปภว 49 – หริตุปยนฺติโยฯ
Tasseva khalu, bho, himavato pabbatarājassa puratthimadisābhāge susukhumasunipuṇagirippabhava 50 – haritupayantiyo.
กุรวก-มุจลินฺท-เกตก-เวทิส-วญฺชุล 55 -ปุนฺนาคพกุล-ติลก-ปิยก-หสนสาล-สฬลจมฺปก อโสก-นาครุกฺข-ติรีฎิ-ภุชปตฺต-โลทฺท-จนฺทโนฆวเนกาฬาครุ-ปทฺมก-ปิยงฺคุ-เทวทารุกโจจคหเน กกุธกุฎชอโงฺกล-กจฺจิการ 56 -กณิการ-กณฺณิการ-กนเวร-โกรณฺฑก-โกวิฬาร-กิํสุก-โยธิก วนมลฺลิก 57 -มนงฺคณ-มนวชฺช-ภณฺฑิ-สุรุจิร-ภคินิมาลามลฺยธเร ชาติสุมนมธุคนฺธิก- 58 ธนุตกฺการิ 59 ตาลีส-ตครมุสีรโกฎฺฐ-กจฺฉวิตเต อติมุตฺตกสํกุสุมิตลตาวิตตปฎิมณฺฑิตปฺปเทเส หํส-ปิลว-กาทมฺพ-การณฺฑวาภินทิเต วิชฺชาธร-สิทฺธ 60 -สมณ-ตาปสคณาธิวุเฎฺฐ วรเทว-ยกฺข-รกฺขส-ทานว-คนฺธพฺพ-กินฺนรมโหรคานุจิณฺณปฺปเทเส เอวรูเป ขลุ, โภ, รเมฺม วนสเณฺฑ ปุณฺณมุโข นาม ผุสฺสโกกิโล ปฎิวสติ อติวิย มธุรคิโร วิลาสิตนยโน มตฺตโกฺข 61ฯ
Kuravaka-mucalinda-ketaka-vedisa-vañjula 62 -punnāgabakula-tilaka-piyaka-hasanasāla-saḷalacampaka asoka-nāgarukkha-tirīṭi-bhujapatta-lodda-candanoghavanekāḷāgaru-padmaka-piyaṅgu-devadārukacocagahane kakudhakuṭajaaṅkola-kaccikāra 63 -kaṇikāra-kaṇṇikāra-kanavera-koraṇḍaka-koviḷāra-kiṃsuka-yodhika vanamallika 64 -manaṅgaṇa-manavajja-bhaṇḍi-surucira-bhaginimālāmalyadhare jātisumanamadhugandhika- 65 dhanutakkāri 66 tālīsa-tagaramusīrakoṭṭha-kacchavitate atimuttakasaṃkusumitalatāvitatapaṭimaṇḍitappadese haṃsa-pilava-kādamba-kāraṇḍavābhinadite vijjādhara-siddha 67 -samaṇa-tāpasagaṇādhivuṭṭhe varadeva-yakkha-rakkhasa-dānava-gandhabba-kinnaramahoragānuciṇṇappadese evarūpe khalu, bho, ramme vanasaṇḍe puṇṇamukho nāma phussakokilo paṭivasati ativiya madhuragiro vilāsitanayano mattakkho 68.
ตเสฺสว ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส อฑฺฒุฑฺฒานิ อิตฺถิสตานิ ปริจาริกา ทิชกญฺญาโยฯ อถ ขลุ, โภ, เทฺว ทิชกญฺญาโย กฎฺฐํ มุเขน ฑํสิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ มเชฺฌ นิสีทาเปตฺวา อุเฑฺฑนฺติ – ‘‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อทฺธานปริยายปเถ กิลมโถ อุพฺพาเหตฺถา’’ติฯ
Tasseva khalu, bho, puṇṇamukhassa phussakokilassa aḍḍhuḍḍhāni itthisatāni paricārikā dijakaññāyo. Atha khalu, bho, dve dijakaññāyo kaṭṭhaṃ mukhena ḍaṃsitvā taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ majjhe nisīdāpetvā uḍḍenti – ‘‘mā naṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ addhānapariyāyapathe kilamatho ubbāhetthā’’ti.
ปญฺญาส ทิชกญฺญาโย เหฎฺฐโต เหฎฺฐโต อุเฑฺฑนฺติ – ‘‘สจายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล อาสนา ปริปติสฺสติ, มยํ ตํ ปเกฺขหิ ปฎิคฺคเหสฺสามา’’ติฯ
Paññāsa dijakaññāyo heṭṭhato heṭṭhato uḍḍenti – ‘‘sacāyaṃ puṇṇamukho phussakokilo āsanā paripatissati, mayaṃ taṃ pakkhehi paṭiggahessāmā’’ti.
ปญฺญาส ทิชกญฺญาโย อุปรูปริ อุเฑฺฑนฺติ – ‘‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อาตโป ปริตาเปสี’’ติฯ
Paññāsa dijakaññāyo uparūpari uḍḍenti – ‘‘mā naṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ ātapo paritāpesī’’ti.
ปญฺญาส ปญฺญาส ทิชกญฺญาโย อุภโตปเสฺสน อุเฑฺฑนฺติ – ‘‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ สีตํ วา อุณฺหํ วา ติณํ วา รโช วา วาโต วา อุสฺสาโว วา อุปปฺผุสี’’ติฯ
Paññāsa paññāsa dijakaññāyo ubhatopassena uḍḍenti – ‘‘mā naṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ sītaṃ vā uṇhaṃ vā tiṇaṃ vā rajo vā vāto vā ussāvo vā upapphusī’’ti.
ปญฺญาส ทิชกญฺญาโย ปุรโต ปุรโต อุเฑฺฑนฺติ – ‘‘มา นํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ โคปาลกา วา ปสุปาลกา วา ติณหารกา วา กฎฺฐหารกา วา วนกมฺมิกา วา กเฎฺฐน วา กถลาย วา ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทเณฺฑน วา สเตฺถน วา สกฺขราหิ วา ปหารํ อทํสุฯ มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล คเจฺฉหิ วา ลตาหิ วา รุเกฺขหิ วา สาขาหิ วา ถเมฺภหิ วา ปาสาเณหิ วา พลวเนฺตหิ วา ปกฺขีหิ สงฺคาเมสี’’ติฯ
Paññāsa dijakaññāyo purato purato uḍḍenti – ‘‘mā naṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ gopālakā vā pasupālakā vā tiṇahārakā vā kaṭṭhahārakā vā vanakammikā vā kaṭṭhena vā kathalāya vā pāṇinā vā leḍḍunā vā daṇḍena vā satthena vā sakkharāhi vā pahāraṃ adaṃsu. Māyaṃ puṇṇamukho phussakokilo gacchehi vā latāhi vā rukkhehi vā sākhāhi vā thambhehi vā pāsāṇehi vā balavantehi vā pakkhīhi saṅgāmesī’’ti.
ปญฺญาส ทิชกญฺญาโย ปจฺฉโต ปจฺฉโต อุเฑฺฑนฺติ สณฺหาหิ สขิลาหิ มญฺชูหิ มธุราหิ วาจาหิ สมุทาจรนฺติโย – ‘‘มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล อาสเน ปริยุกฺกณฺฐี’’ติฯ
Paññāsa dijakaññāyo pacchato pacchato uḍḍenti saṇhāhi sakhilāhi mañjūhi madhurāhi vācāhi samudācarantiyo – ‘‘māyaṃ puṇṇamukho phussakokilo āsane pariyukkaṇṭhī’’ti.
ปญฺญาส ทิชกญฺญาโย ทิโสทิสํ อุเฑฺฑนฺติ อเนกรุกฺขวิวิธวิกติผลมาหรนฺติโย – ‘‘มายํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ขุทาย ปริกิลมิตฺถา’’ติฯ
Paññāsa dijakaññāyo disodisaṃ uḍḍenti anekarukkhavividhavikatiphalamāharantiyo – ‘‘māyaṃ puṇṇamukho phussakokilo khudāya parikilamitthā’’ti.
อถ ขลุ, โภ, ตา ทิชกญฺญาโย ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ อาราเมเนว อารามํ อุยฺยาเนเนว อุยฺยานํ นทีติเตฺถเนว นทีติตฺถํ ปพฺพตสิขเรเนว ปพฺพตสิขรํ อมฺพวเนเนว อมฺพวนํ ชมฺพุวเนเนว ชมฺพุวนํ ลพุชวเนเนว ลพุชวนํ นาฬิเกรสญฺจาริเยเนว นาฬิเกรสญฺจาริยํ ขิปฺปเมว อภิสโมฺภนฺติ รติตฺถายฯ
Atha khalu, bho, tā dijakaññāyo taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ ārāmeneva ārāmaṃ uyyāneneva uyyānaṃ nadītittheneva nadītitthaṃ pabbatasikhareneva pabbatasikharaṃ ambavaneneva ambavanaṃ jambuvaneneva jambuvanaṃ labujavaneneva labujavanaṃ nāḷikerasañcāriyeneva nāḷikerasañcāriyaṃ khippameva abhisambhonti ratitthāya.
อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตาหิ ทิชกญฺญาหิ ทิวสํ ปริพฺยูโฬฺห เอวํ ปสํสติ – ‘‘สาธุ, สาธุ, ภคินิโย, เอตํ โข, ภคินิโย, ตุมฺหากํ ปติรูปํ กุลธีตานํ, ยํ ตุเมฺห ภตฺตารํ ปริจเรยฺยาถา’’ติฯ
Atha khalu, bho, puṇṇamukho phussakokilo tāhi dijakaññāhi divasaṃ paribyūḷho evaṃ pasaṃsati – ‘‘sādhu, sādhu, bhaginiyo, etaṃ kho, bhaginiyo, tumhākaṃ patirūpaṃ kuladhītānaṃ, yaṃ tumhe bhattāraṃ paricareyyāthā’’ti.
อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมิฯ อทฺทสํสุ โข กุณาลสฺส สกุณสฺส ปริจาริกา ทิชกญฺญาโย ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ; ทิสฺวาน เยน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, สมฺม ปุณฺณมุข, กุณาโล สกุโณ อติวิย ผรุโส อติวิย ผรุสวาโจ, อเปฺปวนาม ตวมฺปิ อาคมฺม ปิยวาจํ ลเภยฺยามา’’ติฯ ‘‘อเปฺปวนาม, ภคินิโย’’ติ วตฺวา เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา กุณาเลน สกุเณน สทฺธิํ ปฎิสโมฺมทิตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตํ กุณาลํ สกุณํ เอตทโวจ – ‘‘กิสฺส ตฺวํ, สมฺม กุณาล, อิตฺถีนํ สุชาตานํ กุลธีตานํ สมฺมาปฎิปนฺนานํ มิจฺฉาปฎิปโนฺน’สิ 69? อมนาปภาณีนมฺปิ กิร, สมฺม กุณาล, อิตฺถีนํ มนาปภาณินา ภวิตพฺพํ, กิมงฺค ปน มนาปภาณีน’’นฺติ!
Atha khalu, bho, puṇṇamukho phussakokilo yena kuṇālo sakuṇo tenupasaṅkami. Addasaṃsu kho kuṇālassa sakuṇassa paricārikā dijakaññāyo taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ dūratova āgacchantaṃ; disvāna yena puṇṇamukho phussakokilo tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ etadavocuṃ – ‘‘ayaṃ, samma puṇṇamukha, kuṇālo sakuṇo ativiya pharuso ativiya pharusavāco, appevanāma tavampi āgamma piyavācaṃ labheyyāmā’’ti. ‘‘Appevanāma, bhaginiyo’’ti vatvā yena kuṇālo sakuṇo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā kuṇālena sakuṇena saddhiṃ paṭisammoditvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho puṇṇamukho phussakokilo taṃ kuṇālaṃ sakuṇaṃ etadavoca – ‘‘kissa tvaṃ, samma kuṇāla, itthīnaṃ sujātānaṃ kuladhītānaṃ sammāpaṭipannānaṃ micchāpaṭipanno’si 70? Amanāpabhāṇīnampi kira, samma kuṇāla, itthīnaṃ manāpabhāṇinā bhavitabbaṃ, kimaṅga pana manāpabhāṇīna’’nti!
เอวํ วุเตฺต, กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอวํ อปสาเทสิ – ‘‘นสฺส ตฺวํ, สมฺม ชมฺม วสล, วินสฺส ตฺวํ, สมฺม ชมฺม วสล, โก นุ ตยา วิยโตฺต ชายาชิเนนา’’ติฯ เอวํ อปสาทิโต จ ปน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล ตโตเยว 71 ปฎินิวตฺติฯ
Evaṃ vutte, kuṇālo sakuṇo taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ evaṃ apasādesi – ‘‘nassa tvaṃ, samma jamma vasala, vinassa tvaṃ, samma jamma vasala, ko nu tayā viyatto jāyājinenā’’ti. Evaṃ apasādito ca pana puṇṇamukho phussakokilo tatoyeva 72 paṭinivatti.
อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส อปเรน สมเยน นจิรเสฺสว 73 ขโร อาพาโธ อุปฺปชฺชิ โลหิตปกฺขนฺทิกาฯ พาฬฺหา เวทนา วตฺตนฺติ มารณนฺติกา 74ฯ อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส ปริจาริกานํ ทิชกญฺญานํ เอตทโหสิ – ‘‘อาพาธิโก โข อยํ ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล, อเปฺปวนาม อิมมฺหา อาพาธา วุฎฺฐเหยฺยา’’ติ เอกํ อทุติยํ โอหาย เยน กุณาโล สกุโณ เตนุปสงฺกมิํสุฯ อทฺทสา โข กุณาโล สกุโณ ตา ทิชกญฺญาโย ทูรโตว อาคจฺฉนฺติโย, ทิสฺวาน ตา ทิชกญฺญาโย เอตทโวจ – ‘‘กหํ ปน ตุมฺหํ วสลิโย ภตฺตา’’ติ? ‘‘อาพาธิโก โข, สมฺม กุณาล, ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล อเปฺปวนาม ตมฺหา อาพาธา วุฎฺฐเหยฺยา’’ติฯ เอวํ วุเตฺต, กุณาโล สกุโณ ตา ทิชกญฺญาโย เอวํ อปสาเทสิ – ‘‘นสฺสถ ตุเมฺห วสลิโย, วินสฺสถ ตุเมฺห วสลิโย, โจริโย ธุตฺติโย อสติโย ลหุจิตฺตาโย กตสฺส อปฺปฎิการิกาโย อนิโล วิย เยนกามํคมาโย’’ติ; วตฺวา เยน ปุณฺณมุโข ผุสฺสโกกิโล เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ เอตทโวจ – ‘‘หํ, สมฺม, ปุณฺณมุขา’’ติฯ ‘‘หํ, สมฺม, กุณาลา’’ติฯ
Atha khalu, bho, puṇṇamukhassa phussakokilassa aparena samayena nacirasseva 75 kharo ābādho uppajji lohitapakkhandikā. Bāḷhā vedanā vattanti māraṇantikā 76. Atha khalu, bho, puṇṇamukhassa phussakokilassa paricārikānaṃ dijakaññānaṃ etadahosi – ‘‘ābādhiko kho ayaṃ puṇṇamukho phussakokilo, appevanāma imamhā ābādhā vuṭṭhaheyyā’’ti ekaṃ adutiyaṃ ohāya yena kuṇālo sakuṇo tenupasaṅkamiṃsu. Addasā kho kuṇālo sakuṇo tā dijakaññāyo dūratova āgacchantiyo, disvāna tā dijakaññāyo etadavoca – ‘‘kahaṃ pana tumhaṃ vasaliyo bhattā’’ti? ‘‘Ābādhiko kho, samma kuṇāla, puṇṇamukho phussakokilo appevanāma tamhā ābādhā vuṭṭhaheyyā’’ti. Evaṃ vutte, kuṇālo sakuṇo tā dijakaññāyo evaṃ apasādesi – ‘‘nassatha tumhe vasaliyo, vinassatha tumhe vasaliyo, coriyo dhuttiyo asatiyo lahucittāyo katassa appaṭikārikāyo anilo viya yenakāmaṃgamāyo’’ti; vatvā yena puṇṇamukho phussakokilo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ etadavoca – ‘‘haṃ, samma, puṇṇamukhā’’ti. ‘‘Haṃ, samma, kuṇālā’’ti.
อถ ขลุ, โภ กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ ปเกฺขหิ จ มุขตุณฺฑเกน จ ปริคฺคเหตฺวา วุฎฺฐาเปตฺวา นานาเภสชฺชานิ ปายาเปสิฯ อถ ขลุ, โภ, ปุณฺณมุขสฺส ผุสฺสโกกิลสฺส โส อาพาโธ ปฎิปฺปสฺสมฺภีติฯ อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ ตํ ปุณฺณมุขํ ผุสฺสโกกิลํ คิลานวุฎฺฐิตํ 77 อจิรวุฎฺฐิตํ เคลญฺญา เอตทโวจ –
Atha khalu, bho kuṇālo sakuṇo taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ pakkhehi ca mukhatuṇḍakena ca pariggahetvā vuṭṭhāpetvā nānābhesajjāni pāyāpesi. Atha khalu, bho, puṇṇamukhassa phussakokilassa so ābādho paṭippassambhīti. Atha khalu, bho, kuṇālo sakuṇo taṃ puṇṇamukhaṃ phussakokilaṃ gilānavuṭṭhitaṃ 78 aciravuṭṭhitaṃ gelaññā etadavoca –
๒๙๐.
290.
เอเต ปตี ปญฺจ มตฺติจฺจ นารี, อกาสิ ขุชฺชวามนเกน 87 ปาป’’นฺติฯ
Ete patī pañca matticca nārī, akāsi khujjavāmanakena 88 pāpa’’nti.
‘‘ทิฎฺฐา มยา, สมฺม ปุณฺณมุข, กากวตี 93 นาม เทวี สมุทฺทมเชฺฌ วสนฺตี ภริยา เวนเตยฺยสฺส นฎกุเวเรน ปาปมกาสิฯ
‘‘Diṭṭhā mayā, samma puṇṇamukha, kākavatī 94 nāma devī samuddamajjhe vasantī bhariyā venateyyassa naṭakuverena pāpamakāsi.
เอวเญฺหตํ มยา ญาตํ, พฺรหฺมทตฺตสฺส มาตรํ 101 โอหาย โกสลราชํ ปญฺจาลจเณฺฑน ปาปมกาสิฯ
Evañhetaṃ mayā ñātaṃ, brahmadattassa mātaraṃ 102 ohāya kosalarājaṃ pañcālacaṇḍena pāpamakāsi.
๒๙๑.
291.
‘‘เอตา จ อญฺญา จ อกํสุ ปาปํ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสเส นปฺปสํเส;
‘‘Etā ca aññā ca akaṃsu pāpaṃ, tasmāhamitthīnaṃ na vissase nappasaṃse;
มหี ยถา ชคติ สมานรตฺตา, วสุนฺธรา อิตรีตราปติฎฺฐา 103;
Mahī yathā jagati samānarattā, vasundharā itarītarāpatiṭṭhā 104;
สพฺพสหา อผนฺทนา อกุปฺปา, ตถิตฺถิโย ตาโย น วิสฺสเส นโรฯ
Sabbasahā aphandanā akuppā, tathitthiyo tāyo na vissase naro.
๒๙๒.
292.
‘‘สีโห ยถา โลหิตมํสโภชโน, วาฬมิโค ปญฺจาวุโธ 105 สุรุโทฺธ;
‘‘Sīho yathā lohitamaṃsabhojano, vāḷamigo pañcāvudho 106 suruddho;
ปสยฺหขาที ปรหิํสเน รโต, ตถิตฺถิโย ตาโย น วิสฺสเส นโรฯ
Pasayhakhādī parahiṃsane rato, tathitthiyo tāyo na vissase naro.
‘‘น ขลุ 107, สมฺม ปุณฺณมุข, เวสิโย นาริโย คมนิโย, น เหตา พนฺธกิโย นาม, วธิกาโย นาม เอตาโย, ยทิทํ เวสิโย นาริโย คมนิโย’’ติฯ
‘‘Na khalu 108, samma puṇṇamukha, vesiyo nāriyo gamaniyo, na hetā bandhakiyo nāma, vadhikāyo nāma etāyo, yadidaṃ vesiyo nāriyo gamaniyo’’ti.
‘‘โจโร 109 วิย เวณิกตา, มทิราว 110 ทิทฺธา 111 วาณิโช 112 วิย วาจาสนฺถุติโย, อิสฺสสิงฺฆมิว วิปริวตฺตาโย 113, อุรคามิว ทุชิวฺหาโย, โสพฺภมิว ปฎิจฺฉนฺนา, ปาตาลมิว ทุปฺปูรา รกฺขสี วิย ทุโตฺตสา, ยโมเวกนฺตหาริโย, สิขีริว สพฺพภกฺขา, นทีริว สพฺพวาหี, อนิโล วิย เยนกามํจรา, เนรุ วิย อวิเสสกรา, วิสรุโกฺข วิย นิจฺจผลิตาโย’’ติฯ ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –
‘‘Coro 114 viya veṇikatā, madirāva 115 diddhā 116 vāṇijo 117 viya vācāsanthutiyo, issasiṅghamiva viparivattāyo 118, uragāmiva dujivhāyo, sobbhamiva paṭicchannā, pātālamiva duppūrā rakkhasī viya duttosā, yamovekantahāriyo, sikhīriva sabbabhakkhā, nadīriva sabbavāhī, anilo viya yenakāmaṃcarā, neru viya avisesakarā, visarukkho viya niccaphalitāyo’’ti. Bhavati ca panuttarettha vākyaṃ –
๒๙๓.
293.
‘‘ยถา โจโร ยถา ทิโทฺธ, วาณิโชว วิกตฺถนี;
‘‘Yathā coro yathā diddho, vāṇijova vikatthanī;
๒๙๔.
294.
‘‘โสพฺภมิว ปฎิจฺฉนฺนา, ปาตาลมิว ทุปฺปุรา;
‘‘Sobbhamiva paṭicchannā, pātālamiva duppurā;
รกฺขสี วิย ทุโตฺตสา, ยโมเวกนฺตหาริโยฯ
Rakkhasī viya duttosā, yamovekantahāriyo.
๒๙๕.
295.
‘‘ยถา สิขี นที วาโต, เนรุนาว สมาคตาฯ
‘‘Yathā sikhī nadī vāto, nerunāva samāgatā.
วิสรุโกฺข วิย นิจฺจผลา, นาสยนฺติ ฆเร โภคํ;
Visarukkho viya niccaphalā, nāsayanti ghare bhogaṃ;
๒๙๖.
296.
‘โคณํ เธนุญฺจ ยานญฺจ, ภริยํ ญาติกุเล น วาสเย;
‘Goṇaṃ dhenuñca yānañca, bhariyaṃ ñātikule na vāsaye;
ภญฺชนฺติ รถํ อยานกา, อติวาเหน หนนฺติ ปุงฺควํ;
Bhañjanti rathaṃ ayānakā, ativāhena hananti puṅgavaṃ;
โทเหน หนนฺติ วจฺฉกํ, ภริยา ญาติกุเล ปทุสฺสตี’’’ติฯ
Dohena hananti vacchakaṃ, bhariyā ñātikule padussatī’’’ti.
‘‘ฉ อิมานิ, สมฺม ปุณฺณมุข, ยานิ (วตฺถูนิ) 131 กิเจฺจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภวนฺติ –
‘‘Cha imāni, samma puṇṇamukha, yāni (vatthūni) 132 kicce jāte anatthacarāni bhavanti –
๒๙๗.
297.
‘อคุณํ ธนุ ญาติกุเล จ ภริยา, ปารํ นาวา อกฺขภคฺคญฺจ ยานํ;
‘Aguṇaṃ dhanu ñātikule ca bhariyā, pāraṃ nāvā akkhabhaggañca yānaṃ;
ทูเร มิโตฺต ปาปสหายโก จ, กิเจฺจ ชาเต อนตฺถจรานิ ภว’’’นฺติฯ
Dūre mitto pāpasahāyako ca, kicce jāte anatthacarāni bhava’’’nti.
‘‘อฎฺฐหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, ฐาเนหิ อิตฺถี สามิกํ อวชานาติฯ ทลิทฺทตา, อาตุรตา, ชิณฺณตา, สุราโสณฺฑตา, มุทฺธตา, ปมตฺตตา, สพฺพกิเจฺจสุ อนุวตฺตนตา, สพฺพธนอนุปฺปทาเนน – อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, อฎฺฐหิ ฐาเนหิ อิตฺถี สามิกํ อวชานาติฯ ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –
‘‘Aṭṭhahi khalu, samma puṇṇamukha, ṭhānehi itthī sāmikaṃ avajānāti. Daliddatā, āturatā, jiṇṇatā, surāsoṇḍatā, muddhatā, pamattatā, sabbakiccesu anuvattanatā, sabbadhanaanuppadānena – imehi khalu, samma puṇṇamukha, aṭṭhahi ṭhānehi itthī sāmikaṃ avajānāti. Bhavati ca panuttarettha vākyaṃ –
๒๙๘.
298.
‘ทลิทฺทํ อาตุรญฺจาปิ, ชิณฺณกํ สุรโสณฺฑกํ;
‘Daliddaṃ āturañcāpi, jiṇṇakaṃ surasoṇḍakaṃ;
‘‘นวหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, ฐาเนหิ อิตฺถี ปโทสมาหรติฯ อารามคมนสีลา จ โหติ, อุยฺยานคมนสีลา จ โหติ, นทีติตฺถคมนสีลา จ โหติ, ญาติกุลคมนสีลา จ โหติ, ปรกุลคมนสีลา จ โหติ, อาทาสทุสฺสมณฺฑนานุโยคมนุยุตฺตสีลา จ โหติ, มชฺชปายินี จ โหติ, นิโลฺลกนสีลา จ โหติ, สทฺวารฐายินี 139 จ โหติ – อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, นวหิ ฐาเนหิ อิตฺถี ปโทสมาหรตีติฯ ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –
‘‘Navahi khalu, samma puṇṇamukha, ṭhānehi itthī padosamāharati. Ārāmagamanasīlā ca hoti, uyyānagamanasīlā ca hoti, nadītitthagamanasīlā ca hoti, ñātikulagamanasīlā ca hoti, parakulagamanasīlā ca hoti, ādāsadussamaṇḍanānuyogamanuyuttasīlā ca hoti, majjapāyinī ca hoti, nillokanasīlā ca hoti, sadvāraṭhāyinī 140 ca hoti – imehi khalu, samma puṇṇamukha, navahi ṭhānehi itthī padosamāharatīti. Bhavati ca panuttarettha vākyaṃ –
๒๙๙.
299.
อาทาสทุสฺสมณฺฑนมนุยุตฺตา, ยา จิตฺถี มชฺชปายินีฯ
Ādāsadussamaṇḍanamanuyuttā, yā citthī majjapāyinī.
๓๐๐.
300.
‘ยา จ นิโลฺลกนสีลา, ยา จ สทฺวารฐายินี;
‘Yā ca nillokanasīlā, yā ca sadvāraṭhāyinī;
นวเหเตหิ ฐาเนหิ, ปโทสมาหรนฺติ อิตฺถิโย’’’ติฯ
Navahetehi ṭhānehi, padosamāharanti itthiyo’’’ti.
‘‘จตฺตาลีสาย 143 ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, ฐาเนหิ อิตฺถี ปุริสํ อจฺจาจรติ 144ฯ วิชมฺภติ, วินมติ, วิลสติ, วิลชฺชติ, นเขน นขํ ฆเฎฺฎติ, ปาเทน ปาทํ อกฺกมติ, กเฎฺฐน ปถวิํ วิลิขติ 145, ทารกํ อุลฺลงฺฆติ อุลฺลงฺฆาเปติ 146, กีฬติ กีฬาเปติ, จุมฺพติ จุมฺพาเปติ, ภุญฺชติ ภุญฺชาเปติ, ททาติ, ยาจติ, กตมนุกโรติ, อุจฺจํ ภาสติ, นีจํ ภาสติ, อวิจฺจํ ภาสติ, วิวิจฺจํ ภาสติ, นเจฺจน คีเตน วาทิเตน โรทเนน 147 วิลสิเตน วิภูสิเตน ชคฺฆติ, เปกฺขติ, กฎิํ จาเลติ, คุยฺหภณฺฑกํ สญฺจาเลติ, อูรุํ วิวรติ, อูรุํ ปิทหติ, ถนํ ทเสฺสติ, กจฺฉํ ทเสฺสติ, นาภิํ ทเสฺสติ, อกฺขิํ นิขนติ, ภมุกํ อุกฺขิปติ, โอฎฺฐํ อุปลิขติ 148, ชิวฺหํ นิลฺลาเลติ, ทุสฺสํ มุญฺจติ, ทุสฺสํ ปฎิพนฺธติ, สิรสํ มุญฺจติ, สิรสํ พนฺธติ – อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, จตฺตาลีสาย ฐาเนหิ อิตฺถี ปุริสํ อจฺจาจรติฯ
‘‘Cattālīsāya 149 khalu, samma puṇṇamukha, ṭhānehi itthī purisaṃ accācarati 150. Vijambhati, vinamati, vilasati, vilajjati, nakhena nakhaṃ ghaṭṭeti, pādena pādaṃ akkamati, kaṭṭhena pathaviṃ vilikhati 151, dārakaṃ ullaṅghati ullaṅghāpeti 152, kīḷati kīḷāpeti, cumbati cumbāpeti, bhuñjati bhuñjāpeti, dadāti, yācati, katamanukaroti, uccaṃ bhāsati, nīcaṃ bhāsati, aviccaṃ bhāsati, viviccaṃ bhāsati, naccena gītena vāditena rodanena 153 vilasitena vibhūsitena jagghati, pekkhati, kaṭiṃ cāleti, guyhabhaṇḍakaṃ sañcāleti, ūruṃ vivarati, ūruṃ pidahati, thanaṃ dasseti, kacchaṃ dasseti, nābhiṃ dasseti, akkhiṃ nikhanati, bhamukaṃ ukkhipati, oṭṭhaṃ upalikhati 154, jivhaṃ nillāleti, dussaṃ muñcati, dussaṃ paṭibandhati, sirasaṃ muñcati, sirasaṃ bandhati – imehi khalu, samma puṇṇamukha, cattālīsāya ṭhānehi itthī purisaṃ accācarati.
‘‘ปญฺจวีสาย 155 ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, ฐาเนหิ อิตฺถี ปทุฎฺฐา เวทิตพฺพา ภวติฯ สามิกสฺส ปวาสํ วเณฺณติ, ปวุฎฺฐํ น สรติ, อาคตํ นาภินนฺทติ, อวณฺณํ ตสฺส ภณติ, วณฺณํ ตสฺส น ภณติ, อนตฺถํ ตสฺส จรติ, อตฺถํ ตสฺส น จรติ, อกิจฺจํ ตสฺส กโรติ, กิจฺจํ ตสฺส น กโรติ, ปริทหิตฺวา สยติ, ปรมฺมุขี นิปชฺชติ, ปริวตฺตกชาตา โข ปน โหติ กุงฺกุมิยชาตา, ทีฆํ อสฺสสติ, ทุกฺขํ เวทยติ, อุจฺจารปสฺสาวํ อภิณฺหํ คจฺฉติ, วิโลมมาจรติ, ปรปุริสสทฺทํ สุตฺวา กณฺณโสตํ วิวรโมทหติ 156, นิหตโภคา โข ปน โหติ, ปฎิวิสฺสเกหิ สนฺถวํ กโรติ, นิกฺขนฺตปาทา โข ปน โหติ, วิสิขานุจารินี อติจารินี โข ปน โหติ, นิจฺจํ 157 สามิเก อคารวา ปทุฎฺฐมนสงฺกปฺปา, อภิณฺหํ ทฺวาเร ติฎฺฐติ, กจฺฉานิ องฺคานิ ถนานิ ทเสฺสติ, ทิโสทิสํ คนฺตฺวา เปกฺขติ – อิเมหิ ขลุ, สมฺม ปุณฺณมุข, ปญฺจวีสาย 158 ฐาเนหิ อิตฺถี ปทุฎฺฐา เวทิตพฺพา ภวติฯ ภวติ จ ปนุตฺตเรตฺถ วากฺยํ –
‘‘Pañcavīsāya 159 khalu, samma puṇṇamukha, ṭhānehi itthī paduṭṭhā veditabbā bhavati. Sāmikassa pavāsaṃ vaṇṇeti, pavuṭṭhaṃ na sarati, āgataṃ nābhinandati, avaṇṇaṃ tassa bhaṇati, vaṇṇaṃ tassa na bhaṇati, anatthaṃ tassa carati, atthaṃ tassa na carati, akiccaṃ tassa karoti, kiccaṃ tassa na karoti, paridahitvā sayati, parammukhī nipajjati, parivattakajātā kho pana hoti kuṅkumiyajātā, dīghaṃ assasati, dukkhaṃ vedayati, uccārapassāvaṃ abhiṇhaṃ gacchati, vilomamācarati, parapurisasaddaṃ sutvā kaṇṇasotaṃ vivaramodahati 160, nihatabhogā kho pana hoti, paṭivissakehi santhavaṃ karoti, nikkhantapādā kho pana hoti, visikhānucārinī aticārinī kho pana hoti, niccaṃ 161 sāmike agāravā paduṭṭhamanasaṅkappā, abhiṇhaṃ dvāre tiṭṭhati, kacchāni aṅgāni thanāni dasseti, disodisaṃ gantvā pekkhati – imehi khalu, samma puṇṇamukha, pañcavīsāya 162 ṭhānehi itthī paduṭṭhā veditabbā bhavati. Bhavati ca panuttarettha vākyaṃ –
๓๐๑.
301.
ภตฺตารวณฺณํ น กทาจิ ภาสติ, เอเต ปทุฎฺฐาย ภวนฺติ ลกฺขณาฯ
Bhattāravaṇṇaṃ na kadāci bhāsati, ete paduṭṭhāya bhavanti lakkhaṇā.
๓๐๒.
302.
‘อนตฺถํ ตสฺส จรติ อสญฺญตา, อตฺถญฺจ หาเปติ อกิจฺจการินี;
‘Anatthaṃ tassa carati asaññatā, atthañca hāpeti akiccakārinī;
ปริทหิตฺวา สยติ ปรมฺมุขี, เอเต ปทุฎฺฐาย ภวนฺติ ลกฺขณาฯ
Paridahitvā sayati parammukhī, ete paduṭṭhāya bhavanti lakkhaṇā.
๓๐๓.
303.
‘ปริวตฺตชาตา จ 167 ภวติ กุงฺกุมี, ทีฆญฺจ อสฺสสติ ทุกฺขเวทินี;
‘Parivattajātā ca 168 bhavati kuṅkumī, dīghañca assasati dukkhavedinī;
อุจฺจารปสฺสาวมภิณฺหํ คจฺฉติ, เอเต ปทุฎฺฐาย ภวนฺติ ลกฺขณาฯ
Uccārapassāvamabhiṇhaṃ gacchati, ete paduṭṭhāya bhavanti lakkhaṇā.
๓๐๔.
304.
‘‘วิโลมมาจรติ อกิจฺจการินี, สทฺทํ นิสาเมติ ปรสฺส ภาสโต;
‘‘Vilomamācarati akiccakārinī, saddaṃ nisāmeti parassa bhāsato;
นิหตโภคา จ กโรติ สนฺถวํ, เอเต ปทุฎฺฐาย ภวนฺติ ลกฺขณาฯ
Nihatabhogā ca karoti santhavaṃ, ete paduṭṭhāya bhavanti lakkhaṇā.
๓๐๕.
305.
‘กิเจฺฉน ลทฺธํ กสิราภตํ 169 ธนํ, วิตฺตํ วินาเสติ ทุเกฺขน สมฺภตํ;
‘Kicchena laddhaṃ kasirābhataṃ 170 dhanaṃ, vittaṃ vināseti dukkhena sambhataṃ;
ปฎิวิสฺสเกหิ จ กโรติ สนฺถวํ, เอเต ปทุฎฺฐาย ภวนฺติ ลกฺขณาฯ
Paṭivissakehi ca karoti santhavaṃ, ete paduṭṭhāya bhavanti lakkhaṇā.
๓๐๖.
306.
‘นิกฺขนฺตปาทา วิสิขานุจารินี, นิจฺจญฺจ สามิมฺหิ 171 ปทุฎฺฐมานสา;
‘Nikkhantapādā visikhānucārinī, niccañca sāmimhi 172 paduṭṭhamānasā;
อติจารินี โหติ อเปตคารวา 173, เอเต ปทุฎฺฐาย ภวนฺติ ลกฺขณาฯ
Aticārinī hoti apetagāravā 174, ete paduṭṭhāya bhavanti lakkhaṇā.
๓๐๗.
307.
‘อภิกฺขณํ ติฎฺฐติ ทฺวารมูเล, ถนานิ กจฺฉานิ จ ทสฺสยนฺตี;
‘Abhikkhaṇaṃ tiṭṭhati dvāramūle, thanāni kacchāni ca dassayantī;
ทิโสทิสํ เปกฺขติ ภนฺตจิตฺตา, เอเต ปทุฎฺฐาย ภวนฺติ ลกฺขณาฯ
Disodisaṃ pekkhati bhantacittā, ete paduṭṭhāya bhavanti lakkhaṇā.
๓๐๘.
308.
สพฺพิตฺถิโย กเร ปาปํ, ลภมาเน นิวาตเกฯ
Sabbitthiyo kare pāpaṃ, labhamāne nivātake.
๓๐๙.
309.
‘สเจ ลเภถ ขณํ วา รโห วา, นิวาตกํ วาปิ ลเภถ ตาทิสํ;
‘Sace labhetha khaṇaṃ vā raho vā, nivātakaṃ vāpi labhetha tādisaṃ;
๓๑๐.
310.
‘‘นรานมารามกราสุ นาริสุ, อเนกจิตฺตาสุ อนิคฺคหาสุ จ;
‘‘Narānamārāmakarāsu nārisu, anekacittāsu aniggahāsu ca;
๓๑๑.
311.
ตํ ตาทิสํ มจฺจํ จชิตฺวา ภริยา, อญฺญํ ทิสฺวา ปุริสํ ปีฐสปฺปิํฯ
Taṃ tādisaṃ maccaṃ cajitvā bhariyā, aññaṃ disvā purisaṃ pīṭhasappiṃ.
๓๑๒.
312.
‘พกสฺส จ พาวริกสฺส 189 รโญฺญ, อจฺจนฺตกามานุคตสฺส ภริยา;
‘Bakassa ca bāvarikassa 190 rañño, accantakāmānugatassa bhariyā;
๓๑๓.
313.
‘ปิงฺคิยานี สพฺพโลกิสฺสรสฺส, รโญฺญ ปิยา พฺรหฺมทตฺตสฺส ภริยา;
‘Piṅgiyānī sabbalokissarassa, rañño piyā brahmadattassa bhariyā;
อวาจรี ปฎฺฐวสานุคสฺส, ตํ วาปิ สา นาชฺฌคา กามกามินีฯ
Avācarī paṭṭhavasānugassa, taṃ vāpi sā nājjhagā kāmakāminī.
๓๑๔.
314.
นาเทวสโตฺต ปุริโส, ถีนํ สทฺธาตุมรหติฯ
Nādevasatto puriso, thīnaṃ saddhātumarahati.
๓๑๕.
315.
‘น ตา ปชานนฺติ กตํ น กิจฺจํ, น มาตรํ ปิตรํ ภาตรํ วา;
‘Na tā pajānanti kataṃ na kiccaṃ, na mātaraṃ pitaraṃ bhātaraṃ vā;
อนริยา สมติกฺกนฺตธมฺมา, สเสฺสว จิตฺตสฺส วสํ วชนฺติฯ
Anariyā samatikkantadhammā, sasseva cittassa vasaṃ vajanti.
๓๑๖.
316.
อาวาสุ กิเจฺจสุ จ นํ ชหนฺติ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ น วิสฺสสามิฯ
Āvāsu kiccesu ca naṃ jahanti, tasmāhamitthīnaṃ na vissasāmi.
๓๑๗.
317.
‘ถีนญฺหิ จิตฺตํ ยถา วานรสฺส, กนฺนปฺปกนฺนํ ยถา รุกฺขฉายา;
‘Thīnañhi cittaṃ yathā vānarassa, kannappakannaṃ yathā rukkhachāyā;
จลาจลํ หทยมิตฺถิยานํ, จกฺกสฺส เนมิ วิย ปริวตฺตติฯ
Calācalaṃ hadayamitthiyānaṃ, cakkassa nemi viya parivattati.
๓๑๘.
318.
‘ยทา ตา ปสฺสนฺติ สเมกฺขมานา, อาเทยฺยรูปํ ปุริสสฺส วิตฺตํ;
‘Yadā tā passanti samekkhamānā, ādeyyarūpaṃ purisassa vittaṃ;
สณฺหาหิ วาจาหิ นยนฺติ เมนํ, กโมฺพชกา ชลเชเนว อสฺสํฯ
Saṇhāhi vācāhi nayanti menaṃ, kambojakā jalajeneva assaṃ.
๓๑๙.
319.
‘ยทา น ปสฺสนฺติ สเมกฺขมานา, อาเทยฺยรูปํ ปุริสสฺส วิตฺตํ;
‘Yadā na passanti samekkhamānā, ādeyyarūpaṃ purisassa vittaṃ;
สมนฺตโต นํ ปริวชฺชยนฺติ, ติโณฺณ นทีปารคโตว กุลฺลํฯ
Samantato naṃ parivajjayanti, tiṇṇo nadīpāragatova kullaṃ.
๓๒๐.
320.
‘สิเลสูปมาํ สิขิริว สพฺพภกฺขา, ติกฺขมายา นทีริว สีฆโสตา;
‘Silesūpamāṃ sikhiriva sabbabhakkhā, tikkhamāyā nadīriva sīghasotā;
เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยญฺจ, นาวา ยถา โอรกูลํ 201 ปรญฺจฯ
Sevanti hetā piyamappiyañca, nāvā yathā orakūlaṃ 202 parañca.
๓๒๑.
321.
‘น ตา เอกสฺส น ทฺวินฺนํ, อาปโณว ปสาริโต;
‘Na tā ekassa na dvinnaṃ, āpaṇova pasārito;
๓๒๒.
322.
‘ยถา นที จ ปโนฺถ จ, ปานาคารํ สภา ปปา;
‘Yathā nadī ca pantho ca, pānāgāraṃ sabhā papā;
๓๒๓.
323.
‘ฆตาสนสมา เอตา, กณฺหสปฺปสิรูปมา;
‘Ghatāsanasamā etā, kaṇhasappasirūpamā;
คาโว พหิติณเสฺสว, โอมสนฺติ วรํ วรํฯ
Gāvo bahitiṇasseva, omasanti varaṃ varaṃ.
๓๒๔.
324.
‘ฆตาสนํ กุญฺชรํ กณฺหสปฺปํ, มุทฺธาภิสิตฺตํ ปมทา จ สพฺพา;
‘Ghatāsanaṃ kuñjaraṃ kaṇhasappaṃ, muddhābhisittaṃ pamadā ca sabbā;
๓๒๕.
325.
‘นจฺจนฺตวณฺณา น พหูนํ กนฺตา, น ทกฺขิณา ปมทา เสวิตพฺพา;
‘Naccantavaṇṇā na bahūnaṃ kantā, na dakkhiṇā pamadā sevitabbā;
น ปรสฺส ภริยา น ธนสฺส เหตุ, เอติตฺถิโย ปญฺจ น เสวิตพฺพา’’’ฯ
Na parassa bhariyā na dhanassa hetu, etitthiyo pañca na sevitabbā’’’.
อถ ขลุ, โภ, อานโนฺท คิชฺฌราชา กุณาลสฺส สกุณสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ 213 วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
Atha khalu, bho, ānando gijjharājā kuṇālassa sakuṇassa ādimajjhakathāpariyosānaṃ 214 viditvā tāyaṃ velāyaṃ imā gāthāyo abhāsi –
๓๒๖.
326.
‘‘ปุณฺณมฺปิ เจมํ ปถวิํ ธเนน, ทชฺชิตฺถิยา ปุริโส สมฺมตาย;
‘‘Puṇṇampi cemaṃ pathaviṃ dhanena, dajjitthiyā puriso sammatāya;
ลทฺธา ขณํ อติมเญฺญยฺย ตมฺปิ, ตาสํ วสํ อสตีนํ น คเจฺฉฯ
Laddhā khaṇaṃ atimaññeyya tampi, tāsaṃ vasaṃ asatīnaṃ na gacche.
๓๒๗.
327.
‘‘อุฎฺฐาหกํ เจปิ อลีนวุตฺติํ, โกมารภตฺตารํ ปิยํ มนาปํ;
‘‘Uṭṭhāhakaṃ cepi alīnavuttiṃ, komārabhattāraṃ piyaṃ manāpaṃ;
อาวาสุ กิเจฺจสุ จ นํ ชหนฺติ, ตสฺมาหมิตฺถีนํ 215 น วิสฺสสามิฯ
Āvāsu kiccesu ca naṃ jahanti, tasmāhamitthīnaṃ 216 na vissasāmi.
๓๒๘.
328.
‘‘น วิสฺสเส อิจฺฉติ มนฺติ โปโส, น วิสฺสเส โรทติ เม สกาเส;
‘‘Na vissase icchati manti poso, na vissase rodati me sakāse;
เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยญฺจ, นาวา ยถา โอรกูลํ ปรญฺจฯ
Sevanti hetā piyamappiyañca, nāvā yathā orakūlaṃ parañca.
๓๒๙.
329.
‘‘น วิสฺสเส สาขปุราณสนฺถตํ, น วิสฺสเส มิตฺตปุราณโจรํ;
‘‘Na vissase sākhapurāṇasanthataṃ, na vissase mittapurāṇacoraṃ;
น วิสฺสเส ราชานํ สขา 217 มมนฺติ, น วิสฺสเส อิตฺถิ ทสนฺน มาตรํฯ
Na vissase rājānaṃ sakhā 218 mamanti, na vissase itthi dasanna mātaraṃ.
๓๓๐.
330.
‘‘น วิสฺสเส รามกราสุ นาริสุ, อจฺจนฺตสีลาสุ อสญฺญตาสุ;
‘‘Na vissase rāmakarāsu nārisu, accantasīlāsu asaññatāsu;
อจฺจนฺตเปมานุคตสฺส ภริยา, น วิสฺสเส ติตฺถสมา หิ นาริโยฯ
Accantapemānugatassa bhariyā, na vissase titthasamā hi nāriyo.
๓๓๑.
331.
มา ทีนกามาสุ อสญฺญตาสุ, ภาวํ กเร คงฺคติตฺถูปมาสุฯ
Mā dīnakāmāsu asaññatāsu, bhāvaṃ kare gaṅgatitthūpamāsu.
๓๓๒.
332.
‘‘มุสา ตาสํ ยถา สจฺจํ, สจฺจํ ตาสํ ยถา มุสา;
‘‘Musā tāsaṃ yathā saccaṃ, saccaṃ tāsaṃ yathā musā;
คาโว พหิติณเสฺสว, โอมสนฺติ วรํ วรํฯ
Gāvo bahitiṇasseva, omasanti varaṃ varaṃ.
๓๓๓.
333.
‘‘คเตเนตา ปโลเภนฺติ, เปกฺขิเตน มฺหิเตน จ;
‘‘Gatenetā palobhenti, pekkhitena mhitena ca;
อโถปิ ทุนฺนิวเตฺถน, มญฺชุนา ภณิเตน จฯ
Athopi dunnivatthena, mañjunā bhaṇitena ca.
๓๓๔.
334.
น ตา กิญฺจิ น ชานนฺติ, ยํ มนุเสฺสสุ วญฺจนํฯ
Na tā kiñci na jānanti, yaṃ manussesu vañcanaṃ.
๓๓๕.
335.
‘‘อสา โลกิตฺถิโย นาม, เวลา ตาสํ น วิชฺชติ;
‘‘Asā lokitthiyo nāma, velā tāsaṃ na vijjati;
สารตฺตา จ ปคพฺภา จ, สิขี สพฺพฆโส ยถาฯ
Sārattā ca pagabbhā ca, sikhī sabbaghaso yathā.
๓๓๖.
336.
‘‘นตฺถิตฺถีนํ ปิโย นาม, อปฺปิโยปิ น วิชฺชติ;
‘‘Natthitthīnaṃ piyo nāma, appiyopi na vijjati;
เสวนฺติ เหตา ปิยมปฺปิยญฺจ, นาวา ยถา โอรกูลํ ปรญฺจฯ
Sevanti hetā piyamappiyañca, nāvā yathā orakūlaṃ parañca.
๓๓๗.
337.
‘‘นตฺถิตฺถีนํ ปิโย นาม, อปฺปิโยปิ น วิชฺชติ;
‘‘Natthitthīnaṃ piyo nāma, appiyopi na vijjati;
๓๓๘.
338.
‘‘หตฺถิพนฺธํ อสฺสพนฺธํ, โคปุริสญฺจ มณฺฑลํ 227;
‘‘Hatthibandhaṃ assabandhaṃ, gopurisañca maṇḍalaṃ 228;
ฉวฑาหกํ ปุปฺผฉฑฺฑกํ, สธนมนุปตนฺติ นาริโยฯ
Chavaḍāhakaṃ pupphachaḍḍakaṃ, sadhanamanupatanti nāriyo.
๓๓๙.
339.
‘‘กุลปุตฺตมฺปิ ชหนฺติ อกิญฺจนํ, ฉวกสมสทิสมฺปิ 229;
‘‘Kulaputtampi jahanti akiñcanaṃ, chavakasamasadisampi 230;
อถ ขลุ, โภ, นารโท เทวพฺราหฺมโณ อานนฺทสฺส คิชฺฌราชสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
Atha khalu, bho, nārado devabrāhmaṇo ānandassa gijjharājassa ādimajjhakathāpariyosānaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imā gāthāyo abhāsi –
๓๔๐.
340.
‘‘จตฺตาโรเม น ปูเรนฺติ, เต เม สุณาถ ภาสโต;
‘‘Cattārome na pūrenti, te me suṇātha bhāsato;
สมุโทฺท พฺราหฺมโณ ราชา, อิตฺถี จาปิ ทิชมฺปติฯ
Samuddo brāhmaṇo rājā, itthī cāpi dijampati.
๓๔๑.
341.
‘‘สริตา สาครํ ยนฺติ, ยา กาจิ ปถวิสฺสิตา;
‘‘Saritā sāgaraṃ yanti, yā kāci pathavissitā;
ตา สมุทฺทํ น ปูเรนฺติ, อูนตฺตา หิ น ปูรติฯ
Tā samuddaṃ na pūrenti, ūnattā hi na pūrati.
๓๔๒.
342.
‘‘พฺราหฺมโณ จ อธียาน, เวทมกฺขานปญฺจมํ;
‘‘Brāhmaṇo ca adhīyāna, vedamakkhānapañcamaṃ;
ภิโยฺยปิ สุตมิเจฺฉยฺย, อูนตฺตา หิ น ปูรติฯ
Bhiyyopi sutamiccheyya, ūnattā hi na pūrati.
๓๔๓.
343.
‘‘ราชา จ ปถวิํ สพฺพํ, สสมุทฺทํ สปพฺพตํ;
‘‘Rājā ca pathaviṃ sabbaṃ, sasamuddaṃ sapabbataṃ;
อชฺฌาวสํ วิชินิตฺวา, อนนฺตรตโนจิตํ;
Ajjhāvasaṃ vijinitvā, anantaratanocitaṃ;
ปารํ สมุทฺทํ ปเตฺถติ, อูนตฺตา หิ น ปูรติฯ
Pāraṃ samuddaṃ pattheti, ūnattā hi na pūrati.
๓๔๔.
344.
‘‘เอกเมกาย อิตฺถิยา, อฎฺฐฎฺฐ ปติโน สิยา;
‘‘Ekamekāya itthiyā, aṭṭhaṭṭha patino siyā;
สูรา จ พลวโนฺต จ, สพฺพกามรสาหรา;
Sūrā ca balavanto ca, sabbakāmarasāharā;
กเรยฺย นวเม ฉนฺทํ, อูนตฺตา หิ น ปูรติฯ
Kareyya navame chandaṃ, ūnattā hi na pūrati.
๓๔๕.
345.
‘‘สพฺพิตฺถิโย สิขิริว สพฺพภกฺขา, สพฺพิตฺถิโย นทีริว สพฺพวาหี;
‘‘Sabbitthiyo sikhiriva sabbabhakkhā, sabbitthiyo nadīriva sabbavāhī;
สพฺพิตฺถิโย กณฺฎกานํว สาขา, สพฺพิตฺถิโย ธนเหตุ วชนฺติฯ
Sabbitthiyo kaṇṭakānaṃva sākhā, sabbitthiyo dhanahetu vajanti.
๓๔๖.
346.
‘‘วาตญฺจ ชาเลน นโร ปรามเส, โอสิญฺจเย 235 สาครเมกปาณินา;
‘‘Vātañca jālena naro parāmase, osiñcaye 236 sāgaramekapāṇinā;
สเกน หเตฺถน กเรยฺย โฆสํ 237, โย สพฺพภาวํ ปมทาสุ โอสเชฯ
Sakena hatthena kareyya ghosaṃ 238, yo sabbabhāvaṃ pamadāsu osaje.
๓๔๗.
347.
‘‘โจรีนํ พหุพุทฺธีนํ, ยาสุ สจฺจํ สุทุลฺลภํ;
‘‘Corīnaṃ bahubuddhīnaṃ, yāsu saccaṃ sudullabhaṃ;
ถีนํ ภาโว ทุราชาโน, มจฺฉเสฺสโวทเก คตํฯ
Thīnaṃ bhāvo durājāno, macchassevodake gataṃ.
๓๔๘.
348.
‘‘อนลา มุทุสมฺภาสา, ทุปฺปูรา ตา นทีสมา;
‘‘Analā mudusambhāsā, duppūrā tā nadīsamā;
สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเยฯ
Sīdanti naṃ viditvāna, ārakā parivajjaye.
๓๔๙.
349.
‘‘อาวฎฺฎนี มหามายา, พฺรหฺมจริยวิโกปนา;
‘‘Āvaṭṭanī mahāmāyā, brahmacariyavikopanā;
สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน, อารกา ปริวชฺชเยฯ
Sīdanti naṃ viditvāna, ārakā parivajjaye.
๓๕๐.
350.
ชาตเวโทว สณฺฐานํ, ขิปฺปํ อนุทหนฺติ น’’นฺติฯ
Jātavedova saṇṭhānaṃ, khippaṃ anudahanti na’’nti.
อถ ขลุ, โภ, กุณาโล สกุโณ นารทสฺส เทวพฺราหฺมณสฺส อาทิมชฺฌกถาปริโยสานํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมา คาถาโย อภาสิ –
Atha khalu, bho, kuṇālo sakuṇo nāradassa devabrāhmaṇassa ādimajjhakathāpariyosānaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imā gāthāyo abhāsi –
๓๕๑.
351.
‘‘สลฺลเป นิสิตขคฺคปาณินา, ปณฺฑิโต อปิ ปิสาจโทสินา;
‘‘Sallape nisitakhaggapāṇinā, paṇḍito api pisācadosinā;
อุคฺคเตชมุรคมฺปิ อาสิเท, เอโก เอกาย ปมทาย นาลเป 241ฯ
Uggatejamuragampi āside, eko ekāya pamadāya nālape 242.
๓๕๒.
352.
‘‘โลกจิตฺตมถนา หิ นาริโย, นจฺจคีตภณิตมฺหิตาวุธา;
‘‘Lokacittamathanā hi nāriyo, naccagītabhaṇitamhitāvudhā;
๓๕๓.
353.
‘‘นตฺถิ ตาสํ วินโย น สํวโร, มชฺชมํสนิรตา 247 อสญฺญตา;
‘‘Natthi tāsaṃ vinayo na saṃvaro, majjamaṃsaniratā 248 asaññatā;
ตา คิลนฺติ ปุริสสฺส ปาภตํ, สาคเรว มกรํ ติมิงฺคโล 249ฯ
Tā gilanti purisassa pābhataṃ, sāgareva makaraṃ timiṅgalo 250.
๓๕๔.
354.
‘‘ปญฺจกามคุณสาตโคจรา, อุทฺธตา อนิยตา อสญฺญตา;
‘‘Pañcakāmaguṇasātagocarā, uddhatā aniyatā asaññatā;
โอสรนฺติ ปมทา ปมาทินํ, โลณโตยวติยํว อาปกาฯ
Osaranti pamadā pamādinaṃ, loṇatoyavatiyaṃva āpakā.
๓๕๕.
355.
‘‘ยํ นรํ อุปลเปนฺติ 251 นาริโย, ฉนฺทสา ว รติยา ธเนน วา;
‘‘Yaṃ naraṃ upalapenti 252 nāriyo, chandasā va ratiyā dhanena vā;
ชาตเวทสทิสมฺปิ ตาทิสํ, ราคโทสวธิโย 253 ทหนฺติ นํฯ
Jātavedasadisampi tādisaṃ, rāgadosavadhiyo 254 dahanti naṃ.
๓๕๖.
356.
‘‘อฑฺฒํ ญตฺวา ปุริสํ มหทฺธนํ, โอสรนฺติ สธนา สหตฺตนา;
‘‘Aḍḍhaṃ ñatvā purisaṃ mahaddhanaṃ, osaranti sadhanā sahattanā;
รตฺตจิตฺตมติเวฐยนฺติ นํ, สาล มาลุวลตาว กานเนฯ
Rattacittamativeṭhayanti naṃ, sāla māluvalatāva kānane.
๓๕๗.
357.
‘‘ตา อุเปนฺติ วิวิเธน ฉนฺทสา, จิตฺรพิมฺพมุขิโย อลงฺกตา;
‘‘Tā upenti vividhena chandasā, citrabimbamukhiyo alaṅkatā;
๓๕๘.
358.
‘‘ชาตรูปมณิมุตฺตภูสิตา, สกฺกตา ปติกุเลสุ นาริโย;
‘‘Jātarūpamaṇimuttabhūsitā, sakkatā patikulesu nāriyo;
รกฺขิตา อติจรนฺติ สามิกํ, ทานวํว หทยนฺตรสฺสิตา 259ฯ
Rakkhitā aticaranti sāmikaṃ, dānavaṃva hadayantarassitā 260.
๓๕๙.
359.
‘‘เตชวาปิ หิ นโร วิจกฺขโณ, สกฺกโต พหุชนสฺส ปูชิโต;
‘‘Tejavāpi hi naro vicakkhaṇo, sakkato bahujanassa pūjito;
นารินํ วสคโต น ภาสติ, ราหุนา อุปหโตว จนฺทิมาฯ
Nārinaṃ vasagato na bhāsati, rāhunā upahatova candimā.
๓๖๐.
360.
‘‘ยํ กเรยฺย กุปิโต ทิโส ทิสํ, ทุฎฺฐจิโตฺต วสมาคตํ อริํ 261;
‘‘Yaṃ kareyya kupito diso disaṃ, duṭṭhacitto vasamāgataṃ ariṃ 262;
เตน ภิโยฺย พฺยสนํ นิคจฺฉติ, นารินํ วสคโต อเปกฺขวาฯ
Tena bhiyyo byasanaṃ nigacchati, nārinaṃ vasagato apekkhavā.
๓๖๑.
361.
‘‘เกสลูนนขฉินฺนตชฺชิตา, ปาทปาณิกสทณฺฑตาฬิตา;
‘‘Kesalūnanakhachinnatajjitā, pādapāṇikasadaṇḍatāḷitā;
หีนเมวุปคตา หิ นาริโย, ตา รมนฺติ กุณเปว มกฺขิกาฯ
Hīnamevupagatā hi nāriyo, tā ramanti kuṇapeva makkhikā.
๓๖๒.
362.
‘‘ตา กุเลสุ วิสิขนฺตเรสุ วา, ราชธานินิคเมสุ วา ปุน 263;
‘‘Tā kulesu visikhantaresu vā, rājadhāninigamesu vā puna 264;
โอฑฺฑิตํ นมุจิปาสวากรํ 265, จกฺขุมา ปริวเชฺช สุขตฺถิโกฯ
Oḍḍitaṃ namucipāsavākaraṃ 266, cakkhumā parivajje sukhatthiko.
๓๖๓.
363.
‘‘โอสฺสชิตฺว กุสลํ ตโปคุณํ, โย อนริยจริตานิ มาจริ;
‘‘Ossajitva kusalaṃ tapoguṇaṃ, yo anariyacaritāni mācari;
เทวตาหิ นิรยํ นิมิสฺสติ, เฉทคามิมณิยํว วาณิโชฯ
Devatāhi nirayaṃ nimissati, chedagāmimaṇiyaṃva vāṇijo.
๓๖๔.
364.
‘‘โส อิธ ครหิโต ปรตฺถ จ, ทุมฺมตี อุปหโต 267 สกมฺมุนา;
‘‘So idha garahito parattha ca, dummatī upahato 268 sakammunā;
คจฺฉตี อนิยโต คฬาคฬํ, ทุฎฺฐคทฺรภรโถว อุปฺปเถฯ
Gacchatī aniyato gaḷāgaḷaṃ, duṭṭhagadrabharathova uppathe.
๓๖๕.
365.
‘‘โส อุเปติ นิรยํ ปตาปนํ, สตฺติสิมฺพลิวนญฺจ อายสํ;
‘‘So upeti nirayaṃ patāpanaṃ, sattisimbalivanañca āyasaṃ;
อาวสิตฺวา ติรจฺฉานโยนิยํ, เปตราชวิสยํ น มุญฺจติ 269ฯ
Āvasitvā tiracchānayoniyaṃ, petarājavisayaṃ na muñcati 270.
๓๖๖.
366.
‘‘ทิพฺยขิฑฺฑรติโยํ จ นนฺทเน, จกฺกวตฺติจริตญฺจ มานุเส;
‘‘Dibyakhiḍḍaratiyoṃ ca nandane, cakkavatticaritañca mānuse;
นาสยนฺติ ปมทา ปมาทินํ, ทุคฺคติญฺจ ปฎิปาทยนฺติ นํฯ
Nāsayanti pamadā pamādinaṃ, duggatiñca paṭipādayanti naṃ.
๓๖๗.
367.
‘‘ทิพฺยขิฑฺฑรติโย น ทุลฺลภา, จกฺกวตฺติจริตญฺจ มานุเส;
‘‘Dibyakhiḍḍaratiyo na dullabhā, cakkavatticaritañca mānuse;
โสณฺณพฺยมฺหนิลยา 271 จ อจฺฉรา, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกาฯ
Soṇṇabyamhanilayā 272 ca accharā, ye caranti pamadāhanatthikā.
๓๖๘.
368.
‘‘กามธาตุสมติกฺกมา คติ, รูปธาตุยา ภาโว 273 น ทุลฺลโภ;
‘‘Kāmadhātusamatikkamā gati, rūpadhātuyā bhāvo 274 na dullabho;
วีตราควิสยูปปตฺติยา, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกาฯ
Vītarāgavisayūpapattiyā, ye caranti pamadāhanatthikā.
๓๖๙.
369.
‘‘สพฺพทุกฺขสมติกฺกมํ สิวํ, อจฺจนฺตมจลิตํ อสงฺขตํ;
‘‘Sabbadukkhasamatikkamaṃ sivaṃ, accantamacalitaṃ asaṅkhataṃ;
นิพฺพุเตหิ สุจิหี น ทุลฺลภํ, เย จรนฺติ ปมทาหนตฺถิกา’’ติฯ
Nibbutehi sucihī na dullabhaṃ, ye caranti pamadāhanatthikā’’ti.
๓๗๐.
370.
‘‘กุณาโลหํ ตทา อาสิํ, อุทายี ผุสฺสโกกิโล;
‘‘Kuṇālohaṃ tadā āsiṃ, udāyī phussakokilo;
อานโนฺท คิชฺฌราชาสิ, สาริปุโตฺต จ นารโท;
Ānando gijjharājāsi, sāriputto ca nārado;
ปริสา พุทฺธปริสา, เอวํ ธาเรถ ชาตก’’นฺติฯ
Parisā buddhaparisā, evaṃ dhāretha jātaka’’nti.
กุณาลชาตกํ จตุตฺถํฯ
Kuṇālajātakaṃ catutthaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๕๓๖] ๔. กุณาลชาตกวณฺณนา • [536] 4. Kuṇālajātakavaṇṇanā