Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๐๙] ๙. กุณฺฑกปูวชาตกวณฺณนา
[109] 9. Kuṇḍakapūvajātakavaṇṇanā
ยถโนฺน ปุริโส โหตีติ อิทํ สตฺถา สาวตฺถิยํ วิหรโนฺต มหาทุคฺคตํ อารพฺภ กเถสิฯ สาวตฺถิยญฺหิ กทาจิ เอกเมว กุลํ พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ทานํ เทติ, กทาจิ ตีณิ จตฺตาริ เอกโต หุตฺวา, กทาจิ คณพนฺธเนน, กทาจิ วีถิสภาเคน, กทาจิ สกลนครํ ฉนฺทกํ สํหริตฺวาฯ ตทา ปน วีถิภตฺตํ นาม อโหสิฯ อถ มนุสฺสา พุทฺธปฺปมุขสฺส ภิกฺขุสงฺฆสฺส ยาคุํ ทตฺวา ‘‘ขชฺชกํ อาหรถา’’ติ อาหํสุฯ ตทา ปเนโก ปเรสํ ภติการโก ทุคฺคตมนุโสฺส ตสฺสํ วีถิยํ วสมาโน จิเนฺตสิ ‘‘อหํ ยาคุํ ทาตุํ น สกฺขิสฺสามิ, ขชฺชกํ ปน ทสฺสามี’’ติ สณฺหสณฺหํ กุณฺฑกํ วฑฺฒาเปตฺวา อุทเกน เตเมตฺวา อกฺกปเณฺณน เวเฐตฺวา กุกฺกุเฬ ปจิตฺวา ‘‘อิทํ พุทฺธสฺส ทสฺสามี’’ติ ตํ อาทาย คนฺตฺวา สตฺถุ สนฺติเก ฐิโต ‘‘ขชฺชกํ อาหรถา’’ติ เอกสฺมิํ วจเน วุตฺตมเตฺต สพฺพปฐมํ คนฺตฺวา ตํ ปูวํ สตฺถุ ปเตฺต ปติฎฺฐาเปสิ, สตฺถา อเญฺญหิ ทียมานํ ขชฺชกํ อคฺคเหตฺวา ตเมว ปูวขชฺชกํ ปริภุญฺชิฯ
Yathanno puriso hotīti idaṃ satthā sāvatthiyaṃ viharanto mahāduggataṃ ārabbha kathesi. Sāvatthiyañhi kadāci ekameva kulaṃ buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa dānaṃ deti, kadāci tīṇi cattāri ekato hutvā, kadāci gaṇabandhanena, kadāci vīthisabhāgena, kadāci sakalanagaraṃ chandakaṃ saṃharitvā. Tadā pana vīthibhattaṃ nāma ahosi. Atha manussā buddhappamukhassa bhikkhusaṅghassa yāguṃ datvā ‘‘khajjakaṃ āharathā’’ti āhaṃsu. Tadā paneko paresaṃ bhatikārako duggatamanusso tassaṃ vīthiyaṃ vasamāno cintesi ‘‘ahaṃ yāguṃ dātuṃ na sakkhissāmi, khajjakaṃ pana dassāmī’’ti saṇhasaṇhaṃ kuṇḍakaṃ vaḍḍhāpetvā udakena temetvā akkapaṇṇena veṭhetvā kukkuḷe pacitvā ‘‘idaṃ buddhassa dassāmī’’ti taṃ ādāya gantvā satthu santike ṭhito ‘‘khajjakaṃ āharathā’’ti ekasmiṃ vacane vuttamatte sabbapaṭhamaṃ gantvā taṃ pūvaṃ satthu patte patiṭṭhāpesi, satthā aññehi dīyamānaṃ khajjakaṃ aggahetvā tameva pūvakhajjakaṃ paribhuñji.
ตสฺมิํเยว ปน ขเณ ‘‘สมฺมาสมฺพุเทฺธน กิร มหาทุคฺคตสฺส กุณฺฑกขชฺชกํ อชิคุจฺฉิตฺวา อมตํ วิย ปริภุตฺต’’นฺติ สกลนครํ เอกโกลาหลํ อโหสิฯ ราชราชมหามตฺตาทโย อนฺตมโส โทวาริเก อุปาทาย สเพฺพว สนฺนิปติตฺวา สตฺถารํ วนฺทิตฺวา มหาทุคฺคตํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘หนฺท โภ, สตํ คเหตฺวา, เทฺว สตานิ คเหตฺวา, ปญฺจ สตานิ คเหตฺวา อมฺหากํ ปตฺติํ เทหี’’ติ วทิํสุฯ โส ‘‘สตฺถารํ ปฎิปุจฺฉิตฺวา ชานิสฺสามี’’ติ สตฺถุ สนฺติกํ คนฺตฺวา ตมตฺถํ อาโรเจสิฯ สตฺถา ‘‘ธนํ คเหตฺวา วา อคฺคเหตฺวา วา สพฺพสตฺตานํ ปตฺติํ เทหี’’ติ อาหฯ โส ธนํ คเหตุํ อารภิฯ มนุสฺสา ทิคุณจตุคฺคุณอฎฺฐคุณาทิวเสน ททนฺตา นว หิรญฺญโกฎิโย อทํสุฯ สตฺถา อนุโมทนํ กตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ภิกฺขูหิ วเตฺต ทสฺสิเต สุคโตวาทํ ทตฺวา คนฺธกุฎิํ ปาวิสิฯ ราชา สายนฺหสมเย มหาทุคฺคตํ ปโกฺกสาเปตฺวา เสฎฺฐิฎฺฐาเนน ปูเชสิฯ
Tasmiṃyeva pana khaṇe ‘‘sammāsambuddhena kira mahāduggatassa kuṇḍakakhajjakaṃ ajigucchitvā amataṃ viya paribhutta’’nti sakalanagaraṃ ekakolāhalaṃ ahosi. Rājarājamahāmattādayo antamaso dovārike upādāya sabbeva sannipatitvā satthāraṃ vanditvā mahāduggataṃ upasaṅkamitvā ‘‘handa bho, sataṃ gahetvā, dve satāni gahetvā, pañca satāni gahetvā amhākaṃ pattiṃ dehī’’ti vadiṃsu. So ‘‘satthāraṃ paṭipucchitvā jānissāmī’’ti satthu santikaṃ gantvā tamatthaṃ ārocesi. Satthā ‘‘dhanaṃ gahetvā vā aggahetvā vā sabbasattānaṃ pattiṃ dehī’’ti āha. So dhanaṃ gahetuṃ ārabhi. Manussā diguṇacatugguṇaaṭṭhaguṇādivasena dadantā nava hiraññakoṭiyo adaṃsu. Satthā anumodanaṃ katvā vihāraṃ gantvā bhikkhūhi vatte dassite sugatovādaṃ datvā gandhakuṭiṃ pāvisi. Rājā sāyanhasamaye mahāduggataṃ pakkosāpetvā seṭṭhiṭṭhānena pūjesi.
ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ ‘‘อาวุโส, สตฺถา มหาทุคฺคเตน ทินฺนํ กุณฺฑกปูวํ อชิคุจฺฉโนฺต อมตํ วิย ปริภุญฺชิ, มหาทุคฺคโตปิ พหุธนญฺจ เสฎฺฐิฎฺฐานญฺจ ลภิตฺวา มหาสมฺปตฺติํ ปโตฺต’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว มยา อชิคุจฺฉเนฺตน ตสฺส กุณฺฑกปูโว ปริภุโตฺต, ปุเพฺพปิ รุกฺขเทวตาย หุตฺวา ปริภุโตฺตเยว, ตทาปิ เจส มํ นิสฺสาย เสฎฺฐิฎฺฐานํ อลเตฺถวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Bhikkhū dhammasabhāyaṃ kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ ‘‘āvuso, satthā mahāduggatena dinnaṃ kuṇḍakapūvaṃ ajigucchanto amataṃ viya paribhuñji, mahāduggatopi bahudhanañca seṭṭhiṭṭhānañca labhitvā mahāsampattiṃ patto’’ti. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idāneva mayā ajigucchantena tassa kuṇḍakapūvo paribhutto, pubbepi rukkhadevatāya hutvā paribhuttoyeva, tadāpi cesa maṃ nissāya seṭṭhiṭṭhānaṃ alatthevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต เอกสฺมิํ ฐาเน เอรณฺฑรุเกฺข รุกฺขเทวตา หุตฺวา นิพฺพตฺติฯ ตทา ตสฺมิํ คามเก มนุสฺสา เทวตามงฺคลิกา โหนฺติฯ อเถกสฺมิํ ฉเณ สมฺปเตฺต มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน รุกฺขเทวตานํ พลิกมฺมํ อกํสุฯ อเถโก ทุคฺคตมนุโสฺส เต มนุเสฺส รุกฺขเทวตา ปฎิชคฺคเนฺต ทิสฺวา เอกํ เอรณฺฑรุกฺขํ ปฎิชคฺคิฯ เต มนุสฺสา อตฺตโน อตฺตโน เทวตานํ นานปฺปการานิ มาลาคนฺธวิเลปนาทีนิ เจว ขชฺชโภชฺชานิ จ อาทาย คจฺฉิํสุฯ โส ปน กุณฺฑกปูวเญฺจว อุฬุเงฺกน จ อุทกํ อาทาย คนฺตฺวา เอรณฺฑรุกฺขสฺส อวิทูเร ฐตฺวา จิเนฺตสิ ‘‘เทวตา นาม ทิพฺพขชฺชกานิ ขาทนฺติ, มยฺหํ เทวตา อิมํ กุณฺฑกปูวํ น ขาทิสฺสติ, กิํ อิมํ อการเณน นาเสมิ, อหเมว นํ ขาทิสฺสามี’’ติ ตโตว นิวตฺติฯ โพธิสโตฺต ขนฺธวิฎเป ฐตฺวา ‘‘โภ ปุริส, สเจ ตฺวํ อิสฺสโร ภเวยฺยาสิ, มยฺหํ มธุรขชฺชกํ ทเทยฺยาสิฯ ตฺวํ ปน ทุคฺคโต, อหํ ตว ปูวํ น ขาทิตฺวา อญฺญํ กิํ ขาทิสฺสามิ, มา เม โกฎฺฐาสํ นาเสหี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto ekasmiṃ ṭhāne eraṇḍarukkhe rukkhadevatā hutvā nibbatti. Tadā tasmiṃ gāmake manussā devatāmaṅgalikā honti. Athekasmiṃ chaṇe sampatte manussā attano attano rukkhadevatānaṃ balikammaṃ akaṃsu. Atheko duggatamanusso te manusse rukkhadevatā paṭijaggante disvā ekaṃ eraṇḍarukkhaṃ paṭijaggi. Te manussā attano attano devatānaṃ nānappakārāni mālāgandhavilepanādīni ceva khajjabhojjāni ca ādāya gacchiṃsu. So pana kuṇḍakapūvañceva uḷuṅkena ca udakaṃ ādāya gantvā eraṇḍarukkhassa avidūre ṭhatvā cintesi ‘‘devatā nāma dibbakhajjakāni khādanti, mayhaṃ devatā imaṃ kuṇḍakapūvaṃ na khādissati, kiṃ imaṃ akāraṇena nāsemi, ahameva naṃ khādissāmī’’ti tatova nivatti. Bodhisatto khandhaviṭape ṭhatvā ‘‘bho purisa, sace tvaṃ issaro bhaveyyāsi, mayhaṃ madhurakhajjakaṃ dadeyyāsi. Tvaṃ pana duggato, ahaṃ tava pūvaṃ na khāditvā aññaṃ kiṃ khādissāmi, mā me koṭṭhāsaṃ nāsehī’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –
๑๐๙.
109.
‘‘ยถโนฺน ปุริโส โหติ, ตถนฺนา ตสฺส เทวตา;
‘‘Yathanno puriso hoti, tathannā tassa devatā;
อาหเรตํ กุณฺฑปูวํ, มา เม ภาคํ วินาสยา’’ติฯ
Āharetaṃ kuṇḍapūvaṃ, mā me bhāgaṃ vināsayā’’ti.
ตตฺถ ยถโนฺนติ ยถารูปโภชโน โหติฯ ตถนฺนาติ ตสฺส ปุริสสฺส เทวตาปิ ตถารูปโภชนาว โหติฯ อาหเรตํ กุณฺฑปูวนฺติ เอตํ กุณฺฑเกน ปกฺกปูวํ อาเนหิ, มยฺหํ ภาคํ มา วินาเสหีติฯ
Tattha yathannoti yathārūpabhojano hoti. Tathannāti tassa purisassa devatāpi tathārūpabhojanāva hoti. Āharetaṃ kuṇḍapūvanti etaṃ kuṇḍakena pakkapūvaṃ ānehi, mayhaṃ bhāgaṃ mā vināsehīti.
โส นิวตฺติตฺวา โพธิสตฺตํ โอโลเกตฺวา พลิกมฺมมกาสิฯ โพธิสโตฺต ตโต โอชํ ปริภุญฺชิตฺวา ‘‘ปุริส, ตฺวํ กิมตฺถํ มํ ปฎิชคฺคสี’’ติ อาหฯ ‘‘ทุคฺคโตมฺหิ, สามิ, ตํ นิสฺสาย ทุคฺคตภาวโต มุจฺจิตุกามตาย ปฎิชคฺคามี’’ติฯ ‘‘โภ ปุริส, มา จินฺตยิ, ตยา กตญฺญุสฺส กตเวทิโน ปูชา กตา, อิมํ เอรณฺฑํ ปริกฺขิปิตฺวา นิธิกุมฺภิโย คีวาย คีวํ อาหจฺจฐิตาฯ ตฺวํ รโญฺญ อาจิกฺขิตฺวา สกเฎหิ ธนํ อาหราเปตฺวา ราชงฺคเณ ราสิํ กาเรหิ, ราชา เต ตุสฺสิตฺวา เสฎฺฐิฎฺฐานํ ทสฺสตี’’ติ วตฺวา โพธิสโตฺต อนฺตรธายิฯ โส ตถา อกาสิฯ ราชาปิ ตสฺส เสฎฺฐิฎฺฐานํ อทาสิฯ อิติ โส โพธิสตฺตํ นิสฺสาย มหาสมฺปตฺติํ ปตฺวา ยถากมฺมํ คโตฯ
So nivattitvā bodhisattaṃ oloketvā balikammamakāsi. Bodhisatto tato ojaṃ paribhuñjitvā ‘‘purisa, tvaṃ kimatthaṃ maṃ paṭijaggasī’’ti āha. ‘‘Duggatomhi, sāmi, taṃ nissāya duggatabhāvato muccitukāmatāya paṭijaggāmī’’ti. ‘‘Bho purisa, mā cintayi, tayā kataññussa katavedino pūjā katā, imaṃ eraṇḍaṃ parikkhipitvā nidhikumbhiyo gīvāya gīvaṃ āhaccaṭhitā. Tvaṃ rañño ācikkhitvā sakaṭehi dhanaṃ āharāpetvā rājaṅgaṇe rāsiṃ kārehi, rājā te tussitvā seṭṭhiṭṭhānaṃ dassatī’’ti vatvā bodhisatto antaradhāyi. So tathā akāsi. Rājāpi tassa seṭṭhiṭṭhānaṃ adāsi. Iti so bodhisattaṃ nissāya mahāsampattiṃ patvā yathākammaṃ gato.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ทุคฺคโต เอตรหิ ทุคฺคโตว, เอรณฺฑรุกฺขเทวตา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā duggato etarahi duggatova, eraṇḍarukkhadevatā pana ahameva ahosi’’nti.
กุณฺฑกปูวชาตกวณฺณนา นวมาฯ
Kuṇḍakapūvajātakavaṇṇanā navamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๐๙. กุณฺฑปูวชาตกํ • 109. Kuṇḍapūvajātakaṃ