Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā

    [๓๔๓] ๓. กุนฺตินีชาตกวณฺณนา

    [343] 3. Kuntinījātakavaṇṇanā

    อวสิมฺห ตวาคาเรติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต โกสลรโญฺญ เคเห นิวุตฺถํ กุนฺตินีสกุณิกํ อารพฺภ กเถสิฯ สา กิร รโญฺญ ทูเตยฺยหาริกา อโหสิฯ เทฺว โปตกาปิสฺสา อตฺถิ, ราชา ตํ สกุณิกํ เอกสฺส รโญฺญ ปณฺณํ คาหาเปตฺวา เปเสสิฯ ตสฺสา คตกาเล ราชกุเล ทารกา เต สกุณโปตเก หเตฺถหิ ปริมทฺทนฺตา มาเรสุํฯ สา อาคนฺตฺวา เต โปตเก มเต ปสฺสนฺตี ‘‘เกน เม ปุตฺตกา มาริตา’’ติ ปุจฺฉิฯ ‘‘อสุเกน จ อสุเกน จา’’ติฯ ตสฺมิญฺจ กาเล ราชกุเล โปสาวนิกพฺยโคฺฆ อตฺถิ กกฺขโฬ ผรุโส, พนฺธนพเลน ติฎฺฐติฯ อถ เต ทารกา ตํ พฺยคฺฆํ ทสฺสนาย อคมํสุฯ สาปิ สกุณิกา เตหิ สทฺธิํ คนฺตฺวา ‘‘ยถา อิเมหิ มม ปุตฺตกา มาริตา, ตเถว เน กริสฺสามี’’ติ เต ทารเก คเหตฺวา พฺยคฺฆสฺส ปาทมูเล ขิปิ, พฺยโคฺฆ มุรามุราเปตฺวา ขาทิฯ สา ‘‘อิทานิ เม มโนรโถ ปริปุโณฺณ’’ติ อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตเมว คตาฯ ตํ การณํ สุตฺวา ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ ‘‘อาวุโส, ราชกุเล กิร อสุกา นาม กุนฺตินี สกุณิกา เย หิสฺสา โปตกา มาริตา, เต ทารเก พฺยคฺฆสฺส ปาทมูเล ขิปิตฺวา หิมวนฺตเมว คตา’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนว, ปุเพฺพเปสา อตฺตโน โปตกฆาตเก ทารเก คเหตฺวา พฺยคฺฆสฺส ปาทมูเล ขิปิตฺวา หิมวนฺตเมว คตา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ

    Avasimha tavāgāreti idaṃ satthā jetavane viharanto kosalarañño gehe nivutthaṃ kuntinīsakuṇikaṃ ārabbha kathesi. Sā kira rañño dūteyyahārikā ahosi. Dve potakāpissā atthi, rājā taṃ sakuṇikaṃ ekassa rañño paṇṇaṃ gāhāpetvā pesesi. Tassā gatakāle rājakule dārakā te sakuṇapotake hatthehi parimaddantā māresuṃ. Sā āgantvā te potake mate passantī ‘‘kena me puttakā māritā’’ti pucchi. ‘‘Asukena ca asukena cā’’ti. Tasmiñca kāle rājakule posāvanikabyaggho atthi kakkhaḷo pharuso, bandhanabalena tiṭṭhati. Atha te dārakā taṃ byagghaṃ dassanāya agamaṃsu. Sāpi sakuṇikā tehi saddhiṃ gantvā ‘‘yathā imehi mama puttakā māritā, tatheva ne karissāmī’’ti te dārake gahetvā byagghassa pādamūle khipi, byaggho murāmurāpetvā khādi. Sā ‘‘idāni me manoratho paripuṇṇo’’ti uppatitvā himavantameva gatā. Taṃ kāraṇaṃ sutvā bhikkhū dhammasabhāyaṃ kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ ‘‘āvuso, rājakule kira asukā nāma kuntinī sakuṇikā ye hissā potakā māritā, te dārake byagghassa pādamūle khipitvā himavantameva gatā’’ti. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idāneva, pubbepesā attano potakaghātake dārake gahetvā byagghassa pādamūle khipitvā himavantameva gatā’’ti vatvā atītaṃ āhari.

    อตีเต พาราณสิยํ โพธิสโตฺต ธเมฺมน สเมน รชฺชํ กาเรสิฯ ตสฺส นิเวสเน เอกา กุนฺตินี สกุณิกา ทูเตยฺยหาริกาติ สพฺพํ ปุริมสทิสเมวฯ อยํ ปน วิเสโสฯ อยํ กุนฺตินี พฺยเคฺฆน ทารเก มาราเปตฺวา จิเนฺตสิ ‘‘อิทานิ น สกฺกา มยา อิธ วสิตุํ, คมิสฺสามิ, คจฺฉนฺตี จ ปน รโญฺญ อนาโรเจตฺวา น คมิสฺสามิ, อาโรเจตฺวาว คมิสฺสามี’’ติฯ สา ราชานํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา เอกมนฺตํ ฐิตา ‘‘สามิ, ตุมฺหากํ ปมาเทน มม ปุตฺตเก ทารกา มาเรสุํ, อหํ โกธวสิกา หุตฺวา เต ทารเก ปฎิมาเรสิํ, อิทานิ มยา อิธ วสิตุํ น สกฺกา’’ติ วตฺวา ปฐมํ คาถมาห –

    Atīte bārāṇasiyaṃ bodhisatto dhammena samena rajjaṃ kāresi. Tassa nivesane ekā kuntinī sakuṇikā dūteyyahārikāti sabbaṃ purimasadisameva. Ayaṃ pana viseso. Ayaṃ kuntinī byagghena dārake mārāpetvā cintesi ‘‘idāni na sakkā mayā idha vasituṃ, gamissāmi, gacchantī ca pana rañño anārocetvā na gamissāmi, ārocetvāva gamissāmī’’ti. Sā rājānaṃ upasaṅkamitvā vanditvā ekamantaṃ ṭhitā ‘‘sāmi, tumhākaṃ pamādena mama puttake dārakā māresuṃ, ahaṃ kodhavasikā hutvā te dārake paṭimāresiṃ, idāni mayā idha vasituṃ na sakkā’’ti vatvā paṭhamaṃ gāthamāha –

    ๑๖๕.

    165.

    ‘‘อวสิมฺห ตวาคาเร, นิจฺจํ สกฺกตปูชิตา,

    ‘‘Avasimha tavāgāre, niccaṃ sakkatapūjitā,

    ตฺวเมว ทานิมกริ, หนฺท ราช วชามห’’นฺติฯ

    Tvameva dānimakari, handa rāja vajāmaha’’nti.

    ตตฺถ ตฺวเมว ทานิมกรีติ มํ ปณฺณํ คาหาเปตฺวา เปเสตฺวา อตฺตโน ปมาเทน มม ปิยปุตฺตเก อรกฺขโนฺต ตฺวเญฺญว อิทานิ เอตํ มม โทมนสฺสการณํ อกริฯ หนฺทาติ ววสฺสคฺคเตฺถ นิปาโตฯ ราชาติ โพธิสตฺตํ อาลปติฯ วชามหนฺติ อหํ หิมวนฺตํ คจฺฉามีติฯ

    Tattha tvameva dānimakarīti maṃ paṇṇaṃ gāhāpetvā pesetvā attano pamādena mama piyaputtake arakkhanto tvaññeva idāni etaṃ mama domanassakāraṇaṃ akari. Handāti vavassaggatthe nipāto. Rājāti bodhisattaṃ ālapati. Vajāmahanti ahaṃ himavantaṃ gacchāmīti.

    ตํ สุตฺวา ราชา ทุติยํ คาถมาห –

    Taṃ sutvā rājā dutiyaṃ gāthamāha –

    ๑๖๖.

    166.

    ‘‘โย เว กเต ปฎิกเต, กิพฺพิเส ปฎิกิพฺพิเส;

    ‘‘Yo ve kate paṭikate, kibbise paṭikibbise;

    เอวํ ตํ สมฺมตี เวรํ, วส กุนฺตินิ มาคมา’’ติฯ

    Evaṃ taṃ sammatī veraṃ, vasa kuntini māgamā’’ti.

    ตสฺสโตฺถ – โย ปุคฺคโล ปเรน กเต กิพฺพิเส อตฺตโน ปุตฺตมารณาทิเก ทารุเณ กเมฺม กเต ปุน อตฺตโน ตสฺส ปุคฺคลสฺส ปฎิกเต ปฎิกิพฺพิเส ‘‘ปฎิกตํ มยา ตสฺสา’’ติ ชานาติฯ เอวํ ตํ สมฺมตี เวรนฺติ เอตฺตเกน ตํ เวรํ สมฺมติ วูปสนฺตํ โหติ, ตสฺมา วส กุนฺตินิ มาคมาติฯ

    Tassattho – yo puggalo parena kate kibbise attano puttamāraṇādike dāruṇe kamme kate puna attano tassa puggalassa paṭikate paṭikibbise ‘‘paṭikataṃ mayā tassā’’ti jānāti. Evaṃ taṃ sammatī veranti ettakena taṃ veraṃ sammati vūpasantaṃ hoti, tasmā vasa kuntini māgamāti.

    ตํ สุตฺวา กุนฺตินี ตติยํ คาถมาห –

    Taṃ sutvā kuntinī tatiyaṃ gāthamāha –

    ๑๖๗.

    167.

    ‘‘น กตสฺส จ กตฺตา จ, เมตฺติ สนฺธียเต ปุน;

    ‘‘Na katassa ca kattā ca, metti sandhīyate puna;

    หทยํ นานุชานาติ, คจฺฉเญฺญว รเถสภา’’ติฯ

    Hadayaṃ nānujānāti, gacchaññeva rathesabhā’’ti.

    ตตฺถ น กตสฺส จ กตฺตา จาติ กตสฺส จ อภิภูตสฺส อุปปีฬิตสฺส ปุคฺคลสฺส, อิทานิ วิภตฺติวิปริณามํ กตฺวา โย กตฺตา ตสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ ปุน มิตฺตภาโว นาม น สนฺธียติ น ฆฎียตีติ อโตฺถฯ หทยํ นานุชานาตีติ เตน การเณน มม หทยํ อิธ วาสํ นานุชานาติฯ คจฺฉเญฺญว รเถสภาติ ตสฺมา อหํ มหาราช คมิสฺสามิเยวาติฯ

    Tattha na katassa ca kattā cāti katassa ca abhibhūtassa upapīḷitassa puggalassa, idāni vibhattivipariṇāmaṃ katvā yo kattā tassa cāti imesaṃ dvinnaṃ puggalānaṃ puna mittabhāvo nāma na sandhīyati na ghaṭīyatīti attho. Hadayaṃ nānujānātīti tena kāraṇena mama hadayaṃ idha vāsaṃ nānujānāti. Gacchaññeva rathesabhāti tasmā ahaṃ mahārāja gamissāmiyevāti.

    ตํ สุตฺวา ราชา จตุตฺถํ คาถมาห –

    Taṃ sutvā rājā catutthaṃ gāthamāha –

    ๑๖๘.

    168.

    ‘‘กตสฺส เจว กตฺตา จ, เมตฺติ สนฺธียเต ปุน;

    ‘‘Katassa ceva kattā ca, metti sandhīyate puna;

    ธีรานํ โน จ พาลานํ, วส กุนฺตินิ มาคมา’’ติฯ

    Dhīrānaṃ no ca bālānaṃ, vasa kuntini māgamā’’ti.

    ตสฺสโตฺถ – กตสฺส เจว ปุคฺคลสฺส, โย จ กตฺตา ตสฺส เมตฺติ สนฺธียเต ปุน, สา ปน ธีรานํ, โน จ พาลานํฯ ธีรานญฺหิ เมตฺติ ภินฺนาปิ ปุน ฆฎียติ, พาลานํ ปน สกิํ ภินฺนา ภินฺนาว โหติ, ตสฺมา วส กุนฺตินิ มาคมาติฯ

    Tassattho – katassa ceva puggalassa, yo ca kattā tassa metti sandhīyate puna, sā pana dhīrānaṃ, no ca bālānaṃ. Dhīrānañhi metti bhinnāpi puna ghaṭīyati, bālānaṃ pana sakiṃ bhinnā bhinnāva hoti, tasmā vasa kuntini māgamāti.

    สกุณิกา ‘‘เอวํ สเนฺตปิ น สกฺกา มยา อิธ วสิตุํ สามี’’ติ ราชานํ วนฺทิตฺวา อุปฺปติตฺวา หิมวนฺตเมว คตาฯ

    Sakuṇikā ‘‘evaṃ santepi na sakkā mayā idha vasituṃ sāmī’’ti rājānaṃ vanditvā uppatitvā himavantameva gatā.

    สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา กุนฺตินีเยว เอตรหิ กุนฺตินี อโหสิ, พาราณสิราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ

    Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā kuntinīyeva etarahi kuntinī ahosi, bārāṇasirājā pana ahameva ahosi’’nti.

    กุนฺตินีชาตกวณฺณนา ตติยาฯ

    Kuntinījātakavaṇṇanā tatiyā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๓๔๓. กุนฺตินีชาตกํ • 343. Kuntinījātakaṃ


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact