Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
๓. กุรุงฺควโคฺค
3. Kuruṅgavaggo
[๒๑] ๑. กุรุงฺคมิคชาตกวณฺณนา
[21] 1. Kuruṅgamigajātakavaṇṇanā
ญาตเมตํ กุรุงฺคสฺสาติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรโนฺต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ เอกสฺมิญฺหิ สมเย ธมฺมสภายํ สนฺนิปติตา ภิกฺขู ‘‘อาวุโส เทวทโตฺต ตถาคตสฺส ฆาตนตฺถาย ธนุคฺคเห ปโยเชสิ, สิลํ ปวิชฺฌิ, ธนปาลํ วิสฺสเชฺชสิ, สพฺพถาปิ ทสพลสฺส วธาย ปริสกฺกตี’’ติ เทวทตฺตสฺส อวณฺณํ กเถนฺตา นิสีทิํสุฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ปญฺญตฺตาสเน นิสิโนฺน ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิฯ ภเนฺต, เทวทโตฺต ตุมฺหากํ วธาย ปริสกฺกตีติ ตสฺส อคุณกถาย สนฺนิสินฺนามฺหาติฯ สตฺถา ‘‘น, ภิกฺขเว, เทวทโตฺต อิทาเนว มม วธาย ปริสกฺกติ, ปุเพฺพปิ มม วธาย ปริสกฺกิเยว, น จ ปน มํ วธิตุํ อสกฺขี’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Ñātametaṃkuruṅgassāti idaṃ satthā veḷuvane viharanto devadattaṃ ārabbha kathesi. Ekasmiñhi samaye dhammasabhāyaṃ sannipatitā bhikkhū ‘‘āvuso devadatto tathāgatassa ghātanatthāya dhanuggahe payojesi, silaṃ pavijjhi, dhanapālaṃ vissajjesi, sabbathāpi dasabalassa vadhāya parisakkatī’’ti devadattassa avaṇṇaṃ kathentā nisīdiṃsu. Satthā āgantvā paññattāsane nisinno ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchi. Bhante, devadatto tumhākaṃ vadhāya parisakkatīti tassa aguṇakathāya sannisinnāmhāti. Satthā ‘‘na, bhikkhave, devadatto idāneva mama vadhāya parisakkati, pubbepi mama vadhāya parisakkiyeva, na ca pana maṃ vadhituṃ asakkhī’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กุรุงฺคมิโค หุตฺวา เอกสฺมิํ อรญฺญายตเน ผลานิ ขาทโนฺต วสติฯ โส เอกสฺมิํ กาเล ผลสมฺปเนฺน เสปณฺณิรุเกฺข เสปณฺณิผลานิ ขาทติฯ อเถโก คามวาสี อฎฺฎกลุทฺทโก ผลรุกฺขมูเลสุ มิคานํ ปทานิ อุปธาเรตฺวา อุปริรุเกฺข อฎฺฎกํ พนฺธิตฺวา ตตฺถ นิสีทิตฺวา ผลานิ ขาทิตุํ อาคตาคเต มิเค สตฺติยา วิชฺฌิตฺวา เตสํ มํสํ วิกฺกิณโนฺต ชีวิกํ กเปฺปติฯ โส เอกทิวสํ ตสฺมิํ รุกฺขมูเล โพธิสตฺตสฺส ปทวฬญฺชํ ทิสฺวา ตสฺมิํ เสปณฺณิรุเกฺข อฎฺฎกํ พนฺธิตฺวา ปาโตว ภุญฺชิตฺวา สตฺติํ อาทาย วนํ ปวิสิตฺวา ตํ รุกฺขํ อารุหิตฺวา อฎฺฎเก นิสีทิฯ โพธิสโตฺตปิ ปาโตว วสนฎฺฐานา นิกฺขมิตฺวา ‘‘เสปณฺณิผลานิ ขาทิสฺสามี’’ติ อาคมฺม ตํ รุกฺขมูลํ สหสาว อปวิสิตฺวา ‘‘กทาจิ อฎฺฎกลุทฺทกา รุเกฺขสุ อฎฺฎกํ พนฺธนฺติ, อตฺถิ นุ โข เอวรูโป อุปทฺทโว’’ติ ปริคฺคณฺหโนฺต พาหิรโตว อฎฺฐาสิฯ
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kuruṅgamigo hutvā ekasmiṃ araññāyatane phalāni khādanto vasati. So ekasmiṃ kāle phalasampanne sepaṇṇirukkhe sepaṇṇiphalāni khādati. Atheko gāmavāsī aṭṭakaluddako phalarukkhamūlesu migānaṃ padāni upadhāretvā uparirukkhe aṭṭakaṃ bandhitvā tattha nisīditvā phalāni khādituṃ āgatāgate mige sattiyā vijjhitvā tesaṃ maṃsaṃ vikkiṇanto jīvikaṃ kappeti. So ekadivasaṃ tasmiṃ rukkhamūle bodhisattassa padavaḷañjaṃ disvā tasmiṃ sepaṇṇirukkhe aṭṭakaṃ bandhitvā pātova bhuñjitvā sattiṃ ādāya vanaṃ pavisitvā taṃ rukkhaṃ āruhitvā aṭṭake nisīdi. Bodhisattopi pātova vasanaṭṭhānā nikkhamitvā ‘‘sepaṇṇiphalāni khādissāmī’’ti āgamma taṃ rukkhamūlaṃ sahasāva apavisitvā ‘‘kadāci aṭṭakaluddakā rukkhesu aṭṭakaṃ bandhanti, atthi nu kho evarūpo upaddavo’’ti pariggaṇhanto bāhiratova aṭṭhāsi.
ลุทฺทโกปิ โพธิสตฺตสฺส อนาคมนภาวํ ญตฺวา อฎฺฎเก นิสิโนฺนว เสปณฺณิผลานิ ขิปิตฺวา ขิปิตฺวา ตสฺส ปุรโต ปาเตสิฯ โพธิสโตฺต ‘‘อิมานิ ผลานิ อาคนฺตฺวา มยฺหํ ปุรโต ปตนฺติ, อตฺถิ นุ โข อุปริ ลุทฺทโก’’ติ ปุนปฺปุนํ อุโลฺลเกโนฺต ลุทฺทกํ ทิสฺวา อปสฺสโนฺต วิย หุตฺวา ‘‘อโมฺภ, รุกฺข-ปุเพฺพ ตฺวํ โอลมฺพกํ จาเรโนฺต วิย อุชุกเมว ผลานิ ปาเตสิ, อชฺช ปน เต รุกฺขธโมฺม ปริจฺจโตฺต, เอวํ ตยา รุกฺขธเมฺม ปริจฺจเตฺต อหมฺปิ อญฺญํ รุกฺขมูลํ อุปสงฺกมิตฺวา มยฺหํ อาหารํ ปริเยสิสฺสามี’’ติ วตฺวา อิมํ คาถมาห –
Luddakopi bodhisattassa anāgamanabhāvaṃ ñatvā aṭṭake nisinnova sepaṇṇiphalāni khipitvā khipitvā tassa purato pātesi. Bodhisatto ‘‘imāni phalāni āgantvā mayhaṃ purato patanti, atthi nu kho upari luddako’’ti punappunaṃ ullokento luddakaṃ disvā apassanto viya hutvā ‘‘ambho, rukkha-pubbe tvaṃ olambakaṃ cārento viya ujukameva phalāni pātesi, ajja pana te rukkhadhammo pariccatto, evaṃ tayā rukkhadhamme pariccatte ahampi aññaṃ rukkhamūlaṃ upasaṅkamitvā mayhaṃ āhāraṃ pariyesissāmī’’ti vatvā imaṃ gāthamāha –
๒๑.
21.
‘‘ญาตเมตํ กุรุงฺคสฺส, ยํ ตฺวํ เสปณฺณิ เสยฺยสิ;
‘‘Ñātametaṃ kuruṅgassa, yaṃ tvaṃ sepaṇṇi seyyasi;
อญฺญํ เสปณฺณิ คจฺฉามิ, น เม เต รุจฺจเต ผล’’นฺติฯ
Aññaṃ sepaṇṇi gacchāmi, na me te ruccate phala’’nti.
ตตฺถ ญาตนฺติ ปากฎํ ชาตํฯ เอตนฺติ อิทํฯ กุรุงฺคสฺสาติ กุรุงฺคมิคสฺสฯ ยํ ตฺวํ เสปณฺณิ เสยฺยสีติ ยํ ตฺวํ อโมฺภ เสปณฺณิรุกฺข ปุรโต ผลานิ ปาตยมาโน เสยฺยสิ วิเสยฺยสิ วิสิณฺณผโล โหสิ, ตํ สพฺพํ กุรุงฺคมิคสฺส ปากฎํ ชาตํฯ น เม เต รุจฺจเต ผลนฺติ เอวํ ผลํ ททมานาย น เม ตว ผลํ รุจฺจติ, ติฎฺฐ ตฺวํ, อหํ อญฺญตฺถ คจฺฉิสฺสามีติ อคมาสิฯ
Tattha ñātanti pākaṭaṃ jātaṃ. Etanti idaṃ. Kuruṅgassāti kuruṅgamigassa. Yaṃ tvaṃ sepaṇṇi seyyasīti yaṃ tvaṃ ambho sepaṇṇirukkha purato phalāni pātayamāno seyyasi viseyyasi visiṇṇaphalo hosi, taṃ sabbaṃ kuruṅgamigassa pākaṭaṃ jātaṃ. Na me te ruccate phalanti evaṃ phalaṃ dadamānāya na me tava phalaṃ ruccati, tiṭṭha tvaṃ, ahaṃ aññattha gacchissāmīti agamāsi.
อถสฺส ลุทฺทโก อฎฺฎเก นิสิโนฺนว สตฺติํ ขิปิตฺวา ‘‘คจฺฉ, วิรโทฺธ ทานิมฺหิ ต’’นฺติ อาหฯ โพธิสโตฺต นิวตฺติตฺวา ฐิโต อาห ‘‘อโมฺภ ปุริส, อิทานีสิ กิญฺจาปิ มํ วิรโทฺธ, อฎฺฐ ปน มหานิรเย โสฬสอุสฺสทนิรเย ปญฺจวิธพนฺธนาทีนิ จ กมฺมการณานิ อวิรโทฺธเยวาสี’’ติฯ เอวญฺจ ปน วตฺวา ปลายิตฺวา ยถารุจิํ คโต, ลุโทฺทปิ โอตริตฺวา ยถารุจิํ คโตฯ
Athassa luddako aṭṭake nisinnova sattiṃ khipitvā ‘‘gaccha, viraddho dānimhi ta’’nti āha. Bodhisatto nivattitvā ṭhito āha ‘‘ambho purisa, idānīsi kiñcāpi maṃ viraddho, aṭṭha pana mahāniraye soḷasaussadaniraye pañcavidhabandhanādīni ca kammakāraṇāni aviraddhoyevāsī’’ti. Evañca pana vatvā palāyitvā yathāruciṃ gato, luddopi otaritvā yathāruciṃ gato.
สตฺถาปิ ‘‘น, ภิกฺขเว, เทวทโตฺต อิทาเนว มม วธาย ปริสกฺกติ, ปุเพฺพปิ ปริสกฺกิเยว, น จ ปน มํ วธิตุํ อสกฺขี’’ติ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา อฎฺฎกลุทฺทโก เทวทโตฺต อโหสิ, กุรุงฺคมิโค ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthāpi ‘‘na, bhikkhave, devadatto idāneva mama vadhāya parisakkati, pubbepi parisakkiyeva, na ca pana maṃ vadhituṃ asakkhī’’ti imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā anusandhiṃ ghaṭetvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā aṭṭakaluddako devadatto ahosi, kuruṅgamigo pana ahameva ahosi’’nti.
กุรุงฺคมิคชาตกวณฺณนา ปฐมาฯ
Kuruṅgamigajātakavaṇṇanā paṭhamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๑. กุรุงฺคมิคชาตกํ • 21. Kuruṅgamigajātakaṃ