Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๒๐๖] ๖. กุรุงฺคมิคชาตกวณฺณนา
[206] 6. Kuruṅgamigajātakavaṇṇanā
อิงฺฆ วฎฺฎมยํ ปาสนฺติ อิทํ สตฺถา เวฬุวเน วิหรโนฺต เทวทตฺตํ อารพฺภ กเถสิฯ ตทา หิ สตฺถา ‘‘เทวทโตฺต วธาย ปริสกฺกตี’’ติ สุตฺวา ‘‘น, ภิกฺขเว, เทวทโตฺต อิทาเนว มยฺหํ วธาย ปริสกฺกติ, ปุเพฺพปิ ปริสกฺกิเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Iṅgha vaṭṭamayaṃ pāsanti idaṃ satthā veḷuvane viharanto devadattaṃ ārabbha kathesi. Tadā hi satthā ‘‘devadatto vadhāya parisakkatī’’ti sutvā ‘‘na, bhikkhave, devadatto idāneva mayhaṃ vadhāya parisakkati, pubbepi parisakkiyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กุรุงฺคมิโค หุตฺวา อรเญฺญ เอกสฺส สรสฺส อวิทูเร เอกสฺมิํ คุเมฺพ วาสํ กเปฺปสิฯ ตเสฺสว สรสฺส อวิทูเร เอกสฺมิํ รุกฺขเคฺค สตปโตฺต, สรสฺมิํ ปน กจฺฉโป วาสํ กเปฺปสิฯ เอวํ เต ตโยปิ สหายกา อญฺญมญฺญํ ปิยสํวาสํ วสิํสุฯ อเถโก มิคลุทฺทโก อรเญฺญ จรโนฺต ปานียติเตฺถ โพธิสตฺตสฺส ปทวลญฺชํ ทิสฺวา โลหนิคฬสทิสํ วฎฺฎมยํ ปาสํ โอเฑฺฑตฺวา อคมาสิฯ โพธิสโตฺต ปานียํ ปาตุํ อาคโต ปฐมยาเมเยว ปาเส พชฺฌิตฺวา พทฺธรวํ รวิฯ ตสฺส เตน สเทฺทน รุกฺขคฺคโต สตปโตฺต อุทกโต จ กจฺฉโป อาคนฺตฺวา ‘‘กิํ นุ โข กาตพฺพ’’นฺติ มนฺตยิํสุฯ อถ สตปโตฺต กจฺฉปํ อามเนฺตตฺวา ‘‘สมฺม, ตว ทนฺตา อตฺถิ, ตฺวํ อิมํ ปาสํ ฉินฺท, อหํ คนฺตฺวา ยถา โส นาคจฺฉติ, ตถา กริสฺสามิ, เอวํ อเมฺหหิ ทฺวีหิปิ กตปรกฺกเมน สหาโย โน ชีวิตํ ลภิสฺสตี’’ติ อิมมตฺถํ ปกาเสโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kuruṅgamigo hutvā araññe ekassa sarassa avidūre ekasmiṃ gumbe vāsaṃ kappesi. Tasseva sarassa avidūre ekasmiṃ rukkhagge satapatto, sarasmiṃ pana kacchapo vāsaṃ kappesi. Evaṃ te tayopi sahāyakā aññamaññaṃ piyasaṃvāsaṃ vasiṃsu. Atheko migaluddako araññe caranto pānīyatitthe bodhisattassa padavalañjaṃ disvā lohanigaḷasadisaṃ vaṭṭamayaṃ pāsaṃ oḍḍetvā agamāsi. Bodhisatto pānīyaṃ pātuṃ āgato paṭhamayāmeyeva pāse bajjhitvā baddharavaṃ ravi. Tassa tena saddena rukkhaggato satapatto udakato ca kacchapo āgantvā ‘‘kiṃ nu kho kātabba’’nti mantayiṃsu. Atha satapatto kacchapaṃ āmantetvā ‘‘samma, tava dantā atthi, tvaṃ imaṃ pāsaṃ chinda, ahaṃ gantvā yathā so nāgacchati, tathā karissāmi, evaṃ amhehi dvīhipi kataparakkamena sahāyo no jīvitaṃ labhissatī’’ti imamatthaṃ pakāsento paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๑๑.
111.
‘‘อิงฺฆ วฎฺฎมยํ ปาสํ, ฉินฺท ทเนฺตหิ กจฺฉป;
‘‘Iṅgha vaṭṭamayaṃ pāsaṃ, chinda dantehi kacchapa;
อหํ ตถา กริสฺสามิ, ยถา เนหิติ ลุทฺทโก’’ติฯ
Ahaṃ tathā karissāmi, yathā nehiti luddako’’ti.
อถ กจฺฉโป จมฺมวรตฺตํ ขาทิตุํ อารภิ, สตปโตฺต ลุทฺทกสฺส วสนคามํ คโต อวิทูเร รุเกฺข นิสีทิฯ ลุทฺทโก ปจฺจูสกาเลเยว สตฺติํ คเหตฺวา นิกฺขมิฯ สกุโณ ตสฺส นิกฺขมนภาวํ ญตฺวา วสฺสิตฺวา ปเกฺข ปโปฺผเฎตฺวา ตํ ปุริมทฺวาเรน นิกฺขมนฺตํ มุเข ปหริฯ ลุโทฺท ‘‘กาฬกณฺณินา สกุเณนมฺหิ ปหโฎ’’ติ นิวตฺติตฺวา โถกํ สยิตฺวา ปุน สตฺติํ คเหตฺวา อุฎฺฐาสิฯ สกุโณ ‘‘อยํ ปฐมํ ปุริมทฺวาเรน นิกฺขโนฺต อิทานิ ปจฺฉิมทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสตี’’ติ ญตฺวา คนฺตฺวา ปจฺฉิมเคเห นิสีทิฯ ลุโทฺทปิ ‘‘ปุริมทฺวาเรน เม นิกฺขเนฺตน กาฬกณฺณี สกุโณ ทิโฎฺฐ, อิทานิ ปจฺฉิมทฺวาเรน นิกฺขมิสฺสามี’’ติ ปจฺฉิมทฺวาเรน นิกฺขมิ, สกุโณ ปุน วสฺสิตฺวา คนฺตฺวา มุเข ปหริฯ ลุโทฺท ‘‘ปุนปิ กาฬกณฺณีสกุเณน ปหโฎ, น ทานิ เม เอส นิกฺขมิตุํ เทตี’’ติ นิวตฺติตฺวา ยาว อรุณุคฺคมนา สยิตฺวา อรุณุคฺคมนเวลาย สตฺติํ คเหตฺวา นิกฺขมิฯ สกุโณ เวเคน คนฺตฺวา ‘‘ลุโทฺท อาคจฺฉตี’’ติ โพธิสตฺตสฺส กเถสิฯ
Atha kacchapo cammavarattaṃ khādituṃ ārabhi, satapatto luddakassa vasanagāmaṃ gato avidūre rukkhe nisīdi. Luddako paccūsakāleyeva sattiṃ gahetvā nikkhami. Sakuṇo tassa nikkhamanabhāvaṃ ñatvā vassitvā pakkhe papphoṭetvā taṃ purimadvārena nikkhamantaṃ mukhe pahari. Luddo ‘‘kāḷakaṇṇinā sakuṇenamhi pahaṭo’’ti nivattitvā thokaṃ sayitvā puna sattiṃ gahetvā uṭṭhāsi. Sakuṇo ‘‘ayaṃ paṭhamaṃ purimadvārena nikkhanto idāni pacchimadvārena nikkhamissatī’’ti ñatvā gantvā pacchimagehe nisīdi. Luddopi ‘‘purimadvārena me nikkhantena kāḷakaṇṇī sakuṇo diṭṭho, idāni pacchimadvārena nikkhamissāmī’’ti pacchimadvārena nikkhami, sakuṇo puna vassitvā gantvā mukhe pahari. Luddo ‘‘punapi kāḷakaṇṇīsakuṇena pahaṭo, na dāni me esa nikkhamituṃ detī’’ti nivattitvā yāva aruṇuggamanā sayitvā aruṇuggamanavelāya sattiṃ gahetvā nikkhami. Sakuṇo vegena gantvā ‘‘luddo āgacchatī’’ti bodhisattassa kathesi.
ตสฺมิํ ขเณ กจฺฉเปน เอกเมว จมฺมวทฺธํ ฐเปตฺวา เสสวรตฺตา ขาทิตา โหนฺติฯ ทนฺตา ปนสฺส ปตนาการปฺปตฺตา ชาตา, มุขโต โลหิตํ ปคฺฆรติฯ โพธิสโตฺต ลุทฺทปุตฺตํ สตฺติํ คเหตฺวา อสนิเวเคน อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ตํ วทฺธํ ฉินฺทิตฺวา วนํ ปาวิสิ, สกุโณ รุกฺขเคฺค นิสีทิ, กจฺฉโป ปน ทุพฺพลตฺตา ตเตฺถว นิปชฺชิฯ ลุโทฺท กจฺฉปํ คเหตฺวา ปสิพฺพเก ปกฺขิปิตฺวา เอกสฺมิํ ขาณุเก ลเคฺคสิฯ โพธิสโตฺต นิวตฺติตฺวา โอโลเกโนฺต กจฺฉปสฺส คหิตภาวํ ญตฺวา ‘‘สหายสฺส ชีวิตทานํ ทสฺสามี’’ติ ทุพฺพโล วิย หุตฺวา ลุทฺทสฺส อตฺตานํ ทเสฺสสิฯ โส ‘‘ทุพฺพโล เอส ภวิสฺสติ, มาเรสฺสามิ น’’นฺติ สตฺติํ อาทาย อนุพนฺธิฯ โพธิสโตฺต นาติทูเร นาจฺจาสเนฺน คจฺฉโนฺต ตํ อาทาย อรญฺญํ ปาวิสิ, ทูรํ คตภาวํ ญตฺวา ปทํ วเญฺจตฺวา อเญฺญน มเคฺคน วาตเวเคน คนฺตฺวา สิเงฺคน ปสิพฺพกํ อุกฺขิปิตฺวา ภูมิยํ ปาเตตฺวา ผาเลตฺวา กจฺฉปํ นีหริฯ สตปโตฺตปิ รุกฺขา โอตริฯ โพธิสโตฺต ทฺวินฺนมฺปิ โอวาทํ ททมาโน ‘‘อหํ ตุเมฺห นิสฺสาย ชีวิตํ ลภิํ, ตุเมฺหหิ สหายกสฺส กตฺตพฺพํ มยฺหํ กตํ, อิทานิ ลุโทฺท อาคนฺตฺวา ตุเมฺห คเณฺหยฺย, ตสฺมา, สมฺม สตปตฺต, ตฺวํ อตฺตโน ปุตฺตเก คเหตฺวา อญฺญตฺถ ยาหิ, ตฺวมฺปิ, สมฺม กจฺฉป, อุทกํ ปวิสาหี’’ติ อาหฯ เต ตถา อกํสุฯ
Tasmiṃ khaṇe kacchapena ekameva cammavaddhaṃ ṭhapetvā sesavarattā khāditā honti. Dantā panassa patanākārappattā jātā, mukhato lohitaṃ paggharati. Bodhisatto luddaputtaṃ sattiṃ gahetvā asanivegena āgacchantaṃ disvā taṃ vaddhaṃ chinditvā vanaṃ pāvisi, sakuṇo rukkhagge nisīdi, kacchapo pana dubbalattā tattheva nipajji. Luddo kacchapaṃ gahetvā pasibbake pakkhipitvā ekasmiṃ khāṇuke laggesi. Bodhisatto nivattitvā olokento kacchapassa gahitabhāvaṃ ñatvā ‘‘sahāyassa jīvitadānaṃ dassāmī’’ti dubbalo viya hutvā luddassa attānaṃ dassesi. So ‘‘dubbalo esa bhavissati, māressāmi na’’nti sattiṃ ādāya anubandhi. Bodhisatto nātidūre nāccāsanne gacchanto taṃ ādāya araññaṃ pāvisi, dūraṃ gatabhāvaṃ ñatvā padaṃ vañcetvā aññena maggena vātavegena gantvā siṅgena pasibbakaṃ ukkhipitvā bhūmiyaṃ pātetvā phāletvā kacchapaṃ nīhari. Satapattopi rukkhā otari. Bodhisatto dvinnampi ovādaṃ dadamāno ‘‘ahaṃ tumhe nissāya jīvitaṃ labhiṃ, tumhehi sahāyakassa kattabbaṃ mayhaṃ kataṃ, idāni luddo āgantvā tumhe gaṇheyya, tasmā, samma satapatta, tvaṃ attano puttake gahetvā aññattha yāhi, tvampi, samma kacchapa, udakaṃ pavisāhī’’ti āha. Te tathā akaṃsu.
สตฺถา อภิสมฺพุโทฺธ หุตฺวา ทุติยํ คาถมาห –
Satthā abhisambuddho hutvā dutiyaṃ gāthamāha –
๑๑๒.
112.
‘‘กจฺฉโป ปาวิสี วาริํ, กุรุโงฺค ปาวิสี วนํ;
‘‘Kacchapo pāvisī vāriṃ, kuruṅgo pāvisī vanaṃ;
สตปโตฺต ทุมคฺคมฺหา, ทูเร ปุเตฺต อปานยี’’ติฯ
Satapatto dumaggamhā, dūre putte apānayī’’ti.
ตตฺถ อปานยีติ อานยิ, คเหตฺวา อคมาสีติ อโตฺถ;
Tattha apānayīti ānayi, gahetvā agamāsīti attho;
ลุโทฺทปิ ตํ ฐานํ อาคนฺตฺวา กญฺจิ อปสฺสิตฺวา ฉินฺนปสิพฺพกํ คเหตฺวา โทมนสฺสปฺปโตฺต อตฺตโน เคหํ อคมาสิฯ เต ตโยปิ สหายา ยาวชีวํ วิสฺสาสํ อจฺฉินฺทิตฺวา ยถากมฺมํ คตาฯ
Luddopi taṃ ṭhānaṃ āgantvā kañci apassitvā chinnapasibbakaṃ gahetvā domanassappatto attano gehaṃ agamāsi. Te tayopi sahāyā yāvajīvaṃ vissāsaṃ acchinditvā yathākammaṃ gatā.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ลุทฺทโก เทวทโตฺต อโหสิ, สตปโตฺต สาริปุโตฺต, กจฺฉโป โมคฺคลฺลาโน, กุรุงฺคมิโค ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā luddako devadatto ahosi, satapatto sāriputto, kacchapo moggallāno, kuruṅgamigo pana ahameva ahosi’’nti.
กุรุงฺคมิคชาตกวณฺณนา ฉฎฺฐาฯ
Kuruṅgamigajātakavaṇṇanā chaṭṭhā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๒๐๖. กุรุงฺคมิคชาตกํ • 206. Kuruṅgamigajātakaṃ