Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
(๑๓) ๓. กุสินารวโคฺค
(13) 3. Kusināravaggo
๑. กุสินารสุตฺตํ
1. Kusinārasuttaṃ
๑๒๔. เอกํ สมยํ ภควา กุสินารายํ วิหรติ พลิหรเณ วนสเณฺฑฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
124. Ekaṃ samayaṃ bhagavā kusinārāyaṃ viharati baliharaṇe vanasaṇḍe. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อญฺญตรํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติฯ ตเมนํ คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา อุปสงฺกมิตฺวา สฺวาตนาย ภเตฺตน นิมเนฺตติ ฯ อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิวาเสติฯ โส ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตสฺส คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา นิเวสนํ เตนุปสงฺกมติ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทติฯ ตเมนํ โส คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปติ สมฺปวาเรติฯ
‘‘Idha, bhikkhave, bhikkhu aññataraṃ gāmaṃ vā nigamaṃ vā upanissāya viharati. Tamenaṃ gahapati vā gahapatiputto vā upasaṅkamitvā svātanāya bhattena nimanteti . Ākaṅkhamāno, bhikkhave, bhikkhu adhivāseti. So tassā rattiyā accayena pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena tassa gahapatissa vā gahapatiputtassa vā nivesanaṃ tenupasaṅkamati; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdati. Tamenaṃ so gahapati vā gahapatiputto vā paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappeti sampavāreti.
‘‘ตสฺส เอวํ โหติ – ‘สาธุ วต มฺยายํ คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปติ สมฺปวาเรตี’ติฯ เอวมฺปิสฺส โหติ – ‘อโห วต มายํ คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา อายติมฺปิ เอวรูเปน ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปยฺย สมฺปวาเรยฺยา’ติ! โส ตํ ปิณฺฑปาตํ คถิโต 1 มุจฺฉิโต อโชฺฌสโนฺน 2 อนาทีนวทสฺสาวี อนิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติฯ โส ตตฺถ กามวิตกฺกมฺปิ วิตเกฺกติ, พฺยาปาทวิตกฺกมฺปิ วิตเกฺกติ, วิหิํสาวิตกฺกมฺปิ วิตเกฺกติฯ เอวรูปสฺสาหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทินฺนํ น มหปฺผลนฺติ วทามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ปมโตฺต หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหรติฯ
‘‘Tassa evaṃ hoti – ‘sādhu vata myāyaṃ gahapati vā gahapatiputto vā paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappeti sampavāretī’ti. Evampissa hoti – ‘aho vata māyaṃ gahapati vā gahapatiputto vā āyatimpi evarūpena paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappeyya sampavāreyyā’ti! So taṃ piṇḍapātaṃ gathito 3 mucchito ajjhosanno 4 anādīnavadassāvī anissaraṇapañño paribhuñjati. So tattha kāmavitakkampi vitakketi, byāpādavitakkampi vitakketi, vihiṃsāvitakkampi vitakketi. Evarūpassāhaṃ, bhikkhave, bhikkhuno dinnaṃ na mahapphalanti vadāmi. Taṃ kissa hetu? Pamatto hi, bhikkhave, bhikkhu viharati.
‘‘อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อญฺญตรํ คามํ วา นิคมํ วา อุปนิสฺสาย วิหรติฯ ตเมนํ คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา อุปสงฺกมิตฺวา สฺวาตนาย ภเตฺตน นิมเนฺตติฯ อากงฺขมาโน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อธิวาเสติฯ โส ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน ตสฺส คหปติสฺส วา คหปติปุตฺตสฺส วา นิเวสนํ เตนุปสงฺกมติ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทติฯ ตเมนํ โส คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปติ สมฺปวาเรติฯ
‘‘Idha pana, bhikkhave, bhikkhu aññataraṃ gāmaṃ vā nigamaṃ vā upanissāya viharati. Tamenaṃ gahapati vā gahapatiputto vā upasaṅkamitvā svātanāya bhattena nimanteti. Ākaṅkhamāno, bhikkhave, bhikkhu adhivāseti. So tassā rattiyā accayena pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena tassa gahapatissa vā gahapatiputtassa vā nivesanaṃ tenupasaṅkamati; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdati. Tamenaṃ so gahapati vā gahapatiputto vā paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappeti sampavāreti.
‘‘ตสฺส น เอวํ โหติ – ‘สาธุ วต มฺยายํ คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปติ สมฺปวาเรตี’ติฯ เอวมฺปิสฺส น โหติ – ‘อโห วต มายํ คหปติ วา คหปติปุโตฺต วา อายติมฺปิ เอวรูเปน ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปยฺย สมฺปวาเรยฺยา’ติ! โส ตํ ปิณฺฑปาตํ อคถิโต อมุจฺฉิโต อนโชฺฌสโนฺน อาทีนวทสฺสาวี นิสฺสรณปโญฺญ ปริภุญฺชติฯ โส ตตฺถ เนกฺขมฺมวิตกฺกมฺปิ วิตเกฺกติ, อพฺยาปาทวิตกฺกมฺปิ วิตเกฺกติ, อวิหิํสาวิตกฺกมฺปิ วิตเกฺกติฯ เอวรูปสฺสาหํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน ทินฺนํ มหปฺผลนฺติ วทามิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? อปฺปมโตฺต หิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิหรตี’’ติฯ ปฐมํฯ
‘‘Tassa na evaṃ hoti – ‘sādhu vata myāyaṃ gahapati vā gahapatiputto vā paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappeti sampavāretī’ti. Evampissa na hoti – ‘aho vata māyaṃ gahapati vā gahapatiputto vā āyatimpi evarūpena paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappeyya sampavāreyyā’ti! So taṃ piṇḍapātaṃ agathito amucchito anajjhosanno ādīnavadassāvī nissaraṇapañño paribhuñjati. So tattha nekkhammavitakkampi vitakketi, abyāpādavitakkampi vitakketi, avihiṃsāvitakkampi vitakketi. Evarūpassāhaṃ, bhikkhave, bhikkhuno dinnaṃ mahapphalanti vadāmi. Taṃ kissa hetu? Appamatto hi, bhikkhave, bhikkhu viharatī’’ti. Paṭhamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๑. กุสินารสุตฺตวณฺณนา • 1. Kusinārasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๑-๒. กุสินารสุตฺตาทิวณฺณนา • 1-2. Kusinārasuttādivaṇṇanā