Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ทีฆนิกาย • Dīghanikāya |
๕. กูฎทนฺตสุตฺตํ
5. Kūṭadantasuttaṃ
ขาณุมตกพฺราหฺมณคหปติกา
Khāṇumatakabrāhmaṇagahapatikā
๓๒๓. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ เยน ขาณุมตํ นาม มคธานํ พฺราหฺมณคาโม ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฎฺฐิกายํฯ เตน โข ปน สมเยน กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ขาณุมตํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกโฎฺฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํฯ เตน โข ปน สมเยน กูฎทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส มหายโญฺญ อุปกฺขโฎ โหติฯ สตฺต จ อุสภสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรีสตานิ สตฺต จ อชสตานิ สตฺต จ อุรพฺภสตานิ ถูณูปนีตานิ โหนฺติ ยญฺญตฺถายฯ
323. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā magadhesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi yena khāṇumataṃ nāma magadhānaṃ brāhmaṇagāmo tadavasari. Tatra sudaṃ bhagavā khāṇumate viharati ambalaṭṭhikāyaṃ. Tena kho pana samayena kūṭadanto brāhmaṇo khāṇumataṃ ajjhāvasati sattussadaṃ satiṇakaṭṭhodakaṃ sadhaññaṃ rājabhoggaṃ raññā māgadhena seniyena bimbisārena dinnaṃ rājadāyaṃ brahmadeyyaṃ. Tena kho pana samayena kūṭadantassa brāhmaṇassa mahāyañño upakkhaṭo hoti. Satta ca usabhasatāni satta ca vacchatarasatāni satta ca vacchatarīsatāni satta ca ajasatāni satta ca urabbhasatāni thūṇūpanītāni honti yaññatthāya.
๓๒๔. อโสฺสสุํ โข ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา – ‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สกฺยปุโตฺต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ ขาณุมตํ อนุปฺปโตฺต ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฎฺฐิกายํฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติ ฯ โส อิมํ โลกํ สเทวกํ สมารกํ สพฺรหฺมกํ สสฺสมณพฺราหฺมณิํ ปชํ สเทวมนุสฺสํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทติฯ โส ธมฺมํ เทเสติ อาทิกลฺยาณํ มเชฺฌกลฺยาณํ ปริโยสานกลฺยาณํ สาตฺถํ สพฺยญฺชนํ เกวลปริปุณฺณํ ปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ ปกาเสติฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี’’ติฯ
324. Assosuṃ kho khāṇumatakā brāhmaṇagahapatikā – ‘‘samaṇo khalu, bho, gotamo sakyaputto sakyakulā pabbajito magadhesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi khāṇumataṃ anuppatto khāṇumate viharati ambalaṭṭhikāyaṃ. Taṃ kho pana bhavantaṃ gotamaṃ evaṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggato – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti . So imaṃ lokaṃ sadevakaṃ samārakaṃ sabrahmakaṃ sassamaṇabrāhmaṇiṃ pajaṃ sadevamanussaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedeti. So dhammaṃ deseti ādikalyāṇaṃ majjhekalyāṇaṃ pariyosānakalyāṇaṃ sātthaṃ sabyañjanaṃ kevalaparipuṇṇaṃ parisuddhaṃ brahmacariyaṃ pakāseti. Sādhu kho pana tathārūpānaṃ arahataṃ dassanaṃ hotī’’ti.
๓๒๕. อถ โข ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา ขาณุมตา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน อมฺพลฎฺฐิกา เตนุปสงฺกมนฺติฯ
325. Atha kho khāṇumatakā brāhmaṇagahapatikā khāṇumatā nikkhamitvā saṅghasaṅghī gaṇībhūtā yena ambalaṭṭhikā tenupasaṅkamanti.
๓๒๖. เตน โข ปน สมเยน กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ อุปริปาสาเท ทิวาเสยฺยํ อุปคโต โหติฯ อทฺทสา โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ขาณุมตเก พฺราหฺมณคหปติเก ขาณุมตา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูเต เยน อมฺพลฎฺฐิกา เตนุปสงฺกมเนฺตฯ ทิสฺวา ขตฺตํ อามเนฺตสิ – ‘‘กิํ นุ โข, โภ ขเตฺต, ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา ขาณุมตา นิกฺขมิตฺวา สงฺฆสงฺฆี คณีภูตา เยน อมฺพลฎฺฐิกา เตนุปสงฺกมนฺตี’’ติ?
326. Tena kho pana samayena kūṭadanto brāhmaṇo uparipāsāde divāseyyaṃ upagato hoti. Addasā kho kūṭadanto brāhmaṇo khāṇumatake brāhmaṇagahapatike khāṇumatā nikkhamitvā saṅghasaṅghī gaṇībhūte yena ambalaṭṭhikā tenupasaṅkamante. Disvā khattaṃ āmantesi – ‘‘kiṃ nu kho, bho khatte, khāṇumatakā brāhmaṇagahapatikā khāṇumatā nikkhamitvā saṅghasaṅghī gaṇībhūtā yena ambalaṭṭhikā tenupasaṅkamantī’’ti?
๓๒๗. ‘‘อตฺถิ โข, โภ, สมโณ โคตโม สกฺยปุโตฺต สกฺยกุลา ปพฺพชิโต มคเธสุ จาริกํ จรมาโน มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํ ปญฺจมเตฺตหิ ภิกฺขุสเตหิ ขาณุมตํ อนุปฺปโตฺต, ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฎฺฐิกายํฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ ตเมเต ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมนฺตี’’ติฯ
327. ‘‘Atthi kho, bho, samaṇo gotamo sakyaputto sakyakulā pabbajito magadhesu cārikaṃ caramāno mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ pañcamattehi bhikkhusatehi khāṇumataṃ anuppatto, khāṇumate viharati ambalaṭṭhikāyaṃ. Taṃ kho pana bhavantaṃ gotamaṃ evaṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggato – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Tamete bhavantaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamantī’’ti.
๓๒๘. อถ โข กูฎทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สุตํ โข ปน เมตํ – ‘สมโณ โคตโม ติวิธํ ยญฺญสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ ชานาตี’ติฯ น โข ปนาหํ ชานามิ ติวิธํ ยญฺญสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํฯ อิจฺฉามิ จาหํ มหายญฺญํ ยชิตุํฯ ยํนูนาหํ สมณํ โคตมํ อุปสงฺกมิตฺวา ติวิธํ ยญฺญสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ ปุเจฺฉยฺย’’นฺติฯ
328. Atha kho kūṭadantassa brāhmaṇassa etadahosi – ‘‘sutaṃ kho pana metaṃ – ‘samaṇo gotamo tividhaṃ yaññasampadaṃ soḷasaparikkhāraṃ jānātī’ti. Na kho panāhaṃ jānāmi tividhaṃ yaññasampadaṃ soḷasaparikkhāraṃ. Icchāmi cāhaṃ mahāyaññaṃ yajituṃ. Yaṃnūnāhaṃ samaṇaṃ gotamaṃ upasaṅkamitvā tividhaṃ yaññasampadaṃ soḷasaparikkhāraṃ puccheyya’’nti.
๓๒๙. อถ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ขตฺตํ อามเนฺตสิ – ‘‘เตน หิ, โภ ขเตฺต, เยน ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมฯ อุปสงฺกมิตฺวา ขาณุมตเก พฺราหฺมณคหปติเก เอวํ วเทหิ – ‘กูฎทโนฺต, โภ, พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘‘อาคเมนฺตุ กิร ภวโนฺต, กูฎทโนฺตปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข โส ขตฺตา กูฎทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เยน ขาณุมตกา พฺราหฺมณคหปติกา เตนุปสงฺกมิฯ อุปสงฺกมิตฺวา ขาณุมตเก พฺราหฺมณคหปติเก เอตทโวจ – ‘‘กูฎทโนฺต, โภ, พฺราหฺมโณ เอวมาห – ‘อาคเมนฺตุ กิร โภโนฺต, กูฎทโนฺตปิ พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’’ติฯ
329. Atha kho kūṭadanto brāhmaṇo khattaṃ āmantesi – ‘‘tena hi, bho khatte, yena khāṇumatakā brāhmaṇagahapatikā tenupasaṅkama. Upasaṅkamitvā khāṇumatake brāhmaṇagahapatike evaṃ vadehi – ‘kūṭadanto, bho, brāhmaṇo evamāha – ‘‘āgamentu kira bhavanto, kūṭadantopi brāhmaṇo samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamissatī’’’ti. ‘‘Evaṃ, bho’’ti kho so khattā kūṭadantassa brāhmaṇassa paṭissutvā yena khāṇumatakā brāhmaṇagahapatikā tenupasaṅkami. Upasaṅkamitvā khāṇumatake brāhmaṇagahapatike etadavoca – ‘‘kūṭadanto, bho, brāhmaṇo evamāha – ‘āgamentu kira bhonto, kūṭadantopi brāhmaṇo samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamissatī’’’ti.
กูฎทนฺตคุณกถา
Kūṭadantaguṇakathā
๓๓๐. เตน โข ปน สมเยน อเนกานิ พฺราหฺมณสตานิ ขาณุมเต ปฎิวสนฺติ – ‘‘กูฎทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส มหายญฺญํ อนุภวิสฺสามา’’ติฯ อโสฺสสุํ โข เต พฺราหฺมณา – ‘‘กูฎทโนฺต กิร พฺราหฺมโณ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติฯ อถ โข เต พฺราหฺมณา เยน กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ เตนุปสงฺกมิํสุฯ
330. Tena kho pana samayena anekāni brāhmaṇasatāni khāṇumate paṭivasanti – ‘‘kūṭadantassa brāhmaṇassa mahāyaññaṃ anubhavissāmā’’ti. Assosuṃ kho te brāhmaṇā – ‘‘kūṭadanto kira brāhmaṇo samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamissatī’’ti. Atha kho te brāhmaṇā yena kūṭadanto brāhmaṇo tenupasaṅkamiṃsu.
๓๓๑. อุปสงฺกมิตฺวา กูฎทนฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘สจฺจํ กิร ภวํ กูฎทโนฺต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสตี’’ติ? ‘‘เอวํ โข เม, โภ, โหติ – ‘อหมฺปิ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามี’’’ติฯ
331. Upasaṅkamitvā kūṭadantaṃ brāhmaṇaṃ etadavocuṃ – ‘‘saccaṃ kira bhavaṃ kūṭadanto samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamissatī’’ti? ‘‘Evaṃ kho me, bho, hoti – ‘ahampi samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamissāmī’’’ti.
‘‘มา ภวํ กูฎทโนฺต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิฯ น อรหติ ภวํ กูฎทโนฺต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สเจ ภวํ กูฎทโนฺต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสติ, โภโต กูฎทนฺตสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติฯ ยมฺปิ โภโต กูฎทนฺตสฺส ยโส หายิสฺสติ, สมณสฺส โคตมสฺส ยโส อภิวฑฺฒิสฺสติ, อิมินาปเงฺคน น อรหติ ภวํ กูฎทโนฺต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สมโณ เตฺวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ กูฎทนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ ฯ
‘‘Mā bhavaṃ kūṭadanto samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkami. Na arahati bhavaṃ kūṭadanto samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Sace bhavaṃ kūṭadanto samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamissati, bhoto kūṭadantassa yaso hāyissati, samaṇassa gotamassa yaso abhivaḍḍhissati. Yampi bhoto kūṭadantassa yaso hāyissati, samaṇassa gotamassa yaso abhivaḍḍhissati, imināpaṅgena na arahati bhavaṃ kūṭadanto samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Samaṇo tveva gotamo arahati bhavantaṃ kūṭadantaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ .
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทนฯ ยมฺปิ ภวํ กูฎทโนฺต อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน, อิมินาปเงฺคน น อรหติ ภวํ กูฎทโนฺต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สมโณ เตฺวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ กูฎทนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ
‘‘Bhavañhi kūṭadanto ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena. Yampi bhavaṃ kūṭadanto ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena, imināpaṅgena na arahati bhavaṃ kūṭadanto samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Samaṇo tveva gotamo arahati bhavantaṃ kūṭadantaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ.
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต อโฑฺฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตชาตรูปรชโต…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto aḍḍho mahaddhano mahābhogo pahūtavittūpakaraṇo pahūtajātarūparajato…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฎุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto ajjhāyako mantadharo tiṇṇaṃ vedānaṃ pāragū sanighaṇḍukeṭubhānaṃ sākkharappabhedānaṃ itihāsapañcamānaṃ padako veyyākaraṇo lokāyatamahāpurisalakkhaṇesu anavayo…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto abhirūpo dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato brahmavaṇṇī brahmavacchasī akhuddāvakāso dassanāya…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto sīlavā vuddhasīlī vuddhasīlena samannāgato…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฎฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto kalyāṇavāco kalyāṇavākkaraṇo poriyā vācāya samannāgato vissaṭṭhāya anelagalāya atthassa viññāpaniyā…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต พหูนํ อาจริยปาจริโย ตีณิ มาณวกสตานิ มเนฺต วาเจติ, พหู โข ปน นานาทิสา นานาชนปทา มาณวกา อาคจฺฉนฺติ โภโต กูฎทนฺตสฺส สนฺติเก มนฺตตฺถิกา มเนฺต อธิยิตุกามา…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto bahūnaṃ ācariyapācariyo tīṇi māṇavakasatāni mante vāceti, bahū kho pana nānādisā nānājanapadā māṇavakā āgacchanti bhoto kūṭadantassa santike mantatthikā mante adhiyitukāmā…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต ชิโณฺณ วุโทฺธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปโตฺตฯ สมโณ โคตโม ตรุโณ เจว ตรุณปพฺพชิโต จ…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto jiṇṇo vuddho mahallako addhagato vayoanuppatto. Samaṇo gotamo taruṇo ceva taruṇapabbajito ca…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa sakkato garukato mānito pūjito apacito…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป.…
‘‘Bhavañhi kūṭadanto brāhmaṇassa pokkharasātissa sakkato garukato mānito pūjito apacito…pe…
‘‘ภวญฺหิ กูฎทโนฺต ขาณุมตํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกโฎฺฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํฯ ยมฺปิ ภวํ กูฎทโนฺต ขาณุมตํ อชฺฌาวสติ สตฺตุสฺสทํ สติณกโฎฺฐทกํ สธญฺญํ ราชโภคฺคํ, รญฺญา มาคเธน เสนิเยน พิมฺพิสาเรน ทินฺนํ ราชทายํ พฺรหฺมเทยฺยํ, อิมินาปเงฺคน น อรหติ ภวํ กูฎทโนฺต สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สมโณเตฺวว โคตโม อรหติ ภวนฺตํ กูฎทนฺตํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุ’’นฺติฯ
‘‘Bhavañhi kūṭadanto khāṇumataṃ ajjhāvasati sattussadaṃ satiṇakaṭṭhodakaṃ sadhaññaṃ rājabhoggaṃ raññā māgadhena seniyena bimbisārena dinnaṃ rājadāyaṃ brahmadeyyaṃ. Yampi bhavaṃ kūṭadanto khāṇumataṃ ajjhāvasati sattussadaṃ satiṇakaṭṭhodakaṃ sadhaññaṃ rājabhoggaṃ, raññā māgadhena seniyena bimbisārena dinnaṃ rājadāyaṃ brahmadeyyaṃ, imināpaṅgena na arahati bhavaṃ kūṭadanto samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Samaṇotveva gotamo arahati bhavantaṃ kūṭadantaṃ dassanāya upasaṅkamitu’’nti.
พุทฺธคุณกถา
Buddhaguṇakathā
๓๓๒. เอวํ วุเตฺต กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ เต พฺราหฺมเณ เอตทโวจ –
332. Evaṃ vutte kūṭadanto brāhmaṇo te brāhmaṇe etadavoca –
‘‘เตน หิ, โภ, มมปิ สุณาถ, ยถา มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ, น เตฺวว อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทนฯ ยมฺปิ, โภ, สมโณ โคตโม อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน, อิมินาปเงฺคน น อรหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ
‘‘Tena hi, bho, mamapi suṇātha, yathā mayameva arahāma taṃ bhavantaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ, na tveva arahati so bhavaṃ gotamo amhākaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Samaṇo khalu, bho, gotamo ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena. Yampi, bho, samaṇo gotamo ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena, imināpaṅgena na arahati so bhavaṃ gotamo amhākaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Atha kho mayameva arahāma taṃ bhavantaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ.
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม มหนฺตํ ญาติสงฺฆํ โอหาย ปพฺพชิโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo mahantaṃ ñātisaṅghaṃ ohāya pabbajito…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ปหูตํ หิรญฺญสุวณฺณํ โอหาย ปพฺพชิโต ภูมิคตญฺจ เวหาสฎฺฐํ จ…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo pahūtaṃ hiraññasuvaṇṇaṃ ohāya pabbajito bhūmigatañca vehāsaṭṭhaṃ ca…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทหโรว สมาโน ยุวา สุสุกาฬเกโส ภเทฺรน โยพฺพเนน สมนฺนาคโต ปฐเมน วยสา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo daharova samāno yuvā susukāḷakeso bhadrena yobbanena samannāgato paṭhamena vayasā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อกามกานํ มาตาปิตูนํ อสฺสุมุขานํ รุทนฺตานํ เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo akāmakānaṃ mātāpitūnaṃ assumukhānaṃ rudantānaṃ kesamassuṃ ohāretvā kāsāyāni vatthāni acchādetvā agārasmā anagāriyaṃ pabbajito…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย …เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo abhirūpo dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato brahmavaṇṇī brahmavacchasī akhuddāvakāso dassanāya …pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สีลวา อริยสีลี กุสลสีลี กุสลสีเลน สมนฺนาคโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo sīlavā ariyasīlī kusalasīlī kusalasīlena samannāgato…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กลฺยาณวาโจ กลฺยาณวากฺกรโณ โปริยา วาจาย สมนฺนาคโต วิสฺสฎฺฐาย อเนลคลาย อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยา…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo kalyāṇavāco kalyāṇavākkaraṇo poriyā vācāya samannāgato vissaṭṭhāya anelagalāya atthassa viññāpaniyā…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พหูนํ อาจริยปาจริโย…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo bahūnaṃ ācariyapācariyo…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ขีณกามราโค วิคตจาปโลฺล…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo khīṇakāmarāgo vigatacāpallo…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม กมฺมวาที กิริยวาที อปาปปุเรกฺขาโร พฺรหฺมญฺญาย ปชาย…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo kammavādī kiriyavādī apāpapurekkhāro brahmaññāya pajāya…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อุจฺจา กุลา ปพฺพชิโต อสมฺภินฺนขตฺติยกุลา…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo uccā kulā pabbajito asambhinnakhattiyakulā…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม อฑฺฒา กุลา ปพฺพชิโต มหทฺธนา มหาโภคา…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo aḍḍhā kulā pabbajito mahaddhanā mahābhogā…pe…
‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ติโรรฎฺฐา ติโรชนปทา ปญฺหํ ปุจฺฉิตุํ อาคจฺฉนฺติ…เป.…
‘‘Samaṇaṃ khalu, bho, gotamaṃ tiroraṭṭhā tirojanapadā pañhaṃ pucchituṃ āgacchanti…pe…
‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ อเนกานิ เทวตาสหสฺสานิ ปาเณหิ สรณํ คตานิ…เป.…
‘‘Samaṇaṃ khalu, bho, gotamaṃ anekāni devatāsahassāni pāṇehi saraṇaṃ gatāni…pe…
‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสโทฺท อพฺภุคฺคโต – ‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ วิชฺชาจรณสมฺปโนฺน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ ติ…เป.…
‘‘Samaṇaṃ khalu, bho, gotamaṃ evaṃ kalyāṇo kittisaddo abbhuggato – ‘itipi so bhagavā arahaṃ sammāsambuddho vijjācaraṇasampanno sugato lokavidū anuttaro purisadammasārathi satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ ti…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ทฺวตฺติํสมหาปุริสลกฺขเณหิ สมนฺนาคโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo dvattiṃsamahāpurisalakkhaṇehi samannāgato…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม เอหิสฺวาคตวาที สขิโล สโมฺมทโก อพฺภากุฎิโก อุตฺตานมุโข ปุพฺพภาสี…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo ehisvāgatavādī sakhilo sammodako abbhākuṭiko uttānamukho pubbabhāsī…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม จตุนฺนํ ปริสานํ สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo catunnaṃ parisānaṃ sakkato garukato mānito pūjito apacito…pe…
‘‘สมเณ ขลุ, โภ, โคตเม พหู เทวา จ มนุสฺสา จ อภิปฺปสนฺนา…เป.…
‘‘Samaṇe khalu, bho, gotame bahū devā ca manussā ca abhippasannā…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ยสฺมิํ คาเม วา นิคเม วา ปฎิวสติ น ตสฺมิํ คาเม วา นิคเม วา อมนุสฺสา มนุเสฺส วิเหเฐนฺติ…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo yasmiṃ gāme vā nigame vā paṭivasati na tasmiṃ gāme vā nigame vā amanussā manusse viheṭhenti…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม สงฺฆี คณี คณาจริโย ปุถุติตฺถกรานํ อคฺคมกฺขายติ, ยถา โข ปน, โภ, เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ ยถา วา ตถา วา ยโส สมุทาคจฺฉติ, น เหวํ สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโตฯ อถ โข อนุตฺตราย วิชฺชาจรณสมฺปทาย สมณสฺส โคตมสฺส ยโส สมุทาคโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo saṅghī gaṇī gaṇācariyo puthutitthakarānaṃ aggamakkhāyati, yathā kho pana, bho, etesaṃ samaṇabrāhmaṇānaṃ yathā vā tathā vā yaso samudāgacchati, na hevaṃ samaṇassa gotamassa yaso samudāgato. Atha kho anuttarāya vijjācaraṇasampadāya samaṇassa gotamassa yaso samudāgato…pe…
‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา มาคโธ เสนิโย พิมฺพิสาโร สปุโตฺต สภริโย สปริโส สามโจฺจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป.…
‘‘Samaṇaṃ khalu, bho, gotamaṃ rājā māgadho seniyo bimbisāro saputto sabhariyo sapariso sāmacco pāṇehi saraṇaṃ gato…pe…
‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ ราชา ปเสนทิ โกสโล สปุโตฺต สภริโย สปริโส สามโจฺจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป.…
‘‘Samaṇaṃ khalu, bho, gotamaṃ rājā pasenadi kosalo saputto sabhariyo sapariso sāmacco pāṇehi saraṇaṃ gato…pe…
‘‘สมณํ ขลุ, โภ, โคตมํ พฺราหฺมโณ โปกฺขรสาติ สปุโตฺต สภริโย สปริโส สามโจฺจ ปาเณหิ สรณํ คโต…เป.…
‘‘Samaṇaṃ khalu, bho, gotamaṃ brāhmaṇo pokkharasāti saputto sabhariyo sapariso sāmacco pāṇehi saraṇaṃ gato…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รโญฺญ มาคธสฺส เสนิยสฺส พิมฺพิสารสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo rañño māgadhassa seniyassa bimbisārassa sakkato garukato mānito pūjito apacito…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม รโญฺญ ปเสนทิสฺส โกสลสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo rañño pasenadissa kosalassa sakkato garukato mānito pūjito apacito…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม พฺราหฺมณสฺส โปกฺขรสาติสฺส สกฺกโต ครุกโต มานิโต ปูชิโต อปจิโต…เป.…
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo brāhmaṇassa pokkharasātissa sakkato garukato mānito pūjito apacito…pe…
‘‘สมโณ ขลุ, โภ, โคตโม ขาณุมตํ อนุปฺปโตฺต ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฎฺฐิกายํฯ เย โข ปน, โภ, เกจิ สมณา วา พฺราหฺมณา วา อมฺหากํ คามเขตฺตํ อาคจฺฉนฺติ, อติถี โน เต โหนฺติฯ อติถี โข ปนเมฺหหิ สกฺกาตพฺพา ครุกาตพฺพา มาเนตพฺพา ปูเชตพฺพา อปเจตพฺพาฯ ยมฺปิ, โภ, สมโณ โคตโม ขาณุมตํ อนุปฺปโตฺต ขาณุมเต วิหรติ อมฺพลฎฺฐิกายํ, อติถิมฺหากํ สมโณ โคตโมฯ อติถิ โข ปนเมฺหหิ สกฺกาตโพฺพ ครุกาตโพฺพ มาเนตโพฺพ ปูเชตโพฺพ อปเจตโพฺพฯ อิมินาปเงฺคน นารหติ โส ภวํ โคตโม อมฺหากํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ อถ โข มยเมว อรหาม ตํ ภวนฺตํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํฯ เอตฺตเก โข อหํ, โภ, ตสฺส โภโต โคตมสฺส วเณฺณ ปริยาปุณามิ, โน จ โข โส ภวํ โคตโม เอตฺตกวโณฺณฯ อปริมาณวโณฺณ หิ โส ภวํ โคตโม’’ติฯ
‘‘Samaṇo khalu, bho, gotamo khāṇumataṃ anuppatto khāṇumate viharati ambalaṭṭhikāyaṃ. Ye kho pana, bho, keci samaṇā vā brāhmaṇā vā amhākaṃ gāmakhettaṃ āgacchanti, atithī no te honti. Atithī kho panamhehi sakkātabbā garukātabbā mānetabbā pūjetabbā apacetabbā. Yampi, bho, samaṇo gotamo khāṇumataṃ anuppatto khāṇumate viharati ambalaṭṭhikāyaṃ, atithimhākaṃ samaṇo gotamo. Atithi kho panamhehi sakkātabbo garukātabbo mānetabbo pūjetabbo apacetabbo. Imināpaṅgena nārahati so bhavaṃ gotamo amhākaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Atha kho mayameva arahāma taṃ bhavantaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamituṃ. Ettake kho ahaṃ, bho, tassa bhoto gotamassa vaṇṇe pariyāpuṇāmi, no ca kho so bhavaṃ gotamo ettakavaṇṇo. Aparimāṇavaṇṇo hi so bhavaṃ gotamo’’ti.
๓๓๓. เอวํ วุเตฺต, เต พฺราหฺมณา กูฎทนฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘ยถา โข ภวํ กูฎทโนฺต สมณสฺส โคตมสฺส วเณฺณ ภาสติ, อิโต เจปิ โส ภวํ โคตโม โยชนสเต วิหรติ, อลเมว สเทฺธน กุลปุเตฺตน ทสฺสนาย อุปสงฺกมิตุํ อปิ ปุโฎเสนา’’ติฯ ‘‘เตน หิ, โภ, สเพฺพว มยํ สมณํ โคตมํ ทสฺสนาย อุปสงฺกมิสฺสามา’’ติฯ
333. Evaṃ vutte, te brāhmaṇā kūṭadantaṃ brāhmaṇaṃ etadavocuṃ – ‘‘yathā kho bhavaṃ kūṭadanto samaṇassa gotamassa vaṇṇe bhāsati, ito cepi so bhavaṃ gotamo yojanasate viharati, alameva saddhena kulaputtena dassanāya upasaṅkamituṃ api puṭosenā’’ti. ‘‘Tena hi, bho, sabbeva mayaṃ samaṇaṃ gotamaṃ dassanāya upasaṅkamissāmā’’ti.
มหาวิชิตราชยญฺญกถา
Mahāvijitarājayaññakathā
๓๓๔. อถ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ มหตา พฺราหฺมณคเณน สทฺธิํ เยน อมฺพลฎฺฐิกา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิ ฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ ขาณุมตกาปิ โข พฺราหฺมณคหปติกา อเปฺปกเจฺจ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อเปฺปกเจฺจ ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิํสุ, สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อเปฺปกเจฺจ เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อเปฺปกเจฺจ นามโคตฺตํ สาเวตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ; อเปฺปกเจฺจ ตุณฺหีภูตา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ
334. Atha kho kūṭadanto brāhmaṇo mahatā brāhmaṇagaṇena saddhiṃ yena ambalaṭṭhikā yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi . Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Khāṇumatakāpi kho brāhmaṇagahapatikā appekacce bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu; appekacce bhagavatā saddhiṃ sammodiṃsu, sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdiṃsu; appekacce yena bhagavā tenañjaliṃ paṇāmetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu; appekacce nāmagottaṃ sāvetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu; appekacce tuṇhībhūtā ekamantaṃ nisīdiṃsu.
๓๓๕. เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สุตํ เมตํ, โภ โคตม – ‘สมโณ โคตโม ติวิธํ ยญฺญสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ ชานาตี’ติฯ น โข ปนาหํ ชานามิ ติวิธํ ยญฺญสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํฯ อิจฺฉามิ จาหํ มหายญฺญํ ยชิตุํฯ สาธุ เม ภวํ โคตโม ติวิธํ ยญฺญสมฺปทํ โสฬสปริกฺขารํ เทเสตู’’ติฯ
335. Ekamantaṃ nisinno kho kūṭadanto brāhmaṇo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sutaṃ metaṃ, bho gotama – ‘samaṇo gotamo tividhaṃ yaññasampadaṃ soḷasaparikkhāraṃ jānātī’ti. Na kho panāhaṃ jānāmi tividhaṃ yaññasampadaṃ soḷasaparikkhāraṃ. Icchāmi cāhaṃ mahāyaññaṃ yajituṃ. Sādhu me bhavaṃ gotamo tividhaṃ yaññasampadaṃ soḷasaparikkhāraṃ desetū’’ti.
๓๓๖. ‘‘เตน หิ, พฺราหฺมณ, สุณาหิ สาธุกํ มนสิกโรหิ, ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, โภ’’ติ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ภควโต ปจฺจโสฺสสิฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘ภูตปุพฺพํ, พฺราหฺมณ , ราชา มหาวิชิโต นาม อโหสิ อโฑฺฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธโญฺญ ปริปุณฺณโกสโกฎฺฐาคาโรฯ อถ โข, พฺราหฺมณ, รโญฺญ มหาวิชิตสฺส รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘อธิคตา โข เม วิปุลา มานุสกา โภคา, มหนฺตํ ปถวิมณฺฑลํ อภิวิชิย อชฺฌาวสามิ , ยํนูนาหํ มหายญฺญํ ยเชยฺยํ, ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติฯ
336. ‘‘Tena hi, brāhmaṇa, suṇāhi sādhukaṃ manasikarohi, bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bho’’ti kho kūṭadanto brāhmaṇo bhagavato paccassosi. Bhagavā etadavoca – ‘‘bhūtapubbaṃ, brāhmaṇa , rājā mahāvijito nāma ahosi aḍḍho mahaddhano mahābhogo pahūtajātarūparajato pahūtavittūpakaraṇo pahūtadhanadhañño paripuṇṇakosakoṭṭhāgāro. Atha kho, brāhmaṇa, rañño mahāvijitassa rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘adhigatā kho me vipulā mānusakā bhogā, mahantaṃ pathavimaṇḍalaṃ abhivijiya ajjhāvasāmi , yaṃnūnāhaṃ mahāyaññaṃ yajeyyaṃ, yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’ti.
๓๓๗. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตํ พฺราหฺมณํ อามเนฺตตฺวา เอตทโวจ – ‘อิธ มยฺหํ, พฺราหฺมณ, รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – อธิคตา โข เม วิปุลา มานุสกา โภคา , มหนฺตํ ปถวิมณฺฑลํ อภิวิชิย อชฺฌาวสามิฯ ยํนูนาหํ มหายญฺญํ ยเชยฺยํ ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติฯ อิจฺฉามหํ, พฺราหฺมณ, มหายญฺญํ ยชิตุํฯ อนุสาสตุ มํ ภวํ ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’’ติฯ
337. ‘‘Atha kho, brāhmaṇa, rājā mahāvijito purohitaṃ brāhmaṇaṃ āmantetvā etadavoca – ‘idha mayhaṃ, brāhmaṇa, rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – adhigatā kho me vipulā mānusakā bhogā , mahantaṃ pathavimaṇḍalaṃ abhivijiya ajjhāvasāmi. Yaṃnūnāhaṃ mahāyaññaṃ yajeyyaṃ yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’ti. Icchāmahaṃ, brāhmaṇa, mahāyaññaṃ yajituṃ. Anusāsatu maṃ bhavaṃ yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’’ti.
๓๓๘. ‘‘เอวํ วุเตฺต, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ราชานํ มหาวิชิตํ เอตทโวจ – ‘โภโต โข รโญฺญ ชนปโท สกณฺฎโก สอุปฺปีโฬ, คามฆาตาปิ ทิสฺสนฺติ, นิคมฆาตาปิ ทิสฺสนฺติ, นครฆาตาปิ ทิสฺสนฺติ , ปนฺถทุหนาปิ ทิสฺสนฺติฯ ภวํ โข ปน ราชา เอวํ สกณฺฎเก ชนปเท สอุปฺปีเฬ พลิมุทฺธเรยฺย, อกิจฺจการี อสฺส เตน ภวํ ราชาฯ สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ เอวมสฺส – ‘‘อหเมตํ ทสฺสุขีลํ วเธน วา พเนฺธน วา ชานิยา วา ครหาย วา ปพฺพาชนาย วา สมูหนิสฺสามี’’ติ, น โข ปเนตสฺส ทสฺสุขีลสฺส เอวํ สมฺมา สมุคฺฆาโต โหติฯ เย เต หตาวเสสกา ภวิสฺสนฺติ, เต ปจฺฉา รโญฺญ ชนปทํ วิเหเฐสฺสนฺติฯ อปิ จ โข อิทํ สํวิธานํ อาคมฺม เอวเมตสฺส ทสฺสุขีลสฺส สมฺมา สมุคฺฆาโต โหติฯ เตน หิ ภวํ ราชา เย โภโต รโญฺญ ชนปเท อุสฺสหนฺติ กสิโครเกฺข, เตสํ ภวํ ราชา พีชภตฺตํ อนุปฺปเทตุฯ เย โภโต รโญฺญ ชนปเท อุสฺสหนฺติ วาณิชฺชาย, เตสํ ภวํ ราชา ปาภตํ อนุปฺปเทตุฯ เย โภโต รโญฺญ ชนปเท อุสฺสหนฺติ ราชโปริเส, เตสํ ภวํ ราชา ภตฺตเวตนํ ปกเปฺปตุฯ เต จ มนุสฺสา สกมฺมปสุตา รโญฺญ ชนปทํ น วิเหเฐสฺสนฺติ; มหา จ รโญฺญ ราสิโก ภวิสฺสติฯ เขมฎฺฐิตา ชนปทา อกณฺฎกา อนุปฺปีฬาฯ มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุเตฺต นเจฺจนฺตา อปารุตฆรา มเญฺญ วิหริสฺสนฺตี’ติฯ ‘เอวํ, โภ’ติ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เย รโญฺญ ชนปเท อุสฺสหิํสุ กสิโครเกฺข, เตสํ ราชา มหาวิชิโต พีชภตฺตํ อนุปฺปทาสิฯ เย จ รโญฺญ ชนปเท อุสฺสหิํสุ วาณิชฺชาย, เตสํ ราชา มหาวิชิโต ปาภตํ อนุปฺปทาสิฯ เย จ รโญฺญ ชนปเท อุสฺสหิํสุ ราชโปริเส, เตสํ ราชา มหาวิชิโต ภตฺตเวตนํ ปกเปฺปสิฯ เต จ มนุสฺสา สกมฺมปสุตา รโญฺญ ชนปทํ น วิเหฐิํสุ, มหา จ รโญฺญ ราสิโก อโหสิฯ เขมฎฺฐิตา ชนปทา อกณฺฎกา อนุปฺปีฬา มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุเตฺต นเจฺจนฺตา อปารุตฆรา มเญฺญ วิหริํสุฯ อถ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตํ พฺราหฺมณํ อามเนฺตตฺวา เอตทโวจ – ‘สมูหโต โข เม โภโต ทสฺสุขีโล, โภโต สํวิธานํ อาคมฺม มหา จ เม ราสิโกฯ เขมฎฺฐิตา ชนปทา อกณฺฎกา อนุปฺปีฬา มนุสฺสา มุทา โมทมานา อุเร ปุเตฺต นเจฺจนฺตา อปารุตฆรา มเญฺญ วิหรนฺติฯ อิจฺฉามหํ พฺราหฺมณ มหายญฺญํ ยชิตุํฯ อนุสาสตุ มํ ภวํ ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติฯ
338. ‘‘Evaṃ vutte, brāhmaṇa, purohito brāhmaṇo rājānaṃ mahāvijitaṃ etadavoca – ‘bhoto kho rañño janapado sakaṇṭako sauppīḷo, gāmaghātāpi dissanti, nigamaghātāpi dissanti, nagaraghātāpi dissanti , panthaduhanāpi dissanti. Bhavaṃ kho pana rājā evaṃ sakaṇṭake janapade sauppīḷe balimuddhareyya, akiccakārī assa tena bhavaṃ rājā. Siyā kho pana bhoto rañño evamassa – ‘‘ahametaṃ dassukhīlaṃ vadhena vā bandhena vā jāniyā vā garahāya vā pabbājanāya vā samūhanissāmī’’ti, na kho panetassa dassukhīlassa evaṃ sammā samugghāto hoti. Ye te hatāvasesakā bhavissanti, te pacchā rañño janapadaṃ viheṭhessanti. Api ca kho idaṃ saṃvidhānaṃ āgamma evametassa dassukhīlassa sammā samugghāto hoti. Tena hi bhavaṃ rājā ye bhoto rañño janapade ussahanti kasigorakkhe, tesaṃ bhavaṃ rājā bījabhattaṃ anuppadetu. Ye bhoto rañño janapade ussahanti vāṇijjāya, tesaṃ bhavaṃ rājā pābhataṃ anuppadetu. Ye bhoto rañño janapade ussahanti rājaporise, tesaṃ bhavaṃ rājā bhattavetanaṃ pakappetu. Te ca manussā sakammapasutā rañño janapadaṃ na viheṭhessanti; mahā ca rañño rāsiko bhavissati. Khemaṭṭhitā janapadā akaṇṭakā anuppīḷā. Manussā mudā modamānā ure putte naccentā apārutagharā maññe viharissantī’ti. ‘Evaṃ, bho’ti kho, brāhmaṇa, rājā mahāvijito purohitassa brāhmaṇassa paṭissutvā ye rañño janapade ussahiṃsu kasigorakkhe, tesaṃ rājā mahāvijito bījabhattaṃ anuppadāsi. Ye ca rañño janapade ussahiṃsu vāṇijjāya, tesaṃ rājā mahāvijito pābhataṃ anuppadāsi. Ye ca rañño janapade ussahiṃsu rājaporise, tesaṃ rājā mahāvijito bhattavetanaṃ pakappesi. Te ca manussā sakammapasutā rañño janapadaṃ na viheṭhiṃsu, mahā ca rañño rāsiko ahosi. Khemaṭṭhitā janapadā akaṇṭakā anuppīḷā manussā mudā modamānā ure putte naccentā apārutagharā maññe vihariṃsu. Atha kho, brāhmaṇa, rājā mahāvijito purohitaṃ brāhmaṇaṃ āmantetvā etadavoca – ‘samūhato kho me bhoto dassukhīlo, bhoto saṃvidhānaṃ āgamma mahā ca me rāsiko. Khemaṭṭhitā janapadā akaṇṭakā anuppīḷā manussā mudā modamānā ure putte naccentā apārutagharā maññe viharanti. Icchāmahaṃ brāhmaṇa mahāyaññaṃ yajituṃ. Anusāsatu maṃ bhavaṃ yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’ti.
จตุปริกฺขารํ
Catuparikkhāraṃ
๓๓๙. ‘‘เตน หิ ภวํ ราชา เย โภโต รโญฺญ ชนปเท ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ เต ภวํ ราชา อามนฺตยตํ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหายญฺญํ ยชิตุํ, อนุชานนฺตุ เม ภวโนฺต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติฯ เย โภโต รโญฺญ ชนปเท อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป.… พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป.… คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ, เต ภวํ ราชา อามนฺตยตํ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหายญฺญํ ยชิตุํ, อนุชานนฺตุ เม ภวโนฺต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติฯ ‘เอวํ, โภ’ติ โข, พฺราหฺมณ, ราชา มหาวิชิโต ปุโรหิตสฺส พฺราหฺมณสฺส ปฎิสฺสุตฺวา เย รโญฺญ ชนปเท ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ, เต ราชา มหาวิชิโต อามเนฺตสิ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ, มหายญฺญํ ยชิตุํ, อนุชานนฺตุ เม ภวโนฺต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ ‘ยชตํ ภวํ ราชา ยญฺญํ, ยญฺญกาโล มหาราชา’ติฯ เย รโญฺญ ชนปเท อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป.… พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป.… คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ, เต ราชา มหาวิชิโต อามเนฺตสิ – ‘อิจฺฉามหํ, โภ , มหายญฺญํ ยชิตุํฯ อนุชานนฺตุ เม ภวโนฺต ยํ มม อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’ติฯ ‘ยชตํ ภวํ ราชา ยญฺญํ, ยญฺญกาโล มหาราชา’ติฯ อิติเม จตฺตาโร อนุมติปกฺขา ตเสฺสว ยญฺญสฺส ปริกฺขารา ภวนฺติฯ
339. ‘‘Tena hi bhavaṃ rājā ye bhoto rañño janapade khattiyā ānuyantā negamā ceva jānapadā ca te bhavaṃ rājā āmantayataṃ – ‘icchāmahaṃ, bho, mahāyaññaṃ yajituṃ, anujānantu me bhavanto yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’ti. Ye bhoto rañño janapade amaccā pārisajjā negamā ceva jānapadā ca…pe… brāhmaṇamahāsālā negamā ceva jānapadā ca…pe… gahapatinecayikā negamā ceva jānapadā ca, te bhavaṃ rājā āmantayataṃ – ‘icchāmahaṃ, bho, mahāyaññaṃ yajituṃ, anujānantu me bhavanto yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’ti. ‘Evaṃ, bho’ti kho, brāhmaṇa, rājā mahāvijito purohitassa brāhmaṇassa paṭissutvā ye rañño janapade khattiyā ānuyantā negamā ceva jānapadā ca, te rājā mahāvijito āmantesi – ‘icchāmahaṃ, bho, mahāyaññaṃ yajituṃ, anujānantu me bhavanto yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’’ti. ‘Yajataṃ bhavaṃ rājā yaññaṃ, yaññakālo mahārājā’ti. Ye rañño janapade amaccā pārisajjā negamā ceva jānapadā ca…pe… brāhmaṇamahāsālā negamā ceva jānapadā ca…pe… gahapatinecayikā negamā ceva jānapadā ca, te rājā mahāvijito āmantesi – ‘icchāmahaṃ, bho , mahāyaññaṃ yajituṃ. Anujānantu me bhavanto yaṃ mama assa dīgharattaṃ hitāya sukhāyā’ti. ‘Yajataṃ bhavaṃ rājā yaññaṃ, yaññakālo mahārājā’ti. Itime cattāro anumatipakkhā tasseva yaññassa parikkhārā bhavanti.
อฎฺฐ ปริกฺขารา
Aṭṭha parikkhārā
๓๔๐. ‘‘ราชา มหาวิชิโต อฎฺฐหเงฺคหิ สมนฺนาคโต, อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย; อโฑฺฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธโญฺญ ปริปุณฺณโกสโกฎฺฐาคาโร; พลวา จตุรงฺคินิยา เสนาย สมนฺนาคโต อสฺสวาย โอวาทปฎิกราย สหติ 1 มเญฺญ ปจฺจตฺถิเก ยสสา; สโทฺธ ทายโก ทานปติ อนาวฎทฺวาโร สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ โอปานภูโต ปุญฺญานิ กโรติ; พหุสฺสุโต ตสฺส ตสฺส สุตชาตสฺส, ตสฺส ตเสฺสว โข ปน ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ ‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ’ติ; ปณฺฑิโต, วิยโตฺต, เมธาวี, ปฎิพโล, อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺน อเตฺถ จิเนฺตตุํฯ ราชา มหาวิชิโต อิเมหิ อฎฺฐหเงฺคหิ สมนฺนาคโตฯ อิติ อิมานิปิ อฎฺฐงฺคานิ ตเสฺสว ยญฺญสฺส ปริกฺขารา ภวนฺติฯ
340. ‘‘Rājā mahāvijito aṭṭhahaṅgehi samannāgato, ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena abhirūpo dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato brahmavaṇṇī brahmavacchasī akhuddāvakāso dassanāya; aḍḍho mahaddhano mahābhogo pahūtajātarūparajato pahūtavittūpakaraṇo pahūtadhanadhañño paripuṇṇakosakoṭṭhāgāro; balavā caturaṅginiyā senāya samannāgato assavāya ovādapaṭikarāya sahati 2 maññe paccatthike yasasā; saddho dāyako dānapati anāvaṭadvāro samaṇabrāhmaṇakapaṇaddhikavaṇibbakayācakānaṃ opānabhūto puññāni karoti; bahussuto tassa tassa sutajātassa, tassa tasseva kho pana bhāsitassa atthaṃ jānāti ‘ayaṃ imassa bhāsitassa attho ayaṃ imassa bhāsitassa attho’ti; paṇḍito, viyatto, medhāvī, paṭibalo, atītānāgatapaccuppanne atthe cintetuṃ. Rājā mahāvijito imehi aṭṭhahaṅgehi samannāgato. Iti imānipi aṭṭhaṅgāni tasseva yaññassa parikkhārā bhavanti.
จตุปริกฺขารํ
Catuparikkhāraṃ
๓๔๑. ‘‘ปุโรหิโต 3 พฺราหฺมโณ จตุหเงฺคหิ สมนฺนาคโตฯ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน; อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฎุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย; สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต; ปณฺฑิโต วิยโตฺต เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํฯ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อิเมหิ จตูหเงฺคหิ สมนฺนาคโตฯ อิติ อิมานิ จตฺตาริ องฺคานิ ตเสฺสว ยญฺญสฺส ปริกฺขารา ภวนฺติฯ
341. ‘‘Purohito 4 brāhmaṇo catuhaṅgehi samannāgato. Ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena; ajjhāyako mantadharo tiṇṇaṃ vedānaṃ pāragū sanighaṇḍukeṭubhānaṃ sākkharappabhedānaṃ itihāsapañcamānaṃ padako veyyākaraṇo lokāyatamahāpurisalakkhaṇesu anavayo; sīlavā vuddhasīlī vuddhasīlena samannāgato; paṇḍito viyatto medhāvī paṭhamo vā dutiyo vā sujaṃ paggaṇhantānaṃ. Purohito brāhmaṇo imehi catūhaṅgehi samannāgato. Iti imāni cattāri aṅgāni tasseva yaññassa parikkhārā bhavanti.
ติโสฺส วิธา
Tisso vidhā
๓๔๒. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รโญฺญ มหาวิชิตสฺส ปุเพฺพว ยญฺญา ติโสฺส วิธา เทเสสิฯ สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยิฎฺฐุกามสฺส 5 โกจิเทว วิปฺปฎิสาโร – ‘มหา วต เม โภคกฺขโนฺธ วิคจฺฉิสฺสตี’ติ, โส โภตา รญฺญา วิปฺปฎิสาโร น กรณีโยฯ สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยชมานสฺส โกจิเทว วิปฺปฎิสาโร – ‘มหา วต เม โภคกฺขโนฺธ วิคจฺฉตี’ติ, โส โภตา รญฺญา วิปฺปฎิสาโร น กรณีโยฯ สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยิฎฺฐสฺส โกจิเทว วิปฺปฎิสาโร – ‘มหา วต เม โภคกฺขโนฺธ วิคโต’ติ, โส โภตา รญฺญา วิปฺปฎิสาโร น กรณีโย’’ติฯ อิมา โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รโญฺญ มหาวิชิตสฺส ปุเพฺพว ยญฺญา ติโสฺส วิธา เทเสสิฯ
342. ‘‘Atha kho, brāhmaṇa, purohito brāhmaṇo rañño mahāvijitassa pubbeva yaññā tisso vidhā desesi. Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yiṭṭhukāmassa 6 kocideva vippaṭisāro – ‘mahā vata me bhogakkhandho vigacchissatī’ti, so bhotā raññā vippaṭisāro na karaṇīyo. Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yajamānassa kocideva vippaṭisāro – ‘mahā vata me bhogakkhandho vigacchatī’ti, so bhotā raññā vippaṭisāro na karaṇīyo. Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yiṭṭhassa kocideva vippaṭisāro – ‘mahā vata me bhogakkhandho vigato’ti, so bhotā raññā vippaṭisāro na karaṇīyo’’ti. Imā kho, brāhmaṇa, purohito brāhmaṇo rañño mahāvijitassa pubbeva yaññā tisso vidhā desesi.
ทส อาการา
Dasa ākārā
๓๔๓. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รโญฺญ มหาวิชิตสฺส ปุเพฺพว ยญฺญา ทสหากาเรหิ ปฎิคฺคาหเกสุ วิปฺปฎิสารํ ปฎิวิเนสิฯ ‘อาคมิสฺสนฺติ โข โภโต ยญฺญํ ปาณาติปาติโนปิ ปาณาติปาตา ปฎิวิรตาปิฯ เย ตตฺถ ปาณาติปาติโน, เตสเญฺญว เตนฯ เย ตตฺถ ปาณาติปาตา ปฎิวิรตา, เต อารพฺภ ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุฯ อาคมิสฺสนฺติ โข โภโต ยญฺญํ อทินฺนาทายิโนปิ อทินฺนาทานา ปฎิวิรตาปิ…เป.… กาเมสุ มิจฺฉาจาริโนปิ กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฎิวิรตาปิ… มุสาวาทิโนปิ มุสาวาทา ปฎิวิรตาปิ… ปิสุณวาจิโนปิ ปิสุณาย วาจาย ปฎิวิรตาปิ… ผรุสวาจิโนปิ ผรุสาย วาจาย ปฎิวิรตาปิ… สมฺผปฺปลาปิโนปิ สมฺผปฺปลาปา ปฎิวิรตาปิ … อภิชฺฌาลุโนปิ อนภิชฺฌาลุโนปิ… พฺยาปนฺนจิตฺตาปิ อพฺยาปนฺนจิตฺตาปิ… มิจฺฉาทิฎฺฐิกาปิ สมฺมาทิฎฺฐิกาปิ…ฯ เย ตตฺถ มิจฺฉาทิฎฺฐิกา, เตสเญฺญว เตนฯ เย ตตฺถ สมฺมาทิฎฺฐิกา, เต อารพฺภ ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตู’ติฯ อิเมหิ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รโญฺญ มหาวิชิตสฺส ปุเพฺพว ยญฺญา ทสหากาเรหิ ปฎิคฺคาหเกสุ วิปฺปฎิสารํ ปฎิวิเนสิฯ
343. ‘‘Atha kho, brāhmaṇa, purohito brāhmaṇo rañño mahāvijitassa pubbeva yaññā dasahākārehi paṭiggāhakesu vippaṭisāraṃ paṭivinesi. ‘Āgamissanti kho bhoto yaññaṃ pāṇātipātinopi pāṇātipātā paṭiviratāpi. Ye tattha pāṇātipātino, tesaññeva tena. Ye tattha pāṇātipātā paṭiviratā, te ārabbha yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetu. Āgamissanti kho bhoto yaññaṃ adinnādāyinopi adinnādānā paṭiviratāpi…pe… kāmesu micchācārinopi kāmesumicchācārā paṭiviratāpi… musāvādinopi musāvādā paṭiviratāpi… pisuṇavācinopi pisuṇāya vācāya paṭiviratāpi… pharusavācinopi pharusāya vācāya paṭiviratāpi… samphappalāpinopi samphappalāpā paṭiviratāpi … abhijjhālunopi anabhijjhālunopi… byāpannacittāpi abyāpannacittāpi… micchādiṭṭhikāpi sammādiṭṭhikāpi…. Ye tattha micchādiṭṭhikā, tesaññeva tena. Ye tattha sammādiṭṭhikā, te ārabbha yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetū’ti. Imehi kho, brāhmaṇa, purohito brāhmaṇo rañño mahāvijitassa pubbeva yaññā dasahākārehi paṭiggāhakesu vippaṭisāraṃ paṭivinesi.
โสฬส อาการา
Soḷasa ākārā
๓๔๔. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รโญฺญ มหาวิชิตสฺส มหายญฺญํ ยชมานสฺส โสฬสหากาเรหิ จิตฺตํ สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิ สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายญฺญํ ยชติ, โน จ โข ตสฺส อามนฺติตา ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ; อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายญฺญํ ยชตี’ติ ฯ เอวมฺปิ โภโต รโญฺญ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิฯ โภตา โข ปน รญฺญา อามนฺติตา ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ ฯ อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุฯ
344. ‘‘Atha kho, brāhmaṇa, purohito brāhmaṇo rañño mahāvijitassa mahāyaññaṃ yajamānassa soḷasahākārehi cittaṃ sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yajamānassa kocideva vattā – ‘rājā kho mahāvijito mahāyaññaṃ yajati, no ca kho tassa āmantitā khattiyā ānuyantā negamā ceva jānapadā ca; atha ca pana bhavaṃ rājā evarūpaṃ mahāyaññaṃ yajatī’ti . Evampi bhoto rañño vattā dhammato natthi. Bhotā kho pana raññā āmantitā khattiyā ānuyantā negamā ceva jānapadā ca . Imināpetaṃ bhavaṃ rājā jānātu, yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetu.
‘‘สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายญฺญํ ยชติ, โน จ โข ตสฺส อามนฺติตา อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป.… พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ…เป.… คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายญฺญํ ยชตี’ติฯ เอวมฺปิ โภโต รโญฺญ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิฯ โภตา โข ปน รญฺญา อามนฺติตา คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จฯ อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุฯ
‘‘Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yajamānassa kocideva vattā – ‘rājā kho mahāvijito mahāyaññaṃ yajati, no ca kho tassa āmantitā amaccā pārisajjā negamā ceva jānapadā ca…pe… brāhmaṇamahāsālā negamā ceva jānapadā ca…pe… gahapatinecayikā negamā ceva jānapadā ca, atha ca pana bhavaṃ rājā evarūpaṃ mahāyaññaṃ yajatī’ti. Evampi bhoto rañño vattā dhammato natthi. Bhotā kho pana raññā āmantitā gahapatinecayikā negamā ceva jānapadā ca. Imināpetaṃ bhavaṃ rājā jānātu, yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetu.
‘‘สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายญฺญํ ยชติ, โน จ โข อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายญฺญํ ยชตี’ติฯ เอวมฺปิ โภโต รโญฺญ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิฯ ภวํ โข ปน ราชา อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทนฯ อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุฯ
‘‘Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yajamānassa kocideva vattā – ‘rājā kho mahāvijito mahāyaññaṃ yajati, no ca kho ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena, atha ca pana bhavaṃ rājā evarūpaṃ mahāyaññaṃ yajatī’ti. Evampi bhoto rañño vattā dhammato natthi. Bhavaṃ kho pana rājā ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena. Imināpetaṃ bhavaṃ rājā jānātu, yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetu.
‘‘สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายญฺญํ ยชติ โน จ โข อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต พฺรหฺมวณฺณี พฺรหฺมวจฺฉสี อขุทฺทาวกาโส ทสฺสนาย…เป.… โน จ โข อโฑฺฒ มหทฺธโน มหาโภโค ปหูตชาตรูปรชโต ปหูตวิตฺตูปกรโณ ปหูตธนธโญฺญ ปริปุณฺณโกสโกฎฺฐาคาโร…เป.… โน จ โข พลวา จตุรงฺคินิยา เสนาย สมนฺนาคโต อสฺสวาย โอวาทปฎิกราย สหติ มเญฺญ ปจฺจตฺถิเก ยสสา…เป.… โน จ โข สโทฺธ ทายโก ทานปติ อนาวฎทฺวาโร สมณพฺราหฺมณกปณทฺธิกวณิพฺพกยาจกานํ โอปานภูโต ปุญฺญานิ กโรติ…เป.… โน จ โข พหุสฺสุโต ตสฺส ตสฺส สุตชาตสฺส…เป.… โน จ โข ตสฺส ตเสฺสว โข ปน ภาสิตสฺส อตฺถํ ชานาติ ‘‘อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ, อยํ อิมสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ’’ติ…เป.… โน จ โข ปณฺฑิโต วิยโตฺต เมธาวี ปฎิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺน อเตฺถ จิเนฺตตุํ, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายญฺญํ ยชตี’ติ ฯ เอวมฺปิ โภโต รโญฺญ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิฯ ภวํ โข ปน ราชา ปณฺฑิโต วิยโตฺต เมธาวี ปฎิพโล อตีตานาคตปจฺจุปฺปเนฺน อเตฺถ จิเนฺตตุํฯ อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ , ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุฯ
‘‘Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yajamānassa kocideva vattā – ‘rājā kho mahāvijito mahāyaññaṃ yajati no ca kho abhirūpo dassanīyo pāsādiko paramāya vaṇṇapokkharatāya samannāgato brahmavaṇṇī brahmavacchasī akhuddāvakāso dassanāya…pe… no ca kho aḍḍho mahaddhano mahābhogo pahūtajātarūparajato pahūtavittūpakaraṇo pahūtadhanadhañño paripuṇṇakosakoṭṭhāgāro…pe… no ca kho balavā caturaṅginiyā senāya samannāgato assavāya ovādapaṭikarāya sahati maññe paccatthike yasasā…pe… no ca kho saddho dāyako dānapati anāvaṭadvāro samaṇabrāhmaṇakapaṇaddhikavaṇibbakayācakānaṃ opānabhūto puññāni karoti…pe… no ca kho bahussuto tassa tassa sutajātassa…pe… no ca kho tassa tasseva kho pana bhāsitassa atthaṃ jānāti ‘‘ayaṃ imassa bhāsitassa attho, ayaṃ imassa bhāsitassa attho’’ti…pe… no ca kho paṇḍito viyatto medhāvī paṭibalo atītānāgatapaccuppanne atthe cintetuṃ, atha ca pana bhavaṃ rājā evarūpaṃ mahāyaññaṃ yajatī’ti . Evampi bhoto rañño vattā dhammato natthi. Bhavaṃ kho pana rājā paṇḍito viyatto medhāvī paṭibalo atītānāgatapaccuppanne atthe cintetuṃ. Imināpetaṃ bhavaṃ rājā jānātu , yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetu.
‘‘สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายญฺญํ ยชติฯ โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทน; อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายญฺญํ ยชตี’ติฯ เอวมฺปิ โภโต รโญฺญ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิฯ โภโต โข ปน รโญฺญ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อุภโต สุชาโต มาติโต จ ปิติโต จ สํสุทฺธคหณิโก ยาว สตฺตมา ปิตามหยุคา อกฺขิโตฺต อนุปกฺกุโฎฺฐ ชาติวาเทนฯ อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตุฯ
‘‘Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yajamānassa kocideva vattā – ‘rājā kho mahāvijito mahāyaññaṃ yajati. No ca khvassa purohito brāhmaṇo ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena; atha ca pana bhavaṃ rājā evarūpaṃ mahāyaññaṃ yajatī’ti. Evampi bhoto rañño vattā dhammato natthi. Bhoto kho pana rañño purohito brāhmaṇo ubhato sujāto mātito ca pitito ca saṃsuddhagahaṇiko yāva sattamā pitāmahayugā akkhitto anupakkuṭṭho jātivādena. Imināpetaṃ bhavaṃ rājā jānātu, yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetu.
‘‘สิยา โข ปน โภโต รโญฺญ มหายญฺญํ ยชมานสฺส โกจิเทว วตฺตา – ‘ราชา โข มหาวิชิโต มหายญฺญํ ยชติฯ โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อชฺฌายโก มนฺตธโร ติณฺณํ เวทานํ ปารคู สนิฆณฺฑุเกฎุภานํ สากฺขรปฺปเภทานํ อิติหาสปญฺจมานํ ปทโก เวยฺยากรโณ โลกายตมหาปุริสลกฺขเณสุ อนวโย…เป.… โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ สีลวา วุทฺธสีลี วุทฺธสีเลน สมนฺนาคโต…เป.… โน จ ขฺวสฺส ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ปณฺฑิโต วิยโตฺต เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํ, อถ จ ปน ภวํ ราชา เอวรูปํ มหายญฺญํ ยชตี’ติฯ เอวมฺปิ โภโต รโญฺญ วตฺตา ธมฺมโต นตฺถิฯ โภโต โข ปน รโญฺญ ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ ปณฺฑิโต วิยโตฺต เมธาวี ปฐโม วา ทุติโย วา สุชํ ปคฺคณฺหนฺตานํฯ อิมินาเปตํ ภวํ ราชา ชานาตุ, ยชตํ ภวํ, สชฺชตํ ภวํ, โมทตํ ภวํ, จิตฺตเมว ภวํ อนฺตรํ ปสาเทตูติฯ อิเมหิ โข, พฺราหฺมณ, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ รโญฺญ มหาวิชิตสฺส มหายญฺญํ ยชมานสฺส โสฬสหิ อากาเรหิ จิตฺตํ สนฺทเสฺสสิ สมาทเปสิ สมุเตฺตเชสิ สมฺปหํเสสิฯ
‘‘Siyā kho pana bhoto rañño mahāyaññaṃ yajamānassa kocideva vattā – ‘rājā kho mahāvijito mahāyaññaṃ yajati. No ca khvassa purohito brāhmaṇo ajjhāyako mantadharo tiṇṇaṃ vedānaṃ pāragū sanighaṇḍukeṭubhānaṃ sākkharappabhedānaṃ itihāsapañcamānaṃ padako veyyākaraṇo lokāyatamahāpurisalakkhaṇesu anavayo…pe… no ca khvassa purohito brāhmaṇo sīlavā vuddhasīlī vuddhasīlena samannāgato…pe… no ca khvassa purohito brāhmaṇo paṇḍito viyatto medhāvī paṭhamo vā dutiyo vā sujaṃ paggaṇhantānaṃ, atha ca pana bhavaṃ rājā evarūpaṃ mahāyaññaṃ yajatī’ti. Evampi bhoto rañño vattā dhammato natthi. Bhoto kho pana rañño purohito brāhmaṇo paṇḍito viyatto medhāvī paṭhamo vā dutiyo vā sujaṃ paggaṇhantānaṃ. Imināpetaṃ bhavaṃ rājā jānātu, yajataṃ bhavaṃ, sajjataṃ bhavaṃ, modataṃ bhavaṃ, cittameva bhavaṃ antaraṃ pasādetūti. Imehi kho, brāhmaṇa, purohito brāhmaṇo rañño mahāvijitassa mahāyaññaṃ yajamānassa soḷasahi ākārehi cittaṃ sandassesi samādapesi samuttejesi sampahaṃsesi.
๓๔๕. ‘‘ตสฺมิํ โข, พฺราหฺมณ, ยเญฺญ เนว คาโว หญฺญิํสุ, น อเชฬกา หญฺญิํสุ, น กุกฺกุฎสูกรา หญฺญิํสุ, น วิวิธา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชิํสุ, น รุกฺขา ฉิชฺชิํสุ ยูปตฺถาย, น ทพฺภา ลูยิํสุ พริหิสตฺถาย 7ฯ เยปิสฺส อเหสุํ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ น ทณฺฑตชฺชิตา น ภยตชฺชิตา น อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ อกํสุฯ อถ โข เย อิจฺฉิํสุ, เต อกํสุ, เย น อิจฺฉิํสุ, น เต อกํสุ; ยํ อิจฺฉิํสุ, ตํ อกํสุ, ยํ น อิจฺฉิํสุ, น ตํ อกํสุฯ สปฺปิเตลนวนีตทธิมธุผาณิเตน เจว โส ยโญฺญ นิฎฺฐานมคมาสิฯ
345. ‘‘Tasmiṃ kho, brāhmaṇa, yaññe neva gāvo haññiṃsu, na ajeḷakā haññiṃsu, na kukkuṭasūkarā haññiṃsu, na vividhā pāṇā saṃghātaṃ āpajjiṃsu, na rukkhā chijjiṃsu yūpatthāya, na dabbhā lūyiṃsu barihisatthāya 8. Yepissa ahesuṃ dāsāti vā pessāti vā kammakarāti vā, tepi na daṇḍatajjitā na bhayatajjitā na assumukhā rudamānā parikammāni akaṃsu. Atha kho ye icchiṃsu, te akaṃsu, ye na icchiṃsu, na te akaṃsu; yaṃ icchiṃsu, taṃ akaṃsu, yaṃ na icchiṃsu, na taṃ akaṃsu. Sappitelanavanītadadhimadhuphāṇitena ceva so yañño niṭṭhānamagamāsi.
๓๔๖. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ, อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ, พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ, คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ ปหูตํ สาปเตยฺยํ อาทาย ราชานํ มหาวิชิตํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อิทํ, เทว, ปหูตํ สาปเตยฺยํ เทวเญฺญว อุทฺทิสฺสาภตํ, ตํ เทโว ปฎิคฺคณฺหาตู’ติฯ ‘อลํ, โภ, มมาปิทํ ปหูตํ สาปเตยฺยํ ธมฺมิเกน พลินา อภิสงฺขตํ; ตญฺจ โว โหตุ, อิโต จ ภิโยฺย หรถา’ติฯ เต รญฺญา ปฎิกฺขิตฺตา เอกมนฺตํ อปกฺกมฺม เอวํ สมจิเนฺตสุํ – ‘น โข เอตํ อมฺหากํ ปติรูปํ, ยํ มยํ อิมานิ สาปเตยฺยานิ ปุนเทว สกานิ ฆรานิ ปฎิหเรยฺยามฯ ราชา โข มหาวิชิโต มหายญฺญํ ยชติ, หนฺทสฺส มยํ อนุยาคิโน โหมา’ติฯ
346. ‘‘Atha kho, brāhmaṇa, khattiyā ānuyantā negamā ceva jānapadā ca, amaccā pārisajjā negamā ceva jānapadā ca, brāhmaṇamahāsālā negamā ceva jānapadā ca, gahapatinecayikā negamā ceva jānapadā ca pahūtaṃ sāpateyyaṃ ādāya rājānaṃ mahāvijitaṃ upasaṅkamitvā evamāhaṃsu – ‘idaṃ, deva, pahūtaṃ sāpateyyaṃ devaññeva uddissābhataṃ, taṃ devo paṭiggaṇhātū’ti. ‘Alaṃ, bho, mamāpidaṃ pahūtaṃ sāpateyyaṃ dhammikena balinā abhisaṅkhataṃ; tañca vo hotu, ito ca bhiyyo harathā’ti. Te raññā paṭikkhittā ekamantaṃ apakkamma evaṃ samacintesuṃ – ‘na kho etaṃ amhākaṃ patirūpaṃ, yaṃ mayaṃ imāni sāpateyyāni punadeva sakāni gharāni paṭihareyyāma. Rājā kho mahāvijito mahāyaññaṃ yajati, handassa mayaṃ anuyāgino homā’ti.
๓๔๗. ‘‘อถ โข, พฺราหฺมณ, ปุรตฺถิเมน ยญฺญวาฎสฺส 9 ขตฺติยา อานุยนฺตา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฎฺฐเปสุํฯ ทกฺขิเณน ยญฺญวาฎสฺส อมจฺจา ปาริสชฺชา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฎฺฐเปสุํฯ ปจฺฉิเมน ยญฺญวาฎสฺส พฺราหฺมณมหาสาลา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฎฺฐเปสุํฯ อุตฺตเรน ยญฺญวาฎสฺส คหปติเนจยิกา เนคมา เจว ชานปทา จ ทานานิ ปฎฺฐเปสุํฯ
347. ‘‘Atha kho, brāhmaṇa, puratthimena yaññavāṭassa 10 khattiyā ānuyantā negamā ceva jānapadā ca dānāni paṭṭhapesuṃ. Dakkhiṇena yaññavāṭassa amaccā pārisajjā negamā ceva jānapadā ca dānāni paṭṭhapesuṃ. Pacchimena yaññavāṭassa brāhmaṇamahāsālā negamā ceva jānapadā ca dānāni paṭṭhapesuṃ. Uttarena yaññavāṭassa gahapatinecayikā negamā ceva jānapadā ca dānāni paṭṭhapesuṃ.
‘‘เตสุปิ โข, พฺราหฺมณ, ยเญฺญสุ เนว คาโว หญฺญิํสุ, น อเชฬกา หญฺญิํสุ, น กุกฺกุฎสูกรา หญฺญิํสุ, น วิวิธา ปาณา สํฆาตํ อาปชฺชิํสุ, น รุกฺขา ฉิชฺชิํสุ ยูปตฺถาย, น ทพฺภา ลูยิํสุ พริหิสตฺถายฯ เยปิ เนสํ อเหสุํ ทาสาติ วา เปสฺสาติ วา กมฺมกราติ วา, เตปิ น ทณฺฑตชฺชิตา น ภยตชฺชิตา น อสฺสุมุขา รุทมานา ปริกมฺมานิ อกํสุฯ อถ โข เย อิจฺฉิํสุ, เต อกํสุ, เย น อิจฺฉิํสุ, น เต อกํสุ; ยํ อิจฺฉิํสุ, ตํ อกํสุ, ยํ น อิจฺฉิํสุ น ตํ อกํสุฯ สปฺปิเตลนวนีตทธิมธุผาณิเตน เจว เต ยญฺญา นิฎฺฐานมคมํสุฯ
‘‘Tesupi kho, brāhmaṇa, yaññesu neva gāvo haññiṃsu, na ajeḷakā haññiṃsu, na kukkuṭasūkarā haññiṃsu, na vividhā pāṇā saṃghātaṃ āpajjiṃsu, na rukkhā chijjiṃsu yūpatthāya, na dabbhā lūyiṃsu barihisatthāya. Yepi nesaṃ ahesuṃ dāsāti vā pessāti vā kammakarāti vā, tepi na daṇḍatajjitā na bhayatajjitā na assumukhā rudamānā parikammāni akaṃsu. Atha kho ye icchiṃsu, te akaṃsu, ye na icchiṃsu, na te akaṃsu; yaṃ icchiṃsu, taṃ akaṃsu, yaṃ na icchiṃsu na taṃ akaṃsu. Sappitelanavanītadadhimadhuphāṇitena ceva te yaññā niṭṭhānamagamaṃsu.
‘‘อิติ จตฺตาโร จ อนุมติปกฺขา, ราชา มหาวิชิโต อฎฺฐหเงฺคหิ สมนฺนาคโต, ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ จตูหเงฺคหิ สมนฺนาคโต; ติโสฺส จ วิธา อยํ วุจฺจติ พฺราหฺมณ ติวิธา ยญฺญสมฺปทา โสฬสปริกฺขารา’’ติฯ
‘‘Iti cattāro ca anumatipakkhā, rājā mahāvijito aṭṭhahaṅgehi samannāgato, purohito brāhmaṇo catūhaṅgehi samannāgato; tisso ca vidhā ayaṃ vuccati brāhmaṇa tividhā yaññasampadā soḷasaparikkhārā’’ti.
๓๔๘. เอวํ วุเตฺต, เต พฺราหฺมณา อุนฺนาทิโน อุจฺจาสทฺทมหาสทฺทา อเหสุํ – ‘‘อโห ยโญฺญ, อโห ยญฺญสมฺปทา’’ติ! กูฎทโนฺต ปน พฺราหฺมโณ ตูณฺหีภูโตว นิสิโนฺน โหติฯ อถ โข เต พฺราหฺมณา กูฎทนฺตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจุํ – ‘‘กสฺมา ปน ภวํ กูฎทโนฺต สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมทตี’’ติ? ‘‘นาหํ, โภ, สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมทามิฯ มุทฺธาปิ ตสฺส วิปเตยฺย, โย สมณสฺส โคตมสฺส สุภาสิตํ สุภาสิตโต นาพฺภนุโมเทยฺยฯ อปิ จ เม, โภ, เอวํ โหติ – สมโณ โคตโม น เอวมาห – ‘เอวํ เม สุต’นฺติ วา ‘เอวํ อรหติ ภวิตุ’นฺติ วา; อปิ จ สมโณ โคตโม – ‘เอวํ ตทา อาสิ, อิตฺถํ ตทา อาสิ’ เตฺวว ภาสติฯ ตสฺส มยฺหํ โภ เอวํ โหติ – ‘อทฺธา สมโณ โคตโม เตน สมเยน ราชา วา อโหสิ มหาวิชิโต ยญฺญสฺสามิ ปุโรหิโต วา พฺราหฺมโณ ตสฺส ยญฺญสฺส ยาเชตา’ติฯ อภิชานาติ ปน ภวํ โคตโม เอวรูปํ ยญฺญํ ยชิตฺวา วา ยาเชตฺวา วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิตาติ’’? ‘‘อภิชานามหํ, พฺราหฺมณ, เอวรูปํ ยญฺญํ ยชิตฺวา วา ยาเชตฺวา วา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชิตา, อหํ เตน สมเยน ปุโรหิโต พฺราหฺมโณ อโหสิํ ตสฺส ยญฺญสฺส ยาเชตา’’ติฯ
348. Evaṃ vutte, te brāhmaṇā unnādino uccāsaddamahāsaddā ahesuṃ – ‘‘aho yañño, aho yaññasampadā’’ti! Kūṭadanto pana brāhmaṇo tūṇhībhūtova nisinno hoti. Atha kho te brāhmaṇā kūṭadantaṃ brāhmaṇaṃ etadavocuṃ – ‘‘kasmā pana bhavaṃ kūṭadanto samaṇassa gotamassa subhāsitaṃ subhāsitato nābbhanumodatī’’ti? ‘‘Nāhaṃ, bho, samaṇassa gotamassa subhāsitaṃ subhāsitato nābbhanumodāmi. Muddhāpi tassa vipateyya, yo samaṇassa gotamassa subhāsitaṃ subhāsitato nābbhanumodeyya. Api ca me, bho, evaṃ hoti – samaṇo gotamo na evamāha – ‘evaṃ me suta’nti vā ‘evaṃ arahati bhavitu’nti vā; api ca samaṇo gotamo – ‘evaṃ tadā āsi, itthaṃ tadā āsi’ tveva bhāsati. Tassa mayhaṃ bho evaṃ hoti – ‘addhā samaṇo gotamo tena samayena rājā vā ahosi mahāvijito yaññassāmi purohito vā brāhmaṇo tassa yaññassa yājetā’ti. Abhijānāti pana bhavaṃ gotamo evarūpaṃ yaññaṃ yajitvā vā yājetvā vā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjitāti’’? ‘‘Abhijānāmahaṃ, brāhmaṇa, evarūpaṃ yaññaṃ yajitvā vā yājetvā vā kāyassa bhedā paraṃ maraṇā sugatiṃ saggaṃ lokaṃ upapajjitā, ahaṃ tena samayena purohito brāhmaṇo ahosiṃ tassa yaññassa yājetā’’ti.
นิจฺจทานอนุกุลยญฺญํ
Niccadānaanukulayaññaṃ
‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Atthi kho, brāhmaṇa, añño yañño imāya tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยโญฺญ อิมาย ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
‘‘Katamo pana so, bho gotama, yañño imāya tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘ยานิ โข ปน ตานิ, พฺราหฺมณ, นิจฺจทานานิ อนุกุลยญฺญานิ สีลวเนฺต ปพฺพชิเต อุทฺทิสฺส ทิยฺยนฺติ; อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยโญฺญ อิมาย ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Yāni kho pana tāni, brāhmaṇa, niccadānāni anukulayaññāni sīlavante pabbajite uddissa diyyanti; ayaṃ kho, brāhmaṇa, yañño imāya tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน ตํ นิจฺจทานํ อนุกุลยญฺญํ อิมาย ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฎฺฐตรญฺจ อปฺปสมารมฺภตรญฺจ มหปฺผลตรญฺจ มหานิสํสตรญฺจา’’ติ ?
‘‘Ko nu kho, bho gotama, hetu ko paccayo, yena taṃ niccadānaṃ anukulayaññaṃ imāya tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya appaṭṭhatarañca appasamārambhatarañca mahapphalatarañca mahānisaṃsatarañcā’’ti ?
‘‘น โข, พฺราหฺมณ, เอวรูปํ ยญฺญํ อุปสงฺกมนฺติ อรหโนฺต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ทิสฺสนฺติ เหตฺถ, พฺราหฺมณ, ทณฺฑปฺปหาราปิ คลคฺคหาปิ, ตสฺมา เอวรูปํ ยญฺญํ น อุปสงฺกมนฺติ อรหโนฺต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนาฯ ยานิ โข ปน ตานิ, พฺราหฺมณ, นิจฺจทานานิ อนุกุลยญฺญานิ สีลวเนฺต ปพฺพชิเต อุทฺทิสฺส ทิยฺยนฺติ; เอวรูปํ โข, พฺราหฺมณ, ยญฺญํ อุปสงฺกมนฺติ อรหโนฺต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนาฯ ตํ กิสฺส เหตุ? น เหตฺถ, พฺราหฺมณ, ทิสฺสนฺติ ทณฺฑปฺปหาราปิ คลคฺคหาปิ, ตสฺมา เอวรูปํ ยญฺญํ อุปสงฺกมนฺติ อรหโนฺต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนาฯ อยํ โข, พฺราหฺมณ, เหตุ อยํ ปจฺจโย, เยน ตํ นิจฺจทานํ อนุกุลยญฺญํ อิมาย ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อปฺปฎฺฐตรญฺจ อปฺปสมารมฺภตรญฺจ มหปฺผลตรญฺจ มหานิสํสตรญฺจา’’ติฯ
‘‘Na kho, brāhmaṇa, evarūpaṃ yaññaṃ upasaṅkamanti arahanto vā arahattamaggaṃ vā samāpannā. Taṃ kissa hetu? Dissanti hettha, brāhmaṇa, daṇḍappahārāpi galaggahāpi, tasmā evarūpaṃ yaññaṃ na upasaṅkamanti arahanto vā arahattamaggaṃ vā samāpannā. Yāni kho pana tāni, brāhmaṇa, niccadānāni anukulayaññāni sīlavante pabbajite uddissa diyyanti; evarūpaṃ kho, brāhmaṇa, yaññaṃ upasaṅkamanti arahanto vā arahattamaggaṃ vā samāpannā. Taṃ kissa hetu? Na hettha, brāhmaṇa, dissanti daṇḍappahārāpi galaggahāpi, tasmā evarūpaṃ yaññaṃ upasaṅkamanti arahanto vā arahattamaggaṃ vā samāpannā. Ayaṃ kho, brāhmaṇa, hetu ayaṃ paccayo, yena taṃ niccadānaṃ anukulayaññaṃ imāya tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya appaṭṭhatarañca appasamārambhatarañca mahapphalatarañca mahānisaṃsatarañcā’’ti.
๓๕๐. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
350. ‘‘Atthi pana, bho gotama, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Atthi kho, brāhmaṇa, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
‘‘Katamo pana so, bho gotama, yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘โย โข, พฺราหฺมณ, จาตุทฺทิสํ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส วิหารํ กโรติ, อยํ โข , พฺราหฺมณ, ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Yo kho, brāhmaṇa, cātuddisaṃ saṅghaṃ uddissa vihāraṃ karoti, ayaṃ kho , brāhmaṇa, yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
๓๕๑. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
351. ‘‘Atthi pana, bho gotama, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Atthi kho, brāhmaṇa, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
‘‘Katamo pana so, bho gotama, yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘โย โข, พฺราหฺมณ, ปสนฺนจิโตฺต พุทฺธํ สรณํ คจฺฉติ, ธมฺมํ สรณํ คจฺฉติ, สงฺฆํ สรณํ คจฺฉติ; อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Yo kho, brāhmaṇa, pasannacitto buddhaṃ saraṇaṃ gacchati, dhammaṃ saraṇaṃ gacchati, saṅghaṃ saraṇaṃ gacchati; ayaṃ kho, brāhmaṇa, yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
๓๕๒. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
352. ‘‘Atthi pana, bho gotama, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena imehi ca saraṇagamanehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Atthi kho, brāhmaṇa, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena imehi ca saraṇagamanehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
‘‘Katamo pana so, bho gotama, yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena imehi ca saraṇagamanehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘โย โข, พฺราหฺมณ, ปสนฺนจิโตฺต สิกฺขาปทานิ สมาทิยติ – ปาณาติปาตา เวรมณิํ, อทินฺนาทานา เวรมณิํ, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณิํ, มุสาวาทา เวรมณิํ, สุราเมรยมชฺชปมาทฎฺฐานา เวรมณิํฯ อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Yo kho, brāhmaṇa, pasannacitto sikkhāpadāni samādiyati – pāṇātipātā veramaṇiṃ, adinnādānā veramaṇiṃ, kāmesumicchācārā veramaṇiṃ, musāvādā veramaṇiṃ, surāmerayamajjapamādaṭṭhānā veramaṇiṃ. Ayaṃ kho, brāhmaṇa, yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena imehi ca saraṇagamanehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
๓๕๓. ‘‘อตฺถิ ปน, โภ โคตม, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อิเมหิ จ สิกฺขาปเทหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
353. ‘‘Atthi pana, bho gotama, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena imehi ca saraṇagamanehi imehi ca sikkhāpadehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘อตฺถิ โข, พฺราหฺมณ, อโญฺญ ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อิเมหิ จ สิกฺขาปเทหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติฯ
‘‘Atthi kho, brāhmaṇa, añño yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena imehi ca saraṇagamanehi imehi ca sikkhāpadehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti.
‘‘กตโม ปน โส, โภ โคตม, ยโญฺญ อิมาย จ ติวิธาย ยญฺญสมฺปทาย โสฬสปริกฺขาราย อิมินา จ นิจฺจทาเนน อนุกุลยเญฺญน อิมินา จ วิหารทาเนน อิเมหิ จ สรณคมเนหิ อิเมหิ จ สิกฺขาปเทหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จา’’ติ?
‘‘Katamo pana so, bho gotama, yañño imāya ca tividhāya yaññasampadāya soḷasaparikkhārāya iminā ca niccadānena anukulayaññena iminā ca vihāradānena imehi ca saraṇagamanehi imehi ca sikkhāpadehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cā’’ti?
‘‘อิธ, พฺราหฺมณ, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ…เป.… (ยถา ๑๙๐-๒๑๒ อนุเจฺฉเทสุ, เอวํ วิตฺถาเรตพฺพํ)ฯ เอวํ โข, พฺราหฺมณ, ภิกฺขุ สีลสมฺปโนฺน โหติ…เป.… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ โข, พฺราหฺมณ, ยโญฺญ ปุริเมหิ ยเญฺญหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จ…เป.… ทุติยํ ฌานํ…เป.… ตติยํ ฌานํ…เป.… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ยโญฺญ ปุริเมหิ ยเญฺญหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จาติฯ ญาณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ…เป.… อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ยโญฺญ ปุริเมหิ ยเญฺญหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จ…เป.… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติฯ อยมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, ยโญฺญ ปุริเมหิ ยเญฺญหิ อปฺปฎฺฐตโร จ อปฺปสมารมฺภตโร จ มหปฺผลตโร จ มหานิสํสตโร จฯ อิมาย จ, พฺราหฺมณ, ยญฺญสมฺปทาย อญฺญา ยญฺญสมฺปทา อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถี’’ติฯ
‘‘Idha, brāhmaṇa, tathāgato loke uppajjati arahaṃ sammāsambuddho…pe… (yathā 190-212 anucchedesu, evaṃ vitthāretabbaṃ). Evaṃ kho, brāhmaṇa, bhikkhu sīlasampanno hoti…pe… paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ kho, brāhmaṇa, yañño purimehi yaññehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro ca…pe… dutiyaṃ jhānaṃ…pe… tatiyaṃ jhānaṃ…pe… catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ayampi kho, brāhmaṇa, yañño purimehi yaññehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro cāti. Ñāṇadassanāya cittaṃ abhinīharati abhininnāmeti…pe… ayampi kho, brāhmaṇa, yañño purimehi yaññehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro ca…pe… nāparaṃ itthattāyāti pajānāti. Ayampi kho, brāhmaṇa, yañño purimehi yaññehi appaṭṭhataro ca appasamārambhataro ca mahapphalataro ca mahānisaṃsataro ca. Imāya ca, brāhmaṇa, yaññasampadāya aññā yaññasampadā uttaritarā vā paṇītatarā vā natthī’’ti.
กูฎทนฺตอุปาสกตฺตปฎิเวทนา
Kūṭadantaupāsakattapaṭivedanā
๓๕๔. เอวํ วุเตฺต, กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม, อภิกฺกนฺตํ, โภ โคตม! เสยฺยถาปิ โภ โคตม, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุเชฺชยฺย, ปฎิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิเกฺขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปโชฺชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมโนฺต รูปานิ ทกฺขนฺตี’ติ; เอวเมวํ โภตา โคตเมน อเนกปริยาเยน ธโมฺม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ โคตมํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ โคตโม ธาเรตุ อชฺชตเคฺค ปาณุเปตํ สรณํ คตํฯ เอสาหํ โภ โคตม สตฺต จ อุสภสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรสตานิ สตฺต จ วจฺฉตรีสตานิ สตฺต จ อชสตานิ สตฺต จ อุรพฺภสตานิ มุญฺจามิ, ชีวิตํ เทมิ, หริตานิ เจว ติณานิ ขาทนฺตุ, สีตานิ จ ปานียานิ ปิวนฺตุ, สีโต จ เนสํ วาโต อุปวายตู’’ติฯ
354. Evaṃ vutte, kūṭadanto brāhmaṇo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘abhikkantaṃ, bho gotama, abhikkantaṃ, bho gotama! Seyyathāpi bho gotama, nikkujjitaṃ vā ukkujjeyya, paṭicchannaṃ vā vivareyya, mūḷhassa vā maggaṃ ācikkheyya, andhakāre vā telapajjotaṃ dhāreyya ‘cakkhumanto rūpāni dakkhantī’ti; evamevaṃ bhotā gotamena anekapariyāyena dhammo pakāsito. Esāhaṃ bhavantaṃ gotamaṃ saraṇaṃ gacchāmi dhammañca bhikkhusaṅghañca. Upāsakaṃ maṃ bhavaṃ gotamo dhāretu ajjatagge pāṇupetaṃ saraṇaṃ gataṃ. Esāhaṃ bho gotama satta ca usabhasatāni satta ca vacchatarasatāni satta ca vacchatarīsatāni satta ca ajasatāni satta ca urabbhasatāni muñcāmi, jīvitaṃ demi, haritāni ceva tiṇāni khādantu, sītāni ca pānīyāni pivantu, sīto ca nesaṃ vāto upavāyatū’’ti.
โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยา
Sotāpattiphalasacchikiriyā
๓๕๕. อถ โข ภควา กูฎทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส อนุปุพฺพิํ กถํ กเถสิ, เสยฺยถิทํ, ทานกถํ สีลกถํ สคฺคกถํ; กามานํ อาทีนวํ โอการํ สํกิเลสํ เนกฺขเมฺม อานิสํสํ ปกาเสสิฯ ยทา ภควา อญฺญาสิ กูฎทนฺตํ พฺราหฺมณํ กลฺลจิตฺตํ มุทุจิตฺตํ วินีวรณจิตฺตํ อุทคฺคจิตฺตํ ปสนฺนจิตฺตํ, อถ ยา พุทฺธานํ สามุกฺกํสิกา ธมฺมเทสนา, ตํ ปกาเสสิ – ทุกฺขํ สมุทยํ นิโรธํ มคฺคํฯ เสยฺยถาปิ นาม สุทฺธํ วตฺถํ อปคตกาฬกํ สมฺมเทว รชนํ ปฎิคฺคเณฺหยฺย, เอวเมว กูฎทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ตสฺมิเญฺญว อาสเน วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ – ‘‘ยํ กิญฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติฯ
355. Atha kho bhagavā kūṭadantassa brāhmaṇassa anupubbiṃ kathaṃ kathesi, seyyathidaṃ, dānakathaṃ sīlakathaṃ saggakathaṃ; kāmānaṃ ādīnavaṃ okāraṃ saṃkilesaṃ nekkhamme ānisaṃsaṃ pakāsesi. Yadā bhagavā aññāsi kūṭadantaṃ brāhmaṇaṃ kallacittaṃ muducittaṃ vinīvaraṇacittaṃ udaggacittaṃ pasannacittaṃ, atha yā buddhānaṃ sāmukkaṃsikā dhammadesanā, taṃ pakāsesi – dukkhaṃ samudayaṃ nirodhaṃ maggaṃ. Seyyathāpi nāma suddhaṃ vatthaṃ apagatakāḷakaṃ sammadeva rajanaṃ paṭiggaṇheyya, evameva kūṭadantassa brāhmaṇassa tasmiññeva āsane virajaṃ vītamalaṃ dhammacakkhuṃ udapādi – ‘‘yaṃ kiñci samudayadhammaṃ, sabbaṃ taṃ nirodhadhamma’’nti.
๓๕๖. อถ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ทิฎฺฐธโมฺม ปตฺตธโมฺม วิทิตธโมฺม ปริโยคาฬฺหธโมฺม ติณฺณวิจิกิโจฺฉ วิคตกถํกโถ เวสารชฺชปฺปโตฺต อปรปฺปจฺจโย สตฺถุสาสเน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อธิวาเสตุ เม ภวํ โคตโม สฺวาตนาย ภตฺตํ สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆนา’’ติฯ อธิวาเสสิ ภควา ตุณฺหีภาเวนฯ
356. Atha kho kūṭadanto brāhmaṇo diṭṭhadhammo pattadhammo viditadhammo pariyogāḷhadhammo tiṇṇavicikiccho vigatakathaṃkatho vesārajjappatto aparappaccayo satthusāsane bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘adhivāsetu me bhavaṃ gotamo svātanāya bhattaṃ saddhiṃ bhikkhusaṅghenā’’ti. Adhivāsesi bhagavā tuṇhībhāvena.
๓๕๗. อถ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ภควโต อธิวาสนํ วิทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน สเก ยญฺญวาเฎ ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฎิยาทาเปตฺวา ภควโต กาลํ อาโรจาเปสิ – ‘‘กาโล, โภ โคตม; นิฎฺฐิตํ ภตฺต’’นฺติฯ
357. Atha kho kūṭadanto brāhmaṇo bhagavato adhivāsanaṃ viditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho kūṭadanto brāhmaṇo tassā rattiyā accayena sake yaññavāṭe paṇītaṃ khādanīyaṃ bhojanīyaṃ paṭiyādāpetvā bhagavato kālaṃ ārocāpesi – ‘‘kālo, bho gotama; niṭṭhitaṃ bhatta’’nti.
๓๕๘. อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย สทฺธิํ ภิกฺขุสเงฺฆน เยน กูฎทนฺตสฺส พฺราหฺมณสฺส ยญฺญวาโฎ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ
358. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya saddhiṃ bhikkhusaṅghena yena kūṭadantassa brāhmaṇassa yaññavāṭo tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi.
อถ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ พุทฺธปฺปมุขํ ภิกฺขุสงฺฆํ ปณีเตน ขาทนีเยน โภชนีเยน สหตฺถา สนฺตเปฺปสิ สมฺปวาเรสิฯ อถ โข กูฎทโนฺต พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ ภุตฺตาวิํ โอนีตปตฺตปาณิํ อญฺญตรํ นีจํ อาสนํ คเหตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข กูฎทนฺตํ พฺราหฺมณํ ภควา ธมฺมิยา กถาย สนฺทเสฺสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุเตฺตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามีติฯ
Atha kho kūṭadanto brāhmaṇo buddhappamukhaṃ bhikkhusaṅghaṃ paṇītena khādanīyena bhojanīyena sahatthā santappesi sampavāresi. Atha kho kūṭadanto brāhmaṇo bhagavantaṃ bhuttāviṃ onītapattapāṇiṃ aññataraṃ nīcaṃ āsanaṃ gahetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinnaṃ kho kūṭadantaṃ brāhmaṇaṃ bhagavā dhammiyā kathāya sandassetvā samādapetvā samuttejetvā sampahaṃsetvā uṭṭhāyāsanā pakkāmīti.
กูฎทนฺตสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ปญฺจมํฯ
Kūṭadantasuttaṃ niṭṭhitaṃ pañcamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ทีฆ นิกาย (อฎฺฐกถา) • Dīgha nikāya (aṭṭhakathā) / ๕. กูฎทนฺตสุตฺตวณฺณนา • 5. Kūṭadantasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ทีฆนิกาย (ฎีกา) • Dīghanikāya (ṭīkā) / ๕. กูฎทนฺตสุตฺตวณฺณนา • 5. Kūṭadantasuttavaṇṇanā