Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณปาฬิ • Nettippakaraṇapāḷi |
๕. ลกฺขณหารวิภโงฺค
5. Lakkhaṇahāravibhaṅgo
๒๓. ตตฺถ กตโม ลกฺขโณ หาโร? ‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธเมฺม’’ติ, อยํ ลกฺขโณ หาโรฯ กิํ ลกฺขยติ? เย ธมฺมา เอกลกฺขณา, เตสํ ธมฺมานํ เอกสฺมิํ ธเมฺม วุเตฺต อวสิฎฺฐา ธมฺมา วุตฺตา ภวนฺติฯ ยถา กิํ ภเว? ยถาห ภควา –
23. Tattha katamo lakkhaṇo hāro? ‘‘Vuttamhi ekadhamme’’ti, ayaṃ lakkhaṇo hāro. Kiṃ lakkhayati? Ye dhammā ekalakkhaṇā, tesaṃ dhammānaṃ ekasmiṃ dhamme vutte avasiṭṭhā dhammā vuttā bhavanti. Yathā kiṃ bhave? Yathāha bhagavā –
‘‘จกฺขุํ , ภิกฺขเว, อนวฎฺฐิตํ อิตฺตรํ ปริตฺตํ ปภงฺคุ ปรโต ทุกฺขํ พฺยสนํ จลนํ 1 กุกฺกุฬํ สงฺขารํ 2 วธกํ อมิตฺตมเชฺฌฯ อิมสฺมิํ จกฺขุสฺมิํ วุเตฺต อวสิฎฺฐานิ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ วุตฺตานิ ภวนฺติฯ เกน การเณน? สพฺพานิ หิ ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ วธกเฎฺฐน เอกลกฺขณานิฯ ยถา จาห ภควา –
‘‘Cakkhuṃ , bhikkhave, anavaṭṭhitaṃ ittaraṃ parittaṃ pabhaṅgu parato dukkhaṃ byasanaṃ calanaṃ 3 kukkuḷaṃ saṅkhāraṃ 4 vadhakaṃ amittamajjhe. Imasmiṃ cakkhusmiṃ vutte avasiṭṭhāni ajjhattikāni āyatanāni vuttāni bhavanti. Kena kāraṇena? Sabbāni hi cha ajjhattikāni āyatanāni vadhakaṭṭhena ekalakkhaṇāni. Yathā cāha bhagavā –
‘‘อตีเต , ราธ, รูเป อนเปโกฺข โหหิ, อนาคตํ รูปํ มา อภินนฺทิ 5, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส รูปสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย จาคาย ปฎินิสฺสคฺคาย ปฎิปชฺชฯ อิมสฺมิํ รูปกฺขเนฺธ วุเตฺต อวสิฎฺฐา ขนฺธา วุตฺตา ภวนฺติฯ เกน การเณน? สเพฺพ หิ ปญฺจกฺขนฺธา ยมโกวาทสุเตฺต 6 วธกเฎฺฐน เอกลกฺขณา วุตฺตาฯ ยถา จาห ภควา –
‘‘Atīte , rādha, rūpe anapekkho hohi, anāgataṃ rūpaṃ mā abhinandi 7, paccuppannassa rūpassa nibbidāya virāgāya nirodhāya cāgāya paṭinissaggāya paṭipajja. Imasmiṃ rūpakkhandhe vutte avasiṭṭhā khandhā vuttā bhavanti. Kena kāraṇena? Sabbe hi pañcakkhandhā yamakovādasutte 8 vadhakaṭṭhena ekalakkhaṇā vuttā. Yathā cāha bhagavā –
อกิจฺจํ เต น เสวนฺติ, กิเจฺจ สาตจฺจการิโน’’ฯ
Akiccaṃ te na sevanti, kicce sātaccakārino’’.
อิติ กายคตาย สติยา วุตฺตาย วุตฺตา ภวนฺติ เวทนาคตา สติ จิตฺตคตา ธมฺมคตา จฯ ตถา ยํ กิญฺจิ ทิฎฺฐํ วา สุตํ วา มุตํ วาติ วุเตฺต วุตฺตํ ภวติ วิญฺญาตํฯ ยถา จาห ภควา –
Iti kāyagatāya satiyā vuttāya vuttā bhavanti vedanāgatā sati cittagatā dhammagatā ca. Tathā yaṃ kiñci diṭṭhaṃ vā sutaṃ vā mutaṃ vāti vutte vuttaṃ bhavati viññātaṃ. Yathā cāha bhagavā –
ตสฺมาติห ตฺวํ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหราหิ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํฯ ‘‘อาตาปี’’ติ วีริยินฺทฺริยํ, ‘‘สมฺปชาโน’’ติ ปญฺญินฺทฺริยํ, ‘‘สติมา’’ติ สตินฺทฺริยํ, ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติ สมาธินฺทฺริยํ, เอวํ กาเย กายานุปสฺสิโน วิหรโต จตฺตาโร สติปฎฺฐานา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ เกน การเณน, เอกลกฺขณตฺตา จตุนฺนํ อินฺทฺริยานํฯ
Tasmātiha tvaṃ bhikkhu kāye kāyānupassī viharāhi ātāpī sampajāno satimā vineyya loke abhijjhādomanassaṃ. ‘‘Ātāpī’’ti vīriyindriyaṃ, ‘‘sampajāno’’ti paññindriyaṃ, ‘‘satimā’’ti satindriyaṃ, ‘‘vineyya loke abhijjhādomanassa’’nti samādhindriyaṃ, evaṃ kāye kāyānupassino viharato cattāro satipaṭṭhānā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Kena kāraṇena, ekalakkhaṇattā catunnaṃ indriyānaṃ.
๒๔. จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติ, จตูสุ สมฺมปฺปธาเนสุ ภาวิยมาเนสุ จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ภาวิยมาเนสุ ปญฺจินฺทฺริยานิ ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติ, จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติ, ปญฺจสุ อินฺทฺริเยสุ ภาวิยมาเนสุ ปญฺจ พลานิ ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติ, ปญฺจสุ พเลสุ ภาวิยมาเนสุ สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติ, สตฺตสุ โพชฺฌเงฺคสุ ภาวิยมาเนสุ อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉติ, สเพฺพว 11 โพธงฺคมา ธมฺมา โพธิปกฺขิยา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติ ฯ เกน การเณน, สเพฺพ หิ โพธงฺคมา โพธิปกฺขิยา เนยฺยานิกลกฺขเณน เอกลกฺขณา, เต เอกลกฺขณตฺตา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ
24. Catūsu satipaṭṭhānesu bhāviyamānesu cattāro sammappadhānā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti, catūsu sammappadhānesu bhāviyamānesu cattāro iddhipādā bhāviyamānesu pañcindriyāni bhāvanāpāripūriṃ gacchanti, catūsu iddhipādesu bhāvanāpāripūriṃ gacchanti, pañcasu indriyesu bhāviyamānesu pañca balāni bhāvanāpāripūriṃ gacchanti, pañcasu balesu bhāviyamānesu satta bojjhaṅgā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti, sattasu bojjhaṅgesu bhāviyamānesu ariyo aṭṭhaṅgiko maggo bhāvanāpāripūriṃ gacchati, sabbeva 12 bodhaṅgamā dhammā bodhipakkhiyā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti . Kena kāraṇena, sabbe hi bodhaṅgamā bodhipakkhiyā neyyānikalakkhaṇena ekalakkhaṇā, te ekalakkhaṇattā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.
เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณตฺตา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ จตูสุ สติปฎฺฐาเนสุ ภาวิยมาเนสุ วิปลฺลาสา ปหียนฺติ, อาหารา จสฺส ปริญฺญํ คจฺฉนฺติ, อุปาทาเนหิ อนุปาทาโน ภวติ, โยเคหิ จ วิสํยุโตฺต ภวติ, คเนฺถหิ จ วิปฺปยุโตฺต ภวติ, อาสเวหิ จ อนาสโว ภวติ, โอเฆหิ จ นิตฺถิโณฺณ ภวติ, สเลฺลหิ จ วิสโลฺล ภวติ, วิญฺญาณฎฺฐิติโย จสฺส ปริญฺญํ คจฺฉนฺติ, อคติคมเนหิ น อคติํ คจฺฉติ, เอวํ อกุสลาปิ ธมฺมา เอกลกฺขณตฺตา ปหานํ อพฺภตฺถํ คจฺฉนฺติฯ
Evaṃ akusalāpi dhammā ekalakkhaṇattā pahānaṃ abbhatthaṃ gacchanti. Catūsu satipaṭṭhānesu bhāviyamānesu vipallāsā pahīyanti, āhārā cassa pariññaṃ gacchanti, upādānehi anupādāno bhavati, yogehi ca visaṃyutto bhavati, ganthehi ca vippayutto bhavati, āsavehi ca anāsavo bhavati, oghehi ca nitthiṇṇo bhavati, sallehi ca visallo bhavati, viññāṇaṭṭhitiyo cassa pariññaṃ gacchanti, agatigamanehi na agatiṃ gacchati, evaṃ akusalāpi dhammā ekalakkhaṇattā pahānaṃ abbhatthaṃ gacchanti.
ยตฺถ วา ปน รูปินฺทฺริยํ เทสิตํ, เทสิตา ตเตฺถว รูปธาตุ รูปกฺขโนฺธ รูปญฺจายตนํฯ ยตฺถ วา ปน สุขา เวทนา เทสิตา, เทสิตํ ตตฺถ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ทุกฺขสมุทโย จ อริยสจฺจํฯ ยตฺถ วา ปน ทุกฺขา เวทนา เทสิตา, เทสิตํ ตตฺถ ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ ทุกฺขญฺจ อริยสจฺจํฯ ยตฺถ วา ปน อทุกฺขมสุขา เวทนา เทสิตา, เทสิตํ ตตฺถ อุเปกฺขินฺทฺริยํ สโพฺพ จ ปฎิจฺจสมุปฺปาโทฯ เกน การเณน, อทุกฺขมสุขาย หิ เวทนาย อวิชฺชา อนุเสติฯ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผโสฺส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ โส จ สราคสโทสสโมหสํกิเลสปเกฺขน หาตโพฺพ, วีตราควีตโทสวีตโมหอริยธเมฺมหิ หาตโพฺพฯ
Yattha vā pana rūpindriyaṃ desitaṃ, desitā tattheva rūpadhātu rūpakkhandho rūpañcāyatanaṃ. Yattha vā pana sukhā vedanā desitā, desitaṃ tattha sukhindriyaṃ somanassindriyaṃ dukkhasamudayo ca ariyasaccaṃ. Yattha vā pana dukkhā vedanā desitā, desitaṃ tattha dukkhindriyaṃ domanassindriyaṃ dukkhañca ariyasaccaṃ. Yattha vā pana adukkhamasukhā vedanā desitā, desitaṃ tattha upekkhindriyaṃ sabbo ca paṭiccasamuppādo. Kena kāraṇena, adukkhamasukhāya hi vedanāya avijjā anuseti. Avijjāpaccayā saṅkhārā, saṅkhārapaccayā viññāṇaṃ, viññāṇapaccayā nāmarūpaṃ, nāmarūpapaccayā saḷāyatanaṃ, saḷāyatanapaccayā phasso, phassapaccayā vedanā, vedanāpaccayā taṇhā, taṇhāpaccayā upādānaṃ, upādānapaccayā bhavo, bhavapaccayā jāti, jātipaccayā jarāmaraṇaṃ sokaparidevadukkhadomanassupāyāsā sambhavanti, evametassa kevalassa dukkhakkhandhassa samudayo hoti. So ca sarāgasadosasamohasaṃkilesapakkhena hātabbo, vītarāgavītadosavītamohaariyadhammehi hātabbo.
เอวํ เย ธมฺมา เอกลกฺขณา กิจฺจโต จ ลกฺขณโต จ สามญฺญโต จ จุตูปปาตโต จ, เตสํ ธมฺมานํ เอกสฺมิํ ธเมฺม วุเตฺต อวสิฎฺฐา ธมฺมา วุตฺตา ภวนฺติฯ เตนาห อายสฺมา มหากจฺจายโน ‘‘วุตฺตมฺหิ เอกธเมฺม’’ติฯ
Evaṃ ye dhammā ekalakkhaṇā kiccato ca lakkhaṇato ca sāmaññato ca cutūpapātato ca, tesaṃ dhammānaṃ ekasmiṃ dhamme vutte avasiṭṭhā dhammā vuttā bhavanti. Tenāha āyasmā mahākaccāyano ‘‘vuttamhi ekadhamme’’ti.
นิยุโตฺต ลกฺขโณ หาโรฯ
Niyutto lakkhaṇo hāro.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / ๕. ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา • 5. Lakkhaṇahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā / ๕. ลกฺขณหารวิภงฺควณฺณนา • 5. Lakkhaṇahāravibhaṅgavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / ขุทฺทกนิกาย (ฎีกา) • Khuddakanikāya (ṭīkā) / เนตฺติวิภาวินี • Nettivibhāvinī / ๕. ลกฺขณหารวิภงฺควิภาวนา • 5. Lakkhaṇahāravibhaṅgavibhāvanā