Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เทฺวมาติกาปาฬิ • Dvemātikāpāḷi |
ปาจิตฺติยกโณฺฑ
Pācittiyakaṇḍo
๑. ลสุณวโคฺค
1. Lasuṇavaggo
๑. ลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา
1. Lasuṇasikkhāpadavaṇṇanā
ปาจิตฺติเยสุ ลสุณวคฺคสฺส ตาว ปฐเม ลสุณนฺติ มคธรเฎฺฐ ชาตํ อามกํ ภณฺฑิกลสุณเมว, น เอกทฺวิติมิญฺชกํฯ ตญฺหิ ‘‘ขาทิสฺสามี’’ติ ปฎิคฺคณฺหนฺติยา ทุกฺกฎํ, อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร ปาจิตฺติยํฯ
Pācittiyesu lasuṇavaggassa tāva paṭhame lasuṇanti magadharaṭṭhe jātaṃ āmakaṃ bhaṇḍikalasuṇameva, na ekadvitimiñjakaṃ. Tañhi ‘‘khādissāmī’’ti paṭiggaṇhantiyā dukkaṭaṃ, ajjhohāre ajjhohāre pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ ถุลฺลนนฺทํ อารพฺภ ลสุณํ หราปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, อลสุเณ ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ ปน อลสุณสญฺญาย, ปลณฺฑุเก, ภญฺชนเก, หริตเก, จาปลสุเณ, สูปสมฺปาเก, มํสสมฺปาเก, เตลสมฺปาเก, สาฬเว, อุตฺตริภเงฺค, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อามกลสุณเญฺจว, อโชฺฌหรณญฺจาติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ thullanandaṃ ārabbha lasuṇaṃ harāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, alasuṇe dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ pana alasuṇasaññāya, palaṇḍuke, bhañjanake, haritake, cāpalasuṇe, sūpasampāke, maṃsasampāke, telasampāke, sāḷave, uttaribhaṅge, ummattikādīnañca anāpatti. Āmakalasuṇañceva, ajjhoharaṇañcāti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.
ลสุณสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Lasuṇasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๒. สมฺพาธโลมสิกฺขาปทวณฺณนา
2. Sambādhalomasikkhāpadavaṇṇanā
ทุติเย สมฺพาเธติ ปฎิจฺฉโนฺนกาเส, อุปกจฺฉเกสุ จ มุตฺตกรเณ จาติ อโตฺถฯ สํหราเปยฺยาติ เอตฺถ ขุรสณฺฑาสกตฺตริอาทีสุ เยน เกนจิ สํหราเปนฺติยา ปโยคคณนาย ปาจิตฺติยํ, น โลมคณนายฯ
Dutiye sambādheti paṭicchannokāse, upakacchakesu ca muttakaraṇe cāti attho. Saṃharāpeyyāti ettha khurasaṇḍāsakattariādīsu yena kenaci saṃharāpentiyā payogagaṇanāya pācittiyaṃ, na lomagaṇanāya.
สาวตฺถิยํ ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ สมฺพาเธ โลมํ สํหราปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, อตฺตโน อตฺถาย อญฺญํ อาณาเปนฺติยา สาณตฺติกํ, อาปตฺติเภโทนตฺถิฯ อาพาธปจฺจยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อาพาธาภาโว, สมฺพาเธ โลมสํหรณนฺติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ เอกทฺธานมคฺคคมนสิกฺขาปทสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ chabbaggiyā bhikkhuniyo ārabbha sambādhe lomaṃ saṃharāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, attano atthāya aññaṃ āṇāpentiyā sāṇattikaṃ, āpattibhedonatthi. Ābādhapaccayā, ummattikādīnañca anāpatti. Ābādhābhāvo, sambādhe lomasaṃharaṇanti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni bhikkhuniyā saddhiṃ ekaddhānamaggagamanasikkhāpadasadisānīti.
สมฺพาธโลมสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Sambādhalomasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๓. ตลฆาตกสิกฺขาปทวณฺณนา
3. Talaghātakasikkhāpadavaṇṇanā
ตติเย ตลฆาตเกติ อนฺตมโส อุปฺปลเกสเรนาปิ มุตฺตกรณสฺส ตลฆาตเน มุตฺตกรณมฺหิ ปหารทาเน ปาจิตฺติยนฺติ อโตฺถฯ
Tatiye talaghātaketi antamaso uppalakesarenāpi muttakaraṇassa talaghātane muttakaraṇamhi pahāradāne pācittiyanti attho.
สาวตฺถิยํ เทฺว ภิกฺขุนิโย อารพฺภ ตลฆาตกรณวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ปุริมนเยเนว สาณตฺติกํ, อาปตฺติเภโท นตฺถิฯ อิโต ปรํ ปน ยตฺถ นตฺถิ, ตตฺถ อวตฺวาว คมิสฺสามฯ อาพาธปจฺจยา คณฺฑํ วา วณํ วา ปหรนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อาพาธาภาโว, มุตฺตกรเณ ปหารทานํ, ผสฺสสาทิยนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ ปฐมปาราชิกสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ dve bhikkhuniyo ārabbha talaghātakaraṇavatthusmiṃ paññattaṃ, purimanayeneva sāṇattikaṃ, āpattibhedo natthi. Ito paraṃ pana yattha natthi, tattha avatvāva gamissāma. Ābādhapaccayā gaṇḍaṃ vā vaṇaṃ vā paharantiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Ābādhābhāvo, muttakaraṇe pahāradānaṃ, phassasādiyananti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni paṭhamapārājikasadisānīti.
ตลฆาตกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Talaghātakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๔. ชตุมฎฺฐกสิกฺขาปทวณฺณนา
4. Jatumaṭṭhakasikkhāpadavaṇṇanā
จตุเตฺถ ชตุมฎฺฐเกติ ชตุนา กเต มฎฺฐทณฺฑเกฯ วตฺถุวเสเนตํ วุตฺตํ, กามราเคน ปน อุปฺปลเกสรมฺปิ ปเวเสนฺติยา อาปตฺติฯ
Catutthe jatumaṭṭhaketi jatunā kate maṭṭhadaṇḍake. Vatthuvasenetaṃ vuttaṃ, kāmarāgena pana uppalakesarampi pavesentiyā āpatti.
สาวตฺถิยํ อญฺญตรํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ ชตุมฎฺฐกสาทิยนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, เสสํ ตติยสทิสเมวาติฯ
Sāvatthiyaṃ aññataraṃ bhikkhuniṃ ārabbha jatumaṭṭhakasādiyanavatthusmiṃ paññattaṃ, sesaṃ tatiyasadisamevāti.
ชตุมฎฺฐกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Jatumaṭṭhakasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๕. อุทกสุทฺธิกสิกฺขาปทวณฺณนา
5. Udakasuddhikasikkhāpadavaṇṇanā
ปญฺจเม อุทกสุทฺธิกนฺติ มุตฺตกรณสฺส โธวนํฯ อาทิยมานายาติ กโรนฺติยาฯ ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพนฺติ ทฺวีสุ องฺคุลีสุ เอเกกํ กตฺวา ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทาตพฺพํฯ ตํ อติกฺกาเมนฺติยาติ สเจ โธวนกาเล ราควเสน วิตฺถารโต ตติยาย องฺคุลิยา อคฺคปพฺพํ, คมฺภีรโต เอกิสฺสาว องฺคุลิยา ตติยปพฺพํ ปเวเสติ ปาจิตฺติยํฯ
Pañcame udakasuddhikanti muttakaraṇassa dhovanaṃ. Ādiyamānāyāti karontiyā. Dvaṅgulapabbaparamaṃādātabbanti dvīsu aṅgulīsu ekekaṃ katvā dvaṅgulapabbaparamaṃ ādātabbaṃ. Taṃ atikkāmentiyāti sace dhovanakāle rāgavasena vitthārato tatiyāya aṅguliyā aggapabbaṃ, gambhīrato ekissāva aṅguliyā tatiyapabbaṃ paveseti pācittiyaṃ.
สเกฺกสุ อญฺญตรํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ อติคมฺภีรํ อุทกสุทฺธิกํ อาทิยนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, อูนกทฺวงฺคุลปเพฺพ ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ ปน อูนกสญฺญาย, ทฺวงฺคุลปพฺพปรมํ อาทิยนฺติยา, อาพาธปจฺจยา อติเรกมฺปิ, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติ, เสสํ ตติยสทิสเมวาติฯ
Sakkesu aññataraṃ bhikkhuniṃ ārabbha atigambhīraṃ udakasuddhikaṃ ādiyanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, ūnakadvaṅgulapabbe dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ pana ūnakasaññāya, dvaṅgulapabbaparamaṃ ādiyantiyā, ābādhapaccayā atirekampi, ummattikādīnañca anāpatti, sesaṃ tatiyasadisamevāti.
อุทกสุทฺธิกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Udakasuddhikasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๖. อุปติฎฺฐนสิกฺขาปทวณฺณนา
6. Upatiṭṭhanasikkhāpadavaṇṇanā
ฉเฎฺฐ ภุญฺชนฺตสฺสาติ ปญฺจนฺนํ โภชนานํ อญฺญตรํ ภุญฺชโตฯ ปานีเยนาติ สุเทฺธน วา อุทเกน, ตกฺกาทีสุ วา อญฺญตเรนฯ วิธูปเนนาติ ยาย กายจิ พีชนิยาฯ อุปติเฎฺฐยฺยาติ ยา เอเตสุ ทฺวีสุ อญฺญตรํ คเหตฺวา หตฺถปาเส ติฎฺฐติ, ตสฺสา ปาจิตฺติยํฯ
Chaṭṭhe bhuñjantassāti pañcannaṃ bhojanānaṃ aññataraṃ bhuñjato. Pānīyenāti suddhena vā udakena, takkādīsu vā aññatarena. Vidhūpanenāti yāya kāyaci bījaniyā. Upatiṭṭheyyāti yā etesu dvīsu aññataraṃ gahetvā hatthapāse tiṭṭhati, tassā pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ อญฺญตรํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ ภุญฺชนฺตสฺส เอวํ ติฎฺฐนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, ติกปาจิตฺติยํ, หตฺถปาสํ วิชหิตฺวา ขาทนียํ ขาทนฺตสฺส อุปติฎฺฐนฺติยา ทุกฺกฎํ, อนุปสมฺปเนฺน ติกทุกฺกฎํฯ ‘‘อิมํ ปิวถ, อิมินา พีชถา’’ติ เอวํ เทนฺติยา วา, ทาเปนฺติยา วา, อนุปสมฺปนฺนํ วา อุปติฎฺฐาปนตฺถํ อาณาเปนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ ภุญฺชนฺตสฺส ภิกฺขุโน หตฺถปาเส ฐานํ, ปานียสฺส วา วิธูปนสฺส วา คหณนฺติ อิมาเนตฺถ เทฺว องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ aññataraṃ bhikkhuniṃ ārabbha bhuñjantassa evaṃ tiṭṭhanavatthusmiṃ paññattaṃ, tikapācittiyaṃ, hatthapāsaṃ vijahitvā khādanīyaṃ khādantassa upatiṭṭhantiyā dukkaṭaṃ, anupasampanne tikadukkaṭaṃ. ‘‘Imaṃ pivatha, iminā bījathā’’ti evaṃ dentiyā vā, dāpentiyā vā, anupasampannaṃ vā upatiṭṭhāpanatthaṃ āṇāpentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Bhuñjantassa bhikkhuno hatthapāse ṭhānaṃ, pānīyassa vā vidhūpanassa vā gahaṇanti imānettha dve aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisānīti.
อุปติฎฺฐนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Upatiṭṭhanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๗. อามกธญฺญสิกฺขาปทวณฺณนา
7. Āmakadhaññasikkhāpadavaṇṇanā
สตฺตเม วิญฺญตฺวาติ อนฺตมโส มาตรมฺปิ ยาจิตฺวาฯ ภุเญฺชยฺยาติ อโชฺฌหเรยฺยฯ เอตฺถ จ วิญฺญตฺติ เจว โภชนญฺจ ปมาณํ, ตสฺมา สยํ วิญฺญตฺวา อญฺญาย ภชฺชนาทีนิ การาเปตฺวา วา , อญฺญาย วิญฺญาเปตฺวา สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา ปฎิคฺคหณโต ปฎฺฐาย ยาว ทเนฺตหิ สํขาทนํ, ตาว ปุพฺพปฺปโยเคสุ ทุกฺกฎานิ, อโชฺฌหาเร อโชฺฌหาเร ปาจิตฺติยํฯ
Sattame viññatvāti antamaso mātarampi yācitvā. Bhuñjeyyāti ajjhohareyya. Ettha ca viññatti ceva bhojanañca pamāṇaṃ, tasmā sayaṃ viññatvā aññāya bhajjanādīni kārāpetvā vā , aññāya viññāpetvā sayaṃ bhajjanādīni katvā vā paṭiggahaṇato paṭṭhāya yāva dantehi saṃkhādanaṃ, tāva pubbappayogesu dukkaṭāni, ajjhohāre ajjhohāre pācittiyaṃ.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ อามกธญฺญํ วิญฺญาปนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สยํ วา อญฺญาย วา อวิญฺญตฺติยา ลทฺธํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา ภุญฺชนฺติยา ทุกฺกฎํ, อญฺญาย วิญฺญตฺติยา ลทฺธํ ปน สยํ ภชฺชนาทีนิ กตฺวาปิ กาเรตฺวาปิ ภุญฺชนฺติยา ทุกฺกฎเมวฯ อาพาเธ สติ เสทกมฺมาทีนํ อตฺถาย วิญฺญาเปนฺติยา, อวิญฺญตฺติยา ลพฺภมานํ นวกมฺมตฺถาย สมฺปฎิจฺฉนฺติยา, ญาตกปฺปวาริตฎฺฐาเน มุคฺคมาสาทิอปรณฺณํ วิญฺญาเปนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ สตฺตนฺนํ ธญฺญานํ อญฺญตรสฺส วิญฺญาปนํ วา วิญฺญาปาปนํ วา, ปฎิลาโภ, ภชฺชนาทีนิ กตฺวา วา กาเรตฺวา วา อโชฺฌหรณนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ อทฺธานมคฺคสิกฺขาปทสทิสานีติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha āmakadhaññaṃ viññāpanavatthusmiṃ paññattaṃ, sayaṃ vā aññāya vā aviññattiyā laddhaṃ bhajjanādīni katvā vā kāretvā vā bhuñjantiyā dukkaṭaṃ, aññāya viññattiyā laddhaṃ pana sayaṃ bhajjanādīni katvāpi kāretvāpi bhuñjantiyā dukkaṭameva. Ābādhe sati sedakammādīnaṃ atthāya viññāpentiyā, aviññattiyā labbhamānaṃ navakammatthāya sampaṭicchantiyā, ñātakappavāritaṭṭhāne muggamāsādiaparaṇṇaṃ viññāpentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Sattannaṃ dhaññānaṃ aññatarassa viññāpanaṃ vā viññāpāpanaṃ vā, paṭilābho, bhajjanādīni katvā vā kāretvā vā ajjhoharaṇanti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni addhānamaggasikkhāpadasadisānīti.
อามกธญฺญสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Āmakadhaññasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๘. ปฐมอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา
8. Paṭhamauccārachaḍḍanasikkhāpadavaṇṇanā
อฎฺฐเม สงฺการนฺติ กจวรํฯ วิฆาสนฺติ ยํกิญฺจิ ปริภุตฺตาวเสสํ อุจฺฉิโฎฺฐทกมฺปิ ทนฺตกฎฺฐมฺปิ, อฎฺฐิกจลเกสุ ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ ติโรกุเฎฺฎ วา ติโรปากาเร วาติ ยสฺสกสฺสจิ กุฎฺฎสฺส วา ปาการสฺส วา ปรโตฯ ฉเฑฺฑยฺย วา ฉฑฺฑาเปยฺย วาติ สพฺพานิเปตานิ เอกโต ฉเฑฺฑนฺติยา เอกปฺปโยเค เอกาปตฺติ, สกิํ อาณตฺติยา พหุเกปิ ฉฑฺฑิเต เอกาวฯ
Aṭṭhame saṅkāranti kacavaraṃ. Vighāsanti yaṃkiñci paribhuttāvasesaṃ ucchiṭṭhodakampi dantakaṭṭhampi, aṭṭhikacalakesu pana vattabbameva natthi. Tirokuṭṭe vā tiropākāre vāti yassakassaci kuṭṭassa vā pākārassa vā parato. Chaḍḍeyya vā chaḍḍāpeyya vāti sabbānipetāni ekato chaḍḍentiyā ekappayoge ekāpatti, sakiṃ āṇattiyā bahukepi chaḍḍite ekāva.
สาวตฺถิยํ อญฺญตรํ ภิกฺขุนิํ อารพฺภ อุจฺจารํ ติโรกุเฎฺฎ ฉฑฺฑนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สาณตฺติกํ, ภิกฺขุสฺส ทุกฺกฎํ , โอโลเกตฺวา วา อวลเญฺช วา ฉเฑฺฑนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ อุจฺจาราทิภาโว, อโนโลกนํ, วลญฺชนฎฺฐานํ, ติโรกุฎฺฎติโรปาการตา, ฉฑฺฑนํ วา ฉฑฺฑาปนํ วาติ อิมาเนตฺถ ปญฺจ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ สญฺจริตฺตสทิสานิ, อิทํ ปน กิริยากิริยนฺติฯ
Sāvatthiyaṃ aññataraṃ bhikkhuniṃ ārabbha uccāraṃ tirokuṭṭe chaḍḍanavatthusmiṃ paññattaṃ, sāṇattikaṃ, bhikkhussa dukkaṭaṃ , oloketvā vā avalañje vā chaḍḍentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Uccārādibhāvo, anolokanaṃ, valañjanaṭṭhānaṃ, tirokuṭṭatiropākāratā, chaḍḍanaṃ vā chaḍḍāpanaṃ vāti imānettha pañca aṅgāni. Samuṭṭhānādīni sañcarittasadisāni, idaṃ pana kiriyākiriyanti.
ปฐมอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamauccārachaḍḍanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๙. ทุติยอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Dutiyauccārachaḍḍanasikkhāpadavaṇṇanā
นวเม หริเตติ เขเตฺต วา นาฬิเกราทิอาราเม วา ยตฺถกตฺถจิ โรปิมหริตฎฺฐาเนฯ ตานิ วตฺถูนิ ฉเฑฺฑนฺติยา วา ฉฑฺฑาเปนฺติยา วา ปุริมนเยเนว อาปตฺติ, ตาทิเส ฐาเน นิสีทิตฺวา อนฺตมโส อุทกํ ปิวิตฺวา มตฺถกจฺฉินฺนํ นาฬิเกรมฺปิ ฉเฑฺฑนฺติยา อาปตฺติเยวฯ
Navame hariteti khette vā nāḷikerādiārāme vā yatthakatthaci ropimaharitaṭṭhāne. Tāni vatthūni chaḍḍentiyā vā chaḍḍāpentiyā vā purimanayeneva āpatti, tādise ṭhāne nisīditvā antamaso udakaṃ pivitvā matthakacchinnaṃ nāḷikerampi chaḍḍentiyā āpattiyeva.
สาวตฺถิยํ สมฺพหุลา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ อุจฺจาราทีนิ หริเต ฉฑฺฑนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สาณตฺติกํ, ติกปาจิตฺติยํ, ภิกฺขุโน ทุกฺกฎํ, ภิกฺขุนิยาปิ นิกฺขิตฺตพีเช เขเตฺต ยาว องฺกุโร น อุฎฺฐหติ, ตาว ทุกฺกฎํ, อหริเต ทฺวิกทุกฺกฎํฯ ตสฺมิํ ปน อหริตสญฺญาย ฉฑฺฑิตเขเตฺต วา, สามิเก อปโลเกตฺวา วา ฉเฑฺฑนฺติยา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ เสสํ อฎฺฐมสทิสเมวาติฯ
Sāvatthiyaṃ sambahulā bhikkhuniyo ārabbha uccārādīni harite chaḍḍanavatthusmiṃ paññattaṃ, sāṇattikaṃ, tikapācittiyaṃ, bhikkhuno dukkaṭaṃ, bhikkhuniyāpi nikkhittabīje khette yāva aṅkuro na uṭṭhahati, tāva dukkaṭaṃ, aharite dvikadukkaṭaṃ. Tasmiṃ pana aharitasaññāya chaḍḍitakhette vā, sāmike apaloketvā vā chaḍḍentiyā, ummattikādīnañca anāpatti. Sesaṃ aṭṭhamasadisamevāti.
ทุติยอุจฺจารฉฑฺฑนสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dutiyauccārachaḍḍanasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
๑๐. นจฺจคีตสิกฺขาปทวณฺณนา
10. Naccagītasikkhāpadavaṇṇanā
ทสเม นจฺจนฺติ อนฺตมโส โมรนจฺจมฺปิฯ คีตนฺติ อนฺตมโส ธมฺมภาณกคีตมฺปิฯ วาทิตนฺติ อนฺตมโส อุทกเภริวาทิตมฺปิฯ ทสฺสนายาติ เอเตสุ ยํกิญฺจิ ทสฺสนาย คจฺฉนฺติยา ปเท ปเท ทุกฺกฎํ, ยตฺถ ฐิตา ปสฺสติ วา สุณาติ วา, เอกปฺปโยเค เอกาปตฺติ, ตํ ตํ ทิสํ โอโลเกนฺติยา ปโยเค ปโยเค อาปตฺติฯ
Dasame naccanti antamaso moranaccampi. Gītanti antamaso dhammabhāṇakagītampi. Vāditanti antamaso udakabherivāditampi. Dassanāyāti etesu yaṃkiñci dassanāya gacchantiyā pade pade dukkaṭaṃ, yattha ṭhitā passati vā suṇāti vā, ekappayoge ekāpatti, taṃ taṃ disaṃ olokentiyā payoge payoge āpatti.
ราชคเห ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขุนิโย อารพฺภ นจฺจาทีนิ ทสฺสนาย คมนวตฺถุสฺมิํ ปญฺญตฺตํ, สยํ ตานิ วตฺถูนิ กโรนฺติยา, อญฺญํ วา อาณาเปนฺติยา, ‘‘เจติยสฺส อุปหารํ เทถา’’ติ อีทิเสน ปริยาเยน วา ภณนฺติยา, ‘‘เจติยสฺส อุปหารํ กโรมา’’ติ วา วุเตฺต ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฎิจฺฉนฺติยา จ ปาจิตฺติยเมวาติ สพฺพอฎฺฐกถาสุ (ปาจิ. อฎฺฐ. ๘๓๕-๘๓๗) วุตฺตํ, ภิกฺขุโน สพฺพตฺถ ทุกฺกฎํฯ ‘‘ตุมฺหากํ เจติยสฺส อุปฎฺฐานํ กโรมา’’ติ วุเตฺต ปน ‘‘อุปฎฺฐานกรณํ นาม สุนฺทร’’นฺติ อีทิสํ ปริยายํ ภณนฺติยา, อาราเม ฐตฺวา ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา, ตถา อตฺตโน ฐิโตกาสํ อาคนฺตฺวา ปโยชิตํ ปฎิปถํ คจฺฉนฺติยา สมฺมุขีภูตํ สลากภตฺตาทิเก สติ กรณีเย คนฺตฺวา, อาปทาสุ วา สมชฺชฎฺฐานํ ปวิสิตฺวาปิ ปสฺสนฺติยา วา สุณนฺติยา วา, อุมฺมตฺติกาทีนญฺจ อนาปตฺติฯ นจฺจาทีนํ อญฺญตรตา, อญฺญตฺร อนุญฺญาตการณา คมนํ, ทสฺสนํ วา สวนํ วาติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ สมุฎฺฐานาทีนิ เอฬกโลมสทิสานิ, อิทํ ปน โลกวชฺชํ, อกุสลจิตฺตํ, ติเวทนนฺติฯ
Rājagahe chabbaggiyā bhikkhuniyo ārabbha naccādīni dassanāya gamanavatthusmiṃ paññattaṃ, sayaṃ tāni vatthūni karontiyā, aññaṃ vā āṇāpentiyā, ‘‘cetiyassa upahāraṃ dethā’’ti īdisena pariyāyena vā bhaṇantiyā, ‘‘cetiyassa upahāraṃ karomā’’ti vā vutte ‘‘sādhū’’ti sampaṭicchantiyā ca pācittiyamevāti sabbaaṭṭhakathāsu (pāci. aṭṭha. 835-837) vuttaṃ, bhikkhuno sabbattha dukkaṭaṃ. ‘‘Tumhākaṃ cetiyassa upaṭṭhānaṃ karomā’’ti vutte pana ‘‘upaṭṭhānakaraṇaṃ nāma sundara’’nti īdisaṃ pariyāyaṃ bhaṇantiyā, ārāme ṭhatvā passantiyā vā suṇantiyā vā, tathā attano ṭhitokāsaṃ āgantvā payojitaṃ paṭipathaṃ gacchantiyā sammukhībhūtaṃ salākabhattādike sati karaṇīye gantvā, āpadāsu vā samajjaṭṭhānaṃ pavisitvāpi passantiyā vā suṇantiyā vā, ummattikādīnañca anāpatti. Naccādīnaṃ aññataratā, aññatra anuññātakāraṇā gamanaṃ, dassanaṃ vā savanaṃ vāti imānettha tīṇi aṅgāni. Samuṭṭhānādīni eḷakalomasadisāni, idaṃ pana lokavajjaṃ, akusalacittaṃ, tivedananti.
นจฺจคีตสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Naccagītasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.
ลสุณวโคฺค ปฐโมฯ
Lasuṇavaggo paṭhamo.