Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๓. โลกนฺตคมนสุตฺตวณฺณนา

    3. Lokantagamanasuttavaṇṇanā

    ๑๑๖. โลกิยนฺติ เอตฺถ สตฺตกายภูตคามาทีติ โลโก, จกฺกวาโฬฯ สงฺขาโร ปน ลุชฺชนปลุชฺชนเฎฺฐน โลโกฯ อนฺตนฺติ โอสานํฯ สพฺพญฺญุตญฺญาเณน สํสนฺทิตฺวาติ สพฺพญฺญุตญฺญาณคติยา สมาเนตฺวา อวิโรเธตฺวาฯ โถเมสฺสามีติ ปสํสิสฺสามิฯ

    116. Lokiyanti ettha sattakāyabhūtagāmādīti loko, cakkavāḷo. Saṅkhāro pana lujjanapalujjanaṭṭhena loko. Antanti osānaṃ. Sabbaññutaññāṇena saṃsanditvāti sabbaññutaññāṇagatiyā samānetvā avirodhetvā. Thomessāmīti pasaṃsissāmi.

    เอวํสมฺปตฺติกนฺติ เอวํสมฺปชฺชนกํ เอวํปสฺสิตพฺพํ อิทํ มม อเชฺฌสนํฯ เตนาห ‘‘อีทิสนฺติ อโตฺถ’’ติฯ ชานํ ชานาตีติ สพฺพญฺญุตญฺญาเณน ชานิตพฺพํ ชานาติ เอวฯ น หิ ปเทสญฺญาเณ ฐิโต ชานิตพฺพํ สพฺพํ ชานาติฯ อุกฺกฎฺฐนิเทฺทเสน หิ อวิเสสคฺคหเณน จ ‘‘ชาน’’นฺติ อิมินา นิรวเสสํ เญยฺยชาตํ ปริคฺคยฺหตีติ ตพฺพิสยาย ชานนกิริยาย สพฺพญฺญุตญฺญาณเมว กรณํ ภวิตุํ ยุตฺตํฯ ปกรณวเสน ‘‘ภควา’’ติ ปทสนฺนิธาเนน จ อยมโตฺถ วิภาเวตโพฺพฯ ปสฺสิตพฺพเมว ปสฺสตีติ ทิพฺพจกฺขุ-ปญฺญาจกฺขุ-ธมฺมจกฺขุ-พุทฺธจกฺขุ-สมนฺตจกฺขุ-สงฺขาเตหิ ญาณจกฺขูหิ ปสฺสิตพฺพํ ปสฺสติ เอวฯ อถ วา ชานํ ชานาตีติ ยถา อเญฺญ สวิปลฺลาสา กามรูปปริญฺญาวาทิโน ชานนฺตาปิ วิปลฺลาสวเสน ชานนฺติ, น เอวํ ภควาฯ ภควา ปน ปหีนวิปลฺลาสตฺตา ชานโนฺต ชานาติ เอว, ทิฎฺฐิทสฺสนสฺส อภาวา ปสฺสโนฺต ปสฺสติ เอวาติ อโตฺถฯ

    Evaṃsampattikanti evaṃsampajjanakaṃ evaṃpassitabbaṃ idaṃ mama ajjhesanaṃ. Tenāha ‘‘īdisanti attho’’ti. Jānaṃ jānātīti sabbaññutaññāṇena jānitabbaṃ jānāti eva. Na hi padesaññāṇe ṭhito jānitabbaṃ sabbaṃ jānāti. Ukkaṭṭhaniddesena hi avisesaggahaṇena ca ‘‘jāna’’nti iminā niravasesaṃ ñeyyajātaṃ pariggayhatīti tabbisayāya jānanakiriyāya sabbaññutaññāṇameva karaṇaṃ bhavituṃ yuttaṃ. Pakaraṇavasena ‘‘bhagavā’’ti padasannidhānena ca ayamattho vibhāvetabbo. Passitabbameva passatīti dibbacakkhu-paññācakkhu-dhammacakkhu-buddhacakkhu-samantacakkhu-saṅkhātehi ñāṇacakkhūhi passitabbaṃ passati eva. Atha vā jānaṃ jānātīti yathā aññe savipallāsā kāmarūpapariññāvādino jānantāpi vipallāsavasena jānanti, na evaṃ bhagavā. Bhagavā pana pahīnavipallāsattā jānanto jānāti eva, diṭṭhidassanassa abhāvā passanto passati evāti attho.

    ทสฺสนปริณายกเฎฺฐนาติ ยถา จกฺขุ สตฺตานํ ทสฺสนตฺถํ ปริเณติ สาเธติ, เอวํ โลกสฺส ยาถาวทสฺสนสาธนโตปิ ทสฺสนกิจฺจปริณายกเฎฺฐน จกฺขุภูโต, ปญฺญาจกฺขุมยตฺตา วา สยมฺภูญาเณน ปญฺญาจกฺขุํ ภูโต ปโตฺตติ วา จกฺขุภูโตฯ ญาณภูโตติ เอตสฺส จ เอวเมว อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพฯ ธมฺมา วา โพธิปกฺขิยา, เตหิ อุปฺปนฺนตฺตา โลกสฺส จ ตทุปฺปาทนโต อนญฺญสาธารณํ วา ธมฺมํ ปโตฺต อธิคโตติ ธมฺมภูโตฯ ‘‘พฺรหฺมา’’วุจฺจติ เสฎฺฐเฎฺฐน มคฺคญาณํ, เตน อุปฺปนฺนตฺตา โลกสฺส จ ตทุปฺปาทนโต ตญฺจ สยมฺภูญาเณน ปโตฺตติ พฺรหฺมภูโตฯ จตุสจฺจธมฺมํ วทตีติ วตฺตาฯ จิรํ สจฺจปฎิเวธํ ปวเตฺตโนฺต วทตีติ ปวตฺตาฯ อตฺถํ นีหริตฺวาติ ทุกฺขาทิอตฺถํ อุทฺธริตฺวาฯ ปรมตฺถํ วา นิพฺพานํ ปาปยิตาฯ อมตสจฺฉิกิริยํ สเตฺตสุ อุปฺปาเทโนฺต อมตํ ททาตีติ อมตสฺส ทาตาฯ โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตทายตฺตภาวโต ธมฺมสฺสามีฯ ปุนปฺปุนํ ยาจาเปโนฺต ภาริยํ กโรโนฺต ครุํ กโรติ นาม, ตถา ทุวิเญฺญยฺยํ กตฺวา กเถโนฺตปิฯ

    Dassanapariṇāyakaṭṭhenāti yathā cakkhu sattānaṃ dassanatthaṃ pariṇeti sādheti, evaṃ lokassa yāthāvadassanasādhanatopi dassanakiccapariṇāyakaṭṭhena cakkhubhūto, paññācakkhumayattā vā sayambhūñāṇena paññācakkhuṃ bhūto pattoti vā cakkhubhūto. Ñāṇabhūtoti etassa ca evameva attho daṭṭhabbo. Dhammā vā bodhipakkhiyā, tehi uppannattā lokassa ca taduppādanato anaññasādhāraṇaṃ vā dhammaṃ patto adhigatoti dhammabhūto. ‘‘Brahmā’’vuccati seṭṭhaṭṭhena maggañāṇaṃ, tena uppannattā lokassa ca taduppādanato tañca sayambhūñāṇena pattoti brahmabhūto. Catusaccadhammaṃ vadatīti vattā. Ciraṃ saccapaṭivedhaṃ pavattento vadatīti pavattā. Atthaṃ nīharitvāti dukkhādiatthaṃ uddharitvā. Paramatthaṃ vā nibbānaṃ pāpayitā. Amatasacchikiriyaṃ sattesu uppādento amataṃ dadātīti amatassa dātā. Bodhipakkhiyadhammānaṃ tadāyattabhāvato dhammassāmī. Punappunaṃ yācāpento bhāriyaṃ karonto garuṃ karoti nāma, tathā duviññeyyaṃ katvā kathentopi.

    จกฺขุนา วิชฺชมาเนน โลกสญฺญี โหติ, น ตสฺมิํ อสติฯ น หิ อชฺฌตฺติกายตนวิรเหน โลกสมญฺญา อตฺถิฯ เตนาห ‘‘จกฺขุญฺหิ โลโก’’ติอาทิฯ อปฺปหีนทิฎฺฐีติ อสมูหตสกฺกายทิฎฺฐิโก ฆนวินิโพฺภคํ กาตุํ อสโกฺกโนฺต สมุทายํ วิย อวยวํ ‘‘โลโก’’ติ สญฺชานาติ เจว มญฺญติ จฯ ตถาติ อิมินา ‘‘โลโกติ สญฺชานาติ เจว มญฺญติ จา’’ติ ปทตฺตยํ อากฑฺฒติฯ ตสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส, จกฺกวาฬโลกสฺส วาฯ จกฺขาทิเมว หิ สโหกาเสน ‘‘จกฺกวาโฬ’’ติ ปุถุชฺชโน สญฺชานาติฯ คมเนนาติ ปทสา คมเนนฯ น สกฺกา เตสํ อนนฺตตฺตาฯ ลุชฺชนเฎฺฐนาติ อภิสงฺขารโลกวเสน โลกสฺส อนฺตํ ทเสฺสตุํ วุตฺตํฯ ตสฺส อโนฺต นาม นิพฺพานํฯ ตํ ปตฺตุํ สกฺกา สมฺมาปฎิปตฺติยา ปตฺตพฺพตฺตาฯ จกฺกวาฬโลกสฺส ปน อโนฺต นาม, นตฺถิ ตสฺส คมเนน อปฺปตฺตพฺพตฺตาฯ

    Cakkhunā vijjamānena lokasaññī hoti, na tasmiṃ asati. Na hi ajjhattikāyatanavirahena lokasamaññā atthi. Tenāha ‘‘cakkhuñhi loko’’tiādi. Appahīnadiṭṭhīti asamūhatasakkāyadiṭṭhiko ghanavinibbhogaṃ kātuṃ asakkonto samudāyaṃ viya avayavaṃ ‘‘loko’’ti sañjānāti ceva maññati ca. Tathāti iminā ‘‘lokoti sañjānāti ceva maññati cā’’ti padattayaṃ ākaḍḍhati. Tassāti puthujjanassa, cakkavāḷalokassa vā. Cakkhādimeva hi sahokāsena ‘‘cakkavāḷo’’ti puthujjano sañjānāti. Gamanenāti padasā gamanena. Na sakkā tesaṃ anantattā. Lujjanaṭṭhenāti abhisaṅkhāralokavasena lokassa antaṃ dassetuṃ vuttaṃ. Tassa anto nāma nibbānaṃ. Taṃ pattuṃ sakkā sammāpaṭipattiyā pattabbattā. Cakkavāḷalokassa pana anto nāma, natthi tassa gamanena appattabbattā.

    อิเมหิ ปเทหีติ อิเมหิ วากฺยวิภาเคหิ ปเทหิฯ ตานิ ปน อกฺขรสมุทายลกฺขณานีติ อาห ‘‘อกฺขรสมฺปิณฺฑเนหี’’ติฯ ปาฎิเยกฺกอกฺขเรหีติ ตสฺมิํ ตสฺมิํ ปเท ปฎินิยตสนฺนิเวเสหิ วิสุํ วิสุํ จิเตฺตน คยฺหมาเนหิ อกฺขเรหีติ อโตฺถฯ

    Imehi padehīti imehi vākyavibhāgehi padehi. Tāni pana akkharasamudāyalakkhaṇānīti āha ‘‘akkharasampiṇḍanehī’’ti. Pāṭiyekkaakkharehīti tasmiṃ tasmiṃ pade paṭiniyatasannivesehi visuṃ visuṃ cittena gayhamānehi akkharehīti attho.

    คมนเฎฺฐน ‘‘ปณฺฑา’’ วุจฺจติ ปญฺญา, ตาย อิโต คโต ปโตฺตติ ปณฺฑิโต, ปญฺญวาฯ มหาปญฺญตา นาม ปฎิสมฺภิทาวเสน เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘มหเนฺต อเตฺถ’’ติอาทิฯ ยถา ตนฺติ เอตฺถ นฺติ นิปาตมตฺตํ ปฐมวิกเปฺป, ทุติยวิกเปฺป ปน ปจฺจามสนนฺติ อาห ‘‘ตํ พฺยากต’’นฺติฯ

    Gamanaṭṭhena ‘‘paṇḍā’’ vuccati paññā, tāya ito gato pattoti paṇḍito, paññavā. Mahāpaññatā nāma paṭisambhidāvasena veditabbāti āha ‘‘mahante atthe’’tiādi. Yathā tanti ettha tanti nipātamattaṃ paṭhamavikappe, dutiyavikappe pana paccāmasananti āha ‘‘taṃ byākata’’nti.

    โลกนฺตคมนสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Lokantagamanasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๓. โลกนฺตคมนสุตฺตํ • 3. Lokantagamanasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. โลกนฺตคมนสุตฺตวณฺณนา • 3. Lokantagamanasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact