Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā

    ๘. โลกุตฺตรกถา

    8. Lokuttarakathā

    โลกุตฺตรกถาวณฺณนา

    Lokuttarakathāvaṇṇanā

    ๔๓. อิทานิ โลกุตฺตรธมฺมวติยา ธมฺมจกฺกกถาย อนนฺตรํ กถิตาย โลกุตฺตรกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนาฯ ตตฺถ โลกุตฺตรปทสฺส อโตฺถ นิเทฺทสวาเร อาวิ ภวิสฺสติฯ จตฺตาโร สติปฎฺฐานาติอาทโย สตฺตติํส โพธิปกฺขิยธมฺมา ยถาโยคํ มคฺคผลสมฺปยุตฺตาฯ เต พุชฺฌนเฎฺฐน โพธีติ เอวํลทฺธนามสฺส อริยสฺส ปเกฺข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา นามฯ ปเกฺข ภวตฺตาติ อุปการภาเว ฐิตตฺตาฯ เตสุ อารมฺมเณสุ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา อุปฎฺฐานโต อุปฎฺฐานํ, สติเยว อุปฎฺฐานํ สติปฎฺฐานํฯ กายเวทนาจิตฺตธเมฺมสุ ปนสฺส อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคหณวเสน สุภสุขนิจฺจอตฺตสญฺญาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา เภโท โหติฯ ตสฺมา จตฺตาโร สติปฎฺฐานาติ วุจฺจติฯ ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ, โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ, สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปปวตฺตวิรหิตโต ปธานญฺจ หิตสุขนิปฺผาทกเฎฺฐน เสฎฺฐภาวาวหนโต ปธานภาวกรณโต วาติ สมฺมปฺปธานํฯ วีริยเสฺสตํ อธิวจนํฯ ตยิทํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติกิจฺจํ, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานญฺจ กุสลานํ อุปฺปตฺติฎฺฐิติกิจฺจํ สาธยตีติ จตุพฺพิธํ โหติฯ ตสฺมา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ วุจฺจติฯ นิปฺผตฺติปริยาเยน อิชฺฌนเฎฺฐน, อิชฺฌนฺติ เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติ อิมินา วา ปริยาเยน อิทฺธิ, ตสฺสา สมฺปยุตฺตาย ปุพฺพงฺคมเฎฺฐน ผลภูตาย ปุพฺพภาคการณเฎฺฐน จ อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโทฯ โส ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาวเสน จตุพฺพิโธว โหติฯ ตสฺมา จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ วุจฺจติฯ อสฺสทฺธิยโกสชฺชปมาทวิเกฺขปสโมฺมหานํ อภิภวนโต อภิภวนสงฺขาเตน อธิปติยเฎฺฐน อินฺทฺริยํฯ อสฺสทฺธิยาทีหิ อนภิภวนียโต อกมฺปิยเฎฺฐน พลํฯ ตทุภยมฺปิ สทฺธาวีริยสติสมาธิปญฺญาวเสน ปญฺจวิธํ โหติฯ ตสฺมา ปญฺจินฺทฺริยานิ ปญฺจ พลานีติ วุจฺจนฺติฯ พุชฺฌนกสตฺตสฺส ปน องฺคภาเวน สติอาทโย สตฺต ธมฺมา โพชฺฌงฺคา, นิยฺยานเฎฺฐน จ สมฺมาทิฎฺฐิอาทโย อฎฺฐ มคฺคงฺคา โหนฺติฯ เตน วุจฺจติ สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺคติฯ

    43. Idāni lokuttaradhammavatiyā dhammacakkakathāya anantaraṃ kathitāya lokuttarakathāya apubbatthānuvaṇṇanā. Tattha lokuttarapadassa attho niddesavāre āvi bhavissati. Cattāro satipaṭṭhānātiādayo sattatiṃsa bodhipakkhiyadhammā yathāyogaṃ maggaphalasampayuttā. Te bujjhanaṭṭhena bodhīti evaṃladdhanāmassa ariyassa pakkhe bhavattā bodhipakkhiyā nāma. Pakkhe bhavattāti upakārabhāve ṭhitattā. Tesu ārammaṇesu okkantitvā pakkhanditvā upaṭṭhānato upaṭṭhānaṃ, satiyeva upaṭṭhānaṃ satipaṭṭhānaṃ. Kāyavedanācittadhammesu panassa asubhadukkhāniccānattākāragahaṇavasena subhasukhaniccaattasaññāpahānakiccasādhanavasena ca pavattito catudhā bhedo hoti. Tasmā cattāro satipaṭṭhānāti vuccati. Padahanti etenāti padhānaṃ, sobhanaṃ padhānaṃ sammappadhānaṃ, sammā vā padahanti etenāti sammappadhānaṃ, sobhanaṃ vā taṃ kilesavirūpapavattavirahitato padhānañca hitasukhanipphādakaṭṭhena seṭṭhabhāvāvahanato padhānabhāvakaraṇato vāti sammappadhānaṃ. Vīriyassetaṃ adhivacanaṃ. Tayidaṃ uppannānuppannānaṃ akusalānaṃ pahānānuppattikiccaṃ, anuppannuppannānañca kusalānaṃ uppattiṭṭhitikiccaṃ sādhayatīti catubbidhaṃ hoti. Tasmā cattāro sammappadhānāti vuccati. Nipphattipariyāyena ijjhanaṭṭhena, ijjhanti etāya sattā iddhā vuddhā ukkaṃsagatā hontīti iminā vā pariyāyena iddhi, tassā sampayuttāya pubbaṅgamaṭṭhena phalabhūtāya pubbabhāgakāraṇaṭṭhena ca iddhiyā pādoti iddhipādo. So chandavīriyacittavīmaṃsāvasena catubbidhova hoti. Tasmā cattāro iddhipādāti vuccati. Assaddhiyakosajjapamādavikkhepasammohānaṃ abhibhavanato abhibhavanasaṅkhātena adhipatiyaṭṭhena indriyaṃ. Assaddhiyādīhi anabhibhavanīyato akampiyaṭṭhena balaṃ. Tadubhayampi saddhāvīriyasatisamādhipaññāvasena pañcavidhaṃ hoti. Tasmā pañcindriyāni pañca balānīti vuccanti. Bujjhanakasattassa pana aṅgabhāvena satiādayo satta dhammā bojjhaṅgā, niyyānaṭṭhena ca sammādiṭṭhiādayo aṭṭha maggaṅgā honti. Tena vuccati satta bojjhaṅgā ariyo aṭṭhaṅgiko maggoti.

    อิติ อิเม สตฺตติํส โพธิปกฺขิยา ธมฺมา ปุพฺพภาเค โลกิยวิปสฺสนาย วตฺตมานาย จุทฺทสวิเธน กายํ ปริคฺคณฺหโต จ กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํ, นววิเธน เวทนํ ปริคฺคณฺหโต จ เวทนานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํ, โสฬสวิเธน จิตฺตํ ปริคฺคณฺหโต จ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํ, ปญฺจวิเธน ธเมฺม ปริคฺคณฺหโต จ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํฯ อิติ อิมสฺมิํ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ปรสฺส อุปฺปนฺนํ อกุสลํ ทิสฺวา ‘‘ยถา ปฎิปนฺนสฺส ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ, น ตถา ปฎิปชฺชิสฺสามิ, เอวํ เม เอตํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ตสฺส อนุปฺปาทาย วายมนกาเล ปฐมํ สมฺมปฺปธานํ, อตฺตโน สมุทาจารปฺปตฺตมกุสลํ ทิสฺวา ตสฺส ปหานาย วายมนกาเล ทุติยํ, อิมสฺมิํ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา อุปฺปาเทตุํ วายมนฺตสฺส ตติยํ, อุปฺปนฺนํ ยถา น ปริหายติ, เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํฯ ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล ฉนฺทิทฺธิปาโท, วีริยํ, จิตฺตํ, วีมํสํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล วีมํสิทฺธิปาโทฯ มิจฺฉาวาจาย วิรมณกาเล สมฺมาวาจา , มิจฺฉากมฺมนฺตา, มิจฺฉาชีวา วิรมณกาเล สมฺมาชีโวติ เอวํ นานาจิเตฺตสุ ลพฺภนฺติฯ จตุมคฺคกฺขเณ ปน เอกจิเตฺต ลพฺภนฺติ, ผลกฺขเณ ฐเปตฺวา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อวเสสา เตตฺติํส ลพฺภนฺติฯ เอวํ เอกจิเตฺต ลพฺภมาเนสุ เจเตสุ เอกาว นิพฺพานารมฺมณา สติ กายาทีสุ สุภสญฺญาทิปหานกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สติปฎฺฐานา’’ติ วุจฺจติฯ เอกเมว จ วีริยํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทาทิกิจฺจสาธนวเสน ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ติ วุจฺจติฯ เสเสสุ หาปนวฑฺฒนํ นตฺถิฯ

    Iti ime sattatiṃsa bodhipakkhiyā dhammā pubbabhāge lokiyavipassanāya vattamānāya cuddasavidhena kāyaṃ pariggaṇhato ca kāyānupassanāsatipaṭṭhānaṃ, navavidhena vedanaṃ pariggaṇhato ca vedanānupassanāsatipaṭṭhānaṃ, soḷasavidhena cittaṃ pariggaṇhato ca cittānupassanāsatipaṭṭhānaṃ, pañcavidhena dhamme pariggaṇhato ca dhammānupassanāsatipaṭṭhānaṃ. Iti imasmiṃ attabhāve anuppannapubbaṃ parassa uppannaṃ akusalaṃ disvā ‘‘yathā paṭipannassa tassa taṃ uppannaṃ, na tathā paṭipajjissāmi, evaṃ me etaṃ nuppajjissatī’’ti tassa anuppādāya vāyamanakāle paṭhamaṃ sammappadhānaṃ, attano samudācārappattamakusalaṃ disvā tassa pahānāya vāyamanakāle dutiyaṃ, imasmiṃ attabhāve anuppannapubbaṃ jhānaṃ vā vipassanaṃ vā uppādetuṃ vāyamantassa tatiyaṃ, uppannaṃ yathā na parihāyati, evaṃ punappunaṃ uppādentassa catutthaṃ sammappadhānaṃ. Chandaṃ dhuraṃ katvā kusaluppādanakāle chandiddhipādo, vīriyaṃ, cittaṃ, vīmaṃsaṃ dhuraṃ katvā kusaluppādanakāle vīmaṃsiddhipādo. Micchāvācāya viramaṇakāle sammāvācā , micchākammantā, micchājīvā viramaṇakāle sammājīvoti evaṃ nānācittesu labbhanti. Catumaggakkhaṇe pana ekacitte labbhanti, phalakkhaṇe ṭhapetvā cattāro sammappadhāne avasesā tettiṃsa labbhanti. Evaṃ ekacitte labbhamānesu cetesu ekāva nibbānārammaṇā sati kāyādīsu subhasaññādipahānakiccasādhanavasena ‘‘cattāro satipaṭṭhānā’’ti vuccati. Ekameva ca vīriyaṃ anuppannuppannānaṃ anuppādādikiccasādhanavasena ‘‘cattāro sammappadhānā’’ti vuccati. Sesesu hāpanavaḍḍhanaṃ natthi.

    อปิจ เตสุ –

    Apica tesu –

    นว เอกวิธา เอโก, เทฺวธาถ จตุปญฺจธา;

    Nava ekavidhā eko, dvedhātha catupañcadhā;

    อฎฺฐธา นวธา เจว, อิติ ฉทฺธา ภวนฺติ เตฯ

    Aṭṭhadhā navadhā ceva, iti chaddhā bhavanti te.

    นว เอกวิธาติ ฉโนฺท จิตฺตํ ปีติ ปสฺสทฺธิ อุเปกฺขา สงฺกโปฺป วาจา กมฺมโนฺต อาชีโวติ อิเม นว ฉนฺทิทฺธิปาทาทิวเสน เอกวิธาว โหนฺติ, อญฺญโกฎฺฐาสํ น ภชนฺติฯ เอโก เทฺวธาติ สทฺธา อินฺทฺริยพลวเสน เทฺวธา ฐิตาฯ อถ จตุปญฺจธาติ อถโญฺญ เอโก จตุธา, อโญฺญ ปญฺจธา ฐิโตติ อโตฺถฯ ตตฺถ สมาธิ เอโก อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน จตุธา ฐิโต, ปญฺญา เตสํ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทโกฎฺฐาสสฺส จ วเสน ปญฺจธาฯ อฎฺฐธา นวธา เจวาติ อปโร เอโก อฎฺฐธา, เอโก นวธา ฐิโตติ อโตฺถฯ จตุสติปฎฺฐานอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน สติ อฎฺฐธา ฐิตา, จตุสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺควเสน วีริยํ นวธาติฯ เอวํ –

    Navaekavidhāti chando cittaṃ pīti passaddhi upekkhā saṅkappo vācā kammanto ājīvoti ime nava chandiddhipādādivasena ekavidhāva honti, aññakoṭṭhāsaṃ na bhajanti. Eko dvedhāti saddhā indriyabalavasena dvedhā ṭhitā. Atha catupañcadhāti athañño eko catudhā, añño pañcadhā ṭhitoti attho. Tattha samādhi eko indriyabalabojjhaṅgamaggaṅgavasena catudhā ṭhito, paññā tesaṃ catunnaṃ iddhipādakoṭṭhāsassa ca vasena pañcadhā. Aṭṭhadhā navadhā cevāti aparo eko aṭṭhadhā, eko navadhā ṭhitoti attho. Catusatipaṭṭhānaindriyabalabojjhaṅgamaggaṅgavasena sati aṭṭhadhā ṭhitā, catusammappadhānaiddhipādaindriyabalabojjhaṅgamaggaṅgavasena vīriyaṃ navadhāti. Evaṃ –

    จุทฺทเสว อสมฺภินฺนา, โหเนฺตเต โพธิปกฺขิยา;

    Cuddaseva asambhinnā, hontete bodhipakkhiyā;

    โกฎฺฐาสโต สตฺตวิธา, สตฺตติํส ปเภทโตฯ

    Koṭṭhāsato sattavidhā, sattatiṃsa pabhedato.

    สกิจฺจนิปฺผาทนโต, สรูเปน จ วุตฺติโต;

    Sakiccanipphādanato, sarūpena ca vuttito;

    สเพฺพว อริยมคฺคสฺส, สมฺภเว สมฺภวนฺติ เตฯ

    Sabbeva ariyamaggassa, sambhave sambhavanti te.

    เอวํ มคฺคผลสมฺปยุเตฺต สตฺตติํส โพธิปกฺขิยธเมฺม ทเสฺสตฺวา ปุน เต มคฺคผเลสุ สงฺขิปิตฺวา จตฺตาโร อริยมคฺคา จตฺตาริ จ สามญฺญผลานีติ อาหฯ สมณภาโว สามญฺญํ, จตุนฺนํ อริยมคฺคานเมตํ นามํฯ สามญฺญานํ ผลานิ สามญฺญผลานิฯ นิพฺพานํ ปน สเพฺพหิ อสมฺมิสฺสเมวฯ อิติ วิตฺถารโต สตฺตติํสโพธิปกฺขิยจตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน ฉจตฺตาลีส โลกุตฺตรธมฺมา, ตโต สเงฺขเปน จตุมคฺคจตุผลนิพฺพานานํ วเสน นว โลกุตฺตรธมฺมา, ตโตปิ สเงฺขเปน มคฺคผลนิพฺพานานํ วเสน ตโย โลกุตฺตรธมฺมาติ เวทิตพฺพํฯ สติปฎฺฐานาทีนํ มคฺคผลานญฺจ โลกุตฺตรเตฺต วุเตฺต ตํสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนมฺปิ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมว โหติฯ ปธานธมฺมวเสน ปน สติปฎฺฐานาทโยว วุตฺตาฯ อภิธเมฺม (ธ. ส. ๒๗๗ อาทโย, ๕๐๕ อาทโย) จ โลกุตฺตรธมฺมนิเทฺทเส มคฺคผลสมฺปยุตฺตานํ ผสฺสาทีนํ โลกุตฺตรตฺตํ วุตฺตเมวาติฯ

    Evaṃ maggaphalasampayutte sattatiṃsa bodhipakkhiyadhamme dassetvā puna te maggaphalesu saṅkhipitvā cattāro ariyamaggā cattāri ca sāmaññaphalānīti āha. Samaṇabhāvo sāmaññaṃ, catunnaṃ ariyamaggānametaṃ nāmaṃ. Sāmaññānaṃ phalāni sāmaññaphalāni. Nibbānaṃ pana sabbehi asammissameva. Iti vitthārato sattatiṃsabodhipakkhiyacatumaggacatuphalanibbānānaṃ vasena chacattālīsa lokuttaradhammā, tato saṅkhepena catumaggacatuphalanibbānānaṃ vasena nava lokuttaradhammā, tatopi saṅkhepena maggaphalanibbānānaṃ vasena tayo lokuttaradhammāti veditabbaṃ. Satipaṭṭhānādīnaṃ maggaphalānañca lokuttaratte vutte taṃsampayuttānaṃ phassādīnampi lokuttarattaṃ vuttameva hoti. Padhānadhammavasena pana satipaṭṭhānādayova vuttā. Abhidhamme (dha. sa. 277 ādayo, 505 ādayo) ca lokuttaradhammaniddese maggaphalasampayuttānaṃ phassādīnaṃ lokuttarattaṃ vuttamevāti.

    โลกํ ตรนฺตีติ โลกํ อติกฺกมนฺติฯ สพฺพมิธ อีทิสํ วตฺตมานกาลวจนํ จตฺตาโร อริยมเคฺค สนฺธาย วุตฺตํฯ โสตาปตฺติมโคฺค หิ อปายโลกํ ตรติ, สกทาคามิมโคฺค กามาวจรโลเกกเทสํ ตรติ, อนาคามิมโคฺค กามาวจรโลกํ ตรติ, อรหตฺตมโคฺค รูปารูปาวจรโลกํ ตรติฯ โลกา อุตฺตรนฺตีติ โลกา อุคฺคจฺฉนฺติฯ โลกโตติ จ โลกมฺหาติ จ ตเทว นิสฺสกฺกวจนํ วิเสเสตฺวา ทสฺสิตํฯ โลกํ สมติกฺกมนฺตีติ ปฐมํ วุตฺตตฺถเมวฯ ตตฺถ อุปสคฺคตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา วุตฺตํ, อิธ สห อุปสคฺคเตฺถน วุตฺตํฯ โลกํ สมติกฺกนฺตาติ ยถาวุตฺตํ โลกํ สมฺมา อติกฺกนฺตาฯ สพฺพมิธ อีทิสํ อตีตกาลวจนํ ผลนิพฺพานานิ สนฺธาย วุตฺตํ, โสตาปตฺติผลาทีนิ หิ ยถาวุตฺตํ โลกํ อติกฺกมิตฺวา ฐิตานิ, สทา นิพฺพานํ สพฺพโลกํ อติกฺกมิตฺวา ฐิตํฯ โลเกน อติเรกาติ โลกโต อธิกภูตาฯ อิทํ สเพฺพปิ โลกุตฺตรธเมฺม สนฺธาย วุตฺตํฯ นิสฺสรนฺตีติ นิคฺคจฺฉนฺติฯ นิสฺสฎาติ นิคฺคตาฯ โลเก น ติฎฺฐนฺตีติอาทีนิ อฎฺฐารส วจนานิ สพฺพโลกุตฺตเรสุปิ ยุชฺชนฺติฯ น ติฎฺฐนฺตีติ โลเก อปริยาปนฺนตฺตา วุตฺตํฯ โลเก น ลิมฺปนฺตีติ ขนฺธสนฺตาเน วตฺตมานาปิ ตสฺมิํ น ลิมฺปนฺตีติ อโตฺถฯ โลเกน น ลิมฺปนฺตีติ อกตปฎิเวธานํ เกนจิ จิเตฺตน, กตปฎิเวธานํ อกุสเลน อปฺปมเตฺตนปิ จิเตฺตน น ลิมฺปนฺตีติ อโตฺถฯ อสํลิตฺตา อนุปลิตฺตาติ อุปสเคฺคน วิเสสิตํฯ

    Lokaṃ tarantīti lokaṃ atikkamanti. Sabbamidha īdisaṃ vattamānakālavacanaṃ cattāro ariyamagge sandhāya vuttaṃ. Sotāpattimaggo hi apāyalokaṃ tarati, sakadāgāmimaggo kāmāvacaralokekadesaṃ tarati, anāgāmimaggo kāmāvacaralokaṃ tarati, arahattamaggo rūpārūpāvacaralokaṃ tarati. Lokā uttarantīti lokā uggacchanti. Lokatoti ca lokamhāti ca tadeva nissakkavacanaṃ visesetvā dassitaṃ. Lokaṃ samatikkamantīti paṭhamaṃ vuttatthameva. Tattha upasaggatthaṃ anapekkhitvā vuttaṃ, idha saha upasaggatthena vuttaṃ. Lokaṃ samatikkantāti yathāvuttaṃ lokaṃ sammā atikkantā. Sabbamidha īdisaṃ atītakālavacanaṃ phalanibbānāni sandhāya vuttaṃ, sotāpattiphalādīni hi yathāvuttaṃ lokaṃ atikkamitvā ṭhitāni, sadā nibbānaṃ sabbalokaṃ atikkamitvā ṭhitaṃ. Lokena atirekāti lokato adhikabhūtā. Idaṃ sabbepi lokuttaradhamme sandhāya vuttaṃ. Nissarantīti niggacchanti. Nissaṭāti niggatā. Loke na tiṭṭhantītiādīni aṭṭhārasa vacanāni sabbalokuttaresupi yujjanti. Na tiṭṭhantīti loke apariyāpannattā vuttaṃ. Loke na limpantīti khandhasantāne vattamānāpi tasmiṃ na limpantīti attho. Lokena na limpantīti akatapaṭivedhānaṃ kenaci cittena, katapaṭivedhānaṃ akusalena appamattenapi cittena na limpantīti attho. Asaṃlittā anupalittāti upasaggena visesitaṃ.

    วิปฺปมุตฺตาติ อลิตฺตตฺตเมว นานาพฺยญฺชเนน วิเสสิตํฯ เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน วา อลิตฺตา, เต ตตฺถ เตน วา วิปฺปมุตฺตา โหนฺติฯ โลกา วิปฺปมุตฺตาติอาทีนิ ตีณิ นิสฺสกฺกวเสน วุตฺตานิฯ วิสญฺญุตฺตาติ วิปฺปมุตฺตตฺตวิเสสนํฯ เย เกจิ หิ ยตฺถ เยน ยโต วิปฺปมุตฺตา, เต ตตฺถ เตน ตโต วิสญฺญุตฺตา นาม โหนฺติฯ โลกา สุชฺฌนฺตีติ โลกมลํ โธวิตฺวา โลกา สุชฺฌนฺติฯ วิสุชฺฌนฺตีติ ตเทว อุปสเคฺคน วิเสสิตํฯ วุฎฺฐหนฺตีติ อุฎฺฐิตา โหนฺติฯ วิวฎฺฎนฺตีติ นิวฎฺฎนฺติฯ น สชฺชนฺตีติ น ลคฺคนฺติฯ น คยฺหนฺตีติ น คณฺหียนฺติฯ น พชฺฌนฺตีติ น พาธียนฺติฯ สมุจฺฉินฺทนฺตีติ อปฺปวตฺติํ กโรนฺติฯ ยถา จ โลกํ สมุจฺฉินฺนตฺตาติ, ตเถว ‘‘โลกา วิสุทฺธตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตเมว โหติฯ ปฎิปฺปสฺสเมฺภนฺตีติ นิโรเธนฺติฯ อปถาติอาทีนิ จตฺตาริ สเพฺพสุปิ โลกุตฺตเรสุ ยุชฺชนฺติฯ อปถาติ อมคฺคาฯ อคตีติ อปฺปติฎฺฐาฯ อวิสยาติ อนายตฺตาฯ อสาธารณาติ อสมานาฯ วมนฺตีติ อุคฺคิลนฺติฯ น ปจฺจาวมนฺตีติ วุตฺตปฎิปกฺขนเยน วุตฺตํ, วนฺตํ ปุน น อทนฺตีติ อโตฺถฯ เอเตน วนฺตสฺส สุวนฺตภาโว วุโตฺต โหติฯ อนนฺตรทุกตฺตเยปิ เอเสว นโยฯ วิสีเนนฺตีติ วิกิรนฺติ วิมุจฺจนฺติ, น พนฺธนฺตีติ อโตฺถฯ น อุสฺสีเนนฺตีติ น วิกิรนฺติ น วิมุจฺจนฺติฯ ‘‘วิสิเนนฺตี’’ติ ‘‘น อุสฺสิเนนฺตี’’ติ รสฺสํ กตฺวา ปาโฐ สุนฺทโรฯ วิธูเปนฺตีติ นิพฺพาเปนฺติฯ สํธูเปนฺตีติ น อุชฺชลนฺติฯ โลกํ สมติกฺกมฺม อภิภุยฺย ติฎฺฐนฺตีติ สเพฺพปิ โลกุตฺตรา ธมฺมา โลกํ สมฺมา อติกฺกมิตฺวา อภิภวิตฺวา จ ติฎฺฐนฺตีติ โลกุตฺตราฯ สเพฺพหิปิ อิเมหิ ยถาวุเตฺตหิ ปกาเรหิ โลกุตฺตรานํ โลกโต อุตฺตรภาโว อธิกภาโว จ วุโตฺต โหตีติฯ

    Vippamuttāti alittattameva nānābyañjanena visesitaṃ. Ye keci hi yattha yena vā alittā, te tattha tena vā vippamuttā honti. Lokā vippamuttātiādīni tīṇi nissakkavasena vuttāni. Visaññuttāti vippamuttattavisesanaṃ. Ye keci hi yattha yena yato vippamuttā, te tattha tena tato visaññuttā nāma honti. Lokā sujjhantīti lokamalaṃ dhovitvā lokā sujjhanti. Visujjhantīti tadeva upasaggena visesitaṃ. Vuṭṭhahantīti uṭṭhitā honti. Vivaṭṭantīti nivaṭṭanti. Na sajjantīti na lagganti. Na gayhantīti na gaṇhīyanti. Na bajjhantīti na bādhīyanti. Samucchindantīti appavattiṃ karonti. Yathā ca lokaṃ samucchinnattāti, tatheva ‘‘lokā visuddhattā’’tiādi vuttameva hoti. Paṭippassambhentīti nirodhenti. Apathātiādīni cattāri sabbesupi lokuttaresu yujjanti. Apathāti amaggā. Agatīti appatiṭṭhā. Avisayāti anāyattā. Asādhāraṇāti asamānā. Vamantīti uggilanti. Na paccāvamantīti vuttapaṭipakkhanayena vuttaṃ, vantaṃ puna na adantīti attho. Etena vantassa suvantabhāvo vutto hoti. Anantaradukattayepi eseva nayo. Visīnentīti vikiranti vimuccanti, na bandhantīti attho. Na ussīnentīti na vikiranti na vimuccanti. ‘‘Visinentī’’ti ‘‘na ussinentī’’ti rassaṃ katvā pāṭho sundaro. Vidhūpentīti nibbāpenti. Nasaṃdhūpentīti na ujjalanti. Lokaṃ samatikkamma abhibhuyya tiṭṭhantīti sabbepi lokuttarā dhammā lokaṃ sammā atikkamitvā abhibhavitvā ca tiṭṭhantīti lokuttarā. Sabbehipi imehi yathāvuttehi pakārehi lokuttarānaṃ lokato uttarabhāvo adhikabhāvo ca vutto hotīti.

    โลกุตฺตรกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Lokuttarakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๘. โลกุตฺตรกถา • 8. Lokuttarakathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact