Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๘. มจฺฉพนฺธสุตฺตํ

    8. Macchabandhasuttaṃ

    ๑๘. เอกํ สมยํ ภควา โกสเลสุ จาริกํ จรติ มหตา ภิกฺขุสเงฺฆน สทฺธิํฯ อทฺทสา โข ภควา อทฺธานมคฺคปฺปฎิปโนฺน อญฺญตรสฺมิํ ปเทเส มจฺฉิกํ มจฺฉพนฺธํ มเจฺฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมานํฯ ทิสฺวา มคฺคา โอกฺกมฺม อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ นิสชฺช โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ปสฺสถ โน ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อมุํ มจฺฉิกํ มจฺฉพนฺธํ มเจฺฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาน’’นฺติ? ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ฯ

    18. Ekaṃ samayaṃ bhagavā kosalesu cārikaṃ carati mahatā bhikkhusaṅghena saddhiṃ. Addasā kho bhagavā addhānamaggappaṭipanno aññatarasmiṃ padese macchikaṃ macchabandhaṃ macche vadhitvā vadhitvā vikkiṇamānaṃ. Disvā maggā okkamma aññatarasmiṃ rukkhamūle paññatte āsane nisīdi. Nisajja kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘passatha no tumhe, bhikkhave, amuṃ macchikaṃ macchabandhaṃ macche vadhitvā vadhitvā vikkiṇamāna’’nti? ‘‘Evaṃ, bhante’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุเมฺหหิ ทิฎฺฐํ วา สุตํ วา – ‘มจฺฉิโก มจฺฉพโนฺธ มเจฺฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กเมฺมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสโนฺต’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ ฯ ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฎฺฐํ น สุตํ – ‘มจฺฉิโก มจฺฉพโนฺธ มเจฺฉ วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กเมฺมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสโนฺต’ติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ โส, ภิกฺขเว, มเจฺฉ วเชฺฌ วธายุปนีเต 1 ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส เนว หตฺถิยายี โหติ น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสติฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, api nu tumhehi diṭṭhaṃ vā sutaṃ vā – ‘macchiko macchabandho macche vadhitvā vadhitvā vikkiṇamāno tena kammena tena ājīvena hatthiyāyī vā assayāyī vā rathayāyī vā yānayāyī vā bhogabhogī vā mahantaṃ vā bhogakkhandhaṃ ajjhāvasanto’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’ . ‘‘Sādhu, bhikkhave! Mayāpi kho etaṃ, bhikkhave, neva diṭṭhaṃ na sutaṃ – ‘macchiko macchabandho macche vadhitvā vadhitvā vikkiṇamāno tena kammena tena ājīvena hatthiyāyī vā assayāyī vā rathayāyī vā yānayāyī vā bhogabhogī vā mahantaṃ vā bhogakkhandhaṃ ajjhāvasanto’ti. Taṃ kissa hetu? Te hi so, bhikkhave, macche vajjhe vadhāyupanīte 2 pāpakena manasānupekkhati, tasmā so neva hatthiyāyī hoti na assayāyī na rathayāyī na yānayāyī na bhogabhogī, na mahantaṃ bhogakkhandhaṃ ajjhāvasati.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุเมฺหหิ ทิฎฺฐํ วา สุตํ วา – ‘โคฆาตโก คาโว วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กเมฺมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสโนฺต’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฎฺฐํ น สุตํ – ‘โคฆาตโก คาโว วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กเมฺมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสโนฺต’ติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ โส, ภิกฺขเว, คาโว วเชฺฌ วธายุปนีเต ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส เนว หตฺถิยายี โหติ น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสติ’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, api nu tumhehi diṭṭhaṃ vā sutaṃ vā – ‘goghātako gāvo vadhitvā vadhitvā vikkiṇamāno tena kammena tena ājīvena hatthiyāyī vā assayāyī vā rathayāyī vā yānayāyī vā bhogabhogī vā mahantaṃ vā bhogakkhandhaṃ ajjhāvasanto’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’. ‘‘Sādhu, bhikkhave! Mayāpi kho etaṃ, bhikkhave, neva diṭṭhaṃ na sutaṃ – ‘goghātako gāvo vadhitvā vadhitvā vikkiṇamāno tena kammena tena ājīvena hatthiyāyī vā assayāyī vā rathayāyī vā yānayāyī vā bhogabhogī vā mahantaṃ vā bhogakkhandhaṃ ajjhāvasanto’ti. Taṃ kissa hetu? Te hi so, bhikkhave, gāvo vajjhe vadhāyupanīte pāpakena manasānupekkhati, tasmā so neva hatthiyāyī hoti na assayāyī na rathayāyī na yānayāyī na bhogabhogī, na mahantaṃ bhogakkhandhaṃ ajjhāvasati’’.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, อปิ นุ ตุเมฺหหิ ทิฎฺฐํ วา สุตํ วา – ‘โอรพฺภิโก…เป.… สูกริโก 3 …เป.… สากุณิโก…เป.… มาควิโก มเค 4 วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กเมฺมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสโนฺต’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘สาธุ, ภิกฺขเว! มยาปิ โข เอตํ, ภิกฺขเว, เนว ทิฎฺฐํ น สุตํ – ‘มาควิโก มเค วธิตฺวา วธิตฺวา วิกฺกิณมาโน เตน กเมฺมน เตน อาชีเวน หตฺถิยายี วา อสฺสยายี วา รถยายี วา ยานยายี วา โภคโภคี วา มหนฺตํ วา โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสโนฺต’ติฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เต หิ โส, ภิกฺขเว, มเค วเชฺฌ วธายุปนีเต ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส เนว หตฺถิยายี โหติ น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสติฯ เต หิ (นาม) 5 โส, ภิกฺขเว, ติรจฺฉานคเต ปาเณ วเชฺฌ วธายุปนีเต ปาปเกน มนสานุเปกฺขมาโน 6 เนว หตฺถิยายี ภวิสฺสติ 7 น อสฺสยายี น รถยายี น ยานยายี น โภคโภคี, น มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อชฺฌาวสิสฺสติ 8ฯ โก ปน วาโท ยํ มนุสฺสภูตํ วชฺฌํ วธายุปนีตํ ปาปเกน มนสานุเปกฺขติ! ตญฺหิ ตสฺส 9, ภิกฺขเว, โหติ ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขายฯ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺชตี’’ติฯ อฎฺฐมํฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, api nu tumhehi diṭṭhaṃ vā sutaṃ vā – ‘orabbhiko…pe… sūkariko 10 …pe… sākuṇiko…pe… māgaviko mage 11 vadhitvā vadhitvā vikkiṇamāno tena kammena tena ājīvena hatthiyāyī vā assayāyī vā rathayāyī vā yānayāyī vā bhogabhogī vā mahantaṃ vā bhogakkhandhaṃ ajjhāvasanto’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’. ‘‘Sādhu, bhikkhave! Mayāpi kho etaṃ, bhikkhave, neva diṭṭhaṃ na sutaṃ – ‘māgaviko mage vadhitvā vadhitvā vikkiṇamāno tena kammena tena ājīvena hatthiyāyī vā assayāyī vā rathayāyī vā yānayāyī vā bhogabhogī vā mahantaṃ vā bhogakkhandhaṃ ajjhāvasanto’ti. Taṃ kissa hetu? Te hi so, bhikkhave, mage vajjhe vadhāyupanīte pāpakena manasānupekkhati, tasmā so neva hatthiyāyī hoti na assayāyī na rathayāyī na yānayāyī na bhogabhogī, na mahantaṃ bhogakkhandhaṃ ajjhāvasati. Te hi (nāma) 12 so, bhikkhave, tiracchānagate pāṇe vajjhe vadhāyupanīte pāpakena manasānupekkhamāno 13 neva hatthiyāyī bhavissati 14 na assayāyī na rathayāyī na yānayāyī na bhogabhogī, na mahantaṃ bhogakkhandhaṃ ajjhāvasissati 15. Ko pana vādo yaṃ manussabhūtaṃ vajjhaṃ vadhāyupanītaṃ pāpakena manasānupekkhati! Tañhi tassa 16, bhikkhave, hoti dīgharattaṃ ahitāya dukkhāya. Kāyassa bhedā paraṃ maraṇā apāyaṃ duggatiṃ vinipātaṃ nirayaṃ upapajjatī’’ti. Aṭṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. วธายานีเต (สฺยา. กํ.), วธาย นีเต (ก.)
    2. vadhāyānīte (syā. kaṃ.), vadhāya nīte (ka.)
    3. โสกริโก (สฺยา.)
    4. มิเค (สฺยา. กํ.)
    5. ( ) พหูสุ นตฺถิ
    6. มนสานุเปกฺขติ, ตสฺมา โส (สฺยา. ก.)
    7. โหติ (สฺยา. ก.)
    8. อชฺฌาวสติ (สฺยา. ก.)
    9. ตํ หิสฺส (ปี. ก.)
    10. sokariko (syā.)
    11. mige (syā. kaṃ.)
    12. ( ) bahūsu natthi
    13. manasānupekkhati, tasmā so (syā. ka.)
    14. hoti (syā. ka.)
    15. ajjhāvasati (syā. ka.)
    16. taṃ hissa (pī. ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๘. มจฺฉพนฺธสุตฺตวณฺณนา • 8. Macchabandhasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๘. มจฺฉพนฺธสุตฺตวณฺณนา • 8. Macchabandhasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact