Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๙. มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา

    9. Maccharisuttavaṇṇanā

    ๔๙. นวเม มจฺฉริโนติ มเจฺฉเรน สมนฺนาคตาฯ เอกโจฺจ หิ อตฺตโน วสนฎฺฐาเน ภิกฺขุํ หตฺถํ ปสาเรตฺวาปิ น วนฺทติ, อญฺญตฺถ คโต วิหารํ ปวิสิตฺวา สกฺกจฺจํ วนฺทิตฺวา มธุรปฎิสนฺถารํ กโรติ – ‘‘ภเนฺต, อมฺหากํ วสนฎฺฐานํ นาคจฺฉถ, สมฺปโนฺน ปเทโส, ปฎิพลา มยํ อยฺยานํ ยาคุภตฺตาทีหิ อุปฎฺฐานํ กาตุ’’นฺติฯ ภิกฺขู ‘‘สโทฺธ อยํ อุปาสโก’’ติ ยาคุภตฺตาทีหิ สงฺคณฺหนฺติฯ อเถโก เถโร ตสฺส คามํ คนฺตฺวา ปิณฺฑาย จรติฯ โส ตํ ทิสฺวา อเญฺญน วา คจฺฉติ, ฆรํ วา ปวิสติฯ สเจปิ สมฺมุขีภาวํ อาคจฺฉติ, หเตฺถน วนฺทิตฺวา – ‘‘อยฺยสฺส ภิกฺขํ เทถ, อหํ เอเกน กเมฺมน คจฺฉามี’’ติ ปกฺกมติฯ เถโร สกลคามํ จริตฺวา ตุจฺฉปโตฺตว นิกฺขมติฯ อิทํ ตาว มุทุมจฺฉริยํ นาม, เยน สมนฺนาคโต อทายโกปิ ทายโก วิย ปญฺญายติฯ อิธ ปน ถทฺธมจฺฉริยํ อธิเปฺปตํ, เยน สมนฺนาคโต ภิกฺขูสุ ปิณฺฑาย ปวิเฎฺฐสุ, ‘‘เถรา ฐิตา’’ติ วุเตฺต, ‘‘กิํ มยฺหํ ปาทา รุชฺชนฺตี’’ติอาทีนิ วตฺวา สิลาถโมฺภ วิย ขาณุโก วิย จ ถโทฺธ หุตฺวา ติฎฺฐติ, สามีจิมฺปิ น กโรติฯ กทริยาติ อิทํ มจฺฉริโนติ ปทเสฺสว เววจนํฯ มุทุกมฺปิ หิ มจฺฉริยํ ‘‘มจฺฉริย’’เนฺตว วุจฺจติ, ถทฺธํ ปน กทริยํ นามฯ ปริภาสกาติ ภิกฺขู ฆรทฺวาเร ฐิเต ทิสฺวา, ‘‘กิํ ตุเมฺห กสิตฺวา อาคตา, วปิตฺวา, ลายิตฺวา? มยํ อตฺตโนปิ น ลภาม, กุโต ตุมฺหากํ, สีฆํ นิกฺขมถา’’ติอาทีหิ สํตชฺชกาฯ อนฺตรายกราติ ทายกสฺส สคฺคนฺตราโย, ปฎิคฺคาหกานํ ลาภนฺตราโย, อตฺตโน อุปฆาโตติ อิเมสํ อนฺตรายานํ การกาฯ

    49. Navame maccharinoti maccherena samannāgatā. Ekacco hi attano vasanaṭṭhāne bhikkhuṃ hatthaṃ pasāretvāpi na vandati, aññattha gato vihāraṃ pavisitvā sakkaccaṃ vanditvā madhurapaṭisanthāraṃ karoti – ‘‘bhante, amhākaṃ vasanaṭṭhānaṃ nāgacchatha, sampanno padeso, paṭibalā mayaṃ ayyānaṃ yāgubhattādīhi upaṭṭhānaṃ kātu’’nti. Bhikkhū ‘‘saddho ayaṃ upāsako’’ti yāgubhattādīhi saṅgaṇhanti. Atheko thero tassa gāmaṃ gantvā piṇḍāya carati. So taṃ disvā aññena vā gacchati, gharaṃ vā pavisati. Sacepi sammukhībhāvaṃ āgacchati, hatthena vanditvā – ‘‘ayyassa bhikkhaṃ detha, ahaṃ ekena kammena gacchāmī’’ti pakkamati. Thero sakalagāmaṃ caritvā tucchapattova nikkhamati. Idaṃ tāva mudumacchariyaṃ nāma, yena samannāgato adāyakopi dāyako viya paññāyati. Idha pana thaddhamacchariyaṃ adhippetaṃ, yena samannāgato bhikkhūsu piṇḍāya paviṭṭhesu, ‘‘therā ṭhitā’’ti vutte, ‘‘kiṃ mayhaṃ pādā rujjantī’’tiādīni vatvā silāthambho viya khāṇuko viya ca thaddho hutvā tiṭṭhati, sāmīcimpi na karoti. Kadariyāti idaṃ maccharinoti padasseva vevacanaṃ. Mudukampi hi macchariyaṃ ‘‘macchariya’’nteva vuccati, thaddhaṃ pana kadariyaṃ nāma. Paribhāsakāti bhikkhū gharadvāre ṭhite disvā, ‘‘kiṃ tumhe kasitvā āgatā, vapitvā, lāyitvā? Mayaṃ attanopi na labhāma, kuto tumhākaṃ, sīghaṃ nikkhamathā’’tiādīhi saṃtajjakā. Antarāyakarāti dāyakassa saggantarāyo, paṭiggāhakānaṃ lābhantarāyo, attano upaghātoti imesaṃ antarāyānaṃ kārakā.

    สมฺปราโยติ ปรโลโกฯ รตีติ ปญฺจกามคุณรติฯ ขิฑฺฑาติ กายิกขิฑฺฑาทิกา ติวิธา ขิฑฺฑาฯ ทิเฎฺฐ ธเมฺมส วิปาโกติ ตสฺมิํ นิพฺพตฺตภวเน ทิเฎฺฐ ธเมฺม เอส วิปาโกฯ สมฺปราเย จ ทุคฺคตีติ ‘‘ยมโลกํ อุปปชฺชเร’’ติ วุเตฺต สมฺปราเย จ ทุคฺคติฯ

    Samparāyoti paraloko. Ratīti pañcakāmaguṇarati. Khiḍḍāti kāyikakhiḍḍādikā tividhā khiḍḍā. Diṭṭhe dhammesa vipākoti tasmiṃ nibbattabhavane diṭṭhe dhamme esa vipāko. Samparāye ca duggatīti ‘‘yamalokaṃ upapajjare’’ti vutte samparāye ca duggati.

    วทญฺญูติ ภิกฺขู ฆรทฺวาเร ฐิตา กิญฺจาปิ ตุณฺหีว โหนฺติ, อตฺถโต ปน – ‘‘ภิกฺขํ เทถา’’ติ วทนฺติ นามฯ ตตฺร เย ‘‘มยํ ปจาม, อิเม ปน น ปจนฺติ, ปจมาเน ปตฺวา อลภนฺตา กุหิํ ลภิสฺสนฺตี’’ติ? เทยฺยธมฺมํ สํวิภชนฺติ, เต วทญฺญู นามฯ ปกาสนฺตีติ วิมานปฺปภาย โชตนฺติฯ ปรสมฺภเตสูติ ปเรหิ สมฺปิณฺฑิเตสุฯ สมฺปราเย จ สุคฺคตีติ, ‘‘เอเต สคฺคา’’ติ เอวํ วุตฺตสมฺปราเย สุคติฯ อุภินฺนมฺปิ วา เอเตสํ ตโต จวิตฺวา ปุน สมฺปราเยปิ ทุคฺคติสุคติเยว โหตีติฯ นวมํฯ

    Vadaññūti bhikkhū gharadvāre ṭhitā kiñcāpi tuṇhīva honti, atthato pana – ‘‘bhikkhaṃ dethā’’ti vadanti nāma. Tatra ye ‘‘mayaṃ pacāma, ime pana na pacanti, pacamāne patvā alabhantā kuhiṃ labhissantī’’ti? Deyyadhammaṃ saṃvibhajanti, te vadaññū nāma. Pakāsantīti vimānappabhāya jotanti. Parasambhatesūti parehi sampiṇḍitesu. Samparāye ca suggatīti, ‘‘ete saggā’’ti evaṃ vuttasamparāye sugati. Ubhinnampi vā etesaṃ tato cavitvā puna samparāyepi duggatisugatiyeva hotīti. Navamaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๙. มจฺฉริสุตฺตํ • 9. Maccharisuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๙. มจฺฉริสุตฺตวณฺณนา • 9. Maccharisuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact