Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อปทานปาฬิ • Apadānapāḷi |
๔. มธุทายกเตฺถรอปทานํ
4. Madhudāyakattheraapadānaṃ
๓๓๓.
333.
‘‘สินฺธุยา นทิยา ตีเร, สุกโต อสฺสโม มม;
‘‘Sindhuyā nadiyā tīre, sukato assamo mama;
ตตฺถ วาเจมหํ สิเสฺส, อิติหาสํ สลกฺขณํฯ
Tattha vācemahaṃ sisse, itihāsaṃ salakkhaṇaṃ.
๓๓๔.
334.
‘‘ธมฺมกามา วินีตา เต, โสตุกามา สุสาสนํ;
‘‘Dhammakāmā vinītā te, sotukāmā susāsanaṃ;
ฉฬเงฺค ปารมิปฺปตฺตา, สินฺธุกูเล วสนฺติ เตฯ
Chaḷaṅge pāramippattā, sindhukūle vasanti te.
๓๓๕.
335.
‘‘อุปฺปาตคมเน เจว, ลกฺขเณสุ จ โกวิทา;
‘‘Uppātagamane ceva, lakkhaṇesu ca kovidā;
อุตฺตมตฺถํ คเวสนฺตา, วสนฺติ วิปิเน ตทาฯ
Uttamatthaṃ gavesantā, vasanti vipine tadā.
๓๓๖.
336.
‘‘สุเมโธ นาม สมฺพุโทฺธ, โลเก อุปฺปชฺชิ ตาวเท;
‘‘Sumedho nāma sambuddho, loke uppajji tāvade;
อมฺหากํ อนุกมฺปโนฺต, อุปาคจฺฉิ วินายโกฯ
Amhākaṃ anukampanto, upāgacchi vināyako.
๓๓๗.
337.
‘‘อุปาคตํ มหาวีรํ, สุเมธํ โลกนายกํ;
‘‘Upāgataṃ mahāvīraṃ, sumedhaṃ lokanāyakaṃ;
ติณสนฺถารกํ กตฺวา, โลกเชฎฺฐสฺสทาสหํฯ
Tiṇasanthārakaṃ katvā, lokajeṭṭhassadāsahaṃ.
๓๓๘.
338.
‘‘วิปินาโต มธุํ คยฺห, พุทฺธเสฎฺฐสฺสทาสหํ;
‘‘Vipināto madhuṃ gayha, buddhaseṭṭhassadāsahaṃ;
สมฺพุโทฺธ ปริภุญฺชิตฺวา, อิทํ วจนมพฺรวิฯ
Sambuddho paribhuñjitvā, idaṃ vacanamabravi.
๓๓๙.
339.
‘‘‘โย ตํ อทาสิ มธุํ เม, ปสโนฺน เสหิ ปาณิภิ;
‘‘‘Yo taṃ adāsi madhuṃ me, pasanno sehi pāṇibhi;
ตมหํ กิตฺตยิสฺสามิ, สุณาถ มม ภาสโตฯ
Tamahaṃ kittayissāmi, suṇātha mama bhāsato.
๓๔๐.
340.
‘‘‘อิมินา มธุทาเนน, ติณสนฺถารเกน จ;
‘‘‘Iminā madhudānena, tiṇasanthārakena ca;
ติํส กปฺปสหสฺสานิ, เทวโลเก รมิสฺสติฯ
Tiṃsa kappasahassāni, devaloke ramissati.
๓๔๑.
341.
‘‘‘ติํส กปฺปสหสฺสมฺหิ, โอกฺกากกุลสมฺภโว;
‘‘‘Tiṃsa kappasahassamhi, okkākakulasambhavo;
โคตโม นาม โคเตฺตน, สตฺถา โลเก ภวิสฺสติฯ
Gotamo nāma gottena, satthā loke bhavissati.
๓๔๒.
342.
‘‘‘ตสฺส ธเมฺมสุ ทายาโท, โอรโส ธมฺมนิมฺมิโต;
‘‘‘Tassa dhammesu dāyādo, oraso dhammanimmito;
สพฺพาสเว ปริญฺญาย, นิพฺพายิสฺสตินาสโวฯ
Sabbāsave pariññāya, nibbāyissatināsavo.
๓๔๓.
343.
‘‘‘เทวโลกา อิธาคนฺตฺวา, มาตุกุจฺฉิํ อุปาคเต;
‘‘‘Devalokā idhāgantvā, mātukucchiṃ upāgate;
มธุวสฺสํ ปวสฺสิตฺถ, ฉาทยํ มธุนา มหิํ’ฯ
Madhuvassaṃ pavassittha, chādayaṃ madhunā mahiṃ’.
๓๔๔.
344.
‘‘มยิ นิกฺขนฺตมตฺตมฺหิ, กุจฺฉิยา จ สุทุตฺตรา;
‘‘Mayi nikkhantamattamhi, kucchiyā ca suduttarā;
ตตฺราปิ มธุวสฺสํ เม, วสฺสเต นิจฺจกาลิกํฯ
Tatrāpi madhuvassaṃ me, vassate niccakālikaṃ.
๓๔๕.
345.
‘‘อคารา อภินิกฺขมฺม, ปพฺพชิํ อนคาริยํ;
‘‘Agārā abhinikkhamma, pabbajiṃ anagāriyaṃ;
ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส, มธุทานสฺสิทํ ผลํฯ
Lābhī annassa pānassa, madhudānassidaṃ phalaṃ.
๓๔๖.
346.
‘‘สพฺพกามสมิโทฺธหํ, ภวิตฺวา เทวมานุเส;
‘‘Sabbakāmasamiddhohaṃ, bhavitvā devamānuse;
เตเนว มธุทาเนน, ปโตฺตมฺหิ อาสวกฺขยํฯ
Teneva madhudānena, pattomhi āsavakkhayaṃ.
๓๔๗.
347.
สุเญฺญ ฆเร มณฺฑปรุกฺขมูลเก, วสามิ นิจฺจํ สุขิโต อนาสโวฯ
Suññe ghare maṇḍaparukkhamūlake, vasāmi niccaṃ sukhito anāsavo.
๓๔๘.
348.
อชฺช เม อาสวา ขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวฯ
Ajja me āsavā khīṇā, natthi dāni punabbhavo.
๓๔๙.
349.
‘‘ติํสกปฺปสหสฺสมฺหิ, ยํ ทานมททิํ ตทา;
‘‘Tiṃsakappasahassamhi, yaṃ dānamadadiṃ tadā;
ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, มธุทานสฺสิทํ ผลํฯ
Duggatiṃ nābhijānāmi, madhudānassidaṃ phalaṃ.
๓๕๐.
350.
‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ, ภวา สเพฺพ สมูหตา;
‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ, bhavā sabbe samūhatā;
สพฺพาสวา ปริกฺขีณา, นตฺถิ ทานิ ปุนพฺภโวฯ
Sabbāsavā parikkhīṇā, natthi dāni punabbhavo.
๓๕๑.
351.
‘‘สฺวาคตํ วต เม อาสิ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํฯ
‘‘Svāgataṃ vata me āsi…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ.
๓๕๒.
352.
‘‘ปฎิสมฺภิทา จตโสฺส…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสนํ’’ฯ
‘‘Paṭisambhidā catasso…pe… kataṃ buddhassa sāsanaṃ’’.
อิตฺถํ สุทํ อายสฺมา มธุทายโก เถโร อิมา คาถาโย อภาสิตฺถาติฯ
Itthaṃ sudaṃ āyasmā madhudāyako thero imā gāthāyo abhāsitthāti.
มธุทายกเตฺถรสฺสาปทานํ จตุตฺถํฯ
Madhudāyakattherassāpadānaṃ catutthaṃ.
Footnotes: