English Edition
    Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Majjhima Nikāya, English translation

    มชฺฌิม นิกาย ๘๔

    The Middle-Length Suttas Collection 84

    มธุรสุตฺต

    At Madhurā

    เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ อายสฺมา มหากจฺจาโน มธุรายํ วิหรติ คุนฺทาวเนฯ

    So I have heard. At one time Venerable Mahākaccāna was staying near Madhurā, in Gunda’s Grove.

    อโสฺสสิ โข ราชา มาธุโร อวนฺติปุตฺโต: “สมโณ ขลุ, โภ, กจฺจาโน มธุรายํ วิหรติ คุนฺทาวเนฯ ตํ โข ปน ภวนฺตํ กจฺจานํ เอวํ กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต: ‘ปณฺฑิโต วิยตฺโต เมธาวี พหุสฺสุโต จิตฺตกถี กลฺยาณปฏิภาโน วุทฺโธ เจว อรหา จ'ฯ สาธุ โข ปน ตถารูปานํ อรหตํ ทสฺสนํ โหตี”ติฯ

    King Avantiputta of Madhurā heard, “It seems the ascetic Kaccāna is staying near Madhurā, in Gunda’s Grove. He has this good reputation: ‘He is astute, competent, clever, learned, a brilliant speaker, eloquent, mature, a perfected one.’ It’s good to see such perfected ones.”

    อถ โข ราชา มาธุโร อวนฺติปุตฺโต ภทฺรานิ ภทฺรานิ ยานานิ โยชาเปตฺวา ภทฺรํ ยานํ อภิรุหิตฺวา ภเทฺรหิ ภเทฺรหิ ยาเนหิ มธุราย นิยฺยาสิ มหจฺจราชานุภาเวน อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ ทสฺสนายฯ ยาวติกา ยานสฺส ภูมิ ยาเนน คนฺตฺวา ยานา ปจฺโจโรหิตฺวา ปตฺติโกว เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหากจฺจาเนน สทฺธึ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข ราชา มาธุโร อวนฺติปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ:

    And then King Avantiputta had the finest carriages harnessed. He mounted a fine carriage and, along with other fine carriages, set out in full royal pomp from Madhurā to see Mahākaccāna. He went by carriage as far as the terrain allowed, then descended and approached Mahākaccāna on foot. They exchanged greetings, and when the greetings and polite conversation were over, the king sat down to one side and said to Mahākaccāna:

    “พฺราหฺมณา, โภ กจฺจาน, เอวมาหํสุ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ; พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ, กโณฺห อญฺโญ วณฺโณ; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา'ติฯ อิธ ภวํ กจฺจาโน กิมกฺขายี”ติ?

    “Master Kaccāna, the brahmins say: ‘Only brahmins are the best caste; other castes are inferior. Only brahmins are the light caste; other castes are dark. Only brahmins are purified, not others. Only brahmins are Brahmā’s rightful sons, born of his mouth, born of Brahmā, created by Brahmā, heirs of Brahmā.’ What does Master Kaccāna have to say about this?”

    “โฆโสเยว โข เอโส, มหาราช, โลกสฺมึ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ; พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ, กโณฺห อญฺโญ วณฺโณ; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา'ติฯ ตทมินาเปตํ, มหาราช, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา โฆโสเยเวโส โลกสฺมึ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ …เป… พฺรหฺมทายาทา'ติฯ

    “Great king, that’s just propaganda. And here’s a way to understand that it’s just propaganda.

    ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, ขตฺติยสฺส เจปิ อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา ขตฺติโยปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที … พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส … เวโสฺสปิสฺสาสฺส … สุทฺโทปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติ?

    What do you think, great king? Suppose an aristocrat prospers in money, grain, silver, or gold. Wouldn’t there be aristocrats, brahmins, peasants, and menials who would get up before him and go to bed after him, and be obliging, behaving nicely and speaking politely?”

    “ขตฺติยสฺส เจปิ, โภ กจฺจาน, อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา ขตฺติโยปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที … พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส … เวโสฺสปิสฺสาสฺส … สุทฺโทปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติฯ

    “There would, Master Kaccāna.”

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, พฺราหฺมณสฺส เจปิ อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที … เวโสฺสปิสฺสาสฺส … สุทฺโทปิสฺสาสฺส … ขตฺติโยปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติ? “พฺราหฺมณสฺส เจปิ, โภ กจฺจาน, อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที … เวโสฺสปิสฺสาสฺส … สุทฺโทปิสฺสาสฺส … ขตฺติโยปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติฯ “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, เวสฺสสฺส เจปิ อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา เวโสฺสปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที … สุทฺโทปิสฺสาสฺส … ขตฺติโยปิสฺสาสฺส … พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติ? “เวสฺสสฺส เจปิ, โภ กจฺจาน, อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา เวโสฺสปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที … สุทฺโทปิสฺสาสฺส … ขตฺติโยปิสฺสาสฺส … พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติฯ “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, สุทฺทสฺส เจปิ อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา สุทฺโทปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที … ขตฺติโยปิสฺสาสฺส … พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส … เวโสฺสปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติ?

    “What do you think, great king? Suppose a brahmin … a peasant … a menial prospers in money, grain, silver, or gold. Wouldn’t there be menials, aristocrats, brahmins, and peasants who would get up before him and go to bed after him, and be obliging, behaving nicely and speaking politely?”

    “สุทฺทสฺส เจปิ, โภ กจฺจาน, อิชฺเฌยฺย ธเนน วา ธญฺเญน วา รชเตน วา ชาตรูเปน วา สุทฺโทปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาทีติ … ขตฺติโยปิสฺสาสฺส … พฺราหฺมโณปิสฺสาสฺส … เวโสฺสปิสฺสาสฺส ปุพฺพุฏฺฐายี ปจฺฉานิปาตี กิงฺการปฏิสฺสาวี มนาปจารี ปิยวาที”ติฯ

    “There would, Master Kaccāna.”

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, ยทิ เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติ โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    “What do you think, great king? If this is so, are the four castes equal or not? Or how do you see this?”

    “อทฺธา โข, โภ กจฺจาน, เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติฯ เนสํ เอตฺถ กิญฺจิ นานากรณํ สมนุปสฺสามี”ติฯ

    “Certainly, Master Kaccāna, in this case these four castes are equal. I can’t see any difference between them.”

    “อิมินาปิ โข เอตํ, มหาราช, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา โฆโสเยเวโส โลกสฺมึ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ …เป… พฺรหฺมทายาทา'ติฯ

    “And here’s another way to understand that the claims of the brahmins are just propaganda.

    ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธสฺส ขตฺติโย ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    What do you think, great king? Take an aristocrat who kills living creatures, steals, and commits sexual misconduct; uses speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical; and is covetous, malicious, and has wrong view. When their body breaks up, after death, would they be reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell, or not? Or how do you see this?”

    “ขตฺติโยปิ หิ, โภ กจฺจาน, ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี กาเมสุมิจฺฉาจารี มุสาวาที ปิสุณวาโจ ผรุสวาโจ สมฺผปฺปลาปี อภิชฺฌาลุ พฺยาปนฺนจิตฺโต มิจฺฉาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยฯ เอวํ เม เอตฺถ โหติ, เอวญฺจ ปน เม เอตํ อรหตํ สุตนฺ”ติฯ

    “Such an aristocrat would be reborn in a bad place. That’s what I think, but I’ve also heard it from the perfected ones.”

    “สาธุ สาธุ, มหาราชฯ สาธุ โข เต เอตํ, มหาราช, เอวํ โหติ, สาธุ จ ปน เต เอตํ อรหตํ สุตํฯ ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธสฺส พฺราหฺมโณ …เป… อิธสฺส เวโสฺส …เป… อิธสฺส สุทฺโท ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี …เป… มิจฺฉาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺย โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    “Good, good, great king! It’s good that you think so, and it’s good that you’ve heard it from the perfected ones. What do you think, great king? Take a brahmin … a peasant … a menial who kills living creatures, steals, and commits sexual misconduct; uses speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical; and is covetous, malicious, and has wrong view. When their body breaks up, after death, would they be reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell, or not? Or how do you see this?”

    “สุทฺโทปิ หิ, โภ กจฺจาน, ปาณาติปาตี อทินฺนาทายี …เป… มิจฺฉาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปชฺเชยฺยฯ เอวํ เม เอตฺถ โหติ, เอวญฺจ ปน เม เอตํ อรหตํ สุตนฺ”ติฯ

    “Such a brahmin, peasant, or menial would be reborn in a bad place. That’s what I think, but I’ve also heard it from the perfected ones.”

    “สาธุ สาธุ, มหาราชฯ สาธุ โข เต เอตํ, มหาราช, เอวํ โหติ, สาธุ จ ปน เต เอตํ อรหตํ สุตํฯ ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, ยทิ เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติ โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    “Good, good, great king! It’s good that you think so, and it’s good that you’ve heard it from the perfected ones. What do you think, great king? If this is so, are the four castes equal or not? Or how do you see this?”

    “อทฺธา โข, โภ กจฺจาน, เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติฯ เนสํ เอตฺถ กิญฺจิ นานากรณํ สมนุปสฺสามี”ติฯ

    “Certainly, Master Kaccāna, in this case these four castes are equal. I can’t see any difference between them.”

    “อิมินาปิ โข เอตํ, มหาราช, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา โฆโสเยเวโส โลกสฺมึ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ …เป… พฺรหฺมทายาทา'”ติฯ

    “And here’s another way to understand that the claims of the brahmins are just propaganda.

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธสฺส ขตฺติโย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต, อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิตฺโต สมฺมาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    What do you think, great king? Take an aristocrat who doesn’t kill living creatures, steal, or commit sexual misconduct. They don’t use speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical. And they’re contented, kind-hearted, with right view. When their body breaks up, after death, would they be reborn in a good place, a heavenly realm, or not? Or how do you see this?”

    “ขตฺติโยปิ หิ, โภ กจฺจาน, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต, กาเมสุมิจฺฉาจารา ปฏิวิรโต, มุสาวาทา ปฏิวิรโต, ปิสุณาย วาจาย ปฏิวิรโต, ผรุสาย วาจาย ปฏิวิรโต, สมฺผปฺปลาปา ปฏิวิรโต, อนภิชฺฌาลุ อพฺยาปนฺนจิตฺโต สมฺมาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยฯ เอวํ เม เอตฺถ โหติ, เอวญฺจ ปน เม เอตํ อรหตํ สุตนฺ”ติฯ

    “Such an aristocrat would be reborn in a good place. That’s what I think, but I’ve also heard it from the perfected ones.”

    “สาธุ สาธุ, มหาราชฯ สาธุ โข เต เอตํ, มหาราช, เอวํ โหติ, สาธุ จ ปน เต เอตํ อรหตํ สุตํฯ ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธสฺส พฺราหฺมโณ, อิธสฺส เวโสฺส, อิธสฺส สุทฺโท ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต …เป… สมฺมาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺย โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    “Good, good, great king! It’s good that you think so, and it’s good that you’ve heard it from the perfected ones. What do you think, great king? Take a brahmin, peasant, or menial who doesn’t kill living creatures, steal, or commit sexual misconduct. They don’t use speech that’s false, divisive, harsh, or nonsensical. And they’re contented, kind-hearted, with right view. When their body breaks up, after death, would they be reborn in a good place, a heavenly realm, or not? Or how do you see this?”

    “สุทฺโทปิ หิ, โภ กจฺจาน, ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต, อทินฺนาทานา ปฏิวิรโต …เป… สมฺมาทิฏฺฐิ กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺเชยฺยฯ เอวํ เม เอตฺถ โหติ, เอวญฺจ ปน เม เอตํ อรหตํ สุตนฺ”ติฯ

    “Such a brahmin, peasant, or menial would be reborn in a good place. That’s what I think, but I’ve also heard it from the perfected ones.”

    “สาธุ สาธุ, มหาราชฯ สาธุ โข เต เอตํ, มหาราช, เอวํ โหติ, สาธุ จ ปน เต เอตํ อรหตํ สุตํฯ ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, ยทิ เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติ โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    “Good, good, great king! It’s good that you think so, and it’s good that you’ve heard it from the perfected ones. What do you think, great king? If this is so, are the four castes equal or not? Or how do you see this?”

    “อทฺธา โข, โภ กจฺจาน, เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติฯ เนสํ เอตฺถ กิญฺจิ นานากรณํ สมนุปสฺสามี”ติฯ

    “Certainly, Master Kaccāna, in this case these four castes are equal. I can’t see any difference between them.”

    “อิมินาปิ โข เอตํ, มหาราช, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา โฆโสเยเวโส โลกสฺมึ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ …เป… พฺรหฺมทายาทา'”ติฯ

    “And here’s another way to understand that the claims of the brahmins are just propaganda.

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธ ขตฺติโย สนฺธึ วา ฉินฺเทยฺย, นิโลฺลปํ วา หเรยฺย, เอกาคาริกํ วา กเรยฺย, ปริปนฺเถ วา ติฏฺเฐยฺย, ปรทารํ วา คจฺเฉยฺย, ตญฺเจ เต ปุริสา คเหตฺวา ทเสฺสยฺยุํ: ‘อยํ เต, เทว, โจโร อาคุจารีฯ อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ ตํ ทณฺฑํ ปเณหี'ติฯ กินฺติ นํ กเรยฺยาสี”ติ?

    What do you think, great king? Take an aristocrat who breaks into houses, plunders wealth, steals from isolated buildings, commits highway robbery, and commits adultery. Suppose your men arrest him and present him to you, saying: ‘Your Majesty, this man is a bandit, a criminal. Punish him as you will.’ What would you do to him?”

    “ฆาเตยฺยาม วา, โภ กจฺจาน, ชาเปยฺยาม วา ปพฺพาเชยฺยาม วา ยถาปจฺจยํ วา กเรยฺยามฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยา หิสฺส, โภ กจฺจาน, ปุพฺเพ ‘ขตฺติโย'ติ สมญฺญา สาสฺส อนฺตรหิตา; โจโรเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี”ติฯ

    “I would have him executed, fined, or banished, or dealt with as befits the crime. Why is that? Because he’s lost his former status as an aristocrat, and is just reckoned as a bandit.”

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธ พฺราหฺมโณ, อิธ เวโสฺส, อิธ สุทฺโท สนฺธึ วา ฉินฺเทยฺย, นิโลฺลปํ วา หเรยฺย, เอกาคาริกํ วา กเรยฺย, ปริปนฺเถ วา ติฏฺเฐยฺย, ปรทารํ วา คจฺเฉยฺย, ตญฺเจ เต ปุริสา คเหตฺวา ทเสฺสยฺยุํ: ‘อยํ เต, เทว, โจโร อาคุจารีฯ อิมสฺส ยํ อิจฺฉสิ ตํ ทณฺฑํ ปเณหี'ติฯ กินฺติ นํ กเรยฺยาสี”ติ?

    “What do you think, great king? Take a brahmin, peasant, or menial who breaks into houses, plunders wealth, steals from isolated buildings, commits highway robbery, and commits adultery. Suppose your men arrest him and present him to you, saying: ‘Your Majesty, this man is a bandit, a criminal. Punish him as you will.’ What would you do to him?”

    “ฆาเตยฺยาม วา, โภ กจฺจาน, ชาเปยฺยาม วา ปพฺพาเชยฺยาม วา ยถาปจฺจยํ วา กเรยฺยามฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยา หิสฺส, โภ กจฺจาน, ปุพฺเพ ‘สุทฺโท'ติ สมญฺญา สาสฺส อนฺตรหิตา; โจโรเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี”ติฯ

    “I would have him executed, fined, or banished, or dealt with as befits the crime. Why is that? Because he’s lost his former status as a brahmin, peasant, or menial, and is just reckoned as a bandit.”

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, ยทิ เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติ โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    “What do you think, great king? If this is so, are the four castes equal or not? Or how do you see this?”

    “อทฺธา โข, โภ กจฺจาน, เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติฯ เนสํ เอตฺถ กิญฺจิ นานากรณํ สมนุปสฺสามี”ติฯ

    “Certainly, Master Kaccāna, in this case these four castes are equal. I can’t see any difference between them.”

    “อิมินาปิ โข เอตํ, มหาราช, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา โฆโสเยเวโส โลกสฺมึ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ …เป… พฺรหฺมทายาทา'”ติฯ

    “And here’s another way to understand that the claims of the brahmins are just propaganda.

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธ ขตฺติโย เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต อสฺส วิรโต ปาณาติปาตา, วิรโต อทินฺนาทานา, วิรโต มุสาวาทา, รตฺตูปรโต, เอกภตฺติโก, พฺรหฺมจารี, สีลวา, กลฺยาณธมฺโมฯ กินฺติ นํ กเรยฺยาสี”ติ?

    What do you think, great king? Take an aristocrat who shaves off their hair and beard, dresses in ocher robes, and goes forth from the lay life to homelessness. They refrain from killing living creatures, stealing, and lying. They abstain from eating at night, eat in one part of the day, and are celibate, ethical, and of good character. How would you treat them?”

    “อภิวาเทยฺยาม วา, โภ กจฺจาน, ปจฺจุฏฺเฐยฺยาม วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยาม อภินิมนฺเตยฺยาม วา นํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ ธมฺมิกํ วา อสฺส รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทเหยฺยามฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยา หิสฺส, โภ กจฺจาน, ปุพฺเพ ‘ขตฺติโย'ติ สมญฺญา สาสฺส อนฺตรหิตา; สมโณเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี”ติฯ

    “I would bow to them, rise in their presence, or offer them a seat. I’d invite them to accept robes, almsfood, lodgings, and medicines and supplies for the sick. And I’d organize their lawful guarding and protection. Why is that? Because they’ve lost their former status as an aristocrat, and are just reckoned as an ascetic.”

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, อิธ พฺราหฺมโณ, อิธ เวโสฺส, อิธ สุทฺโท เกสมสฺสุํ โอหาเรตฺวา กาสายานิ วตฺถานิ อจฺฉาเทตฺวา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิโต อสฺส วิรโต ปาณาติปาตา, วิรโต อทินฺนาทานา วิรโต มุสาวาทา, รตฺตูปรโต, เอกภตฺติโก, พฺรหฺมจารี, สีลวา, กลฺยาณธมฺโมฯ กินฺติ นํ กเรยฺยาสี”ติ?

    “What do you think, great king? Take a brahmin, peasant, or menial who shaves off their hair and beard, dresses in ocher robes, and goes forth from the lay life to homelessness. They refrain from killing living creatures, stealing, and lying. They abstain from eating at night, eat in one part of the day, and are celibate, ethical, and of good character. How would you treat them?”

    “อภิวาเทยฺยาม วา, โภ กจฺจาน, ปจฺจุฏฺเฐยฺยาม วา อาสเนน วา นิมนฺเตยฺยาม อภินิมนฺเตยฺยาม วา นํ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปฺปจฺจยเภสชฺชปริกฺขาเรหิ ธมฺมิกํ วา อสฺส รกฺขาวรณคุตฺตึ สํวิทเหยฺยามฯ ตํ กิสฺส เหตุ? ยา หิสฺส, โภ กจฺจาน, ปุพฺเพ ‘สุทฺโท'ติ สมญฺญา สาสฺส อนฺตรหิตา; สมโณเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี”ติฯ

    “I would bow to them, rise in their presence, or offer them a seat. I’d invite them to accept robes, almsfood, lodgings, and medicines and supplies for the sick. And I’d organize their lawful guarding and protection. Why is that? Because they’ve lost their former status as a brahmin, peasant, or menial, and are just reckoned as an ascetic.”

    “ตํ กึ มญฺญสิ, มหาราช, ยทิ เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติ โน วา? กถํ วา เต เอตฺถ โหตี”ติ?

    “What do you think, great king? If this is so, are the four castes equal or not? Or how do you see this?”

    “อทฺธา โข, โภ กจฺจาน, เอวํ สนฺเต, อิเม จตฺตาโร วณฺณา สมสมา โหนฺติฯ เนสํ เอตฺถ กิญฺจิ นานากรณํ สมนุปสฺสามี”ติฯ

    “Certainly, Master Kaccāna, in this case these four castes are equal. I can’t see any difference between them.”

    “อิมินาปิ โข เอตํ, มหาราช, ปริยาเยน เวทิตพฺพํ ยถา โฆโสเยเวโส โลกสฺมึ: ‘พฺราหฺมโณว เสฏฺโฐ วณฺโณ, หีโน อญฺโญ วณฺโณ; พฺราหฺมโณว สุกฺโก วณฺโณ, กโณฺห อญฺโญ วณฺโณ; พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ, โน อพฺราหฺมณา; พฺราหฺมณาว พฺรหฺมุโน ปุตฺตา โอรสา มุขโต ชาตา พฺรหฺมชา พฺรหฺมนิมฺมิตา พฺรหฺมทายาทา'”ติฯ

    “This is another way to understand that this is just propaganda: ‘Only brahmins are the best caste; other castes are inferior. Only brahmins are the light caste; other castes are dark. Only brahmins are purified, not others. Only brahmins are Brahmā’s rightful sons, born of his mouth, born of Brahmā, created by Brahmā, heirs of Brahmā.’”

    เอวํ วุตฺเต, ราชา มาธุโร อวนฺติปุตฺโต อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ: “อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจาน, อภิกฺกนฺตํ, โภ กจฺจานฯ เสยฺยถาปิ, โภ กจฺจาน, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี'ติ; เอวเมวํ โภตา กจฺจาเนน อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ ภวนฺตํ กจฺจานํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ กจฺจาโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติฯ

    When he had spoken, King Avantiputta of Madhurā said to Mahākaccāna, “Excellent, Master Kaccāna! Excellent! As if he were righting the overturned, or revealing the hidden, or pointing out the path to the lost, or lighting a lamp in the dark so people with clear eyes can see what’s there, Master Kaccāna has made the teaching clear in many ways. I go for refuge to Master Kaccāna, to the teaching, and to the bhikkhu Saṅgha. From this day forth, may Master Kaccāna remember me as a lay follower who has gone for refuge for life.”

    “มา โข มํ ตฺวํ, มหาราช, สรณํ อคมาสิฯ ตเมว ตฺวํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉ ยมหํ สรณํ คโต”ติฯ

    “Great king, don’t go for refuge to me. You should go for refuge to that same Blessed One to whom I have gone for refuge.”

    “กหํ ปน, โภ กจฺจาน, เอตรหิ โส ภควา วิหรติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ”ติ?

    “But where is that Blessed One at present, the perfected one, the fully awakened Buddha?”

    “ปรินิพฺพุโต โข, มหาราช, เอตรหิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ”ติฯ

    “Great king, the Buddha has already become fully extinguished.”

    “สเจปิ มยํ, โภ กจฺจาน, สุเณยฺยาม ตํ ภควนฺตํ ทสสุ โยชเนสุ, ทสปิ มยํ โยชนานิ คจฺเฉยฺยาม ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ สเจปิ มยํ, โภ กจฺจาน, สุเณยฺยาม ตํ ภควนฺตํ วีสติยา โยชเนสุ, ตึสาย โยชเนสุ, จตฺตารีสาย โยชเนสุ, ปญฺญาสาย โยชเนสุ, ปญฺญาสมฺปิ มยํ โยชนานิ คจฺเฉยฺยาม ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ โยชนสเต เจปิ มยํ โภ กจฺจาน, สุเณยฺยาม ตํ ภควนฺตํ, โยชนสตมฺปิ มยํ คจฺเฉยฺยาม ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ ยโต จ, โภ กจฺจาน, ปรินิพฺพุโต โส ภควา, ปรินิพฺพุตมฺปิ มยํ ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ อุปาสกํ มํ ภวํ กจฺจาโน ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปตํ สรณํ คตนฺ”ติฯ

    “Master Kaccāna, if I heard that the Buddha was within ten leagues, or twenty, or even up to a hundred leagues away, I’d go a hundred leagues to see him. But since the Buddha has become fully extinguished, I go for refuge to that fully extinguished Buddha, to the teaching, and to the bhikkhu Saṅgha. From this day forth, may Master Kaccāna remember me as a lay follower who has gone for refuge for life.”

    มธุรสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ จตุตฺถํฯ





    The authoritative text of the Majjhima Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact