Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā)

    ๔. มธุรสุตฺตวณฺณนา

    4. Madhurasuttavaṇṇanā

    ๓๑๗. มธุรายนฺติ อุตฺตรมธุรายํฯ คุนฺทาวเนติ กาฬสิปฺปลิวเนฯ อติมุตฺตกวเนติ จ วทนฺติฯ จตูสุ วเณฺณสุ พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณฯ ปณฺฑโรติ ปริสุโทฺธฯ กาฬโกติ อปริสุโทฺธฯ ชาติโคตฺตาทิปญฺญาปนฎฺฐาเนสูติ ชาติโคตฺตาทิวเสน สุทฺธจินฺตายํ พฺราหฺมณา เอว สุทฺธชาติกา, น อิตเรติ อธิปฺปาโยฯ สํสารโต วา สุทฺธจินฺตายํ พฺราหฺมณาว สุชฺฌนฺติ เวทวิหิตสฺส สุทฺธวิธิโน อเญฺญสํ อวิสยตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ ตํ ปเนตํ เตสํ วิรุชฺฌติ ขตฺติยเวสฺสานมฺปิ มนฺตเชฺฌนสฺส อนุญฺญาตตฺตา, มนฺตเชฺฌนวิธินา จ สํสารสุทฺธิยาภาวโตฯ ปุตฺตา นาม อโนรสาปิ โหนฺติ, น ตถา อิเมติ อาห ‘‘โอรสา’’ติฯ อุเร สํวฑฺฒิตปุโตฺตปิ ‘‘โอรส’’นฺติ วุจฺจติฯ อิเม ปน มุขโต นิคฺคโต หุตฺวา อุเร สํวฑฺฒาติ ทเสฺสตุํ ‘‘โอรสา มุขโต ชาตา’’ติ วุตฺตํฯ ตโต เอว พฺรหฺมโต ชาตาติ พฺรหฺมชา, พฺรหฺมสมฺภูตาปิ ‘‘พฺรหฺมชา’’ติ วุจฺจนฺติ, น ตถา อิเมฯ อิเม ปน ปจฺจกฺขโต พฺรหฺมุนา นิมฺมิตาติ พฺรหฺมนิมฺมิตา, ตโต เอว พฺรหฺมโต ลทฺธพฺพวิชฺชาทิทายชฺชทายาทาติ พฺรหฺมทายาทาติ สพฺพเมตํ พฺราหฺมณานํ กตฺถนาปลาปสทิสํ วิญฺญูนํ อปฺปมาณํ อวิมทฺทกฺขมํ วาจาวตฺถุมตฺตํ พฺรหฺมกุตฺตเสฺสว อภาวโตฯ ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ วิสุทฺธิมคฺควณฺณนายํ วุตฺตเมวฯ เตนาห ‘‘โฆโสเยวา’’ติอาทิฯ โวหารมตฺตเมเวตนฺติ เอตํ ‘‘พฺราหฺมโณว เสโฎฺฐ วโณฺณ’’ติอาทิ วจนมตฺตเมว, น ตสฺส อโตฺถ เตหิ อธิเปฺปตปฺปกาโร อตฺถิฯ

    317.Madhurāyanti uttaramadhurāyaṃ. Gundāvaneti kāḷasippalivane. Atimuttakavaneti ca vadanti. Catūsu vaṇṇesu brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo. Paṇḍaroti parisuddho. Kāḷakoti aparisuddho. Jātigottādipaññāpanaṭṭhānesūti jātigottādivasena suddhacintāyaṃ brāhmaṇā eva suddhajātikā, na itareti adhippāyo. Saṃsārato vā suddhacintāyaṃ brāhmaṇāva sujjhanti vedavihitassa suddhavidhino aññesaṃ avisayattāti adhippāyo. Taṃ panetaṃ tesaṃ virujjhati khattiyavessānampi mantajjhenassa anuññātattā, mantajjhenavidhinā ca saṃsārasuddhiyābhāvato. Puttā nāma anorasāpi honti, na tathā imeti āha ‘‘orasā’’ti. Ure saṃvaḍḍhitaputtopi ‘‘orasa’’nti vuccati. Ime pana mukhato niggato hutvā ure saṃvaḍḍhāti dassetuṃ ‘‘orasā mukhato jātā’’ti vuttaṃ. Tato eva brahmato jātāti brahmajā, brahmasambhūtāpi ‘‘brahmajā’’ti vuccanti, na tathā ime. Ime pana paccakkhato brahmunā nimmitāti brahmanimmitā, tato eva brahmato laddhabbavijjādidāyajjadāyādāti brahmadāyādāti sabbametaṃ brāhmaṇānaṃ katthanāpalāpasadisaṃ viññūnaṃ appamāṇaṃ avimaddakkhamaṃ vācāvatthumattaṃ brahmakuttasseva abhāvato. Yaṃ panettha vattabbaṃ, taṃ visuddhimaggavaṇṇanāyaṃ vuttameva. Tenāha ‘‘ghosoyevā’’tiādi. Vohāramattamevetanti etaṃ ‘‘brāhmaṇova seṭṭho vaṇṇo’’tiādi vacanamattameva, na tassa attho tehi adhippetappakāro atthi.

    ๓๑๘. สมิเชฺฌยฺยาติ ทิฎฺฐิทีปนวเสน อตฺตโน อชฺฌาสโย นิปฺผเชฺชยฺยฯ เตนาห ‘‘มโนรโถ ปูเรยฺยา’’ติฯ ขตฺติโยปีติ ปรขตฺติโยปิ ฯ อสฺสาติ สมิทฺธธนาทิํ ปตฺตสฺสฯ เตนาห – ‘‘อิสฺสริยสมฺปตฺตสฺสา’’ติ เนสนฺติ เอเตสํ จตุนฺนํ วณฺณานํ เอตฺถ ปุพฺพุฎฺฐายิภาวาทินา อิตเรหิ อุปจริตพฺพตาย น กิญฺจิ นานากรณนฺติ โยชนาฯ

    318.Samijjheyyāti diṭṭhidīpanavasena attano ajjhāsayo nipphajjeyya. Tenāha ‘‘manoratho pūreyyā’’ti. Khattiyopīti parakhattiyopi . Assāti samiddhadhanādiṃ pattassa. Tenāha – ‘‘issariyasampattassā’’ti nesanti etesaṃ catunnaṃ vaṇṇānaṃ ettha pubbuṭṭhāyibhāvādinā itarehi upacaritabbatāya na kiñci nānākaraṇanti yojanā.

    ๓๒๒. อหํ จีวราทีหิ อุปฎฺฐาโก, ตุมฺหากํ อิจฺฉิตจฺฉิตกฺขเณ วเทยฺยาถ เยนโตฺถติ โยชนาฯ โจราทิอุปทฺทวนิเสธเนน รกฺขาคุตฺติ, ทานาทินิมิตฺตอุปทฺทวนิเสธเนน อาวรณคุตฺติฯ ปจฺจุปฺปนฺนานตฺถนิเสธเนน วา รกฺขาคุตฺติ, อาคามิอนตฺถนิเสธเนน อาวรณคุตฺติฯ เอตฺถ จ ขตฺติยาทีสุ โย โย อิสฺสโร, ตสฺส อิตเรน อนุวเตฺตตพฺพภาเว, กุสลากุสลกรเณน เนสํ วเสน ลทฺธพฺพอภิสมฺปราเย, ปพฺพชิเตหิ ลทฺธพฺพสามีจิกิริยาย จ อณุมโตฺตปิ วิเสโส นตฺถิ, ตสฺมา โส วิเสสาภาโว ปาฬิยํ ตตฺถ ตตฺถ วาเร ‘‘เอวํ สเนฺต’’ติอาทินา วิภาวิโตฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    322. Ahaṃ cīvarādīhi upaṭṭhāko, tumhākaṃ icchitacchitakkhaṇe vadeyyātha yenatthoti yojanā. Corādiupaddavanisedhanena rakkhāgutti, dānādinimittaupaddavanisedhanena āvaraṇagutti. Paccuppannānatthanisedhanena vā rakkhāgutti, āgāmianatthanisedhanena āvaraṇagutti. Ettha ca khattiyādīsu yo yo issaro, tassa itarena anuvattetabbabhāve, kusalākusalakaraṇena nesaṃ vasena laddhabbaabhisamparāye, pabbajitehi laddhabbasāmīcikiriyāya ca aṇumattopi viseso natthi, tasmā so visesābhāvo pāḷiyaṃ tattha tattha vāre ‘‘evaṃ sante’’tiādinā vibhāvito. Sesaṃ suviññeyyameva.

    มธุรสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

    Madhurasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๔. มธุรสุตฺตํ • 4. Madhurasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๔. มธุรสุตฺตวณฺณนา • 4. Madhurasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact