Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya |
๓. อโยคุฬวโคฺค
3. Ayoguḷavaggo
๑. มคฺคสุตฺตํ
1. Maggasuttaṃ
๘๓๓. สาวตฺถินิทานํ ฯ ‘‘ปุเพฺพว เม, ภิกฺขเว, สโมฺพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตเสฺสว สโต เอตทโหสิ – ‘โก นุ โข มโคฺค, กา ปฎิปทา อิทฺธิปาทภาวนายา’ติ ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘อิธ ภิกฺขุ ฉนฺทสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ – อิติ เม ฉโนฺท น จ อติลีโน ภวิสฺสติ, น จ อติปฺปคฺคหิโต ภวิสฺสติ, น จ อชฺฌตฺตํ สํขิโตฺต ภวิสฺสติ, น จ พหิทฺธา วิกฺขิโตฺต ภวิสฺสติฯ ปจฺฉาปุเรสญฺญี จ วิหรติ – ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา, ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเร; ยถา อโธ ตถา อุทฺธํ, ยถา อุทฺธํ ตถา อโธ; ยถา ทิวา ตถา รตฺติํ, ยถา รตฺติํ ตถา ทิวาฯ อิติ วิวเฎน เจตสา อปริโยนเทฺธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติ ฯ วีริยสมาธิ…เป.… จิตฺตสมาธิ…เป.… วีมํสาสมาธิปฺปธานสงฺขารสมนฺนาคตํ อิทฺธิปาทํ ภาเวติ – อิติ เม วีมํสา น จ อติลีนา ภวิสฺสติ, น จ อติปฺปคฺคหิตา ภวิสฺสติ, น จ อชฺฌตฺตํ สํขิตฺตา ภวิสฺสติ, น จ พหิทฺธา วิกฺขิตฺตา ภวิสฺสติฯ ปจฺฉาปุเรสญฺญี จ วิหรติ – ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉา, ยถา ปจฺฉา ตถา ปุเร; ยถา อโธ ตถา อุทฺธํ, ยถา อุทฺธํ ตถา อโธ; ยถา ทิวา ตถา รตฺติํ ยถา รตฺติํ ตถา ทิวา’ – อิติ วิวเฎน เจตสา อปริโยนเทฺธน สปฺปภาสํ จิตฺตํ ภาเวติฯ
833. Sāvatthinidānaṃ . ‘‘Pubbeva me, bhikkhave, sambodhā anabhisambuddhassa bodhisattasseva sato etadahosi – ‘ko nu kho maggo, kā paṭipadā iddhipādabhāvanāyā’ti ? Tassa mayhaṃ, bhikkhave, etadahosi – ‘idha bhikkhu chandasamādhippadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti – iti me chando na ca atilīno bhavissati, na ca atippaggahito bhavissati, na ca ajjhattaṃ saṃkhitto bhavissati, na ca bahiddhā vikkhitto bhavissati. Pacchāpuresaññī ca viharati – yathā pure tathā pacchā, yathā pacchā tathā pure; yathā adho tathā uddhaṃ, yathā uddhaṃ tathā adho; yathā divā tathā rattiṃ, yathā rattiṃ tathā divā. Iti vivaṭena cetasā apariyonaddhena sappabhāsaṃ cittaṃ bhāveti . Vīriyasamādhi…pe… cittasamādhi…pe… vīmaṃsāsamādhippadhānasaṅkhārasamannāgataṃ iddhipādaṃ bhāveti – iti me vīmaṃsā na ca atilīnā bhavissati, na ca atippaggahitā bhavissati, na ca ajjhattaṃ saṃkhittā bhavissati, na ca bahiddhā vikkhittā bhavissati. Pacchāpuresaññī ca viharati – yathā pure tathā pacchā, yathā pacchā tathā pure; yathā adho tathā uddhaṃ, yathā uddhaṃ tathā adho; yathā divā tathā rattiṃ yathā rattiṃ tathā divā’ – iti vivaṭena cetasā apariyonaddhena sappabhāsaṃ cittaṃ bhāveti.
‘‘เอวํ ภาวิเตสุ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ เอวํ พหุลีกเตสุ อเนกวิหิตํ อิทฺธิวิธํ ปจฺจนุโภติ – เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหติ, พหุธาปิ หุตฺวา เอโก โหติ…เป.… ยาว พฺรหฺมโลกาปิ กาเยน วสํ วเตฺตติฯ เอวํ ภาวิเตสุ โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จตูสุ อิทฺธิปาเทสุ เอวํ พหุลีกเตสุ, อาสวานํ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺติํ ปญฺญาวิมุตฺติํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติฯ ปฐมํฯ
‘‘Evaṃ bhāvitesu kho, bhikkhave, bhikkhu catūsu iddhipādesu evaṃ bahulīkatesu anekavihitaṃ iddhividhaṃ paccanubhoti – ekopi hutvā bahudhā hoti, bahudhāpi hutvā eko hoti…pe… yāva brahmalokāpi kāyena vasaṃ vatteti. Evaṃ bhāvitesu kho, bhikkhave, bhikkhu catūsu iddhipādesu evaṃ bahulīkatesu, āsavānaṃ khayā anāsavaṃ cetovimuttiṃ paññāvimuttiṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja viharatī’’ti. Paṭhamaṃ.
(ฉปิ อภิญฺญาโย วิตฺถาเรตพฺพา)ฯ
(Chapi abhiññāyo vitthāretabbā).