Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
๙. มฆเทวชาตกวณฺณนา
9. Maghadevajātakavaṇṇanā
อุตฺตมงฺครุหา มยฺหนฺติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต มหาภินิกฺขมนํ อารพฺภ กเถสิฯ ตํ เหฎฺฐา นิทานกถายํ กถิตเมวฯ ตสฺมิํ ปน กาเล ภิกฺขู ทสพลสฺส เนกฺขมฺมํ วณฺณยนฺตา นิสีทิํสุฯ อถ สตฺถา ธมฺมสภํ อาคนฺตฺวา พุทฺธาสเน นิสิโนฺน ภิกฺขู อามเนฺตสิ ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติฯ ‘‘ภเนฺต, น อญฺญาย กถาย, ตุมฺหากํเยว ปน เนกฺขมฺมํ วณฺณยมานา นิสินฺนามฺหา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต เอตรหิเยว เนกฺขมฺมํ นิกฺขโนฺต, ปุเพฺพปิ นิกฺขโนฺตเยวา’’ติ อาหฯ ภิกฺขู ตสฺสตฺถสฺสาวิภาวตฺถํ ภควนฺตํ ยาจิํสุ, ภควา ภวนฺตเรน ปฎิจฺฉนฺนํ การณํ ปากฎํ อกาสิฯ
Uttamaṅgaruhā mayhanti idaṃ satthā jetavane viharanto mahābhinikkhamanaṃ ārabbha kathesi. Taṃ heṭṭhā nidānakathāyaṃ kathitameva. Tasmiṃ pana kāle bhikkhū dasabalassa nekkhammaṃ vaṇṇayantā nisīdiṃsu. Atha satthā dhammasabhaṃ āgantvā buddhāsane nisinno bhikkhū āmantesi ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti. ‘‘Bhante, na aññāya kathāya, tumhākaṃyeva pana nekkhammaṃ vaṇṇayamānā nisinnāmhā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, tathāgato etarahiyeva nekkhammaṃ nikkhanto, pubbepi nikkhantoyevā’’ti āha. Bhikkhū tassatthassāvibhāvatthaṃ bhagavantaṃ yāciṃsu, bhagavā bhavantarena paṭicchannaṃ kāraṇaṃ pākaṭaṃ akāsi.
อตีเต วิเทหรเฎฺฐ มิถิลายํ มฆเทโว นาม ราชา อโหสิ ธมฺมิโก ธมฺมราชาฯ โส จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ กุมารกีฬํ กีฬิ, ตถา โอปรชฺชํ, ตถา มหารชฺชํ กตฺวา ทีฆมทฺธานํ เขเปตฺวา เอกทิวสํ กปฺปกํ อามเนฺตสิ ‘‘ยทา เม, สมฺม กปฺปก, สิรสฺมิํ ปลิตานิ ปเสฺสยฺยาสิ, อถ เม อาโรเจยฺยาสี’’ติฯ กปฺปโกปิ ทีฆมทฺธานํ เขเปตฺวา เอกทิวสํ รโญฺญ อญฺชนวณฺณานํ เกสานํ อนฺตเร เอกเมว ปลิตํ ทิสฺวา ‘‘เทว, เอกํ เต ปลิตํ ทิสฺสตี’’ติ อาโรเจสิฯ ‘‘เตน หิ เม, สมฺม, ตํ ปลิตํ อุทฺธริตฺวา ปาณิมฺหิ ฐเปหี’’ติ จ วุเตฺต สุวณฺณสณฺฑาเสน อุทฺธริตฺวา รโญฺญ ปาณิมฺหิ ปติฎฺฐาเปสิฯ ตทา รโญฺญ จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ อายุ อวสิฎฺฐํ โหติฯ เอวํ สเนฺตปิ ปลิตํ ทิสฺวาว มจฺจุราชานํ อาคนฺตฺวา สมีเป ฐิตํ วิย อตฺตานํ อาทิตฺตปณฺณสาลํ ปวิฎฺฐํ วิย จ มญฺญมาโน สํเวคํ อาปชฺชิตฺวา ‘‘พาล มฆเทว, ยาว ปลิตสฺสุปฺปาทาว อิเม กิเลเส ชหิตุํ นาสกฺขี’’ติ จิเนฺตสิฯ
Atīte videharaṭṭhe mithilāyaṃ maghadevo nāma rājā ahosi dhammiko dhammarājā. So caturāsīti vassasahassāni kumārakīḷaṃ kīḷi, tathā oparajjaṃ, tathā mahārajjaṃ katvā dīghamaddhānaṃ khepetvā ekadivasaṃ kappakaṃ āmantesi ‘‘yadā me, samma kappaka, sirasmiṃ palitāni passeyyāsi, atha me āroceyyāsī’’ti. Kappakopi dīghamaddhānaṃ khepetvā ekadivasaṃ rañño añjanavaṇṇānaṃ kesānaṃ antare ekameva palitaṃ disvā ‘‘deva, ekaṃ te palitaṃ dissatī’’ti ārocesi. ‘‘Tena hi me, samma, taṃ palitaṃ uddharitvā pāṇimhi ṭhapehī’’ti ca vutte suvaṇṇasaṇḍāsena uddharitvā rañño pāṇimhi patiṭṭhāpesi. Tadā rañño caturāsīti vassasahassāni āyu avasiṭṭhaṃ hoti. Evaṃ santepi palitaṃ disvāva maccurājānaṃ āgantvā samīpe ṭhitaṃ viya attānaṃ ādittapaṇṇasālaṃ paviṭṭhaṃ viya ca maññamāno saṃvegaṃ āpajjitvā ‘‘bāla maghadeva, yāva palitassuppādāva ime kilese jahituṃ nāsakkhī’’ti cintesi.
ตเสฺสวํ ปลิตปาตุภาวํ อาวเชฺชนฺตสฺส อโนฺตฑาโห อุปฺปชฺชิ, สรีรา เสทา มุจฺจิํสุ, สาฎกา ปีเฬตฺวา อปเนตพฺพาการปฺปตฺตา อเหสุํฯ โส ‘‘อเชฺชว มยา นิกฺขมิตฺวา ปพฺพชิตุํ วฎฺฎตี’’ติ กปฺปกสฺส สตสหสฺสุฎฺฐานกํ คามวรํ ทตฺวา เชฎฺฐปุตฺตํ ปโกฺกสาเปตฺวา ‘‘ตาต, มม สีเส ปลิตํ ปาตุภูตํ, มหลฺลโกมฺหิ ชาโต, ภุตฺตา โข ปน เม มานุสกา กามา, อิทานิ ทิเพฺพ กาเม ปริเยสิสฺสามิ, เนกฺขมฺมกาโล มยฺหํ, ตฺวํ อิมํ รชฺชํ ปฎิปชฺช, อหํ ปน ปพฺพชิตฺวา มฆเทวอมฺพวนุยฺยาเน วสโนฺต สมณธมฺมํ กริสฺสามี’’ติ อาหฯ ตํ เอวํ ปพฺพชิตุกามํ อมจฺจา อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘เทว, กิํ ตุมฺหากํ ปพฺพชฺชาการณ’’นฺติ ปุจฺฉิํสุฯ ราชา ปลิตํ หเตฺถน คเหตฺวา อมจฺจานํ อิมํ คาถมาห –
Tassevaṃ palitapātubhāvaṃ āvajjentassa antoḍāho uppajji, sarīrā sedā mucciṃsu, sāṭakā pīḷetvā apanetabbākārappattā ahesuṃ. So ‘‘ajjeva mayā nikkhamitvā pabbajituṃ vaṭṭatī’’ti kappakassa satasahassuṭṭhānakaṃ gāmavaraṃ datvā jeṭṭhaputtaṃ pakkosāpetvā ‘‘tāta, mama sīse palitaṃ pātubhūtaṃ, mahallakomhi jāto, bhuttā kho pana me mānusakā kāmā, idāni dibbe kāme pariyesissāmi, nekkhammakālo mayhaṃ, tvaṃ imaṃ rajjaṃ paṭipajja, ahaṃ pana pabbajitvā maghadevaambavanuyyāne vasanto samaṇadhammaṃ karissāmī’’ti āha. Taṃ evaṃ pabbajitukāmaṃ amaccā upasaṅkamitvā ‘‘deva, kiṃ tumhākaṃ pabbajjākāraṇa’’nti pucchiṃsu. Rājā palitaṃ hatthena gahetvā amaccānaṃ imaṃ gāthamāha –
๙.
9.
‘‘อุตฺตมงฺครุหา มยฺหํ, อิเม ชาตา วโยหรา;
‘‘Uttamaṅgaruhā mayhaṃ, ime jātā vayoharā;
ปาตุภูตา เทวทูตา, ปพฺพชฺชาสมโย มมา’’ติฯ
Pātubhūtā devadūtā, pabbajjāsamayo mamā’’ti.
ตตฺถ อุตฺตมงฺครุหาติ เกสาฯ เกสา หิ สเพฺพสํ หตฺถปาทาทีนํ องฺคานํ อุตฺตเม สิรสฺมิํ รุหตฺตา ‘‘อุตฺตมงฺครุหา’’ติ วุจฺจนฺติฯ อิเม ชาตา วโยหราติ ปสฺสถ, ตาตา, ปลิตปาตุภาเวน ติณฺณํ วยานํ หรณโต อิเม ชาตา วโยหราฯ ปาตุภูตาติ นิพฺพตฺตาฯ เทวทูตาติ เทโว วุจฺจติ มจฺจุ, ตสฺส ทูตาติ เทวทูตาฯ สิรสฺมิญฺหิ ปลิเตสุ ปาตุภูเตสุ มจฺจุราชสฺส สนฺติเก ฐิโต วิย โหติ, ตสฺมา ปลิตานิ ‘‘มจฺจุเทวสฺส ทูตา’’ติ วุจฺจนฺติฯ เทวา วิย ทูตาติปิ เทวทูตาฯ ยถา หิ อลงฺกตปฎิยตฺตาย เทวตาย อากาเส ฐตฺวา ‘‘อสุกทิวเส ตฺวํ มริสฺสสี’’ติ วุเตฺต ตํ ตเถว โหติ, เอวํ สิรสฺมิํ ปลิเตสุ ปาตุภูเตสุ เทวตาย พฺยากรณสทิสเมว โหติ, ตสฺมา ปลิตานิ ‘‘เทวสทิสา ทูตา’’ติ วุจฺจนฺติฯ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตาติปิ เทวทูตาฯ สพฺพโพธิสตฺตา หิ ชิณฺณพฺยาธิมตปพฺพชิเต ทิสฺวาว สํเวคมาปชฺชิตฺวา นิกฺขมฺม ปพฺพชนฺติฯ ยถาห –
Tattha uttamaṅgaruhāti kesā. Kesā hi sabbesaṃ hatthapādādīnaṃ aṅgānaṃ uttame sirasmiṃ ruhattā ‘‘uttamaṅgaruhā’’ti vuccanti. Ime jātā vayoharāti passatha, tātā, palitapātubhāvena tiṇṇaṃ vayānaṃ haraṇato ime jātā vayoharā. Pātubhūtāti nibbattā. Devadūtāti devo vuccati maccu, tassa dūtāti devadūtā. Sirasmiñhi palitesu pātubhūtesu maccurājassa santike ṭhito viya hoti, tasmā palitāni ‘‘maccudevassa dūtā’’ti vuccanti. Devā viya dūtātipi devadūtā. Yathā hi alaṅkatapaṭiyattāya devatāya ākāse ṭhatvā ‘‘asukadivase tvaṃ marissasī’’ti vutte taṃ tatheva hoti, evaṃ sirasmiṃ palitesu pātubhūtesu devatāya byākaraṇasadisameva hoti, tasmā palitāni ‘‘devasadisā dūtā’’ti vuccanti. Visuddhidevānaṃ dūtātipi devadūtā. Sabbabodhisattā hi jiṇṇabyādhimatapabbajite disvāva saṃvegamāpajjitvā nikkhamma pabbajanti. Yathāha –
‘‘ชิณฺณญฺจ ทิสฺวา ทุขิตญฺจ พฺยาธิตํ, มตญฺจ ทิสฺวา คตมายุสงฺขยํ;
‘‘Jiṇṇañca disvā dukhitañca byādhitaṃ, matañca disvā gatamāyusaṅkhayaṃ;
กาสายวตฺถํ ปพฺพชิตญฺจ ทิสฺวา, ตสฺมา อหํ ปพฺพชิโตมฺหิ ราชา’’ติฯ (เถรคา. ๗๓ โถกํ วิสทิสํ);
Kāsāyavatthaṃ pabbajitañca disvā, tasmā ahaṃ pabbajitomhi rājā’’ti. (theragā. 73 thokaṃ visadisaṃ);
อิมินา ปริยาเยน ปลิตานิ วิสุทฺธิเทวานํ ทูตตฺตา ‘‘เทวทูตา’’ติ วุจฺจนฺติฯ ปพฺพชฺชาสมโย มมาติ คิหิภาวโต นิกฺขนฺตเฎฺฐน ‘‘ปพฺพชฺชา’’ติ ลทฺธนามสฺส สมณลิงฺคคหณสฺส กาโล มยฺหนฺติ ทเสฺสติฯ
Iminā pariyāyena palitāni visuddhidevānaṃ dūtattā ‘‘devadūtā’’ti vuccanti. Pabbajjāsamayo mamāti gihibhāvato nikkhantaṭṭhena ‘‘pabbajjā’’ti laddhanāmassa samaṇaliṅgagahaṇassa kālo mayhanti dasseti.
โส เอวํ วตฺวา ตํ ทิวสเมว รชฺชํ ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา ตสฺมิํเยว มฆเทวอมฺพวเน วิหรโนฺต จตุราสีติ วสฺสสหสฺสานิ จตฺตาโร พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา อปริหีนชฺฌาเน ฐิโต กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติตฺวา ปุน ตโต จุโต มิถิลายํเยว นิมิ นาม ราชา หุตฺวา โอสกฺกมานํ อตฺตโน วํสํ ฆเฎตฺวา ตเตฺถว อมฺพวเน ปพฺพชิตฺวา พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา ปุน พฺรหฺมโลกูปโคว อโหสิฯ
So evaṃ vatvā taṃ divasameva rajjaṃ pahāya isipabbajjaṃ pabbajitvā tasmiṃyeva maghadevaambavane viharanto caturāsīti vassasahassāni cattāro brahmavihāre bhāvetvā aparihīnajjhāne ṭhito kālaṃ katvā brahmaloke nibbattitvā puna tato cuto mithilāyaṃyeva nimi nāma rājā hutvā osakkamānaṃ attano vaṃsaṃ ghaṭetvā tattheva ambavane pabbajitvā brahmavihāre bhāvetvā puna brahmalokūpagova ahosi.
สตฺถาปิ ‘‘น, ภิกฺขเว, ตถาคโต อิทาเนว มหาภินิกฺขมนํ นิกฺขโนฺต, ปุเพฺพปิ นิกฺขโนฺตเยวา’’ติ อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ทเสฺสตฺวา จตฺตาริ สจฺจานิ ปกาเสสิ, สจฺจปริโยสาเน เกจิ โสตาปนฺนา อเหสุํ, เกจิ สกทาคามิโน, เกจิ อนาคามิโนฯ อิติ ภควา อิมานิ เทฺว วตฺถูนิ กเถตฺวา อนุสนฺธิํ ฆเฎตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ ‘‘ตทา กปฺปโก อานโนฺท อโหสิ, ปุโตฺต ราหุโล, มฆเทวราชา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthāpi ‘‘na, bhikkhave, tathāgato idāneva mahābhinikkhamanaṃ nikkhanto, pubbepi nikkhantoyevā’’ti imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā dassetvā cattāri saccāni pakāsesi, saccapariyosāne keci sotāpannā ahesuṃ, keci sakadāgāmino, keci anāgāmino. Iti bhagavā imāni dve vatthūni kathetvā anusandhiṃ ghaṭetvā jātakaṃ samodhānesi ‘‘tadā kappako ānando ahosi, putto rāhulo, maghadevarājā pana ahameva ahosi’’nti.
มฆเทวชาตกวณฺณนา นวมาฯ
Maghadevajātakavaṇṇanā navamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๙. มฆเทวชาตกํ • 9. Maghadevajātakaṃ